Sunday, 5 May 2024
แตงโมนิดา

‘แตงโม นิดา’ พลัดตกเรือจมเจ้าพระยา ค้นหาตลอดทั้งคืนยังไม่เจอตัว

นักแสดงสาว ‘แตงโม นิดา’ พลัดตกเรือสูญหายกลางแม่น้ำเจ้าพระยา จนท.เร่งค้นหา กว่า 7 ชม. ยังไม่เจอตัว ด้าน คนบันเทิง-แฟนคลับ แห่ส่งกำลังใจ ขอให้ปลอดภัย

นักแสดงสาว แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ พลัดตกจากเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณใกล้เคียงท่าเรือพิบูลสงคราม จ.นนทบุรี ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับสะพานพระราม 7

ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุ เวลา 22.40 น. วันที่ 24 ก.พ. 65 มีรายงานว่า มีเรือขับออกมากลางแม่น้ำเจ้าพระยา ในเรือมี ชาย 3 คน หญิง 3 คน เรือออกจากสะพานซังฮี้ ขับมุ่งหน้านนทบุรี

กินใจทุกบรรทัด!! บันทึกสุดซึ้งจากพ่อโส ตอน ‘แตงโม’ 20 ปี ทุกคำสอนที่กลั่นกรองจากหัวใจ ‘พ่อ’

สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม เผยเรื่องราวจากหนังสือ "เล่าถึงลูก แตงโม ภัทรธิดา ตามประสาพ่อ" เผย หย่ากับภรรยาตั้งแต่แตงโมอายุ 5 ขวบ ความคิดแวบแรก "ลูกต้องอยู่กับเรา" ยอมทุกอย่าง เสียบ้านหนึ่งหลังก็เอา 

เฟซบุ๊ก "ณ บ้านวรรณกรรม" ของสำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม เผยเรื่องราวจากหนังสือ "เล่าถึงลูก แตงโม ภัทรธิดา ตามประสาพ่อ" ซึ่งเขียนโดย นายโสภณ พัชรวีระพงษ์ บรรณาธิการโดย รักชนก นามทอน ตีพิมพ์โดย สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม ปี 2548 จำนวน 3 หัวข้อ ได้แก่

🔹หัวข้อแรก : เมื่อรู้ว่าต้องหย่า
วันหนึ่งที่รู้แน่นอนแล้วว่าไม่สามารถที่จะรักษา ‘ชีวิตคู่’ กับคุณแม่น้องโมได้ สิ่งที่ต้องคิดต่อไปคือจะเอาอย่างไรดีในเรื่องลูก ความที่เป็นคนรักลูกมากๆ คนหนึ่ง ความคิดแวบแรกคือ ลูกต้องอยู่กับเรา เราเองขาดลูกไม่ได้

เหตุผลประการที่สองก็คือ หากคิดไปถึงอนาคต เพราะในขณะที่หย่ากันนั้น ตัวคุณพ่อมีอายุประมาณสี่สิบปี คุณแม่น้องมีอายุประมาณสามสิบปี อายุเราห่างกันประมาณสิบปี ซึ่งโดยอายุของทั้งคู่กอปรกับหน้าตา สังคมและหน้าที่การงาน เป็นไปได้ว่าแต่ละฝ่ายอาจมี ‘คู่ครองใหม่’ ในอนาคต

ด้วยเหตุผลประการหลังนี้ จะยิ่งชัดเจนว่าลูกควรอยู่กับคุณพ่อมากยิ่งขึ้น เพราะว่าลูกเราเป็นลูกสาว เป็นผู้หญิง ฝ่ายหญิงหากมีคู่ครองใหม่ และหากลูกอยู่กับคุณแม่ก็จะกลายเป็นว่า วันหนึ่งลูกสาวที่ต้องโตขึ้นทุกวัน ต้องอยู่กับพ่อเลี้ยงซึ่งเป็นคู่ครองใหม่ของคุณแม่ซึ่งอาจมีปัญหาได้ เพราะเป็นเพศตรงข้ามกัน แต่หากหย่ากันไปแล้ว ลูกสาวอยู่กับคุณพ่อ หากคุณพ่อมีคู่ครองใหม่ คู่ครองเราก็จะเป็นผู้หญิงซึ่งเป็นเพศเดียวกันกับลูกสาวเรา อันตรายหรือปัญหาอันอาจเกิดขึ้นในอนาคตจะไม่มีโดยสิ้นเชิง

