Friday, 10 May 2024
ข้าราชการ

‘กรมบัญชีกลาง’ แจงไม่มีปรับลดหรือยกเลิกบำเหน็จบำนาญข้าราชการ

นางสาววารี แว่นแก้ว รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามที่มีการแชร์ข้อความในสื่อออนไลน์เกี่ยวกับการยกเลิกบำนาญ การลดเงินบำนาญ การเพิ่มเงินบำนาญ และการรื้อระบบบำนาญ เป็นต้น ซึ่งข้อความดังกล่าวไม่เป็นความจริง ก่อให้เกิดความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องและตื่นตระหนก

“กรมบัญชีกลางในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลเกี่ยวกับเงินบำเหน็จ บำนาญข้าราชการ ขอชี้แจงว่า ปัจจุบันกรมบัญชีกลางยังไม่ได้รับนโยบายให้ลดหรือเพิ่ม รวมทั้งยกเลิกการจ่ายเงินบำนาญให้แก่ข้าราชการบำนาญ อีกทั้ง พระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ได้นิยามคำว่าบำนาญ หมายถึง เงินตอบแทนความชอบที่ได้รับราชการมาซึ่งจ่ายเป็นรายเดือน กล่าวคือ มีเจตนารมณ์ที่จะตอบแทนการเสียสละปฏิบัติงานให้กับประเทศมาด้วยดีเป็นระยะเวลาหนึ่ง ดังนั้น จึงขอเตือนให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง อย่าหลงเชื่อข้อความดังกล่าว ทั้งนี้ ขอให้ติดตามข่าวสารจากช่องทางต่างๆ ของกรมบัญชีกลางเท่านั้น หรือสอบถามได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง 02 270 6400” โฆษกกรมบัญชีกลางกล่าว


ที่มา : https://www.posttoday.com/finance-stock/news/676375

‘ก้าวไกล’ ผิดหวัง!! รัฐโหวตสวนมติ กมธ.เสียงข้างมาก ดับฝัน ขรก. 'ขวางนำเงินสะสม กบข.’ ไปกู้ซื้อบ้าน

‘วรภพ’ นำทีมก้าวไกลแถลงผิดหวังแทนข้าราชการ หลัง ‘รัฐบาล’ โหวตสวนมติกมธ.เสียงข้างมากที่รัฐบาลเป็นเสียงส่วนใหญ่ ไม่ให้ข้าราชการนำเงินสะสมจาก กบข. ออกไปกู้ซื้อบ้านได้ สะท้อน ความไม่เห็นหัวข้าราชการชั้นผู้น้อย ซัด!! หวงกองทุน กบข.ไว้เพื่อใคร?

วรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะนำทีม ส.ส. ก้าวไกล แถลงแสดงความผิดหวัง หลังรัฐบาลโหวตสวนมติเสียงข้างมากของที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ที่มีการพิจารณาให้เพิ่มมาตรา 43/1 โดยสาระสำคัญของมาตราดังกล่าวคือ การให้ข้าราชการที่เป็นสมาชิก กบข. สามารถนำเงินสะสมไปใช้ดาวน์บ้านได้อย่างน้อยร้อยละ 30 

วรภพ กล่าวว่า กฎหมายมาตรานี้ เป็นความหวังของข้าราชการชั้นผู้น้อยจำนวนมากที่มีเงินสะสมในกองทุน และหวังจะได้นำเงินมาดาวน์บ้านเพื่อเป็นทรัพย์สินเป็นของตนเอง แต่ความหวังก็ต้องพังลง เพราะรัฐบาลโหวตสวนเสียง กมธ. และตัดมาตราดังกล่าวออกไปและกลับไปใช้ ร่างพ.ร.บ.ฉบับเดิม ซึ่งการกระทำเช่นนี้ เปรียบเหมือนการตัดสิทธิโอกาสของข้าราชการที่จะมีโอกาสเป็นเจ้าของบ้านที่แท้จริง

ครม. เคาะแก้กฎ ก.พ.เพิ่ม ‘โรคจิต – อารมณ์ผิดปกติ’ ระบุ เป็นลักษณะต้องห้าม ‘รับราชการพลเรือน’

เมื่อ (20 ก.ย. 65) ครม.เห็นชอบแก้กฎ ก.พ. เพิ่ม ‘โรคจิตหรือโรคอารมณ์ผิดปกติ’ เป็นลักษณะต้องห้ามของผู้ที่จะรับราชการพลเรือน 

