Friday, 17 May 2024
TheStatesTimes

‘น้องเกล โสพิชา’ รองชนะเลิศอันดับ 1 ‘Thailand's Got Talent’ ปัจจุบันเรียนคณะแพทยฯ วิทยาลัยแพทยฯ จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย

(29 เม.ย. 67) เพจเฟซบุ๊ก The Album โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า…“ยังจำสาวน้อยคนนี้ได้กันรึป่าว? ‘น้องเกล โสพิชา’ รองชนะเลิศอันดับ 1 รายการ Thailand's Got Talent ล่าสุดเธอได้สอบติดคณะแพทยศาสตร์ และเผยภาพแรกในฐานะนักศึกษา ตอนนี้โตเป็นสาวแล้ว”

สำหรับน้องเกล โสพิชา อังคะไวมงคล เป็นศิลปินอูคูเลเล่ตัวน้อย เจ้าของตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 1 จากเวทีการประกวด Thailand’s Got Talent ซึ่งในขณะประกวดนั้น ‘น้องเกล’ มีวัยแค่เพียง 6 ขวบ

เบนซ์ พรชิตา ณ สงขลา หนึ่งในกรรมการ ถึงกับเอ่ยว่า “เป็นเด็ก 6 ขวบที่เก่งมาก อย่างที่เบนซ์บอก อูคูเลเล่ใครเล่นได้ก็จริง แต่สำหรับเด็ก 6 ขวบเล่นได้ขนาดนี้ แล้วก็ร้องเพลง ต้องบอกว่าภาษาอังกฤษเป๊ะนะจ๊ะ ตรงคีย์ด้วย”

ความน่ารัก ความสามารถของ ‘น้องเกล’ ทำให้กรรมการประทับใจไปตาม ๆ กัน และพร้อมใจให้ 3 ผ่านเลย

วันเวลาผ่านไปเป็น 10 ปี ขณะนี้ ‘น้องเกล’ โตขึ้นมาก วันนี้เธอได้เข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา คณะแพทยศาสตร์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัตร จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย ในรอบ Portfolio เมื่อปีที่แล้ว (2566) นั่นเอง

‘เรือขนส่งพลังงานไฟฟ้า’ ใหญ่สุดในโลกพร้อมให้บริการแล้วในจีน ชี้ ลดการใช้น้ำมัน 3,900 กก. - ลดการปล่อยมลพิษได้มากตลอดทั้งปี

(29 เม.ย.67) สำนักข่าวเซาท์ ไชนา มอร์นิง โพสต์ รายงานว่า เรือขนส่งคอนเทนเนอร์พลังงานไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ผลิตโดยจีน เตรียมใช้งานจริงแล้ว โดยจะให้บริการขนส่งระหว่างนครเซี่ยงไฮ้และเมืองนานกิงในทุกสัปดาห์

‘เรือ Greenwater 01’ ได้รับการพัฒนาและก่อสร้างโดยไชนา โอเชียน ชิปปิง กรุ๊ป (China Ocean Shipping Group: Cosco) ซึ่งพลังงานทั้งหมดที่ขับเคลื่อนเรือมาจาก ‘แบตเตอรี่’

การใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ทำให้เรือสามารถลดการใช้น้ำมันได้ 3,900 กิโลกรัมต่อการเดินทาง 100 ไมล์ทะเล และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 12.4 ตัน

หลังจากเรือออกเดินทางครั้งแรกในวันนี้ บริษัท Cosco เผยผ่านบัญชีวีแชทของตนเองว่า เรือลำดังกล่าวลดการปล่อยมลพิษได้มากตลอดทั้งปี และช่วยหนุนอุตสาหกรรมขนส่งอย่างแข็งขันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสูงสุด และบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน

Cosco เผยอีกด้วยว่า เรือขนส่งพลังงานไฟฟ้าลำนี้ทำลายสถิติ ด้วยความยาว, ความกว้างกลางลำ,จำนวนคอนเทนเนอร์ที่สามารถบรรทุกได้ ปริมาณน้ำหนักที่เรือรับได้ และความจุแบตเตอรี่ไฟฟ้า

ทั้งนี้ Greenwater 01 มีความยาว 120 เมตร, กว้าง 24 เมตร หรือมีขนาดเทียบเท่ากับสนามบาสเกตบอล 10 แห่ง และมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 19 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