จึงเป็น ‘เงื่อนไข’ และเป็นข้อแม้ของคุณพ่อในระหว่างการเจรจาหย่าร้างกันว่า ยอมได้ทุกข้อ ยอมได้ทุกอย่าง เช่น บ้านที่อาศัยอยู่ ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวปลูกบนเนินบนเนื้อที่ร่วมร้อยสิบตารางวา ซึ่งซื้อเป็นเรือนหอตั้งแต่ตอนแต่งงานกัน และได้ออกแบบให้มีห้องนอนของน้องโมไว้หนึ่งห้องตั้งแต่แรก เป็นบ้านที่สวยงามมาก อยู่แถวแจ้งวัฒนะ ที่อยากจะเก็บไว้เป็นสมบัติของลูก แต่คุณแม่เขาต้องการให้ขายเพื่อแบ่งสมบัติกัน ก็ยอมหมด

คุณพ่อบอกไว้ชัดเจนว่า ต้องการอย่างเดียวคือน้องโมต้องอยู่กับคุณพ่อ หากยินยอมเมื่อใด ก็จะหย่าขาดจากกันในทันที

ยกเว้นเรื่องนี้แล้ว เรื่องอื่นๆ คุณพ่อยอมหมด

วันหนึ่งระหว่างนั่งทำงาน คุณแม่น้องโทร.มาบอกตกลงยอมให้ลูกอยู่กับคุณพ่อ แต่เรื่องอื่นๆ ต้องเป็นไปตามที่เขาต้องการ คุณพ่อรีบตอบทันทีว่าตกลง ไปเจอกันที่อำเภอเดี๋ยวนั้น

แล้วคุณพ่อกับคุณแม่น้องโมก็หย่ากันทันที โดยใน บันทึกใบหย่า จะมีข้อความสำคัญเป็นข้อแรกว่า

“ข้อ 1. เรื่องบุตร เด็กหญิงภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ตกลงให้บุตรดังกล่าวอยู่ในความปกครองภาระเลี้ยงดูของฝ่ายชาย โดยมารดามีสิทธิ์มาเยี่ยมและนำบุตรไปอาศัยที่คุณแม่ได้เป็นครั้งคราว”

หนังสือหย่าทำกันที่สำนักงานเขตพญาไท เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2532 ในขณะที่น้องโมมีอายุประมาณห้าขวบ (แตงโม เกิด 13 กันยายน 2527) หลังจากนั้นอีกสิบกว่าวันตรงกับวันคล้ายวันเกิดปีที่สี่สิบของคุณพ่อ ก็ได้มีโอกาสฉลองวันเกิดเป็นครั้งแรกระหว่างสองคนพ่อลูก ซึ่งจะเป็นอะไรง่ายๆ ไปนั่งกินข้าวกันธรรมดาไม่มีพิธีรีตองอะไร

นับจากนั้น น้องโมก็ใช้ชีวิตอยู่กับคุณพ่อสองคนตราบจนทุกวันนี้

🔹หัวข้อที่สอง : ของขวัญวันเกิดน้องโม ‘จดหมายจากคุณพ่อ’

13 กันยายน 2547 
น้องโมลูกรัก

วันนี้เป็นวันครบรอบวันเกิดปีที่ 20 ของน้องโม ซึ่งถือว่าเป็นวันครบรอบวันเกิดปีที่สำคัญเป็นพิเศษครั้งหนึ่งของชีวิต เพราะเป็นวันที่มีอายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์ ในทางกฎหมายถือว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว สามารถตัดสินใจกระทำการใดๆ หรือทำนิติกรรมใดๆ ก็ได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องให้ผู้ปกครองยินยอมเหมือนเด็กๆ อีกต่อไป

หากอายุคนเฉลี่ยที่หกสิบปี แบ่งเป็นสามช่วง ช่วงละยี่สิบปี ยี่สิบปีแรกถือเป็นวัยเด็ก ยี่สิบปีที่สองถือเป็นวัยหนุ่มสาว วัยทำงาน ยี่สิบปีที่สามคือวัยผู้ใหญ่ย่างเข้าสู่วัยชรา

