Friday, 16 May 2025
WeekendNews

'ชัชชาติ' จ่อชง ศบค.ไฟเขียว คนกรุงถอดแมสก์ - ปิด 'ผับ - บาร์' ตี 2 

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ จ่อชง ศบค. ไฟเขียวคนกรุงถอดหน้ากากอนามัยในที่โล่ง สถานที่เปิด ลั่นถึงเวลากลับใช้ชีวิตปกติ พร้อมเล็งขยายเวลาเปิดผับ บาร์ คาราโอเกะ ถึงตีสอง ขยายเวลาเศรษฐกิจกลางคืน

วันนี้ (5 มิ.ย.) ที่สวนหลวงพระราม 8 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงแนวโน้มการผ่อนคลายมาตรการสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า กรณีนี้ต้องอยู่กับการพิจารณาของ ศบค. เป็นหลัก แต่ทาง กทม.จะให้ความเห็นไปว่า สถานการณ์ใน กทม. เริ่มลดน้อยลง คงต้องเริ่มให้ถอดหน้ากากในพื้นที่เปิดโล่ง ขณะที่เศรษฐกิจก็เริ่มกลับมา แต่ย้ำว่าขอให้เป็นไปตามหลักการแพทย์เพื่อให้เกิดความมั่นใจ แต่เชื่อว่าสถานการณ์คลี่คลายขึ้น คนก็พร้อม ซึ่งจะนำเรื่องนี้หารือกับ ศบค. อย่างเป็นทางการ

'นพพล' พร้อมตัดงบเกษตร-มหาดไทย ชี้!! ไม่คุ้มกับภาระกิจดูแลประชาชน

'นพพล' พร้อมตัดงบเกษตร-มหาดไทย ชี้!! ไม่คุ้มกับภาระกิจดูแลประชาชน เผยเกษตรกรสุดทนชลประทานปล่อยน้ำเอาใจนักการเมืองมากกว่าปล่อยเกษตรกรขาดน้ำทำนา 

นายนพพล เหลืองทองนารา ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาพื้นที่พิษณุโลกพบปัญหา ภัยแล้งหนักมาก เพราะเกษตรกรหลายพื้นที่ขาดน้ำทำนา กรมชลประทานจะปล่อยน้ำเอาใจนักการเมืองใหญ่ในรัฐบาล  ไม่ปล่อยให้เกษตรกร กระทบการปลูกข้าวนาปี  ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาเรื้อรังแก้ไม่จบ ส่งผลให้คนในพื้นที่ ชี้ว่าปัญหาน้ำ เกิดจากการเลือกปฏิบัติของเจ้าหน้าที่กรมชลประทาน ชาวบ้านเอือมระอากับการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ 

ที่ผ่านมาหาแนวทางในการแก้ปัญหาให้เกษตรกรในพื้นที่รวมทั้งการหารือกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาให้กับเกษตรกร สามารถแก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่ง แต่เกรงว่าปัญหาจะวนกลับมาที่เดิม สร้างปัญหาให้เกษตรกรไม่รู้จบ 

นายนพพล กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้จากการที่ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการพิจารณางบประมาณประจำปี 2566 จะพุ่งเป้าในการพิจารณากระทรวงเกษตรและสหกรณ์รวมทั้งกระทรวงมหาดไทย เพราะกระทรวงทั้งสองกระทรวงทำงานไม่สมกับงบประมาณที่ได้รับจัดสรร ปล่อยปละละเลย ไม่แก้ปัญหาให้กับประชาชน

นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา เข้ารับปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการจัดการการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

เมื่อวันที่ 10  มิถุนายน ที่ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา เข้ารับปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการจัดการการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยมี ศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรีเป็นประธานในพิธี การมอบใบปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการจัดการการท่องเที่ยว ซึ่งการเข้ารับปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ในครั้งนี้ ได้ผ่านการคัดเลือก และรับรองจากคณะกรรมการสภามหาวิทยา ลงมติเอกฉันท์ มอบเป็นเกียรติประวัติสืบไป

