Wednesday, 26 June 2024
TheStatesTimes

‘หนุ่ม’ โอนเงินผิดบัญชี 6,000 บาท ติดต่อขอคืน แต่อีกฝ่ายบอกโอนมาเอง ซ้ำ!! ขอผ่อนวันละ 1 บาท 10 บาท 20 บาท ถ้าไม่เอาก็พร้อมสู้ในศาล

(24 พ.ค.67) เป็นอีกเรื่องราวที่กำลังวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ เมื่อ ‘เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 7’ โพสต์คลิปการสนทนาของผู้เสียหายรายหนึ่ง พร้อมระบุข้อความว่า “เล่าเรื่องจากหลังไมค์ ตอนคุณโอนผิดมา เราไม่ได้ขอร้องให้คุณโอนผิด โอนเงินผิดบัญชีจะบิดหนีและขอใช้หนี้วันละบาท”

“พอดีผมมีเรื่องการโอนเงินผิดไปยังผู้หญิงคนหนึ่งที่กำแพงเพชร เป็นจำนวนเงิน 6,000 บาท ซึ่งหลังจากวันโอน ผมได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่โรงพักคอหงส์ หาดใหญ่ และได้ไปแจ้งกับธนาคารกรุงเทพสงขลา ธนาคารก็ได้หาเบอร์โทรศัพท์ของผู้หญิงคนนั้น แล้วโทรไป แต่สามีของเขารับสาย บอกว่าแฟนไม่อยู่ ทำงานออกกะดึกอยู่โรงงานน้ำตาลในกำแพงเพชร ธนาคารเลยแจ้งว่ารบกวนให้แฟนโอนกลับมาได้ไหม”

“ซึ่งเขาได้บอกว่าให้โทรไปคุยกับภรรยาเขาเองหลังสองทุ่ม หลังจากวางสาย ธนาคารกรุงเทพ สาขาสงขลาบอกจะติดต่อสาขากำแพงเพชร ให้แจ้งผู้หญิงคนนั้นมาเซ็นยินยอมให้ ภายในสองอาทิตย์ให้ผมติดต่อกลับไปธนาคารเช็กดูอีกครั้ง หลังจากนั้นธนาคารก็ให้เบอร์เขามา”

“ในคืนนั้นซึ่งผมกับแฟนผมโทรไป เขาก็ไม่รับ เว้นมาประมาณสองวัน ผมโทรไป เขาก็ไม่รับอีก ผมเลยให้แฟนโทรไป ปรากฏว่าสามีเขารับ พอขอสายภรรยาเขา เขาบอกว่าไปตลาดและวางสาย ผมก็เลยตัดสินใจโทรไปถามธนาคารว่า เงินยังอยู่ในบัญชีเขาอีกไหม ปรากฏว่าเขากดออกมาแล้ว หลังจากนั้นก็โทรติดต่อเขาไม่รับสายอีกเลย ก็เลยไปแจ้งความที่โรงพัก ซึ่งโรงพักบอกกับผมว่า ต้องแจ้งความกับร้อยเวรที่รับเรื่องในวันที่ 21 พ.ค. แต่ผมต้องลงมาทำงานในแท่นขุดเจาะเสียก่อน เลยทำให้แจ้งความไม่ได้”

“จากนั้นผมให้น้องที่กำแพงเพชร สืบหาที่อยู่ของเขาที่กำแพงเพชร น้องเขาไปตามให้ แต่ไม่พบตัว เจอแต่แม่ของเขา แม่ของเขาได้โทรไปหา ให้คุยกัน เขารับสาย แต่บอกว่าเขาไม่ผิด”

โดยในคลิปเป็นการพูดคุยเจรจากับหญิงรายดังกล่าวทางโทรศัพท์ ซึ่งเขาบอกว่า ตอนโอนมา ไม่ได้ขอให้โอนมา แล้วไม่ใช่ว่าจะไม่โอนคืนให้ แต่ขอโอนคืนวันละบาท สิบบาท ยี่สิบบาทก็ได้ และถ้าเจรจาตกลงกันไม่ได้ก็ไปขึ้นศาล พร้อมสู้