ชีวิตของน้องนับว่าเป็นวันแรกที่ย่างเข้าสู่วัยที่สอง มีอะไรให้เรียนรู้อีกมากมายและจะต้องเริ่มเรียนรู้มากขึ้น กว้างขึ้น และลึกมากขึ้น การมองอะไรในภาพเดียว มิติเดียวเหมือนเช่นวัยเด็กจะเริ่มใช้ไม่ได้และไม่เพียงพอ บางครั้งอาจต้องมองสองสามมุมถึงจะเพียงพอ และนำไปสู่การตัดสินใจที่จะส่งผลดีกับเราไม่ใช่แค่วันนี้ แต่ต้องหมายถึงวันข้างหน้าด้วย

คุณพ่อมีความรู้สึกว่าอยากจะเขียนถึงน้องให้มากกว่านี้ ไม่ใช่ปีละครั้งเหมือนตอนเด็กๆ เพราะน้องเริ่มเป็นผู้ใหญ่แล้วประการหนึ่ง อีกประการหนึ่งจากหน้าที่การงานและสังคมผู้คนที่ต้องเผชิญมากมาย ทำให้น้องต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจในเรื่องราวต่างๆ ของสังคม ของบ้านเมือง ตลอดจนวัฒนธรรมประเพณีของประเทศเรา และประเทศต่างๆ เพราะคนในวัยนี้จะอาศัยความชอบหรือไม่ชอบ หรือเอาเหตุผลของการถูกผิดมาใช้ในการตัดสินใจเพียงอย่างเดียว ในบางครั้งจะเริ่มไม่เพียงพอ

เหตุนี้ หากคุณพ่อคิดว่าน้องควรจะรู้อะไรเพิ่มเติม ก็จะเขียนมาให้อ่านแล้วค่อยแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกัน แต่ในวันนี้ที่เป็นวันที่ตรงกับวันคล้ายวันเกิดของน้อง คุณพ่อก็จะเขียนถึงเฉพาะที่เกี่ยวกับตัวน้องและคุณพ่อเท่านั้น

ประการแรก คุณพ่อดีใจกับน้องในความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงและประสบความสำเร็จอย่างดียิ่งกับบท ‘กาเหว่า’ ในละคร ‘อุ่นไอรัก’ ที่สามารถแสดงได้อย่างดียิ่ง เพราะการได้มาซึ่งโอกาสนั้นคือประการหนึ่ง แต่การสามารถคว้าโอกาสนั้นได้คือ ความสามารถส่วนตัวของน้อง นั่นคืออีกประการหนึ่ง คนบางคนมีโอกาสแล้ว แต่ไม่พร้อม ก็ไม่สามารถคว้าโอกาสไว้ได้

พูดถึงเรื่องนี้ อยากให้น้องเพิ่มเติมในเรื่องการรู้จักรักษาแฟนๆ ผลงานของเรา อยากจะให้ดูคุณเจี๊ยบ เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ เป็นตัวอย่างที่ดี คุณเจี๊ยบจะมีความสุขและไม่เคยเบื่อหน่ายต่อแฟนๆ ของเขา เขาจะรู้จักรักและพูดคุย ทักทาย ยิ้มแย้มกับแฟนๆ คนเขาก็จะรักและพูดกันปากต่อปากว่า ดาราคนนี้น่ารัก ในที่สุดก็เป็นดาราในดวงใจของเขา จึงในบางครั้งเพียงแค่น้องหันไปยิ้มให้หรือโบกไม้โบกมือให้ เขาก็ชื่นใจแล้ว

ประการที่สองที่คุณพ่อดีใจมากๆ อาจจะพอๆ กันหรือมากกว่าประการแรกด้วยซ้ำ คือการที่น้องเห็นคุณค่าของการศึกษา และน้องมีความสุขในวิชาที่น้องเรียน คุณพ่อเห็นน้องตั้งใจเรียน สนใจอยากเรียนด้วยตัวเอง ไม่เหมือนตอนเด็กๆ ที่บางครั้งน้องมองข้ามไป หรือละเลยไม่ให้ความสำคัญเท่าที่ควร

ชีวิตคนนั้นยังอีกยาวไกล ด้วยอายุยี่สิบของน้องยังมีหนทางให้เดินอีกยาวไกล ยังมีอะไรให้เรียนรู้อีกมากมายไม่รู้จบ ยังมีอะไรให้เผชิญอีกหลายอย่าง ทั้งที่ชอบและไม่ชอบ

มองกลับไปวันเกิดคุณพ่อเมื่อสองปีก่อน คุณพ่อยังจำได้ไม่ลืม ตอนที่น้องขึ้นไปกล่าวอวยพรคุณพ่อ และน้องได้พูดตอนท้ายว่า

