Tuesday, 8 October 2024
WeekendNews

'เฉลิมชัย'​ เดินหน้า '5ยุทธศาสตร์'​ ฝ่าวิกฤตโควิด จับมือเอกชน เร่งพัฒนา 'แอร์คาร์โก'​ พร้อมตั้งศูนย์ตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตรอาหาร เพิ่มศักยภาพการส่งออกเริ่มแห่งแรกที่ดอนเมืองก่อนขยายไปสุวรรณภูมิ ตั้งเป้าฮับอาเซียน

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แถลงวันนี้ (13​ มิ.ย) ว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งดำเนินการพัฒนาระบบการขนส่งทางอากาศ (Agriculture and Food Air Cargo Terminal: AFCT) สำหรับการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหาร ซึ่งจะมีการจัดตั้ง 'ศูนย์ตรวจสอบคุณภาพสินค้าเกษตร-อาหาร'​ โดยเริ่มโครงการนำร่องที่ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง และท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิเป็นลำดับถัดไปก่อนจะขยายโครงการไปยังท่าอากาศยานภูมิภาคที่มีความพร้อมเช่น​ เชียงใหม่, ขอนแก่น, หาดใหญ่, ภูเก็ต เป็นต้น​ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในภาคเกษตรอาหารซึ่งเป็นโอกาสของประเทศไทยภายใต้วิกฤติโควิด19

นายอลงกรณ์​ กล่าวต่อไปว่า การส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารต้องการความสะดวกรวดเร็วส่งถึงลูกค้าปลายทางทั่วโลกด้วยคุณภาพและมาตรฐานระดับสากล​ โดยคงความสดสะอาดอร่อยสามารถเพิ่มเวลาการบริโภคหรือเวลาการขาย (Shelf life) มากขึ้น

สำหรับศูนย์ตรวจสอบคุณภาพสินค้าเกษตรอาหาร ณ คาร์โกเทอร์มินัล​ ทำหน้าที่ให้บริการตรวจสอบรับรองสินค้าเกษตรอาหารเพื่อส่งออกตามเงื่อนไขของประเทศผู้นำเข้า และเป็นไปตามมาตรฐานสากล ประกอบด้วย สินค้าพืช ประมง และปศุสัตว์ โดยให้บริการกับผู้ขอรับบริการทั่วไปแบบวันสต็อปเซอร์วิสเพื่อบรรลุเป้าหมายการเป็นฮับการผลิตและขนส่งสินค้าเกษตรและอาหารของอาเซียน

“อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การระบาดของเชื้อโรคโควิด19 ที่ได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกและนำเข้าสินค้าเกษตรในปีที่ผ่านมา การประเมินการส่งออกอาหารของไทยในปี 2564 โดยสถาบันอาหาร คาดการณ์ว่าสินค้าอาหารของไทยจะมีมูลค่า 1.08-1.10 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.2-12.2% เทียบกับปีที่ผ่านมาที่หดตัวจากผลกระทบของโควิด19 

"ดังนั้น ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชน จึงเป็นกลไกที่สำคัญในสนับสนุนการส่งออกผลิตสินค้าเกษตรและอาหารที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล และความปลอดภัยของสินค้าเกษตรไทย จะเป็นส่วนสำคัญในการรักษาความเชื่อมั่นของตลาดต่างประเทศ เพิ่มปริมาณและมูลค่าสูงขึ้น และส่งผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวมต่อไป”

นายอลงกรณ์​ กล่าวอีกว่า​ โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเดินหน้ายุทธศาสตร์ 'ตลาดนำการผลิต'​ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน ที่จะขับเคลื่อนการทำงานด้วย 5 ยุทธศาสตร์ และ 15 แนวทางนโยบายหลักโดยเฉพาะยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิตเป็นยุทธศาสตร์หลักเพื่อปฏิรูปภาคเกษตรและ การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ด้านการเกษตร เพื่อตอบสนองต่อห่วงโซ่อุปทาน ที่เปลี่ยนแปลงไป และเพื่ออํานวยความสะดวกในการส่งออก และนําเข้าสินค้าเกษตร

'หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์'​ ทรงประทาน 'ผ้าไตร'​ ในพิธีอุปสมบท ณ วัดดาวดึงษาราม (กทม.)

วันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน 2564 ตามที่เจ้าภาพ กราบทูลขอประทาน 'ผ้าไตร'​ เนื่องในพิธีอุปสมบท 'นายวรกานต์ พรพรหมพิพัฒน์'​ ณ.พัทธสีมาวัดดาวดึงษาราม แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ โดย มี '​พระเทพสุวรรณเมธี'​ รองเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เจ้าอาวาสวัดสุวรรณาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย 'นายบุญชู พรพรหมพิพัฒน์'​ (บิดา) และ นางสุภาวรรณ์ พรพรหมพิพัฒน์ (มารดา) เป็นประธานฝ่ายฆราวาส  

ในการนี้ 'หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์'​ พระราชปนัดดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๔) ทรงกรุณาให้ 'นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล'​ นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย เชิญ 'ผ้าไตรประทาน' แก่ 'นายวรกานต์ พรพรหมพิพัฒน์'​ ณ พัทธสีมา วัดดาวดึงษาราม แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัดกรุงเทพฯ ทรงอนุโมทนา และประทานพรขอให้เจริญในธรรม บำเพ็ญตนให้อยู่ในสมณะเพศ ปฏิบัติกรรมฐาน ศึกษาพระธรรมวินัย เพื่อให้เป็นอานิสงส์ เกิดประโยชน์สุขต่อตนเอง และบุพการี สืบไปฯ 

ทั้งนี้ด้วยความตั้งใจในการอุปสมบทครั้งนี้ ผู้บวชขอน้อมถวายเป็นพระราชกุศล แด่ สมเด็จพระราชปิตุลา บรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช เนื่องในวันภาณุพันธุ์ ตรงกับวันที่ 13 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันเสด็จทิวงคต 

ในพิธีอุปสมบทครั้งนี้ มี 'พระสิริชัยโสภณ'​ เจ้าอาวาสวัดดาวดึงษาราม เจ้าคณะแขวงบางยี่ขัน เป็นพระอุปัชฌาย์ ให้การอุปสมบท 'นายวรกานต์ พรพรหมพิพัฒน์'​ เป็นพระภิกษุสงฆ์ เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา สืบไป ได้รับฉายาทางธรรมว่า 'อัตถกันโต'​ ผู้ใคร่ประโยชน์

การอุปสมบทในครั้งนี้ปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรคระบาด เชื้อไวรัสโควิด -19 มีตรวจวัดอุณหภูมิ ล้างมือด้วยแอลกอฮอร์ สวมหน้ากากอนามัย ลดการสนทนา ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคเพื่อทำความสะอาด อย่างเคร่งครัด

‘ตำรวจชวนคิด’ เตือนสติประชาชน คิดให้ดีก่อนจะเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ ทั้งผู้จัดให้มีการเล่น ผู้เล่น ผู้ชักชวนให้เล่น เสี่ยงคุก เสี่ยงถูกยึดทรัพย์ เสี่ยงสูญเงิน

วันที่ 19 มิ..2564 ...ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงพัฒนาการของการเล่นพนันออนไลน์ โดยในยุคที่ประชาชนเข้าถึงโทรศัพท์สมาร์ทโฟน/สื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงระบบธนาคารออนไลน์มากขึ้น ทำให้ผู้จัดให้มีการเล่นการพนันพยายามเข้าถึงประชาชนมากขึ้น มีการชักชวนในรูปแบบต่างๆ ทั้งส่งลิ้งก์เว็บไซต์การพนันมาทางข้อความสั้น(SMS) โฆษณาในเว็บไซต์หรือสื่อสังคมออนไลน์หลายๆแพลตฟอร์ม รวมถึงการนำนายแบบนางแบบ พริตตี้ ยูทูบเบอร์ มาชักชวนให้เล่นการพนัน โดยอ้างว่าเล่นง่ายๆ สนุก ได้เงินแน่นอน ทำให้มีประชาชนทั้งผู้ใหญ่และเด็ก เยาวชน หลงเชื่อหลวมตัวเข้าไปเล่นการพนันออนไลน์ จนมีบางรายหมดเนื้อหมดตัว อาจเป็นสาเหตุให้ไปก่ออาชญากรรมอย่างอื่น ทั้งอาชญากรรมเกี่ยวกับทรัพย์ ยาเสพติด หรือถึงขนาดฆ่าตัวตายเพราะติดหนี้การพนันออนไลน์

สำหรับการพนันออนไลน์นั้น จะมีผู้เกี่ยวข้องมีอยู่ 3 กลุ่ม ล้วนแล้วแต่ผิดกฎหมายทั้งสิ้น ซึ่งมีอัตราโทษแตกต่างกันไป ได้แก่…

1.กลุ่มผู้จัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์ ทั้งเจ้าของเว็บไซต์ ผู้บริหารจัดการเว็บไซต์ ผู้ดูแลระบบ (แอดมิน) ผู้ทำการตลาดหรือโปรโมทเว็บไซต์ เจ้าของบัญชีธนาคารที่ยินยอมรู้เห็นเป็นใจเปิดบัญชี เป็นต้น จะมีความผิดตาม พ...การพนันฯ มาตรา 12 มีอัตราโทษโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากกระทำความผิดหลายกรรม อาจถูกดำเนินคดีในลักษณะต่างกรรมต่างวาระ นอกจากนี้การจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ยังเป็นหนึ่งในมูลฐานความผิดตาม พ...ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ..2542