ทั้งนี้ ผู้เสียหายยังบอกอีกว่า ตอนนี้ตนอยู่ทะเล ทำให้ไปแจ้งความไม่ได้ ตอนที่อยู่บนบก ทำได้แค่ลงบันทึกประจำวัน ทางตำรวจอ้างว่า ต้องไปแจ้งกับร้อยเวรที่รับเรื่องที่แรก ทำให้ตอนนี้ตนทำอะไรไม่ได้ แถมปลายทางก็ไม่ยอมโอนคืน ตนรู้สึกว่า ทำแบบนี้มันไม่สมควร

‘มาดามแป้ง’ แต่งชุดผ้าไหมไทย สวยสะดุดตา งดงามเลอค่า แบรนด์เนมต้องหลีกทางให้

(24 พ.ค. 67) เพจ Bangkok I Love You ได้โพสต์ภาพ มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ที่สวมชุดผ้าไหม ระบุว่า…

“มาดามแป้งในชุดผ้าไหม กับน้อง ๆ ทีมงานในชุดไทยบรมพิมาน งดงามเลอค่าดูแพงมาก ๆ เลยครับ แบรนด์เนม หลีกทางให้เลย 

ที่สำคัญประชุม FIFA Congress 2024 หรือ ฟีฟ่า คองเกรส ที่ประเทศไทยได้ชาติแรกในอาเซียน ในการเป็นเจ้าภาพจัดงานครั้งที่ 74 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นับว่าอีเวนต์นอกสนามที่ใหญ่สุดของฟีฟ่า และ ‘มาดามแป้ง - นวลพรรณ ล่ำซำ’ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ก็สามารถจัดงานออกมาได้อย่างยิ่งใหญ่ และประทับใจผู้เข้าร่วมประชุมจากนานาชาติกว่า 3,000 คน

‘เจอร์รี่ F4’ รักแรกสาวไทย ปรากฏตัวร่วมอีเวนต์สยามพารากอน แม้ผ่านมากว่า 20 ปี หลังบท ‘เต้าหมิงซื่อ’ แต่ความหล่อยังเป๊ะ!!

(24 พ.ค. 67) แฟนคลับกรี๊ดต้อนรับกันสนั่น ทำเอาสยามพารากอนแทบแตก เมื่อพระเอกชื่อดังจากไต้หวัน ‘เจอร์รี่ หยาน’ (Jerry Yan) หรือ ‘เจอร์รี่ F4’ ปรากฏตัวในงาน Tiffany & Co. เปิดตัวแฟล็กชิพสโตร์ใหม่ล่าสุด ณ สยามพารากอน

ซึ่ง เจอร์รี่ ถือว่าเป็นสามีคนแรก ๆ ของสาวเอเชีย โดยแฟนคลับชาวไทยรู้จักกันดีจาก ซีรีส์ยอดฮิต F4 เวอร์ชันไต้หวัน (Metro Garden) ‘รักใสใสหัวใจสี่ดวง’ เมื่อกว่า 20 ปีก่อน ในบทบาท ‘เต้าหมิงซื่อ’ รักแรกของสาวไทย

โดยเจอร์รี่มาในลุกส์สุดเท่ แต่คงความขี้เล่นตามสไตล์ โดยได้มีการโพสท่าให้สื่อมวลชนได้ถ่ายรูป และมีโมเมนต์น่ารัก น่ารัก ให้ได้เก็บภาพมาชม

และนอกจากนี้ เจอร์รี่ ยังได้ประกบคู่กับ Tiffany & Co. House Ambassador ของประเทศไทยอย่าง วิน เมธวิน ด้วย ทั้งนี้ภายในงานยังมีนักแสดงดัง อาทิ ฟอส จิรัชพงศ์ , มีน นิชคุณ , เชอรี่ เข็มอัปสร , ปอนด์ ณราวิชญ์ และ แบม สราลี ซึ่งแต่ละคนก็มาในลุกส์ที่เรียบโก้ สวยหล่อดูดีกันทุกคน

สำหรับความพิเศษของแฟล็กชิพสโตร์ Tiffany & Co. แห่งใหม่ล่าสุดใจกลางกรุง ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน คือ การตกแต่งภายใต้แนวคิดการออกแบบล่าสุดของแบรนด์ เป็นการเฉลิมฉลองมรดกแห่งงานฝีมือเหนือกาลเวลาและงานออกแบบโดดเด่นที่อยู่คู่แบรนด์ Tiffany & Co. มานานนับศตวรรษ