“ลูกสาวคนนี้จะต้องทำให้คุณพ่อภูมิใจและจะทำให้สำเร็จ คุณพ่อจะไม่ผิดหวังในตัวลูกสาวคนนี้แน่นอน” 

คุณพ่อจำได้ และคอยมองทุกย่างก้าวของน้อง การพัฒนาจากละครเรื่อง ‘เบญจา คีตา ความรัก’ เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งถือเสมือนการเริ่มเข้าสู่วงการ เหมือนการแจ้งเกิด ถัดมาถึงเรื่อง ‘อุ่นไอรัก’ เพียงแค่ไม่นาน น้องก็สามารถเรียกได้ว่า เกิดเต็มตัวแล้ว นับเป็นความสามารถ และสะท้อนถึงความตั้งใจในการทำงาน ความทุ่มเทในงาน เหล่านี้เป็นคุณสมบัติที่ดีที่เอาไปใช้ได้ในทุกเรื่องและทุกงาน

พูดถึงเรื่องนี้ต้องไม่ลืมจะบอกว่าน้องต้องเติมเต็มในเรื่องของเวลา ต้องไม่ไปทำงานสาย คนจะเบื่อหน่าย และจะเป็นภาระของเพื่อนร่วมงาน ที่เราต้องรู้จักเกรงใจ คนเราถ้าจะให้เขารักชอบเอ็นดูเรา เราต้องรู้จักทำตัวให้เขาชอบ ให้เขารัก อย่าให้เขาว่าได้

อีกเรื่องที่อดพูดถึงไม่ได้ คือการดูแลสุขภาพ การพักผ่อน ต้องเพียงพอ คุณพ่อเป็นห่วงเรื่องนี้มาก โดยเฉพาะการขับรถ หากเราสามารถย้ายมาอยู่ร่วมกันได้ คุณพ่อก็คงสามารถดูแลน้องได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาหาร การกิน เสื้อผ้า การขับรถ เรื่องงาน (เท่าที่จะช่วยได้ เพราะเรื่องงานพยายามให้ทำด้วยตัวเอง ไม่ก้าวก่าย ยกเว้นแต่จะเอ่ยปากให้ช่วยเรื่องอะไร ก็จะรีบทำให้ด้วยความเต็มใจ)

วันเกิดปีนี้ ขออวยพรให้น้องมีความสุข ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มีงานเข้ามาเยอะๆ จะได้เลือกงานที่ชอบได้มากขึ้น มีเงินทองรายได้มากขึ้น เพื่อจะได้เป็นทุนการศึกษา และเป็นหลักประกันในชีวิตภายหน้า หากจะไปลงทุนทำธุรกิจอะไร เป็นที่รักของแฟนๆ ทั่วประเทศ

ขอให้ภูมิใจในตัวเอง มีความเชื่อมั่นในตัวเอง (แต่ไม่ใช่เหลิง) ในอายุสิบเก้ายี่สิบปีเท่ากัน น้องทำได้ดีกว่าคุณพ่อมากมาย เป็นอภิชาตบุตร ขอให้พระเจ้าอวยพระพรแก่น้อง ให้น้องเป็นคริสเตียนที่ดี เป็นลูกที่ดีของคุณพ่อและของพระเจ้า ให้น้องอยู่ใกล้ชิดกับพระเจ้ามากกว่านี้ พระเจ้าก็จะให้พรแก่น้องมากยิ่งขึ้น ขอให้น้องสามารถรักษาและพัฒนาสิ่งที่มีอยู่ ทั้งความสามารถในการแสดงและแฟนๆ ที่มีอยู่ทั่วประเทศให้ดีขึ้นและมากขึ้น

สำคัญที่สุดในชีวิตหนึ่ง อย่าลืมทำตัวให้เป็นคนดีของสังคม และหากมีโอกาสได้ทำประโยชน์อะไรให้กับประเทศชาติ จงทำ เพื่อทดแทนบุญคุณของแผ่นดิน

