Friday, 26 April 2024
ภูมิใจไทย

ภูมิใจไทยเฮลั่น! 'ลุงป้อม' เผย ครม.แตะเบรก!! ประเด็นสัมปทานสายสีเขียว อ้างกลัวเจอ ม.157

จากกรณีในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ รัฐมนตรีในสังกัดพรรคภูมิใจไทย จำนวน 7 คน ประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม, นายทรงศักดิ์ ทรงศรี รมช.มหาดไทย, นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา, นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ และ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ ได้ยื่นหนังสือขอลาการประชุม ครม. อ้างว่าติดภารกิจ

นอกจากนี้ยังแสดงออกถึงความเห็น ที่ไม่เห็นด้วยกรณีกระทรวงมหาดไทย เสนอวาระเพื่อพิจารณา ขอความเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อขยายสัญญาสัมปทานให้กับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC บริษัทในเครือ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ออกไปอีก 30 ปี

จากเดิมที่จะสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี 2572 ออกไปเป็นปี 2602 แลกกับเก็บค่าโดยสาร 65 บาทตลอดสาย ให้ ครม.พิจารณาอนุมัติ ประกอบกับมองว่ากระทรวงมหาดไทยไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย และหลักธรรมาภิบาล หากมีการอนุมัติวาระดังกล่าวจะส่งผลทางด้านกฎหมายในอนาคตได้

มีรายงานว่ารัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยทั้งหมดจะไม่เข้าร่วมประชุมครม. ในวันนี้ โดย รมต.พรรคภูมิใจไทยได้ยื่นใบลาประชุม ครม.ต่อเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้วเมื่อค่ำวานนี้ (7 ก.พ. 65) โดยระบุเหตุผลว่าไม่สะดวกที่จะพิจารณาเรื่องนี้

สำหรับเรื่องดังกล่าวทาง กระทรวงคมนาคม ได้แสดงความเห็นคัดค้านต่อการขยายสัญญาสัมปทานมาโดยตลอด พร้อมเสนอความเห็นเพิ่มเติม เข้า ครม. ทุกครั้งที่จะมีการเสนอ โดยเฉพาะใน 4 ประเด็นหลัก คือ... 

1.) ประเด็นความครบถ้วนตามหลักการของพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562

2.) ประเด็นการคิดค่าโดยสารที่เหมาะสมและเป็นธรรมแก่ผู้ใช้บริการเพื่อส่งเสริมให้ผู้มีรายได้น้อยมาใช้บริการ รวมทั้งรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่สามารถกำหนดอัตราค่าโดยสารสูงสุดได้ต่ำกว่า 65 บาท

3.) ประเด็นการใช้สินทรัพย์ของรัฐที่ได้รับโอนจากเอกชนให้เกิดประโยชน์สูงสุด ควรพิจารณาให้เกิดความถ่องแท้ถึงการใช้สินทรัพย์ว่ารัฐควรได้ประโยชน์จากการขยายสัญญาสัมปทานเป็นจำนวนเท่าไร อย่างไร จนกว่าจะครบอายุสัญญา

4.) ประเด็นข้อพิพาททางกฎหมาย ซึ่งเกิดขึ้นจากกรณี กทม. ได้ทำสัญญาจ้าง BTSC เดินรถส่วนต่อขยายที่ 1 และ ส่วนต่อขยายที่ 2 ไปจนถึงปี 2585 และได้มีการไต่สวนข้อเท็จจริงของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ดังนั้นจึงสมควรรอผลการไต่สวนข้อเท็จจริงก่อนเพื่อให้เกิดความชัดเจน

‘อนุทิน’ ปัด!! ‘ภูมิใจไทย’ ไล่ตระเวนดูด ส.ส. ลั่น!! แม้เสียงเพิ่ม ก็ยังเจียมเนื้อเจียมตัว

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายวัฒนา ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น 2 อดีตสส.พรรคพลังประชารัฐ สมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ว่า... 

