Monday, 6 May 2024
ภูมิใจไทย

‘พุทธิพงษ์’ นำทัพ ‘อดีตส.ส.-คนรุ่นใหม่’ สมัครเข้าภท. พร้อมย้ำอุดมการณ์ ขอทำเพื่อคนกทม. ตลอด 24 ชม.

(11 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 12.55 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีต ส.ส.กทม. นำอดีต ส.ส.กทม. ประกอบด้วย นายจักรพันธ์ พรนิมิตร, น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์, นายกษิดิ์เดช ชุติมันต์, น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ และนางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา รวมถึงทีมคนรุ่นใหม่ เช่น น.ส.พีร์ปภาอร เสถียรไทย หลานสาวนายสุรเกียรติ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี, นางศลิษา สิงหเสนี, น.ส.พิชามญช์ ชมะนันทน์, น.ส.อัชญา จุลชาต และนายพศิน ชาญศิลป์ นั่งรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้ามาตาม ถ.พหลโยธิน เข้ามายังที่ทำการพรรคภูมิใจไทย เพื่อสมัครเป็นสมาชิกพรรค และเปิดตัวทีม ‘ภูมิใจไทย ภูมิใจกรุงเทพฯ’ 

ทั้งนี้ เมื่อเดินทางมาถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้การต้อนรับ พร้อมทั้งขอเป็นคนทดลองขับรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า โดยมีนายพุทธิพงษ์ และว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม. บางส่วน ร่วมนั่งบนรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าด้วย ซึ่งนายอนุทินได้ขับวนรอบพรรคหนึ่งรอบก่อนนำทั้งหมดขึ้นมาบริเวณชั้น 2 ของที่ทำการพรรค เพื่อทำกิจกรรมเปิดตัว

ต่อมาเวลา 13.48 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ยินดีต้อนรับครอบครัวภูมิใจไทย พี่น้องภูมิใจไทยในเขตกทม. สู่บ้านหลังนี้ ความสัมพันธ์ของตนกับนายพุทธิพงษ์ มีมายาวนานตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ คุณแม่ จนถึงรุ่นลูก ซึ่งนายพุทธิพงษ์ มีความทุ่มเท เสียสละ ทำงานรับใช้บ้านเมือง ตรงตามเจตนารมณ์ของพรรค วันนี้ดีใจที่ท่านมาเป็นตัวแทนพรรคเสนอเป็นทางเลือกให้ประชาชนในเขตกทม. ต้องถือว่าท่านเป็นผู้เติมเต็ม เราพยายามรับใช้ประชาชนทุกจังหวัดทั่วประเทศ แต่พรรคเราเริ่มต้นมาจากต่างจังหวัด ไม่มีพื้นฐานในกทม. เราอาจจะประหม่าในการเข้าถึงจิตใจคนกทม. แต่ช่วงที่ผ่านมา 4 ปี ที่เราได้ร่วมบริหารราชการแผ่นดิน เรามองว่ากทม. เป็นหัวใจของประเทศอีกหนึ่งจังหวัด เราไม่เคยมองข้าม ตนเชื่อว่า นายพุทธิพงษ์ และทุก ๆ คน คงมองว่าถึงเวลาที่พรรคภูมิใจไทยจะเข้า พื้นที่กทม.แล้ว เราจะทำจนสุดความสามารถที่ทำให้คนกทม. เชื่อมั่นในพรรค เหมือนกับคนทั่วประเทศที่เชื่อมั่น และให้โอกาสพรรคมาทำงาน 

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า พรรคนี้เข้าถึงทุกคน ทั้งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค รองหัวหน้าพรรค และผู้บริหารพรรค เดินไปเดินมาตลอดไม่มีห้องกั้น ไม่ต้องแลกบัตร ปั๊มบัตร ปั๊มมือ ไม่ต้องเขียนชื่อเข้าพบ เราอยู่กันแบบพี่น้อง แบบครอบครัวที่อบอุ่น นี่คือจุดแข็งของพรรค ความเป็นเอกภาพถือเป็นเอกลักษณ์ของพรรค ขอให้ท่านนำสิ่งเหล่านี้มาสิงในตัวเอง หรือเรียกว่าองค์ลง สิ่งที่คนเชื่อว่ายากก็จะขับเคลื่อนได้ ถ้าเรามีประชาชนเป็นเป้าหมายก็จะประสบความสำเร็จ สุดท้ายขอแสดงความยินดีกับตัวเอง และผู้บริหารพรรคทุกคน ที่ได้คนดี ๆ มาร่วมงาน ขอคารวะทุกท่านที่มาร่วมงานด้วยกัน 