รักลูกเสมอ 
คุณพ่อ

สยบดรามา! สูทดำ ‘โตโน่ ภาคิน’ แฟนคลับตัวยง แจงเสื้อตัวนี้ แตงโมซื้อให้โตโน่

เรียกว่า เป็นดรามาเล็กๆ กรณี ‘โตโน่ ภาคิน’ อดีตคู่ชีวิตของแตงโม ภัทรธิดา (นิดา) แต่งกายด้วยสูทสีดำ มาร่วมในพิธีไว้อาลัย ‘แตงโม’ เป็นครั้งสุดท้าย แม้เจ้าตัว จะมาด้วยอาการเศร้าเสียใจไม่แพ้ใคร กับการสูญเสียในครั้งนี้ ถึงขั้นกลั้นน้ำตาไม่ไว้อยู่ แต่บรรดาชาวเน็ตบางกลุ่ม กลับไปโฟกัส สงสัยเกี่ยวกับสูทสีดำที่โตโน่สวมใส่ ว่า ไม่ได้อยู่ในธีมที่เจ้าภาพกำหนด ว่า เป็นโทน สีขาว ชมพู และโอลด์โรส ซึ่งเป็นสีที่ดาราสาวชื่นชอบ และใช้เนรมิตสถานที่จัดงานทั้งหมดด้วย

แต่ที่สุดแล้ว ความจริงก็ถูกเปิดเผย ที่รู้แล้ว หลายคนกลับรู้สึกซาบซึ้งในมิตรภาพของคนทั้งคู่ เพราะมีแฟนคลับตัวยงหลายคน ออกมาระบุว่า “ถ้าจำไม่ผิด เสื้อตัวนี้พี่โม ซื้อให้พี่โน่นะ” “เสื้อนี้แตงโมซื้อให้โตโน่ลองย้อนไอจีโตโน่ดูครับ” “สีเสื้อไม่สำคัญ เขามาด้วยความผูกพัน แค่นั้นพอ” เป็นต้น

แต่ทว่า ล่าสุด หนุ่ม กรรชัย ได้เล่าโมเมนต์ที่ได้เจอ โตโน่ มาร่วมพิธีไว้อาลัย แตงโม ผ่านรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ทางช่อง 3 บอกว่า ตอนแรกไม่เห็น โตโน่ ผมสะดุดเห็นผู้ชายใส่เสื้อสีดำ พยายามมอง เห็นแต่ด้านข้างผู้ชายคนนี้ทำไมมองรูปแตงโมที่อยู่ข้างบนนานมาก จนผมไปคุยกับ อ.ธงชัย ไปคุยกับคุณแม่ ยังเห็นผู้ชายคนนี้นั่งมองภาพแตงโมนานมากเกือบ 10 นาที ผมสงสัยจึงชะโงกไปดู ก็เป็นโตโน่

'ไฮโซปอ-โรเบิร์ต' ซุ่มเงียบปลงผมบวชพราหมณ์ 'หลวงพี่อุเทน' ทำพิธีให้ที่ธรรมสถานวิโมกสิวาลัย อ.สวนผึ้ง 

‘ไฮโซปอ-โรเบิร์ต’ ซุ่มเงียบปลงผมบวชพราหมณ์ ‘หลวงพี่อุเทน’ วัดท่าไม้ทำพิธีให้ ย้ายไปบวชที่ธรรมสถานวิโมกสิวาลัย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นสาขาของวัดท่าไม้

จากที่มีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่า ไฮโซปอ-ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ และ โรเบิร์ต-ไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ ผู้ต้องหาคดีแตงโม นิดา พลัดตกเรือจมแม่น้ำเจ้าพระยาเสียชีวิต จะมาขอบวชที่วัดท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ในวันพุธที่ 16 มี.ค. 65 เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศล

แต่หลังจากถูกสังคมโจมตีเป็นอย่างมากถึงความไม่เหมาะสม เหตุเป็นผู้ต้องหาและคดียังไม่ถึงที่สิ้นสุด อีกทั้งพระอุปัชฌาย์ เจ้าอาวาสวัดท่ากระบือ ออกมายืนยันแล้วว่าจะไม่มีการบวชพระเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะขัดต่อคำสั่งของมหาเถรสมาคม ส่วนการบวชพราหมณ์แม้จะยังไม่สมควรกระทำ แต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพระญาณวิกรม หรือพระอาจารย์อุเทน สิริสาโร เจ้าอาวาสวัดท่าไม้

เปิด 'เรื่องราว' ผ่าน 'ตัวเลข' แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์

ใกล้จะครบ 1 เดือน กับเหตุการณ์การเสียชีวิตของดาราสาว แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ หลังจากค่ำคืนของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ มีข่าวออกมาว่า เธอได้พลัดตกลงแม่น้ำเจ้าพระยา 

