Monday, 1 July 2024
TheStatesTimes

ไทยเล็งเก็บ ‘Carbon Tax’ เป็นชาติที่ 2 ในอาเซียน ต่อจากสิงคโปร์ กำหนดราคากลางที่ 200 บาทต่อตันคาร์บอนฯ คาด!! ดีเดย์ปลายปี 68

(28 มิ.ย. 67) Business Tomorrow รายงานว่า กรมสรรพสามิตไทย ได้เปิดเผยถึงการเตรียมใช้ภาษีคาร์บอนเป็นกลไกภาคบังคับเพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หวังให้ผู้ส่งออกใช้ลดหย่อนค่าธรรมเนียม CBAM

ทั้งนี้ การกำหนดอัตราภาษีคาร์บอนในรูปแบบภาคบังคับจะสามารถนำไปนำไปใช้ลดหย่อนค่าธรรมเนียม Carbon Border Adjustment Mechanism (CBAM) ที่อียูจะเรียกเก็บจากผู้นำเข้าสินค้าไปยังอียูในปี 2569 ซึ่งจะเป็นผลดีต่อผู้ส่งออกในระยะแรก

คาดว่าภาษีคาร์บอนของไทยสามารถบังคับใช้อย่างเร็วสุดภายในปีงบประมาณ 2568 (เดือนตุลาคม 2567) เพื่อให้ทันการเก็บค่าธรรมเนียม CBAM ในปี 2569 ขณะที่ พ.ร.บ. Climate Change ที่จะเป็นกฎหมายเพื่อกำหนดกลไกราคาคาร์บอนภาคบังคับในรูปแบบ ระบบ Emission Trading Scheme (ETS) น่าจะบังคับใช้ได้ในปี 2572

>> ค่าธรรมเนียม Carbon Tax ของไทยจะอยู่ที่เท่าไหร่ ?

ดังนั้น ในระยะแรกจึงเป็นเรื่องที่ดี หากมีการปรับใช้ภาษีคาร์บอนโดยใช้หลักการแปลงภาษีสรรพสามิตที่เดิมมีการผูกกับปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์อยู่แล้ว เช่น ภาษีน้ำมัน ภาษีรถยนต์ ให้อยู่ในรูปของภาษีคาร์บอน เพื่อไม่สร้างภาระทางภาษีเพิ่มแก่ประชาชน และสามารถให้ผู้ส่งออกใช้ประโยชน์ในระหว่างรอกลไกราคาคาร์บอนภาคบังคับจาก พ.ร.บ. Climate Change ในภายหลัง 

ทั้งนี้ประเทศไทยอาจกำหนดราคากลางที่ 200 บาทต่อตันคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งน้อยกว่าราคาคาร์บอนของอียู (EU ETS) หรือ Carbon Tax ของสิงคโปร์ที่อยู่ที่ประมาณ 2,700 และ 700 ต่อตันคาร์บอนไดออกไซด์ตามลำดับ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า การมีกลไกราคาคาร์บอน (Carbon Pricing) ในรูปแบบภาคบังคับจะช่วยผู้ประกอบการไทยที่ส่งออกไปยัง EU หรือประเทศที่มีการใช้มาตรการปรับคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน ลดหย่อนค่าธรรมเนียมที่จะต้องจ่ายให้แก่ประเทศที่บังคับใช้ได้

ทั้งนี้ ผลกระทบอาจแบ่งเป็น 2 ระยะ

- ระยะแรก ผู้ส่งออกใช้ลดหย่อนค่าธรรมเนียม CBAM โดยไม่มีภาระภาษีภายในประเทศเพิ่ม เนื่องจากใช้ภาษีสรรพสามิตแปลงมาเป็นภาษีคาร์บอน ในช่วงก่อนมี พ.ร.บ. Climate Change ทั้งนี้ภาครัฐควรจัดหากลไกกองทุนเพื่อนำรายได้ดังกล่าวสนับสนุนผู้ประกอบการเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาดด้วย

- ระยะหลังจากที่ พ.ร.บ. Climate Change บังคับใช้ จะมีกลไก Emission Trading Scheme และการกำหนดพิกัดอัตราภาษีคาร์บอนที่ยังไม่เก็บอยู่เดิม จะส่งผลต่อต้นทุนของผู้ผลิตในอุตสาหกรรมภายในประเทศที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นไปตามบริบทของการดำเนินมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมของโลก

ทีมนักวิจัย ‘ม.เทลอาวีฟ’ สุดเจ๋ง!! พัฒนาสุดยอดวัสดุแก้ว ก่อตัวเมื่อโดนน้ำ-ซ่อมแซมตัวเองได้-ทนกว่าวัสดุแก้วทั่วไป

เมื่อวานนี้ (29 มิ.ย. 67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า มหาวิทยาลัยเทลอาวีฟ (TAU) ของอิสราเอล เผยว่าทีมนักวิจัยได้พัฒนาวัสดุแก้วชนิดใหม่ที่ก่อตัวขึ้นเองเมื่อสัมผัสโดนกับน้ำ และมีหลายคุณสมบัติพิเศษเฉพาะ เช่น สามารถซ่อมแซมตัวเองได้

การวิจัยที่เผยแพร่ในวารสารเนเจอร์ (Nature) ระบุว่าแก้วชนิดใหม่นี้สร้างจากโครงสร้างทางชีวภาพ มีความแข็งมากกว่าวัสดุแก้วธรรมดามากและมีคุณสมบัติยึดติดสูง สามารถยึดชิ้นส่วนแก้วต่างๆ เข้าด้วยกันและซ่อมแซมรอยแตกที่เกิดขึ้นภายในได้ อีกทั้งมีระดับความโปร่งใสครอบคลุมตั้งแต่แสงที่มองเห็นได้จนถึงอินฟราเรดย่านกลาง

มหาวิทยาลัยฯ ระบุว่านวัตกรรมแก้วดังกล่าวมีศักยภาพที่จะสามารถปฏิวัติอุตสาหกรรมต่างๆๅ เช่น ทัศนศาสตร์และอิเล็กโทร-ออปติกส์ (electro-optics) การสื่อสารผ่านดาวเทียม การสำรวจระยะไกล และชีวการแพทย์

ปกติแล้ววัสดุแก้วจะผลิตขึ้นจากการทำให้วัสดุหลอมเหลวเย็นลงอย่างรวดเร็ว หรือ ‘แช่แข็ง’ วัสดุเหล่านั้นในสถานะอสัณฐาน (amorphous) ซึ่งเป็นโครงสร้างรูปแบบหนึ่งของของแข็ง ก่อนที่จะตกผลึก ส่งผลให้เกิดคุณสมบัติทางแสง เคมี และทางกลที่เป็นเอกลักษณ์ รวมทั้งมีความทนทาน ปรับใช้ได้หลายรูปแบบ และมีความยั่งยืน

