Sunday, 6 July 2025
TheStudyTimes

ความรู้สึกรักกับชอบนั้นแตกต่างกันอย่างไร? ความรักบางครั้งไม่ใช่การครอบครอง แต่ความรักคือการได้ชื่นชม มองเห็นคุณค่าของสิ่งนั้น โดยไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของ

เวลาที่ความรู้สึกบางอย่างของเราที่มีต่อใครบางคนก่อตัวขึ้นในใจ เคยสำรวจความรู้สึกนั้นไหมว่าเป็นความชอบ ความรัก หรือแค่ความหลงใหล หวั่นไหวเพียงชั่วครู่ มีคนมากมายออกมานิยาม ให้ความหมาย จัดหมวดหมู่ความรู้สึกว่ารู้สึกแบบไหน เรียกว่าอะไร แตกต่างและรับมือยังไง 

แต่สำหรับเราแล้ว คำตอบของการแยกแยะความรู้สึกที่ตอบโจทย์และชัดเจนที่สุด มีที่มาจากข้อความหนึ่ง ที่เราเองก็จำไม่ได้ว่าไปเจอมาจากที่ไหน อาจจะเฟซบุ๊ก หรือทวิตเตอร์ที่หลายคนแชร์ต่อๆ กันมา แต่จำได้ว่าแค่เห็นผ่านตาเพียงครั้งเดียวกลับจำได้ขึ้นใจ ข้อความนั้นเขียนว่า 

“รักกับชอบต่างกันยังไง
หากคุณชอบดอกไม้ คุณจะเด็ดมัน แต่หากคุณรักดอกไม้ คุณจะรดน้ำให้มัน”    

แค่เพียงเลื่อนผ่านก็ต้องหยุดชะงักเพื่อไล่อ่านข้อความนั้นซ้ำอีกครั้ง ความหมายแฝงที่ไม่ได้บอกคำตอบตรงๆ แต่เปรียบเทียบให้เห็นถึงความแตกต่างของความรู้สึกได้ลึกซึ้งและกินใจที่สุด เราได้ลองไปหาที่มาของข้อความนี้จากอินเทอร์เน็ต จนได้พบกับคำพูดของนักปราชญ์ชาวอินเดียท่านหนึ่งที่มีความหมายในเชิงเดียวกัน ไม่แน่อาจดัดแปลงกันมาอีกที ข้อความนั้นเป็นภาษาอังกฤษ ใจความว่า

“If you love a flower, don’t pick it up. 
Because if you pick it up it dies 
and it ceases to be what you love. 
So if you love a flower, let it be. 
Love is not about possession. 
Love is about appreciation.”

— Osho นักปราชญ์ชาวอินเดีย

ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า… 

“หากคุณรักดอกไม้ อย่าได้เด็ดมันขึ้นมา
เพราะเมื่อคุณเด็ดมันขึ้นมา มันก็จะตาย
และยุติการเป็นสิ่งที่คุณรัก
ดังนั้นหากคุณรักดอกไม้ ปล่อยให้มันเป็นไปอย่างนั้น
ความรักไม่ใช่การครอบครอง
ความรักคือการชื่นชม เห็นคุณค่าของสิ่งนั้น”

สิ่งที่ประโยคทั้งสองต้องการสื่อ ผ่านการตีความของเราคือ หากคุณรู้สึกชื่นชอบหรือหลงใหลในใครสักคน คุณคงรู้สึกเพียงแค่อยากจะดึงเขาหรือเธอมาครอบครองอยู่กับตัว ไม่สนว่าจะเป็นเช่นไร เพียงได้มีสิ่งนั้นไว้ข้างกาย เหมือนการเดินผ่านดอกไม้ที่ถูกใจ จนต้องขอเด็ดดอกไม้ดอกนั้นมาไว้กับตัว ซึ่งดูเป็นความคิดที่ให้ความสำคัญกับความรู้สึกของตัวเองเป็นหลัก 