ระยะเวลาผ่านมาเกือบ 1 เดือนเต็ม มีเรื่องราวและข่าวคราวต่างๆ ออกมามากมาย ทั้งความสูญเสีย ตลอดจนคดีความต่างๆ จนกลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ ที่ผู้คนในสังคมยังคงให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
 

‘กระติก’ รับสารภาพแล้ว ให้การเท็จคดีแตงโม ด้าน ตำรวจเตรียมนำตัวส่งฟ้องศาล

กระติกรับสารภาพแล้ว ให้การเท็จคดีแตงโม ตร.เตรียมนำตัวส่งฟ้องศาล ส่วนจ๊อบเดินทางเข้ารายงานตัวตามหมายเรียก เป็นข้อหาไม่ร้ายแรง ไม่ต้องยื่นหลักทรัพย์ประกันตัว

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 4 เม.ย. 65 นายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร หรือจ๊อบ หนึ่งใน 5 คนบนเรือเหตุการณ์ดาราสาว แตงโม นิดา พลัดตกเรือเสียชีวิต เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี พร้อมทนายความส่วนตัว เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหา มาตรา 184 ทำลายพยานหลักฐาน และข้อหาพ.ร.บ.เดินเรือ มาตรา 119 ทั้งนี้เมื่อมาถึงนายนิทัศน์ รีบเดินเข้าห้องพนักงานสอบสวนทันที

สำหรับความคืบหน้า เวลา 15.30 น. วันเดียวกัน ที่สภ.เมืองนนทบุรี น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือกระติก เพื่อนสนิทและผู้จัดการส่วนตัวแตงโม เดินทางมารับทราบข้อกล่าว ในข้อหาให้การเท็จในคดีแตงโมนิดา โดยมี นายสิระ เจนจาคะ อดีตส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ เดินทางมาด้วย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมคุณสิระถึงพากระติก มาที่สภ.เมืองนนทบุรี นายสิระตอบเพียงสั้นๆ ว่า “เดี๋ยวผมพากระติกไปพบพนักงานสอบสวนก่อน และเดี๋ยวผมลงมาให้สัมภาษณ์” ส่วนกระติก ไม่ตอบคำถามอะไรกับสื่อมวลชน และรีบเดินขึ้นไปพบตำรวจ

ทำเอาชาวเน็ตงงตาแตก หลังจากที่เฟซบุ๊ก Happy Melon Patcharaveerapong ซึ่งเป็นเฟซบุ๊กของ ‘แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์’ ที่ไม่มีการเคลื่อนไหวมานานร่วม 3 เดือน หลังแตงโมตกเรือสปีดโบ๊ตจมน้ำเสียชีวิต กลับมีการโพสต์อีกครั้ง

โดยล่าสุดวันนี้ (21 พ.ค.) อยู่ดีๆ ก็มีการโพสต์ข้อความ “หนูถูกทำร้ายจากเพื่อนที่เรารักและไว้ใจ” พร้อมรูปผู้หญิงหันหลังคนนึง จนชาวเน็ตเมนต์แตกกระจาย ถามกันสนั่นใครล็อกอินมาเล่น บางส่วนก็เมนต์ว่าอาจจะโดนมือดีแฮกเฟซหรือไม่? 

ทั้งนี้จากลักษณะการแต่งตัวนั้น คาดว่าผู้หญิงในภาพดังกล่าวก็คือทางด้านของ "กระติก อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์" ซึ่งเป็นผู้จัดการส่วนตัวของสาวแตงโมนั่นเอง

ด้าน ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจ ‘ทนายคลายทุกข์’ เรียนสื่อมวลชน ภาพนี้ คุณแม่ไม่ได้เล่น เฟสบุ๊คแตงโม เล่นไม่เป็น และไม่ทราบว่า ใครเป็นผู้โพสต์ จึงเรียนมาเพื่อทราบ ทนายเดชา ทนายคุณแม่แตงโม

และยังระบุด้วยว่า ผู้ที่เข้าไป แก้ไขเปลี่ยนแปลง ข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ มีความผิดตามกฎหมายคอมพิวเตอร์มาตรา 9 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสน  บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

เปิดแชตไลน์ ‘บังแจ็ค’ ส่งขู่ ‘วัน อยู่บำรุง’ เผยมีภาพ-แชตคุย ‘แตงโม’ อีกเยอะ

เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 65 'วัน อยู่บำรุง' ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ใจความว่า...