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยโรค พ.ศ. ….ตามที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) เสนอ ร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยโรคฉบับนี้ เป็นการปรับปรุงกฎ ก.พ. ว่าด้วยโรค พ.ศ. 2553 ที่กำหนดลักษณะต้องห้ามสำหรับผู้ที่จะเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือน ในการแก้ไขครั้งนี้ ได้ยกเลิก “โรควัณโรคในระยะแพร่กระจายเชื้อ” ออกจากลักษณะต้องห้ามของผู้ที่จะเข้ารับราชการพลเรือน เนื่องจากโรควัณโรคมีแนวโน้มลดลง และใช้เวลาในการรักษาประมาณ 2 สัปดาห์ สามารถหายได้ พร้อมกันนี้ ได้เพิ่มโรคจิต (Psychosis) หรือโรคอารมณ์ผิดปกติ (Mood Disorders) ที่มีอาการเด่นชัดรุนแรงหรือเรื้อรัง และเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานในหน้าที่ ที่เป็นลักษณะต้องห้าม 

ส่วนโรคอื่น ๆ ยังคงกำหนดเป็นลักษณะต้องห้ามตามเดิม ได้แก่ 
1. โรคเท้าช้างในระยะที่ปรากฏอาการเป็นที่รังเกียจแก่สังคม 
2. โรคติดยาเสพติดให้โทษ 
3. โรคพิษสุราเรื้อรัง 
และ 4. โรคติดต่อร้ายแรงหรือโรคเรื้อรัง ที่ปรากฏอาการเด่นชัดหรือรุนแรงและเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานในหน้าที่ ทั้งนี้ มีผลนับตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา 


ที่มา : https://tna.mcot.net/politics-1021460 
 

'ก้าวไกล' โว นโยบายก้าวไกลแก้ทุจริต กำจัดปัญหาได้ หลัง ปชช.ร้อง ถูก ขรก.กองทัพ ชิ่งเงินฝากเข้าราชการ

ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ลาดพร้าวก้าวไกล เผยประชาชนร้องเรียน ถูกข้าราชการกองทัพเรือหลอกเอาเงิน อ้างฝากเข้าราชการ ก่อนเบี้ยวเชิดเงินหนี เชื่อ มีหลายคนตกเป็นเหยื่อ พร้อมยกนโยบายก้าวไกลแก้ทุจริต กำจัดปัญหาได้

(9 ม.ค. 66) ธนเดช เพ็งสุข ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ เขตลาดพร้าว-วังทองหลาง พรรคก้าวไกล เปิดเผยกรณีได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อขบวนการฉ้อโกง โดยมีข้าราชการกองทัพเรือที่ใช้ยศ ‘ว่าที่นาวาตรี’ คนหนึ่ง เรียกรับเงินโดยอ้างว่าสามารถฝากให้คนเข้าทำงานหรือสอบเข้าราชการได้ ต่อมาเมื่อไม่สามารถทำตามที่สัญญา ก็ไม่ยอมจ่ายเงินคืน

ธนเดช กล่าวว่า สำหรับรายละเอียดข้อร้องเรียน กรณีแรก เป็นของบุคคลชื่อ ว. (นามสมมุติ) ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2562 ต้องการสมัครเข้าทำงานที่การไฟฟ้านครหลวง ต่อมามีคนชักชวนว่าสามารถช่วยให้เข้าทำงานดังกล่าวได้ ก่อนพาไปรู้จักกับว่าที่นาวาตรีคนนี้ ซึ่งได้ขอเรียกเงินค่าดำเนินการ 230,000 บาท พร้อมกับทำสัญญากู้ยืมเงิน จนผ่านไปหนึ่งเดือน เมื่อคนชื่อ ว. ทวงถามถึงการพาไปสมัครงาน ก็ถูกว่าที่นาวาตรีคนดังกล่าวบ่ายเบี่ยงเลื่อนนัดมาเรื่อย ๆ จนรู้ตัวว่าถูกโกงเงินเข้าแล้ว และได้ติดต่อไปขอเงินคืน แต่ว่าที่นาวาตรีคนดังกล่าวเลื่อนบ่ายเบี่ยง จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้เงินคืนแม้แต่บาทเดียว