โดยแบตเตอรี่ตัวหลักของเรือพลังงานไฟฟ้าลำนี้มีความจุมากกว่า 50,000 กิโลวัตต์ชั่วโมง และยังมีกล่องแบตเตอรี่อีกมากมายที่ไว้ใช้เพิ่มเติมเมื่อต้องออกเดินทางไกล ซึ่งกล่องแบตเตอรี่อื่น ๆ มีความจุอยู่ที่ 1,600 กิโลวัตต์ชั่วโมง และมีขนาดเทียบเท่าคอนเทนเนอร์มาตรฐาน 20 ฟุต

ด้าน กัปตันหวัง จุน กล่าวกับสำนักข่าวซีซีทีวี (CCTV) เอาไว้ว่า กล่องแบตเตอรี่ 24 กล่อง ทำให้เรือมีพลังงานไฟฟ้ารวม 80,000 กิโลวัตต์ ขณะที่เรือขนส่งทั่วไปใช้น้ำมันราว 15 ตัน เมื่อต้องเดินทางไกลพอ ๆ กับ Greenwater 01

สำหรับความปลอดภัยของเรือ ‘จาง ลี่ฝู’ เจ้าหน้าที่ท่าเรือหยางซานในเซี่ยงไฮ้ บอกว่า ลูกเรือได้รับการฝึกอบรมไฟไหม้พิเศษ เพื่อรับมือกับเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ

อย่างไรก็ตาม หากเรือเกิดไฟไหม้เนื่องจากแบตเตอรี่ลิเทียมและฟอสเฟต ต้องดับเพลิงด้วยก๊าซดับเพลิงชนิดพิเศษที่มีส่วนผสมของคาร์บอน, ฟลูออรีน และไฮโดรเจน เพราะไม่สามารถดับได้ด้วยคาร์บอนไดออกไซด์หรือน้ำ เหมือนที่ใช้ดับไฟในเรืออื่น ๆ

‘สุริยะ’ ลุยต่อ!! ดันรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ลั่น!! ก.ย.68 เชื่อมครบทุกสี แง้ม!! กำลังคุย ‘พรบ.ตั๋วร่วม’

(29 เม.ย. 67) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม เปิดเผยถึงแนวทางการดำเนินการนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายนั้น มั่นใจว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ปี หรือ ช่วงกันยายน 2568 รถไฟฟ้าทุกสี และทุกสาย จะเข้าร่วมนโยบายทั้งหมด ขณะที่รถไฟฟ้าสีอื่น ๆ ที่อยู่ในขั้นตอนการก่อสร้างและเตรียมก่อสร้าง ซึ่งเมื่อโครงการแล้วเสร็จ หากตนยังคงดำรงอยู่ในตำแหน่งรมว.คมนาคม ขอยืนยันว่าจะผลักดันให้เข้าร่วมนโยบายทั้งหมดเช่นกัน

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า นโยบายดังกล่าวนอกจากเป็นการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนแล้ว ยังสามารถลดปัญหา PM 2.5 ในขณะนี้ได้อีกด้วย เนื่องจากประชาชนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวได้มีการปรับเปลี่ยนการเดินทางมาใช้รถไฟฟ้าแทน รวมถึงยังแก้ปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่ได้อีกด้วย

นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางการจัดเส้นทาง Feeder เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย พร้อมคาดว่าภายในระยะ 2-3 เดือนนี้จะเห็นความชัดเจน ซึ่งนอกเหนือจาก ขสมก. แล้ว หากเอกชนรายใดที่มีความพร้อมด้านการให้บริการขนส่ง ก็สามารถเข้าร่วมการจัดเส้นทาง Feeder ได้ ซึ่งแผนระยะสั้นจะผลักดันประมาณ 30 เส้นทาง เพื่อรองรับการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีแดง

ส่วนระยะต่อไป คาดเป็นช่วงปี 2568-2569 จะเพิ่มจำนวนเพิ่มเติม เพื่อรองรับการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สายสีเขียว สายสีชมพู และสายสีส้ม และอีก 66 เส้นทางจะดำเนินการในระยะถัดไปตั้งแต่ปี 2570 เป็นต้นไป