ในการศึกษาล่าสุดนี้ นักวิจัยค้นพบเปปไทด์ (peptide) ลักษณะเฉพาะที่มีพฤติกรรมแตกต่างจากวัสดุที่เป็นที่รู้จัก โดยก่อตัวเป็นโครงสร้างอสัณฐานและไม่เป็นระเบียบอันเป็นลักษณะของแก้ว

แก้วชนิดใหม่นี้ก่อตัวได้เองตามธรรมชาติโดยไม่จำเป็นต้องใช้พลังงาน เช่น ความร้อนหรือความดันสูง เพียงแค่ละลายสารจำเพาะที่อยู่ในรูปแบบผงในน้ำ คล้ายกับการผสมเครื่องดื่มปรุงแต่งรส เปปไทด์อะโรมาติก ซึ่งประกอบด้วยลำดับกรดอะมิโน 3-ไทโรซีน (three-tyrosine amino acid) จะก่อตัวเป็นโมเลกุลแก้ว หลังจากมีการระเหยสารละลายในน้ำที่อุณหภูมิห้อง

ทีมงานได้ทดลองพัฒนาเลนส์จากวัสดุแก้วใหม่นี้แล้ว พวกเขาเพียงแค่หยดสารละลายลงบนพื้นผิวเพื่อควบคุมความโค้ง และปรับเปลี่ยนปริมาตรของสารละลายเพื่อควบคุมจุดโฟกัส แทนที่จะใช้กระบวนการตัดเจียรและขัดเงาที่กินเวลานานกว่า

อีฮัด กาซิต นักวิจัยของมหาวิทยาลัยฯ กล่าวว่าแก้วชนิดใหม่มีคุณสมบัติที่ไม่พบในวัสดุแก้วอื่น ๆ ในโลก ทำให้มีศักยภาพที่สำคัญในด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ ทั้งหมดนี้ได้มาจากเปปไทด์เพียงตัวเดียว ซึ่งเป็นชิ้นส่วนขนาดเล็ก ๆ ของโปรตีน

‘อีซูซุ’ จัดเต็ม ‘รถแต่ง-รถแข่ง-รถโมดิฟาย’ ในงาน ‘Auto Salon’ เอาใจสายมอเตอร์สปอร์ตในคอนเซ็ปต์ ‘Racing Spirit’ ที่เมืองทองธานี

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่บูธ ‘อีซูซุ’ ภายในงาน ‘Bangkok Auto Salon 2024’ กลุ่มตรีเพชร โดยคุณวิชัย สินอนันต์พัฒน์ กรรมการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า Bangkok Auto Salon 2024 เป็นมหกรรมแสดงและจำหน่ายยนตรกรรม พร้อมอุปกรณ์แต่งรถยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน ในปีนี้อีซูซุได้นำรถมาจัดแสดงมากมาย 

นำทีมโดย รถอเนกประสงค์ NEW! MU-X ‘THE NEXT PEAK’ ที่เพิ่งออกจำหน่ายเมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา กับรุ่น RS ที่มาพร้อมชุดแต่ง RS Design รอบคัน ผ่านเส้นสายที่มีความ Dynamic สปอร์ต หรูหรา มาโชว์ ในงาน พร้อมด้วยรถแต่งพิเศษจากโรงงานและโมดิฟายช็อปชั้นนำ เอาใจสายเรซซิ่งไปอีก ด้วยรถแข่งแชมป์ 2 ปีซ้อน รุ่น Super Truck ในรายการแข่งขัน Thailand Super Series และ PT Maxnitron Racing Series มาจัดแสดงในงานเพื่อต่อยอดสำหรับประชาคมอีซูซุที่ชื่นชอบการแต่งรถและสร้างสรรค์การทำงานแบบเป็นทีมในกิจกรรมรูปแบบมอเตอร์สปอร์ต

ทั้งนี้อีซูซุได้นำทัพยนตรกรรมแต่งพิเศษและแบบมาตรฐาน มาร่วมจัดแสดงในงาน Bangkok Auto Salon 2024 รวมทั้งสิ้น 9 คัน

รถแต่งพิเศษ 6 คัน ได้แก่

• รถแข่งจากสนามเซอร์กิต รถแข่งคันแรกผลงานแชมป์ประเทศไทย 2 ปีซ้อน ถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 รายการ Thailand Super Series รุ่น Super Pick-up ทีม Nexzter MK Sport HYB BRC Flex Speedoil Repsol Motul โดย อู๊ด & อ๋อง ระยอง โดยมี NEW! ISUZU D-MAX SPARK ขับโดยเบสท์เทอร์โบยำ แท็กทีมมาพร้อมกับ NEW! ISUZU D-MAX SPACECAB จากหนุ่ม เม้งการยาง ชลบุรี รถแข่งทั้ง 2 คันโมดิฟายจัดเต็มแพ็คคู่ แต่งสเต็ปเดียวกัน เครื่องยนต์ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ปรับให้มีกำลังสูงสุดถึง 524 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,100 นิวตัน-เมตร จุดประกายความแรงด้วยกล่องพ่วงเพิ่มแรงม้า ECU Shop หัวฉีดแต่งจากโอ๊ต-อู่ช่างขวัญ เทอร์โบ Flex ชุดลูกสูบ ก้านสูบ ข้อเหวี่ยง MRX คลัชต์ BRC เพิ่มความมั่นใจด้วยชุดช่วงล่าง Penske setup บุญยางชลบุรี ล้อMK SPORT หนุ่มเม้ง การยางชลบุรี พร้อมยาง Hankook 275/40 R18 ระบบเบรก Nexzter ส่วนบอดี้จัดสเต็ปแต่งเต็มรอบคันด้วยชุดกันชนหน้า กระจังหน้า ฝากระโปรงหน้า แก้มหน้าซ้าย-ขวา ประตูซ้าย-ขวา สเกิร์ตรอบคัน ฝาปิดท้ายกระบะ ปีกหลังพร้อมดิฟฟิวเซอร์เป็นงานคาร์บอนคอมโพสิตที่ออกแบบและสร้างทั้งคันโดย ปืน AKANA CARBON เบื้องหลังการทำรถแข่งทั้ง 2 คันโดย อู๊ด & อ๋องระยอง และควบคุมการสร้างรถแข่งโดย โน๊ต & นัท ออโต้คาร์ ระยอง

