Friday, 29 March 2024
ชูวิทย์

'ชูวิทย์' ถาม 'ธนาธร' “มันคุ้มหรือ? กับความหวังดีต่อบ้านเมือง" หลังถูกเล่นงานยกครัว ภายใต้ 'วงจรอุบาทว์การเมืองไทย'

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ความว่า ไม่รู้ว่าคุ้มไหม? เรื่องที่ดินของคุณแม่ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่เป็นปัญหาเมื่อลูกมาเล่นการเมือง ทำให้ถูกขุดคุ้ย จนถูกหาว่าครอบครัวโกงบ้านโกงเมือง

ผมเข้าใจดีว่า คุณสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ถูกกล่าวหา ทั้งๆ ที่ซื้อที่ดินมาอย่างถูกกฎหมาย และสุจริตใจ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องทำใจเมื่อเข้าสู่วงจรการเมือง และไม่ได้อยู่ฝั่งเดียวกับรัฐบาล ย่อมเป็นที่ถูกจับจ้อง ไม่ว่าเรื่องใด

คุณธนาธรเข้าสู่การเมือง แรกเริ่มด้วยจิตใจที่ต้องการเห็นบ้านเมืองมีการเปลี่ยนแปลง แต่กลับต้องแลกด้วยการที่ทั้งน้อง ทั้งแม่ ถูกเล่นงาน รวมทั้งตัวคุณธนาธรเอง ที่ต้องถูกห้ามเล่นการเมือง
 

‘ชูวิทย์’ แนะ ‘จุรินทร์-ชวน’ รีบขอโทษสังคม ก่อนพังยกพรรค ปม ‘อดีตรองหัวหน้าพรรคหื่น’ 

‘ชูวิทย์’ แนะ ‘จุรินทร์-ชวน’ รีบขอโทษสังคมปมอดีตรองหัวหน้าพรรค ชี้ “ศึกนารีนี้ มันหนักกว่า ศึกเลือกตั้ง หลายเท่านัก”

เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 65 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ระบุว่า...

พรรคประชาธิปัตย์ “ศึกเลือกตั้งไม่เคยกลัว แต่กลัวศึกนารีพิฆาต” ถึงขนาดตายหมู่ยกพรรค 

ท่านอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดนแจ้งความทั้งคดีอนาจารล่วงละเมิดทางเพศ ข่มขืนกระทำชำเรา จากผู้หญิงไปถึง 14 รายแล้ว 

บรรดาผู้ใหญ่ในพรรคสู้ “ศึกเลือกตั้ง” มาสารพัดไม่หวั่นไหว

แต่เจอ “ศึกนารี” ของอดีตรองหัวหน้าพรรคเข้าไป ออกอาการ “หน้าจ๋อย”

แรกๆ ให้ลิ่วล้อพรรคระดับเด็กๆ เอาอ่างมาส่องหน้ากระผมว่า

คนอย่างชูวิทย์ไม่ควรมาสอนเรื่องจริยธรรม

พรรคประชาธิปัตย์ตกต่ำถึงขนาดนี้แล้วยังไม่รู้ตัวหรือ?

‘ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์’ เตือนรัฐบาลระวังอิทธิฤทธิ์พรรคเล็ก ชี้ หากคุมเสียงไม่ดี มีสิทธิ์พัง

8 พ.ค.2565-นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่อง ‘อิทธิฤทธิ์พรรคเล็ก’ โดยระบุว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้สนับสนุนให้เกิดพรรคเล็กขึ้นมามากมาย บางพรรคมีคนเดียว บางพรรคมี 3-4 คน ถึงแม้จะเป็นพรรคการเมือง แต่การบริหารจัดการตกอยู่กับคนที่เป็น ส.ส. ในสภาเท่านั้น คุณค่าของพรรคเล็กขึ้นอยู่กับ ‘คะแนนของรัฐบาล’ ว่า หากมีเสียงมากเกินครึ่ง จะต้องไปพึ่งเสียงนกเสียงกา เล็กๆ น้อยๆ ทำไม? เพราะไม่มีผลสั่นสะเทือนใดๆ ต่อสถานะรัฐบาล