ถอดรหัสมติสยิวกิ้ว 5 ต่อ 4 ยื้อลมหายใจ 'เศรษฐา' จับตาสถานการณ์ 29 พ.ค. ขีดชะตากรรมของแทร่

เป็นปรากฏการณ์ที่งดงามประการหนึ่งจากศาลรัฐธรรมนูญในการแถลงข่าวคำวินิจฉัยคดีสำคัญของบ้านเมืองนัดล่าสุด 23 พ.ค.2567 ที่ผ่านมา...กรณีคำร้องของกลุ่ม 40 สว.ให้วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ นายพิชิต ชื่นบาน รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่...

ที่ระบุว่างดงาม...ไม่ใช่เพราะ มติ 6 ต่อ 3 หรือ 8 ต่อ 1 หรือ 5 ต่อ 4 แต่ประการใด...หากแต่อยู่ที่เป็นครั้งแรกที่ในใบแถลงข่าวได้ระบุชื่อ ตุลาการเสียงข้างน้อยไว้ในทุกมติ ก็เลยทำให้สื่อมวลชนรู้เลยว่าเสียงข้างมากมีใครบ้าง...ไม่ต้องไปสืบเสาะเจาะข่าวได้มาถูกบ้างผิดบ้าง บางครั้งอาจทำให้ศาลท่านหงุดหงิด ก็เลยเปิดเผยไปเลย.. 

'เล็ก เลียบด่วน' ต้องขอแสดงความชื่นชมด้วยหัวใจ และขอเอ่ยนาม 9 ตุลาการศาล รธน.ชุดปัจจุบัน ให้ปรากฏไว้ ณ ที่นี่อีกครั้ง...

นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ (ประธาน), นายปัญญา อุดชาชน, นายวิรุฬห์ แสงเทียน, นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม, นายจิรนิติ หะวานนท์, นายนภดล เทพพิทักษ์, นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์, นายอุดม รัฐอมฤต และ นายสุเมธ รอยกุลเจริญ

มาถอดรหัสมติวันที่ 23 พ.ค. กันสักเล็กน้อย...มติ 8 ต่อ 1 ไม่รับกรณีนายพิชิตนั้น ไม่ต้องพูดถึง เมื่อชิงลาออก ศาลท่านก็จำหน่ายไป...

มติ 6 ต่อ 3 รับคำร้องไว้พิจารณา...3 เสียงที่ไม่รับคือ นายนครินทร์, นายอุดม รัฐอมฤต และนายสุเมธ...

มติ 5 ต่อ 4 ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่...4 เสียงข้างน้อยที่เห็นว่าต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่คือ นายปัญญา, นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม, นายวิรุฬห์ และนายจิรนิติ...

คะแนน 5 ต่อ 4 นั้นเฉียดฉิว...2 เสียงที่ไหลไปรวมกับ 3 เสียงข้างน้อย (ที่ไม่รับ) คือ นายนภดล และนายบรรจงศักดิ์...ซึ่งอย่าเพิ่งไปเคลมว่า 2 ท่านนี้จะเห็นว่าเศรษฐาผิดหรือไม่ผิด...เป็นคนละประเด็น...แต่เอาเป็นว่าเสียงเดียวที่ทำให้นายกฯ ได้ทำหน้าที่ต่อไปในช่วงนี้นั้น มันได้ช่วยให้บ้านเมืองได้ลดร้อนรุ่มลงนิดหน่อย...

ประเด็นสำคัญสมมติถ้าศาลมีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 ให้เศรษฐาหยุดปฏิบัติหน้าที่แบบลุงตู่เมื่อปี 2565...เศรษฐาคงว้าวุ่นและดีไม่ดีอาจทรุดคาชั้น 24 ของโรงแรมที่โตเกียวก็เป็นได้...

ถามไถ่ราคาต่อรองในตอนนี้...เศรษฐารอดไม่รอด... 'เล็ก เลียบด่วน' ตอบแบบไม่กั๊กจากที่ประมวลความเห็นมา ณ ขณะนี้ 51 ไม่รอด 49 รอด...แต่ของแทร่เขาบอกต้องดูวันพุธที่ 29 พ.ค.ที่จะถึงเสียก่อน...

