Monday, 19 May 2025
World

‘จีน’ ออกกฎใหม่!! ตัดอินเทอร์เน็ตเยาวชนช่วงกลางคืน หวังลดการเสพติดหน้าจอ - เข้าถึงข้อมูลไร้ประโยชน์

เมื่อไม่นานมานี้ ผู้ใช้งานบล็อกดิสชื่อ ‘Blockพูดได้byข้าวน้อยฯ’ ได้โพสต์บทความเกี่ยวกับมาตการของรัฐบาลจีนที่ใช้ดูแลเด็กและเยาวชนภายในประเทศ โดยระบุว่า…

เป็นที่ทราบกันดีว่า สองสามปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับปัญหาการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่มีประโยชน์ในอินเทอร์เน็ตของเด็กและวัยรุ่นเป็นอย่างมาก

มีการปราบปรามผู้ผลิตสื่อบันเทิงทางอินเทอร์เน็ต ที่รัฐบาลจีนมองว่าส่งเสริมทัศนคติที่ผิดสำหรับเด็กและเยาวชน รวมทั้งมีการออกกฎหมายจำกัดเวลาเล่นเกมออนไลน์ของเด็กและวัยรุ่นจีนลงเหลือเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงต่อสัปดาห์

เกมออนไลน์ใหม่ ๆ ในจีน ก็ถูกชะลอการพิจารณาจากทางการ จนทำให้ราคาหุ้นของบริษัทเทคโนโลยีที่เกี่ยงข้องกับวงการเกมตกลงไปตาม ๆ กัน

ไม่เพียงเท่านั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม รัฐบาลจีนเพิ่งประกาศกฎใหม่ ที่ถูกผลักดันโดย Cyberspace Administration of China ให้มีการบังคับเกี่ยวกับเวลาการใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือของเด็กและวัยรุ่นจีน

โดยกฎที่ออกมามีเนื้อหาโดยสรุปคร่าว ๆ ได้ว่า...รัฐบาลจะทำการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตบนมือถือของเด็กและวัยรุ่นจีนที่มีอายุตั้งแต่ 6-18 ปี ในช่วงเวลาตั้งแต่ 22.00 น. ถึง 6.00 น. ของทุกคืน ซึ่งการบังคับใช้ในแต่ละช่วงอายุ จะมีจำนวนชั่วโมงการตัดเน็ตมือถือที่ไม่เท่ากัน เช่น เด็กอายุต่ำกว่า 8 ขวบ จะถูกตัดเน็ตมือถือ 40 นาที ต่อคืน ส่วนเด็กที่มีอายุระหว่าง 16 - 17 ปี จะถูกตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตบนมือถือนานถึง 2 ชั่วโมงต่อคืน...

กฎการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตสำหรับเด็กและเยาวชน ที่ทางการจีนได้ประกาศออกมาในครั้งนี้ ถือว่าเป็นกฎการควบคุมการใช้อินเทอร์เน็ตที่อาจกล่าวได้ว่า เข้มงวดที่สุดในโลกเลยทีเดียว

แจ็กพอต ‘เมกะ มิลเลียนส์’ แตก!! กว่า 5.52 หมื่นล้านบาท ผู้ซื้อรางวัลจากรัฐฟลอริดาดวงเฮง รับทรัพย์ก้อนโตไปครอง

(9 ส.ค. 66) สำนักข่าวรอยเตอร์และเอพี รายงานว่า รางวัลแจ็กพอตใหญ่ ของ ‘เมกะ มิลเลียนส์’ มูลค่า 1,580 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 5.52 หมื่นล้านบาท มีผู้ถูกรางวัลดังกล่าวแล้ว เป็นผู้ที่ซื้อลอตเตอรี่ดังกล่าวที่รัฐฟลอริดา ตัวเลขที่ออกคือ 13, 19, 20, 32, 33 และเลขเมก้า คือ 14 ถือเป็นการสิ้นสุดการรอคอยผู้ถูกรางวัล หลังจากออกรางวัลยืดเยื้อมานานเกือบ 4 เดือนโดยไม่มีผู้ถูกรางวัลเลย

สำหรับผู้ถูกรางวัล สามารถเลือกรับเงินเป็นรายปี รวมมูลค่า 1,580 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นระยะเวลากว่า 30 ปี หรือจะเลือกรับเงินก้อนทีเดียว เป็นเงิน 783.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 2.7 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ รางวัลแจ็กพอตครั้งนี้ ถือเป็นรางวัลแจ็กพอตที่มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา โดยรางวัลแจ็กพอตของเมกะ มิลเลียนส์ครั้งล่าสุด แตกไปเมื่อเดือนเมษายน ที่นิวยอร์ก มูลค่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