ด้านแผนจัดทำ พ.ร.บ.ตั๋วร่วม ขณะนี้มีการเจรจากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว และอยู่ระหว่างพิจารณาถึงหลักการด้านต่าง ๆ ที่มีความเหมาะสม เบื้องต้นคาดว่าภายในปี 2568 จะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังได้เตรียมแผนจัดตั้งกองทุนเพื่อชดเชยผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องจากมาตรการดังกล่าว โดยเม็ดเงินจากกองทุนที่จะนำมาชดเชยนั้นจะมาจากขอรับการสนับสนุนจากกองทุนอนุรักษ์พลังงาน การสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล เป็นต้น

'เพจดัง' จับโป๊ะ!! เด็กก้าวไกลเกณฑ์คนไปฟังธนาธรพูดเรื่อง สว. เนียน!! สั่งทุกคนห้ามใส่ 'เสื้อ-สัญลักษณ์' ของพรรคก้าวไกลไป

(29 เม.ย. 67) จากเพจ 'วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร-สำรอง' ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพกรณี 'ธีรุตม์ สันหวัง' อดีตผู้สมัครพรรคก้าวไกล ชวนคนไปฟังนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พูดตั้งทีมเลือก สว. ว่า...

#ทุกคนคะ พบอดีตผู้สมัครพรรคก้าวไกล ปัจจุบันเป็นทีมงานพรรคภาคใต้ เกณฑ์คนไปฟังธนาธร พูดตั้งทีมเลือก สว. 

พบคนที่ไปฟังเป็นสมาชิกและฐานเสียงพรรค ถูกสั่งห้ามใส่เสื้อและแสดงสัญลักษณ์ของพรรคก้าวไกลด้วยค่ะ

นอกจากนี้ ทางเพจวันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร-สำรอง ยังเผยอีกว่า นายธนาธรมีการชี้นำหลายจุด และทางเพจก็มีภาพและคลิปพร้อม แต่ยังไม่รู้จะส่งใครได้บ้าง เนื่องจากเบื่อ กกต.

ทั้งนี้ หากย้อนไปดูข้อความจากเพจของนายธีรุตม์ สันหวัง ได้ระบุข้อความที่โพสต์ไว้เมื่อวันที่ 17 เม.ย.67 ความว่า...

มีคนถามผมเกี่ยวกับเรื่อง สว. ว่า เขาเลือกกันยังไงวะ

วันนี้ !!! วันนี้ 18.00 น.ณ ปั้ม ปตท. บางม่วง เชิญผู้สนใจ

เข้าร่วมงาน 'ขอความร่วมมือ' ต้องไม่ใส่เสื้อพรรคก้าวไกล เนื่องจากงานนี้พูดเรื่อง สว. และ สว.ต้องเป็นอิสระจาก 'พรรคการเมือง'

วัดดังเมืองตรังปลูก 'เมล่อน-ดาวเรือง-ดอกมะลิ' ในวัด ให้ชาวบ้านเก็บฟรี เผย!! เป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ตามโครงการ 'วัด-บ้าน-โรงเรียน'

(29 เม.ย. 67) ที่วัดเกาะมะม่วง หมู่ที่ 1 ต.บ้านควน อ.เมือง จ.ตรัง พระอธิการพานิช ฐิตธัมโม เจ้าอาวาสวัดเกาะมะม่วง ใช้เงินส่วนตัวสั่งซื้อเมล็ดพันธุ์เมล่อนสีทองมาปลูกไว้ที่หน้ากุฏิจำนวน 22 ต้น โดยทำเป็นซุ้มให้โค้งเข้าหากันทั้งสองด้าน ไม่มีโรงเรือน ไม่ใช้สารเคมีทุกชนิด ใช้ถุงสีเหลืองและสีขาวจากชุดสังฆทานที่ชาวบ้านนำมาถวาย มาตัดทำเปลให้เมล่อนนอน โดยใช้เวลาปลูกประมาณ 70-75 วัน ปรากฏว่าเมล่อนรุ่นแรกให้ผลดีเกินคาด