ตนไม่รู้จะตอบอย่างไร แต่คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหากับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพราะคนที่เข้าพรรคภูมิใจไทยต้องแสดงความจำนง หากเป็นคนที่ทุ่มเทเสียสละ และไม่มีประวัติด่างพร้อย ก็รับทุกคนอยู่แล้ว และนายเอกราชไม่มีคดีติดตัว เพราะหากมีคดีคงเป็นส.ส.พรรคไหนก็ไม่ได้ตั้งแต่แรก อีกทั้งนายเอกราชมีความสนิทสนมกับสมาชิกพรรคภูมิใจไทย 

‘อนุทิน’ ปราม ‘ครูแก้ว’ ปมขู่ถอนตัวร่วมรบ. ลั่น ถอนไม่ถอนตัว อยู่ที่หัวหน้าพรรค

‘อนุทิน’ เผย โทรปราม ‘ครูแก้ว’ แล้วหลังพูดไม่ร่วมรัฐบาลหากกฎหมายกัญชาไม่ผ่าน บอก ฟังหัวหน้าพรรคคนเดียว คนอื่นไม่ต้องพูด ย้อนถามใครจะกล้าขู่ ‘นายกฯ’ เดินผ่านยังก้มแล้วก้มอีก

เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 65 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ออกมาปรามพรรคร่วมรัฐบาล ว่าขอให้เบาๆ เรื่องการเมืองกันหน่อย โดยเฉพาะนายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ที่ระบุว่าภูมิใจไทยจะไม่ร่วมรัฐบาล หากกฎหมายกัญชาไม่ผ่าน ว่า นายศุภชัยพูดในพื้นที่ ตนและนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคฯ ได้โทรศัพท์ไปบอกแล้ว และตนเห็นว่านายศุภชัยพูดในฐานะ ส.ส. แต่ถ้าถามหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เรื่องนี้เป็นเรื่องของหัวหน้าพรรค สมาชิกคนอื่นไม่ต้องมาพูด ฟังหัวหน้าพรรคคนเดียวว่าจะมีท่าทีอย่างไรในการร่วมรัฐบาล

‘อนุทิน’ ยัน ‘ภูมิใจไทย’ หนุนรัฐบาล - นายกฯ ไม่มีย้ายข้าง พร้อมขออย่าพูดลอยๆ ปมถูกกล่าวหาทุจริต 

10 พฤษภาคม 2565 - นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ตอบคำถามผู้สื่อข่าว กรณีนายสุทิน คลังแสง ส.ส.พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่ามีหลักฐานการทุจริต ของพรรคภูมิใจไทย ว่า จะกล่าวหากันว่าทุจริต ใครทุจริต ทำไม่ถูก ก็ต้องมีหลักฐาน ไม่ใช่มาพูดกันลอยๆ ถ้ามีข้อมูล ก็นำมาชี้แจงเลย ถ้าเห็นว่ารัฐมนตรีทุจริต ท่านก็มีช่องทางตรวจสอบ  

ผู้สื่อข่าวถามว่าพฤติกรรมเช่นนี้ของฝ่ายค้านเรียกว่าตีกินหรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า ท่านคงไม่ทำเช่นนั้น ท่านเป็นระดับผู้ใหญ่ เป็นผู้กล่าวสรุปในการอภิปรายที่ผ่านมา สำหรับรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย เวลามีข้อสงสัย เราตอบได้ทุกเรื่อง ทำไมไม่มองว่ารัฐมนตรีของพรรคทำงานเพื่อประเทศชาติ เรื่องโฮปเวลล์ ที่ไม่ต้องจ่ายค่าโง่ เรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ไม่เข้า ครม.ก็เพราะเราเห็นว่า ประชาชนยังไม่ได้ประโยชน์สูงสุด ถามว่ารัฐมนตรีพรรคไหนทำ ‘จะกล่าวหาใครมันก็ต้องดูด้วยว่า พรรคที่ทุจริตคอรัปชันจนโดนอาญาบ้านเมือง คือพรรคไหน’