เนื่องจากสวนนงนุชพัทยา เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดครั้งนี้เช่นกัน ในระหว่างที่มีการล็อกดาวน์ ได้มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงสวนนงนุชพัทยาครั้งใหญ่ มีการปรับเปลี่ยน New Normal New Nongnooch Garden (นิว นอร์มอล นิว สวนนงนุช) เช่น เปิดโรงเลี้ยงสำหรับการเพาะชำต้นอ่อน  ประติมากรรมภาพวาดด้วยหิน สวนไดโนเสาร์ เป็นต้น

นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุช พัทยา  ได้หาแนวทางการจัดการดำเนินกิจกรรมมากมายเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภาคตะวันออก เช่น การจัดกิจกรรมภายใต้โครงการ “ไทยเที่ยวไทย”เพื่อส่งเสริมกระตุ้นการท่องเที่ยว ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ให้เจริญเติบโต มีการต้อนรับ คาราวานกลุ่มรถสปอร์ต Lotus Car ตัวจริงจากประเทศอังกฤษ จำนวน 25 คัน ถือเป็นรถสปอร์ตหรูแห่งยุค ที่ออกมาร่วมสร้างสีสัน กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว

เปิดเที่ยวบินประวัติศาสตร์ พาเด็กไทยกลับไปศึกษาต่อจีน ภายใต้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนตลอดช่วง 2 ปี

นับเป็นอีกความสำเร็จของกลุ่มเด็กไทย ภายใต้การร่วมมือจากทุกภาคส่วน ตั้งแต่ภาครัฐ, เอกชน, สมาคมนักเรียนไทย-จีน รวมถึงบรรดานักเรียนและผู้ปกครอง ที่รวมพลัง #พาเด็กไทยกลับจีน ตลอด 2 ปีหลังร่วมต่อสู้กันอย่างมีความหวัง เพื่อให้เด็กทุกคนได้กลับไปศึกษา ณ สาธารณรัฐประชาชนจีนอีกครั้ง

เพราะอย่างที่ทราบดีว่าปัจจุบันมีนักเรียนไทยที่กำลังศึกษาต่อที่ประเทศจีน ประสบปัญหายังกลับไปเรียนไม่ได้มีจำนวนมาก ซึ่งความยากลำบากที่นักเรียน/ นักศึกษากลุ่มนี้ต้องประสบ ก็มีตั้งแต่ ทุนรัฐบาลที่หลายคนกำลังจะถูกยกเลิกไป จนถึงถูกบังคับให้ลาออก, หลายคนต้องเสียค่าเช่าที่พักฟรีๆ เป็นปีเพราะขนของกลับไม่ได้, ค่าเทอมที่ต้องจ่ายเต็มแต่คุณภาพการเรียนออนไลน์ที่ไม่ช่วยอะไร, การฝึกงานหรือการทำตัวจบที่ค้างคาไปต่อไม่ได้ ฯลฯ ซึ่งถือว่าหนักหนามาก และกระทบต่อแผนการชีวิตและครอบครัว

นายสรวง สิทธิสมาน นายกสมาคมนักเรียนไทย-จีน ได้เปิดเผยพร้อมขอบคุณทุกการช่วยเหลือนี้ว่า ตามที่กลุ่มร้องขอเปิดวีซ่านักเรียน (จีน) ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการส่วนใหญ่ในนามสมาคมนักเรียนไทย-จีน ได้ขอความอนุเคราะห์ช่วยเหลือจากท่านในด้านต่างๆ เพื่อช่วยเหลือนักเรียน/นักศึกษาไทยให้สามารถกลับไปศึกษาต่อ ณ สาธารณรัฐประชาชนจีนมาตั้งแต่กลางปี 2563 นั้น