• ใหม่! MU-X ‘THE NEXT PEAK’ รุ่น ACTIVE เครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ สีขาวมุกโดโลไมท์ (Dolomite White Pearl) กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน /เมตร เกียร์อัตโนมัติ 6 Speed พร้อมโหมด Rev Tronic เสริมลุคสไตล์สปอร์ตด้วยล้ออัลลอย MK Sport M-1 ขนาด 9.5x20 นิ้ว คู่กับยางสปอร์ต Toyo Tires รุ่น ST-3 ขนาด 265/50 R20 เพิ่มความหนึบด้วยชุดโช้คอัพ และสปริงโหลด Profender รุ่น Tune Series พร้อมชุดปีกนกบน Profender รวมมูลค่าชุดแต่ง 191,899 บาท

• NEW! ISUZU D-MAX SPACECAB เครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เกรด S สีเงินโบฮีเมียน เมทัลลิก (Bohemian Silver Metallic) เพิ่มพลังให้ขับสนุกขึ้นด้วยกล่องพ่วงเพิ่มแรงม้า Alpha Tech ทำให้เครื่องยนต์เดิมมีแรงม้าสูงสุดที่ 197 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 530นิวตัน-เมตร ตกแต่งพิเศษด้วยฝากระโปรงหน้าคาร์บอนคอมโพสิตจาก Monza Factory เสริมความเท่ด้วยล้ออัลลอย MK Sport M-10 ขนาด 9.0x18 นิ้ว คู่กับยางสปอร์ต Nitto Tires รุ่น NT-420SD ขนาด 255/50 R18  จัดทรงด้วยชุดโช้คอัพ สปริงโหลดจาก Profender รุ่น Queen Series รวมมูลค่าชุดแต่ง 110,590 บาท

• NEW! ISUZU V-CROSS 4X4 เครื่องยนต์ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ สีส้มนามิบูไมก้า (Namibu Orange Mica) จัดเต็มสไตล์แคมปิ้งด้วยชุดแต่ง TJM รอบคัน เท่ลงตัวด้วยชุดแต่งจาก TJM ยกคัน ดุดันด้วยล้ออัลลอย TJM รุ่น KONG ขับสนุกทุกสภาพถนนด้วยยาง BRIDGESTONE Dueler AT002 ขนาด 265/60 R18 เพิ่มประโยชน์ใช้สอยด้วยฝาปิดกระบะท้ายแบบไฟฟ้า AEROKLAS E-ROLLER LID รวมมูลค่าชุดแต่ง 384,820 บาท

• NEW! ISUZU V-CROSS 4X4 เครื่องยนต์ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เกรด M สีเทาไอลาย์ โอเพค (Islay Gray Opaque) มาพร้อมชุดแต่ง IRONMAN 4×4 ตอบโจทย์นักเดินทางสายลุย ด้วยชุดแต่ง ดังนี้  กันชนหน้าแบบสามเขาพร้อมไฟสปอร์ตไลท์ LED รอกไฟฟ้าขนาด 9,500 ปอนด์ ไซเรียลการ์ดพร้อมบันไดข้าง กันชนหลังแบบเต็มรองรับเซ็นเซอร์และโซน่าด้านหลัง  ชุดขาจับพร้อมแร็คหลังคาอะลูมิเนียม Atlas  ชุดขาจับพร้อมไฟสปอร์ตไลท์รอบคัน  หลังคาอะลูมิเนียม Alu Cab คุณภาพสูง  ขาจับพร้อมแม่แรงไฮลิฟท์แจ็ค เต๊นท์หลังคาอะลูมิเนียม Orion  ยาง BRIDGESTONE DUELER AT002 ขนาด 285/60 R18 และล้อ Lenso รุ่น MX Cezar ขนาด 18 นิ้ว โดยรถคันดังกล่าวโชว์ ณ โซน Camping

พร้อมด้วยรถอีซูซุมาตรฐานทั้งหมด 3 คัน ได้แก่

• ISUZU X-SERIES รุ่น SPEED 4 ประตู เครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เกียร์ธรรมดา 6 สปีด สีขาวไซบีเรียน (Siberian White) ปิกอัพสปอร์ตดีไซน์ใหม่ ชุดแต่ง The X Package กระจังหน้าโทนเข้มตัดแดง Garnet Red สติกเกอร์ Dual Stripes คาดหน้า-หลัง พร้อมสเกิร์ตหน้า-หลังสไตล์ Integrated สเกิร์ตข้างดีไซน์เฉพาะตัว ล้ออัลลอย 16 นิ้ว สี Gloss Black พร้อมดีไซน์หน้าปัดแสดงข้อมูลสไตล์เรซซิ่ง สะท้อนตัวตนผ่านโลโก้ X หน้าจอ Infotainment 8 นิ้ว ระบบสัมผัส ดีไซน์สปอร์ตโทนแดง รองรับระบบ Wireless Android Auto และ Wireless Apple CarPlay คอนโซลดีไซน์แบบ Flaming Wing ให้ความเร้าใจ

• ISUZU X-SERIES รุ่น HI-LANDER 4 ประตู เครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด สีดำบาวาเรียน (Bavarian Black Mica) ปิกอัพสปอร์ตยกสูง กระจังหน้าโทนเข้มตัดแดง Garnet Red สติกเกอร์ Dual Stripes คาดหน้า-หลัง พร้อมสเกิร์ตหน้า-หลังสไตล์ Integrated พร้อม Aerodynamic Sport Bar เหนือกระบะท้าย ล้ออัลลอย 18 นิ้ว สี Gloss Black ห้องโดยสารโทนดำ-เทา หน้าจอแสดงข้อมูล Integrated MID 7 นิ้ว โทนแดงให้อารมณ์สปอร์ตพรีเมียม พร้อมโลโก้ X หน้าจอ Infotainment 8 นิ้ว ระบบสัมผัส รองรับระบบ Wireless Android Auto และ Wireless Apple CarPlay พร้อม Sequential Paddle Shift ที่พวงมาลัย

• NEW! MU-X THE NEXT PEAK รุ่น RS สีเทา ไอเกอร์ โอเพค (Eiger Gray Opaque) เครื่องยนต์ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน/เมตร สุดยอดรถอเนกประสงค์ ใหม่ภายใต้นิยาม ‘จุดสูงสุดใหม่...กับชีวิตที่เหนือกว่า’ ดีไซน์ใหม่ทั้งภายนอกจดภายใน พร้อมกล้องรอบคัน 360 องศา (360° Surround View Camera) เพิ่มความมั่นใจเหนือกว่าด้วยมุมมองใต้ท้องรถ ขับสบาย มั่นใจด้วยพวงมาลัยไฟฟ้า และเสริมความปลอดภัยเหนือขั้น ด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS Generation ล่าสุด! มาพร้อมกับระบบช่วยควบคุมรถไม่ให้ออกนอกเลน (LDP) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในสถานการณ์ฉุกเฉิน (ELK) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKAS) ระบบช่วยควบคุมทิศทางของรถตามคันหน้า (TJA) ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย (RCTB) และระบบอื่นๆมากถึง 17 ระบบ