ด้านนายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้น และยินดีที่ได้มาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย วันนี้นำทีมคนรุ่นใหม่ 60-70 คน มาเป็นทีมทำงานร่วมกัน ครั้งนี้ตนจึงไม่ได้มาคนเดียว แต่มากับทีมกทม. ทั้งนี้ หากย้อนดูตลอด 3 ปีที่ป่านมา พรรคภูมิใจไทย ไม่มีส.ส.กทม แต่ผลงานในหลายกระทรวงจากรัฐมนตรีของพรรค ทำประโยชน์สร้างโครงการต่าง ๆ ในกทม.จำนวนมาก ผลงานที่ทำไว้ แม้พรรคจะไม่มีส.ส.กทม.เลย แต่ถ้าการเลือกตั้งครั้งหน้าเราเสนอคนดี คนเก่ง มาเป็นจุดกลางทำนโยบายให้เกิดขึ้นจริง ลองคิดดูว่าอะไรจะเกิดขึ้นในกทม. นี่คือเหตุผลว่าทำไมตนต้องมาพรรคภูมิใจไทย

นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า เราเชื่อตรงกันว่าคนกทม.มีปัญหามาก สิ่งที่คนกทม. รอคอยไม่ค่อยได้รับการแก้ไขได้ตรงจุด และทันเวลา วันนี้เชื่อว่าพรรคภูมิใจไทยให้โอกาสพวกเราได้คิดเป็นนโยบาย และนำกลับไปทำประโยชน์ให้ประชาชน คำว่า ‘พูดแล้วทำ’ มีความหมายมาก เราจะนำคำนั้นกลับไปในกทม. ว่าพวกเราพูดแล้วทำ เราไม่ได้มาแค่ให้ท่านสวมแจ็คเก็ตให้เรา แต่เราเตรียมนโยบายที่คิดว่านำไปปฏิบัติได้จริง ไม่ใช่นโยบายเมกะโปรเจกต์ แต่เป็นนโยบายบ้าน ๆ เรียบง่าย มาจากปัญหาที่เกิดขึ้นจริง ทำได้จริงไม่เพ้อฝัน 

‘พุทธิพงษ์’ มั่นใจ!! สามารถลงสมัคร ส.ส. ได้ แนะ ‘อดีต 8 ส.ส.กทม.’ ต้องรักษาพื้นที่ตัวเองให้ดี

‘พุทธิพงษ์’ มั่นใจคุณสมบัติลงสมัคร ส.ส.ได้ แต่เป็นรมต.ไม่ได้ ชี้ ‘อดีต 8 ส.ส.กทม.’ ย้ายซบ ‘ภท.’ ต้องรักษาพื้นที่ให้ได้ มองเป็นสิ่งดี ‘บิ๊กตู่’ โดดลงสนามการเมือง เพิ่มทางเลือกปชช. ลั่นไม่มีใครดีกว่าใคร อยู่ที่สถานการณ์วันนั้นใครเหมาะสมนำพาชาติ

(11 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 14.50 น. ที่พรรคภูมิใจไทย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ สมาชิกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงข้อสังเกตเกี่ยวกับคุณสมบัติส.ส. จะสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้หรือไม่ หลังเคยต้องคดีชุมนุมทางการเมืองกับกปปส. ที่ต่อต้านรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า ได้ตรวจสอบข้อกฎหมายแล้ว สามารถลงสมัครส.ส.ได้ เนื่องจากคดียังไม่ถึงที่สิ้นสุด อีกทั้งก่อนหน้านี้ที่ตนเคยถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นสภาพส.ส. ก็เป็นการร้องในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง ส.ส.อยู่ และเหตุการณ์จบไปแล้ว ซึ่งหากได้เป็นส.ส.ในครั้งนี้เรื่องดังกล่าวก็ไม่เกี่ยวข้อง แต่ในส่วนของการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีไม่สามารถดำรงตำแหน่งได้ เพราะตามรัฐธรรมนูญได้ระบุคุณสมบัติรัฐมนตรี ต้องไม่เป็นผู้ต้องคำพิพากษา โดยไม่คำนึงว่าคดีจะถึงที่สุดหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนจะลงสมัครส.ส.หรือไม่อยู่ที่พรรคภูมิใจไทยจะพิจารณาอีกครั้ง

‘บี พุทธิพงษ์’ ชูนโยบาย ‘ภูมิใจกรุงเทพ’ เน้น ‘ลดรายจ่าย-เพิ่มรายได้-พัฒนาคุณภาพชีวิต’

วันนี้ (11 ม.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของบรรดานักการเมืองที่ทยอยเข้าร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ โดยวันนี้มีการเปิดตัว นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะเข้ามาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคให้การต้อนรับ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดตัวนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ เข้าร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย เพื่อมาดูแลกทม. นายอนุทิน กล่าวว่า ยินดีต้อนรับสู่บ้านหลังนี้โดยเฉพาะ นายพุทธิพงษ์ ซึ่งถือว่าความสัมพันธ์กับตนมีตั้งแต่รุ่นพ่อแม่มาถึงรุ่นลูก และนายพุทธิพงษ์ทุ่มเท มีความสามารถ ความตั้งใจรับใช้บ้านเมือง ซึ่งตรงกับความตั้งใจของพรรคภูมิใจไทย เพราะเป็นตัวแทนของพรรคภูมิใจไทย เติมเต็มพรรคภูมิใจไทยให้เป็นพรรคการเมืองของประเทศ