.
บัดนี้ด้วยความช่วยเหลือจากหลายฝ่าย ทำให้ความพยายามเรียกร้องเปิดวีซ่านักเรียนจีนของนักศึกษาไทยตลอด 2 ปี นั้นประสบความสำเร็จ จนเกิดเป็นเที่ยวบินแรกของนักศึกษาไทยในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2565 ที่ผ่านมา อันนำไปสู่การทยอยอนุมัติรายชื่อเดินทางกลับสาธารณรัฐประชาชนจีนของนักเรียน/นักศึกษาไทยในระยะยาว ซึ่งปัจจุบันเที่ยวบินที่สองกำลังดำเนินการแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายนศกนี้ และเริ่มเข้าสู่การดำเนินการเที่ยวบินที่สามในลำดับถัดไป
.
ในนามของสมาคมนักเรียนไทย-จีน ร่วมกับกลุ่มร้องขอเปิดวีซ่านักเรียน (จีน) จึงขอขอบคุณท่านและผู้เกี่ยวข้องในหน่วยงานของท่านที่ให้ความอนุเคราะห์ช่วยเหลือในด้านต่างๆ จนนำไปสู่ความสำเร็จในการเรียกร้องเปิดวีซ่านักเรียนจีนของนักศึกษาไทย ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา
.
สำหรับความสำเร็จดังกล่าวเกิดขึ้นผ่านความอนุเคราะห์จากบุคคล รวมถึงองค์กรอีกหลายภาคส่วน เพื่อผลักดันให้เกิดเที่ยวบินแรกของโลกและเที่ยวบินถัดๆ ไป ในการพานักเรียน/นักศึกษาไทยกลับไปยังประเทศจีน เพื่อทำการศึกษาต่อ ได้แก่...

'เพื่อไทย' ชี้!! ปลุกหวยบนดิน อุดจุดอ่อนรัฐหาเงินไม่เป็น แนะ!! ยึดตามโมเดลทักษิณ คนไทยไม่เสียประโยชน์

ฟื้นหวยบนดิน ประชาชนต้องได้ประโยชน์ 'อรุณี' ชี้รัฐบาล 'ประยุทธ์' คิดฟื้นหวย 2 ตัว 3 ตัว เหตุอยากหารายได้เสริมเติมจุดอ่อนรัฐหาเงินไม่เป็น ย้ำทำตามไทยรักไทยไม่เสียหายถ้าคนไทยได้ประโยชน์ 

ดร.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลออกมาโยนหินถามทาง เตรียมแก้กฎหมายเปิดช่องทางจำหน่ายสลากตัวเลข 3 หลัก หรือการฟื้นหวยบนดิน 2 ตัว 3 ตัวภายในปีนี้ว่า...

สิ่งที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความพยายามจะทำอีกครั้ง ต้องเป็นการกลับมาที่ดีกว่าเดิม ประชาชนต้องได้ประโยชน์จากการขายหวยบนดินครั้งนี้ เหมือนอย่างที่รัฐบาล ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยทำ  โครงการหวยบนดินในขณะนั้น สามารถขจัดอิทธิพลมืดและสร้างรายได้ให้กับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวนมาก มีการแบ่งสัดส่วนรายได้จากการขายหวยบนดินกระจายไปยังภาคส่วนต่างๆ อย่างชัดเจน โดยสมทบเข้ากองทุนจ่ายเงินรางวัล  ค่าดำเนินการของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล  แบ่งไปยังการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ และมีการแบ่งสัดส่วนเข้าการกุศล ซึ่งคือการให้ทุนการศึกษานักเรียนต่างจังหวัดมีโอกาสไปศึกษาต่อในต่างประเทศ หรือที่เรียกว่าโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน (ODOS ) ซึ่งเป็นการนำเอา 'ความหวังของคนยากจน' มาสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับคนยากจน สร้างทุนมนุษย์ สร้างความเจริญให้กับบ้านเกิดและประเทศได้อย่างมหาศาล และยังมีการจัดสัปดาห์วิทยาศาสตร์ โครงการประกวดเรียงความ ฯลฯ  แต่ละเดือนยังมีเงินเหลืออย่างน้อย 700 ล้านบาท หรือปีละ 8,400-10,000 ล้านบาท จากเดิมอยู่ในมือของเจ้ามือหวยและส่งส่วยผู้มีอิทธิพล  