บรรดาญาติโยมที่มาทำบุญที่วัด เห็นเข้าต่างแห่จับจองเป็นเจ้าของ แม้ว่าเจ้าอาวาสจะบอกว่าไม่ได้ขาย จะปลูกไว้ฉันเองภายในวัด แต่สุดท้ายทนชาวบ้านรบเร้าไม่ไหว เพราะเห็นว่าลูกใหญ่ สีสวย ปลอดภัยจากสารพิษ เจ้าอาวาสฯ จึงให้เขียนชื่อติดไว้ จนมีไม่พอต่อความต้องการของชาวบ้าน และมีการเก็บไปกว่า 10 ลูกแล้ว โดยไม่มีการคิดมูลค่า แล้วแต่จิตศรัทธา แต่พระในวัดยังไม่ได้ฉันแม้แต่ลูกเดียว

ส่วนบริเวณหน้าโกศ (ภาคใต้เรียกหน้าบัว) หรือที่ใส่กระดูกคนตาย พระสงฆ์ได้ช่วยกันปลูกดอกดาวเรืองไว้จำนวน 600 ต้น เพื่อให้บานทันในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ซึ่งชาวบ้านไม่ต้องซื้อดอกไม้ให้เก็บมาใช้ได้ แต่ดาวเรืองบานช้ากว่ากำหนดจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ทำให้หลังสงกรานต์ก็ยังมีดอกดาวเรืองบานสะพรั่ง สีเหลืองสวยงาม เป็นที่ถูกตา ต้องใจบรรดาแม่ค้าขายดอกไม้เป็นอย่างมาก

โดยได้มาขอซื้อวันละ 2,000-3,000 ดอก เพื่อนำไปร้อยมาลัยและขายต่อให้กับแม่ค้าเจ้าอื่น แต่เจ้าอาวาสให้เก็บฟรี ส่วนชาวบ้านใครจะใช้ดอกดาวเรืองก็มาเก็บฟรีได้เช่นกัน ซึ่งบางวันหากแม่ค้าเก็บไม่ทัน พระสงฆ์ในวัดก็ช่วยกันตัดส่งให้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ตามโครงการ วัด บ้าน โรงเรียน ซึ่งในแปลงปลูกดอกดาวเรือง ยังมีแตงโมปลอดสารให้เก็บกินฟรีด้วย

นอกจากนี้พระสงฆ์ยังช่วยกันปลูกดอกมะลิไว้จำนวน 1,200 ต้น เพื่อให้มีกลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปทั่ววัดทั้งกลางวันและกลางคืน โดยอนุญาตให้ชาวบ้านเก็บไปใช้ในงานเทศกาลต่าง ๆ ได้ ซึ่งทุกอย่างฟรีหมด แต่เจ้าอาวาสออกเงินส่วนตัวซื้อเองทั้งหมดและเป็นแบบนี้มานานหลายปีแล้ว ทำให้พระสงฆ์ของวัดนี้เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านเป็นอย่างมาก

ส่วนผลไม้และต้นไม้ต่าง ๆ ปลูกไว้เป็นร่มเงา เพื่อให้ชาวบ้านได้นั่งพักผ่อน หรือใช้เป็นสถานที่นั่งปฎิบัติธรรม ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองตรัง ประมาณ 5-6 กิโลเมตรเท่านั้น

ด้านพระอธิการพานิช ฐิตธัมโม เจ้าอาวาสวัดเกาะมะม่วง กล่าวว่า เมล่อนปลูกที่ซุ้มหน้ากุฏิเพื่อความสวยงามไม่ได้ปลูกขาย แต่โยมมาจองหมด ซึ่งก็แล้วแต่จะให้ลูกละ 10 บาท 20 บาท แต่ไม่มีใครเอาฟรี ส่วนมากก็ให้ลูกละ 200 บาทเป็นอย่างต่ำ ซึ่งรอบนี้ปลูกประมาณ 22 ต้นเพราะมีเนื้อที่จำกัดและปลูกในกระถาง โดยตั้งใจจะปลูกไว้ฉันเอง แต่พอโยมมาเห็น ต่างพากันจอง ซึ่งที่เจ้าอาวาสจองไว้ โยมยังขอเลยยกให้

