Monday, 9 June 2025
TheStatesTimes

‘หมอวรงค์’ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุ 4 มี.ค.นี้ จะบุกจี้ ผบ.ตร. เพื่อเร่งดำเนินคดีอาญา ‘พิธา-พรรคก้าวไกล’

(3 มี.ค.67) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ “ดำเนินคดีอาญาพิธาและพรรคก้าวไกล” โดยได้ระบุว่า หมอวรงค์และพรรคไทยภักดี จะไปยื่นหนังสือต่อผบ.ตร. เพื่อเร่งรัดดำเนินคดีอาญานายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และเครือข่าย ที่ใช้สิทธิและเสรีภาพล้มล้างการปกครองฯ ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ในวันจันทร์ที่ 4 มีนาคม 2567 เวลา 10.30น. ณ.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

‘มาเลเซีย’ หนุนเรียนสายอาชีพ ด้านเกษตรกรรม เพื่อลดการพึ่งพา สินค้านำเข้าจากต่างประเทศ

(3 มี.ค.67) สำนักข่าวซินหัว เจ้าหน้าที่มาเลเซียระบุ ว่ารัฐบาลมาเลเซียตั้งเป้ากระชับและเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารของประเทศ ด้วยการเพิ่มจำนวนผู้สำเร็จการศึกษาด้านเทคนิคและการอาชีวศึกษา รวมถึงผู้สำเร็จการฝึกอบรม

โมฮัมหมัด ซาบู รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและความมั่นคงอาหารของมาเลเซีย กล่าวกับผู้สื่อข่าว หลังการเปิดตัวงานแสดงสินค้าเกษตร ว่านอกเหนือจากการดึงดูดนักศึกษาให้มาเรียนด้านเกษตรกรรมกันมากขึ้นแล้ว รัฐบาลมาเลเซียยังมีเป้าหมายส่งเสริมผู้สำเร็จการศึกษาจากสาขาวิชาอื่นๆ หลากหลายแขนงให้เข้ามามีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในภาคส่วนนี้

โมฮัมหมัด ให้ข้อมูลว่า เป้าหมายสำคัญของกระทรวงฯ ในปีนี้คือการพัฒนาอุตสาหกรรม 4 ประเภทที่มีความสำคัญ ได้แก่ ข้าวและข้าวเปลือก ไก่ เป็ดและไข่เป็ด หอมแดง และสับปะรด

สำหรับโครงการริเริ่มเกี่ยวกับข้าวที่เปิดตัวในปีนี้ ตั้งเป้าเพิ่มระดับการพึ่งพาข้าวในประเทศให้แตะอย่างน้อยร้อยละ 80 เพื่อลดการพึ่งพาสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ในอีก 10 ปีข้างหน้า

อนึ่ง งานแสดงสินค้าเกษตรข้างต้นจัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน โดยเป็นเวทีว่าด้วยความยั่งยืนของระบบนิเวศด้านการจัดหาอาหาร และเวทีเพื่อการนำเสนอนวัตกรรม แนวปฏิบัติ และเทคโนโลยีต่างๆ ในภาคการเกษตร

ครู โพสต์เฟซบุ๊ก ระบายความอัดอั้น หลังนร.ไม่ใส่ใจ ใฝ่ศึกษา เพราะคิดว่า ยังไงก็สอบผ่านอยู่แล้ว ไม่มีการเรียนซ้ำชั้น

(3 มี.ค.67) ครูสุชญา ได้ ระบายความอัดอั้น เกี่ยวกับเรื่องที่มีนักเรียนบางคน ไม่ใฝ่รู้ใฝ่เรียน ไม่คิด ไม่อ่าน ไม่มีความเพียร แม้แต่เรื่องระเบียบวินัย ความรับผิดชอบ หรือมารยาทก็ยังไม่มี โดยได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ...