แต่สุดท้ายถูกระงับไป และยังถูกดำเนินคดีโดยคณะกรรมการอิสระที่แต่งตั้งโดยคณะรัฐประหารอย่างคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ก่อนส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการ ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า ในปี 2549 รัฐบาลหลังจากการยึดอำนาจยังได้ดำเนินการขายหวยบนดินต่อ ทั้งที่การแก้ไข พ.ร.บ.สำนักงานสลากฯ ยังไม่แล้วเสร็จ และยังไม่มีการดำเนินคดีกับรัฐบาลในขณะนั้นเหมือนที่ดำเนินการเอาผิดกับรัฐบาล ดร.ทักษิณ แต่อย่างใด 

ดร.อรุณี กล่าวอีกว่า หากหวยบนดินของรัฐบาล ดร.ทักษิณ ยังอยู่ รายได้เข้ารัฐอาจมีมากกว่า 1 แสนล้านบาท เด็กไทยในต่างจังหวัดที่มีศักยภาพจะถูกมองเห็นและได้มีโอกาสไปเรียนต่อยังต่างประเทศอีกหลายร้อยคน ทั้งหมดคือโอกาสที่เสียไปของประเทศทั้งสิ้น 

ดร.อรุณี ได้ตั้งคำถามด้วยว่า อยากทราบว่าวัตถุประสงค์ของการฟื้นหวยบนดินนั้น เป็นเพราะรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ต้องการหารายได้เสริมเติมจุดอ่อนของตนที่ไม่มีความรู้ความสามารถที่จะสร้างงาน สร้างโอกาส หรือสร้างนโยบายใหม่ๆ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ หารายได้เข้าประเทศใช่หรือไม่  ต้องการหารายได้เพื่อใช้หนี้สาธารณะที่ตนเองได้ก่อขึ้นเกือบ 10 ล้านล้านบาท และเป็นหนี้ที่กู้มาแจกทั้งสิ้น ใช่หรือไม่ 

'หม่อมปลื้ม' โพสต์ขออภัย ภท. ยันเจตนาดีเรื่องกัญชา แต่ด้วยสไตล์ที่สื่อออกมา อาจกวนประสาทเล็กน้อย

จากกรณีที่พรรคภูมิใจไทยมีมติให้ ส.ส.แต่ละเขต รัฐมนตรีของพรรค และสมาชิกพรรคทั่วประเทศ ไปร้องทุกข์กล่าวโทษ รายการ 'The Daily Dose โลกการเมือง’ ทางเพจเฟซบุ๊ก Voice TV ดำเนินรายการโดย ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล หัวข้อ 'ไม่สนเยาวชนติดกัญชาบ้างเลยหรือ' โดยระบุว่า มีเนื้อหาเบือนข้อเท็จจริง ใส่ร้ายป้ายสี จากนโยบายปลดล็อกกัญชาโดยมีกฎหมายมารองรับนั้น

ล่าสุด (11 มิ.ย.65) ม.ล.ณัฏฐกรณ์ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงกรณีดังกล่าว โดยมีเนื้อหาดังนี้...

“ผมได้ขอให้ทีมงานถอนคลิปย่อยที่ตัดแล้วที่ไปโพสต์ทางช่องทาง Youtube/FB ที่พาดพิงท่าน รองนายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล และพรรคภูมิใจไทยออกไปเรียบร้อยแล้วนะครับ

มันเป็นของรายการสด #Liveยามเช้า The Daily Dose วันที่ 9 มิถุนายน เวลา 06.30 น. การจัดรายการมีเจตนารมณ์สร้างความบันเทิงประกอบด้วยสาระต่อสังคม และรวมไปถึงการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล ไม่มีเจตนาที่จะดูหมิ่นดูแคลนใคร ถ้าเนื้อหาในคลิปทำให้สมาชิกพรรคภูมิใจไทย รวมถึงทั้งหัวหน้าพรรคมีความรู้สึกว่าไม่เหมาะสมและเสียดสีเเรงเกินไปนั้นผมขออภัย

รวมถึงที่อาจจะได้สื่อสารเชิงลบแบบตลกขบขันไปว่า ในสมัยวัยหนุ่มอาจจะมีบางท่านในคณะรัฐมนตรีที่เคยชอบกัญชา ซึ่งเป็นเพียงแค่มุกในการดำเนินรายการ

