Friday, 16 May 2025
World

‘ฟินแลนด์’ ยืนหนึ่งมีความสุขที่สุดในโลก 6 ปีติด ขณะที่ ‘ประเทศไทย’ รั้งอันดับที่ 60

ฟินแลนด์ ยังคงเป็นประเทศที่มีความสุขมากที่สุดในโลกเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน ขณะที่อัฟกานิสถาน และเลบานอน เป็นประเทศที่มีความสุขน้อยที่สุด ส่วนประเทศไทย รั้งอันดับที่ 60

รายงานความสุขโลกประจำปี 2023 ที่เผยแพร่เนื่องในวันความสุขสากล วันที่ 20 มี.ค. ตามประกาศของสหประชาชาติ มาตั้งแต่ปี 2012 ระบุว่า ฟินแลนด์ยังครองอันดับ 1 ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 6 รองลงมา คือ เดนมาร์ก ไอซ์แลนด์ อิสราเอล เนเธอร์แลนด์ สวีเดน นอร์เวย์ สวิตเซอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก และนิวซีแลนด์ โดยประชากรราว 5.5 ล้านคน ในฟินแลนด์ ถือได้ว่ามีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกด้าน ทั้งความเป็นอยู่ การศึกษา ความปลอดภัย และสวัสดิการด้านต่างๆ มีอัตราคดีอาชญากรรม ความไม่เท่าเทียม และความยากจน ต่ำที่สุดในโลก

รายงานความสุขโลกซึ่งจัดทำโดยเครือข่ายวิชาการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Solutions Network-SDSN) เป็นการจัดอันดับความสุขในกว่า 150 ประเทศ อาศัยข้อมูลผลสำรวจของแกลลัป เวิลด์ โพลล์ ที่ให้ประชาชนประเมินความรู้สึกเกี่ยวกับชีวิตของตัวเอง วัดด้วยปัจจัยสำคัญ 6 ข้อ ได้แก่ การสนับสนุนทางสังคม รายได้ สุขภาพ เสรีภาพ ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และการปราศจากการทุจริตคอร์รัปชัน

‘สี จิ้นผิง’ เดินทางถึง ‘มอสโก’ แล้ว ‘จนท.ระดับสูงรัสเซีย’ ให้การต้อนรับอบอุ่น

(21 มี.ค.66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ‘สีจิ้นผิง’ ประธานาธิบดีจีน เดินทางถึงกรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย ในช่วงบ่ายวันจันทร์ (20 มี.ค.) ที่ผ่านมา เพื่อเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการ หลังมีคำเชิญจากวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย

เครื่องบินของสีจิ้นผิงลงจอดที่ท่าอากาศยานนูโคโวเมื่อราว 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยเมื่อก้าวออกจากเครื่องบิน สีจิ้นผิงได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากรองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ดมิตรี เชอร์นีเชนโก และเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่น ๆ ของรัสเซีย ณ ลานจอดเครื่องบิน

Amazon เตรียมปลดพนักงานอีก 9 พันคน ท่ามกลางความกังวลเศรษฐกิจถดถอย

Amazon ประกาศเลิกจ้างงานรอบสองอีก 9,000 คน รวม 2 รอบ ยอดรวมเป็น 27,000 คน

บริษัท Amazon Inc แถลงเมื่อวันจันทร์ (20 มีนาคม) ว่า จะเลิกจ้างงาน 9,000 ตำแหน่ง ซึ่งทำให้เป็นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่รายล่าสุดที่ประกาศเลิกจ้างรอบสอง ท่ามกลางความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย 

บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่หลายแห่ง ซึ่งรวมทั้ง Microsoft Corp, Salesforce Inc และ Alphabet and Meta Platforms ต่างปรับลดตำแหน่งงานหลายพันในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ หลังมีการจ้างงานมากเกินไป ส่วน Amazon ตามรอย Meta บริษัทแม่ของ Facebook กลายเป็นบริษัทที่ประกาศลดพนักงานรอบสอง โดยก่อนหน้านี้ได้ปลดไปแล้ว 18,000 คน เมื่อเดือนมกราคม 2566 ที่ผ่านมา