จากนั้น นายพุทธิพงษ์ได้นำเสนอนโยบายว่า “ในฐานะพรรคการเมืองที่เป็นพรรคการเมืองหลักของประเทศ ขอนําเสนอนโยบายที่เร่งฟื้นตัวความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนกรุงเทพฯ ที่ถือได้ว่าหากกรุงเทพฯ ฟื้นตัวก็จะสามารถส่งผลไปยังทั้งประเทศ กรุงเทพฯ เปรียบเสมือนหัวใจหลักของประเทศไทย พรรคภูมิใจไทย พวกเราขอดูแลคนกรุงเทพฯ ทุกวัน ทุกเวลา และครอบคลุมทุกวัย มาร่วมกันทํา เพื่อให้คนกรุงเทพฯ ภูมิใจ…ภูมิใจกรุงเทพ” โดยนโยบายที่นำเสนอ ได้แก่

เพิ่มรายได้ การหารายได้เพิ่มได้ 3 กะ : เปิดพื้นที่ใหม่ ๆ ส่งเสริมกิจกรรมใหม่ ๆ เพราะวิถีชีวิตของคนกรุงเทพฯ หมุนตลอด 24 ชม. เปิดพื้นที่การค้าขาย ที่ขายได้ตลอดวัน เน้นการสร้างงาน กระจายรายได้ เพิ่มกิจกรรมที่สามารถรองรับ นักท่องเที่ยวตลอด 24 ชม. คล้ายตลาดนัด ที่ได้รับความนิยมที่ประเทศไต้หวัน หรือ ประเทศเกาหลี และต้องจัดระบบดูแล ความปลอดภัยทั้งแสงสว่าง กล้องวงจรปิด รวมทั้งระบบการขนส่งเพื่อรองรับ คนทํางานช่วง กลางคืน

พันธบัตรรัฐบาล (Thai Power Bond) พันธบัตรรัฐบาลที่ประชาชนมีสิทธิซื้อก่อน นิติบุคคล หรือสถาบันการเงินต่างประเทศ เป็นการส่งเสริมการออมและ ประกันเงินฝาก สามารถเพิ่มรายได้จากดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และเพิ่มความมั่นคงในการออมเงิน และเศรษฐกิจของประเทศ

ลดรายจ่าย ทั้งนี้ พักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอก : ไม่เกินคนละ 1 ล้านบาท หากเปรียบเทียบกับ เงินกู้นอกระบบที่คิดร้อยละ 3 ต่อเดือน ถือได้ว่า สามารถช่วยผู้กู้ประหยัดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยตรงนี้ ได้ถึงเดือนละ 30,000 บาทต่อเดือน

One day Pass Ticket ตั๋ววัน : ค่าเดินทางที่เป็นต้นทุนของการดําเนินชีวิต หากเราสามารถล็อกค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไม่ให้แพงเกินไป รถ เรือ เริ่มต้น 15 บาท ตลอดวันไม่เกิน 50 บาท รถไฟฟ้า เริ่ม 15 บาท ตลอดสายไม่เกิน 40 บาท

เครื่องกองน้ำดื่มชุมชน : น้ำดื่มเป็นต้นทุนที่สูงประชาชนต้องนําเงินส่วนหนึ่ง เพื่อมาชื้อน้ำดื่ม จ่ายเงินเพื่อเติมเงิน เพื่อกรองนํ้าไปใช้ ส่วนนี้จะต้องไม่เป็นภาระของประชาชนในทุกชุมชนอีกต่อไป รวมถึง ติดโชลาร์ รูฟ ฟรี ทุกครัวเรือน เพื่อเป็นการลดภาระค่าไฟของประชาชน

ลดภาษี 2 ทาง ผู้ให้/ผู้รับ : วัยทํางานต้องไม่เสียภาษีซ้ำซ้อน (ใช้ VAT เพื่อหักภาษีส่วนบุคคล สูงสุด 150,000 บาท/ปี) วัยทํางานที่ต้องเสียภาษีซ้ำซ้อนจะต้องหมดไป และจะได้นําเงินส่วนนี้ไปใช้จ่ายส่วนอื่น ในการสร้างเนื้อสร้างตัว

วัยเกษียณที่ยังคงทํางาน จะมีนโยบายในการ ปรับเพดานภาษีเงินได้ เงินส่วนนี้ต้องเสีย น้อยที่สุด เพื่อนําเงินส่วนต่างมาเป็นเงินออม เก็บไว้ใช้จ่ายดูแลตัวเอง