ผมเชื่อว่า เราอยู่ในสังคม และระบบนิเวศวิทยาทางการเมืองเดียวกัน และไม่จำเป็นที่จะต้องมานำเรื่องขึ้นศาลเพื่อฟ้องร้องกันโดยมิจำเป็น หากการจัดรายการทำให้มีความรู้สึกเสื่อมเสียเกียรติยศหรือศักดิ์ศรีของผู้ซึ่งถูกพาดพิง ผมยินดีถอดถอนเนื้อหาออกให้ตามที่ได้สั่งการให้มีการกระทำไปแล้ววันนี้

หวังเป็นอย่างยิ่งว่ากระทรวงสาธารณสุขและเจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้นโยบายกัญชากึ่งเสรีใหม่ที่นำเสนอโดยผู้ซึ่งมีอำนาจ ณ เวลานี้ จะสามารถควบคุมไม่ให้ทุกคนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเข้าถึงการสูบเสพติดกัญชาได้ครับ

'โรม' จวก 'ภท.' ใจแคบฟ้อง 'ปลื้ม' วิจารณ์กัญชาเสรี ไม่ต่างอะไรกับรัฐที่ไล่จับผู้เห็นต่างทางการเมือง

(11 มิ.ย.65) นายรังสิมันต์  โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ ว่า...

"การไปให้ สส-สมาชิกพรรค ไล่แจ้งตำรวจเอาผิดคนที่วิจารณ์นโยบายกัญชาตามจังหวัดต่างๆ ไม่ต่างอะไรจากการที่รัฐบาลเที่ยวจับกุมดำเนินคดีต่อผู้เห็นต่างทางการเมือง

"ปชช. ควรมีเสรีภาพที่จะวิจารณ์นโยบายของพรรคการเมืองได้ นี่คือบททดสอบความใจกว้างด้วยว่าพร้อมรับฟังความเห็นแย้งจาก ปชช. หรือไม่"

ส.ว.ยก 'ชัชชาติ' คลื่นลูกใหม่ทางการเมือง สะท้อนปรากฏการณ์ คนเบื่อ 'สลิ่ม-สามกีบ'

นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก โดยมีรายละเอียดดังนี้...

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ คลื่นลูกใหม่ทางการเมือง

ถึงจุดที่คนไทยเบื่อความขัดแย้ง ความแตกแยกของคนในชาติ เบื่อเหลืองแดง เบื่อสามกีบ เบื่อสลิ่ม เบื่อคนรุ่นใหม่รุ่นเก่า เขาจึงแสดงออกโดยเลือกชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เชื่อว่าจะเป็นตัวแทนของคนที่เป็นกลางๆ ไม่ซ้ายไม่ขวา เชื่อมต่อได้ทุกรุ่นทุกสี มีความทันสมัย ไม่เจ้าขุนมูลนาย ไม่พิธีรีตองเกินความจำเป็นและไม่ติดกับระบบราชการมากเกินไป เป็นผู้บริหารที่เป็นของคนทุกๆ คน แค่ทำงานไม่ถึง 2 สัปดาห์ก็เห็นความเปลี่ยนแปลงในหลายมิติของการจัดการกรุงเทพมหานคร เป็นความหวัง ตอบความหิวกระหายของคนไทยที่อยากได้นักการเมืองเช่นนี้

เชื่อว่าชัชชาติ สิทธิพันธุ์ คงนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงการเมืองใหม่ ลดความขัดแย้งในสังคมไทย สร้างความปรองดองสมานฉันท์ ก้าวข้ามปัญหาทั้งปวงที่ทับถมอยู่ในประเทศนี้ถึง 20 ปี เป็นคลื่นลูกใหม่และพายุทางการเมืองที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง

นายวันชัย กล่าวอีกว่า พลตรีจำลอง ศรีเมือง ผู้ว่ากทม. 2 สมัยในอดีต จากป้ายฝาเข่ง ใส่เสื้อม่อฮ่อม รองเท้าแตะ ถีบจักรยานหาเสียง กลายเป็นจำลองฟีเวอร์ พัฒนาไปสู่การเมืองยุคใหม่ในขณะนั้น เป็นพรรคพลังธรรม มี ส.ส.ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อยู่ในระดับพรรคการเมืองขนาดกลาง สร้างคนสร้างบทบาททางการเมือง สร้างความหวังให้กับคนไทยได้ในระดับหนึ่ง ยังมีนักการเมืองจากพลังธรรมที่โลดแล่นอยู่ในเวทีขณะนี้รวมทั้งทักษิณ ชินวัตร 

