Wednesday, 26 June 2024
TheStudyTimes

มหัศจรรย์เด็กไทยสร้างชื่อ!! 'พลอย พิชามญชุ์' ได้รับการตอบรับเข้าเรียน จากสองมหาวิทยาลัยระดับโลก อย่าง Massachusetts Institute of Technology (MIT) และ Harvard University

การอบรมบ่มเพาะจากครอบครัวคุณพ่อคุณแม่เป็นหมอ ที่มองเห็นศักยภาพความเป็นเลิศทางวิชาการและสนับสนุนสาวน้อยมหัศจรรย์ ‘พลอย พิชามญชุ์ อัศวผดุงสิทธิ์’ มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในวันนี้เธอประสบความสำเร็จไปอีกขั้น สร้างความภาคภูมิใจ และชื่อเสียงให้กับประเทศไทย

เมื่อน้องพลอย ได้รับการตอบรับเข้าเรียน จากทั้งสองมหาวิทยาลัยระดับโลก อย่าง Massachusetts Institute of Technology (MIT) และ Harvard University

ล่าสุด ทีมข่าวได้พูดคุยกับคุณแม่ของน้องพลอย เปิดเผยว่า น้องพลอยตัดสินใจเลือกศึกษาต่อที่ Harvard University

ย้อนกลับไป น้องพลอยมีประวัติการเรียนที่น่าทึ่ง รางวัลการแข่งขันที่สร้างชื่อมากมาย รวมทั้งการร่วมกิจกรรมสาธารณประโยชน์ ว่าแล้วก็ไปดูกันเลย!

ประวัติการศึกษา

- จบชั้นม.6 ปีการศึกษา 2562 จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โครงการพัฒนาศักยภาพนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษทางคณิตศาสตร์ (Gifted Math) โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา GPA 4.00

- ปัจจุบันน้องพลอยเป็นนักเรียนทุนเล่าเรียนหลวง (สายวิทย์) ประจำปี 2563 โดยได้รับการตอบรับเข้ามหาวิทยาลัยจาก Massachusetts Institute of Technology (MIT) นอกจากนี้ยังได้รับการตอบรับจากอีกแห่ง คือ Harvard University

ซึ่งในปีนี้ถูกจัดอันดับโดย QS World University Rankings 2021 ให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของโลกอีกด้วย

ทั้งนี้ Harvard และ MIT ในปีแรกยังไม่เลือกสาขา จะเลือกตอนปี 2 โดยสาขาที่น้องพลอยมีความสนใจ คือ

- Biochemical Engineering

- Data Science

รางวัลการแข่งขัน

- เหรียญทอง เคมีโอลิมปิกระดับนานาชาติ (International Chemistry Olympiad: 51st IChO)

- เหรียญเงิน เคมีโอลิมปิกระดับนานาชาติ (International Chemistry Olympiad: 50th IChO)

- เหรียญเงิน วิทยาศาสตร์โอลิมปิก ระดับม.ต้น (International Junior Science Olympiad: 13th IJSO)

- เหรียญทอง วิทยาศาตร์โอลิมปิกระดับประถมปลาย (International Mathematics and Science Olympiad for Primary School: 11th IMSO)

กิจกรรมสาธารณประโยชน์

- โครงการดูแลดวงใจนักรบเสื้อกาวน์ คอร์สออนไลน์เคมีเฉลยข้อสอบ 9 วิชาสามัญ ฟรีเพื่อลูกบุคลากรในโรงพยาบาล และระดมทุนเพื่อแจกข้าวสารกับไข่ไก่ ร่วมมือกับอบจ. แจกให้กับผู้ประสบภัยโควิด อ.เมือง และ อ.หัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช

- โครงการเตียงลอยน้ำจากขยะพลาสติกเพื่อผู้ป่วยติดเตียง ประกอบเตียงลอยน้ำจากตะกร้าพลาสติกและขวดพลาสติกเหลือใช้ นำไปบริจาคแก่ 5 ครัวเรือนในตำบลปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งประสบอุทกภัยบ่อยครั้งจากมรสุมและจากทะเลหนุน