ธนเดช กล่าวต่อว่า กรณีที่สอง เป็นของบุคคลชื่อ ท. (นามสมมุติ) ซึ่งได้พาหลานชายไปสมัครสอบเข้านักเรียนจ่าทหารเรือเมื่อปี 2564 ระหว่างที่รอสอบอยู่ ว่าที่นาวาตรีคนเดียวกันได้เข้ามาชักจูงว่ามีเส้นสาย สามารถช่วยให้สอบผ่านการคัดเลือกได้ จึงได้ทำสัญญากู้ยืมเงินพร้อมนำเงินสดจำนวน 500,000 บาทมามอบให้ โดยฝ่ายว่าที่นาวาตรีได้ขอเลขประจำตัวผู้เข้าสอบของหลานชายไป อ้างว่าจะดำเนินการให้ แต่เมื่อผลการสอบออกมา ปรากฏว่าหลานชายไม่ผ่านการสอบรอบแรก จึงได้ติดต่อขอเงินคืนจากว่าที่นาวาตรีคนนั้น แต่ถูกบ่ายเบี่ยงทุกครั้งที่ทวงถามจนถึงทุกวันนี้

‘ครม.’ ไฟเขียว ขึ้นเงินเดือนผู้บริหาร-สมาชิก อบต. ปรับตามรายได้ เริ่มจ่าย 1 ต.ค.66 เป็นต้นไป

(17 มี.ค. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา เห็นชอบหลักการร่างระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินค่าตอบแทนนายกองค์การบริหารส่วนตำบล รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบล

รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบล สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบล และเลขานุการสภาองค์การบริหาร ส่วนตำบล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. โดยให้จ่ายค่าตอบแทนตามบัญชีอัตราค่าตอบแทนใหม่ต้ังแต่ วันที่ 1 ต.ค. 2566 เป็นต้นไป โดยมีการกำหนดช่วงอัตราเงินค่าตอบแทนขึ้นอยู่กับ รายได้ของ อบต. ซึ่งปัจจุบันมี 5,300 แห่ง แบ่งออกเป็น 6 ช่วง ดังนี้

1.) รายได้ไม่เกิน 10 ล้านบาท
อัตราค่าตอบแทนของนายก อบต. รวม 25,800 บาท/เดือน รองนายก อบต. รวม 15,480 บาท/เดือน ประธานสภา อบต. และรองประธานสภา อบต. 10,880 บาท/เดือน สมาชิกสภา เลขานุการนายก อบต. และ เลขานุการสภา อบต. 7,080 บาท/เดือน

2.) รายได้เกิน 10-25 ล้านบาท (3,562 แห่ง)
อัตราค่าตอบแทนของนายก อบต. รวม 35,600 บาท/เดือน รองนายก อบต. รวม 21,180 บาท/เดือน ประธานสภา อบต. 15,180 บาท/เดือนและรองประธานสภา อบต. 12,420 บาท/เดือน สมาชิกสภา เลขานุการนายก อบต. และเลขานุการสภา อบต. 9,660 บาท/เดือน

3.) รายได้เกิน 25-50 ล้านบาท (525 แห่ง)
อัตราค่าตอบแทนของนายก อบต. รวม 40,800 บาท/เดือน รองนายก อบต. รวม 24,840 บาท/เดือน ประธานสภา อบต. 15,840 บาท/เดือน และรองประธานสภา อบต. 12,960 บาท/เดือน สมาชิกสภา เลขานุการนายก อบต. และเลขานุการสภา อบต. 10,080 บาท/เดือน

4.) รายได้เกิน 50-100 ล้านบาท (166 แห่ง)
อัตราค่าตอบแทนของนายก อบต. รวม 46,000 บาท/เดือน รองนายก อบต. รวม 28,500 บาท/เดือน ประธานสภา อบต. 16,500 บาท/เดือน และรองประธานสภา อบต. 13,500 บาท/เดือน สมาชิกสภา เลขานุการนายก อบต. และเลขานุการสภา อบต. 10,500 บาท/เดือน

5.) รายได้เกิน 100-300 ล้านบาท (30 แห่ง)
อัตราค่าตอบแทนของนายก อบต. รวม 63,000 บาท/เดือน รองนายก อบต. รวม 38,220 บาท/เดือน ประธานสภา อบต. 24,720 บาท/เดือนและรองประธานสภา อบต. 20,250 บาท/เดือน สมาชิกสภา เลขานุการนายก อบต. และเลขานุการสภา อบต. 15,750 บาท/เดือน

6.) รายได้เกิน 300 ล้านบาท (8 แห่ง)
อัตราค่าตอบแทนของนายก อบต. รวม 75,530 บาท/เดือน รองนายก อบต. รวม 45,540 บาท/เดือน ประธานสภา อบต. 30,540 บาท/เดือนและรองประธานสภา อบต. 24,990 บาท/เดือน สมาชิกสภา เลขานุการนายก อบต. และเลขานุการสภา อบต. 19,440 บาท/เดือน