พายุลูกใหม่ทางการเมืองอย่างชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็คงจะพัฒนาไปเช่นนั้น เป็นพายุและคลื่นทางการเมืองที่สาดซัดไปทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัดในอนาคตทางการเมืองต่อไป

'รัสเซีย' ช่วยส่งน้ำมัน 'จีน' ช่วยส่งเวชภัณฑ์-ข้าว-ดูแลหนี้ น้ำใจที่ ศรีลังกา ไม่เคยได้จากการคบตะวันตกกว่า 100 ปี

ที่ผ่านมาในยามศรีลังกา มีกินมีใช้ แต่ก็มักจะถูกฝ่ายระเบียบโลกเก่า สหรัฐอเมริกา และอดีตเจ้าอาณานิคมสหราชอาณาจักร ปอกลอกจนหมดตัว ผ่านนโยบายรัฐบาลที่โปรตะวันตก เห่อตามกระแสถือครองเงินดอลลาร์, ยูโร ในสัดส่วนที่สูงมากกว่าเงินตราชาติตนเอง

ส่งผลให้เกิดการละทิ้งภาคเกษตรลงไป 50% จนรายได้ลดหายไป, พิมพ์เงินตราท้องถิ่นตนเพิ่มไม่บันยะบันยังโดยไร้ทองคำค้ำประกัน, ใช้จ่ายฟุ้งเฟ้อไปกับค่าพลังงานสิ้นเปลือง, ปิดโรงกลั่นน้ำมันดิบ ซื้อน้ำมันสำเร็จรูปเอาสะดวกเข้าว่า...

...ไม่นานนักอัตราเงินเฟ้อก็ทะยานกว่า 39%

พอหมดหนทาง ก็พิมพ์เงินเพิ่มไปใช้หนี้ต่างประเทศ และพันธบัตร จากนั้นจบตามสูตรด้วยการไปขอกู้ IMF กับธนาคารโลก พร้อมทั้งทำแผนขายสินทรัพย์ชาติ เช่น สายการบิน ฯลฯ ซึ่งถือเป็นสูตรสำเร็จในการโจมตีค่าเงินแบบชาติตะวันตก ที่ทำกันมานานแล้วกับหลายชาติที่รัฐบาลโปรตะวันตก และรู้ไม่เท่าทัน (เฉกเช่นพิษต้มยำกุ้งทางเศรษฐกิจ)

สุดท้ายเงินคงคลังของศรีลังกาเกลี้ยง ถังแตก ไม่มีเงินชำระหนี้คงค้างค่าน้ำมันสหรัฐฯ แม้จะแค่ 53 ล้านดอลลาร์ ด้านเรือน้ำมันก็จอดจิบกาแฟ นอนตากอากาศสบายใจเฉิบอยู่นอกชายฝั่งไม่ยอมเทียบท่า ท่ามกลางปัญหาทุกข์เข็ญของคนศรีลังกาทั้งประเทศที่ขาดแคลนน้ำมัน ดับลมหายใจการเดินทางด้วยรถยนต์, เรือประมงต้องงดหาปลา, ไฟฟ้าดับแทบตลอดวัน, ขาดยารักษาโรค, อาหาร, สินค้าจำเป็นอุปโภคบริโภค ประชาชนเสียชีวิตไปหลายสิบคนเนื่องจากไม่มีน้ำมันเติมรถไปโรงพยาบาล ขณะที่อุปกรณ์การแพทย์ฉุกเฉินก็ขาดกระแสไฟฟ้าเชื่อมต่อ