ให้โอกาส โดยให้ชีวิตคืนสู่ครอบครัว : รักษาฟรีมะเร็ง เคยมีคําพูดใครในบ้านเป็นมะเร็ง ถือได้ว่าเป็นทุกข์ทั้งบ้าน ต่อไปนี้การรักษามะเร็ง จะฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อแบ่งเบาทุกข์ของทุกคน ในครอบครัว

ฟอกไตฟรี เช่นเดียวกันภาวะคนป่วยโรคไต ถือได้ว่าเป็นภาระที่หนักต่อครอบครัวที่ต้องดูแล ต่อไปนี้นโยบายฟอกไตฟรีจะมีขึ้น เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของทุกคน

ผู้สูงอายุ วัคซีนป้องกันปอดอักเสบ/ไข้หวัดใหญ่ โควิด ฟรี-ฉีดถึงบ้าน เพื่อเป็นการบริการให้กับ ผู้สูงวัย ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ที่มีปัญหาในการ ออกมารับวัคซีน ถือเป็นการกระจายให้คนกรุงเทพฯ ได้รับการบริการทางสาธารณสุขได้ครอบคลุมขึ้น ไม่เฉพาะกับคนเท่านั้น

‘บี พุทธ์พงษ์’ เผยเหตุผลหลักร่วมทัพภูมิใจไทย เพราะมีนโยบายปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์

“พรรคภูมิใจไทยยืนยันนโยบายปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมมายืนตรงนี้เพราะเรื่องนี้เป็นอันดับหนึ่ง” 

อุดมการณ์สำคัญที่สุด

'ภูมิใจไทย' เสนอนโยบาย 'ภูมิใจกรุงเทพ 24/7' ยึดหลัก 'เพิ่มรายได้-ลดรายจ่าย-ให้โอกาส'

(14 ม.ค. 66) หลังจาก บี พุทธิพงศ์ ปุณณกันต์ ประกาศเข้าร่วมทัพภูมิใจไทย และได้มีงานเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 66 ที่ผ่านมา ในวันเดียวกันก็ยังได้ประกาศนโยบายขับเคลื่อนกรุงเทพมหานคร ภายใต้ชื่อ 'ภูมิใจกรุงเทพ' โดยยึดหลักการ 'เพิ่มรายได้-ลดรายจ่าย-ให้โอกาส' พร้อมแสดงจุดยืนขอรับใช้พี่น้องประชาชนกรุงเทพฯ ตลอด 24 ชม. 

สำหรับนโยบาย 'ภูมิใจกรุงเทพ' มีรายละเอียดดังนี้

>> เพิ่มรายได้ <<

-การหารายได้เพิ่มได้ 3 กะ เปิดพื้นที่ใหม่ๆ ส่งเสริมกิจกรรมใหม่ๆ เพราะวิถีชีวิตของคนกรุงเทพฯ หมุนตลอด 24 ชม. เปิดพื้นที่การค้าขาย ที่ขายได้ตลอดวัน เน้นการสร้างงาน กระจายรายได้ เพิ่มกิจกรรมที่สามารกรองรับนักท่องเที่ยวตลอด 24 ชม. คล้ายตลาดนัด ที่ได้รับความนิยมที่ประเทศไต้หวัน หรือประเทศเกาหลี และเราต้องจัดระบบดูแลความปลอดภัยทั้งแสงสว่าง กล้องวงจรปิด รวมทั้งระบบการขนส่งเพื่อรองรับ คนทำงานช่วงกลางคืน

-พันธบัตรรัฐบาล (Thai Power Bond) พันธบัตรรัฐบาลที่ประชาชนมีสิทธิซื้อก่อนนิติบุคคล หรือสถาบันการเงินต่างประเทศ เป็นการส่งเสริมการออม และ ประกันเงินฝาก สามารถเพิ่มรายได้จากดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และเพิ่มความมั่นคงในการออมเงิน และเศรษฐกิจของประเทศ

>> ลดรายจ่าย <<

-พักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอก ไม่เกินคนละ 1 ล้านบาท หากเปรียบเทียบกับเงินกู้นอกระบบที่คิดร้อยละ 3 ต่อเดือน ถือได้ว่า สามารถช่วยผู้กู้ประหยัดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยตรงนี้ได้ถึง 30,000 บาทต่อเดือน

-One day Pass Ticket ตั๋ววัน ค่าเดินทางที่เป็นต้นทุนของการดำเนินชีวิต หากเราสามารถล็อกค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไม่ให้แพงเกินไป

◇รถ เรือ เริ่มต้น 15 บาท ตลอดวัน ไม่เกิน 50 บาท

◇รถไฟฟ้า เริ่ม 15 บาท ตลอดสายไม่เกิน 40 บาท

-เครื่องกรองน้ำดื่มทุกชุมชน น้ำดื่มเป็นต้นทุนที่สูงประชาชนส่วนหนึ่งเพื่อมาซื้อน้ำดื่ม จ่ายเงินเพื่อเติมเงิน เพื่อกรองน้ำไปใช้ ส่วนนี้จะต้องไม่เป็นภาระของประชาชนในทุกขุมชนอีกต่อไป