ขณะที่หากคุณมีความรู้สึกรักในใครสักคนแล้ว คุณคงจะอยากเห็นเขาหรือเธอเติบโต เบ่งบาน สิ่งที่ทำได้อาจเพียงแค่เฝ้ามอง หวังดี และคอยทะนุถนอมอย่างสุดกำลัง โดยไม่จำเป็นต้องครอบครองเป็นเจ้าของ เพราะความรักที่แท้จริงไม่ใช่การครอบครอง ก็เหมือนกับการที่คุณหลงรักดอกไม้ดอกหนึ่ง สิ่งที่คุณต้องทำคืออย่าได้เด็ดมัน เพราะสุดท้ายมันก็จะเหี่ยวเฉาและตายลง สิ่งที่พอจะทำได้คือการเฝ้าดูแลรดน้ำ ใส่ปุ๋ยพรวนดิน เพื่อทำให้มันเติบโต งอกงามเป็นดอกไม้ดังเดิมที่ได้อยู่ในที่ของมัน ขอแค่ได้เฝ้ามองอยู่ไกลๆ รับรู้และมองเห็นความสวยงามและคุณค่าของมัน โดยไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของดอกไม้นั้นก็ได้ 

นิยามความรักสอนใจมีอยู่มากมาย แต่สุดท้ายอยู่ที่ตัวเราว่าจะเลือกหยิบไปใช้กับรูปแบบความรักของตัวเองได้ไหม บางครั้งความรักกับความชอบที่หลายคนเฝ้าค้นหานิยามอาจจะง่ายๆ แค่นี้เอง แท้จริงแล้ว ความรักไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย มันง่ายในตัวมันเอง เพียงแต่ผู้คนนั่นแหละที่ทำให้มันยาก 


เขียนโดย เพลิน ภารวี สุภามาลา Content Editor THE STUDY TIMES

คำคมการศึกษา ประจำวันที่ 10 สิงหาคม 2564

#คำคมการศึกษา ประจำวันที่ 10 สิงหาคม 2564

✏️หากมีคนประสบประมาทว่า คุณจะประสบความสำเร็จได้แค่ไหน จงก้าวหน้าให้ไกล จนคนเหล่านั้นไม่ได้ยินเสียงคำตอบของคุณ

ในปัจจุบันได้มีการนำสมุนไพรไทยอย่าง “ฟ้าทะลายโจร” มาใช้ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอัตราสูงขึ้นในทุกวัน เป็นที่น่าพึงพอใจอย่างมากในทางการแพทย์ ตัวฟ้าละลายโจรนั้นสามารถทำให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นและหายจากโรคระบาดนี้ได้อย่างรวดเร็ว

ในช่วงนี้การระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากจะมีแนวโน้มที่ไม่ลดลงแล้ว ยังเพิ่มขึ้นแบบน่าใจหายอีกด้วยครับ ท่ามกลางการโจมตีผลงานรัฐบาลในเรื่องของการใช้วัคซีน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริหารจัดการ หรือแม้กระทั่งคุณภาพของวัคซีน จนชาวบ้านระดับรากหญ้าหลาย ๆ ราย ไม่กล้าที่จะฉีดวัคซีน ถ้ามีเงินหน่อยก็เลือกที่จะรอวัคซีนทางเลือก ที่โรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งเริ่มให้มีการเปิดจองไปแล้ว 

ในส่วนของการจัดการ พอรัฐบาลมีมาตรการสั่งปิดแคมป์คนงานหลาย ๆ แห่งในกรุงเทพฯ ก็กลับกลายเป็นว่าทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายของแรงงานจำนวนมากไปยังต่างจังหวัดเพื่อกลับภูมิลำเนา ส่งผลให้ในต่างจังหวัดที่สถานการณ์เริ่มจะคลี่คลายแล้วกลับมารุนแรงขึ้นอีก และมีคลัสเตอร์ที่น่าเป็นห่วงที่สุดเพิ่มขึ้นมาคือคลัสเตอร์ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เนื่องจากการกระจายลงไปสู่เด็กเล็กที่ค่อนข้างลำบากมากในเรื่องของการดูแลตัวเอง 
ท่ามกลางกระแสอันเลวร้ายของโควิด-19 ก็มีอีกกระแสหนึ่งเกิดขึ้นมา นั้นคือกระแสที่ว่าด้วยแพทย์ทางเลือก คือ การใช้ฟ้าทะลายโจร ซึ่งเป็นพืชสมุนไพรที่คนไทยรู้จักกันมานาน อาจจะมีสรรพคุณในการป้องกัน และรักษาไวรัสโควิด-19 ได้ สำหรับวันนี้เราจะมาดูรายละเอียดของเรื่องนี้กันครับ 

