Monday, 20 May 2024
TheStatesTimes

‘ไรเดอร์’ เล่านาทีวัดใจ ส่งออเดอร์ให้ลูกค้าหน้าเรือนจำ ก่อนถูกสั่งให้วางไว้-เรียกชื่อ รับ!! เครียด แต่เป็นหน้าที่

(7 พ.ค.67) จากกรณีผู้ใช้ TikTok แม็ก มณฑล นักร้องส้นตีณ แชร์ไลฟ์ในติ๊กต็อกว่า 1 วันพันกว่าเรื่อง ได้รับออเดอร์มาให้มาส่งที่เรือนจำ เราคิดว่าเมียผู้คุมหรือผู้คุมสั่งแต่ไม่ใช่ เขาเขียนมาว่าให้เอาข้าวมันไก่ไปวางไว้ข้างกำแพงแล้วก็ให้เรียกชื่อ…..มากินข้าว โอ๊ยทำไมมันโชคดีตั้งแต่เช้าออเดอร์แรกด้วยครับ

บรรยากาศเรือนจำภูเก็ตสาขาในเมืองร้างไปแล้ว โคตรแจ็คพอตเลยจริง ๆ นี่ไงบรรยากาศคือร้างไปแล้ว ไม่มีนักโทษแล้ว เขาย้ายไปเรือนจำใหม่แล้ว ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องเป็นผม แต่เป็นหน้าที่ผมเข้าใจเครียดเลยไม่รู้จะทำอย่างไรสู้กันต่อไปชีวิต พร้อมข้อความว่า เจอออเดอร์การกุศล ให้วางข้างกำแพงแล้วเรียกชื่อ

หลังจากแชร์ออกไปมีคนเข้ามาวิจารณ์เป็นจำนวนมาก เช่น ป้ายทะเบียนกับเลขออเดอร์อะไร, แกะให้เค้าม้าย เปิดห่อข้าว แล้วเรียกค่ะ, ตอนเด็ก ๆ ตาเป็นผู้คุมที่เรือนจำภูเก็ต ไปทุกปิดเทอม เพิ่งรู้ว่ามันร้างแล้วเพราะกลับมาอยู่สตูล เป็นต้น

ทั้งนี้ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ไรเดอร์ ถูกเรียกให้ไปส่งที่เรือนจำเก่า ตั้งอยู่ที่ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต

'ญี่ปุ่น' สร้างอุปกรณ์ 'รับ-ส่ง' สัญญาณ 6G ได้เป็นครั้งแรกของโลก เร็วกว่า 5G ถึง 20 เท่า กุญแจสำคัญพายานพาหนะไร้คนขับรุดหน้า

(7 พ.ค. 67) TNN Tech รายงานว่า โดโคโมะ (DOCOMO) เอ็นทีที (NTT Corporation) เน็ก (NEC Corporation) และฟูจิสึ (Fujitsu) ร่วมกันพัฒนาอุปกรณ์ที่สามารถรับและส่งข้อมูลในย่านคลื่นความถี่ 6 กิกะเฮิร์ตซ (GHz) ซึ่งเป็นย่านคลื่นความถี่ที่เชื่อว่าจะถูกนำไปใช้งานกับการสื่อสารยุค 6G ได้เป็นครั้งแรกของโลก โดยมีความเร็วในการส่งสัญญาณที่ 100 กิกะบิตต่อวินาที (Gbps) หรือมากกว่า 5G ถึง 20 เท่า

สำหรับการทดลองส่งข้อมูลด้วยอุปกรณ์ 6G ครั้งแรกของโลก ได้เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี 2021 โดยออกแบบให้รับและส่งสัญญาณที่ย่านความถี่ 6 GHz ซึ่งมีอีกชื่อว่า ซับเทระเฮิร์ตซ (Sub-terahertz) โดยอุปกรณ์ได้ส่งสัญญาณในช่วงความถี่ (Band) 100 - 300 GHz ต่างจาก 5G ที่มี Band ในการส่งสัญญาณที่ 40 GHz โดยสามารถส่งข้อมูลได้ที่ความเร็ว 100 Gbps รองรับระยะการส่งแบบไร้สายที่ 100 เมตร