ดังนั้นหากเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนได้ว่าผู้กระทำผิดโอน รับโอน หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด หรือปกปิดที่มาของทรัพย์สินนั้น หรือกระทำการใดๆ เพื่อปกปิดการจำหน่าย การโอน การได้สิทธิใดๆ ของทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด หรือได้มาหรือครอบครองทรัพย์สิน โดยรู้ว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ผู้กระทำผิดจะต้องถูกดำเนินคดี ตามมาตรา 5 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจถูกยึดหรืออายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดด้วย

2. ผู้เล่นการพนัน จะมีความผิดตาม พ...การพนัน มาตรา 12ฯ มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ยังเสี่ยงที่จะถูกเข้าถึงข้อมูล Privacy Data(ข้อมูลส่วนตัว)ที่ให้กับเว็บไซต์การพนันอาจถูกนำไปใช้ และอาจถูกโกงเงินไม่สามารถถอนเงินคืนจากเว็บไซต์พนันได้

3. ผู้ประกาศ โฆษณา ชักชวนให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนัน ทั้ง เซเลป นายแบบนางแบบ พริตตี้ ยูทูบเบอร์ จะมีความผิดตาม พ...การพนัน มาตรา 1ฯ มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้หากการกระทำความผิด เป็นไปในลักษณะมีการชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทําให้เด็กมี ความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทําผิด ผู้ปกครองหรือผู้กระทำผิดก็อาจถูกดำเนินคดีตาม พ...คุ้มครองเด็ก พ..2546 ในมาตรา 26(3) ประกอบ มาตรา 78 มีอัตราโทษจําคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับอีกด้วย

...ศิริวัฒน์ฯ จึงฝากเตือนมายังกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้ง 3 กลุ่ม ให้คิดให้ดี ก่อนที่ยุ่งเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ เพราะจะถูกจับกุมดำเนินคดี อาจจะสูญทั้งเงินและติดคุกได้

ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้มีข้อห่วงใยเกี่ยวกับปัญหาการชักชวนให้มี การเล่นการพนันออนไลน์ทายผลฟุตบอล จากการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ‘ยูโร 2020’ ซึ่งถือเป็นความผิดตามกฎหมาย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล...สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้กำชับให้กวดขันจับกุมและทำการสืบสวนปราบปรามการพนันออนไลน์ทายผลฟุตบอลอย่างจริงจัง อันจะส่งผลให้เกิดปัญหาอาชญากรรมอื่นๆ ต่อประชาชนทั่วไปตามมาอีกจำนวนมาก

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอประชาสัมพันธ์มายังพี่น้องประชาชน ขอให้ช่วยกันหยุดวงจรการพนันออนไลน์ โดยหากพบเห็นการกระทำความผิดหรือพบเบาะแสเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ สามารถแจ้งไปยังสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลข 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง

'ภารกิจพิชิตหัวใจ'​ ภารกิจสุดยิ่งใหญ่​ จากประสบการณ์ของ 'ตำรวจโครงการพระราชดำริ'​ ที่อยากบอกต่อ!!

พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.2564 ตำรวจโครงการพระราชดำริ รับภารกิจพิชิตหัวใจ โดยมี ร.ต.อ.พิเชษฐ วิเศษโชค รอง สว.กก.6 บก.จร. นำตำรวจโครงการพระราชดำริจำนวน 11 นาย เข้าร่วมภารกิจอำนวยความสะดวกให้ทีมแพทย์ นำหัวใจจากผู้ป่วยที่บริจาคอวัยวะจาก รพ.พิษณุโลก เปลี่ยนถ่ายให้กับผู้ป่วยคนหนึ่งที่ รพ. ศิริราช ด.ต.อารยะ ป้อมค่าย ผบ.หมู่งาน 2 กก.6 บก.จร. เล่าว่าภารกิจพิชิตหัวใจภารกิจครั้งนี้เป็นหัวใจดวงที่ 38

ในอดีตครั้งแรก​ ได้รับการประสานจากสภากาชาดไทย​ ให้ทำภารกิจนำส่งหัวใจ ก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ที่ผ่านมาคิดว่ามีแต่ในหนัง ก็คิดว่านี่คือหัวใจของคน ไม่ใช่อวัยวะ เช่น แขน ขา ที่จะนำไปส่งต่อเพื่อมอบชีวิตใหม่ให้อีกชีวิต ครั้งนั้นปฎิบัติภารกิจ ดำเนินการด้วยเฮลิคอปเตอร์ ที่สนามบุญยะจินดา ซึ่งได้รับแจ้งว่าผู้มอบต้องการส่งต่อชีวิตใหม่เพื่อสร้างบุญกุศลให้ตัวเอง เนื่องจากผู้มอบเกิดภาวะสมองตาย โดยภารกิจแรกในตอนนั้นทราบจากทีมแพทย์ ว่า... 