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ถามเรื่องที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แกนนำพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัคร ส.ก.หาเสียง มีความสัมพันธ์กับที่สมาชิกบางคนของพรรคกล่าวโจมตีพรรคภูมิใจไทยเป็นระยะ 

‘อนุทิน’ ขนทัพ ลงพื้นที่ศรีสะเกษ ลั่น ถ้าได้ ส.ส.ยกจังหวัด เอาไปเลย 2 เก้าอี้รัฐมนตรี พร้อมย้ำ จะทำแต่สิ่งดีๆ เรื่องระยำจะบ่เฮ็ด

เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2565 ที่ศูนย์ประสานงานพรรคภูมิใจไทย อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ เขต 7 ของนายอาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ ส.ส.ศรีสะเกษ  นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.)  นำคณะของพรรคภูมิใจไทย ประกอบด้วย รัฐมนตรี และส.ส.พรรค พบปะกับผู้นำชุมชน และชาวบ้านในพื้นที่ โดยนายอนุทิน ได้กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า วันนี้ตนได้อ่านข่าวรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย ทุกคนลงพื้นที่พบปะชาวบ้านรับฟังปัญหา และพร้อมนำปัญหามาแก้ไข แต่ไม่มีข่าวใดที่ดีใจเท่ากับเลขาธิการพรรค นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ชาวบุรีรัมย์เพื่อนบ้านของพี่น้องชาวศรีสะเกษ ประกาศขอเสียงสนับสนุนให้ จ.ศรีสะเกษ ได้เป็นส.ส.ยกทั้งจังหวัด

“ผมขอได้ไหม ขอให้มั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทย เป็นพรรคที่พูดไม่เก่ง แต่ทำงานเก่ง ทำงานเป็น มุ่งมั่นทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนดังสโลแกน “พูดแล้วทำ” ได้พูด ได้เว้า ได้เฮ็ด ส่วนที่เลขาธิการพรรค บอกว่าถ้าได้ส.ส.ยกจังหวัดจะให้ 1 เก้าอี้รัฐมนตรี แต่ผมจะให้ 2 เก้าอี้เลยถ้ายกจังหวัด” นายอนุทิน กล่าว

‘ปวีณ แซ่จึง’ อดีตส.ส. พรรคเพื่อไทย จ.ศรีสะเกษ แฉเหตุย้ายเข้าภูมิใจไทย แฉสิ้นไส้อยู่กับ ‘ทักษิณ’ มา 20 ปี เห็นส.ส.เป็นแค่เบ๊ ของบไม่เคยได้ ต้องมาขอกับภูมิใจไทยแทน

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 พฤษภาคม ที่ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์ประสานงานพรรค ภท. เขต 8 จ.ศรีสะเกษ ที่บ้านพักของ นายปวีณ แซ่จึง โดยมี นางผ่องศรี แซ่จึง ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย (พท.), รัฐมนตรี และส.ส.ของพรรคภท. รวมถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ อ.ราษีไศล เข้าร่วม

โดย นายปวีณ เปิดใจว่า 20 ปีอยู่กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 20 ปีได้ผูกเสี่ยว 20 ปีได้สรุปบทเรียน ถือว่าใช้เวลาพิสูจน์นานเกินไป แต่สิ่งที่ตอบแทนไม่มีจากพรรคพท. และจะปล่อยให้คน พท.ด่าภรรยา คือ นางผ่องศรี ต่อไปไม่ได้ ทุกคนมีศักดิ์ศรี ตนได้บอกนายทักษิณว่า ถ้าจะย่ำยีภรรยาตนขนาดนี้ขอให้ไล่ออก ที่ผ่านมานางผ่องศรีเป็นส.ส.พรรค พท. ไม่ได้เป็นส.ส. พรรค ภท. ยังยกมือให้พรรคพท. และไม่มีใครขยันเท่าภรรยาตน นี่คือเรื่องที่เสียอย่างเดียวคือขยันเกินไป