ก่อนอื่นเรามารู้จักพืชสมุนไพรที่ว่าด้วยฟ้าทะลายโจรกันก่อน ฟ้าทะลายโจรมีชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Andrographis paniculata (Burm.f.) Wall.ex Nees และชื่อสามัญคือ Kariyat , The Creat ทั้งนี้นอกจากชื่อฟ้าทะลายโจร แล้วยัง มีชื่อเรียกอื่น ๆ อีก ตามแต่ละพื้นที่ เช่น หญ้ากันงู น้ำลายพังพอน ฟ้าสาง เขยตายยายคลุม สามสิบดี เมฆทะลาย ฟ้าสะท้าน เป็นต้น ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของฟ้าทะลายโจร เป็นไม้ประเภทล้มลุก มีความสูงประมาณ 30-70 เซนติเมตร ทุกส่วนของฟ้าทะลายโจรจะมีรสขม กิ่งเป็นใบสี่เหลี่ยม ใบเป็นประเภทใบเดี่ยว แผ่นใบสีเขียวเข้มเป็นมัน ดอก ช่อ ออกที่ปลายกิ่งและซอกใบ ส่วนที่ใช้เป็นสมุนไพรใช้ได้หลายส่วน ทั้งต้น ใบสด ใบแห้ง ฟ้าทะลายโจรเป็นสมุนไพรที่ได้ถูกบรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ พ.ศ. 2542 (บัญชียาจากสมุนไพร) กระทรวงสาธารณสุข ในรูปแบบยาเดี่ยว ลักษณะส่วนประกอบทางเคมีของฟ้าทะลายโจร มีสารเคมีประกอบอยู่หลายประเภท แต่ที่เป็นสารที่สำคัญในการออกฤทธิ์ คือ สารกลุ่ม Lactone ได้แก่ สารแอดโดรกราโฟไลด์ (andrographolide) สารนีโอแอนโดรกราโฟไลด์ (neo-andrographolide) สาร 14-ดีอ๊อกซี่แอนโดรกราโฟไลด์ (14-deoxy-andrographolide) 

โดยสรรพคุณหลักของฟ้าทะลายโจรคือ ใช้บรรเทาอาการไข้หวัด แก้ไอและเจ็บคอ ทั้งนี้ในประเทศไทยมีหน่วยงานที่ศึกษาเรื่องการใช้ฟ้าทะลายโจรในการรักษาไวรัสโควิด-19 อย่างจริงจังคือโรงพยาบาลอภัยภูเบศร โดยได้ร่วมกับคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในการศึกษาวิจัยถึงกลไกในการต้านโควิด-19 ของฟ้าทะลายโจร ทั้งนี้จากผลการศึกษาพบว่าสารแอนโดรกราโฟไลด์ ซึ่งเป็นสารสำคัญในฟ้าทะลายโจร มีความสามารถในการยับยั้งกระบวนการติดเชื้อไวรัสของเซลล์ปอดในมนุษย์ได้ โดยผ่านกลไกที่สำคัญ คือ การยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในทุกระยะ จึงมีโอกาสที่จะพัฒนาการใช้ฟ้าทะลายโจรเป็นยารักษาและป้องกันโควิด-19 ได้ โดยสามารถใช้เป็นยาเดี่ยว หรือใช้ควบรวมกับสูตรยามาตรฐาน ในการรักษาผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ได้ ปัจจุบันผลงานวิจัยดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติ Journal of  Natural Products ซึ่งเป็นผลการศึกษาที่เกิดขึ้นในระดับห้องปฏิบัติการเท่านั้น 