โดยรอบต่อไปจะปลูกแตงโมในกระถาง ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง เหลือเท่าไหร่ก็กินเท่านั้นและปลูกดาวเรืองไว้ 600 ต้นอาไว้ใช้ช่วงสงกรานต์แต่มีทั้งบานก่อนและหลังสงกรานต์ เกินเวลาที่คำนวณไว้ ซึ่งมีโยมมาตัดไปขาย ถ้าพระว่างก็ใช้พระตัดให้ แต่ส่วนมากพระไม่ได้ตัดให้ เพิ่งวันนี้วันแรก ส่วนมะลิปลูกไว้จำนวน 1,200 ต้น แต่ไม่ได้ปลูกเพื่อขายโดยบอกญาติโยมว่าถ้ามีงานมงคลหรืองานอะไรก็แล้วแต่ไม่ต้องไปซื้อที่ตลาดให้มาเอาที่วัดเกาะมะม่วงได้เลย แล้วแต่จะเอาไปใช้อะไร แต่ไม่ได้ขาย

‘ชมรมแพทย์ชนบท’ ขอบคุณ ‘ชลน่าน’ ในการมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้กำลังใจ ‘สมศักดิ์’ สานต่อภารกิจ เพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย

(29 เม.ย.67) เพจเฟซบุ๊ก ‘ชมรมแพทย์ชนบท’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…

ชมรมแพทย์ชนบท ขอขอบคุณ รมต.ชลน่าน ศรีแก้ว ในความมุ่งมั่นในการทำหน้าที่ที่ผ่านมา  ผลงานเด่นคือการวางรากฐาน reset งานใหม่ทั้งหมด หลังยุคอนุทินที่แทบไม่ได้ขยับอะไรนอกจากนโยบายกัญชา แต่อุปสรรคที่มีมาก โดยเฉพาะจากข้าราชการที่คุมไม่อยู่ ระดับบิ๊กยังอืดไม่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลง

ไม่ตอบสนองก็แย่แล้ว แต่ยังวางยารัฐมนตรีด้วย จนถูกข้าราชการวางกับดักให้เกิดเป็นคู่ขัดแย้งอย่างไม่รู้ตัวกับ สปสช. ชัดจนคนในวงการต่างก็อ่านเกมส์ออกว่า ข้าราชการก๊กนั้น เสี้ยมและใช้รัฐมนตรีเป็นเครื่องมือคุกคาม สปสช. หวังวางระบบประกันสุขภาพที่ สธ.เป็นใหญ่ แต่เมื่อหลักการผิด แนวทางปฏิบัติไม่เวิร์ก จึงกลายเป็นปัญหาใหญ่ในนโยบายสามสิบบาทรักษาทุกที่ที่รอการแก้ไข

ไม้ผลัดทางนโยบายสามสิบบาทรักษาทุกที่ จากรากฐานที่รัฐมนตรีชลน่านวางไว้ กำลังจะถูกส่งต่อให้รัฐมนตรีสมศักดิ์ เทพสุทิน ภารกิจทางนโยบายที่สำคัญต่อประชาชนคนไทย และสำคัญต่ออนาคตของพรรคเพื่อไทยด้วย

แน่นอนว่าไม่ง่าย โดยเฉพาะจากข้าราชการที่ขยันเดินตามแต่ไม่ขยันทำงานยังเป็นอุปสรรค ขยันก็แต่ไหว้พระสายมูงมงายกับการขอพรและสร้างพระทำบุญหวังให้อยู่ตลอดรอดฝั่ง

นอกจากนี้ ข้าราชการก๊กนี้ยังเกียร์ว่าง ละเลยงานสุขภาพปฐมภูมิ ย้ายคนจนวุ่นวาย รากฐานงานปฐมภูมิที่วางมาดีสั่นคลอน การแก้ปัญหายาเสพติดจึงสะดุด การสาธารณสุขรากฐานไม่ก้าวหน้า  การกระจายอำนาจด้านสุขภาพก็สับสน

ชมรมแพทย์ชนบทขอเป็นกำลังใจให้กับรัฐมนตรีชลน่าน ศรีแก้ว และรัฐมนตรีสมศักดิ์ เทพสุทิน ร่วมกันฝ่าฟันอุปสรรค สานต่อภารกิจ สถาปนาหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ดีที่สุดเพื่อคนทุกคนบนแผ่นดินไทย