“ผมเกิดที่นี่โตที่นี่เป็นส.ส.ตั้งแต่หลายคนยังไม่ทันเกิด ต่อเนื่องมาในการเมือง 50 ปี อยู่พรรค พท.ตั้งแต่สมัยเป็นไทยรักไทย เป็นพลังประชาชน จนเป็นพรรค พท.ยังไม่เคยได้อะไร นายทักษิณบอกว่าเป็นเสี่ยวกันคุยกันแค่เรื่องงานลูบหลังกัน แต่ไม่เกิดความรู้สึก มันไม่ได้รับการตอบแทนเท่าที่ควร ที่ให้นางผ่องศรีลงส.ส. เพราะผมจะเลิกเล่นการเมือง เพื่อไม่ให้เขาใช้ผมเป็นเบ๊ ตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกัน ที่พูดนี่ไม่ได้ด่า นางผ่องศรีของบฯ แต่ก็ขอไม่ได้ ต้องมาขอกับพรรคภูมิใจไทย ผมการันตีว่า การตัดสินใจครั้งนี้ถูกต้องแล้ว กลับไปอยู่กับนายเนวิน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เสมือนได้กลับไปอยู่กับพี่น้อง ผมมีความสุข” นายปวีณ กล่าว

'ก้าวไกล' ขวาง 'ภท' เลื่อน ส.ส.แทน 'สำลี รักสุธี' หวั่นเปิดช่อง ซื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอื่นได้

(2 มิ.ย.65) ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล แถลงถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้ นายสำลี รักสุธี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย สิ้นสุดสมาชิกภาพ ส.ส. แล้วให้เลื่อน ส.ส.บัญชีรายชื่อจากพรรคการเมืองนั้นขึ้นมา ว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ระบุการเลื่อนบัญชีส.ส.บัญชีรายชื่อจากบัญชีใด การที่ศาลรัฐธรรมนูญระบุให้เลื่อนจากพรรคนั้น อาจตีความได้ว่าเป็นการเลื่อนของพรรคภูมิใจไทย ถ้าเป็นแบบนั้นจริง จะก่อให้เกิดปัญหาทางกฎหมายและปัญหาทางการเมืองตามมา เพราะถ้าเทียบเคียงกรณีศาลมีคำวินิจฉัยให้ น.ส.ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่พ้นสมาชิกภาพกรณีถือหุ้นสื่อ ศาลวินิจฉัยชัดเจนไม่สามารถเลื่อนบัญชีรายชื่อแทนที่ว่างได้ เพราะพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ กรณีนี้คล้ายกัน แต่ศาลรัฐธรรมนูญเขียนคำวินิจฉัยต่างออกไป

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า และถ้าให้มีการเลื่อนลำดับขึ้นมาได้จะขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 91 เกี่ยวกับเรื่อง ส.ส.พึงมี เพราะหากให้เลื่อนบัญชีของพรรคภูมิใจไทย จะทำให้มี ส.ส.บัญชีรายชื่อเกินกว่า ส.ส.พึงมีของพรรคจากการเลือกตั้ง ทำให้คะแนนของพรรคอนาคตใหม่ถูกโอนไปพรรคภูมิใจไทยใช่หรือไม่ ซึ่งไม่ใช่สิ่งพึงปรารถนาทางการเมือง เป็นการส่งเสริมให้มีกระบวนการงูเห่า อาจมีการซื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อจากพรรคการเมืองอื่นได้ พรรคก้าวไกลจึงกังวล และขอเรียกร้องไปยัง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ อย่าเพิ่งเลื่อนบัญชีขึ้นมา ให้รอดูคำวินิจฉัยตัวเต็มก่อน และขอตั้งข้อสังเกตว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอาจกระทำไปโดยผิดพลาดคลาดเคลื่อน ลืมนึกไปว่านายสำลี มีส.ส.ต้นทางจากพรรคอนาคตใหม่


ที่มา: https://www.thaipost.net/politics-news/153657
 

'อนุทิน' โต้กลับ!! ไม่เคยด้อยค่า 'จุรินทร์' ลั่น!! สอนลูกพรรคเสมอให้ทำเพื่อปชช.

เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 13 ส.ค. ที่จ.กระบี่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวกรณีพรรคประชาธิปัตย์ออกมาระบุอย่าด้อยค่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า...ไม่มี เราไม่เคยด้อยค่าใครอยู่แล้ว พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคที่ถูกกระทำมาโดยตลอด เราไม่เคยไปฟ้องร้องหรือทำอะไร หรือให้ร้ายกับคู่แข่งเลย มีแต่เราถูกคู่แข่งให้ร้ายว่ากล่าว และถูกฟ้องร้องตกเป็นจำเลยด้วยซ้ำ มาวันนี้ยังถูกกล่าวหาว่าขนอสม.มา ทั้งที่ไม่มีความจริงแม้แต่น้อย เรามาทำงาน มาเสนอนโยบาย ให้กับประเทศชาติ ไม่เคยไปท้าตีท้าต่อยกับใครอยู่แล้ว 

‘ปชป.-ภท.’ เปิดศึก 4 ตระกูลดังถือหางคนละข้าง ‘เกี่ยวข้อง-ภูเก้าล้วน-กิตติธรกุล-เอ่งฉ้วน’

58 ที่นั่งส.ส.ของภาคใต้ หลายพรรคการเมืองจดจ้องจองเก้าอี้ ทั่งรักษาฐานเดิม และขยายฐานจากเดิมที่มีอยู่แล้ว ฐานเดิมประชาธิปัตย์เคยยึดครองมาเกือบทั้งภาคมาแล้ว แต่การเลือกตั้งปี 2562 มีพรรคพลังประชารัฐ และพรรคภูมิใจไทย เข้ามาเบียดแทรก เจาะฐานประชาธิปัตย์ไปบางเขต เช่น ที่สงขลา พัทลุง สตูล หรือกระบี่ เป็นต้น

พรรคภูมิใจไทยฮึกเหิมหนัก หมายมั่นปั้นมือว่า จะต้องได้ สส.มากกว่าเดิม ตีความได้ว่าเป็นการรุกเข้าไปในฐานของประชาธิปัตย์นั้นเอง และหรือรุกฆาตเข้าไปยังพื้นที่ของพลังประชารัฐที่กำลังอยู่ในภาวะอ่อนกำลัง คะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่อยู่มานานร่วม 8 ปี ก็เริ่มถดถอย

เมื่อวันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม 2565 อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และโกเกี๊ยะ-พิพัฒน์ รัชกิจประการ นำทัพหลวง หิ้วแม่ทัพใต้ ยกทีมไปเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ ทั้ง 3 เขต ที่ลานพระอาทิตย์ อบจ.กระบี่
 
การเลือกตั้งปี 2562 กระบี่ มี ส.ส. 2 คนคือ เขต 1 สาคร เกี่ยวข้อง พรรค ปชป. ส่วนเขต 2 สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง พรรคภูมิใจไทย  สมัยหน้า กระบี่ จะมี ส.ส.เพิ่มเป็น 3 คน พรรคภูมิใจไทย ได้วางตัวผู้สมัคร ส.ส.ไว้เรียบร้อยแล้ว
 
เขต 1 โกหนึ่ง-กิตติ กิตติธรกุล เลขานุการนายก อบจ.กระบี่, เขต 2 สจ.ม้อ-ถิรเดช ตั้งมั่นก่อกิจ  อดีต ส.อบจ.กระบี่ เขต อ.อ่าวลึก และเขต 3 โกสุทธิ์-สฤษฏพงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ โดยมีท่านขุน เอ่งฉ้วน รองนายกฯอบจ.กระบี่ เป็น สส.บัญชีรายชื่อ
 