‘วัยรุ่นเกาหลีใต้’ ลั่นเป็นเสียงเดียวกัน “อยากย้ายไปอยู่ประเทศอื่น” ส่วนข้อดีที่ทำให้คนต่างชาติอยากมาอยู่ที่นี่ เพราะ ‘กระแสของเกาหลี’

เมื่อไม่นานนี้ได้มีผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่ง ชื่อ ‘amiskarn’ โพสต์คลิปวิดีโอของช่องยูทูบเบอร์ชาวเกาหลีใต้ท่านหนึ่ง โดยเนื้อหาในคลิปเป็นการสัมภาษณ์วัยรุ่นชาวเกาหลีใต้ และเผยให้เห็นถึงมุมมอง รวมถึงทัศนคติที่คนรุ่นใหม่มีต่อประเทศเกาหลีใต้ อันเป็นบ้านเกิดของตน

โดยในคลิป พิธีกรได้ถามกับวัยรุ่นชาวเกาหลีใต้ 2 คนว่า คุณคิดว่าคนวัยรุ่นหนุ่มสาวชาวเกาหลีใต้ชอบการใช้ชีวิตที่เกาหลีกันไหม? 

เด็กวัยรุ่นทั้ง 2 คนตอบว่า “ไม่ค่ะ ฉันคิดว่าไม่ชอบนะคะ”

เมื่อพิธีกรถามว่า ทำไม? พวกเธอตอบว่า “อย่างแรกคือ การศึกษาที่บังคับให้เด็กเกาหลีใต้ทุกคนเรียนหนักมาก การสอบเข้ามหาวิทยาลัย หรือแม้กระทั้งการทำงานก็มีความยากลำบาก และคิดว่าเป็นเพราะระบบมีความไม่ถูกต้อง”

เมื่อถามว่า ในอนาคตยังอยากอาศัยอยู่ที่เกาหลีใต้หรือไม่ หรืออยากย้ายไปอยู่ที่ต่างประเทศ และเพราะอะไร?

พวกเธอต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “อยากย้ายไปอยู่ที่ประเทศอื่น เพราะไม่เห็นด้วยที่มีเพียงแค่คนเรียนจบจากมหาวิทยาลัยดังๆ เท่านั้น ถึงจะสามารถได้ทุกอย่างในเกาหลี หรือมีสิทธิมากกว่าคนอื่น”

เมื่อถามว่า พวกเธอต้องการย้ายไปที่ประเทศไหน? พวกเธอตอบว่า “ประเทศไหนก็ได้”

เมื่อถามถึงความคิดเห็นของเพื่อนคนอื่นๆ ที่โรงเรียน ว่ามีความคิดเห็นอย่างไรต่อเรื่องนี้

พวกเธอตอบว่า “มีเพื่อนๆ หลายคนเลย ที่บอกว่าอยากแต่งงานกับชาวต่างชาติ เพราะว่าสามารถขอสัญชาติตามสามีได้ และจะได้ย้ายไปอยู่ที่นั่นได้”

เมื่อถามว่า คุณคิดเห็นอย่างไร ถึงกรณีที่มีผู้คนมากมายอยากมีอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ และคุณคิดว่าข้อดีของประเทศเกาหลีใต้คืออะไร? พวกเธอดูมีความไม่มั่นใจเล็กน้อย ก่อนจะตอบว่า “คิดว่าอาจเป็นเพียงเพราะกระแสของเกาหลี”

'เหงียน' คิดใหญ่!! มุ่งสู่ 'ประเทศ ศก.ดิจิทัล-หลุดรายได้ปานกลาง' พา 'เวียดนาม' เป็นประเทศที่มีรายได้สูงภายในปี 2045 

รัฐบาลเวียดนาม เดินหน้า Road Map ยกระดับประเทศกำลังพัฒนารายได้ปานกลาง สู่ประเทศรายได้สูงที่ขับเคลื่อนด้วยเศรษฐกิจดิจิทัล ตั้งเป้าในการเป็นสังคมดิจิทัล 100% ภายในปี 2030 ที่จะส่งผลดีต่อภาคธุรกิจ Start-ups และผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีใหม่ และจะช่วยการยกระดับรายได้ประชาชนในประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม

การเปลี่ยนผ่านสู่สังคมดิจิทัลของเวียดนาม เป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์ชาติที่รัฐบาลเวียดนามได้ประกาศไว้ตั้งแต่ปี 2020 ที่จะผลักดันภาคเศรษฐกิจดิจิทัลให้โตขึ้นจากเดิม 14% ของ GDP ให้ได้ถึง 20% ของ GDP ภายในปี 2025 โดยเชื่อว่า หากรัฐบาลสามารถบรรลุเป้าหมายในการสร้างประเทศที่ขับเคลื่อนโดยเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ จะสามารถพาเวียดนามขึ้นสู่ประเทศที่มีรายได้สูงในอีกไม่เกิน 20 ปีข้างหน้า