เมื่อถึงเวลาผู้รับโดยแพทย์จะต้องเปิดช่องอกรอหัวใจที่ผู้มอบส่งให้เพื่อมีชีวิตใหม่ ซึ่งภารกิจพิชิตหัวใจต้องทำให้เสร็จภายใน 4 - 5 ชั่วโมง ตั้งแต่ขั้นตอนแรกคือการตัดเส้นเลือดใหญ่จากผู้มอบ จนถึงการผ่าตัดใส่หัวใจ ทุกครั้งต้องแข่งกับเวลา ห้ามมีความผิดพลาดแม้แต่นาทีเดียว เพราะนั่นหมายถึงชีวิตที่กำลังรอ 

แต่เหนือสิ่งอื่นใด​ ต้องขอบคุณพระบารมีของในหลวงรัชกาลที่ 9 และ ในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่สร้างโครงการตำรวจจราจรในพระราชดำริขึ้นมา​ โดยทุกครั้งที่ฝนตก ฟ้าร้อง ระหว่างปฎิบัติภารกิจจะนึกถึงและอธิษฐานถึงพระบารมีของพระองค์ท่านเสมอ จนสิ่งที่เป็นอุปสรรคก็มักจะหายไป 

นอกจากนี้ต้องขอบคุณพี่น้องประชาชนที่คอยหลีกทางทำให้ภารกิจสำเร็จด้วยดีทุกอย่างต้องปลอดภัยทุกครั้ง ซึ่งเราต้องนึกถึงผู้ป่วยที่รอรักษาอยู่ แม้ไม่เคยเจอผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว แต่ทุกครั้งที่มีข่าวออกไป​ มีญาติเข้ามาขอบคุณ​ มีคนมาขอบคุณในเฟซบุ๊กเพจตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ กองบังคับการตำรวจจราจร ก็รู้สึกดีแล้ว และต้องขอบคุณพระองค์ท่านที่สร้างโครงการนี้ขึ้นมาทำให้พวกเราได้ช่วยเหลือประชาชน 

"ดีใจที่ได้ทำหน้าที่นี้และภูมิใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเวลาที่ไปช่วยประชาชนแล้วได้ยินว่าตำรวจพ่อหลวงมาแล้ว ตำรวจของพระราชา มาแล้วพวกเราปลอดภัยได้ พวกเรามีความสุขที่สุดที่ได้เห็นเสื้อกั๊กสีน้ำเงินแบบนี้ แค่นี้พวกผมตำรวจโครงการพระราชดำริก็ภูมิใจแล้ว"

'ตำรวจ' เตือนภัย!! ระวังถูกแท็กเฟซบุ๊ก​ พร้อมภาพข่าวอุบัติเหตุหรือภาพลามก อย่ารับแท็กเด็ดขาด อาจถูกแฮกเฟซบุ๊กไม่รู้ตัว

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท.ในฐานะ รอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ช่วงนี้ในเฟซบุ๊กของพี่น้องประชาชน อาจจะมีคนที่เป็นเพื่อนหรือไม่ใช่เพื่อนของเรามาแท็กเฟซบุ๊ก และแท็กพร้อมกับผู้อื่นอีกหลายสิบคน ซึ่งข้อมูลที่ส่งมาประกอบด้วยลิงก์ภาพข่าวอุบัติเหตุ​ หรือภาพข่าวลักษณะลามกอนาจาร จากสำนักข่าวมีชื่อบ้าง ไม่มีชื่อบ้าง หากเรามีความสนใจข่าวที่แท็ก แล้วกดเข้าไปดูจะพบว่ามีหน้าต่างให้เรากรอกอีเมลและ พาสเวิร์ดเข้าเฟซบุ๊กใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก 

เพราะลิงก์ดังกล่าวเป็นลิงก์หลอกลวง ที่แฮกเกอร์สร้างมาเพื่อลวงให้เรากรอกข้อมูล อันได้แก่ อีเมลกับรหัสผ่านเฟซบุ๊ก ทำให้แฮกเกอร์ทราบข้อมูล และเข้าถึงบัญชีเฟซบุ๊กของเราได้ หากใครกรอกข้อมูลไป เฟซบุ๊กอาจถูกแฮก จากนั้นแฮกเกอร์จะเปลี่ยนรหัส​ ทำให้เราไม่สามารถเข้าเฟซบุ๊กของเราได้ สุดท้ายแฮกเกอร์อาจเอาบัญชีเฟซบุ๊กของเราไปกระทำความผิด เช่น หลอกยืมเงินเพื่อนในเฟซบุ๊กของเรา หรือ นำไปหลอกลวงฉ้อโกงผู้อื่น เป็นต้น