แอนดี แจสซี กรรมการบริหาร หรือซีอีโอ ของ Amazon กล่าวว่า ทางบริษัทได้เพิ่มพนักงานจำนวนมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่สภาพเศรษฐกิจผันผวนไร้ความแน่นอน ทำให้บริษัทต้องเลือกลดต้นทุนและลดพนักงานลง โดยการลดพนักงานมุ่งเน้นไปในส่วนของการบริการคลาวด์ โฆษณาและทวิตช์

'สาวเกาหลีใต้' แอบปลอมใบเกิดเพื่อเข้าโรงเรียนมัธยม โหยหาชีวิตในรั้ว หลังชีวิตนอกรั้วไม่รื่นรมย์อย่างที่ฝัน

โลกโซเชียลสหรัฐฯ ฮือฮา เมื่อพบสาวใหญ่วัย 29 ปีสัญชาติเกาหลีใต้ ปลอมตัวเป็นเด็กสาววัยรุ่น เพื่อสมัครเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในรัฐนิว เจอร์ซีย์ แถมยังได้นั่งเรียนในชั้นเรียนจริง แลกเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์กับเพื่อนร่วมชั้น และยังได้นัดคุยกับอาจารย์แนะแนว ปรึกษาปัญหาชีวิตกันนานเกือบสัปดาห์กว่าทางโรงเรียนจะจับได้ว่าเธอใช้ใบเกิดปลอมเพื่อสมัครเข้ามาเป็นนักเรียนมัธยม

ชิน ฮเย-จอง สาวชาวเกาหลีใต้ สาวใหญ่ หัวใจมัธยม ปัจจุบันยังถือสัญชาติเกาหลีใต้ แต่ย้ายมาเรียนต่อในสหรัฐอเมริกาด้วยตัวคนเดียวตั้งแต่อายุเพียง 16 ปี โดยเธอเคยเข้าโรงเรียนประจำแห่งหนึ่งในรัฐนิว เจอร์ซีย์ ก่อนที่จะเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยที่ Rutgers University จนจบการศึกษา 

แต่ชีวิตนอกรั้วสถาบันการศึกษาไม่ได้รื่นรมย์ดังที่ฝัน ชิน ฮเย-จอง พบกับความผิดหวัง จบชีวิตคู่ด้วยการหย่าร้าง ต้องอยู่อย่างเงียบเหงาห่างไกลครอบครัวที่บ้านเกิด ทำให้เธอโหยหาชีวิตที่เคยสนุกสนานกับเพื่อนๆ ในรั้วโรงเรียน และต้องการที่จะกลับไปใช้ชีวิตแบบนั้นอีกสักครั้ง เธอจึงตัดสินใจปลอมใบเกิด และสมัครเข้าเรียนระดับมัธยมศึกษาใหม่อีกครั้ง ในสถานะเด็กวัยรุ่น อายุ 16 ปี 

และสามารถสมัครเข้าเรียนได้ที่ New Brunswick High School ได้จริงๆ เธอตอบรับเข้าเรียน แต่งตัวมาโรงเรียน เข้าชั้นเรียน นัดพบอาจารย์แนะแนว แลกเบอร์โทรกับเพื่อนใหม่ๆ ในชั้น และกำลังจะมีนัดสังสรรค์นอกเวลาเรียนกับเพื่อนในห้องด้วย 

‘เมืองเกซอนซิตี’ เปิดให้บริการรับวัคซีน ‘ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า’ ฟรี เนื่องในเดือนแห่งความตระหนักต่อโรคพิษสุนัขบ้าระดับชาติ

(21 มี.ค. 66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า บรรยากาศเจ้าของสัตว์เลี้ยงนำสุนัขและแมวจำนวนมากไปรับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ในเมืองเกซอนซิตีของฟิลิปปินส์ เมื่อวันจันทร์ (20 มี.ค.) ที่ผ่านมา
.
นอกจากนั้นยังมีการให้บริการเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย อาทิ การรักษาถ่ายพยาธิ และการฝังไมโครชิป โดยทางเมืองได้ทุ่มเทความพยายามเพื่อปรับปรุงสุขภาพและการจัดการสัตว์เลี้ยง เนื่องในโอกาสเดือนแห่งความตระหนักต่อโรคพิษสุนัขบ้าระดับชาติในฟิลิปปินส์

'อเมริกา’ กระอัก!! คนเดินเหมือนศพ เหตุพี้ยาเสพติดหนัก หลังโควิด 'เครียด-ตกงาน-เงินเฟ้อพุ่ง' ซ้ำเติมชีวิตตกต่ำ

กลายเป็นเรื่องระทึกในสหรัฐอเมริกาไปแล้ว หลังประชาชนในหลายพื้นที่ทั่วสหรัฐฯ เริ่มกลายร่างเป็นฝูงซอมบี้

เรื่องนี้ไม่ใช่แผ่นโปรโมตหนังไซไฟสไตล์ Resident Evil หากแต่เป็นเรื่องจริง โดย นายไวชญาณ์ ศิริบูลย์ ที่ปรึกษาด้านการเงินและธุรกิจ ได้เล่าพร้อมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศมหาอำนาจของโลกไว้ว่า...