โอกาสนี้ THE STUDY TIMES ต้องขอแสดงความยินดีกับน้องพลอยและครอบครัวด้วยนะคะ เก่งมาก ๆ เลย


สามารถติดตาม รับชมบทสัมภาษณ์ของน้องพลอย ได้ในรายการ Click on Clever EP.6 ที่ช่อง THE STUDY TIMES https://youtu.be/8uOadDRSQ-k

แต่งประโยคจากคำศัพท์ภาษาจีน กับ 4 สาวเพื่อนซี้ | เพื่อนซี้หนี่ห่าว EP.8

4 สาวเพื่อนซี้ เล่นเกมแต่งประโยคจากคำศัพท์ภาษาจีน ภายในเวลา 10 วินาที งานนี้ใครจะแพ้ ใครจะชนะ ไปเอาใจช่วยกัน!! พร้อมจัดเต็มคำศัพท์ภาษาจีนที่สาว ๆ ยกมาฝาก

.

.

คติประจำใจจาก "Anthony J. D'Angelo" (นักพูด และนักเขียนชาวอเมริกัน)

“Develop a passion for learning. If you do, you will never cease to grow.”

“จงพัฒนาความหลงใหลในการเรียนรู้ เพราะถ้าหากคุณทำได้ คุณจะไม่มีวันหยุดพัฒนา”


- Anthony J. D'Angelo (นักพูด และนักเขียนชาวอเมริกัน)

เปิดรายละเอียดการจัดตั้ง “โรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร” ภายใต้แนวคิด “ให้เพื่อสร้าง” เพื่อเป็นโรงพยาบาลวิจัยนวัตกรรมการแพทย์ครบวงจรครั้งแรกของประเทศไทย และอาเซียน

ปัจจุบันแม้ประเทศไทยจะมีคณะแพทยศาสตร์ในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เพื่อผลิตบุคลากรทางการแพทย์ ล่าสุดสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ สจล. เป็นอีกสถาบันที่มีแผนจัดตั้งโรงพยาบาลอีกแห่งในประเทศไทยขึ้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ในฐานะ ประธานมูลนิธิโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ ได้เล่าถึงการจัดตั้งคณะแพทย์ศาสตร์ ของ สจล. ผ่านหนังสือ “คิดต่างสร้างการเปลี่ยนแปลง” ไว้ว่า

“หมอที่ประสบความสำเร็จในอนาคตต้องเก่งทั้งศาสตร์และศิลป์ ข้อหนึ่งที่เรายังไม่ได้ใช้ประโยชน์จากความเก่งของนักศึกษาแพทย์ได้เต็มที่ก็คือ จริง ๆ คนที่จะเข้ามา เรียนหมอ คือ เด็กที่ได้ที่หนึ่งคณิตศาสตร์ ที่หนึ่งฟิสิกส์ พอมาเรียนกลับไม่ได้ใช้วิชาพวกนี้ พอเรียนจบออกไปก็รักษาคน แต่หมอในอนาคตต้องดีลกับเครื่องมือแพทย์ใหม่ ๆ ชิ้นหนึ่งราคาเป็นล้าน ๆ แล้วต้องซื้อทุกชิ้น เข็มฉีดยาก็ต้องซื้อ แล้วจะให้วิศวกรไปทำอุปกรณ์ทางการแพทย์ เขาก็ไม่เข้าใจ ทำไมไม่เอาหมอที่เก่งทั้งฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ไปต่อยอดสร้างองค์ความรู้ สร้างนวัตกรรม คิดดูว่าประเทศไทยจะลดการนำเข้า ประหยัดงบประมาณทางสาธารณสุขได้กี่ล้านล้านบาท นี่คือความแตกต่างของคณะแพทยศาสตร์ ลาดกระบัง กับคณะแพทย์ที่อื่น ๆ”

นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ เห็นว่า การเปิดคณะแพทยศาสตร์ ถือเป็นการช่วยสังคม ช่วยชีวิตคน และสามารถต่อยอดเป็นโรงพยาบาลได้ นั่นคือ “โรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร” (KMC Hospital) ที่ไม่ใช่แค่ศูนย์การแพทย์เท่านั้น แต่เพื่อนำไปสู่ “โรงพยาบาลวิจัย” ในอนาคต รวมทั้งคณะแพทยศาสตร์ สจล. ที่นอกจากเชี่ยวชาญด้านการรักษา ยังต้องมีความเป็นนักวิจัยที่สามารถพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ และเรียนรู้ความเป็นสากล สู่การเป็น “หมอพันธุ์ใหม่” ที่เข้าใจบริบทการแพทย์ทั่วโลก และมีทักษะของศตวรรษที่ 21 เช่น ทักษะการคิดวิเคราะห์ (Critical Thinking) ความคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking) ตลอดจนทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง

ทั้งนี้ “แพทย์” จึงเป็นอาชีพของโลก เพราะไม่ได้เป็นเพียงแพทย์ที่แค่จบการศึกษา หรือเป็นแพทย์ที่รักษาแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่สามารถเป็นหมอที่อื่นได้ทั่วโลก ที่มีความรู้รอบทั้งด้านวิศวกรรม สถาปัตยกรรม และความรู้สมัยใหม่ของโลก เพื่อให้เป็นแพทย์ที่ก้าวทันโลกยุคใหม่ และมีความสามารถในการสร้างนวัตกรรมทางการแพทย์ พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการรักษาโรคได้ด้วย

เพราะปัจจุบันประเทศไทย ต้องเสียเงินให้กับต่างชาตินับหลายหมื่นล้านบาท ในการซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์เข้ามาใช้งาน ซึ่งหากแพทย์ของเรามีความรู้ และสามารถสร้างเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้ ไม่ใช่แค่ลดการสูญเสียเงินให้กับต่างประเทศ แต่ยังได้เครื่องมือแพทย์ในราคาที่ถูกลง และมีประสิทธิภาพตามหลักการแพทย์แล้ว สิ่งเหล่านี้ยังได้ชื่อว่าเป็นนวัตกรรมและฝีมือของคนไทย เป็นความภาคภูมิใจ และสามารถสร้างรายได้กลับมาในอนาคตอีกด้วย

ดังนั้น แผนการจัดตั้ง “โรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร” (KMC Hospital : King Mongkut Chaokhun Thahan Hospital) ภายใต้แนวคิด “ให้เพื่อสร้าง” เพื่อเป็นโรงพยาบาลวิจัยนวัตกรรมการแพทย์ครบวงจรครั้งแรกของประเทศไทย และอาเซียน ที่พร้อมดูแลรักษาผู้ป่วย และเป็นศูนย์วิจัยเครื่องมือทางการแพทย์ เพื่อสร้างอุปกรณ์ทางการแพทย์ สร้างศูนย์รวมนวัตกรรม และสร้างองค์ความรู้ด้านเครื่องมือแพทย์ ผ่านการบูรณาการองค์ความรู้หลากสาขา เพื่อผู้สูงอายุ คนพิการ รองรับวิกฤตสุขภาพ โรคระบาด หลังพบข้อจำกัดด้านการขาดโอกาสเข้าถึง ขาดแคลนนวัตกรรมทางการแพทย์ รวมถึงการลดการพึ่งพิงต่างชาติ


ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ: https://www.hfocus.org/content/2021/03/21316

SEX EDUCATION : เพศ (ต้อง) ศึกษา : ชาวเน็ตแห่แชร์ภาพหนังสือการ์ตูนเด็ก สอนมารยาทการช่วยตัวเอง ทำอย่างไรถึงถูกต้อง

ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ กิตติธัช อร่ามศรี ได้แชร์ภาพที่ถ่ายจากหนังสือการ์ตูนเพศศึกษาเล่มหนึ่งที่ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการช่วยตัวเองว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ที่สำคัญต้องทำอย่าเหมาะสม อย่าหมกมุ่นจนร่างกายอ่อนเพลีย เพราะอาจทำให้เสียสุขภาพ และกระทบเรื่องการเรียน พร้อมแนะมารยาทในการช่วยตัวเอง