ถ้าวันที่ 29 พ.ค. อัยการสูงสุดสั่งฟ้องทักษิณ ชินวัตร ในคดีความผิดมาตรา 112 ชะตากรรมของเศรษฐาก็จะพลอยมืดมนอนธการไปด้วย แต่หากสั่งไม่ฟ้องก็พอจะเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ แต่ถ้าอัยการเลื่อนไปอีก...เศรษฐาก็คงอยู่ในอาการหน้ามืด หัวใจสั่นหวิวต่อไป...จนถึงเดือน ก.ค. หรือ ส.ค.

อนึ่ง มีการคาดหมายกันว่า หากที่สุดเศรษฐาต้องหลุดจากตำแหน่ง เกมเก้าอี้นายกฯ จะไหลข้าม แพทองธาร ชินวัตร, ชัยเกษม นิติสิริ 2 แคนดิเดตพรรคเพื่อไทย ไปถึง 'อนุทิน ชาญวีรกูล' หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พรรคอันดับสองของพรรคร่วมรัฐบาล...ซึ่งเป็นบุคคลที่คนชื่อ 'ทักษิณ' กินยาทำใจแล้วพอรับได้...แบบไม่มีทางเลือก...

ส่วน 'นายกฯ บ้านป่ารอยต่อ' ที่ทีมงานอุตส่าห์ร่วมวงกับ 40 สว.ด้วยนั้น...ต้องขอแสดงความเสียใจ...อีกครั้ง

ประเด็นที่หวั่นใจกันก็คือคนอย่าง 'นายใหญ่' ที่กำลังเป็นเสือติดปีกในวันนี้ ใครก็หยุดท่านลำบาก...เกิดยาทำใจเอาไม่อยู่จะเป็นอย่างไร...

อ้าว!! ดูของจริงของแทร่วันที่ 29 พ.ค.กันดี ๆ ก็แล้วกัน...เสือจะโดนตัดปีกหรือไม่?

มูลนิธิยังมีเรา” ร่วม “มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์-ไทยสมายล์ กรุ๊ป” มอบทุนการศึกษา “เยาวชน" พร้อมมอบวิลแชร์ให้ผู้พิการ ณ จ.ลำพูน

24 พ.ค. 67 นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ ประธานมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ ร่วมกับกลุ่มไทยสมายล์ กรุ๊ป และ นายศิรวิฑย์ ชัยเกษม ผู้ประกาศข่าวท็อปนิวส์ ในฐานะตัวแทนจากมูลนิธิยังมีเรา โดยสถานีข่าวท็อปนิวส์ พร้อมด้วยสื่อมวลชน มอบทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียนแก่นักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดโอกาส และมีฐานะครอบครัวยากจน ตามโครงการสานฝันการศึกษา ประจำปี 2567 ของมูลนิธิยังมีเรา สถานีข่าวท็อปนิวส์  ณ สำนักพัฒนาฝีมือแรงงาน จ.ลำพูน โดยมี นางสาวอาภากร ว่องเขตกร ผู้ตรวจราชการ กรมพัฒนาฝีมือแรงงานเป็นผู้ร่วมรับมอบ  โดยนักเรียนที่จะได้รับทุนการศึกษา ต้องเรียนอยู่ในระบบการศึกษาตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษา มัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า และอุดมศึกษา

โดยวันนี้ มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ กลุ่มไทยสมายล์ กรุ๊ป และมูลนิธิยังมีเรา ได้มอบทุนการศึกษาด้วยกัน ทั้งหมด 10 ทุนการศึกษา สร้างความปลาบปลื้มให้กับเด็กที่ได้รับทุนการศึกษารวมถึงครอบครัวของเด็กเป็นอย่างมาก

โดยนักเรียนที่ได้พัฒนาความรู้และได้ทุนการศึกษา จากสำนักพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยความรู้สึกกับทีมข่าวท็อปนิวส์ว่า ดีใจมากที่ได้ทุน และจะนำไปเป็นทุนการศึกษา จะตั้งใจเรียน ไม่เกเร