ผู้ที่สนใจสามารถมาชมไอเดียการแต่งรถ สัมผัส และทดลองขับรถสปอร์ตตัวจริงจากอีซูซุได้ในงาน ‘บางกอก ออโต ซาลอน 2024’ มหกรรมแสดงและจัดจำหน่ายยนตรกรรม พร้อมอุปกรณ์แต่งรถ ระหว่างวันที่ 26 – 30 มิถุนายน นี้ ณ อาคาร ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

‘การรถไฟฯ’ จับมือ ‘ททท.’ จัดกิจกรรมการเดินทาง เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ ‘สุขทันทีที่เที่ยวกับรถไฟไทย เดินทางครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม’ ที่สถานีหัวลำโพง

เมื่อวานนี้ (28 มิ.ย. 67) การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ผนึกความร่วมมือกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และหน่วยงานพันธมิตรภาคเอกชน ได้แก่ บริษัท บุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด บริษัท เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ (ประเทศไทย) และบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวเปิดตัวกิจกรรม ‘สุขทันทีที่เที่ยวกับรถไฟไทย เดินทางครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม’ โดยมีนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานร่วมกันในการเปิดกิจกรรม พร้อมด้วยนางสาวณภัทรา กมลรักษา ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม คณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคมการรถไฟแห่งประเทศไทย และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้เกียรติเข้าร่วมงานชวนเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ทางรถไฟ 6 เส้นทาง ‘สุขทันทีที่เที่ยวกับรถไฟไทย เดินทางครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม’ ณ สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง)

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้ประกาศวิสัยทัศน์ Thailand Vision ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ‘IGNITE THAILAND’ เพื่อผลักดันประเทศไทยสู่เป้าหมายการเป็น Tourism Hub ที่สำคัญของโลก พร้อมกับส่งเสริมการท่องเที่ยว ‘เมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว’ โดยเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวจากเมืองหลักสู่เมืองใกล้เคียง ผ่านระบบขนส่งสาธารณะของประเทศ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางนำไปสู่การสร้างงาน สร้างอาชีพ กระจายรายได้ลงสู่ท้องถิ่น และเป็นการสร้างความสะดวกสบายแก่นักท่องเที่ยวให้เดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี  

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม ได้ขานรับนโยบายดังกล่าว และร่วมเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยก้าวสู่ Tourism Hub ที่สำคัญของโลกอย่างเป็นรูปธรรม โดยล่าสุดในวันนี้ กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกับกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และภาคีพันธมิตรภาคีเอกชน ได้แก่ บริษัทบุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด บริษัท เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ (ประเทศไทย) และบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดตัวกิจกรรมท่องเที่ยวทางรถไฟ ‘สุขทันทีที่เที่ยวกับรถไฟไทย เดินทางครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม’ เพื่อส่งมอบประสบการณ์เดินทางท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ผ่านการเดินทางโดยรถไฟ ที่มีความสะดวกสบาย ความปลอดภัย ช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2567 จำนวน 6 เส้นทาง ประกอบด้วย

เดือนกรกฎาคม 2567 กิจกรรมโดยรถไฟ KIHA 183 จำนวน 4 เส้นทาง พร้อมแพ็กเกจท่องเที่ยว 2 วัน 1 คืน ราคา 3,999 บาท ต่อท่าน ได้แก่ 
- เส้นทางที่ 1 กรุงเทพ - ราชบุรี (ภาคกลาง) ในวันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2567 
- เส้นทางที่ 2 กรุงเทพ -สวนสนประดิพัทธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (ภาคกลาง) ในวันที่ 13 – 14 กรกฎาคม 2567 
- เส้นทางที่ 3 กรุงเทพ - สุพรรณบุรี (ภาคกลาง) ในวันที่ 20 – 21 กรกฎาคม 2567 
- เส้นทางที่ 4 กรุงเทพ - ปราจีนบุรี (ภาคตะวันออก) ในวันที่ 27 – 28 กรกฎาคม 2567  

เดือนสิงหาคม กิจกรรม ‘สิงหาแม่พาเที่ยว’ 2 เส้นทางรถไฟ ในรูปแบบ One Day Trip ได้แก่ 
- เส้นทางที่ 1 แม่พาลูกเที่ยว ชวนนั่งรถจักรไอน้ำประวัติศาสตร์ กรุงเทพ - ฉะเชิงเทรา (ภาคตะวันออก) ในวันที่ 12 สิงหาคม 2567 ราคา 799 และ 329 บาทต่อท่าน 
- เส้นทางที่ 2 Royal Blossom รถไฟสายแห่งความสุข กรุงเทพ - กาญจนบุรี ซึ่งเป็นการเปิดให้บริการขบวนรถท่องเที่ยว SRT Royal Blossom เป็นครั้งแรก ในวันที่ 17 สิงหาคม 2567 ราคา 1,799 บาทต่อท่าน 

พร้อมกิจกรรมสุดพิเศษของเดือนสิงหาคม กิจกรรม ‘สิงหาแม่พาเที่ยว’ เฉพาะคุณแม่รับบัตรกำนัล มูลค่าเท่ากับราคาตั๋วโดยสารฟรี 1 สิทธิ์ต่อ 1 ครอบครัว เพียงแสดงบัตรประชาชนของคู่คุณแม่คุณลูก และสำเนาทะเบียนบ้าน (สามารถรับบัตรกำนัลได้ในวันเดินทาง)

นอกจากนี้ ตลอดการเดินทาง ยังได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท บุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด สนับสนุนน้ำดื่มทุกทริป และมอบบัตรกำนัลฟรี สำหรับคุณแม่ในกิจกรรมสิงหาแม่พาเที่ยว บริษัท เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด มอบเจลอาบน้ำเดทตอลให้กับนักท่องเที่ยวทุกท่าน พร้อมผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคของเดทตอล สำหรับใช้ทำความสะอาดบนขบวนรถไฟนำเที่ยวทุกขบวน ในส่วนของบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) มอบกรมธรรม์ดูแลค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ 50,000 บาท รวมถึงค่ารักษาพยาบาลจากอาหารเป็นพิษให้กับนักท่องเที่ยวทุกท่านอีกด้วย 