'คุกนรกกวนตานาโม' สิทธิมนุษยชนที่โลกเลือกลืม ฉาก 'ทรมาน-ย่ำยี' ผู้ก่อการร้าย ที่ 'กัน' ยัดเยียดให้

อเมริกาชอบอ้างเรื่องสิทธิมนุษยชนจนน้ำลายฟูมปากอยู่บ่อยๆ แถมยังสร้างภาพให้ชาวโลกเข้าใจว่าประเทศนี้พิทักษ์หลักสิทธิมนุษยชนสุดชีวิต เลยมักเต้นแท็ปไปรอบโลก โบกธงสิทธิมนุษยชนอยู่ไปมา พลางชี้นิ้วกล่าวหาชาวโลก ซึ่งส่วนมากเป็นประเทศโลกที่ 3 ว่า 'ละเมิดสิทธิมนุษยชน'

จากนั้นก็หาเหตุในการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและแซงซั่นด้วยมาตรการต่างๆ นานา โดยยืมมือสหประชาชาติหรือ 'อียู' จัดการ แต่คงลืมไปแล้วว่า ไอ้คุกนรก 'กวนตานาโม' ของตนนั้น แสนเลวทรามต่ำช้าขนาดไหน?

ย้อนหลังไปถึงปี ค.ศ.1903 ตั้งแต่ยุคประธานาธิบดี ธีโอดอร์ รูสเวสต์ ทำสัญญาเช่าพื้นที่อ่าวกวนตานาโมจากรัฐบาลคิวบา ช่วงแรกเอาไว้ใช้เป็นท่าเติมเชื้อเพลิงเฉยๆ ต่อมาขยายสัญญาด้วยการระบุว่า “สัญญาเช่านี้จะสิ้นสุดด้วยการยินยอมจากทั้งสองฝ่ายหรือเมื่อลุงแซมละทิ้งอ่าวนี้ไปเอง” นั่นหมายถึงอเมริกายังคงมีกรรมสิทธิ์เหนือกวนตานาโมไปชั่วฟ้าดินสลายตราบที่ต้องการ  

หลังเกิดเหตุ 9/11 ในนิวยอร์ก ที่นี่กลายเป็นคุกขังนักโทษหลายร้อยคนจาก 35 ประเทศที่อเมริกากล่าวหาว่า 'ก่อการร้าย' 

ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไม ถึงเอานักโทษก่อการร้าย ซึ่งส่วนมากเป็นมุสลิมมาไว้ที่นี่ เพราะคุกแห่งนี้ไม่ไกลจากอเมริกา นั่งเรือแค่สองชั่วโมงจากเมืองแจ็กสันวิลล์ รัฐฟลอริดาก็ถึงแล้ว     

แต่ที่สำคัญ คือ กวนตานาโม ไม่ใช่แผ่นดินอเมริกา!!

ดังนั้นอเมริกาจะทำทารุณกรรมอย่างไรก็ได้กับนักโทษ แถมอ้างได้ว่าการดำเนินการใดๆ ภายในคุก ไม่สามารถฟ้องร้องในศาล โดยอ้างอิงจากคำพิพากษาของศาลสูงสุดของสหรัฐฯ เมื่อปี ค.ศ. 1950 ซึ่งระบุว่า...