ตัวเลขเหล่านี้ รัฐบาลเวียดนาม อ้างอิงจากการคาดการณ์ของ World Bank ที่กล่าวว่า หากภาคธุรกิจดิจิทัลโตได้ถึง 10% ในแต่ละปี ตั้งแต่ปีนี้ (2021) จะสามารถสร้างเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้มากกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ ภายในปี 2045 ซึ่งเกือบเท่ากับ GDP ของเวียดนามในปัจจุบัน

ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลเวียดนามจึงตัดสินใจปูพรมมุ่งสู่เศรษฐกิจดิจิทัล ด้วยการสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจดิจิทัลรุ่นใหม่ สร้างศูนย์ฝึกอบรม Start-ups ในหลายเมือง อาทิ ฮานอย, ดานัง, โฮจิมินห์ ซิตี้ อัดฉีดงบประมาณเพื่อการศึกษา พัฒนา นวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์ ให้ได้ 1% ของ GDP

จึงเกิดปรากฏการณ์ธุรกิจดิจิทัลบูมอย่างมากในเวียดนาม จากตัวเลขผู้ประกอบการธุรกิจในเวียดนามตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา พบว่ามี Start-ups หน้าใหม่เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า และมีบริษัทด้านธุรกิจ IT ทั้งฮาร์ดแวร์, ซอฟต์แวร์ และ สร้างสรรค์คอนเทนต์ดิจิทัลเกือบ 14,000 บริษัท จากเดิมที่หากมองย้อนกลับไปเมื่อ 15 ปีก่อน ในเวียดนามแทบไม่มีธุรกิจประเภทนี้เลยในประเทศ

และตอนนี้เวียดนามกำลังเป็นประเทศที่น่าจับตาที่ดึงดูดนักลงทุนด้านธุรกิจดิจิทัลจากทั่วโลก โดยล่าสุดเวียดนามขึ้นมาอยู่ในอันดับ 3 ของประเทศที่มีการตกลงทำสัญญาในธุรกิจด้านเทคโนโลยีมากที่สุดในอาเซียน และมีธุรกิจที่มีมูลค่าเกิน 1 พันล้านดอลลาร์ หรือที่เรียกว่า 'ยูนิคอร์น' ถึง 4 บริษัท ได้แก่ VNG, VNPay, MoMo และ Sky Mavis

ถึงแม้รัฐบาลเวียดนามจะทุ่มเทอย่างเต็มที่สำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัล แต่ก็ยังมีอุปสรรคบางประการที่อาจทำให้เวียดนามไปไม่ถึงเป้า และยังเป็นจุดที่นักลงทุนกังวล คือ การปรับกรอบข้อกฎหมายใหม่ให้เข้ากับธุรกิจในยุคดิจิทัล เช่น การจัดเก็บภาษี การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา การป้องกันฐานข้อมูลสำคัญ หรือการเข้าแทรกแซงของภาครัฐ อีกทั้งปัญหาการขาดแคลนบุคลากรในประเทศที่มีทักษะในการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลในระดับสูง ที่จะรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจดิจิทัลเต็มรูปแบบของประเทศ

แต่ก็นับว่าเวียดนามเป็นเสือซุ่มที่น่าจับตาในอาเซียน ด้วยวิสัยทัศน์ที่มองไกล และตั้งเป้าไว้สูงของรัฐบาลเวียดนามนั้น ทำให้ไทยเราต้องเร่งเสริมศักยภาพในการแข่งขันในด้านเศรษฐกิจดิจิทัล หากไม่อยากถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

‘วิลลาวิเซนซิโอ’ ผู้สมัครชิงตำแหน่ง ปธน.เอกวาดอร์ ถูกลอบยิงดับ ขณะลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้ง

เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 66 นายเฟร์นานโด วิลลาวิเซนซิโอ สมาชิกสภาแห่งชาติและผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเอกวาดอร์ ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตระหว่างไปร่วมงานที่จัดขึ้นในเมืองตอนเหนือของกรุงกีโต เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ตามเวลาท้องถิ่น

ทีมงานหาเสียงของนายวิลลาวิเซนซิโอให้สัมภาษณ์สื่อท้องถิ่นว่า นายวิลลาวิเซนซิโอกำลังก้าวเข้าไปในรถ เมื่อชายคนหนึ่งรุดขึ้นมาข้างหน้าและจ่อยิงเข้าที่ศีรษะของเขา โดยพยานที่เห็นเหตุการณ์ระบุว่า นายวิลลาวิเซนซิโอถูกยิงถึง 3 ครั้ง

ขณะที่อัยการสูงสุดของเอกวาดอร์ระบุผ่านโซเชียลมีเดียว่า ผู้ต้องสงสัยถูกยิงและยังยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ก่อนที่มือปืนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมาเนื่องจากได้รับบาดเจ็บ