'เลขา รมว.กต.' ปลุก ขรก.อย่าเลือกพรรคที่ทุบหม้อข้าว 'ช้างป่วย' ชี้!! 'บำนาญ-สวัสดิการรัฐ' ความเป็นธรรมหลังเกษียณ

(5 เม.ย.66) นายนันทิวัฒน์ สามารถ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความถึงกรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของพรรคก้าวไกล ว่า

ช้างป่วย

ผมเป็นข้าราชการบำนาญคนหนึ่งที่ถูกนักการเมืองไม่ให้ความสำคัญเพราะเป็นช้างที่ใช้งานไม่ได้ และถูกเรียกว่า ช้างป่วย

คนที่มาเป็นข้าราชการ แม้จะได้เงินเดือนน้อยเมื่อเทียบกับเพื่อนที่ทำงานเอกชน แต่เรารู้ดีว่า เมื่อเกษียณจะได้มีเงินบำนาญและสวัสดิการจากรัฐ

‘ภูมิธรรม’ เบรก รบ.รักษาการแต่งตั้ง-โยกย้าย ขรก. ชี้!! ควรรักษามารยาท ปล่อยให้เป็นหน้าที่รัฐบาลชุดใหม่

(11 ส.ค. 66) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร่อนแถลงการณ์ระบุว่า ในห้วงเวลานี้ เป็นระยะเปลี่ยนผ่านที่จะมีรัฐบาลใหม่ซึ่งเป็นตัวแทนประชาชนที่มาจากการเลือกตั้ง จะเข้ามาบริหารประเทศ 

• ข้อเสนอต่อรัฐบาลรักษาการ

รัฐธรรมนูญกำหนดให้รัฐบาลรักษาการมีอำนาจหน้าที่อันจำกัด เช่น ห้ามอนุมัติโครงการที่จะสร้างความผูกพันต่อรัฐบาลชุดต่อไป ห้ามแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ รวมถึง พนักงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ เพื่อรอให้รัฐบาลใหม่ที่มีอำนาจเต็มทั้งจากตัวบทกฎหมาย และอาณัติจากประชาชนเข้ามาบริหารตามแนวนโยบายที่ได้ประกาศไว้กับพี่น้องประชาชน

ดังนั้น รัฐบาลรักษาการควรรักษามารยาทตามธรรมเนียมปฏิบัติ และปฏิบัติตามข้อกำหนดของบทบาทหน้าที่ตามกฎหมาย ด้วยการยุติการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงทุกตำแหน่ง ที่จะมีผลต่อการผลักดันนโยบายของรัฐบาลใหม่

การกล่าวอ้างว่าจะมีข้าราชการระดับสูงเกษียณอายุราชการเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เนื่องจากยังไม่สิ้นปีงบประมาณ และกลไกระบบราชการยังสามารถดำเนินอยู่ได้

รัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะนำนโยบายของรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศตามที่เสนอไว้ต่อพี่น้องประชาชน เพราะถือเป็นสัญญาประชาคมที่จะต้องเข้ามาเร่งดำเนินการทันที ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มต้นเข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน และต้องอาศัยข้าราชการเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายให้ประสบผลสำเร็จ

ทั้งนี้เพราะปัญหาวิกฤตของประเทศมีสาระสำคัญเกี่ยวกับความจำเป็นในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ฟื้นฟูผู้ประกอบการธุรกิจทุกกลุ่ม และฟื้นฟูความกินดี อยู่ดีของพี่น้องประชาชน 

ดังนั้นรัฐบาลใหม่จึงต้องมีกลไกที่สามารถขจัดอุปสรรค และเร่งทำตามนโยบายให้ลุล่วงโดยเร็วอย่างมีประสิทธิภาพ นั่นหมายถึงการมีข้าราชการอย่างเช่นระดับปลัดกระทรวงทุกกระทรวง ที่สามารถปฏิบัติงานในการตอบสนองการบริหารงานของรัฐบาลใหม่ เพื่อร่วมสร้างผลสำเร็จต่อทุกนโยบายของรัฐบาลใหมให้สามารถแก้วิกฤตของประเทศและประชาชนได้

สิ่งที่เรานำเสนอ ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ และความชอบธรรมของรัฐบาลใหม่ในการเข้ามาบริหารประเทศ และเป็นสิ่งที่รัฐบาลรักษาการไม่ควรกระทำอย่างยิ่งในช่วงรอยต่อที่รัฐบาลที่มีอำนาจเต็มจะเข้ามาบริหารประเทศ เพราะนอกจากจะผิดรัฐธรรมนูญแล้ว ยังผิดต่อธรรมเนียมปฏิบัติ และมารยาททางการเมืองที่สำคัญยิ่ง