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีนโยบายในการสร้างความรับรู้ให้กับประชาชนในการป้องกันตัวเองมิให้ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรในทุกรูปแบบ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงฝากเตือนพี่น้องประชาชนที่พบว่าบัญชีเฟซบุ๊กตัวเองถูกแท็กในลักษณะดังกล่าว ไม่ควรกดเข้าไปดู หรือ กรอกอีเมลกับรหัสผ่านอย่างเด็ดขาดเพราะท่านอาจตกเป็นเหยื่อของแฮกเกอร์ 

อย่างไรก็ตาม หากท่านถูกแฮกเฟซบุ๊กไปแล้วและไม่สามารถเข้าเฟซบุ๊กตัวเองได้​ ให้ปฏิบัติการ 3 แจ้ง คือ... 

1.​ แจ้ง​ (Report) เฟซบุ๊ก เพื่อให้เฟซบุ๊กกู้คืนบัญชีกลับมาให้เรา
2.​ แจ้งเพื่อนของเราในทุกช่องทางว่าเฟซบุ๊กเราถูกแฮก 
และ​ 3.​ แจ้งความกับพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจได้ตลอด 24 ชั่วโมง

'ผู้ช่วยฯ รอย'​ เร่งสปีด!! สำรวจความคิดเห็น ปรับปรุงเครื่องแบบสายป้องกันปรามปราบ ผ่านคิวอาร์โค้ด ภายใน 30 มิ.ย.นี้

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2564 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.เปิดเผยว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้มีนโยบายให้พัฒนาเครื่องแบบสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายงานป้องกันปรามปราบ​ (ปป.)​ และนำไปทดลองใช้ที่​ สน.บางยี่ขัน,​ บุคคโล และจักรวรรดิ เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา  

หลังจากนั้นได้เก็บข้อมูลความเห็นการใช้งานของผู้สวมใส่ เพื่อนำมาพัฒนาให้มีความเหมาะสม  เข้ากับสภาพการปฏิบัติงานจริง จนออกมาเป็นชุดเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจสายงานป้องกันปราบปรามแบบที่ 2 

ทั้งนี้​ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการปรับปรุงเครื่องแบบสายงานป้องกันปราบปรามที่พัฒนาใหม่นี้​ ให้มีความเหมาะสม และเอื้อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ สวมใส่แล้วมีความคล่องตัว เป็นมาตรฐานสากล เข้ากับสภาพปัจจุบันยิ่งขึ้น ทางตำรวจจึงได้ออกแบบสำรวจความคิดเห็นตำรวจ สายงาน ปป.​ ทั่วประเทศ โดยสามารถเข้าไปดาวน์โหลด ตอบแบบสำรวจได้ตาม QR Code ให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 30 มิ.ย.นี้

ในขณะเดียวกัน พล.ต.ท.รอย​ ได้มีหนังสือ ด่วนที่สุด เรื่อง สำรวจความคิดเห็นการพัฒนาเครื่องแบบสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายงานป้องกันปราบปราม ครั้งที่ 2 ถึง ผบช.น., ภ.1-9 และ ก.​ ให้นำเครื่องแบบสายตรวจใหม่ทดลองใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ โดยทางบช.น ได้ดำเนินการทดลองใช้ที่สน.บางยี่ขัน,​สน.บุคคโล และ สน.จักรวรรดิ ระหว่างวันที่ 3-13 พ.ค.64 เป็นระยะเวลา 10 วัน 

ต่อมาคณะทำงานนโยบายการพัฒนางานป้องกันปราบปราม ได้ลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลการใช้งานเครื่องแบบและสำรวจความเห็นจากกลุ่มตัวอย่าง มาทำการวิจัยและพัฒนาออกแบบเป็นชุดเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจสายงานป้องกันปราบปรามแบบที่ 2 เพื่อให้การปรับปรุงเครื่องแบบสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายงานป้องกันปราบปรามมีความคล่องตัวเหมาะสมกับการปฏิบัติหน้าที่ในสภาพปัจจุบัน และเป็นมาตรฐานสากล 

ทำให้เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานสูงสุด จึงให้ท่านแจ้งข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่สายงานป้องกันปราบปรามในสังกัดกรอกแบบสำรวจความคิดเห็นการพัฒนาเครื่องแบบ สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายงานป้องกันปราบปราม ให้แล้วเสร็จภายใน 30 มิ.ย.64 