การพัฒนาในครั้งนี้ เป็นการนำความสามารถในการวิเคราะห์การตั้งค่าสัญญาณไร้สาย (Wireless system configuration) ที่ DOCOMO เชี่ยวชาญ ร่วมกับการพัฒนาตัวอุปกรณ์ให้รองรับการส่งสัญญาณได้จริงโดย NTT 

ในขณะที่ NEC ได้เข้ามาร่วมวิจัยและพัฒนาเสาสัญญาณแบบใหม่แบบเรียงที่เรียกว่า เอพีเอเอ (APAA: Active Phased Array Antenna) ส่วน Fujitsu มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาชิปเพื่อขยายกำลังคลื่นในการรับและส่งสัญญาณในครั้งนี้

สำหรับอนาคตของ 6G จากฝั่งญี่ปุ่น จากการทดลองนี้ ยังทำให้ Fujitsu มีชิปที่สามารถขยายกำลังสัญญาณ 6G ได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลกในปัจจุบันด้วย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาระยะการส่งสัญญาณ 6G ให้ไกลยิ่งขึ้นในอนาคต ในขณะเดียวกัน 6G ยังเป็นเทคโนโลยีที่เชื่อว่าเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาระบบยานพาหนะไร้คนขับ (Autonomous vehicle) อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม การพัฒนาระบบโครงข่ายสัญญาณ 6G จะมีความแตกต่างจากการเปลี่ยนผ่านสมัย 4G มายัง 5G เนื่องจากสัญญาณในระดับ Sub-terahertz จะมีกำลังและรูปแบบคลื่นที่ต่างจาก 5G ส่งผลให้ผู้ให้บริการโครงข่าย 6G ในอนาคตจำเป็นต้องลงทุนอุปกรณ์ในระบบใหม่ทั้งหมด ซึ่ง TNN Tech มองว่านี่อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การพัฒนาโครงข่าย 6G ยังต้องใช้เวลาอีกสักระยะ

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม 2567 : อย่าเพิ่งขอพร แผ่กุศลก่อน

จากช่องติ๊กต็อก @dhamma_tv ได้เผยแพร่คำสอนเรื่อง ‘อย่าเพิ่งขอพร แผ่กุศลก่อน’ จากรายการ ‘ธรรมะทำไม’ โดย ‘พระครูศรีปริยัติวิสุทธิ์ (หลวงพ่อโกวิท)’ รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา เจ้าอาวาสวัดด่านใน

🎙คำถาม: เราไปสถานที่หลาย ๆ แห่ง เช่น วัด ศาลเจ้า สถานที่ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เราไปแผ่กุศลให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ด้วย จริงหรือไม่?

👉พระครูศรีปริยัติวิสุทธิ์ (หลวงพ่อโกวิท): อันนี้ควรทําอย่างยิ่ง เวลาไปสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ มีเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ อย่าเพิ่งไปขอพร คำแนะนำก็คือให้ไปแผ่บุญกุศลให้ท่าน กล่าวดังนี้ “ด้วยอำนาจที่ข้าพเจ้าได้ทำบุญ (ระบุบุญที่ทำ) มา ข้าพเจ้าขอแผ่ให้ท่าน จะเป็นเทพองค์ใดก็ตาม ข้าพเจ้าไม่รู้ชื่อท่าน ขอให้ท่านได้สมบัติอันเป็นทิพย์ ได้อายุอันเป็นทิพย์ ได้อาภรณ์อันเป็นทิพย์ ได้อาหารอันเป็นทิพย์ ให้ท่านได้รัศมีสว่างไสว เมื่อท่านได้รับแล้ว ขอให้แผ่เทวฤทธิ์ของท่าน อวยชัยประสาทพร ขอให้ข้าพเจ้าได้สมบัติอันเป็นส่วนของมนุษย์ ได้อาหารอันเป็นส่วนของมนุษย์ ได้อาภรณ์อันเป็นส่วนของมนุษย์ ได้อายุอันเป็นส่วนของมนุษย์”

👉พระครูศรีปริยัติวิสุทธิ์ (หลวงพ่อโกวิท): แบบนี้คืออธิษฐานที่เป็นอธิษฐานบารมี ไม่เบียดเบียนตนเอง และไม่เบียดเบียนผู้อื่น

🎙คำถาม: แผ่กุศลบ่อย ๆ บุญจะหมดไหม?