ขณะที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ร่วมสนับสนุนนำมัคคุเทศก์มืออาชีพ ช่วยบรรยายความรู้และข้อมูลต่าง ๆ พร้อมจัดกิจกรรมสุดพิเศษเพื่อเพิ่มบรรยากาศแห่งความสุขบนขบวนรถไฟ ตลอดเดือนกรกฎาคม อาทิ เส้นทางราชบุรี พบกับคุณเจ ชลัช นายแบบมากฝีมือที่จะมาร่วมเดิน Fashion Show ผ้าขาวม้าของดีประจำเมืองราชบุรีครั้งแรกบนรถไฟ เส้นทางสวนสนประดิพัทธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พบกับอาจารย์อัส มนต์คเนศวร์ สิริปภัสสร ที่จะมาบรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์อันทรงคุณค่าด้วย Saxophone ครั้งแรกบนรถไฟ เส้นทางสุพรรณบุรี ที่จะพาทุกท่านร่วมย้อนวันวานกับ ‘น้าโย่ง’ ที่จะมาขับร้องเพลงฉ่อยเรื่องราวการกำเนิดเมืองอู่ทองที่สอดแทรกความเป็นไทย ให้ทุกท่านได้ร่วมสนุกและเพลิดเพลิน และเส้นทางปราจีนบุรี พบกับเคล็ดลับการสักการะท้าวเวสสุวัณ จากซินแสเป็นหนึ่ง วงษ์ภูดร ที่จะพาทุกท่านร่วมมูเตลูกันแบบจัดเต็ม 

นายสุรพงษ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า กระทรวงคมนาคม และการรถไฟฯ คาดหวังว่าจากความร่วมมือในกิจกรรมครั้งนี้ จะช่วยเปิดมิติใหม่ในการเดินทางท่องเที่ยวทางรถไฟ พร้อมกับช่วยสนับสนุนนโยบายรัฐบาล ให้เกิดการท่องเที่ยวในประเทศได้ตลอดทั้งปี นำไปสู่การสร้างงาน สร้างอาชีพ กระจายรายได้ลงสู่ท้องถิ่น และทำให้เศรษฐกิจฐานรากของประเทศเติบโตเข้มแข็งมั่นคงต่อไป 

สำหรับ ผู้ที่สนใจจองโปรแกรมท่องเที่ยวทั้ง 6 เส้นทาง สามารถซื้อตั๋วได้ตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน 2567 เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป ที่สถานีรถไฟทั่วประเทศหรือผ่านระบบออนไลน์ D-ticket ของการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย 1690

เฉลยที่มา ท่อน LA-la-Lisa, can you teach me Japanese? จากเพลง Rockstar อดีตเคยโดน ‘ดูถูก-แอนตี้-บูลลี่’ ก่อนที่วันนี้ จะได้ดี ดังระดับโลก

เมื่อวานนี้ (28 มิ.ย. 67) ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า ‘Gitanjali Ae Saengsang’ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ และเพลงฮิต เพลงใหม่ล่าสุดที่ชื่อว่า Rockstar โดยได้ระบุว่า

ทำไมเพลงลิซ่า จะต้องมีท่อน LA-la-Lisa, can you teach me Japanese?

เอาสั้นๆ สำหรับคนขี้เกียจอ่าน ... พวกแฟนคลับที่ติดตามลิซ่ามานาน คิดว่าท่อนนี้มันมาจากการที่ ลิซ่าเคยโดนถามจาก anti-fan ที่พยายามด้อยค่าลิซ่าสมัยที่เธอยังไม่ดังระดับโลก >>> นี่คือคำตอบ

ส่วนใครพร้อมอ่านยาวๆ มาต่อกันทางนี้จ้า บอกก่อนว่าไม่ได้คิดเอง แต่รวบรวมเอามาจากแฟนคลับลิซ่ามาเล่าต่อ...

ต้องปูพื้นฐานก่อนว่าประเทศเกาหลีเป็นหนึ่งในประเทศที่มีปัญหาการด้อยค่า จนเกิดการฆ่าตัวตายหรือที่สื่อสมัยนี้พูดอย่างสุภาพว่า การจบชีวิตตัวเอง ติดท็อปเท็นโลกชนิดไม่เคยตกอันดับ

หนึ่งในการบูลลี่กันเองก็ไม่พ้นสีผิว รูปร่างหน้าตา ความรวยความจน นั่นจึงเป็นคำตอบว่า ทำไมคนเกาหลีถึงศัลยกรรมกันทั้งบ้านทั้งเมือง และประเทศที่คนเกาหลีมองว่าหน้าบู้บี้ ยากจน ด้อยพัฒนา ก็คือพวกเรา ชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะสายพันธุ์ของพวกเรานั้นหน้าตาผิวพรรณ ห่างไกลกับคนประเทศเกาหลี และห่างไกลกับมาตรฐานความงาม (หลังศัลยกรรม) ของเกาหลีลิบลับ

อ่านถึงตรงนี้ไม่ได้ยุยงให้เกลียดเขานะ ที่เขาเป็นแบบนี้มันมีเหตุปัจจัย ซึ่งยังไม่ขอพูด เดี๋ยวจะยาว 

ทีนี้พอลิซ่าปรากฏตัวขึ้นในฐานะนักร้อง girl group ซึ่งเป็นต่างชาติคนเดียวในวงสาวเกาหลี แฟนคลับจำนวนมากจึงรับไม่ได้ ถึงกับเรียกร้องให้ไล่ลิซ่าออกจากวง ทำนองว่าเอาคนบ้านนอกมาร่วมจะทำให้วงโลว์คลาส วงสาวเกาหลีจะตกต่ำ ถึงขนาดมีการลงชื่อส่งไปถึง YG ต้นสังกัด Black Pink ให้เปลี่ยนตัวสมาชิกกันเลยทีเดียว 

แต่ YG ก็วางเฉย เพราะในฐานะเด็กฝึก ลิซ่าคือเพชรเม็ดงาม เธอได้คะแนนการซ้อมต่อสัปดาห์สูงสุดอย่างต่อเนื่อง เรียกว่า ขยัน พยายามและอดทนสุด ๆ ยิ่งตอนปล่อยเพลงออกมา แม้ในประเทศเกาหลีลิซ่าจะดังน้อยที่สุด โดนเกลียดมากที่สุด แต่นอกประเทศลิซ่าดังสุด หาเงินเข้าบริษัทโดยเฉพาะจากแม่จีนได้เยอะสุดๆ 

แต่ถึงจะดังนอกประเทศแล้ว ด้วยความอิจฉาที่เธอดังมากหรืออะไรไม่ทราบได้ ลิซ่าโดนด้อยค่าจากแฟนเพลงเกาหลีด้วยการไม่ยอมรับของที่ระลึกจากมือเธอ เมิน (น่าตบมาก) หน้าใส่ ไปรับของจากสมาชิกวงคนอื่นแทน 