ในยุคสมัยก่อน คะแนนของ ส.ส. ซีกรัฐบาลมีเสียงเกินครึ่งไปมาก พรรคเล็กจึงไม่มีความหมาย แต่เมื่อคะแนนฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้านไม่ได้ห่างกันมากในยุคนี้ พรรคเล็กพรรคจิ๋วจึงรวบรวมกำลัง ผนึกจับมือกัน ทำให้มีพลังต่อรองขึ้นมามากทันที

ความปวดเศียรเวียนเกล้ากับการบริหารจัดการพรรคเล็ก จึงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ 1. ต่างคนต่างมา พรรคละ 1-4 คน ทุกคนจึงใหญ่หมด คุมกันไม่ได้ 2. ทิศทางการเมืองไม่แน่นอน อุดมการณ์ไม่มี แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยมากน้อย 3. ส.ส. แต่ละคนในพรรคเล็ก บางคนคิดว่าไหนๆ ก็ได้เป็น ส.ส. แค่สมัยเดียวแล้ว ต้องได้คุ้มก่อนจาก  4. การตัดสินใจไม่ได้ขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรค หรือนโยบายพรรค แต่ขึ้นอยู่กับความพอใจของตนเองเป็นหลัก ยิ่งเป็น ส.ส. สมัยแรกยิ่งหนัก 5. ไม่สนใจการเลือกตั้งครั้งหน้า จึงไม่พะวงกับคะแนน จะทำอะไรก็ไม่แคร์สายตาประชาชน เพราะเป็น ส.ส. ครั้งนี้ครั้งเดียว

ทั้งผสมโรงจาก ส.ส. ที่ฟลุ๊คได้มาในบางพรรคใหญ่ แล้วแปรสภาพกลายเป็น ‘งูเห่า’ ย้ายพรรคจนจำไม่ได้ หรือการโหวตสวนกับมติพรรคตลอด ชื่ออยู่พรรคหนึ่ง แต่ใจไปอยู่อีกพรรค เป็น ‘ชู้’ กันให้เห็นไม่เกรงใจ ‘รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ’ หากคุมไม่ดี หรือพรรคเล็กทำท่าทีเข้าข้างฝ่ายค้าน มีโอกาสล้มรัฐบาลได้ รัฐบาลจึงต้องโอ๋สุดๆ ได้โก่งราคากันสุดโต่ง ยิ่งใกล้หมดเวลา ยิ่งได้เห็นอิทธิฤทธิ์ของพรรคเล็กชัดเจนขึ้น ใครว่าใกล้หมดเวลาไม่มีราคาให้ ผมกลับเห็นว่ายิ่งต้องจ่ายไม่อั้น เพราะมีผลถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า ว่าจะมีโอกาสกลับมาหรือไม่ ?

'สันธนะ' ตั้งข้อสังเกต บัญชีงบดุล 'ชูวิทย์' ขาดทุนตลอด เป็นการตกแต่งบัญชีเพื่อหลบเลี่ยงการจ่ายภาษีหรือไม่

(7 ธ.ค. 65) นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ตั้งโต๊ะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยระบุว่า ตั้งแต่ปี 2543 บัญชีงบดุลของบริษัทของนายชูวิทย์มีภาวะขาดทุนมาตลอด โดยตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการตกแต่งบัญชีเพื่อหลบเลี่ยงการจ่ายภาษีหรือไม่ อีกทั้งการปล่อยให้กรรมการบริษัทมากู้ยืมเงินบริษัทประมาณกว่า 400 ล้านบาท ทั้งที่มีภาะขาดทุน เป็นไปได้อย่างไร ทั้งนี้ยังนำโฉนดที่ดินของ 3 บริษัทมาแสดงเพื่อยืนยันว่าบริษัทดังกล่าวเป็นของนายชูวิทย์จริง โดยจะนำเอกสารทั้งหมดนี้ไปยื่นต่อกรมสรรพากรให้ดำเนินการตรวจสอบบริษัทนายชูวิทย์