ในเบื้องต้น มีการระบุเอาไว้ว่า การช่วยตัวเองต้องทำในที่ลับตาคนและล็อกประตูทุกครั้ง เมื่อเสร็จแล้วก็ต้องทำความสะอาดมือด้วย ไม่ให้เกิดการติดเชื้อ และอย่าหมกมุ่นจนเกินไป เป็นต้น

ทั้งนี้ หลังจากที่ภาพนี้ถูกโพสต์ออกไป ก็มีสมาชิกเฟซบุ๊กอีกหลายรายเข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์ต่ออย่างมากมายซึ่งส่วนใหญ่เห็นด้วยที่มีการสอนให้เด็กได้เข้าใจเกี่ยวกับร่างกายตัวเอง ซึ่งการช่วยตัวเองก็ถือว่าเป็นหนึ่งในนั้น ที่เด็กควรจะต้องได้รับการอธิบาย และแนะนำให้ทำอย่างถูกต้องเหมาะสม


ที่มา: https://hilight.kapook.com/view/212503

ผู้ประกาศข่าวรุ่นใหม่ อดีตนักพูดรางวัลระดับประเทศ "ธีร์วัฒน์ ชูรัตน์" | Click on clever Ep.10

 

เปิดเคล็ดลับการพูดของผู้ประกาศข่าวรุ่นใหม่ ฝีมือไม่ธรรมดา จากประสบการณ์การแข่งขันด้านการพูดได้รับรางวัลระดับประเทศมากมาย สู่อาชีพผู้ประกาศข่าว ที่นอกจากอาศัยทักษะการพูดแล้ว ยังต้องพัฒนาตัวเองด้านอื่น ๆ ในทุก ๆ วัน

.

คติประจำใจจาก "Arthur Ashe" นักเทนนิสผิวสีแชมป์แกรนด์สแลมคนแรก

“Start where you are. Use what you have. Do what you can.”

"จงเริ่มจากจุดที่คุณยืนอยู่ จงใช้ในสิ่งที่คุณมี และจงทำในสิ่งที่คุณสามารถทำได้"


Arthur Ashe (นักเทนนิสผิวสีแชมป์แกรนด์สแลมคนแรก)

หนุ่มหล่อมากความสามารถ! ‘โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร’ ทั้งหน้าหล่อ เสียงเพราะ เล่นดนตรีเก่ง แถมยังเรียนดีจนคว้าเกียรตินิยมอันดับ 1 มาครอง เรียกว่าเก่งครบทุกด้าน ชายในฝันของแท้

‘โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร’ หนุ่มมากความสามารถในด้านงานเพลง ทั้งร้องเพลง และเล่นเครื่องดนตรีได้หลากหลายชิ้น รวมถึงชิ้นที่เด่นสุดก็คือเปียโน ถือว่าเป็นหนุ่มที่ดูดีมีเสน่ห์เวลาอยู่บนเวทีมาก ๆ และอีกมุมหนึ่งโต๋เป็นอีกคนที่เรียนเก่ง เพราะตอนที่เรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ สามารถคว้า เกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง จากคณะบริหารธุรกิจ เอกบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ มาครองได้สำเร็จ


ที่มา: https://www.sanook.com/campus/1262457/

เรื่องที่คนเก่งควรรู้ ก่อนตกหลุมพราง ฝึกเข้าใจคน พื้นฐานสำคัญในการนำไปสู่ความมั่นคง ความสำเร็จ และความสุขอย่างแท้จริง

ทุกวันนี้มีแต่คน อยากเป็นคนรวย อยากเป็นคนเก่ง และอยากเป็นคนประสบความสำเร็จ แต่น้อยนักที่จะมีคน อยากเป็นคนที่เข้าใจคน แปลกไหม ทั้งๆ ที่การเข้าใจคน คือพื้นฐานสำคัญในการนำไปสู่ความมั่นคง ความสำเร็จ และความสุขอย่างแท้จริง