"มีคนไลน์มาขู่ผมด้วยฮะ🤣
ไม่มีที่ยืนก็นั่ง ไม่มีที่นั่งก็นอนดิวะ!!!!"

ซึ่งภาพดังกล่าวเป็นภาพเดียวกับที่ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้โพสต์มาแล้วก่อนหน้านี้

การตายของ ‘แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์’ ที่เต็มไปด้วยเงื่อนงำ

เหตุการณ์สุดช็อกในวงการบันเทิงของไทยในปีนี้ คงหนีไม่พ้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลางดึกของเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 เมื่อนักแสดงสาวชื่อดัง ‘แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์’ พลัดตกจากเรือสปีดโบ๊ทจมหายกลางแม่น้ำเจ้าพระยา

ย้อนกลับไปเมื่อกลางดึกวันที่ 24 ก.พ. 2565 แตงโมประสบอุบัติเหตุตกเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ระหว่างล่องเรือถ่ายรูปบริเวณสะพานพระราม 7 หลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้ง จึงได้เริ่มปฏิบัติการค้นหาทันที ทั้งที่ไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าแตงโมตกเรือจุดใด ท่ามกลางความสับสน เพราะคนบนเรือที่มีอีก 5 คน ไม่ได้ให้ข้อมูลที่ชัดเจนกับเจ้าหน้าที่ และไม่ยอมเข้าให้ปากคำกับตำรวจภายหลังเกิดเหตุ

กระทั่งหน่วยกู้ภัยต้องใช้เวลาถึง 38 ชั่วโมงจึงพบร่างของแตงโมในวันที่ 26 ก.พ. 2565 เวลาประมาณ 13.10 น. โดยร่างของแตงโมลอยขึ้นผิวน้ำใกล้ท่าเรือพิบูลสงคราม จ.นนทบุรี จากพฤติการณ์และพฤติกรรมของคนบนเรือที่เหลือทำให้เกิดข้อสงสัยหลายอย่าง หลายคนปักใจเชื่อว่า ไม่น่าจะใช่อุบัติเหตุทั่วไป ตามคำให้การของคนบนเรือ ที่ระบุว่า แตงโมไปนั่งฉี่ท้ายเรือจนเป็นเหตุให้ตกน้ำเสียชีวิต

ครบรอบ 1 ปี 'แตงโม นิดา' กลับสู่อ้อมกอดพระเจ้า แฟนคลับนัดรวมตัว เตรียมจัดงานรำลึก 26 ก.พ.นี้

(24 ก.พ. 66) ครบรอบ 1 ปี การเสียชีวิตของนักแสดงสาว 'แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์' เหตุตกจากเรือสปีดโบตลงกลางแม่น้ำเจ้าพระยา คดีอาญากำลังนัดสืบพยานกลางปีนี้ ส่วนคดีแพ่งแม่แตงโมเรียกค่าเสียหายอีก 40.8 ล้านบาท ด้านแฟนคลับนัดรวมตัว รำลึกวันพบศพ 26 ก.พ.นี้

ย้อนรอยการเสียชีวิตของแตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงสาววัย 37 ปี เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 22.40 น. วันที่ 24 ก.พ. 2565 เมื่อแตงโม นิดา พร้อมกับ น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ 'กระติก' ผู้จัดการส่วนตัว ได้เดินทางล่องเรือสปีดโบต ซึ่งมี 'ปอ' นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ เป็นเจ้าของ พร้อมพวกรวม 6 คน ไปรับประทานอาหารที่ร้านบ้านตานิด อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี

ก่อนจะล่องเรือลงมาถ่ายรูปที่สะพานพระราม 8 กระทั่งผ่านสะพานพระราม 7 พื้นที่ จ.นนทบุรี แตงโมได้ตกลงจากเรือสปีดโบตลงแม่น้ำเจ้าพระยา หลายฝ่ายต่างออกปฏิบัติการค้นหา กระทั่งพบศพแตงโมกลางแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าเรือพิบูลสงคราม 1 อ.เมือง จ.นนทบุรี เมื่อช่วงสายของวันที่ 26 ก.พ. 2565