ซ้ำร้าย!! รัฐบาลศรีลังกา ที่เคยรับคำสั่งมหาอำนาจจากระเบียบโลกเก่า ก็ได้ทำสิ่งที่ผิดร้ายแรง คือ ประกาศอายัดเครื่องบินโดยสารรัสเซีย แต่เมื่อจนตรอกยากจนทุกข์ยาก ชาติตะวันตกสุดโหดเหล่านั้นก็นิ่งดูดายเสีย ไม่ส่งน้ำมัน ยารักษาโรค หรือแม้จะส่งความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมไปให้ ทำให้รัฐบาลศรีลังกา ต้องดิ้นเฮือกสุดท้ายบากหน้ายอมขัดคำสั่งสหรัฐฯ โดยติดต่อขอซื้อน้ำมันจากรัสเซียโดยไม่มีเงิน ซึ่งรัฐบาลศรีลังกาไม่มีความหวังเลยว่ารัสเซียจะช่วยเนื่องจากไปอายัดเครื่องบินโดยสารรัสเซียไว้

>> แต่โลกไม่ได้เลวร้าย และ 'รัสเซีย' ก็ไม่ได้โหดร้ายตามที่ชาติตะวันตกปั้นภาพให้น่ากลัว เมื่อรัฐบาลศรีลังกา กล้าอ่อนน้อมมาขอ ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียก็กล้าให้ ตามสไตล์ 'นักเลงโบราณ ใจถึงพึ่งได้' โดยปูตินสั่งบริษัทพลังงานรัฐวิสาหกิจของรัฐ ขนน้ำมันดิบใส่เรือมาเทียบท่าศรีลังกาในเวลาไม่กี่อึดใจเท่านั้น 

ส่วนเรื่องเงินค่าน้ำมันน่ะหรอ!! สำหรับรัสเซียแล้วเล็กน้อยมาก ให้ติดหนี้ไว้ก่อนมีเมื่อไรค่อยมาใช้ คนจะอดตายอยู่แล้วไม่ใช่เวลามาขูดเลือดกับปู 

เรื่องนี้แม้แต่รัฐบาลศรีลังกา ยังแทบไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ เพราะที่ผ่านมาคบกับชาติตะวันตกมาเป็นร้อยปี มีแต่ถูกเอาเปรียบกดขี่เอาแต่ได้แถมยังถูกปอกลอกมาตลอด ขณะที่รัสเซียไม่เพียงแค่ช่วยขนน้ำมันมาให้ถึงท่า แต่ยังส่งทีมงานมาช่วยเดินเครื่องโรงกลั่นน้ำมันอีกด้วย ส่งผลให้เกิดผลผลิตพลอยได้จากการกลั่นน้ำมันดิบตามมามากมาย เช่น ก๊าซเหลวหุงต้ม, น้ำมันหล่อลื่น, น้ำมันเตา, ยางมะตอย ฯลฯ

งานนี้ส่งผลให้ศรีลังกา ละอายใจมากแพ้ใจนักเลงรัสเซีย จนต้องรีบปล่อยอายัดเครื่องบินโดยสารทันที

>> ล่าสุดมิตรแท้ ก็โผล่มายามยากจนข้นแค้นอีกราย คือ 'จีน' ที่ได้ขนส่งเวชภัณฑ์ ข้าว และสิ่งของบรรเทาทุกข์เพื่อมนุษยธรรมฉุกเฉินล็อตแรก 500 ล้านหยวน ถึงศรีลังกาเป้นที่เรียบร้อย และที่คาดไม่ถึงคือ นายจ้าว ลี่เจี้ยน (Zhao Lijian) โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน แถลงว่า "จีนจะช่วยศรีลังกาจัดการกับภาระหนี้สินที่มีต่อจีน และหนี้กับประเทศอื่น รวมทั้งหนี้กับองค์กรระหว่างประเทศ (IMF, World bank) อีกด้วย"

...เพื่อนกินหาง่ายยามเรามีกินมีใช้ แต่พวกเขาจะพากันหายหัวไปเมื่อเราตกยาก แต่เพื่อนแท้จริงใจจะมาช่วยเหลือในยามที่เราไม่เหลืออะไรเลย แค่อาหาร เวชภัณฑ์ พลังงาน ให้ชีวิตรอดมีแรงเดินต่อได้ และยังช่วยดูแลหนี้ต่างๆ แค่นี้ก็ซึ้งใจ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top