👉พระครูศรีปริยัติวิสุทธิ์ (หลวงพ่อโกวิท): บุญไม่ได้มีน้ำหนัก ไม่ได้มีชิ้นมีอันเหมือนเค้ก ตรงกันข้าม ถ้าจะกล่าวให้ชัดเลย ‘บุญ’ เป็นสภาวะชนิดเดียวที่ยิ่งให้แล้วยิ่งเพิ่มขึ้น สิ่งอื่นให้แล้วหมดลง น้อยลง 

👉พระครูศรีปริยัติวิสุทธิ์ (หลวงพ่อโกวิท): ท่านบัณฑิตนักปราชญ์เปรียบว่า เหมือนเรามีเทียนอยู่ 10 เล่ม ก็สว่างประมาณหนึ่ง แต่ถ้าเอาเทียน 10 เล่ม ไปจุดต่ออีกล้านเล่ม นอกจากเทียน 10 เล่มจะไม่ดับแล้ว แสงสว่างจะมากกว่าเดิม

🎙คำถาม: แสดงว่าคำที่บอก “เอาบุญมาฝาก” ฝากยังไงก็ไม่มีทางหมดแน่นอน?

👉พระครูศรีปริยัติวิสุทธิ์ (หลวงพ่อโกวิท): ใช่ แล้วก็ดีกว่าเอาบาปมาฝากด้วย

‘พระพุทธรูป-พระบูชา’ ตัวแทนคำสอน จาก ‘พ่อหลวง ร.9’ | THE STATES TIMES Story EP.147

ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำริที่จะสร้างพระพุทธรูปบูชา พร้อมพระพิมพ์ เพื่อบรรจุที่ฐานบัวหงายของพระพุทธรูป เพื่อมอบให้กับจังหวัดและหน่วยงานราชการต่าง ๆ ทั่วประเทศ เป็นขวัญและกำลังใจให้กับ ข้าราชบริพาร ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ที่ได้สร้างความดี ความชอบและสร้างคุณประโยชน์แก่ชาติบ้านเมือง อย่างไม่ย่อท้อ ท่ามกลางสถานการณ์ของสงครามเย็นที่มีแต่ความหมิ่นเหม่ต่อความมั่นคงของชาติ ในช่วงปี พ.ศ. 2508 - 2513

ทั้งนี้ ได้โปรดเกล้าฯ ให้ นายไพฑูรย์ เมืองสมบูรณ์ ข้าราชการกองหัตถศิลป์ กรมศิลปากร เข้ามาปั้นหุ่นพระพุทธรูปสำคัญและเป็นผู้แกะแม่พิมพ์พระพุทธรูปพิมพ์นี้ โดยพระองค์ทรงตรวจพระพุทธศิลป์ด้วยพระองค์เอง

5 เดือนแรก ต่างชาติแห่เที่ยวไทย ดันยอดทะลุ 12 ล้านคน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายประมาณ 605,201 ล้านบาท

(7 พ.ค. 67) รายงานข่าวจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยผลการประเมินเบื้องต้นพบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 5 พ.ค. 2567 นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาแตะระดับ 12 ล้านคน ในสัปดาห์ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาลดลงจากการชะลอตัวของกลุ่มนักท่องเที่ยวตลาดระยะใกล้ (Short haul) และตลาดระยะไกล (Long haul) จากการเริ่มเข้าสู่ช่วง Low season โดยเฉพาะภูมิภาคยุโรป ที่ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียขยับลงมาเป็นกลุ่มที่เข้ามาเป็นอันดับที่ 5 จากเดิมในอันดับที่ 4 ส่งผลให้ในภาพรวมสัปดาห์นี้ไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 639,822 คน ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า 12,419 คน หรือ 1.90% คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 91,403 คน

โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ จีน 161,678 คน มาเลเซีย 84,127 คน อินเดีย 46,561 คน เกาหลีใต้ 31,738 คน และรัสเซีย 27,228 คน โดยนักท่องเที่ยวจีน เกาหลีใต้ อินเดีย และมาเลเซีย มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 9.41% 8.41%  5.96% และ 0.84% ในขณะที่นักท่องเที่ยวรัสเซีย มีการปรับตัวลดลง 9.15%

สำหรับในสัปดาห์ถัดไป คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาลดลงจากการเริ่มเข้าสู่ช่วง Low season แต่ยังคงมีปัจจัยส่งเสริมการเดินทาง ได้แก่ การลงนามยกเว้นวีซ่าระหว่างไทย-จีน และการขยายสิทธิการยกเว้นตรวจลงตรา ที่เดินทางไม่เกิน 60 วัน ให้กับนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ที่มีผลช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยว เพิ่มการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง และกระตุ้นให้สายการบิน เพิ่มจำนวนเที่ยวบิน

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการท่องเที่ยวในปีนี้ โดยข้อมูล ณ วันที่ 6 พ.ค. 67 พบว่า ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 5 พ.ค. 2567 ที่ผ่านมาทั้งสิ้น 12,588,825 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 605,201 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 2,461,620 คน มาเลเซีย 1,634,388 คนรัสเซีย 784,550 คนเกาหลีใต้ 704,427 คน และอินเดีย 677,783 คน

พิจิตร-มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ พร้อมด้วย หน่วยงานกระทรวงแรงงาน จ.พิจิตร กลุ่มไทยสมายล์ เติมกำลังใจ ให้ผู้พิการและผู้ยากไร้ 

​วันที่ 7 พฤษภาคม 2567 นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ ประธานมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์  ทีมงานมวลชนสัมพันธ์ (CSR) กลุ่มไทยสมายล์ กรุ๊ป  ลงพื้นที่มอบรถเข็นวีลแชร์ และอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือแก่ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ จำนวน 4 ราย และอีก 2 ราย ณ บ้านของผู้แจ้งความประสงค์ ที่อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร   โดย มี นายสมชาติ สุภารี ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน และหัวหน้าหน่วยราชการในสังกัดกระทรวงแรงงาน จ.พิจิตร ให้การต้อนรับ 

​นางเธียรรัตน์ กล่าวว่า ในนามมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ นำอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการ 
และผู้ยากไร้ ประกอบไปด้วย รถเข็นวีลแชร์ จำนวน 4 คัน และไม้เท้าพยุงสามขา จำนวน 2 อัน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก กลุ่มไทยสมายล์ (รถและเรือโดยสารสาธารณะพลังงานไฟฟ้า) รวมถึงยังได้รับการสนับสนุนการขนส่งสิ่งของมายัง จ.พิจิตร โดย บริษัท สมบัติทัวร์ จำกัด มามอบให้กับ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ ตามที่ได้รับการประสานจาก หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดพิจิตร ทั้งนี้ได้ส่งมอบรถเข็นวีลแชร์ที่ อาคารสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงาน จังหวัดพิจิตร จำนวน 4 ราย ได้แก่ นางศิริพร บุญยัง (อายุ 39 ปี) นายบรรเจิด บุญเลิศ (อายุ 69 ปี) นางบุญรอด แซ่เจียม (อายุ 81 ปี) และนางถนอมศิลป์ สว่างวงษ์ภักดิ์ (อายุ 82 ปี) นอกจากนี้ยังได้ไปมอบไม้เท้าพยุงสามขา จำนวน 2 ราย ที่บ้านของผู้แจ้งความประสงค์ ณ บ้านของผู้แจ้งความประสงค์ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เป็นจำนวน 2 คัน ได้แก่ นายดำ คามวาศรี (อายุ 78 ปี) และนางเกศนีย์ แซ่เจียม (อาย 64 ปี) ซึ่งทั้ง 6 ราย เป็นกลุ่มเปราะบาง มีฐานะยากจน และประสบปัญหาความเดือดร้อนทางสังคม การที่มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ได้นำอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ มามอบในครั้งนี้ เพื่อต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน มอบกำลังใจ ให้แก่ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ ซึ่งถือเป็นกิจกรรมหนึ่งซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของมูลนิธิในด้านการสร้างสาธารณประโยชน์ต่อชุมชน สังคม และที่สำคัญจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ ซึ่งมีความยากลำบากในการดำเนินชีวิต ต้องการอุปกรณ์ช่วยเหลือดังกล่าวมากกว่าบุคคลทั่วไป

ทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567

วันที่ 7 พ.ค.67 เวลา 10.00 น. ทัพเรือภาคที่ 1 โดยมี ว่าที่ น.อ.ชิตพงศ์  ช้างงาม ช่วยปฏิบัติราชการทัพเรือภาคที่ 1 เป็นผู้แทน ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 พร้อมด้วยกำลังพลจิตอาสา จำนวน 10 นาย เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาพัฒนากับศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานในพิธี กิจกรรมประกอบด้วยการปลูกป่าชายเลน เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และกิจกรรมทำความสะอาดบริเวณชายหาด ณ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย ม.2 ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จว.ชลบุรี 
นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645

#ทัพเรือภาคที่1
#จิตอาสาพระราชทาน
#เทิดทูนสถาบัน_ยึดมั่นระเบียบวินัย_ประชาชนภูมิใจ_ทะเลไทยมั่นคง
#Fit_for_the_Future
 

'อาร์ต พศุตม์' ยกความหมาย 'พอเพียง' ในมุมตน จนโดนใจชาวเน็ต ไม่ฟุ่มเฟือยจนเกินตัว ไม่อยากได้อยากมีจนเกินกำลัง ไม่คดโกงใคร

(8 พ.ค.67) มุมานะขยันทำมาหากินกตัญญูเลี้ยงพ่อแม่ พระเอกหนุ่ม คุณชายหมูกรอบ ‘อาร์ต พศุตม์’ ที่ตอนนี้กำลังรุ่งกิจการหมูกรอบขายดิบขายดี ออกบูธไม่ได้หยุด

ล่าสุดท่ามกลางกระแสดรามาร้อนแรงประเด็นทอล์กปมพอเพียงของ ‘โน้ส อุดม’ เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นา ๆ ตอนนี้ หนุ่มอาร์ตก็ได้โพสต์คลิป พร้อมแคปชันว่า…

“ออกบูธ แฟชั่น ไอซ์แลนด์ นะคับ แบบนี้ เค้าเรียก ‘พอเพียง’ จ๊ะ ไม่จำเป็นต้องทำตัวจน ไม่จำเป็นต้องทำไร่ทำสวน ไม่จำเป็นต้องทำตัวให้ลำบาก

‘พอเพียง’ คือ รูัจักประมาณตนเอง พอใจในสิ่งที่มี ไม่ใช่ฟุ่มเฟือยจนเกินตัวเอง ไม่คดโกงใคร ไม่ได้อยากได้อยากมีจนเกินกำลัง”

เป็นคลิปขณะเจ้าตัวให้สัมภาษณ์ เอาจริง ๆ ชาตินี้อยู่สบาย ๆ แล้ว ไม่มีทางที่จะลงทุน 10 ล้าน เพื่อเสี่ยงวัดดวงเอาเงิน 100 ล้าน ไม่เอาเลย แต่ถ้าล้านหนึ่งจะมีเพิ่มมาอีก 5-6 ล้าน โอเค

ขณะที่มีคอมเมนต์ต่างเข้ามาสนับสนุนความคิดเห็น อาร์ต รัว ๆ อาทิ เห็นด้วยค่ะ , ใช่ที่สุดค่ะ , นี่แหละพอเพียง ไม่ใช่พูดพอเพียงและลามไปเรื่องทำเกษตร , ถูกต้องที่สุดค่ะ , ทัศนคติดีรักคุณอาร์ตครับ , ถูกต้องทุกคำ เป็นต้น

‘BCPG’ เผยผลงานไตรมาส 1/67 ปลื้ม!! กำไรสุทธิแตะ 441 ล้านบาท

(8 พ.ค. 67) บีซีพีจี เผยผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2567 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 1,194 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 12.9 จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป. ลาว กลับมาดำเนินการเต็มไตรมาส และเริ่มรับรู้รายได้ของคลังน้ำมันและท่าเทียบเรือในปีที่ผ่านมา ขณะที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 441 ล้านบาท