ยิ่งดังนอกประเทศมากเท่าไร เธอก็ถูกตั้งกระทู้ด่าทอเรื่องรูปร่างหน้าตา และได้รับการปฏิบัติจากค่ายราวกับพลเมืองชั้นสองมากขึ้นเท่านั้น ไม่ว่าจะเรื่องชุดที่ต้องเลือกทีหลัง หรือเตรียมชุดซ้ำ ๆ มาให้ใส่ ในขณะที่สมาชิกวงคนอื่นได้เปลี่ยนไป 3 ชุด ลิซ่าจะมีใส่เพียงชุดเดียว 

และที่ยังฝังใจ blink (blink คือคำเรียกแฟนคลับแบล็คพิ้งก์) ก็คือแอนตี้แฟนพูดกับลิซ่าว่า “ลิซ่า..สอนพูดญี่ปุ่นหน่อย” ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเธอคือคนไทย คำว่า สอนพูดญี่ปุ่นหน่อย... ทำไมถึงเป็นการพยายามด้วยค่า นั่นก็เพราะมีศิลปินญี่ปุ่นซึ่งเป็นนักร้องนักแต่งเพลงชื่อว่า โอริเบะ ริซะ ซึ่งใช้ชื่อในวงการว่า LiSA พวกแอนตี้จงใจถามลิซ่าไปอย่างนั้นเพื่อแสดงว่าหล่อนไม่ดัง ฉันไม่ได้สนใจหล่อน ฉันก็เคยได้ยินคนชื่อลิซ่านะ ที่เป็นคนญี่ปุ่นใช่ไหมอ่ะ...

ดราม่าและกระแสแอนตี้ลิซ่าในเกาหลีนั้นมีเยอะและยาวเหยียด… กว่าจะมาเป็นลิซ่าเจ้าแม่ทุบสถิติอย่างทุกวันนี้ ด.ญ.ลลิษา มโนบาล ต้องใช้ความอดทนอดกลั้น และมองโลกในแง่บวก ดีที่สมาชิกวงอีก 3 เป็นเกาหลีใจงาม คอยให้กำลังใจลิซ่าตลอด ไม่อย่างนั้นคงจะถอดใจกลับเมืองไทยเหมือนที่เด็กไทยบางคนทนไม่ไหว หนีกลับบ้านมาแล้ว 

พอหลุดจาก YG มาได้ ภาพแรกที่ปล่อยออกมาคือการทาผิวแทน สร้างกระแสดิ้นพล่านในเกาหลี ที่มีมาตรฐานความงามคือขาวใส เอาซี้... อีแอนตี้แฟนเกา

ส่วนไอ้ท่อน 
"La-la-Lisa, can you teach me Japanese?"

ลิซ่าก็บอกว่า
I said, "はい, はい" ฉันตอบว่า ไฮ..ไฮ...
That's my life, life, baby, I'm a Rockstar นี่มันชีวิตของฉัน ฉันคือร็อคสตาร์

ก่อนจะฟาดด้วยท่อน
Yes, yes, I can spend it แม่นแล้ว แม่นแล้ว ฉันจ่ายได้หมด
Yes, yes, no pretendin' แม่นแล้ว แม่นแล้ว ไม่มีเวลามาเสแสร้ง
Tight dress, LV sent it ชุดแซ่บ ๆ ของฉัน LV (หลุยส์ วิตตอง) เขาส่งมาให้ย่ะ 

เป็นไงล่ะแอนตี้ รู้ไว้ซะด้วย.....
ฉันคือลิซ่า ฉันคือร็อคสตาร์ ทุกเมืองที่ฉันไปคือที่ของฉัน ไม่ได้อยู่แค่เกา ฉันจะผิวแทน ฉันจะโปร (สนับสนุน) LGBTQ มันก็เรื่องของฉันเว้ยเฮ้ย.....

อารมณ์ร่วมอาจมากไปหน่อย แต่รวบรวมมาจากความคิดเห็นเหล่า Blink (จริงๆ นะ)

เพจดัง ชี้ ‘Soft Power’ ของประเทศไทย มีมานาน หลายสิบปีแล้ว ยก ‘สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ’ เป็นผู้นำความเป็นไทย โดดเด่นในเวทีโลก

เมื่อวานนี้ (28 มิ.ย. 67) ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า ‘เอ ภักดี’ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับเรื่อง ‘Soft Power’ โดยได้ระบุว่า

#ซอฟต์พาวเวอร์คนแรกของไทย ก่อนที่เรามักจะได้ยินคำว่า #SoftPower ที่เป็นคำฮิตฮอตและกระแสในไทยตอนนี้ โดยเฉพาะน้องลิซ่า (LISA) ที่ไม่ว่าจะหยิบจับอะไรก็กลายเป็นกระแสที่โด่งดังไปทั่ว และที่สำคัญน้องลิซ่าจะให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมไทยและสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวกับประเทศไทยอยู่เสมอ (มันคือความน่ารักของน้องลิซ่า) 

แต่หากเราย้อนไปเมื่อหลายสิบปีก่อนบุคคลสำคัญที่พยายามนำความเป็นไทยสู่สายตาคนทั่วโลกคงหนีไม่พ้น #สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไม่ว่าจะเป็นผ้าไทย ชุดไทย เครื่องประดับที่พระพันปีหลวงทรงฉลองพระองค์อยู่เสมอเมื่อคราวเสด็จประพาสต่างประเทศ รวมถึงต้อนรับประมุขหรือแขกสำคัญจากประเทศต่างๆ หรือแม้แต่ส่งเสริมวัฒนธรรมไทยในหลากหลายด้าน เช่น โขนและศิลปหัตถกรรมไทย เป็นต้น อีกทั้งยังนำศิลปะและหัตถกรรมเหล่านี้มาแสดงและต้อนแขกสำคัญของประเทศอีกด้วย นำมาซึ่งอาชีพของประชาชนที่ยากไร้หรือในถิ่นทุรกันดาร ในมุมมองของแอดพระองค์คือ ‘Soft Power’ ในยุคที่ไม่มีใครรู้จักคำว่า ‘Soft Power’