ศาสตร์ของการพัฒนาคนมีให้ศึกษาอยู่ทั่วไป แต่ละแนวคิดมีปรัชญาที่น่าสนใจแตกต่างกันไป สำหรับผู้เขียนไปสะดุดหูกับปรัชญา “ขงจื้อ” ซึ่งเน้นในเรื่องการเข้าใจคน โดยใช้คุณธรรมนำชีวิต มาเป็นแก่นการสร้างความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตแบบยั่งยืน

ขงจื้อ ได้กล่าวไว้ว่า วิกฤตชีวิตเกิดขั้น 4 ช่วง ถ้าใครรู้เรื่องนี้จะเข้าใจชีวิตและบริหารจัดการความเสี่ยงได้อย่างชาญฉลาด ถ้าพร้อมแล้ว มาดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง

• ช่วงแรก - ช่วงวัยรุ่น อายุ 13-25 ปี

ถ้าคนฝึกจิตมาดีแล้ว ย่อมไม่หมกมุ่นเรื่องกามารมณ์

ช่วงนี้เป็นช่วงฮอร์โมน กำลังพลุ่งพล่าน เสี่ยงต่อการหลงผิด คิดผิด พูดผิด ทำผิด ถ้ารู้ไม่เท่าทันก็อาจถูกกระแสสังคมชักจูงได้ง่าย เช่น คิดว่าการเสพยาเสพติดเป็นเรื่องเท่ การมีเพศสัมพันธ์กับหลายคนเป็นเรื่องธรรมดา หรือมีความคิดว่าการทำเรื่องผิดศีลธรรมได้เป็นเรื่องธรรมดา ใครๆ ก็ทำกัน ต้องคอยระมัดระวังในการคบเพื่อน และการเสพสื่อต่างๆ ควรคัดกรองให้ดีเสียก่อน

• ช่วงที่สอง - ช่วงวัยทำงาน อายุ 25 - 40 ปี

ถ้าคนฝึกจิตมาดีแล้ว ย่อมหลีกเลี่ยงการทะเลาะกับผู้อื่น

ช่วงนี้เป็นช่วงความคิดกำลังพลุ่งพล่าน มีความมั่นใจในตัวเองสูง ใช้ศักยภาพที่มี มุ่งสู่เป้าหมายในชีวิต มีความทะเยอทะยาน อยากได้อยากมีสูง เสี่ยงต่อการทะเลาะเบาะแว้ง ขัดแย้งกับบุคคลรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน เพื่อนร่วมงาน หรือคนในครอบครัว ทำให้มีความสัมพันธ์ไม่ดีกับผู้อื่น และอาจนำไปสู่ความหลงผิดคิดสบายทางลัด คิดกลโกง การแย่งชิงในรูปแบบต่าง ๆ ทิฐิมานะ กิเลส ตัณหา ความโกรธ เข้ามาในชีวิตได้ง่าย พยายามคิดบวก รักษาศีล ฝึกสมาธิ รักษาใจให้ดีเข้าไว้ อย่าให้ไหลไปกับอารมณ์และความคิดลบ

• ช่วงที่สาม - ช่วงวัยกลางคน อายุ 40 - 55 ปี

คนที่ฝึกจิตมาดีแล้ว ย่อมสามารถสร้างความสำเร็จในอาชีพ เพื่อความมั่นคงในชีวิต

ช่วงนี้เป็นช่วงที่ต้องพัฒนาตัวเอง ทุกมิติ ใช้สติและความรอบคอบ ใช้การบริหารจัดการเชิงระบบ ทบทวนตัวเอง เพื่อการแก้ไขข้อผิดพลาด มุ่งเรื่องการสร้างความมั่นคงแก่ครอบครัว เพื่อให้สังคมยอมรับ เมื่อทำงานหนัก ก็จะเกิดความเครียด จึงเสี่ยงต่อการใช้ชีวิตที่ขาดสมดุล เช่น อาจทำงานจนลืมสุขภาพ ทำงานจนลืมครอบครัว ทำงานจนลืมสังคมเพื่อนฝูง มีปัญหาครอบครัวแตกแยก ช่วงนี้จึงต้องใส่ใจสุขภาพร่างกายเป็นพิเศษ ในขณะเดียวกันก็ต้องบาลานซ์ เรื่องงานกับครอบครัวให้สมดุลควบคู่ไปด้วย