แค่อยากบอกความรู้สึกในมุมของครูผู้สอนบ้าง เมื่อเจอครูใจดี ควรเกรงใจ ไม่ใช่มักง่ายจะทำอะไรก็ได้ แล้วคิดว่ายังไงครูก็ให้ผ่านอยู่แล้ว ใครเคยเรียนกับครูจะรู้ว่าครูสุชญาไม่ใช่คนเรื่องมาก แต่แบบนี้มันเกินจะรับไหว 

รู้มั้ยว่าสิ่งที่นักเรียนบางคนทำ (ย้ำว่าบางคน) มันบั่นทอนความเป็นครูมากแค่ไหน นอกจากไม่ใฝ่รู้ใฝ่เรียน ไม่คิด ไม่อ่าน ไม่มีความเพียรแล้ว ระเบียบวินัยก็ไม่ผ่าน ความรับผิดชอบก็ไม่มี มารยาทก็ติดลบ แบบนี้จะเรียกตัวเองว่า นักเรียน ได้ยังไง

ในฐานะครูคนหนึ่ง ครูได้ทำหน้าที่ของครูอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่มันคงไม่มากพอที่จะขัดเกลาบางคนให้ฉลาดหลักแหลมได้ แม้แต่ตัวเธอเองเธอยังไม่รัก ไม่พยายามทำเพื่อตัวเอง อย่างอื่นก็คงไม่ต้องพูดถึง

ขอเป็นอีกหนึ่งเสียงสนับสนุนให้โรงเรียนประกาศนโยบาย #เรียนซ้ำชั้น สักทีเถอะ อย่าปล่อยให้เด็กพูดต่อหน้าครูว่า “ไม่ทำ ไม่ส่ง เพราะยังไงก็ผ่านอยู่แล้ว” คนเป็นครูน้ำตาตกใน ดิ่งขั้นสุด ไฟมอดดับลงทุกวัน

เกาให้ถูกที่คัน ไม่ใช่สรรหาแต่คำมาบั่นทอนครูผู้สอน #ผู้ปกครองร้องเรียน บ้างหละ #ครูไม่ใส่ใจ บ้างหละ #ครูไม่ติดตามเด็ก บ้างหละ ยกเด็กขึ้นหิ้ง แล้วเหยียบครูให้จมดิน #การศึกษาไทย     

ศาลไม่ให้ประกันตัว ‘ไบรท์ ชินวัตร’ จากคดี ‘มาตรา112-มั่วสุม’ กรณีปราศรัยในการชุมนุม 25 พ.ย. 63 ที่หน้าธ.ไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่

(3 มี.ค.67) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว ไบรท์ ชินวัตร จันทร์กระจ่าง ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จากข้อหาความผิดตามมาตรา 112 และข้อหามั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ตามมาตรา 215 และมาตรา 216 กรณีปราศรัยในการชุมนุม ที่บริเวณหน้าสำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2563

โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 29 ก.พ. ที่ผ่านมา ศาลอาญามีคำพิพากษาให้จำคุกรวม 6 ปี ลดเหลือ 3 ปี ไม่รอลงอาญา ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ลงโทษจำคุก 4 ปี, ข้อหา “มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป” และ “เจ้าพนักงานสั่งให้เลิกมั่วสุมแต่ไม่เลิก” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 และมาตรา 216 ลงโทษจำคุก 2 ปี

ข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ลงโทษปรับ 10,000 บาท, ข้อหา “กีดขวางทางสาธารณะ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 385 และข้อหาตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ลงโทษปรับ 2,000 บาท และข้อหา “ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงฯ ลงโทษปรับ 200 บาท

รวมจำคุก 6 ปี ปรับ 12,200 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษลงกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 ปี ปรับ 6,100 บาท ไม่รอลงอาญา

ต่อมาทนายความแจ้งว่าได้ยื่นขอประกันตัวนายชินวัตรระหว่างอุทธรณ์แล้ว โดยนายประกันของนายชินวัตรวางหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 150,000 บาท ตามที่เจ้าหน้าที่ศาลประเมินมูลค่าให้ ศาลอาญามีคำสั่งส่งคำร้องขอประกันตัวให้ศาลอุทธรณ์พิจารณา กระทั่งวันที่ 3 มี.ค. มีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว ขณะนี้ ไบรท์ ชินวัตร ถูกคุมขังมาแล้ว 4 วัน