ขณะที่นางเธียรรัตน์ ประธานมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ หวังว่า เงินทุนการศึกษาเหล่านี้ สามารถเป็นทุนให้กับเด็ก และเยาวชนที่จะเป็นอนาตที่ดีต่อชาติ ที่มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ ได้ร่วมสนับสนุนทุนการศึกษา ผ่านโครงการสานฝันการศึกษา 2567 ในครั้งนี้ ถือเป็นกิจกรรมหนึ่งซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของมูลนิธิในด้านการสร้างสาธารณประโยชน์ต่อชุมชน สังคม และที่สำคัญจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับเด็กนักเรียนและเยาวชน ซึ่งเขาเหล่านี้จะเติบโตเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ

และในช่วงบ่าย  นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ ประธานมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ พร้อมด้วย  นางสาวอาภากร ว่องเขตกร ผู้ตรวจราชการ กรมพัฒนาฝีมือแรงงานและหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน จ.ลำพูน ลงพื้นที่มอบรถเข็นวีลแชร์ และเครื่องอุปโภค บริโภคเพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ที่ประสบภัย ในพื้นที่ ต.บ้านกลาง และ ต.เหมืองง่า อ.เมือง จ.ลำพูน

ประกอบไปด้วย รถเข็นวีลแชร์ 2 คัน วอร์คเกอร์ช่วยเดิน และเครื่องอุปโภค บริโภคซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก กลุ่มไทยสมายล์ (รถและเรือโดยสารสาธารณะพลังงานไฟฟ้า) มามอบให้กับ ผู้สูงอายุและผู้พิการ ตามที่ได้รับการประสานจาก  น.ส.ศิริลักษณ์ ประศาสตร์อินทาระ แรงงานจังหวัดลำพูน  น.ส.พุทธชาติ อินทร์สวา จัดหางานจังหวัดลำพูน และ นายสมเกียรติ  เจษฎารมณ์  ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดลำพูน  ให้แก่ นางบัวปัน สาวะธรรม อายุ 80 อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 59 ม.10 ต.บ้านกลาง อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน ที่เป็นกลุ่มเปราะบาง มีฐานะยากจน และประสบปัญหาความเดือดร้อนทางสังคมและเป็นผู้ประสบภัย  เพื่อต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน เติมขวัญและกำลังใจ ให้แก่ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ ซึ่งถือเป็นกิจกรรมหนึ่งซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของมูลนิธิในด้านการสร้างสาธารณประโยชน์ต่อชุมชน สังคม และที่สำคัญจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ ซึ่งมีความยากลำบากในการดำเนินชีวิต ต้องการอุปกรณ์ช่วยเหลือดังกล่าวมากกว่าบุคคลทั่วไป ทำให้ทุกฝ่ายต้องร่วมมือช่วยกันจัดหาอุปกรณ์และสิ่งอำนวย ความสะดวกเป็นลำดับแรก

ผู้บัญชาการทหารเรือ (รอง ผอ.ศรชล.) ประกอบพิธีเปิดอาคาร ศรชล.ภาค 1 และประชุมคณะกรรมการบริหาร ศรชล. ครั้งที่ 1/2567

วันที่ 24 พ.ค.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ทางทะเล (ผอ.ศรชล.) ได้มอบหมายให้ พลเรือเอก อดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (รอง ผอ.ศรชล.) เป็นผู้แทนประกอบพิธีเปิดอาคาร ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 ณ อาคารศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ตามที่ ศรชล. ได้รับงบประมาณก่อสร้างเมื่อวันที่ 28 ม.ค.65 และแล้วเสร็จและส่งมอบอาคารให้ ศรชล.ภาค 1 เมื่อวันที่ 29 พ.ย.66 รวมระยะเวลาก่อสร้าง 670 วัน 