"ศัตรูต่างด้าวซึ่งไม่มีถิ่นพำนักในสหรัฐฯ ไม่สามารถจะเรียกร้องให้ศาลของเราพิจารณาคดีให้ในช่วงสงครามได้"

หลังเหตุการณ์ 9/11 ผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายชุดแรกจำนวน 20 คนถูกพาข้ามน้ำข้ามทะเลมาขังที่นี่ ทุกคนถูกซ้อม สวมกุญแจมือ และคลุมศีรษะปิดหน้าตาอยู่ในกรงขังแคบๆ เหมือนกรงหมา

การละเมิดสิทธิมนุษยชนของนักโทษเหล่านั้นดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและปิดเงียบ เพราะผู้คุมสามารถทำอะไรกับนักโทษได้ตามใจชอบ เจ้าหน้าที่อเมริกาบนฐานทัพกวนตานาโม่ออกแบบนโยบายจัดการกับนักโทษตามอำเภอใจ การสอบปากคำรวมถึงการทรมานอย่างวิปริตคือเรื่องปกติของที่นี่ พวกผู้คุมสามารถทรมานนักโทษด้วยวิธีโหดร้ายอย่างไรก็ได้

การทรมานอย่างหนึ่งที่นักโทษทุกคนต้องเจอ คือการเทน้ำใส่ใบหน้าของผู้ต้องขังที่เรียกว่า Waterboarding หรือ การทำให้สำลักน้ำ 

นอกจากนี้ยังถูกซ้อมและถูกย่ำยีทางศาสนา มีรายงานข่าวแฉออกมาเรื่อยๆ ว่า นักโทษเหล่านี้ถูกทารุณอย่างโหดร้าย หลายคนทนไม่ไหวจนต้องฆ่าตัวตายไป

ในเดือนมิถุนายน ปี ค.ศ. 2006 นักโทษในคุกกวนตานาโม 3 รายเสียชีวิตอยู่ในห้องขัง สภาพศพถูกรัดคอ   แม้ว่ากระทรวงกลาโหมจะชี้แจงว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่หน่วยสืบสวนอาชญากรรมกองทัพเรือพบหลักฐานที่บ่งบอกว่านักโทษไม่ได้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย เพราะนักโทษทั้งหมดถูกมัดมือไพล่หลัง หากแต่การเสียชีวิตมาจากการสอบสวนที่รุนแรง รวมถึงการซ้อมอย่างหนักจนขาดอากาศจนสิ้นใจในที่สุด

‘สี จิ้นผิง’ เผยพร้อมขยายความร่วมมือกับ ‘รัสเซีย’ มุ่งผลักดันให้บรรลุเป้าหมายแบบรอบด้าน

(22 มี.ค.66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า... เมื่อวันอังคาร (21 มี.ค.) สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กล่าวว่าจีนพร้อมขยายความร่วมมือกับรัสเซียในด้านการค้า การลงทุน ห่วงโซ่อุปทาน โครงการขนาดใหญ่ พลังงาน และเทคโนโลยีระดับสูง

'สี จิ้นผิง' กล่าวถึงประเด็นข้างต้นขณะพบปะกับมิคาอิล มิชูสติน นายกรัฐมนตรีรัสเซีย

'สี จิ้นผิง' กล่าวว่าจีนและรัสเซียเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ใหญ่ที่สุดของกันและกันและหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านแห่งความร่วมมือ พร้อมกล่าวว่าการรักษาการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-รัสเซียที่แข็งแรงและมั่นคงนั้น สอดคล้องกับตรรกะทางประวัติศาสตร์ของความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศและผลประโยชน์ขั้นพื้นฐานของประชาชนทั้งสองประเทศ

ธนาคารกลางยุโรป ส่งสัญญาณ ดัน 'สกุลเงินดิจิทัลแบงก์' เชื่อมต่อ 'แอปฯ ชำระเงิน-บัตร' ไม่ยึดติดเฉพาะของยุโรป

ในขณะที่ทั่วโลกมีวิกฤต Bank Run อยู่นี้ ล่าสุดก็มีความคืบหน้าสำคัญเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (Central Bank Digital Currency : CBDC) ออกมาแล้ว

โดยไม่นานมานี้ World Maker ได้เปิดเผยว่า ทางธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB (European Central Bank) ประกาศถึง Digital Euro ที่จะมีบทบาทสำคัญในการชำระเงินอย่างอิสระในอนาคต พร้อมเผยอีกว่าการเชื่อมต่อจะเป็นในรูปแบบกว้าง แอปฯ ชำระเงินและบัตรไม่จำเป็นต้องเป็นของยุโรปด้วยซ้ำ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าระบบการเงินทั่วโลกน่าจะมีการเชื่อมต่อกันเกือบทั่วทั้งระบบ