‘นายกฯ’ ชี้!! รอ ‘พีระพันธุ์’ ชงต่ออายุมาตรการพลังงานอยู่ หลังราคา ‘น้ำมันดีเซล-ค่าไฟฟ้า’ ใกล้สิ้นสุดมาตรการ

เมื่อวานนี้ (3 มี.ค.67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เห็นชอบมาตรการลดค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับประชาชน โดยมติครม. ตรึงราคาน้ำมันดีเซล 30 บาทต่อลิตร ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 31 มี.ค.นี้ รวมถึงมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้ากลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านพักอาศัยไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ที่จะสิ้นสุดมาตรการในเดือนเม.ย.นี้ ว่ารัฐบาลมีแนวโน้มจะต่ออายุมาตรการดังกล่าวหรือไม่ ว่า รอ รมว.พลังงาน เป็นผู้เสนอ

เปิดประวัติ ‘เทพรัตน์ เทพพิทักษ์’ ผู้ว่าฯ ‘กฟผ.’ คนใหม่ ‘คว่ำหวอด-เชี่ยวชาญ’ สายงานด้านพลังงานแบบรู้ลึก

เมื่อวานนี้ (3 มี.ค. 67) คณะรัฐมนตรี (ครม.) วาระพิเศษ มีติเห็นชอบการแต่งตั้งนายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ เป็นผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) คนใหม่ คนที่ 16 ซึ่งกระทรวงการคลัง โดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ได้เห็นชอบในรายละเอียดแล้ว

สำหรับการเสนอแต่งตั้งนายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ เป็นผู้ว่าฯ กฟผ. คนใหม่ ครั้งนี้ ถือว่าค้างมาจากรัฐบาลก่อน โดยจากนี้ไปจะต้องไปดูมติครม.ก่อนว่าเมื่อครม.มีมติแล้วนายเทพรัตน์ จะเริ่มเข้าทำงานอย่างเป็นทางการเมื่อใดต่อไป

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา คณะกรรมการ กฟผ. ในการประชุมครั้งที่ 1/2567 ได้มีมติเห็นชอบการยืนยันเสนอชื่อ นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ รองผู้ว่าการประจำสำนักผู้ว่าการ ปฏิบัติงานที่บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าฯ กฟผ. คนใหม่ ตามที่คณะกรรมการสรรหาเสนอ เพื่อแทนนายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร อดีตผู้ว่าฯ กฟผ. ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่งไปเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา

จากการตรวจสอบพบว่า ก่อนหน้านี้นายเทพรัตน์ได้เคยลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าการ กฟผ. เมื่อปี 2563 แต่พลาดตำแหน่ง จนกระทั่งเมื่อเดือนมิถุนายน 2563 นายเทพรัตน์ ซึ่งอยู่ในตำแหน่งรองผู้ว่าการพัฒนาโรงไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้รับตำแหน่ง ขึ้นเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ของเอ็กโก กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ กฟผ.  เริ่มงานตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563

>> ส่วนประวัติของ ‘เทพรัตน์ เทพพิทักษ์’ ประกอบด้วย   

- วันเกิด : 31 ก.ค. 2508 
- อายุ : 58 ปี

>> ประวัติการศึกษา

- ระดับปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมเครื่องกล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 
- ปริญญาโท วิศวกรรมศาสตร์ สาขา Electricity Industry Management and Technology มหาวิทยาลัยสแตรธไคลด์ (University of Strathclyde) สหราชอาณาจักร 