อย่างไรก็ตามเนื่องจากไวรัสโควิด-19 เป็นโรคอุบัติชนิดใหม่ที่พึ่งเกิดขึ้นมา ในการพัฒนายาที่มาใช้ในการรักษานั้น จะต้องมีการศึกษา วิจัย และค้นคว้าให้มีความลึกซึ้งมากกว่านี้ และอาจใช้ระยะเวลาในการศึกษา เพราะการใช้ยาแต่ละชนิดในการรักษาหรือป้องกันโรคนั้นจะต้องศึกษาผลกระทบที่เกิดจากการใช้ยาชนิดนั้นที่อาจเกิดขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามถึงแม้จะมีการศึกษาในระดับห้องปฏิบัติการเท่านั้น แต่ที่มีการศึกษาและเป็นที่ยอมรับอย่างชัดเจนแล้วคือการรับประทานฟ้าทะลายโจรจะช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคหวัดได้ ส่วนจะใช้ในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโควิด-19 ได้จริงหรือไม่ คงต้องมีการศึกษากันในระยะต่อไป เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น 

แต่แม้จะยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน 100% ยืนยันได้ว่าฟ้าทะลายโจรสามารถป้องกันหรือรักษาเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้จริงหรือไม่ก็ตาม การรับประทานฟ้าทะลายโจรก็เป็นประโยชน์ต่อเราอยู่แล้ว ในเรื่องของการป้องกันการเป็นหวัดได้ เพราะฉะนั้น ถ้าเราจะหาพืชสมุนไพรที่ชื่อฟ้าทะลายโจรมารับประทาน ก็ไม่เกิดความเสียหายอะไร นอกจากจะป้องกันการเป็นหวัดได้แล้ว เผลอ ๆ อาจจะสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายเราในการป้องกันโควิด-19 ท่ามกลางกระแสความสับสนในเรื่องของการใช้วัคซีน ได้อีกด้วยก็เป็นได้ครับ


เขียนโดย: ผศ.ดร.สุทัศน์ จันบัวลา อาจารย์ประจำสาขาวิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต

เราจะสร้างบรรยากาศในบ้านให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยได้อย่างไร? สร้างบรรยากาศครอบครัวให้ดี ให้รู้สึกปลอดภัย ไม่ว่าข้างนอกบ้านจะเป็นอย่างไร ทุกคนก็มีความสุขได้

มีคำกล่าวหนึ่ง ผู้หญิงคือผู้สร้างโลก บ้านจะมีความสุขหรือไม่ขึ้นอยู่กับความสุขของผู้หญิง (ภรรยา) แต่บังเอิญว่าความสุขของผู้หญิง (ภรรยา) ขึ้นอยู่กับความรักของผู้ชาย (สามี) สิ่งที่คุณกระทำต่อภรรยามีผลต่อลูกคุณเสมอ จึงขอฝากถึงคุณผู้ชายว่า รักภรรยาคุณให้มากๆ นะ แบ่งเบาภาระภรรยาให้มากๆ เข้าอกเข้าใจในความเป็นภรรยา ในความเป็นแม่ และในความเป็นผู้หญิงของเธอ ถ้าคุณอยากมีครอบครัวที่อบอุ่น และมีความสุขที่แท้จริง

พวกเราอยู่ในยุคของการเปลี่ยนแปลง ทุกๆ ครอบครัวต่างเผชิญกับความไม่แน่นอน การออกนอกบ้านคือสัญลักษณ์ของความไม่ปลอดภัย สิ่งแวดล้อมไม่น่าไว้วางใจ โรคระบาดทำให้ทุกคนต้องกลับเข้าบ้าน  บ้านคือพื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับทุกคนในเวลานี้ ประเด็นก็คือ เราจะสร้างบรรยากาศบ้านให้เป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยได้อย่างไร ในที่นี้คงไม่พูดถึงความสะอาด แต่เราจะขอพูดในมุมของความรู้สึกมากกว่า

จากผลงานวิจัย เมื่อบรรยากาศในบ้านไม่ปลอดภัย มีความขัดแย้ง หรือเสียงทะเลาะ ด่าทอ ร่างกายและจิตใจของลูก จะตอบสนองอัตโนมัติในการรวบรวมพลังงานร่างกายทั้งหมดเพื่อความพร้อมในการรับมือ และการป้องกันตัวเอง แทนที่จะได้ใช้พลังงานที่มีนำไปหล่อเลี้ยงสมอง ให้สมองและจิตวิญญาณเติบโตพัฒนาก้าวหน้า กลับต้องมาเสียพลังงานกับเรื่องความไม่ปลอดภัยในครอบครัว