'โฆษก รทสช.' เห็นด้วย 'คนการเมือง' ห้ามข้องเกี่ยวเลือกตั้ง สว. หากต้องการบุคคลที่ปลอดจากการเมืองอย่างแท้จริง

(29 เม.ย. 67) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงความเคลื่อนไหวในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ว่า อยากให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดเจนว่า ไม่ต้องการให้การเมืองเข้าไปข้องเกี่ยวกับการเลือกตั้งสว. ดังนั้นทุกฝ่าย ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ สว. ที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามาเป็นกลางทางการเมืองอย่างแท้จริง

โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะเลขาธิการพรรคได้กำชับ สส. และสมาชิกพรรคทั่วประเทศว่า ทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งกฎหมายรัฐธรรมนูญ และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 ไม่สนับสนุนผู้ใดทั้งทางตรงและทางอ้อม

"ฝ่ายการเมืองและพรรคการเมือง ไม่ควรเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในการเลือกตั้งสว.ในครั้งนี้ ไม่ว่ากรณีใด ๆ เพื่อให้ได้ สว. ที่เป็นกลางปลอดจากการเมืองอย่างแท้จริง เพราะ สว.มีหน้าที่สำคัญเข้าไปคัดสรรเลือกบุคคลเข้ามาดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ จึงจำเป็นต้องได้บุคคลที่ปลอดจากการเมืองไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง ดังนั้นทุกฝ่ายต้องเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายและกติกาที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้ประกาศออกมา" นายอัครเดช กล่าว

'รัดเกล้า' เผย!! 6 ธนาคาร ขานรับนโยบายรัฐ พาเหรด!! หั่นดอกเบี้ย 0.25% นาน 6 เดือน

(29 เม.ย. 67) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ธนาคารหลายแห่งร่วมขานรับนโยบายรัฐบาล หลังสมาคมธนาคารประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมนี้ เป็นต้นไป 

โดยมีเป้าหมายช่วยเหลือลูกหนี้ทุกกลุ่ม อันเป็นผลจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เชิญผู้บริหารธนาคารมาพูดคุยหารือเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ จากนั้นสมาคมธนาคารก็ได้มีมติร่วมกันในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือลูกค้ารายย่อย และกลุ่มเปราะบางตามนโยบายรัฐบาล โดยนายกฯ ชื่นชมสมาคมธนาคารไทย และธนาคารสมาชิกที่ให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เข้าใจถึงภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อย เป็นการช่วยเหลือทั้งภาคธุรกิจ และประชาชนโดยรวม

รองโฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ธนาคาร และสถาบันการเงินที่ร่วมขานรับนโยบาย อาทิ 

1.ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) ปรับดอกเบี้ยลง 0.4% เหลือ 6.35% แบงก์แรกของรัฐที่ลดและลดดอกเบี้ยเหลือต่ำที่สุด มีผลตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.นี้ 

2.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ลูกค้ากู้บ้าน 1.8 ล้านราย 

3.บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม ปรับลดดอกเบี้ย 0.25% มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมนี้ 

4.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ปรับลดดอกเบี้ย 0.25% 

5.ธนาคารกรุงเทพ ปรับลดดอกเบี้ย 0.25% มีผลตั้งแต่วันที่ 29 เมษายนนี้ 

และ 6.ธนาคารออมสิน ปรับลดดอกเบี้ย 0.40% เหลือ 6.95% ซึ่งต่ำสุดในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ และลดให้อัตโนมัติ ไม่ต้องติดต่อธนาคาร เป็นต้น

“ประชาชน และกลุ่ม SMEs ถือเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ การปรับลดดอกเบี้ยแม้เพียงแค่ 6 เดือน แต่ก็ช่วยให้สามารถเอาไปต่อยอดได้ โดยรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ เดินหน้าหามาตรการ และแนวทาง เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุดอย่างต่อเนื่อง” นางรัดเกล้า กล่าว

'รมว.ปุ้ย' ตรวจเข้มเที่ยวแรก ขนกากแคดเมียม 254 ตัน กลับหลุมฝังตาก ยัน!! ใช้มาตรการขนย้ายขั้นสูงสุด ขอ ปชช.เชื่อมั่นในความปลอดภัย