• ความคิดเห็นต่อการปฏิบัติหน้าที่ของปลัดกระทรวง ทุกกระทรวง

เนื่องจากท่านเป็นกลไกสำคัญในการตอบสนองการทำงานตามนโยบายของรัฐบาลใหม่ที่ได้รับความเห็นชอบจากสภา เพื่อให้การทำงานของรัฐบาลที่กำลังจะเข้ามาบริหารประเทศ สามารถบรรลุผลอย่างรวดเร็ว จึงจำเป็นที่ท่านควรจะต้องชะลอการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ระดับสำคัญ โดยรอรับนโยบายจากรัฐบาลใหม่ เพื่อให้การทำงานร่วมกันกับรัฐบาลใหม่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริงและสามารถแก้วิกฤตของประเทศ ให้หลุดพ้นจากปัญหาต่าง ๆ ที่สั่งสมกันมาโดยเร็ว

โดยหวังว่าท่านจะร่วมกับรัฐบาลใหม่ขับเคลื่อนนโยบายเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนได้อย่างราบรื่น มาร่วมกันสร้างประเทศไทย ให้ดีขึ้นกว่าเดิม 

‘บิ๊กตู่’ ขอบคุณข้าราชการทุกคน อวยพรขอให้สุขภาพแข็งแรง-มีความสุข

(24 ส.ค. 66) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยเวลา 09.40 น. ข้าราชการสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จำนวน 12 คน ที่จะเกษียณอายุในเดือน ก.ย.นี้ ได้ขอเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ บนตึกไทยคู่ฟ้า เพื่ออำลาก่อนเกษียณอายุ และก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะครบวาระนายกฯ

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้มอบเหรียญหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ไอ้ไข่สิทธิ์หลวงพ่อทวด รุ่นเจริญก้าวหน้า มหาเศรษฐี ให้เป็นที่ระลึก

โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับข้าราชการว่า “ขอบคุณข้าราชการทุกคนมากๆ ที่สนับสนุนการทำงานของนายกฯ มาเป็นอย่างดี ขอให้ทุกคนมีความสุข สุขภาพแข็งแรง และหลังจากเกษียณไปแล้วแนะนำให้หากิจกรรมทำหลังเกษียณ ดำรงชีวิตหลังเกษียณอย่างมีความสุข” จากนั้น บรรดาข้าราชการก็ได้ร่วมถ่ายภาพกับ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นที่ระลึกอีกด้วย

ครม.ไฟเขียว เปลี่ยนระบบจ่ายเงินเดือนข้าราชการ ออกเดือนละ 2 รอบ ลดพฤติกรรมกู้หนี้ยืมสิน

(13 ก.ย. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า “เรื่องที่ 7 เป็นเรื่องที่เราไม่เคยพูดคุยกัน ผมไม่ได้มีการแย้มถึงเรื่องนี้เลย แต่ผมตระหนักดีว่าเรื่องกระแสเงินสดของทุกคนในกระเป๋าเป็นเรื่องสำคัญ เราจึงดำริให้เปลี่ยนการจ่ายเงินข้าราชการจากเดือนละ 1 รอบเป็นเดือนละ 2 รอบ”

“โดยรายละเอียดจะแจ้งให้ทราบอีกทีหนึ่ง และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 ม.ค.ปีหน้าเป็นต้นไป ซึ่งต้องมีการแก้ไขระบบอะไรหลายๆ อย่าง จึงทำเลยไม่ได้ ผมเชื่อว่าเรื่องนี้จะเป็นการบรรเทาทุกข์ให้กับข้าราชการชั้นผู้น้อยได้เยอะพอสมควร ถ้ามีการจ่ายเงิน 2 รอบจะได้ไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน ไม่ต้องคอยให้ถึงสิ้นเดือนก็จะมีเงินแบ่งจ่ายออกมา” นายเศรษฐา กล่าวทิ้งท้าย

📢 ไขข้อสงสัย!! สรุปเงื่อนไข การจ่ายเงินเดือน 2 รอบ ของข้าราชการและลูกจ้างประจำ 💵👩🏻‍🏫👮🏻‍♂️

📢 ไขข้อสงสัย!! สรุปเงื่อนไข การจ่ายเงินเดือน 2 รอบ ของข้าราชการและลูกจ้างประจำ 💵👩🏻‍🏫👮🏻‍♂️👷🏻‍♂️ มีแนวทางและขั้นตอนอย่างไรบ้าง ไปดูกัน!!


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top