>> ประวัติการอบรม

- หลักสูตร Advanced Management Program จาก Harvard Business School สหรัฐอเมริกา
- หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร จากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร 
- หลักสูตร Senior Executive Program จากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ 
- หลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านวิทยาการพลังงาน จากสถาบันวิทยาการพลังงาน 
- หลักสูตรผู้นำผู้สร้างแรงบันดาลใจสำหรับผู้บริหารระดับสูง จากสถาบันพระปกเกล้า

>> ประวัติการทำงาน 

- ปี 2560 - 2561 ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้ว่าการพลังงานหมุนเวียนและพลังงานใหม่ 
- ปี 2561 - 2563 ดำรงตำแหน่ง รองผู้ว่าการพัฒนาโรงไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน 
- ปี 2563 - ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าการประจำสำนักผู้ว่าการ ปฏิบัติงานที่บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่

'ดนัย เอกมหาสวัสดิ์' ประกาศพักจัดรายการ 'เจาะลึกทั่วไทยฯ' ชี้!! ปวดหลัง เมื่อสุขภาพดีขึ้นจะกลับมา

(4 มี.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ หรือ หมาแก่ ผู้ดำเนินรายการ เจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์ ได้ประกาศก่อนอ่านข่าว ว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของหมาแก่ โดยจะกลับมาอีกที เมื่ออะไรต่ออะไรดีขึ้น รับทราบตามนี้ ซึ่งในช่วงไลฟ์สดช่วง 11 โมงจะยังไปทำ ซึ่งตนพักไปสักระยะ ให้อะไรต่ออะไรดีขึ้น

ทั้งนี้ นายดนัย ไม่ได้บอกเหตุผลชัดเจนสำหรับการเลิกจัดรายการในครั้งนี้ แต่นายดนัยมีแอบบ่นว่าปวดหลังในรายการ ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เลิกจัดรายการหรือไม่ อย่างไรก็ตาม รายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ยังคงมีอยู่ โดยพิธีกรคู่นายดนัย คือ น.ส.อมรรัตน์ มหิทิรุกข์ ยังมาจัดรายการตามปกติ

เวลา 11.00 น.วันเดียวกัน ในเฟซบุ๊ก เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ได้ ชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ตามที่หมาแก่พูดในรายการ เจาะลึกทั่วไทยเมื่อเช้านี้ว่า จะจัดรายการเป็นวันสุดท้าย และจะกลับมาอีกครั้ง เมื่ออะไรต่อมิอะไรดีขึ้นนั้น หมาแก่พูดสั้นเกินไปจริงๆ แล้วตั้งใจจะบอกว่า เมื่อสุขภาพดีขึ้นจะกลับมา (พักชั่วคราว) รายการยังมีปกติเหมือนเดิม

ขอย้ำอีกครั้ง เป็นปัญหาสุขภาพเท่านั้น

'สว.วีระศักดิ์' ร่วมถกเสวนา 'ชุมชนกับภาวะโลกร้อน…โลกรอด…เรารอด' ชี้!! กทม.น่าห่วง 'ฝุ่นพิษ-มลพิษจากขยะ-อากาศแปรปรวน' รุม ควรเร่งแก้

ไม่นานมานี้ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา รองประธานกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ได้รับเชิญจากสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ร่วมลงพื้นที่พบปะและสนทนากับชาวชุมชนในกรุงเทพมหานคร เพื่อสนทนากับผู้นำชุมชนในเขตดุสิต ในหัวข้อสิ่งแวดล้อมในกรุงเทพฯ ขยะ ฝุ่น PM2.5 ทางระบายน้ำ และภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงที่เกิดในกรุงเทพมหานครแล้ว

ในการนี้ นายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นประธานในกิจกรรม มี แพทย์หญิง วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน, หม่อมหลวง ปุณฑริก สมิติ อดีตปลัดกระทรวงแรงงานในฐานะที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน, นางสาวรุจิรา อารินท์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตดุสิต ร่วมในกิจกรรม

หลังจากเยี่ยมเยือนกลุ่มผู้เปราะบางตามบ้านพักในชุมชนบางกระบือแล้ว คณะได้จัดให้มีการเสวนารับฟังปัญหาของชาวชุมชนและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในเขตดุสิต ที่ห้องประชุมโรงเรียนวัดจันทรสโมสร 