ประธานาธิบดีกิเยร์โม ลาสโซ ของเอกวาดอร์ ซึ่งไม่ได้ลงสมัครชิงตำแหน่งในครั้งนี้ให้คำมั่นว่า อาญชากรจะต้องถูกนำตัวมาลงโทษ โดยเขาแสดงความโกรธเคืองและตกใจกับเหตุสังหารดังกล่าว และว่าอาชญากรมาไกลเกินไปแล้ว แต่น้ำหนักของกฎหมายจะต้องกดทับพวกเขา

ทั้งนี้ อาชญากรรมที่รุนแรงมากขึ้นในเอกวาดอร์เมื่อไม่นานมานี้ ได้รับแรงหนุนจากแก๊งค้ายาในประเทศที่เพิ่มมากขึ้น และเรื่องดังกล่าวได้กลายมาเป็นประเด็นการหาเสียงเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเอกวาดอร์ในปีนี้

เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา นายลาสโซได้ประกาศภาวะฉุกเฉินและบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิวในช่วงค่ำคืนใน 3 จังหวัดหลัก หลังมีการสังหารหมู่ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มอาชญากร

นอกจากเรื่องควาปลอดภัยแล้ว การรณรงค์หาเสียงของนายวิลลาวิเซนซิโอยังเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาการทุจริต ซึ่งเป็นหัวข้อที่เขาให้ความสำคัญขณะที่ทำงานเป็นนักข่าวมาก่อนหน้านี้ รวมถึงการลดการทำลายสิ่งแวดล้อม

นายวิลลาวิเซนซิโอเป็น 1 ใน 8 ผู้สมัครในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเอกวาดอร์รอบแรก แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ผู้ที่คาดว่าจะเป็นผู้นำในการเลือกตั้งดังกล่าว

การสังหารนายวิลลาวิเซนซิโอเกิดขึ้นหลังจากการสังหารนายออกัสติน อินทริอาโก นายกเทศมนตรีเมือง Manta ในเดือนกรกฎาคม และการสังหารนายโอมาร์ เมเนนเดซ ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีในเมือง Puerto López ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

นายออตโต ซอนเนนโฮลซ์เนอร์ อดีตรองประธานาธิบดีและผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในครั้งนี้ ได้แสดงความเสียใจและความเป็นหนึ่งเดียวกับครอบครัวของนายวิลลาวิเซนซิโอ ซึ่งมีบุตรถึง 5 คน

ขณะที่ลุยซา กอนซาเลส ผู้ที่คาดว่าจะมีคะแนนนำในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเอกวาดอร์ ก็แสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับครอบครัวของนายวิลลาวิเซนซิโอ พร้อมทั้งบอกด้วยว่า การกระทำอันเลวทรามนี้จะต้องไม่ถูกปล่อยให้ไม่ได้รับโทษ

ทั้งนี้ การเลือกตั้งประธานาธิบดีเอกวาดอร์กำหนดจะมีขึ้นในวันที่ 20 สิงหาคมนี้

‘จีน’ เตรียมเผยโฉม ‘แผนที่ธรณีวิทยาดวงจันทร์’ ฉบับมาตราส่วน 1:2.5 ล้าน ละเอียดสูงที่สุดในโลก

(10 ส.ค. 66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คณะนักวิจัยของจีนเปิดเผยแผนการเผยแพร่แผนที่ทางธรณีวิทยาของดวงจันทร์เต็มดวง ฉบับออนไลน์ ซึ่งจะมีความละเอียดสูงสุดในโลกภายในปีนี้ หลังจากสร้างแผนที่ทางธรณีวิทยาของดวงจันทร์ มาตราส่วน 1:2,500,000 เสร็จสิ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2022

หลิวเจี้ยนจง นักวิจัยจากสถาบันธรณีเคมี สังกัดสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน ซึ่งเป็นบรรณาธิการบริหารประจำการเผยแพร่แผนที่ดวงจันทร์ฉบับนี้ กล่าวว่าแผนที่ดวงจันทร์ฉบับใหม่จะมอบข้อมูลอันมีนัยสำคัญต่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์บนดวงจันทร์ การวางแผนสำรวจ การคัดเลือกพื้นที่ลงจอดในอนาคต ฯลฯ แผนที่ดวงจันทร์เต็มดวงเกิดจากการศึกษา ระยะ 10 ปี ของคณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยซานตง สถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน และสถาบันอื่น ๆ โดยแผนที่นี้รวบรวมลักษณะทางธรณีวิทยาของหินบนดวงจันทร์ 17 ประเภท นำเสนอรายละเอียดเกี่ยวกับองค์ประกอบและการกระจายตัวของวัตถุบนพื้นผิวดวงจันทร์ การสร้างแผนที่นี้อ้างอิงข้อมูลจากโครงการสำรวจดวงจันทร์ฉางเอ๋อ (Chang'e) ของจีน กอปรกับข้อมูลการสำรวจดวงจันทร์และผลการวิจัยอื่น ๆ จากทั่วโลก โดยหลิวเสริมว่ามีการผลิตดวงจันทร์จำลองทรงกลมแสดงข้อมูลทางธรณีวิทยาที่ออกแบบตามแผนที่นี้จำนวนมากแล้ว