อาคารแห่งนี้มีชั้นใต้ดิน และชั้นที่ 1 ถึงชั้นที่ 4 ถูกออกแบบให้มีห้องปฏิบัติงาน ห้องประชุม ห้องแถลงข่าว ห้องศูนย์ยุทธการ ที่สามารถใช้งานในการอำนวยการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร เผ้าติดตามสถานการณ์ในทะเล ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต่อจากนั้นผู้บัญชาการทหารเรือ (รอง ผอ.ศรชล.) ได้เป็นประธานการประชุมกรรมการบริหาร ศรชล.ภาค 1 โดยก่อนเริ่มการประชุมคณะกรรมการบริหาร ศรชล. เป็นการประชุม Senior Officials Meeting : SOM โดยเรียนเชิญผู้บริหาร ศรชล. ทั้ง 7 หน่วยงาน หารือในประเด็นที่สำคัญในระดับผู้บริหาร ศรชล. ได้แก่ การเชื่อมโยงข้อมูลของหน่วยงานต่าง ๆ เข้าสู่ระบบ Big Data ตามนโยบาย ผอ.ศรชล. ในการขับเคลื่อนการบูรณการฐานข้อมูลความมั่นคงทางทะเลไปสู่การเป็นองค์กร Maritime Data Driven Joint Inter-Agency Task Forces เพื่อให้ ศรชล. และหน่วยงานทางทะเลมีกลไกตระหนักรู้สถานการณ์ทางทะเล ในการรวมรวมข้อมูลจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประดทศ เพื่อให้ระบบสารสนเทศแบบ One Marine Chart เกิดความสมบูรณ์ โดยจัดทำในรูปแบบ One Marine Chart มาตรส่วนแผนที่ 1 ต่อ 50,000 ซึ่งจะทำให้หน่วยงานทางทะเลที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ในอนาคต และเรื่องแนวทางการประชาสัมพันธ์ร่วมระหว่างหน่วยงานหลักใน ศรชล. ในการสร้างความตระหนักรู้ภาคประชาชน ผู้ประกอบการ และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เป็นหุ้นส่วนการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (Maritime National Interest Strategic Partnership)

จากนั้นผู้บัญชาการทหารเรือ (รอง ผอ.ศรชล.) ได้เริ่มการประชุมกรรมการบริหาร ศรชล. ครั้งที่ 1 โดยสรุปเรื่องที่สำคัญได้แก่ การจัดทำรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 แผนงานที่สำคัญและร่างคำของบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ.2568 เครื่องหมายราชการ ศรชล. การจัดทำแผนที่แบ่งเขตจังหวัดทางทะเลเพื่อใช้ราชการภายในหน่วยงาน ศรชล. การจัดทำ MOU เชื่อมโยงข้อมูลระหว่าง ศรชล. กับกรมสรรพสามิต การตรวจรับเรือปฏิบัติการความเร็วสูงบริเวณชายฝั่ง การเตรียมการสำหรับการเป็นเจ้าภาพการประชุม ASEAN Coast Guard Fotum ในปีงบประมาณ พ.ศ.2568 การลงนาม MOU ระหว่าง ศรชล. กับหน่วยยามฝั่งเวียดนามในการความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายทางทะเล

ก่อนปิดประชุม ผู้บัญชาการทหารเรือ (รอง ผอ.ศรชล.) ได้กล่าวของคุณทุกนห่วยงานอีกครั้งที่ได้ให้ความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ ในการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานของ ศรชล. ในมิติต่าง ๆ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามความมุ่งหมายดังวิสัยทัศน์ "ศรชล." เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลที่ได้รับการยอมรับในระดับภูมิภาคเพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนของประเทศชาติและประชาชน

สมนึก เชื้อสนุก รายงาน

‘เม็กซิโก’ เวทีหาเสียงพังถล่ม หลังลมกระโชกแรงเป็นเหตุ สร้างความสูญเสีย 9 ชีวิต - บาดเจ็บอย่างน้อย 50 คน

เมื่อวานนี้ (23 พ.ค.67) กล่าวว่า เกิดอุบัติเหตุเวทีปราศรัยหาเสียงพังถล่มจากอิทธิพลของลมกระโชกแรง ทางตอนเหนือของเม็กซิโก จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

ด้าน ซามูเอล การ์เซีย ผู้ว่าการรัฐนวยโว เลออน ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ ระบุว่า จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วเป็นผู้ใหญ่ 8 รายและผู้เยาว์ 1 ราย รวมถึงผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 50 คน โดยบางรายมีอาการสาหัส

โดยภาพของสื่อท้องถิ่นจากจุดเกิดเหตุในเมืองซาน เปโดร การ์ซา การ์เซีย เผยให้เห็นความโกลาหลของฝูงชนที่พยายามวิ่งหนีออกจากเวทีที่กำลังโค่นล้ม ขณะที่เสาไฟและจอทีวีขนาดยักษ์พังถล่มใส่บริเวณที่ฮอร์เก้ อัลวาเรซ เมย์เนซ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเม็กซิโก และสมาชิกพรรค Citizens' Movement ของเขายืนอยู่