ซึ่งสามารถดาวน์โหลดแบบสำรวจฯ ได้ตาม QR code นี้ โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก., คณะทำงานนโยบายการพัฒนางานป้องกันปราบปราม รวบรวมสรุปข้อมูลผลการสำรวจดังกล่าว เสนอสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผ่าน ผอ.สยศ.ตร.) ภายในวันที่ 3 ก.ค.64 จึงแจ้งมาเพื่อทราบและดำเนินการ 'หนังสือดังกล่าวระบุ'​

สมบัติ อนันตรัมพร ประธาน บมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ฯ Update เทคนิคการใช้งานระบบสายสัญญาณ และอุปกรณ์เน็ตเวิร์คที่เหมาะกับ Data Center​ ผ่านงานสัมมนา “How to Manage Cabling & Networking for Data Center”

#INTERLINK

เมื่อวันที่​ 26 มิ.ย.2564​ คุณสมบัติ อนันตรัมพร ประธาน บมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ฯ (INTERLINK)​ ได้จัดงานสัมมนา “How to Manage Cabling & Networking for Data Center”

โดยกล่าวเปิดงาน ผ่านระบบ Zoom จากหัวหิน พร้อมนำทีมวิทยากรชั้นนำมา Update เทคนิคการใช้งานระบบสายสัญญาณ และอุปกรณ์เน็ตเวิร์คที่เหมาะกับ Data Center ให้กับผู้บริหารหน่วยงาน ไอที กลุ่มสถาบันการเงินกว่า 50 หน่วยงาน เพื่อให้กลุ่มลูกค้าเห็นภาพจริง และตอบโจทย์ทุกความต้องการ

สำหรับงานในครั้งได้มีการ​ ???? LIVE จากสนง.ใหญ่ อินเตอร์ลิ้งค์ กรุงเทพฯ

ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจเยี่ยมข้าราชการตำรวจ พร้อมมอบนโยบาย และกำชับเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติงานรับใช้ประชาชนให้ดีที่สุด

ที่ประชุมห้องประชุมชัยจินดา สภ.หาดใหญ่  อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.ต.อ เพิ่มพูน ชิดชอบ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสงขลา เข้าตรวจเยี่ยมสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ มอบนโยบายและกำชับในการปฏิบัติหน้าที่

โดยมี​ พล.ต.ท.ดำรัส วิริยะกุล ผทค.พิเศษ ตร.รรท รอง ผบช.ภ.9,​ พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จว.สงขลาและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้การต้อนรับ

พล.ต.อ เพิ่มพูน ชิดชอบ เผยว่า การลงพื้นที่เข้าตรวจเยี่ยมข้าราชการ สภ.หาดใหญ่ ในครั้งนี้ ถือเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ช่วงสถานการณ์โควิด 19 พร้อมทั้งเป็นการติดตามความคืบหน้าการปฏิบัติหน้าที่ที่ผ่านมา ซึ่งตนก็ทราบดีว่าตำรวจทุกนายไม่ได้หยุดพัก ต้องปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความสงบให้แก่ประชาชน จึงถือโอกาสลงมาเยี่ยมเยือน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และขอให้ข้าราชการตำรวจทุกนายมีความตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลรักษาความสงบบ้านเมือง เพื่อสร้างความมั่นใจ และรับใช้ประชาชนให้ดีที่สุด

จากนั้น เดินทางไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ที่สถานีตำรวจชุมชนตลาดใหม่ หรือ​ ป้อมโคบัง​ ที่เป็น สภ.ย่อย ของสถานีตำรวจ พร้อมให้โอวาทแก่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ให้ร่วมแรงร่วมใจ และสามัคคีกันปฏิบัติหน้าที่ ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ อย่าได้ย่อท้อต่อเหตุการณ์ต่างๆ และจงยึดมั่นในคุณงามความดี จะต้องให้ความสะดวก และบริการอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยเหลือประชาชน พร้อมทั้งได้มอบของที่ระลึกให้แก่ตำรวจชุมชน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ห้วงสถานการณ์โควิด 19 อีกด้วย

ที่มา: นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

'เฉลิมชัย'​ จับมือ 'จุฬาฯ'​ ขับเคลื่อนเทคโนโลยีเกษตร 4.0 เดินหน้า 'ผลิตวัคซีนลัมปิสกินจากพืช'​ เป็นโครงการเร่งด่วน​ ตามด้วยซิลิคอนวัลเลย์เกษตรไฮเทคเมืองนวัตกรรมแก่งคอย​ ตั้งเป้าสร้างรายได้​ 2,500 ล้าน

(26 มิ.ย.64)​ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังนำคณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ ประชุมหารือร่วมกับศาสตราจารย์ ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย ณ ห้องประชุม 202 ชั้น 2 อาคารจามจุรี 4 สำนักงานอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยว่า... 

ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรรมระหว่างกระทรวงเกษตรกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในโครงการแรก​ คือ​ การผลิตวัคซีนสัตว์ด้วยเทคโนโลยีโปรตีนพืช​ (Plant based Protein) เริ่มจากวัคซีนลัมปิสกิน​ ซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ในไทยที่แพร่ระบาดในโค-กระบือหลายสิบจังหวัดและต้องนำเข้าวัคซีนจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่ใช้เทคโนโลยีนี้ในการผลิตวัคซีนสำหรับสัตว์​ โดยกรมปศุสัตว์และบริษัทใบยาไฟโตฟาร์ม คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย​ พร้อมดำเนินการทันทีโดยวางเป้าการผลิตเพื่อใช้ในประเทศทดแทนการนำเข้าและขยายสู่การส่งออก นับเป็นประเทศแรกๆ​ ของโลกที่ใช้เทคโนโลยีโปรตีนพืชผลิตวัคซีนสัตว์โดยทีมนักวิจัยของไทย

“วันนี้ถือเป็นวันประวัติศาสตร์วันหนึ่งที่สำคัญต่อการพลิกโฉมหน้าภาคเกษตรกรรมของไทยเมื่อจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยตกลงจับมือร่วมทำงานกับกระทรวงเกษตรฯ เพราะการพัฒนาภาคเกษตรในยุคปัจจุบันตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำต้องใช้วิทยาการและเทคโนโลยีเป็นหัวใจสำคัญ

"นอกจากนี้จะมีโครงการความร่วมมืออื่นๆ​ ที่สำคัญเช่นโครงการพัฒนาสมุนไพรเพื่อสุขภาพ,​โครงการส่งเสริมสตาร์ทอัพเกษตร,​ โครงการพัฒนาฮาลาล, โครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองปาย, โครงการการพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่​ (Young Smart farmer) เป็นต้นรวมทั้งการพัฒนาพันธุ์ข้าวที่ขอฝากไว้เป็นพิเศษโดยมอบหมายให้ที่ปรึกษา​ อลงกรณ์ พลบุตร​ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหาร​ AIC เป็นผู้ประสานงานกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทั้งนี้จะมีการทำเอ็มโอยู​ภายในสัปดาห์หน้า"

ทางด้านศาสตราจารย์ ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย​ กล่าวว่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยินดีและพร้อมร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างเต็มที่ในการต่อยอดการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมสู่การใช้ประโยชน์ในการพัฒนาภาคเกษตรกรรมโดยทันทีโดยเฉพาะการพัฒนาวัคซีนสัตว์จากพืขเป็นโครงการนำร่องโครงการแรกรวมทั้งเสนอให้กระทรวงเกษตรฯ​ ใช้พื้นที่ของสยามสแควร์อินโนเวชั่นดิสตริคท์​ (Siamsquare Innovation District) ในการนำเทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมมาเปิดแสดงและสาธิตต่อยอดการลงทุนนวัตกรรมใหม่ๆ​ ของศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม​ (AIC) ทั่วประเทศ​ รวมทั้งการดำเนินโครงการแก่งคอยอินโนเวชั่นดิสตริคท์​ (Kaengkoi Innovation District (KID) โครงการเกษตรอัจฉริยะ​ (Smart Farming), โครงการสมาร์ท โอท็อป​ (Smart OTOP), โครงการดิจิตอลไอทีวัลเลย์ (Digital IT Valley)

นายอลงกรณ์​ กล่าวว่า โครงการความร่วมมือที่จะตามมาโดยเร็วคือโครงการพัฒนาแก่งคอยอินโนเวชั่นดิสตริคท์หรือเมืองนวัตกรรมแก่งคอยในพื้นที่ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่อำเภอแก่งคอยจังหวัดสระบุรีจะร่วมกันพัฒนาคล้ายกับซิลิคอนวัลเลย์​ (Silicon Valley) ในสหรัฐอเมริกาที่ริเริ่มดำเนินการโดยมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด​ (Stanford University) ซึ่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีสตาร์ทอัพกว่า​ 200​ บริษัทที่พร้อมต่อยอดการลงทุนสตาร์ทอัพกลุ่มเทคโนโลยีเกษตรและอาหาร​ รวมทั้ง​ (Foodtech และ​ Agritech Start-Up) โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยตั้งเป้าหมายเบื้องต้นจะสร้างคนสร้างงานสร้างรายได้กว่า​ 2,500​ ล้านบาท

สำหรับคณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ​ ประกอบด้วย นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายธนา ชีรวินิจ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, รองปลัดกระทรวง, ผู้ช่วยปลัดกระทรวง, เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร, อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร, อธิบดีกรมปศุสัตว์, รองอธิบดีกรมประมง, รองอธิบดีกรมวิชาการ, คณะทำงานที่ปรึกษารัฐมนตรีเป็นต้น