อนึ่ง คณะนักวิจัยของจีนเปิดเผยแผนการข้างต้นที่งานเทศกาลวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งกุ้ยโจว ซึ่งเพิ่งสิ้นสุดลงในมณฑลกุ้ยโจวทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน พร้อมเสริมว่ามีการสร้างแผนที่ทางธรณีวิทยาของดวงจันทร์ มาตราส่วน 1:1,000,000 ในปัจจุบัน

FBI ปลิดชีพ ‘ชายในมลรัฐยูทาห์’ ที่โพสต์ขู่ฆ่า ‘โจ ไบเดน’ ก่อนหน้าผู้นำสหรัฐฯ จะเยือนมลรัฐนี้เพียงไม่กี่ชั่วโมง

แม้สหรัฐอเมริกาจะไม่มี ม.112 แต่ FBI ก็ได้ยิง Craig Robertson ชายผู้ที่โพสต์คำข่มขู่ต่อประธานาธิบดี Joe Biden และเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ทางออนไลน์อย่างรุนแรง จนเสียชีวิต

(10 ส.ค.66) เพจเฟซบุ๊ก 'ดร.โญ มีเรื่องเล่า' ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า...

Craig Robertson ถูกยิงเสียชีวิตระหว่างการบุกของ FBI เมื่อวันพุธที่ 9 สิงหาคม 2023

โดยเจ้าหน้าที่พยายามออกหมายจับ Craig Robertson ที่บ้านของเขาในมลรัฐยูทาห์ ก่อนหน้าที่นาย Biden วางแผนจะเยือนมลรัฐนี้เพียงไม่กี่ชั่วโมง

การร้องเรียนทางอาญากล่าวว่า Robertson โพสต์คำขู่บน Facebook ต่อนาย Biden และอัยการที่ดำเนินคดีอาญากับ Donald Trump

ทั้งนี้ Robertson ได้โพสต์บน Facebook ระบุ... "ฉันได้ยินว่า Biden กำลังจะมาที่ยูทาห์ ฉันขุดชุด ghillie เก่าๆ (ชุดพรางสำหรับพลซุ่มยิง) ของฉันออกมา แล้วจะปัดฝุ่นออกจากปืนไรเฟิลซุ่มยิง M24 ของฉันด้วย"

เกี่ยวกับสาเหตุการยิง ทาง FBI ได้ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติม โดยการจู่โจมเพื่อจับกุม Craig Robertson เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 06.15 น. ตามเวลาท้องถิ่นในเมืองโพรโวทางตอนใต้ของนครซอลต์เลคซิตีไปประมาณ 65 กม.

‘ไบเดน’ สั่งคุมเข้มการลงทุนด้านเทคโนโลยีมะกันในแดนมังกร หวังสกัดขีดความสามารถจีน หวั่น!! กระทบความมั่นคงสหรัฐฯ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ได้ออกคำสั่งของฝ่ายผู้บริหารมุ่งจำกัดการลงทุนของชาวอเมริกันในเทคโนโลยีชั้นสูงที่มีความละเอียดอ่อนในจีน ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่ถูกมองว่าอาจทำให้ความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกต้องเผชิญกับความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้น

การออกคำสั่งดังกล่าวเป็นที่คาดการณ์กันมาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งคาดว่าจะให้มีผลบังคับใช้ในปีหน้า โดยพุ่งเป้าไปที่เซมิคอนดักเตอร์และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ท่ามกลางความพยายามของสหรัฐฯ ที่จะจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีหลัก

ไบเดนระบุในจดหมายที่ส่งถึงผู้นำสภาคองเกรสในคำสั่งของฝ่ายบริหารว่า ความมุ่งมั่นของสหรัฐฯ ในการเปิดการลงทุนเป็นรากฐานสำคัญของนโยบายเศรษฐกิจของเรา และมันมอบผลประโยชน์มากมายให้กับสหรัฐฯ

“อย่างไรก็ตาม การลงทุนบางอย่างของสหรัฐฯ อาจเร่งและเพิ่มความสำเร็จของการพัฒนาเทคโนโลยีที่มีความละเอียดอ่อน และการผลิตในประเทศที่พัฒนามันขึ้นมา เพื่อต่อต้านขีดความสามารถของสหรัฐและพันธมิตร” ไบเดนระบุ

ตามรายละเอียดที่เผยแพร่โดยกระทรวงการคลังสหรัฐ คำสั่งผู้บริหารดังกล่าวจะห้ามไม่ให้เอกชนรายใหม่ เงินร่วมทุน และการลงทุนร่วมในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง รวมถึงเทคโนโลยีสารสนเทศควอนตัมบางประเภทในจีน