จากสถิติ ช่วงวัยนี้จะมีปัญหาสุขภาพจิต และนำไปสู่การนอกใจ และมีปัญหาหย่าร้างมากที่สุด ผู้หญิงเข้าสู่วัยทอง ส่วนผู้ชายก็เข้าสู่การแปรปรวนทางอารณ์ ทั้งคู่จึงตกอยู่ในสภาวะ “วิกฤตวัยกลางคน” ถ้ารู้ไม่เท่าทัน ก็หาทางออกแบบผิดๆ ส่งผลให้เกิดปัญหาครอบครัวในรูปแบบต่าง ๆ

• ช่วงที่สี่ - ช่วงสูงวัย อายุ 55 ปีขึ้นไป

คนที่ฝึกจิตมาดี ย่อมเป็นที่เคารพนับถือ สามารถรักษาทรัพย์ที่หามาได้ และส่งต่อให้แก่ลูกหลาน

ช่วงนี้เป็นช่วงที่ควรทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดี ปล่อย ๆ วาง ๆ ใช้ชีวิตให้มีความสุขโดยไม่เบียดเบียนใคร ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน วางตัวควรค่าต่อการเคารพนับถือ และเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการถ่ายทอดประสบการณ์ชีวิตแก่ลูกหลาน ช่วยเหลือ ให้แง่คิดมุมมองที่ดี

“ขงจื้อ” ได้กล่าวไว้ว่า ไม่ต้องกังวลว่าใครจะไม่เคารพนับถือเรา แต่ให้หันมาดูในสิ่งที่เรากำลังทำ ว่าควรค่าต่อการเคารพนับถือหรือไม่ ช่วงนี้ก็พยายามทำใจ ลดละเลิก ปล่อยวาง ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย คบเพื่อนให้น้อยลง เลือกทำในสิ่งที่มีความสุข ที่สำคัญความสุขของเราต้องไม่ทำให้ใครเดือดร้อน

จะเห็นได้ว่าการฝึกจิตให้นิ่ง มีสติ จะช่วยให้เราสามารถ ใช้ความรู้คู่คุณธรรม นำชีวิตสู่ความเจริญอย่างยั่งยืนได้

แต่ให้เข้าใจตรงกันนะคะว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร การศึกษาระดับไหน ยากดีมีจนเพียงใด ฝึกจิตมาดีแค่ไหน ก็มีสิทธิทำผิดพลาดกันทุกคน “เมื่อทำผิดพลาดก็ให้แก้ไขอย่าแก้ตัว” และ เมื่อมีการทำผิดครั้งต่อไป อนุญาตให้ผิดเรื่องใหม่ได้ แต่ห้ามทำผิดซ้ำเรื่องเดิม จะถือว่าเราไม่พัฒนา

ข่าวดีก็คือ ทุกคนสามารถสร้างความสุขและความสำเร็จในชีวิตได้เท่าเทียมกัน ด้วยการฝึกจิต

3 วิธีง่ายต่อการฝึกจิต

1.) ตั้งเป้าหมายชีวิต ในการรักษาศีล 5 อย่างตั้งใจ

2.) เป็นคนดี คิดดี พูดดี ทำดี ทำ 3 สิ่งนี้ด้วยหัวใจ

3.) ฝึกนั่งสมาธิ ให้จิตตื่นรู้ ทุกวัน

เห็นไหมคะ การใช้ชีวิตให้ดีไม่ใช่เรื่องยาก แต่คนส่วนมากไม่ค่อยทำ จงเริ่มต้นจากการเข้าใจคนค่ะ

.

เขียนโดย อ.นิธิมา กุญชร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาบุคลากร โปรเฟสชั่นนอล เทรนเนอร์

#Talktonitima


อ้างอิงข้อมูล: http://www.ci.au.edu/th/index.php/about/2015-08-24-11-58-20


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top