‘ก้าวไกล’ ผิดหวัง!! รัฐโหวตสวนมติ กมธ.เสียงข้างมาก ดับฝัน ขรก. 'ขวางนำเงินสะสม กบข.’ ไปกู้ซื้อบ้าน

‘วรภพ’ นำทีมก้าวไกลแถลงผิดหวังแทนข้าราชการ หลัง ‘รัฐบาล’ โหวตสวนมติกมธ.เสียงข้างมากที่รัฐบาลเป็นเสียงส่วนใหญ่ ไม่ให้ข้าราชการนำเงินสะสมจาก กบข. ออกไปกู้ซื้อบ้านได้ สะท้อน ความไม่เห็นหัวข้าราชการชั้นผู้น้อย ซัด!! หวงกองทุน กบข.ไว้เพื่อใคร?

วรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะนำทีม ส.ส. ก้าวไกล แถลงแสดงความผิดหวัง หลังรัฐบาลโหวตสวนมติเสียงข้างมากของที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ที่มีการพิจารณาให้เพิ่มมาตรา 43/1 โดยสาระสำคัญของมาตราดังกล่าวคือ การให้ข้าราชการที่เป็นสมาชิก กบข. สามารถนำเงินสะสมไปใช้ดาวน์บ้านได้อย่างน้อยร้อยละ 30 

วรภพ กล่าวว่า กฎหมายมาตรานี้ เป็นความหวังของข้าราชการชั้นผู้น้อยจำนวนมากที่มีเงินสะสมในกองทุน และหวังจะได้นำเงินมาดาวน์บ้านเพื่อเป็นทรัพย์สินเป็นของตนเอง แต่ความหวังก็ต้องพังลง เพราะรัฐบาลโหวตสวนเสียง กมธ. และตัดมาตราดังกล่าวออกไปและกลับไปใช้ ร่างพ.ร.บ.ฉบับเดิม ซึ่งการกระทำเช่นนี้ เปรียบเหมือนการตัดสิทธิโอกาสของข้าราชการที่จะมีโอกาสเป็นเจ้าของบ้านที่แท้จริง

"กว่าข้าราชการชั้นผู้น้อยจะมีเงินเก็บสำหรับดาวน์บ้านของตนเองเป็นไปได้ยากลำบากมาก ถ้ามาตรานี้ไม่ถูกตัดออก ก็จะเป็นความหวังในการสร้างเนื้อสร้างตัวของข้าราชการกลุ่มนี้ ในฐานะที่ผมเป็นผู้แปรญัตติ ส่วนตัวผมต้องการให้ข้าราชการนำเงิน กบข.ออกมาดาวน์บ้านได้ 100 เปอร์เซ็นด้วยซ้ำ เพราะมันเป็นโอกาสสำคัญ ขอให้นึกภาพข้าราชการชั้นผู้น้อย วัย 30 กว่า ทำงานมา 10 กว่าปี ก็ควรสามารถดาวน์บ้านของตนเองได้ เพราะการเป็นเจ้าของบ้านของตนเองคือความมั่นคงและความภาคภูมิใจ อีกทั้งยังเป็นการลงทุนเพื่อรองรับในวัยเกษียณของตัวเองด้วย” วรภพ อธิบาย 

“การมีมติตัดเอามาตรา 43/1 ออกไปจาก ร่างพ.ร.บ.กองทุน กบข. ทำให้พรรคก้าวไกล มีคำถามต่อท่าทีของรัฐบาลว่าเป็นการตัดสินใจที่ตั้งอยู่บนฐานใด บนฐานผลประโยชน์ของข้าราชการหรือผลประโยชน์ของกองทุน กบข. กันแน่ จึงได้โหวตสวนเสียงข้างมากและตัดมาตรา 43/1 ออกไป ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า รัฐบาลไม่ได้มีความต้องการที่แท้จริงในการพิทักษ์ผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน สังเกตว่าหากกฎหมายใดไม่มีพี่น้องประชาชนกดดัน กฎหมายนั้นก็มักจะไม่ผ่าน จึงวอนสื่อมวลชนและข้าราชการที่ได้รับผลกระทบมาช่วยกันตรวจสอบท่าทีดังกล่าวของรัฐบาลด้วย”