เมื่อวานนี้ (29 เม.ย.67) นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่พร้อมด้วยนายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาและขนย้ายกากตะกอนแคดเมียม, นายเดชา จาตุธนานันท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการการขนย้ายกากแคดเมี่ยมและกากสังกะสี และคณะ เข้าตรวจความพร้อมเพื่อเตรียมการขนย้ายกากแคดเมียมจาก บริษัท เจ แอนด์ บี เมทอล จำกัด ซอยกองพนันพล ถนนเอกชัย หมู่ที่ 2 ตำบลบางน้ำจืด อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ไปยังต้นทางหลุมฝังกลบที่ จังหวัดตาก โดยมีนายชัยวัฒน์ ตุนทกิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร, นายพุทธิกรณ์ วิชัยดิษฐ อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร และผู้แทนจากป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร กรมควบคุมมลพิษ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรสาคร, เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.), กรมควบคุมโรค, สาธารณสุขจังหวัด, ขนส่งจังหวัด, กรมการปกครอง, สส.จังหวัดสมุทรสาคร ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการเตรียมความพร้อมในครั้งนี้ด้วย

สำหรับกระบวนการได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้า โดยเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวอย่างวิธีการขนย้ายกากแคดเมียม เริ่มจากการใช้รถยก ยกถุงกากแคดเมียม และซ้อนทับด้วยถุงบิ๊กแบ็กอีกชั้น มัดปาก ชั่งน้ำหนัก แล้วยกขึ้นรถบรรทุก ซึ่งวันแรกนี้จะใช้รถบรรทุกจำนวน 4 คัน โดยแต่ละคันจะบรรทุกได้ 20 ถุง รวม 80 ถุง น้ำหนักรวมสุทธิ 112.61 ตัน จากนั้นเมื่อนำขึ้นรถแล้วก็จะปกคลุมด้วยผ้าใบอีกหนึ่งขั้นตอนเพื่อความปลอดภัย ก่อนจะเดินทางออกจากจังหวัดสมุทรสาครในช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. 

โดยมีรถตำรวจทางหลวงนำ และปิดท้ายด้วยรถตำรวจ บก.ปทส. เพื่อไปสมทบกับขบวนของโรงงานที่บางซื่อ กรุงเทพมหานคร ที่ใช้รถบรรทุกจำนวน 6 คัน บรรทุกได้ 99 ถุง น้ำหนักรวมสุทธิ 141.39 ตัน ซึ่งเมื่อรวมของทั้ง 2 แห่ง คิดเป็นน้ำหนักทั้งสิ้น 254 ตัน (น้ำหนักที่หายไปจากประมาณการ 270 ตัน เนื่องจากมีการชั่งโดยละเอียด) ซึ่งทั้งสองขบวน จะนัดรวมเป็นขบวนเดียวกันที่ ดูโฮม จ.นนทบุรี เพื่อเดินทางต่อไป ยังจังหวัดตาก ในเวลาประมาณ 22.00 น.คาดว่าจะใช้เวลาเดินทางทั้งสิ้น 7 ชั่วโมง และจะถึงจังหวัดตาก ในช่วงเช้ามืดของวันที่ 30 เมษายน 2567  

นางสาวพิมพ์ภัทรา กล่าวว่า ในเบื้องต้นจะทำการขนย้ายกากตะกอนแคดเมียมจาก จังหวัดสมุทรสาคร และกรุงเทพมหานคร ไปยังจังหวัดตากก่อน ส่วนที่จังหวัดชลบุรี ยังต้องรอกระบวนการทางกฎหมาย เนื่องจากอยู่ระหว่างการสอบสวน โดยการขนย้ายจะใช้เส้นทางสายเอเชีย ซึ่งจะมีตำรวจทางหลวงของแต่ละพื้นที่นำขบวน และมีการส่งต่อเป็นจังหวัด ๆ หยุดพักเท่าที่จำเป็น ไม่มีการแวะเติมน้ำมัน และมีแผนฉุกเฉินกรณีเกิดอุบัติเหตุไว้เรียบร้อยแล้ว 