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐระบุว่า โครงการลงทุนนอกประเทศจะต้องเติมเต็มช่องว่างที่สำคัญในชุดเครื่องมือด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ สิ่งที่เรากำลังพูดถึงคือแนวทางที่แคบแต่รอบคอบ ในขณะที่เรากำลังพยายามป้องกันไม่ให้จีนดั๊บและใช้เทคโนโลยีขั้นสูงสุด เพื่อส่งเสริมความทันสมัยทางทหารและบ่อนทำลายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาในรายละเอียดของข้อกำหนดเพื่อการแจ้งเตือนสำหรับการลงทุนของสหรัฐในบริษัทของจีนที่เกี่ยวข้องกับเซมิคอนดักเตอร์ทีมีขั้นไม่สูงนัก รวมถึงกิจกรรมที่เกี่ยวกับเอไอบางประเภท แต่คาดว่าจะมีข้อยกเว้นสำหรับการลงทุนในสหรัฐบางอย่าง ในหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสาธารณะและการโอนจากบริษัทแม่ในสหรัฐไปยังบริษัทย่อย

พระราชทรัพย์กษัตริย์แห่งอังกฤษมาจากไหน? จำนวนเท่าไร? ใช้ไปกับอะไร? เสียภาษีหรือไม่?

เมื่อหลายสิบปีมาแล้วมีรายงานข่าวว่าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ของอังกฤษ ทรงเป็นผู้ที่ร่ำรวยมากที่สุดพระองค์หนึ่งของโลก ด้วยทรงมีพระราชทรัพย์อันเป็นที่ดิน, พระราชวัง, ภาพวาดหายาก, เครื่องเพชรและยังรวมถึงฟคอกม้าอีกด้วย ซึ่งถ้าจะตีความแบบเหมารวมเช่นนั้นสมเด็จพระราชินีก็อาจจะทรงร่ำรวยจริง

แต่ต่อมาก็มีการอธิบายขยายความว่า ที่จริงแล้วต้องมีการแยกแยะให้ชัดเจนในพระราชทรัพย์ที่ทรงมีอยู่ เพราะว่าบางอย่างไม่ใช่ของท่าน แต่เป็นของแผ่นดินอังกฤษที่ตกทอดกันมาตามสายของพระเจ้าแผ่นดินที่ทรงครองราชย์สมบัติ และพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ที่ทรงมีอยู่หรือได้มาโดยจะทรงซื้อขายได้ตามพระประสงค์

เรื่องความร่ำรวยของเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินของประเทศต่าง ๆ มักจะเป็นข่าวที่คนชอบอ่านเพราะคนใคร่รู้ว่าท่านมีเงินมากน้อยแค่ไหนและได้มาจากไหนบ้าง บางคนอ่านแล้วก็พลอยยินดีปรีดากับทรัพย์ศฤงคารที่มากมายเหล่านั้นและอาจจะเคลิ้มว่าน่าจะเป็นของตนบ้างในชีวิตชาติหน้า

เร็วๆ นี้ผู้เขียนได้อ่านข่าวชิ้นหนึ่งของบีบีซีภาษาอังกฤษชื่อข่าวว่า Royal finance: Where does the king get his money? เขียนโดย Tom Edgington and Jennifer Clarke ผู้เขียนทั้งสองเริ่มด้วยข่าวที่รัฐบาลอังกฤษจะถวายเงินอุดหนุนประจำปีที่เรียกว่า Sovereign Grant หรือเดิมเรียกว่า Civil List เท่ากับปีงบประมาณ ค.ศ. 2021-2022 คือจำนวน 86.3 ล้านปอนด์ (คูณด้วย 44 บาทก็ตกราว 3,800 ล้านบาท)

ข่าวชิ้นนี้ทำให้รู้เกี่ยวกับพระฐานะการเงินของราชวงศ์อังกฤษ ว่ามีอะไรบ้าง และจำนวนเท่าใด เมื่อรู้แล้ว ก็ทำให้รู้ว่าท่านร่ำรวยอยู่ไม่น้อย 

เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจง่าย ๆ ผู้เขียนขอสรุปว่าพระเจ้าแผ่นดินอังกฤษจะมีรายได้อยู่ 2 ส่วนหลักคือ...

1. จากรัฐบาลอังกฤษถวายที่เรียกว่าเงินอุดหนุนและเงินจากที่ดินส่วนพระองค์ Private Estate โดยการให้เช่า

>> ลองมาดูกันว่าในส่วนเงินอุดหนุนประจำปีที่รัฐบาลอังกฤษถวายนี้มีที่มาอย่างไร?