จากนั้นเปิดเวทีเสวนา 'ชุมชนกับภาวะโลกร้อน…โลกรอด…เรารอด' โดยมีนายทรงศัก สายเชื้อ และนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ เป็นวิทยากร ซึ่งได้รับความสนใจอย่างดียิ่งจากชาวชุมชน ว่าเป็นประเด็นที่ใกล้ตัวกว่าที่คาดคิด มีทั้งมุมคิดทางแก้ไข และมุมคิดการปรับตัวเพื่อรับมือกับภาวะภูมิอากาศสุดขั้วที่มีแต่จะเพิ่มทวีรุนแรงขึ้นตามลำดับ

การเสวนานี้ดำเนินรายการโดยนายสรรเสริญ เริงฤทธิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตดุสิต อดีตผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดก่รน้ำจากสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร

‘คนภูเก็ต’ เหลืออด!! ความรู้สึกดีๆ ต่อ นทท.เริ่มเสื่อมถอย แปลงกายมา ‘หากิน-กอบโกย-ยึดเกาะ’ ย่ำยีหัวใจเจ้าบ้าน

(4 มี.ค.67) จากเพจ ‘เหยี่ยวข่าว ภูเก็ต Newshawk Phuket’ ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า...

ขออนุญาตเจ้าของบทความนะครับ ... อ่านแล้วจุก!!

#เมื่อเจ้าบ้านกลายเป็นพลเมืองชั้น2 ฉันเป็นคนโลคัล คนท้องถิ่นภูเก็ต ภูมิใจในความเป็นคนภูเก็ตเสมอมา ทำมาหากินอยู่ในวงการท่องเที่ยว ด้านให้บริการ ขายอาหาร และอีกหลากหลาย ฉันยินดีแบ่งปันชายหาดแสนสวย ผู้คนยิ้มแย้มต้อนรับ และช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเสมอ ไม่ชอบการที่นักท่องเที่ยวถูกเอาเปรียบ และไม่ชอบให้ชาวบ้านถูกเอาเปรียบเหมือนกัน 

ความรู้สึกดีๆ เหล่านี้เริ่มเสื่อมถอย เมื่อเริ่มมีนักท่องเที่ยวแปลงกายเป็นนักธุรกิจอสังหา และอีกมากมายหลายอาชีพ เริ่มเข้ามากอบโกย จนหลายคนกลายเป็นมหาเศรษฐีจากการทำมาหากินโดยใช้ทรัพยากรของภูเก็ต และเริ่มแปลงกายแสดงศักดาด้วยอำนาจเงินที่มี ว่าตัวเองคือเจ้าของหาด เจ้าของเกาะ พื้นที่ชายหาดสาธารณะทั้งหมดในภูเก็ต ค่อยๆ ถดถอย คนท้องถิ่นไม่มีสิทธิ์ลงไปเดินผ่าน เดินเที่ยว กางเสื่อปิคนิคได้อีกต่อไป 

คนภูเก็ตอดทนกันมามากพอแล้ว เราใจดีกันมากแล้ว คนจากพื้นที่ทั่วประเทศทั่วโลก เข้ามาหากินกอบโกย เริ่มต้นกัดกินบ่อนทำลายภูเก็ต ซ้ำร้ายคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนไทยด้วยกัน ที่ลงมาหากินมีรายได้ มีผัวจนมีหน้ามีตา กลับหันมาแว้งกัดเจ้าบ้าน เพียงเพราะเปลี่ยนสถานะตัวเอง ใช้วาจาแทนเท้าเหยียบหัวใจเจ้าบ้าน