-ค่าไฟที่เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ภูมิใจไทย จะนำนโยบาย ติดโซลาร์ รูฟ ฟรี ทุกครัวเรือน เพื่อให้ประชาชนสามารถนำส่วนนี้มาเป็นการลดภาระของค่าไฟ

-ลดภาษี 2 ทาง ผู้ให้/ผู้รับ

◇ วัยทำงานต้องไม่เสียภาษีซ้ำซ้อน (ใช้ VAT เพื่อหักภาษีส่วนบุคคลสูงสุด 150,000 บาท/ปี) วัยทำงานที่ต้องเสียภาษีซ้ำซ้อนจะต้องหมดไป และจะได้นำเงินส่วนนี้ไปใช้จ่ายส่วนอื่นในการสร้างเนื้อสร้างตัว

◇ วัยเกษียณที่ยังคงทำงานจะต้องมีนโยบายในการปรับเพดานภาษีเงินได้ เงินส่วนนี้ต้องเสียน้อยที่สุด เพื่อนำเงินส่วนต่างมาเป็นเงินออมเก็บไว้ใช้จ่ายดูแลตัวเอง

'ภูมิใจไทย' เปิดฉาก!! ขอ ส.ส.เมืองหลวงไว้เป็นฐานเสียง เปลี่ยนภาพลักษณ์พรรค ไม่ถูกมองว่าเป็นพรรคภูธร

ขณะที่ระหว่างกำลังรอการโปรดเกล้าฯ ร่างพ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส.ฯ และร่าง พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ ประกาศใช้เป็นกฎหมาย ในส่วนของการเตรียมการเลือกตั้ง พบว่าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่รับผิดชอบภารกิจควบคุมดูแลการเลือกตั้ง ได้มีการเตรียมพร้อมเพื่อเตรียมรับกับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นตลอดเวลา

อย่างเรื่องของ การแบ่งเขตเลือกตั้ง พบว่า หลังสำนักงาน กกต.ได้รับข้อมูลฐานจำนวนประชากรประเทศไทย ที่เป็นข้อมูลล่าสุดสิ้นสุดเมื่อ 31 ธ.ค. 2565 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา จากกระทรวงมหาดไทย ทำให้ขณะนี้ฝ่าย กกต.เริ่มขยับเตรียมพร้อมสำหรับการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.ทั้ง 400 เขต ที่จะต้องมีเขตเลือกตั้งเพิ่มขึ้นจากตอนเลือกตั้งปี 2562 ขึ้นมา 50 เขต โดย กกต.ได้นำฐานข้อมูลดังกล่าวมาเตรียมแบ่งเขตเลือกตั้งและประกาศการแบ่งเขตอย่างเป็นทางการออกมา ซึ่งกระบวนการดังกล่าว กกต.จะทำได้ต้องรอให้มีการประกาศใช้กฎหมายทั้งสองฉบับข้างต้นเสียก่อน

อย่างไรก็ตาม สำหรับ กรุงเทพมหานคร ที่จะมี ส.ส.เขตเพิ่มขึ้นจากตอนเลือกตั้งปี 2562 เพิ่มมา 3 เก้าอี้ รวมเป็น 33 เก้าอี้ จากเดิม 30 ที่นั่ง ก็เป็นเรื่องน่าสนใจว่าจะทำให้การแบ่งเขตของ กกต.จะออกมาอย่างไร จะส่งผลต่อการได้เปรียบเสียเปรียบในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในสนามเลือกตั้งเมืองหลวงนี้หรือไม่?

หลังพบว่า หลายพรรคการเมืองต่างก็หมายมั่นปั้นมือจะคว้าชัยชนะในสนามเลือกตั้ง กทม.ให้ได้ ทั้งพรรคปีกฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้าน และพรรคตั้งใหม่

อย่างหนึ่งในพรรคที่ก็ต้องการมี ส.ส.เขต กทม.ในการเลือกตั้งครั้งนี้ให้ได้ นั่นก็คือ พรรคภูมิใจไทย ที่ชูสโลแกนการหาเสียงในพื้นที่ กทม.ไว้ว่า ภูมิใจกรุงเทพฯ 24/7

ที่หมายถึงการสื่อกับคน กทม.ว่า ภูมิใจไทยขออาสาทำงานเพื่อคน กทม. 24 ชั่วโมง 7 วัน สำหรับคน กทม.ทุกกลุ่ม

