‘ปวีณ แซ่จึง’ อดีตส.ส. พรรคเพื่อไทย จ.ศรีสะเกษ แฉเหตุย้ายเข้าภูมิใจไทย แฉสิ้นไส้อยู่กับ ‘ทักษิณ’ มา 20 ปี เห็นส.ส.เป็นแค่เบ๊ ของบไม่เคยได้ ต้องมาขอกับภูมิใจไทยแทน

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 พฤษภาคม ที่ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์ประสานงานพรรค ภท. เขต 8 จ.ศรีสะเกษ ที่บ้านพักของ นายปวีณ แซ่จึง โดยมี นางผ่องศรี แซ่จึง ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย (พท.), รัฐมนตรี และส.ส.ของพรรคภท. รวมถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ อ.ราษีไศล เข้าร่วม

โดย นายปวีณ เปิดใจว่า 20 ปีอยู่กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 20 ปีได้ผูกเสี่ยว 20 ปีได้สรุปบทเรียน ถือว่าใช้เวลาพิสูจน์นานเกินไป แต่สิ่งที่ตอบแทนไม่มีจากพรรคพท. และจะปล่อยให้คน พท.ด่าภรรยา คือ นางผ่องศรี ต่อไปไม่ได้ ทุกคนมีศักดิ์ศรี ตนได้บอกนายทักษิณว่า ถ้าจะย่ำยีภรรยาตนขนาดนี้ขอให้ไล่ออก ที่ผ่านมานางผ่องศรีเป็นส.ส.พรรค พท. ไม่ได้เป็นส.ส. พรรค ภท. ยังยกมือให้พรรคพท. และไม่มีใครขยันเท่าภรรยาตน นี่คือเรื่องที่เสียอย่างเดียวคือขยันเกินไป

“ผมเกิดที่นี่โตที่นี่เป็นส.ส.ตั้งแต่หลายคนยังไม่ทันเกิด ต่อเนื่องมาในการเมือง 50 ปี อยู่พรรค พท.ตั้งแต่สมัยเป็นไทยรักไทย เป็นพลังประชาชน จนเป็นพรรค พท.ยังไม่เคยได้อะไร นายทักษิณบอกว่าเป็นเสี่ยวกันคุยกันแค่เรื่องงานลูบหลังกัน แต่ไม่เกิดความรู้สึก มันไม่ได้รับการตอบแทนเท่าที่ควร ที่ให้นางผ่องศรีลงส.ส. เพราะผมจะเลิกเล่นการเมือง เพื่อไม่ให้เขาใช้ผมเป็นเบ๊ ตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกัน ที่พูดนี่ไม่ได้ด่า นางผ่องศรีของบฯ แต่ก็ขอไม่ได้ ต้องมาขอกับพรรคภูมิใจไทย ผมการันตีว่า การตัดสินใจครั้งนี้ถูกต้องแล้ว กลับไปอยู่กับนายเนวิน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เสมือนได้กลับไปอยู่กับพี่น้อง ผมมีความสุข” นายปวีณ กล่าว

ด้าน นางผ่องศรี กล่าวว่า ถ้านายปวีณ ลงส.ส.แล้วตนจะอยู่ไหน ก็ยืนยันว่า จะยังอยู่ข้างนายปวีณ เมื่อถึงเวลาหนึ่งนายปวีณตัดสินใจที่จะเลือกทางเดินของตัวเองใหม่ เราต้องเชื่อมั่นว่าต้องดี คนอายุ 72 ปี เราเคารพการตัดสินใจของเขา ฉะนั้น การตัดสินใจทั้งหมดเพื่อประชาชนทุกเม็ดทุกดอก

“นายปวีณอยู่เพื่อไทยมาเกือบ 20 ปี รักใครรักจริง เอาจริง มุ่งมั่น มั่นคงเสมอ แต่เมื่อถึงเวลาหนึ่งนายปวีณตัดสินใจที่จะเลือกทางเดินมาอยู่กับพรรคภูมิใจไทย เราก็ต้องเชื่อมั่น เพราะอายุ 72 ปี ก็คิดแล้วคิดอีกกว่าจะตัดสินใจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่อยู่ไปก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ซึ่งการตัดสินใจทั้งหมดเพื่อพี่น้องประชาชน ดังนั้น ไม่ใช่งูเห่า เราอยากได้อย่างอื่นมากกว่าเงิน เงินเราพอมีอยู่พอกิน มีพอช่วยประชนพอสมควร” นางผ่องศรี กล่าว

ที่มา : https://www.matichon.co.th/politics/news_3356437