นายนิวัติ อดิเรก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ไตรมาส 1 ปี 2567 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 1,194 ล้านบาท 
มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 441 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 1 ปี 2566 ร้อยละ 13.9 ที่มีกำไรสุทธิ 512 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาส 1 ปี 2566 มีการบันทึกการกลับรายการจากการด้อยค่าทรัพย์สิน 267 ล้านบาท  
ขณะที่มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ  ซึ่งไม่รวมการกลับรายการจากการด้อยค่าทรัพย์สิน และรายการพิเศษอื่นๆ 343 ล้านบาท เติบโตกว่าร้อยละ 114.7 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2566 ซึ่งมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติที่ 160 ล้านบาท 

"กำไรสุทธิจากผลการดำเนินงานปกติในไตรมาส 1 ปี 2567 เติบโตกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการกลับมาเปิดดำเนินการของโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป. ลาว และเริ่มขายไฟฟ้าไปยังสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปีที่แล้ว ประกอบกับการเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการคลังน้ำมันและท่าเทียบเรือในประเทศไทยตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีที่ผ่านมา รวมถึงการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นจากโครงการหลัก ทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศฟิลิปปินส์ เนื่องจากกำลังลมที่พัดผ่านโครงการเพิ่มขึ้น และโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกาที่มีปริมาณการขายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นและมีการบริหารจัดการส่วนต่างของราคาขายไฟฟ้าและต้นทุนค่าเชื้อเพลิงได้ดี

นอกจากนี้เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2567 บริษัทฯ ได้บรรลุเงื่อนไขบังคับภายใต้สัญญาซื้อขายหุ้นของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย กำลังการผลิตรวม 7.95 เมกะวัตต์ และจะเริ่มรับรู้รายได้เพิ่มเติมในทันที” นายนิวัติกล่าวเพิ่มเติม

ทั้งนี้ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเป็นผู้ประกอบการและลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังน้ำ และก๊าซธรรมชาติ ในประเทศไทย ประเทศญี่ปุ่น ประเทศฟิลิปปินส์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และสหรัฐอเมริกา มีกำลังการผลิตรวม 2,049 เมกะวัตต์ 

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เริ่มการทำการตลาดกับผู้บริโภครายย่อยโดยตรงมากขึ้น เน้นการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้กับผู้บริโภคโดยตรง รวมถึงให้บริการการจัดการ ด้านพลังงานหรือ energy as a service และนำเทคโนโลยีล้ำสมัยระดับโลกมาใช้ ช่วยเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคสามารถผลิตพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ด้วยตัวเองและประหยัดค่าใช้จ่าย

‘ฮาร์ท สุทธิพงศ์’ ถูกอัยการยื่นฟ้อง ม.112 หลังโพสต์หมิ่นเบื้องสูง ศาลประทับรับฟ้อง!! ให้ประกันตัว 2 แสน - ห้ามออกนอกประเทศ

เมื่อวานนี้ (7 พ.ค.67) ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 ได้นำตัว นายสุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล หรือฮาร์ท อดีตพิธีกรและนักร้องชื่อดัง มายื่นฟ้องต่อศาลในความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

จากกรณี นายสุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล หรือฮาร์ท อดีตพิธีกรและนักร้องชื่อดัง ได้แชร์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับสถาบันฯ เกี่ยวกับเรื่องโรคโควิด ช่วง พ.ศ.2564 ทำให้ในเวลาต่อมา นายอภิวัฒน์ ขันทอง ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี เข้าแจ้งความกับพนักงาน สถานีตำรวจนครบาล (สน.) นางเลิ้ง ให้ดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560

โดยศาลรับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ อ483/2567 โดยจำเลยยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวพร้อมหลักทรัพย์ 2 แสนบาท ศาลพิจารณาคำร้องพร้อมหลักทรัพย์แล้วอนุญาตปล่อยชั่วคราว โดยมีเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศยกเว้นได้รับอนุญาต


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top