#ถึงเวลาที่ เจ้าหน้าทั้งภาครัฐและเอกชนรวมถึงเจ้าบ้านคนโลเคิล ที่จะต้องทวงคืน #หาดสาธารณะ มาไว้ให้ลูกหลานเราได้กลับไปกางเสื่อนอนปิคนิคกันได้หรือยัง 
#ถึงเวลาตรวจสอบ การทำมาหากินของต่างชาติกันบ้างได้แล้วหรือยัง
#ถึงเวลาควบคุมคุณภาพนักท่องเที่ยวว่ามาเที่ยว หรือ #มาทำลาย
#ทำไมเจ้าบ้านจึงกลายเป็นพลเมืองชั้นสอง
#ทำไมหน่วยงานต่างๆต้องอวยนักธุรกิจต่างชาติและที่สำคัญ เขาดูถูกเราได้ เพราะใครหิวเงิน สวาปามกันจนอ้าปากกันไม่ขึ้น 
#คืนชายหาดสาธารณะให้คนโลเคิล

คนปู๊นเต่ ที่เคยต่อสู้ ลงถนนเพราะการเมืองที่เลวร้าย
จนเบื่อมานาน และก็ต้องหลังพิงฝา ลุกขึ้นปลุกคนท้องถิ่นออกมาเรียกร้อง
***วันนี้ต้องไปแก้ที่ต้นเหตุกันครับ
จะคอยดู คณะ กธ.การท่องเที่ยว สภาบน ว่าจะดำเนินการอย่างไรกับต้นสายปลายเหตุที่เละเป็นโจ๊กอยู่ ณ.ตอนนี้

###เน้นนะครับ
ต่างชาติ ทำผิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรอาทิ ขับรถเครื่องก่อกวน จับ ปรับ ดำเนินคดี ส่งตัวกลับ ขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์ ห้ามเข้าราชอาณาจักร ส่วนทรัพย์สิน ให้ยึดตกเป็นของแผ่นดินสยาม

คนภูเก็ต หัวใจรักชาติ

เมื่อรัฐเล็งขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ในวันที่เอกชนกำลังรัน ‘เศรษฐกิจไทย’ สะท้อน!! ภาพนโยบายครั้งใหญ่ กระตุ้น ศก.ไทยได้จริงหรือ?

ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้แถลงข่าวรายงานวิเคราะห์เศรษฐกิจและการเงินเดือนมกราคม 2567 โดยเศรษฐกิจไทยปรับดีขึ้นจากเดือนก่อน แต่โดยรวมการขยายตัวยังอยู่ในระดับต่ำ โดยการส่งออกสินค้าปรับดีขึ้นหลังจากที่หดตัวในเดือนก่อน และการผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวน้อยลง แต่หลายอุตสาหกรรมยังถูกกดดันจากอุปสงค์โลกที่ฟื้นตัวช้า สินค้าคงคลังที่อยู่ในระดับสูง และปัจจัยเชิงโครงสร้าง

ด้านการลงทุนภาคเอกชนทยอยปรับดีขึ้น และการบริโภคภาคเอกชนและเศรษฐกิจในภาคบริการยังขยายตัวได้ตามรายรับในภาคการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี การใช้จ่ายภาครัฐหดตัวจากรายจ่ายลงทุนและรายจ่ายประจำของรัฐบาลกลาง

สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงจากทุกหมวดหลัก โดยเฉพาะหมวดอาหารสดจากราคาผักและผลไม้ที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น หมวดพลังงานลดลงจากผลของฐานสูงปีก่อน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานลดลงเล็กน้อยตามราคาอาหารสำเร็จรูปจากผลของฐานสูงในปีก่อน 

ด้านตลาดแรงงานปรับแย่ลง การจ้างงานในภาคการผลิตโดยเฉพาะที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออกยังคงลดลง และเริ่มเห็นการลดลงของการจ้างงานในภาคบริการบางสาขา 

สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลตามดุลการค้าเป็นสำคัญ แม้ดุลบริการ รายได้ และเงินโอนกลับมาเกินดุล