นอกจากนี้ มีการเปิดเผยอีกว่าจะเริ่มเสนอกรอบกฎหมายสำหรับ Digital Euro ภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้  ขณะที่การตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าจะมีการดำเนินการต่อหรือไม่จะมีขึ้นในภายหลัง แต่มาถึงขนาดนี้แล้วหลายคนก็คิดว่าจะต้องมีการออก CBDC มาในที่สุดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเทคโนโลยีพื้นฐานที่รองรับระบบการเงินโลกกำลังเปลี่ยนไปสู่ระบบ Blockchain Base ที่ประมวลผลได้ดีกว่าระบบเดิมหลายเท่า

📌 Christine Lagarde ประธานของ ECB กล่าวว่าแนวโน้มหลักคือการใช้เงินสดน้อยลงในระบบ และเปลี่ยนไปสู่การชำระเงินผ่านระบบดิจิทัลมากขึ้นอีก ซึ่งภาพในปัจจุบันเราก็ได้เห็นแนวโน้มนี้กันแล้ว เพราะแม้แต่คนไทยจำนวนมากก็หันมาใช้จ่ายผ่านการโอนหรือแสกน QR Code แทนการกดเงินสด เนื่องจากมีความสะดวกรวดเร็วมากกว่า และไม่จำเป็นต้องพกเงินไว้ในกระเป๋าจำนวนมาก ๆ อีกด้วย !

“มีจุดมุ่งหมายให้ปลอดภัย มีไว้เพื่ออำนาจอธิปไตย และตั้งใจให้พร้อมใช้งานสำหรับทุกคน ทุกที่ ทุกเวลา และในราคาที่ถูกที่สุดที่เป็นไปได้ อาจไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับฟังก์ชันพื้นฐานที่สุด” Lagarde กล่าวเสริมเกี่ยวกับ Digital Euro

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เราต้องยอมรับคือการเปลี่ยนไปสู่ Digital Euro จะทำให้หน่วยงานกำกับดูแลสามารถตรวจสอบหรือสอดส่องข้อมูลสำคัญได้ง่ายกว่าเดิมด้วย นั่นหมายความว่าความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานจะลดลงเมื่อเทียบกับระบบธนบัตรสมัยก่อน

แต่คนส่วนใหญ่ ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวเรื่องเหล่านี้ เพราะถ้าเราทำอาชีพสุจริตถูกกฎหมาย ไม่ได้ทำธุรกิจดำมืดหรือสีเทา และมีการเสียภาษีถูกต้อง เราก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรเลย ส่วนคนที่ประท้วงถึงประเด็นนี้ส่วนใหญ่ ก็น่าตั้งคำถามว่าพวกเขามีอะไรปิดบังอยู่หรือไม่ หรือว่าได้เงินมาอย่างผิดกฎหมาย ?

‘ญี่ปุ่น’ พิชิตแชมป์ ‘เวิลด์ เบสบอล คลาสสิค 2023’ โค่น ‘สหรัฐฯ’ คว้าถ้วยใบที่ 3 กลับบ้านในรอบ 14 ปี

ทีมเบสบอลของญี่ปุ่นพิชิต สหรัฐฯ ในรอบชิงดำของศึก เวิลด์ เบสบอล คลาสสิค 2023 ทำให้พวกเขาได้แชมป์โลกไปเชยชมเป็นสมัยที่ 3

ทีมเบสบอลชายทีมชาติญี่ปุ่นคว้าแชมป์ เวิลด์ เบสบอล คลาสสิค ประจำปี 2023 ไปครองอย่างยิ่งใหญ่ หลังจากเอาชนะ สหรัฐอเมริกา ในรอบชิงชนะเลิศ 3-2 ที่สนาม โลนเดพ็อต พาร์ค ในเมืองไมอามี่ รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันอังคารที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา

ญี่ปุ่น ทำผลงานได้ดีมาตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มด้วยการชนะครบทั้ง 4 นัดจนทำให้ได้เข้าสู่รอบน็อกเอาต์ โดยในรอบก่อนรองชนะเลิศนั้นพวกเขาผ่าน อิตาลี มาได้ ด้วยสกอร์ 9-3 แล้วจากนั้นก็เฉือนชนะ เม็กซิโก 6-5 ในรอบรองชนะเลิศ ก่อนจะมาพิชิต สหรัฐฯ ในรอบชิงดำ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top