ส่วนวันนี้ยืนยันว่าจะเดินหน้าเอาผิดนายชูวิทย์ แม้ว่าตอนนี้ตนได้ร้องทุกข์กล่าวโทษนายชูวิทย์ไปแล้วถึง 9 คดี ซึ่งจะรอดูความชัดเจนอีกครั้งในบ่ายวันนี้ แต่เบื้องต้นตั้งข้อสังเกตุว่าการที่นายชูวิทย์ไปมอบแบริเออร์ให้กับ สน.ทองหล่อนั้น ตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมทางกฎหมายเนื่องจากตนมีคดีความกับนายชูวิทย์อยู่ที่นั่น

ทั้งนี้นายสันธนะ ยังได้โชว์ภาพอดีตผู้บัญชาการทหารบก ที่ไปร่วมงานแต่งลูกชายนายชูวิทย์ว่าตั้งข้อสังเกตุถึงความใกล้ชิดสนิทสนมกัน ซึ่งสันนิษฐานว่าบุคคลในภาพนั้นน่าจะอยู่เบื้องหลังนายชูวิทย์หรือไม่ เนื่องจากกระแสสังคมมีการสร้างวาทะกรรมให้ตนเป็นคนขายชาติ ซึ่งเชื่อว่าเป็นปฏิบัติการไอโอ

ส่วนกรณีของนอร์ท กองสลากพลัส ได้ออกมาแถลงข่าวเมื่อวานนี้ว่านายสันธนะไม่มีอำนาจใด ๆ ในการตรวจสอบบริษัทของตนเองนั้น วันนี้นายสันธนะชี้แจงว่าตนมีอำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ที่ให้สิทธิพลเมืองในการตรวจสอบความผิดปกติหรือความไม่ชอบมาพากลได้ และพร้อมโชว์เอกสารทางการเงินของบริษัท กองสลากพลัส โดยระบุว่าเป็นการดาวน์โหลดมาจากเว็บไซต์กรมธุรกิจการค้าภายใน โดยฝากบอกว่าอย่ามัวแต่เล่นติ๊กต่อก ให้รู้จักอ่านข้อมูลทางกฎหมายด้วย และท้าให้นอร์ทนำเงิน 200 ล้านบาทมาวางเป็นกองกลาง และไปออกรายการทีวีร่วมกัน หากคนนำเอกสารด้านการเงินของบริษัทมาได้ให้มอบเงิน 200 ล้านบาทให้ตน 

ในกรณีที่นายชูวิทย์ได้แฉไปก่อนหน้านี้ว่าเป็นนายทุนใหญ่ 5 เจ้า ได้ส่งเงินให้กับนายเจ้าเหว่ยเจ้าของคาสิโนคิงโรมันใน สปป.ลาว ที่นายสันธนะบอกว่านายชูวิทย์รู้จริงหรือไม่ เพราะตอนนี้คิงโรมันได้มีนายทุนจากสิงคโปร์เข้าไปเช่ากิจการ และเปลี่ยนเป็นขื่อลูซี่ ซึ่งตามหลักกฎหมายสิงคโปร์แล้วมีโทษรุนแรงหากทำผิดกฎหมายเรื่องยาเสพติด โดยเชื่อว่าไม่มีธุรกิจผิดตัวหรือธุรกิจสีเทาที่เขื่้อมโยงกับลูซี่ 

ทั้งนี้ได้โชว์ภาพถ่ายตนเองคู่กับสกายนักธุรกิจจากสิงคโปร์ระดับหมื่นล้าน ซึ่งเป็นบุคคลหนึ่งที่ไปเช่ากิจการลูซี่

นายสันธนะ บอกด้วยว่าตนได้แจ้งความเอาผิดนายชูวิทย์และพวกทั้งหมด 9 คดี...