จากประสบการณ์ตรง ทั้งพ่อและแม่ส่วนใหญ่ไม่รู้ตัว คิดว่าลูกรับได้ ลูกแข็งแรงมากพอ ไม่น่าจะเป็นไรมาก จริงๆ แล้วมีผลกระทบค่ะ ทั้งคำพูด การกระทำ การควบคุม ความหวังดี ความเหมาะสม การตัดสินใจ ที่ไม่เคยถามถึงความความรู้สึกและความสุข บ่อยครั้งที่การทะเลาะทำให้อีกคนเจ็บปวด ไม่สบายใจ ไม่พอใจ เสียใจ โกรธ เคียดแค้น และทุกข์ใจ

การที่คนในครอบครัวเก็บกดความรู้สึกเหล่านี้ไว้นานๆ ทำให้สุขกายและสุขภาพจิตทรุดโทรม นอนไม่หลับ หงุดหงิด อารมณ์เปราะ กังวล ว้าวุ่นใจ สงสัยลังเล  เจ็บป่วยง่าย โรคแปลกๆ จะเกิดขึ้น ไปหาหมอก็ไม่หาย แต่คุณเชื่อไหมว่าโรคเหล่านี้จะหายไปเมื่อสถานการณ์และบรรยากาศกลับมาเป็นปกติ  ด้วยการที่พ่อแม่ลูกให้อภัยกันและกัน กล่าวขอโทษกัน เราทำผิดเราต้องขอโทษ  เขายอมรับผิด เรายกโทษให้  ทำเพื่อทุกคน ทำให้บรรยากาศกลับมาเป็นปกติ ไม่ได้ทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่งแต่ทำเพื่อครอบครัว

โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ ผิดคือผิดถูกคือถูก พ่อแม่ทำผิดต้องขอโทษ แต่ก็มีอีกกรณีที่เอาคำขอโทษขออภัยมาเป็นเกมในการทำผิดซ้ำๆ คำขอโทษ ขอภัย ก็ไม่มีค่าอะไร เพราะแค่พูดออกไปงั้นๆ แต่ไม่คิดที่จะแก้ไขปรับปรุง แถมยังทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก อันนี้ก็คงต้องแก้ที่นิสัยและทัศนคติในการใช้ชีวิตส่วนตัว

ถ้าครอบครัวคุณอยู่ในบรรยากาศของความขัดแย้งและการทะเลาะ และยังแก้ไขไม่ได้ จงพูดให้ลูกเข้าใจว่าพ่อแม่ก็เป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ที่มีรักโลภโกรธหลง มีทั้งดีและไม่ดี ให้ลูกจดจำในส่วนที่ดีๆ ของพ่อกับแม่ไปนะ ส่วนที่ไม่ดีที่เป็นข้อบกพร่องก็ไม่ต้องเอาอย่าง สอนให้ลูกรู้จักแยกแยะ 

เมื่อทุกคนร่วมมือเป็นทีมเดียวกัน สร้างบรรยากาศครอบครัวให้ดี ให้รู้สึกปลอดภัย ไม่ว่าข้างนอกบ้านจะเป็นอย่างไร ทุกคนก็มีความสุขได้ โดยเฉพาะถ้าภรรยามีความสุข บ้านก็มีความสุข สามีก็มีความสุข ลูกๆ ก็มีความสุขอย่างแท้จริง สนับสนุนสร้างครอบครัวอบอุ่นด้วยการมีผัวเดียวเมียเดียวค่ะ 

.

เขียนโดย อ.นิธิมา กุญชร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาบุคลากร โปรเฟสชั่นนอล เทรนเนอร์
#Talktonitima


อ้างอิง
https://today.line.me/th/v2/article/k6MwRo
https://aboutmom.co/interview/benjarat-jongcharusphan/22044/
https://adaymagazine.com/domestic-violence-during-pandemic


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top