ส่วนว่าแคมเปญดังกล่าวจะซื้อใจคน กทม.จนทำให้ภูมิใจไทยสามารถปักธง มี ส.ส.เขต กทม.ที่มาจากการเลือกตั้งได้หรือไม่ ต้องดูกระแสตอบรับจากคน กทม.ว่าคิดอย่างไรกับนโยบายที่ภูมิใจไทยนำมาเสนอ รวมถึงต้องดูตัวผู้สมัคร ส.ส.เขต กทม.ของภูมิใจไทยทั้ง 33 เขตว่า สู้กับพรรคการเมืองอื่นมีลุ้นหรือไม่ อีกทั้งต้องดูกระแสพรรคใน กทม.เมื่อเข้าสู่การหาเสียงเลือกตั้งเต็มตัวว่า กระแสภูมิใจไทยใน กทม.เป็นอย่างไร ทั้งหมดคือองค์ประกอบสำคัญที่จะมีผลอย่างมากแน่นอน สำหรับภูมิใจไทย ในการหวังปักธง ส.ส.เขต กทม.ให้ได้

หลังก่อนหน้านี้ ภูมิใจไทย ในตอนเลือกตั้งเมื่อปี 2554 และตอน 2562 กระแสพรรค-ตัวผู้สมัคร ส.ส.เขต เป็นรอง หลายพรรคการเมืองที่ขับเคี่ยวสู้กันดุเดือดใน กทม.อยู่หลายขุม จนทำให้พรรคภูมิใจไทยไม่มีลุ้นในการเลือกตั้งสองครั้งข้างต้นตั้งแต่ลงสนามเลยด้วยซ้ำ แต่เลือกตั้งที่จะมีขึ้น แกนนำภูมิใจไทย ทั้งอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ครูใหญ่ เนวิน ชิดชอบ หมายมั่นปั้นมืออย่างมากว่ารอบนี้พรรคต้องปักธงใน กทม.ให้ได้

หลังได้ พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีต รมว.ดีอีเอส อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. และอดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่รับผิดชอบพื้นที่กทม. ให้พลังประชารัฐรอบที่แล้ว มาเป็นกัปตันทีม พาภูมิใจไทยเข้าสู่สนามเลือกตั้ง กทม. ที่รู้กันดีว่าเป็น สนามปราบเซียน คาดเดาได้ยากว่าผลเลือกตั้งจะออกมาแบบไหน อีกทั้งเป็นสนามเลือกตั้ง ที่ กระแส ทั้งกระแสพรรค กระแสผู้สมัคร มีส่วนสำคัญอย่างมาก ต่อการชี้ขาดผล แพ้-ชนะ  

กระนั้น แม้จะเป็นงานยาก แต่ทั้งอนุทินและเนวินรู้ดีว่า ในเป้าหมายการเมืองของภูมิใจไทยที่ต้องการดีดตัวขึ้นไปจากพรรคขนาดกลาง พรรคร่วมรัฐบาล ขึ้นมาเป็นพรรคขนาดใหญ่ พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ หลังภูมิใจไทยเติบใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ มันจำเป็นมาก ที่ ภูมิใจไทยต้องมี ส.ส.เมืองหลวง ของพรรคที่มาจากการเลือกตั้งให้ได้

เพราะแม้ตอนนี้ ภูมิใจไทย จะมี ส.ส.เขต กทม.อยู่สองคนคือ โชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี กับมณฑล โพธิ์คาย แต่ทั้งสองคนเป็นส.ส.เขต กทม.อนาคตใหม่ ที่เข้ามาภูมิใจไทยหลังอนาคตใหม่โดนยุบพรรค ทำให้ยังไม่ถือว่า ภูมิใจไทยมี ส.ส.เขต กทม.ของตัวเองแต่อย่างใด

มันจึงเป็นเป้าหมายสำคัญที่ภูมิใจไทยต้องการให้พรรคมี ส.ส.กรุงเทพมหานคร ยิ่ง กทม.มี ส.ส.มากถึง 33 คน ถือเป็นเค้กก้อนใหญ่ทางการเมือง ที่หากพรรคไหนมี ส.ส.กทม. ก็จะเป็นผลดีในระยะยาว ถ้ามี ส.ส.เมืองหลวงไว้เป็นฐานเสียง และทำให้ภาพลักษณ์พรรคไม่ถูกมองว่าเป็นพรรคภูธร

ทั้งหมดจึงทำให้ภูมิใจไทยพร้อมสู้เต็มที่ เพื่อทำให้พรรคมี ส.ส.กทม.รอบนี้

ยิ่งเมื่อภูมิใจไทยได้อดีต ส.ส.กทม. จากทั้งพลังประชารัฐและเพื่อไทยหลายคนเข้ามา เสริมทีม อาทิ จากพลังประชารัฐ จักรพันธ์ พรนิมิตร - กษิดิ์เดช ชุติมันต์ - พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ - ภาดา วรกานนท์ - กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา และจากเพื่อไทยคือ ประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ซึ่งทางการเมือง อดีต ส.ส.รอบล่าสุด ย่อมถือว่าเป็นระดับเกรดเอ มันก็ยิ่งทำให้พรรคมั่นใจมากขึ้น 