เมย์เนซที่หลบหนีออกมาได้โดยไม่มีอาการบาดเจ็บสาหัส กล่าวว่า เวทีพังทลายลงเนื่องจากมีลมกระโชกแรง

"ผมสบายดีและกำลังให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น" เมย์เนซ วัย 38 ปีกล่าว พร้อมเสริมว่าสิ่งสำคัญอันดับแรกคือการดูแลผู้ประสบเหตุ

งานที่จัดขึ้นนี้เป็นการชุมนุมหาเสียงสำหรับผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีของเมืองซาน เปโดร การ์ซา การ์เซีย โดยมีผู้สมัครวุฒิสมาชิกและฝ่ายนิติบัญญัติจากพรรค Citizens' Movement เข้าร่วมด้วย

เมย์เนซซึ่งระงับกิจกรรมหาเสียงทั้งหมดทันที กล่าวว่า เขาจะยังคงอยู่ในที่เกิดเหตุจนกว่าผู้บาดเจ็บคนสุดท้ายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล

ก่อนหน้านี้ กรมอุตุนิยมวิทยาของเม็กซิโกเตือนว่าจะมีฝนตกหนัก, ลมกระโชกแรงถึง 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอาจมีพายุทอร์นาโดในนวยโว เลออนและรัฐอื่น ๆ ทางตอนเหนือ

ผู้ว่าการการ์เซียเรียกร้องให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการออกไปข้างนอก เนื่องจากพายุอาจสร้างอันตรายถึงชีวิต

ในโพสต์บนโซเชียลมีเดีย ประธานาธิบดีอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ของเม็กซิโก กล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัวและเพื่อนของผู้ประสบเหตุที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ เช่นเดียวกับผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีก 2 คนก็แสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับผู้ที่ได้รับผลกระทบเช่นกัน

ทั้งนี้ ในวันที่ 2 มิถุนายนนี้ ชาวเม็กซิกันจะออกมาลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีคนต่อไป รวมทั้งตำแหน่งสมาชิกสภาคองเกรส, ผู้ว่าการรัฐ และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น

‘รทสช.’ กำชับ สส.พรรค ห้ามยุ่งเกี่ยวผู้สมัคร สว. สร้างความชอบธรรมให้สภาสูงแยกจากการเมือง

(24 พ.ค. 67) นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ  สส.แบบบัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติได้มีการกำชับสมาชิก และสส. ไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. ที่มีการเปิดรับสมัครวันนี้เป็นวันสุดท้าย เพื่อไม่ให้ขัดต่อกฎหมายและคงเจตนารมณ์ของความเป็นอิสระของสภาสูงให้แยกออกจากการเมืองเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบออกกฎหมายที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศและประชาชน ให้เป็นไปตามครรลองประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้ ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ได้แจ้งเตือนไปยังผู้สมัครและพรรคการเมืองแล้ว หากมีการตรวจสอบพบว่าผู้สมัครคนใดยินยอมให้ผู้ที่มีตำแหน่งทางการเมือง รวมถึง กรรมการบริหารพรรคการเมือง ผู้ดำรงตำแหน่งอื่นใดในพรรคการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เข้ามาช่วยเหลือผู้สมัครไม่ว่ากรณีใด ๆ หากฝ่าฝืน จะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท   หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี 

“ท่านหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคและผู้บริหารรวมไทยสร้างชาติ ได้กำชับ สส. และการเมืองทุกระดับไม่ให้เข้าไปช่วยเหลือผู้สมัครสว. เพราะถือว่าเป็นตำแหน่งที่ต้องได้มาด้วยความอิสระ โปร่งใส ไม่ยึดโยงกับพรรคหรือกลุ่มการเมือง เพื่อผู้ที่ได้รับตำแหน่งจะเข้ามาปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อติดตามตรวจสอบและออกกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติในอนาคต โดยเชื่อว่าการสมัครสว. วันนี้ซึ่งเป็นวันสุดท้าย จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย” นายธนกร กล่าว

‘อิสราเอล’ เดือด!! ออกมาตรการโต้กลับ ประเทศที่หนุนตั้งรัฐปาเลสไตน์ ล่าสุดตอบโต้ทางการทูต ‘สเปน-นอร์เวย์-ไอร์แลนด์’