ทั้งนี้ เมื่อถึงจังหวัดตาก จะนำกากตะกอนแคดเมียมไปเก็บไว้ที่อาคารพักคอยในพื้นที่โรงงานที่ได้ทำการปูพื้นด้วยแผ่น HDPE และดินเหนียวสังเคราะห์ (GCL) แล้ว ในระหว่างที่เร่งปรับปรุงบ่อเก็บกากแคดเมียมให้มั่นคงปลอดภัยตามมาตรการ EIA โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานอุตสาหกรรมตาก และจังหวัดสมุทรสาคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำกับดูแลการขนย้ายกากตะกอนแคดเมียมอย่างใกล้ชิด ตลอดการดำเนินงาน

“ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ได้เตรียมความพร้อมขั้นสูงสุดในการขนย้ายกากตะกอนแร่แคดเมียมจากต้นทางที่จังหวัดสมุทรสาคร และกรุงเทพมหานคร การขนย้ายระหว่างทาง จนถึงปลายทางที่จังหวัดตาก โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ ส่วนเรื่องของปริมาณน้ำหนักนั้น จากที่ตรวจพบในขณะนี้แม้จะยังขาดอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มากนักหากนำมาคำนวณกับค่าความชื้นที่สูญเสียไป ดังนั้นต้องรอให้การเคลื่อนย้ายทั้งหมดเสร็จสิ้นลงก่อน จึงจะสรุปได้ว่าพบกากตะกอนแคดเมียมครบทั้งหมดแล้วหรือยัง อย่างไรก็ตามเวลานี้ เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่หยุดค้นหายังคงค้นหาในพื้นที่ ๆ คาดว่าจะกระจายไปแม้ว่าจะค้นหาเกือบครบสมบูรณ์แล้วก็ตาม ซึ่งทุกขั้นตอนเราต้องรีบทำให้แล้วเสร็จโดยเร็วเพื่อให้ทันกับฝนที่อาจจะตกลงมาได้ตลอดเวลา” รมว.อุตสาหกรรม กล่าว 

ส่วนในเรื่องของคดีความนั้น นางสาวพิมพ์ภัทรา กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อหาผู้ที่เกี่ยวข้องที่ทำให้เกิดปัญหานี้ขึ้นมา และมีการตั้งประเด็นการสอบสวน เพื่อจะได้ระบุตัวบุคคลที่จะต้องเรียกมาสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว ทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง

'นายกฯ' นำชื่อ 'มาริษ เสงี่ยมพงษ์' ขึ้นทูลเกล้าฯ ดำรงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ แทนที่ 'ปานปรีย์'

(30 เม.ย.67) มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ได้นำชื่อ 'นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์' อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (นายปานปรีย์) ขึ้นทูลเกล้าให้ดำรงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ แทนที่นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ซึ่งลาออกจากตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ ไปก่อนหน้านี้

ทั้งนี้นายมาริษ ได้เดินทางเข้าไปพบนายเศรษฐา ที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยคาดการณ์ว่าอาจจะไปกรอกประวัติ เพื่อตรวจคุณสมบัติด้วย

เนื่องจากล่าสุด นายกิตติชัย ตรีรัชตพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทธนูลักษณ์ จำกัด (มหาชน) หรือ TNL แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุว่า นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ได้มีหนังสือลงวันที่ 29 เมษายน 2567 ขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการ กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบของบริษัท เนื่องจากติดภารกิจส่วนตัว โดยการลาออกมีผลตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน 2567 เป็นต้น หลังเข้ารับตำแหน่งกรรมการ TNL ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563

โดยคณะกรรมการบริษัทจะพิจารณาสรรหาและแต่งตั้งบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เพื่อเข้าดำรงตำแหน่ง กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบแทนตำแหน่งที่ว่างลง และบริษัทจะแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบต่อไป

สำหรับเส้นทางข้าราชการของ 'มาริษ เสงี่ยมพงษ์' หรือ 'อดีตทูตปู' เคยรับราชการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงการทูต และที่เคยดำรงตำแหน่งสำคัญ อาทิ เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำเครือรัฐออสเตรเลีย, อดีตเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำสาธารณรัฐฟิจิ

โดยในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้แต่งตั้งนายมาริษ ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตฯ สาธารณรัฐวานูอาตู 

ทั้งนี้ 'มาริษ' เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกฯ ตั้งแต่สมัยที่ดำรงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top