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายนี้ของภูมิใจไทยก็ไม่ง่าย เพราะ 33 เก้าอี้ในสนาม กทม. มันทำให้หลายพรรคใส่กันเต็มที่ ทำให้การแข่งขันจึงมีสูง สู้กันดุเดือดเลือดพล่าน

'พุทธพงษ์' ชู วัยทำงานต้องไม่เสียภาษีซ้ำซ้อน ใช้ VAT เพื่อหักภาษีส่วนบุคคลสูงสุด 150,000 บาท/ปี ผ่าน eTAX

หลังจากสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) ได้เสนอผลสำรวจ เรื่อง นโยบายพรรคที่โดนใจ คน กทม. ซึ่ง นโยบายพรรคที่โดนใจคน กทม. ของพรรคภูมิใจไทย ใน 3 อันดับแรกครองใจคนกทม. ได้อย่างน่าสนใจ อาทิ รักษาฟรี โรคมะเร็ง ได้ร้อยละ 79.7 อันดับสองได้แก่ ฟอกไตฟรี ผู้สูงอายุวัคซีนฉีดฟรีถึงบ้าน ร้อยละ 77.8 และอันดับที่สามได้แก่ เพิ่มรายได้ เปิดพื้นที่ค้าขายรองรับท่องเที่ยว 24 ชั่วโมง ร้อยละ 77.0 ตามลำดับ

ล่าสุด ขุนพลกรุงเทพฯ แห่งภูมิใจไทยอย่าง นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้เผยถึงนโยบายระลอกใหม่ที่จะกระชากใจคนกรุงอีกด้วยว่า...

ด้าน วัยทำงานต้องไม่เสียภาษีซ้ำซ้อน 'ใช้ VAT เพื่อหักภาษีส่วนบุคคลสูงสุด 150,000 บาท/ปี' ผ่านระบบ eTAX

เป็นหน้าที่ของคนทำงานทุกคน ที่ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือรับงานฟรีแลนซ์ ก็จำเป็นต้องยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นประจำทุกปี ยิ่งมีรายได้มากก็ยิ่งต้องเสียภาษีมากตามไปด้วย แล้วจะดีแค่ไหน ?? ถ้าภาครัฐมีการออกมาตรการช่วยคนที่เสียภาษีให้รู้สึกได้รับประโยชน์คุ้มค่ากับที่เสียไป 

เราจะเห็นมาตรการหรือสิทธิลดหย่อนภาษีประเภทต่าง ๆ ที่ออกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคต่าง ๆ การซื้อประกันชีวิตและประกันสุขภาพ การซื้ออสังหาริมทรัพย์ ไปจนถึงการจ่ายใช้สอยต่าง ๆ ที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้  โดยเฉพาะมาตรการที่ออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะอัดมาด้วยมาตรการลดหย่อนภาษี เพื่อดึงดูดให้มีการใช้จ่าย เพราะการอุปโภคบริโภคเป็นปัจจัยสำคัญ เพื่อเกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนภายในประเทศ

‘ภูมิใจไทย’ ชูนโยบาย รักษามะเร็งฟรี แบ่งเบาทุกข์ของทุกคนในครอบครัว

(18 ม.ค. 66) หลังจากที่พรรคภูมิใจเปิดตัวนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ เป็นสมาชิกพรรคไปแล้ว พรรคภูมิใจไทยก็ได้เปิดตัวนโยบาย ‘รักษามะเร็งฟรี’ โดยมีจุดประสงค์เพื่อแบ่งเบาความทุกข์ของคนครอบครัว โดยระบุว่า

โรคมะเร็งถือเป็นโรคร้ายที่คร่าชีวิตของคนไทยมากที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง ที่น่ากลัวไปกว่านั้นยังพบว่า มะเร็งมีโอกาสเกิดขึ้นกับคนอายุน้อยลงมากขึ้นอีกด้วย

แน่นอนว่าโรคร้ายนี้ไม่มีใครอยากเป็น และไม่มีใครอยากให้โรคนี้เกิดขึ้นกับคนที่เรารัก เพราะเมื่อเป็นแล้วไม่ใช่แค่ตัวผู้ป่วยเท่านั้นที่ทุกข์ใจ แต่ทำให้ทุกข์ใจทั้งบ้าน นอกจากในส่วนของอาการป่วยแล้ว บางบ้านยังต้องมาทุกข์ใจกับค่าใช้จ่ายในการรักษา จนถึงกู้หนี้ยืมสินมารักษาคนที่เรารัก ถือเป็นความทุกข์หลายต่อ

'อนุทิน' ตอบคำถามโควิด บนเวที World Economic Forum ชี้!! ไทยไม่เลือกปฏิบัติรับ นทท. หลังมีแผนพร้อมรับมือโควิดรัดกุม