ส่วนคณะผู้บริหารจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยประกอบด้วย รองอธิการบดี, ผู้ช่วยอธิการบดี คณบดี และทีมนักวิจัยอีกหลายคน

ตำรวจคุมเข้ม!! พร้อมเดินตามนโยบายรัฐบาล​ สนับสนุนภารกิจ ศปม. ควบคุม ตรวจสอบแคมป์แรงงาน พื้นที่ กทม. ปริมณฑล และ จังหวัดชายแดนใต้ ป้องกันการแพร่เชื้อ Covid-19

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีตามที่ศูนย์ปฎิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) ได้มีการประชุม​ (26 มิ.ย.64) และสั่งการให้หน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง ร่วมปฎิบัติในการควบคุมการเคลื่อนย้ายแรง แคมป์คนงาน ในพื้นที่ กทม. ปริมณฑล และพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ นั้นว่า... 
.
'รัฐบาล'​ และ 'ศบค.'​ ได้มีมติที่ประชุมและมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส​ Covid-19 โดยเน้นย้ำฝ่ายความมั่นคงที่เกี่ยวข้องในการควบคุมการเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามจังหวัด ปิดแคมป์แรงงานก่อสร้าง เฝ้าระวังจุดเสี่ยง จุดหล่อแหลม สถานที่แออัด โดย​พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี​ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว และได้กำชับการปฎิบัติของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสอย่างจริงจัง

​ต่อมาในวันนี้ (26 มิ.ย.64) ศูนย์ปฎิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) ได้สั่งการหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง สำหรับมาตราการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ในพื้นที่ กทม. ให้ควบคุมหรือปิดแคมป์คนงานก่อสร้าง ไซด์งานก่อสร้าง โดยประสานการปฎิบัติงานระหว่าง กทม., หน่วยงานทหาร และ บช.น. ส่วนพื้นที่ปริมณฑล ได้แก่ สมุทรปราการ, นนทบุรี, สมุทรสาคร, นครปฐม และ ปทุมธานี ซึ่งจะกำหนดเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม โดย ศบค. ให้ควบคุมหรือปิดแคมป์คนงานก่อสร้าง ไซด์งานก่อสร้าง ประสานการปฎิบัติระหว่างจังหวัดที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานทหาร และ ตำรวจภูธรจังหวัดและในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ให้ควบคุมการเคลื่อนย้ายของประชาชนในพื้นที่ประสานการปฎิบัติระหว่าง จังหวัดพื้นที่กับ หน่วยงานทหาร และตำรวจภูธรจังหวัด

ด้าน​ ​พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับสั่งการ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงไปขับเคลื่อนอย่างจริงจังตามนโยบายรัฐบาล และ ศปม.กำชับหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องทุกพื้นที่​ ให้ประสานการปฎิบัติกับหน่วยงานในพื้นที่ทหาร, สาธารณะสุข และหน่วยที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด พร้อมสนับสนุนกำลัง เมื่อมีการร้องขอ เพิ่มมาตรการในการควบคุมโรค Covid-19 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ควบคุมการเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามจังหวัด ร่วมตรวจสอบหรือปิดแคมป์คนงานในพื้นที่กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มความเข้มพื้นที่ตามเส้นทางระหว่างแนวชายแดนและพื้นที่ตอนใน ตรวจสอบและควบคุมการเคลื่อนย้ายแรงงาน และเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงต่างๆ

​รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่ออีกว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังคงกำชับให้ ตํารวจภูธรภาค 1- 9, กองบัญชาการตํารวจนครบาล, สํานักงานตรวจคนเข้าเมือง, กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องประสานการปฎิบัติกับหน่วยงานความมั่นคง หน่วยสาธารณะสุขและหน่วยที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ มีมาตรการเข้มในการกวดขันจับกุมการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองตามช่องทางธรรมชาติ การนำพา การให้ความช่วยเหลือบุคคลต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พร้อมขยายผลดำเนินคดีถึงเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ตามพื้นที่ชายแดนทั่วประเทศโดยเฉพาะช่องทางธรรมชาติ พร้อมตั้งจุดตรวจ จุดสกัดกั้นเส้นทางเพื่อป้องกันการลักลอบเข้ามาสู่พื้นที่ชั้นใน ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ เมื่อได้รับการร้องขอ ออกตรวจสอบ ควบคุมการย้ายแรงงานข้ามจังหวัด แคมป์แรงงานก่อสร้าง สถานประกอบการ สถานบันเทิง แหล่งมั่วสุมที่สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไวรัส  

หากมีการปล่อยปละละเลย ก็จะพิจารณาความบกพร่องทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาดต่อไป นอกจากนี้หากพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง มายังหมายเลขสายด่วน​ 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชม.


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top