รายได้ส่วนนี้ จะมาจากเงินงบประมาณที่เป็นภาษีของประชาชนที่รัฐบาลตั้งขึ้น โดยเดิมทีเรียกกันว่า Civil List หรือเงินปี ซึ่งแต่เดิมจะกำหนดยอดเงินตายตัวว่ารัฐบาลจะถวายทุกปีจำนวนนี้ 

แต่ต่อมาในปี ค.ศ. 2012 มีการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและเปลี่ยนชื่อเงินปี เป็น Sovereign Grant หรือเรียกว่าเงินอุดหนุน โดยมีการพิจารณาหรือคำนวณยอดเงินที่จะถวายแต่ละปีเสียใหม่คือ คำนวณจากผลกำไรของทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ (The Crown Estate คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของพระเจ้าแผ่นดินอังกฤษแต่ว่าดำเนินการอิสระ มีองค์กรที่ตั้งขึ้นมาดูแล) กำไรที่ได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นี้ จะส่งตรงให้กระทรวงการคลังและรัฐบาลอังกฤษ โดยจะใช้ยอดเงินที่เป็นกำไรนี้ มาเป็นบรรทัดฐานในการคำนวนเงินที่รัฐบาลจะถวายแก่พระราชวงศ์อังกฤษ

ยิ่งไปกว่านั้น The Crown Estate หรือทรัพย์สินพระมหากษัตริย์นี้ ไม่ได้เป็นกรรมสิทธิ์ส่วนพระองค์ของพระเจ้าแผ่นดินแต่จะเป็นการตกทอดจากแผ่นดินสู่แผ่นดินเท่านั้น จะทรงซื้อขายไม่ได้

อย่างไรก็ดีจากรายงานล่าสุดของข่าวบีบีซีชิ้นนี้บอกว่า รัฐบาลอังกฤษได้พิจารณาทบทวนจำนวนเงินอุดหนุนที่จะถวายเสียใหม่อีกครั้ง โดยจะเริ่มตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป คือ รัฐบาลจะถวายเงินอุดหนุนเป็นจำนวน 12% จากผลกำไรของทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ The Crown Estate และจะยืน 12% นี้ไปจนถึงปี ค.ศ. 2527 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของการซ่อมแซมพระราชวังบักกิงแฮม อันเป็นโครงการซ่อมแซม 10 ปี (ใช้เงินราว 379 ล้านปอนด์) หลังจากปีนั้นแล้วก็มาพิจารณากันใหม่อีกที

>> ท่านผู้อ่านคงอยากทราบแล้วว่า ทรัพย์สินพระมหากษัตริย์อังกฤษนั้น ท่านมีอยู่มากน้อยเท่าใด? 

เมื่อปีที่แล้ว ค.ศ. 2022 มีการประเมินมูลค่าทรัพย์สินพระมหากษัตริย์อังกฤษว่ามีอยู่ราว (16.5 bn ปอนด์) กว่าหนึ่งหมื่นหกพันล้านปอนด์ โดยเป็นอสังหาริมทรัพย์ในลอนดอน, รวมทั้ง Regent Street, อันเป็นย่านช้อปปิ้งชื่อดังของอังกฤษ และที่ดินชายฝั่งอังกฤษอีกเกือบครึ่งหนึ่ง, ในเวลส์ และไอแลนด์เหนือ (ที่ดินเหล่านี้มีมูลค่าราวแปดพันล้านปอนด์)

>> นั่นก็เป็นเงินที่รัฐบาลจัดถวาย แต่เมื่อถวายแล้วเงินจำนวนนี้จะมีการใช้จ่ายอย่างไร?

พระราชวังจะใช้ไปในงานราชพิธีที่เสด็จออกสมาคมให้ประชาชนเฝ้าเช่นงานเลี้ยงรับรอง, งานพระราชทานรางวัลและงานสมาคมในสวน Garden Party เช่น Garden Party ในพระราชวังบักกิงแฮมอันเป็นงานที่ประชาชนที่ได้รับคัดเลือกจากการทำงานเพื่อสังคม หรือประกอบคุณงามความดีต่าง ๆ จะได้เข้าเฝ้าพระเจ้าแผ่นดินและพระราชวงศ์ โดยมีการนับว่าในรอบปีที่ผ่านมาพระราชวงศ์จะเสด็จออกงานทั้งภายในประเทศและต่างประเทศจำนวน 2,700 ครั้ง มีงานที่จัดขึ้นตามวังหรือตำหนักที่ประทับของพระราชวงศ์อีก 330 ครั้ง มีแขกที่ได้รับเชิญเกือบหนึ่งแสนคน และนอกจากเงินที่ใช้ไปในการจัดงานแล้ว ก็จะเป็นค่าจ้างพนักงานและดูแลอาคารที่ประทับ สรุปคือ เงินอุดหนุนที่รัฐบาลถวายจะเป็นค่าใช้จ่ายในการทรงงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับประชาชนนั่นเอง