'อนุทิน' ขึ้นเวที World Economic Forum โชว์วิสัยทัศน์ ยกบทบาทอาเซียนพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ของประชาคมโลก เผย ศักยภาพไทยบริหารโควิด19 หนุนประเทศเปิดรับนักท่องเที่ยวทุกชาติแบบไม่เลือกปฏิบัติ

(18 ม.ค. 66) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 66 ที่เมืองดาวอส-คลอสเตอร์ สมาพันธรัฐสวิส นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ได้นำคณะเข้าร่วมการประชุมในหัวข้อที่หลากหลายภายในการประชุมสภาเศรษฐกิจโลก หรือ World Economic Forum (WEF) และได้รับเชิญให้ขึ้นเวทีเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์ความสำเร็จทางนโยบายของประเทศไทย

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า โดยนายอนุทิน ได้รับเชิญให้ร่วมเวทีแสดงมุมมองรัฐบาลไทยในการประชุมหัวข้อ 'The Pulling Power of ASEAN' โดยมีผู้ร่วมเวทีจากทั้งภาครัฐและเอกชนภายในและนอกอาเซียน ได้แก่ นาง Merit Janow ประธานกรรมการอิสระ มาสเตอร์การ์ด, นาย Luhut B. Pandjaitan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงประสานงานกิจการทางทะเลและการลงทุน อินโดนีเซีย และ นาง Teresita Sy-Coson รองประธานกรรมการ  SM Investment Corporation, ฟิลิปปินส์

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายอนุทินได้กล่าวท่ามกลางความสนใจของที่ประชุมต่อภูมิภาคอาเซียนว่า ทุกประเทศในภูมิภาคนี้มีจุดแข็งของตัวเองและมีจุดร่วมสำคัญความสามารถในการปรับตัว อาเซียนเคยเป็นและจะยังคงเป็นที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ของมหาอำนาจ ทั้งไทยและประเทศอื่น ๆ ในอาเซียนมีที่ตั้งอยู่ในเส้นทางยุทธศาสตร์ของจีน และนโยบายอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐฯ แม้จะมีความตึงเครียดในภูมิภาคแต่ความสามารถในการปรับตัว และนโยบายที่ไม่แทรกแซงระหว่างกัน จะส่งผลดีต่อเสถียรภาพและประโยชน์ทางเศรษฐกิจของอาเซียน

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า รองนายกรัฐมนตรียังได้ชี้ให้ที่ประชุมเห็นถึงความร่วมมือที่แนบแน่นของอาเซียนในสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด19 จนเป็นภูมิภาคที่ฟื้นตัวจากโควิด19 ได้เร็ว และได้มีการจัดตั้งศูนย์อาเซียนด้านสาธารณสุขฉุกเฉินและโรคอุบัติใหม่ (ACHPEED) ขึ้นที่ประเทศไทย ด้วยตระหนักว่าหากในภูมิภาครับมือกับภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพได้ดีเท่าไร เศรษฐกิจก็จะมีเสถียรภาพมากขึ้นเท่านั้น เพราะไทยและอีกหลายประเทศในอาเซียนคือ ฐานการผลิตอุตสาหกรรมที่สำคัญของโลก และขณะนี้อาเซียนกำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้ BCG Model ตามที่ได้กล่าวไว้ที่ประชุม APEC ที่ไทยเป็นเจ้าภาพเมื่อเดือนพ.ย. 65 ที่ผ่านมานั่นคือ ซึ่งทั้งหมดนี้จะส่งเสริมให้อาเซียนคงเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญสำหรับประชาคมโลก

CGTN สื่อดังจีนถามเจาะนโยบายเปิดรับ นทท.ของไทย ด้าน 'อนุทิน' เปิดใจ!! ไทยไม่เลือกปฏิบัติ ทุกชาติเท่าเทียม

'อนุทิน' เนื้อหอม!! สื่อจีนขอสัมภาษณ์นโยบายเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวของไทย ระหว่างถก World Economic Forum เมืองดาวอส - คลอสเตอร์ สมาพันธรัฐสวิส

(19 ม.ค. 66) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา ภายหลังจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ร่วมเวทีการประชุมหัวข้อ 'The Pulling Power of ASEAN' ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมสภาเศรษฐกิจโลก หรือ World Economic Forum (WEF)  ที่เมืองดาวอส-คลอสเตอร์ สมาพันธรัฐสวิส สื่อที่มีชื่อเสียงจากประเทศจีน จากสถานีโทรทัศน์ CGTN ได้ขอสัมภาษณ์พิเศษรองนายกรัฐมนตรีของไทย ถึงนโยบายการท่องเที่ยว สาธารณสุข และการรักษาความสมดุลระหว่างการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจกับการดูแลประชาชนและระบบสาธารณสุขจากโควิด-19


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top