คดีแรกเริ่มตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย.ในข้อหาโรงแรมเดอะ เดวิส มั่วสุมยาเสพติดและเปิดสถานบันเทิงเกินเวลาที่กำหนด พื้นที่ สน.ทองหล่อ

‘เต้’ เผย มือปืนสารภาพรับงานสั่งเก็บ ‘ชูวิทย์’ แต่เปลี่ยนใจไม่ลงมือ เพราะเกรงใจตน

(23 ธ.ค. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ เต้ พระราม 7 ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์’ ระบุว่า “ข่าวด่วน!!! มีมือปืนลับ รับสารภาพ ว่ารับงานสั่งเก็บ ชูวิทย์ ยังไม่ลงมือ เพราะ เกรงใจผม”

‘ชูวิทย์’ ชื่นชม ‘บิ๊กตู่’ เป็นชายชาติทหาร หลังรับปากตรวจสอบ ปมหลานเอี่ยวทุจริต

‘ชูวิทย์’ ชื่นชม ‘บิ๊กตู่’ เป็นชายชาติทหาร หลังยอมพบถกปมหลานเอี่ยวทุนจีนสีเทา ยอมหยุดแฉตามที่นายกฯ ขอเพื่อตรวจสอบ ชี้นายกฯ รับปากพร้อมฟันหากผิดจริง บอกงานนี้มาไม่เสียเที่ยว

เมื่อวานนี้ (9 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 20.15 น. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ภายหลังร่วมกิจกรรมเปิดตัวกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่ห้องรับรองเป็นเวลา 10 นาที

จากนั้น นายชูวิทย์ได้เปิดเผยว่า เมื่อเข้าไปในห้อง นายกฯ ได้ทักทายและกล่าวว่า “ชูวิทย์ มีอะไรก็ว่ามา” “ชูวิทย์ พอแล้ว หยุดได้แล้ว อย่าไปพูดทําร้ายใคร ถ้ามีหลักฐานก็นํามาแสดง และถ้าเป็นจริง ก็พร้อมที่จะฟัน” 

ซึ่งนายกฯ ยืนยันแบบชายชาติทหารว่าจะจัดการกับปัญหานี้ แต่การดำเนินการต้องมีขั้นมีตอน โดยรอให้ฝ่ายจเรสรุปเรื่องก่อน โดยนายกฯ กล่าวว่าได้กำชับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แล้ว ตนก็รับฟัง ซึ่งตนก็ต้องยอมรับ ถ้านายกฯ พูดอย่างงี้ก็แสดงว่า ท่านมีความเอาใจใส่ ถ้านายกฯ พูดแบบนี้แสดงว่าใจถึง เมื่อนายกฯ ใจถึงยอมรับฟัง คนอย่างชูวิทย์ ซึ่งเป็นประชาชนคนเล็ก ๆ ก็ถือว่าท่านเป็นผู้ใหญ่ รับฟังปัญหาของประชาชนคนหนึ่ง ตนก็ต้องให้เวลาจัดการปัญหาตามระบบราชการ

‘ชูวิทย์’ แฉ!! ผู้มีอิทธิพล ‘ข่มขู่-ปิดปาก’ พยาน ยัน!! แม้กฎหมายล่าช้า แต่จะสู้จนวันสุดท้าย

(20 ม.ค. 66) เวลา 15.00 น. ณ โรงแรมเดอะเดวิสบางกอก กรุงเทพฯ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้แถลงข่าวเปิดเผยถึง timeline ในประเด็นสำคัญ คดีทุนจีนสีเทา ที่เริ่มแฉตั้งแต่ ต.ค., พ.ย., ธ.ค. 65 ถึง ม.ค. 66 นายชูวิทย์กล่าวว่าเป็นการแฉเพื่อส่วนรวม ณ วันนี้เป็นคดีอาชญากรรมข้ามชาติแล้วทำให้อัยการเข้ามาสอบสวนแทนตำรวจได้ 

ต่อมานายชูวิทย์ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับพยานสำคัญ โดยพยานระบุว่า “มีผู้ติดต่อมาแล้วนำเสนอผลประโยชน์ให้ถอนตัว หรือกลับคำให้การ” 