บทความนี้เรียบเรียงโดยเพจ Love Thai Culture และเพจ Thai Culture and Thai Travel

สมาคมอุทยานแห่งชาติ จัดคอนเสิร์ต 'เสก โลโซ' เพื่อผู้พิทักษ์ป่าและคืนผืนป่า

เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.67 สมาคมอุทยานแห่งชาติ ได้จัดคอนเสิร์ตการกุศล “เสก โลโซ เพื่อผู้พิทักษ์ป่าและคืนผืนป่า” ณ โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง รามอินทรา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารายได้สมทบทุนกองทุนสวัสดิการเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า กองทุนคืนฟื้นฟูป่า และกองทุนสวัสดิการ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช โดยได้รับเกียรติจาก ดร.ชญานันท์ ภักดีจิตร รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติ อาทิ นายปินสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ดร.ธีรภัทร ประยูรสิทธิ อดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้บริหารระดับสูงจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภายในงานนอกจากจะได้ชมการแสดงสุดมันส์จากศิลปินชื่อดัง “เสก โลโซ” และวง Luster แล้วยังมีการมอบรางวัลกิตติวนาคุณ รางวัลสำหรับผู้มีคุณูปการต่อวงการป่าไม้ไทยให้กับ “ผ่อง เล่งอี้” อดีตอธิบดีกรมป่าไม้ ผู้ริเริ่มงานด้านอนุรักษ์สัตว์ป่าคนแรกของเมืองไทย และเป็นผู้ที่สร้างผืนไพรให้กับแผ่นดินรวมแล้วกว่า 67 ล้านไร่ หรือประมาณ 20.5 เปอร์เซ็นต์ของเนื้อที่ประเทศไทย รวมไปถึงมอบเงินช่วยเหลือให้กับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต และมอบรางวัลให้กับข้าราชการดีเด่นด้วย

นายสุนันท์ อรุณนพรัตน์ ประธานจัดงาน กล่าวว่า การช่วยเหลือเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือและความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน ภาครัฐเพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ สมาคมอุทยานแห่งชาติในฐานะองค์กรเอกชน จึงขอมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าที่ทำงานอยู่ทั่วประเทศไทยกว่า 20,000 นาย

นายพสิษฐ์ เอี๋ยวพานิช นายกสมาคมอุทยานแห่งชาติ กล่าวว่า เงินที่ได้จากการร่วมมือร่วมใจของทุกท่านในวันนี้ นอกจากจะนำไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตแล้ว ยังนำไปใช้ในการคืนผืนป่าให้กับแผ่นดินไทยอีกด้วย โดยมีพื้นที่เป้าหมายอยู่ที่จังหวัดน่าน ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย

ทางด้านผ่อง เล่งอี้ อดีตอธิบดีกรมป่าไม้ ได้กล่าวถึงว่า การทำงานในยุคของตน เป็นการทำงานด้วยความยากลำบาก แต่ตนและเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าไม่เคยย่อท้อ จนสามารถที่จะสร้างผืนป่าอนุรักษ์ให้กับประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า และอุทยานแห่งชาติ ซึ่งป่าอนุรักษ์ดังกล่าวล้วนนำไปสู่การปิดป่าและได้สร้างรากฐานการอนุรักษ์ไว้ให้กับคนรุ่นหลังได้สืบสานต่อ ซึ่งคอนเสิร์ต “เสก โลโซ เพื่อผู้พิทักษ์ป่าและคืนผืนป่า” ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งจากความร่วมมือของคนที่มีหัวใจเดียวกัน นั่นคือหัวใจในการรักษาและฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ โดยรายได้สุทธิจะนำไปสมทบทุนกองทุนตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ต่อไป

รพ.ตร. เปิด 'โครงการตำรวจไทยไร้พุงประจำปี 2567' เน้นคัดกรองตำรวจที่มีความเสี่ยงอ้วนลงพุง ให้ความรู้ด้านโภชนาการ ควบคู่การออกกำลังกาย

วันนี้ ( 29 มิ.ย.67) พล.ต.ต หญิง นิรมล ปัณฑวนันท์ นายเเพทย์(สบ 7) เปิดเผยว่า โรงพยาบาลตำรวจ ได้จัด 'โครงการตำรวจไทยไร้พุงประจำปี 2567' โดยเปิดโครงการเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.67 ณ ห้องประชุมชัยจินดา 1 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ ชั้น 20 มี พ.ต.อ หญิง พิลาสินี ชปารังษี โภชนากร(สบ 4)กลุ่มงานโภชนาการ โรงพยาบาลตำรวจและนักโภชนาการให้การต้อนรับ

“โครงการตำรวจไทยไร้พุงประจำปี 2567” จัดขึ้นโดยกลุ่มงานโภชนาการ โรงพยาบาลตำรวจ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้าราชการตำรวจเเละบุคลากรในสังกัดโรงพยาบาลตำรวจคัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยงอ้วนลงพุง ได้ตระหนักถึงการดูแลตนเองด้านโภชนาการ และการออกกำลังกาย รวมถึงการดูเเลด้านจิตวิทยา เพื่อนำไปสู่การมีสุขภาพที่ดี ภายในงานมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญมาบรรยายให้ความรู้ในหลายหัวข้อ อาทิ “วางแผนอย่างไรให้ตำรวจไทยห่างไกลโรคอ้วน” โดย น.ส.รุ่งทิพย์ ฟักขาว นักโภชนาการกลุ่มงานโภชนาการ โรงพยาบาลตำรวจ, “จิตวิทยากับการควบคุมน้ำหนัก” โดย พ.ต.อ.วินัย ธงชัย นักจิตวิทยา(สบ5)โรงพยาบาลตำรวจ, “Body Fit Body Balance"  โดย ร.ต. บุรณิน เกตุนิล ประจำ Jett Fitness ประจำสาขา รัชดาภิเษก

โครงการนี้จัดในรูปแบบ Onsite Training และ Online Training (ระบบ ZOOM) มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากทั่วประเทศให้ความสนใจในการเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ เพื่อให้ข้าราชการตำรวจที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงได้รับความรู้ในการวางแผนการควบคุมน้ำหนัก ให้มีสุขภาพดี หุ่นดี ห่างไกลโรค และไร้พุง นอกจากการบรรยาย ยังมีการจัดบูธกิจกรรมต่างๆ เช่น การชั่งน้ำหนัก วัดเส้นรอบเอว เเละbody composition ให้ความรู้ทางด้านโภชนาการเชิงรุก โดยได้นำโมเดลอาหาร การลดหวาน ลดมัน ลดเค็ม มาจัดเเสดงอีกด้วย

เชียงใหม่-ผบช.ภ.5 เป็นประธานแถลงข่าวการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ จ.เชียงราย

ตำรวจภูธรภาค 5 แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา 2 คนพร้อมของกลางยาบ้า 1,500,000 เม็ด ลักลอบส่งผ่านระบบไปรษณีย์และพัสดุภัณฑ์ (Logistic) ในพื้นที่ จ.เชียงราย

วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน 2567 เวลา 11.40 น. ณ ลานแถลงข่าวใต้อาคาร บก.สส.ภ.5  พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 ประธานการแถลงข่าว พร้อมด้วย พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 ,พล.ต.นิรันดร์ชัย ทิพย์กาญจนกุล รอง ผบ.นบ.ยส.35, พ.อ.ไมตรี ศรีสันเทียะ เสธ.กกล.ผาเมือง และนายดนุชา ไชยวงศ์ ผอ.ส่วนบังคับใช้กฎหมาย สำนักงาน ปปส.ภาค 5 ร่วมแถลงผลการจับกมุยาเสพติดรายสำคัญ ของ สภ.แม่จัน จ.เชียงราย กรณีเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่จัน จ.เชียงราย พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 1.5 ล้านเม็ด ซุกซ่อนมากับกล่องสินค้า จำนวน 10 กล่อง จะนำส่งผ่านระบบไปรษณีย์และพัสดุภัณฑ์เอกชนสถานที่จับกุม ศูนย์รับส่งพัสดุบริษัท ขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง สาขาป่าซาง ต.ป่าซาง อ.แม่จัน จ.เชียงราย 

ตำรวจภูธรภาค 5 ขอสรุปผลการจับกุมยาเสพติดของตำรวจภูธรภาค 5 ห้วงตั้งแต่ 1 ต.ค.66  –  27 มิ.ย.67 ดังนี้ จับกุมคดียาเสพติดจำนวน  18,497 คดี คดีรายสำคัญ 148 คดี ตรวจยึดของกลางยาเสพติด ยาบ้า 157,411,919 เม็ด ไอซ์ 961.44 กิโลกรัม เฮโรอีน 255.55 กิโลกรัม เคตามีน 30.03 กิโลกรัม ฝิ่น  202.67 กิโลกรัม ตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับยาเสพติด มูลค่าทรัพย์สินประมาณ 405 ล้านบาท

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขยายผลสืบสวน สอบสวนกรณีเพลิงไหม้โรงงานกำจัดของเสียประเภทวัตถุอันตราย

กรณีเหตุเพลิงไหม้โรงงานกำจัดของเสียประเภทวัตถุอันตรายในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดระยอง นั้น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญ เพราะเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบสร้างความเดือดร้อนกับวิถีชีวิต ที่อยู่อาศัย และสุขภาพของประชาชน ในวงกว้างหลายพื้นที่ จึงได้สั่งการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ และ พลตำรวจเอก ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ติดตามและขยายผลดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดให้ได้ผู้กระทำความผิดและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกรายมาลงโทษโดยเร็ว 

ต่อมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้มีคำสั่งที่ 302/2567 ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2567 เรื่อง แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน คดีเพลิงไหม้ บริษัท วินโพรเสส จำกัด และ บริษัท เอกอุทัย จำกัด มีหน้าที่สืบสวนสอบสวมรวบรวมพยานหลักฐาน และดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยมอบหมายให้ พลตำรวจโท ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน, พลตำรวจโท อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พลตำรวจโท ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เป็นรองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน , พลตำรวจตรี ธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 2 เป็นเลขานุการ พร้อมด้วยพนักงานสืบสวนสอบสวนในพื้นที่เกิดเหตุ ทั้งนี้ ทางคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ได้ทำงานร่วมกับนายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม และคณะกรมควบคุมมลพิษ กรมน้ำบาดาล กรมป่าไม้ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปอย่างรอบคอบ ครบทุกมิติ

วันนี้ (28 มิ.ย.67) เวลา 13.30 น. พลตำรวจโท ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีเพลิงไหม้โรงงานสารเคมี ในจังหวัดระยอง และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ณ หองประชุมแจงยอดสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม และผู้เกี่ยวข้องร่วมประชุมทั้งหมดเกือบ ร้อยนาย ติดตามความคืบหน้าของคดี ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาและออกหมายจับไปแล้วบางส่วน จากการสืบสวนสอบสวนยังพบว่ามีการกระทำความผิดในลักษณะเดียวกันนี้ในอีกหลายพื้นที่ รวมทั้งหมด 4 จังหวัด 5 แห่งตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งโรงงานในพื้นที่ อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ อ.กลางดง จ.นครราชสีมา, อ.อุทัย อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา และ อ.บ้านค่าย อ.มาบตาพุด จ.ระยอง โดยผู้ต้องหาได้นำวัตถุอันตรายของมีพิษเหล่านี้ไปเก็บไว้และมีการกำจัดที่ไม่ถูกต้อง ทั้งยังมีการลักลอบปล่อยลงในแม่น้ำลำคลอง พื้นที่เกษตรกรรมต่าง ๆ ทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง ส่งผลกระทบต่อชีวิตและร่างกายของประชาชนอย่างรุนแรงในพื้นที่

ด้านอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมในรายละเอียด พร้อมทั้งได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือในการคัดแยกเอกสารที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก พบว่ากลุ่มคนเหล่านี้ได้มีการปลอมแปลงเอกสาร และตราประทับ ตั้งแต่การว่าจ้างการขนส่ง มีการปลอมเอกสารในเกือบทุกขั้นตอน ซึ่งได้ให้นโยบายไว้ว่าเรื่องนี้ต้องทำให้กระจ่างโดยเร็ว และต้องแจ้งข้อกล่าวหาให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นความผิดเกี่ยวกับกฎหมายการครอบครองวัตถุอันตราย การกำจัดของเสีย พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม รวมถึงกฎหมายอาญา เพื่อไม่ให้ใครเอาเป็นเยี่ยงอย่าง 

ในส่วนของการดำเนินคดีนั้น ขณะนี้มีการออกหมายจับไปแล้วในหลายข้อหา มีผู้ถูกกล่าวหาประมาณ 5 คน แต่เชื่อว่าอาจมีผู้ที่เกี่ยวข้องมากกว่า 10 คน ซึ่งจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฎ โดยพบว่ามีหลายข้อหา เช่น ในเรื่องการขนส่ง พบว่ามีการขนส่งโดยไม่ได้รับอนุญาตกว่าร้อยครั้ง จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาทุกครั้ง ต่างกรรมต่างวาระกัน คาดว่าจะได้รับโทษสูงสุดเมื่อขึ้นสู่ชั้นศาล สำหรับการจัดตั้งบริษัท พบว่ามีการตั้งบริษัทอย่างถูกต้อง 1 บริษัท เป็นตัวแทนนำ สิ่งผิดกฎหมายเหล่านี้ไปไว้ตามที่ต่างๆ ทั้งมีการจัดตั้งบริษัทมาอีกหลายบริษัท ทำหน้าที่เป็นนอมินีส่วนหนึ่ง เพื่อไม่ให้มีการสืบสวนติดตามได้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพบความเชื่อมโยงอย่างชัดเจนว่าเป็นลักษณะของกลุ่มขบวนการ ซึ่งกำลังพิจารณาในความผิดฐานเป็นอั้งยี่ เข้าไปสู่ความผิดมูลฐานฟอกเงิน ส่วนจะมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ หากพบจะได้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดทุกราย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top