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้วางตัวผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ ไว้แล้วเช่นกัน ได้แก่เขต 1 โกเคี่ยง ธนวัช ภูเก้าล้วน ลูกชายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน อดีตนายกเทศมนตรีเมืองกระบี่, เขต 2 สาคร เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ และเขต 3 พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลูกสาวพิเชษฐ์ พันธุ์วิชาติกุล 

แม่ทัพตัวจริงของภูมิใจไทย เมืองกระบี่คือ โกหงวน- สมศักดิ์ กิตติธรกุล นายก อบจ.กระบี่ 7 สมัย สหายร่วมรบของเนวิน ชิดชอบ
 
หนที่แล้ว โกหงวน ตั้งเป้าปั้น สฤษฎ์พงษ์ เกี่ยวข้อง เป็นหัวหอกในการเจาะฐานเสียง ปชป. และโกสุทธิ์ทำได้สำเร็จ เอาชนะสุชีน เอ่งฉ้วน พรรค ปชป.ไปได้
 
ดูรายชื่อขุนพลทั้ง ปชป. และภูมิใจไทย รับประกันว่า สมัยหน้าสนามกระบี่ดุเดือดเลือดพล่านแน่นอน สายภูมิใจไทย ก็จะมี “ตระกูลเกี่ยวข้อง-กิตติธรกุล-เอ่งฉ้วน” เป็นกลไกขับเคลื่อน

ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ก็มี “ตระกูลภูเก้าล้วน-เกี่ยวข้อง-เอ่งฉ้วน” เป็นมือไม้สำคัญ งานนี้ จุรินทร์-นิพนธ์-เดชอิศม์” จะต้องทำงานหนักเพื่อรักษา และขยายฐานไปสู่เป้าหมาย 35 ที่นั่งให้ได้

'คนเพื่อไทย' เย้ย ภท.-ปชป. หยุดโม้กวาด ส.ส.ใต้ แนะ!! ไปทำตามสัญญาที่ให้ปชช. ให้ได้ก่อน

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม นพ.ประสิทธิ์ โกยศิริพงศ์ อดีตนายกฯ อบจ.ภูเก็ต และประธานคณะทำงานโซนภาคใต้ฝั่งอันดามัน พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า จากกรณีที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ต่างประกาศจะยึดเก้าอี้พื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามันทั้งหมดนั้น ตนอยากบอกว่า ขอให้ลืมไปได้เลย เพราะในปัจจุบันเท่าที่ทำหน้าที่ประสานงานให้พรรค พท. และลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องนั้น ทำให้ทราบว่า ประชาชนไม่เอาด้วยกับนโยบายกัญชาเสรีของพรรค ภท. ขณะที่พรรค ปชป. ก็ไม่มีผลงานแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้แก่ประชาชนเลย ทำให้กระแสตกลงอย่างต่อเนื่อง

นพ.ประสิทธิ์กล่าวต่อว่า ท่านอย่าเพิ่งพูด หรือคาดหวังไปก่อนโดยเหมารวมเอาเองว่าพี่น้องประชาชนชาวใต้ฝั่งอันดามันจะให้คะแนนเสียงพวกเราให้ท่านเหมือนอดีต เพราะท่านอาจจะผิดหวังได้ วันนี้คนใต้ลำบากกันมาก ราคายางตกลงอย่างต่อเนื่อง หลายครอบครัวเริ่มเป็นหนี้หนัก เมื่อทั้ง ภท. และ ปชป.ประกาศกวาดเก้าอี้ ส.ส. ภาคใต้ ภายใต้ภาวะที่ท่านเป็นรัฐบาล แต่ไม่ได้มีนโยบาย หรือแนวทางที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนชาวใต้ให้กลับมาตั้งหลักได้อีกด้วยซ้ำ แล้วเหตุใดพี่น้องประชาชนภาคใต้ต้องเลือกท่านกลับมาอีก


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top