ซึ่งบรรดาพยานล้วนเกรงกลัวผู้มีอิทธิพล จึงขอไม่เปิดเผยชื่อ และอธิบายต่อว่าตู้ห่าว เติบโตมาอย่างไร ซึ่งไม่สามารถดำเนินการแต่เพียงผู้เดียวได้ ต้องมีผู้สนับสนุน และเกิดคำถามว่าใช่ ตม. สน. กรมการปกครอง ที่ละเลยใช่หรือไม่ และกระบวนการการสอบสวนของตำรวจ ใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปี ยาวนานไปหรือไม่ ซึ่งตู้ห่าวโดนข้อหาฟอกเงินเป็นคนสุดท้าย แต่ลูกน้องโดนข้อหาก่อน กระบวนการยุติธรรมเกิดอะไรขึ้น ประเทศไทยจึงกลายเป็นดินแดนสวรรค์ของอาชญากรข้ามชาติ โดยเฉพาะที่พัทยา และภูเก็ต ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่าการตรวจค้นไม่เจอเงินที่บ้านตู้ห่าว แต่หน่วยงานไม่ออกหมายจับข้อหาฟอกเงิน ซึ่งมีความเคลื่อนไหวล่าช้ามาก ซึ่งความล่าช้าของคดีทำให้เกิดความอยุติธรรมได้

'ชูวิทย์' ถล่มซ้ำ ปมตำรวจนำขบวนนักท่องเที่ยวจีน ชี้!! ต้องหากินแบบเทาๆ เพราะแค่เงินเดือนไม่พอให้เมีย

(22 ม.ค. 66) จากกรณี คลิปฉาวของนักท่องเที่ยวสาวชาวจีนที่โพสต์เรื่องราวบอกเล่าความประทับใจ มาเที่ยวกรุงเทพฯ กับแม่แล้วได้รับการบริการระดับ VVIP โดยจ่ายเงินค่าบริการไปถึง 7,000 บาท เพื่อแลกกับประสบการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจมารับไปขึ้นรถออกจากสนามบินอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาใด ๆ ทั้งสิ้น 

.

ภายหลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง จนทำให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.สั่งการด่วน โดยให้จเรตำรวจตรวจสอบนายตำรวจที่เกี่ยวข้องในคลิป 3 นาย ซึ่งหากพบว่ามีความผิดจริงก็จะดำเนินการทางวินัยเฉียบขาดตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

.

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวของกลุ่มจีนเทาและเว็บพนันออกไลน์ ซึ่งได้มีข้อความในตอนหนึ่งที่ระบุถึงเรื่องที่ กลุ่มตำรวจที่ไปรับนักท่องเที่ยวในสนามบินว่า 

'ชูวิทย์' บุก!! ศาลอาญาใต้ ฟังคดี 'ตู้ห่าว' ขอชมความยุติธรรม ว่าเที่ยงตรงแค่ไหน?

(23 ม.ค. 66) ศาลอาญากรุงเทพใต้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ได้มาสังเกตการณ์กรณี ศาลอาญากรุงเทพใต้ กำหนดนัดสอบคำให้การจำเลย คดีหมายเลขดำ ย.87/2566 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดี ยาเสพติด 4 ยื่นฟ้องนายตู้ห่าว 

ชูวิทย์ กล่าวว่า ที่นี่ ศาลอาญาใต้เมื่อ 5 ปีก่อน ตนได้รับการพิจารณา ให้ติดคุก ติดตาราง รับใช้กระบวนการยุติธรรมเมื่อตนทําผิด วันนี้ตนก็มาติดตามดูในฐานะประชาชน ว่ากระบวนการยุติธรรมจะให้ความยุติธรรมกับคนไทยอย่างตนไหม วันนี้เป็นวันแรกที่ตนจะมาติดตาม จะมานั่งฟังอย่างเรียบร้อยภายในศาล 