ประเด็นที่น่าสนใจ คือ หากพิจารณาภาพรวมแล้ว สภาพเศรษฐกิจไทย ยังถือว่าอยู่ในระดับทรงตัว ส่วนใหญ่ที่ขยายตัวได้เล็กน้อย เกิดจากภาคเอกชน ที่มีการลงทุนสอดรับกับภาคการท่องเที่ยว ที่ประเทศไทย ยังถือว่าเป็นจุดหมายปลายทางของชาวต่างชาติ ที่ต้องการเข้ามาพักผ่อน โดยมีสัดส่วนนักท่องเที่ยวระยะยาวเพิ่มขึ้น

แต่ในส่วนการใช้จ่ายของภาครัฐที่ไม่รวมเงินโอนกลับหดตัวเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันกับปีก่อน จากทั้งรายจ่ายลงทุนของรัฐบาลกลางที่ยังหดตัวสูงตาม พ.ร.บ. งบประมาณปี 2567 ที่ล่าช้า และจากรายจ่ายประจำที่หดตัวเล็กน้อยตามการเบิกจ่ายของหน่วยงานด้านการศึกษาที่ต่ำกว่าปีก่อนสำหรับการลงทุนของรัฐวิสาหกิจขยายตัว ตามการเบิกจ่ายในโครงการด้านคมนาคมและพลังงาน

ดังนั้น จะเห็นได้ว่า สภาพเศรษฐกิจไทย ยังคงต้องพึ่งภาคเอกชนเป็นหลัก เนื่องจากมาตรการภาครัฐเอง ยังคงไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้เต็มที่ ไม่ว่าจะข่าวคราวโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงิน 10,000 บาท ที่มีการแถลงข่าวจาก ฝั่งรัฐบาล ถึงการ 'เลื่อน' จากที่จะเริ่มในเดือนกุมภาพันธ์ จะดำเนินการในเดือนเมษายน และ เลื่อนอีกครั้งว่าน่าดำเนินการในเดือนพฤษภาคม รวมทั้งนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ แทบจะไม่มี 

อาจจะเห็นภาพในการช่วยเหลือประชาชนที่ค่อนข้างชัดเจนเพียงบางกระทรวง ในส่วนมาตรการลดค่าใช้จ่าย โดยควบคุมราคาพลังงาน, ทั้งไฟฟ้า, น้ำมัน, ลดค่าครองชีพ ให้มีเงินเหลือเพื่อส่งเสริมการอุปโภค บริโภค ของประชาชนส่งผลให้มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 

เมื่อกำลังสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย เกิดจากภาคเอกชนเป็นหลัก กลับมีข่าวการเตรียมปรับค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ออกมา ว่ารัฐบาลจะประกาศปรับค่าแรงขั้นต่ำในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งแน่นอนว่า การปรับค่าแรงขั้นต่ำ ย่อมจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อของกลุ่มแรงงานได้มากขึ้น แต่ก็ต้องพิจารณาให้รอบด้าน ว่าพื้นที่ใดสามารถดำเนินการได้ พื้นที่ใดที่น่าจะได้รับผลกระทบ เพราะกลไกสำคัญคือ ผู้ประกอบการ SME ขนาดเล็ก ที่เพิ่งจะเริ่มฟื้นตัวหลังเกิดวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งใช้แรงงานคนเป็นหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจ ก็จะมีต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน ประกอบกับต้นทุนทางการเงินในด้านดอกเบี้ยของผู้ประกอบการก็ยังคงอยู่ในระดับสูง 

ถ้าไม่เป็นเพราะเหตุ ‘การแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต’ ที่ส่อเค้าว่าจะไม่สามารถดำเนินการได้ จึงต้องนำนโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำนี้มาลดกระแส แรงกระเพื่อมจากประชาชนต่อรัฐบาล ก็คงดี และหวังว่าคงเกิดจากคณะกรรมการค่าจ้าง ได้พิจารณาปัจจัยต่าง ๆ จากเหตุที่เศรษฐกิจประเทศไทยเริ่มฟื้นตัวได้จริง ๆ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top