อิสราเอล ตอบโต้ประเทศที่สนับสนุนการตั้งรัฐปาเลสไตน์ ด้วยการเรียกตัวเอกอัครราชทูตของไอร์แลนด์, นอร์เวย์ และสเปน ประจำอิสราเอล เข้ารับทราบคำตำหนิ ขณะเดียวกัน ได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตของอิสราเอล ที่ประจำการในกรุงดับลินของไอร์แลนด์, กรุงออสโลของนอร์เวย์ และกรุงมาดริดของสเปน เดินทางกลับประเทศทันที

(24 พ.ค.67) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล กำลังพิจารณาขั้นตอนทางการทูตเพิ่มเติม เช่น ยกเลิกการเยือนอิสราเอลของเจ้าหน้าที่จากประเทศเหล่านี้ และการเพิกถอนวีซ่า 

ขณะที่ทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ระบุว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เชื่อว่า เรื่องการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ควรมีการเจรจาทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่การยอมรับฝ่ายเดียว 

สำหรับ รัฐบาลสเปน, นอร์เวย์ และไอร์แลนด์ ประกาศเตรียมรับรองสถานะ ‘รัฐปาเลสไตน์’ อย่างเป็นทางการในวันที่ 28 พฤษภาคมนี้ หลังจากรัฐบาลทั้งสามประเทศเห็นพ้องว่า การรับรองดังกล่าวเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการบรรลุสันติภาพที่ยั่งยืนในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะปัญหาอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ตาม ‘แนวทางสองรัฐ’ (Two-State Solution) 

เวลานี้มีรัฐสมาชิกของสหประชาชาติ (UN) มากกว่า 140 จาก 193 ประเทศทั่วโลกได้ประกาศรับรองสถานะนี้ให้กับปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศอาหรับและมุสลิมในตะวันออกกลาง ขณะที่ 3 ใน 5 ประเทศสมาชิกถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) อย่างสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส รวมถึงอีกหลายประเทศในสหภาพยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และออสเตรเลีย ยังไม่ได้ประกาศรับรองสถานะ ‘การเป็นรัฐ’ ให้ปาเลสไตน์ 

“พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ” เยี่ยมให้กำลังใจตำรวจ EOD ที่ได้รับบาดเจ็บจากการตรวจพื้นที่เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดและซุ่มยิงในพื้นที่ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ยืนยันช่วยเหลือเยียวยาอย่างเต็มที่

วันนี้ (24 พฤษภาคม 2567) เวลา 11.00 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ข่วย ผบ.ตร. เดินทางไปเยี่ยม จ.ส.ต.วรวิทย์ ณะรัตตะ อายุ 35 ปี ผบ.หมู่ กก.ปฏิบัติการพิเศษ ภ.จว.นราธิวาส ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมี พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 , พล.ต.ต.เชาวลิต เลี้ยงสุพงศ์ ผบก.ภ.จว.สงขลา , พล.ต.ต.ชุมพล ศักดิ์สุรีย์มงคล ผบก.สส.จชต. ร่วมคณะ

ทั้งนี้ จ.ส.ต.วรวิทย์ฯ ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 13.55 น. เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด หรือ EOD , เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดนราธิวาส พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุคิริน และเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย เข้าร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ กรณีคนร้ายลอบวางระเบิดและซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ อส.ชุดคุ้มครองตำบลเกียร์ ชุดรักษาความปลอดภัยครู บริเวณริมถนนเส้นทางสายเกียร์-สากอ หมู่ที่ 2 ต.เกียร์ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ซึ่ง จ.ส.ต.วรวิทย์ฯ ได้เหยียบวัตถุระเบิดที่คนร้ายลอบวางไว้ จนเกิดระเบิดขึ้นซ้ำ เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขาขาด 2 ข้าง เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลสุคิริน จ.นราธิวาส เพื่อรักษาตัว และส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ จ.สงขลา 

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ ได้พูดคุยให้กำลังใจและขอบคุณในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง พร้อมมอบกระเข้าและเงินช่วยเหลือให้กับ จ.ส.ต.วรวิทย์ฯ ยืนยันว่า จะดูแลสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ให้กับ จ.ส.ต.วรวิทย์ฯ อย่างเต็มที่


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top