2. ในส่วนรายได้หรือพระราชทรัพย์หลักอีกทางหนึ่งและมากโขอยู่ของพระเจ้าแผ่นดินอังกฤษก็คือการเป็นเจ้าของที่ดินส่วนพระองค์ในตำแหน่ง Duchy of Lancaster และ Duchy of Cornwall

พระเจ้าแผ่นดินอังกฤษในฐานะที่เป็น 'ดัชชีแห่งแลงคาสเตอร์' จะทรงเป็นเจ้าของที่ดินกว่า 18,000 เฮกตาร์ กินพื้นที่ในแลงคาสเตอร์และยอร์กเชอร์ รวมถึงที่ดินในกลางกรุงลอนดอนด้วย ที่ดินเหล่านี้มีมูลค่า 654 ล้านปอนด์และทำเงินในการให้เช่าปีละประมาณ 20 ล้านปอนด์

สำหรับผลประโยชน์อีกตำแหน่งหนึ่งคือ 'ดัชชีแห่งคอนวอลล์' นั้น กำหนดว่า ผู้ใดที่ดำรงตำแหน่ง ดยุคแห่งคอนวอลล์ ซึ่งปัจจุบันคือ เจ้าชายวิลเลียมจะเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์จากตำแหน่งนี้ โดยเป็นผู้ถือครองที่ดินทางตะวันตกฉียงใต้ของอังกฤษอันมีมูลค่า 1,000 ล้านปอนด์และทำรายได้สุทธิในปีนี้ 24 ล้านปอนด์

พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และเจ้าชายวิลเลียมจะทรงได้รับเงินรายได้จากที่ดินในพื้นที่ดังกล่าวโดยตรงและสามารถใช้ตามที่มีพระประสงค์ เพราะเป็นเงินจากที่ดินที่เป็นสิทธิ์ตามฐานะของท่าน ไม่ใช่เงินจากภาษีของประชาชน แต่ไม่สามารถที่จะขายที่ดินเหล่านี้ได้

***นอกจากเงินจากทั้ง 2 แห่งนี้แล้ว พระเจ้าแผ่นดินอังกฤษและพระราชวงศ์ ก็จะมีทรัพย์ส่วนพระองค์ เช่นพระราชวังบ้าง ภาพวาดบ้าง เครื่องเพชรและของมีค่ามีราคาอื่น ๆ ซึ่งได้มาจากการซื้อด้วยเงินส่วนพระองค์

แน่นอนจะเห็นได้ว่าพระเจ้าแผ่นดินอังกฤษทรงมีฐานะทางการเงินดีไม่น้อย

และเพื่อให้ประชาชนคนอังกฤษเห็นว่า ท่านไม่เอาเปรียบ...ในปี ค.ศ. 1992 สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ทรงสมัครพระทัยที่จะเสียภาษีเงินได้ที่เกิดจากรายได้ส่วนพระองค์ เช่นเดียวกับพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และเจ้าชายวิลเลียม

เรื่อง: อนุดี เซียสกุล อดีต Radio Journalist, วิทยุบีบีซีภาคภาษาไทย

อ้างอิง: BBC news, Royal finances: Where does the King get his money?

'อันฮุย' ขุดพบ 'เครื่องมือหิน' ช่วยขุดเจาะหาหยกในอดีต ทึ่ง!! เป็นเทคนิคการเจาะขั้นสูงสมัยเกือบ 6 พันปีก่อน

เหอเฝย, 10 ส.ค. (ซินหัว) — เครื่องมือหินที่ขุดพบจากแหล่งโบราณวัตถุหลิงเจียทาน เมืองหม่าอันซาน ในมณฑลอันฮุยทางตะวันออกของจีน เผยเทคนิคการขุดเจาะขั้นสูงของจีนโบราณ โดยเชื่อว่าเคยถูกใช้เพื่อประดิษฐ์เครื่องหยก

เจี่ยเหล่ย ไกด์นำเที่ยวประจำแหล่งโบราณวัตถุฯ เผยว่าเครื่องมือหินดังกล่าวยาว 6.3 เซนติเมตร ทำมาจากหินกรวด มีชิ้นส่วนทรงเกลียวที่ปลายทั้งสองด้าน และยังพบร่องบนตัวเครื่องซึ่งเชื่อว่าใช้สำหรับรัดเชือกหรือสายคาดขณะทำเครื่องหยก

อนึ่ง แหล่งโบราณวัตถุหลิงเจียทาน เป็นที่ตั้งถิ่นฐานจากยุคหินใหม่ มีอายุราว 5,300-5,800 ปี ครอบคลุมพื้นที่ราว 1.6 ล้านตารางเมตร และมีชื่อเสียงจากเครื่องหยกที่ขุดพบในการขุดค้นหลายครั้งก่อน นับตั้งแต่มีการค้นพบสถานที่แห่งนี้ในปี 1985


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top