วันนี้เป็นวันแรก ที่ศาลนัดดูพยานหลักฐาน ดูคําให้การ สอบถามจําเลย ว่าจะให้การปฏิเสธหรือรับสารภาพ ตนเข้าใจว่านายตู้ห่าวและเครือข่ายก็คงจะให้การปฏิเสธ เพราะเป็นโทษหนัก 9 ข้อหา อย่างไรก็ดีการต่อสู้ในวันนี้ ก็คงจะนัดดูว่ามีพยานหลักฐานอื่นใด จําเลยมีพยานเท่าไร จะนัดสืบพยานกันยังไง กี่วันนัด


 

'เสรีพิศุทธ์' เปรย!! จับมือ 'ป้อม' ได้ แต่ไม่เอา ‘ตู่' พร้อมเผยเตรียมจีบ ‘ชูวิทย์’ เข้าก๊วนร่วมปราบโกง

(18 ก.พ.66) ที่โรงแรมริเวอร์ไซด์ เขตบางพลัด กทม. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงความพร้อมการเลือกตั้งของพรรคเสรีรวมไทยว่า จะพยายามส่งผู้สมัครให้ครบทุกเขต รัฐธรรมนูญฉบับนี้ใช้ไม่ได้มาจากเฒ่าสารพัดพิษ เละเทะมาก ผู้สมัครบางคนตอบรับมาอยู่พรรคเสรีรวมไทยแล้ว แต่เจอพรรคใหญ่แย่งไป ต้องหาใหม่ ผู้สมัครบางคน พรรคเพิ่งได้ตัวมาเมื่อคืนเอง หรือส.ส.บางคนจะย้ายไปพรรคอื่นก็ห้ามไม่ได้ เช่น ส.ส.ลำปาง ตนไปช่วยหาเสียงเต็มที่อยู่เป็นเดือน ยังถูกทรยศหักหลัง ซื้อตัวไป แต่พรรคเสรีรวมไทยไม่มีส.ส.ย้ายมา เพราะไม่มีเงินให้ ถึงมีก็ไม่ให้ อย่าไปเลือกพรรคเหล่านี้ ให้มาเลือกพรรคเสรีรวมไทย 

ส่วนเรื่องการเตรียมตัวแทนพรรคประจำจังหวัดให้ครบตามกฎหมายเลือกตั้งนั้น คาดว่าสิ้นเดือนก.พ.จะเตรียมได้ครบทั้งหมด ส่วนพื้นที่เป้าหมายพรรคเสรีรวมไทยนั้น คือ กทม. และต่างจังหวัดบางพื้นที่ แต่การหาเสียงขณะนี้ กกต.ไม่ทำหน้าที่ บางพรรคเอาคนมาฟังการปราศรัย ไม่รู้มีการจ่ายเงินให้หรือไม่ กกต.ต้องไปตรวจสอบ หลายนโยบายพรรคเสรีรวมไทยก็ถูกลอกไป ทั้งที่คิดมาก่อน แต่พรรคใหญ่เสียงดังกว่า เช่น บำนาญประชาชน เบี้ยเลี้ยงผู้สูงอายุ

เมื่อถามว่า หากหลังเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยจับมือกับพรรคพลังประชารัฐตั้งรัฐบาล พรรคเสรีรวมไทยพร้อมร่วมรัฐบาลด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ตนต่อต้านการรัฐประหาร ซึ่งพล.อ ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เกษียณมาหลายปี ไม่มีปัญญาทำรัฐประหารแน่นอน ต้องให้คนคุมกำลัง มีอาวุธเท่านั้นคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ส่วนพล.อ.ประวิตร และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย แค่มาช่วย

“จุดยืนผมจะต่อต้านเฉพาะตัวหลักการทำรัฐประหาร แต่พล.อ.ประวิตรไม่ใช่ตัวหลัก ถ้าจะร่วมกันทำงานก็ทำได้ แต่ไม่ร่วมกับพล.อ.ประยุทธ์แน่นอน ถ้าเป็นพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคพลังประชารัฐก็ร่วมกันได้” หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top