คดีนี้กลายเป็นมหากาพย์สั่นสะเทือนกระบวนการยุติธรรม เพราะมีข้อสงสัยจากสังคมเกิดขึ้นมากมาย ทั้งคำให้การของคนที่อยู่ในเรือที่อ้างว่า แตงโมไปปัสสาวะท้ายเรือ ทั้งที่วันเกิดเหตุแตงโมสวมชุดบอดี้สูทที่ไม่มีกระดุมหรือตะขอ แกะเป้าชุดบอดี้สูทไม่ได้ หรือการตั้งข้อสงสัยว่าจะเป็นการฆาตกรรมอำพราง เพราะพบข้อพิรุธหลายจุดบนศพ เช่น มีบาดแผลที่ไม่ควรเกิดจากการจมน้ำปกติ

ที่ปวดเศียรเวียนเกล้าก็คือ นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน มารดาของแตงโม ที่ออกมาตำหนิแอนนา วรินทร วัตรสังข์ เพื่อนสนิทของแตงโม ที่ออกมาคอลเอาต์ทวงถามความยุติธรรม รวมทั้งให้อภัย นายปอ ตนุภัทร และ นายโรเบิร์ต ไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ ซึ่งอ้างว่าจะให้ค่าเยียวยา 30 ล้านบาทแก่คุณแม่ ทำให้ชาวเน็ตต่างแสดงความคิดเห็นติดแฮชแท็ก #มีแม่เมื่อพร้อม

ผ่านไป 1 ปี กรณีการเสียชีวิตของแตงโม นิดา แยกออกเป็น 2 ส่วน คือ คดีอาญา และคดีแพ่ง

คดีอาญา อัยการจังหวัดนนทบุรีสั่งฟ้องผู้ต้องหารวม 6 คน เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2565 ได้แก่ นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือปอ มี 5 ข้อหา ได้แก่ กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่พนักงานสอบสวน, เป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่มีประกาศนียบัตรรับรอง, ทิ้งสิ่งของปฏิกูลใด ๆ ลงแม่น้ำ และเสพวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (อัลปราโซแลม) โดยผิดกฎหมาย

นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือ โรเบิร์ต มี 4 ข้อหา ได้แก่ กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ใช้เรือที่ใบอนุญาตสิ้นอายุ, เป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่มีประกาศนียบัตรรับรอง และทิ้งสิ่งของปฏิกูลใด ๆ ลงแม่น้ำ

นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ แซน มี 1 ข้อหา ได้แก่ กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

นายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร หรือ จ็อบ มี 3 ข้อหา ได้แก่ กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ช่วยให้ผู้อื่นได้รับโทษ หรือได้รับโทษน้อยลง ทำลายซ่อนเร้นหลักฐาน และทิ้งสิ่งของปฏิกูลใด ๆ ลงแม่น้ำ

น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก อดีตผู้จัดการส่วนตัวแตงโม นิดา มี 3 ข้อหา ได้แก่ กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่พนักงานสอบสวน และทำลายซ่อนเร้นหลักฐาน

และนายภีม ธรรมธีรศรี หรือ เอ็ม แม้ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่ถูกดำเนินคดี 2 ข้อหา ได้แก่ ใช้ผู้อื่นแจ้งความอันเป็นเท็จแก่พนักงานสอบสวน และทำลายซ่อนเร้นหลักฐาน

โดยศาลจังหวัดนนทบุรีอนุญาตให้ประกันตัวทั้ง 6 คน อยู่ในระหว่างนัดสอบถามคู่ความวันที่ 2 มี.ค. 2566 และนัดสืบพยานโจทก์และจำเลยทั้งหกตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. 2566 ถึงวันที่ 16 ส.ค. 2567 ก่อนจะมีคำพิพากษาชั้นต้นหลังการสืบพยานเสร็จสิ้น

ส่วนคดีแพ่ง เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2565 ศาลจังหวัดนนทบุรีนัดเจรจาการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย ระหว่างผู้ต้องหา และนางพนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่ของแตงโม ผลปรากฏว่าจำเลยได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมกับผู้เสียหายคือ นางพนิดา และชดใช้ค่าเสียหายต่อหน้าศาลแล้วในส่วนของคดีแพ่ง โดยวางเงินสด 4 แสน และแคชเชียร์เช็ค 1.6 ล้าน รวม 2 ล้านบาท พร้อมกันนี้ ยังได้ทำสัญญาให้เงินรายเดือน เดือนละ 30,000 บาท เป็นเวลา 20 ปี โดยไม่ตกถึงทายาทด้วย รวมมูลค่าทั้งหมด 9.2 ล้านบาท ทำให้นางภนิดาพอใจจึงได้ถอนคำร้องขอเป็นโจทก์ร่วมในคดีอาญาด้วย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top