Tuesday, 3 June 2025
TheStatesTimes

ร้านกาแฟจีน Luckin จับมือเจ้าพ่อสุรา ‘เหมาไถ’ เสิร์ฟ ‘ลาเต้รสเหล้าขาว’ วันแรกโกย 5.42 ล้านแก้ว

(5 ก.ย.66) ลัคกิน คอฟฟี่ (Luckin Coffee) เครือร้านกาแฟเจ้าดังของจีน ประกาศจับมือบริษัทสุรา กุ้ยโจว เหมาไถ (Kweichow Moutai) ออกเมนู ‘กาแฟนมผสมเหล้าขาว’ หวังจับกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ โดยหลังเปิดตัววันแรกเมื่อวานนี้ (4 ก.ย.) ปรากฏว่าทำยอดขายสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 5.42 ล้านแก้ว

ลัคกิน แถลงว่า กาแฟนมผสมเหล้าขาวเพียงเมนูเดียวสร้างรายได้ให้บริษัทกว่า 100 ล้านหยวนในวันจันทร์ (4 ก.ย.) ทุบสถิติเมนูยอดนิยมอื่น ๆ ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ เช่น cheese latte ซึ่งมียอดจำหน่ายในวันเปิดตัว 1.31 ล้านแก้ว และ coconut cloud latte ซึ่งขายได้ในวันแรก 660,000 แก้ว

กาแฟผสมเหล้าขาวซึ่งทางร้านตั้งชื่อว่า ‘sauce-flavoured latte’ เปิดจำหน่ายวันแรกในราคาเพียง 19 หยวน หรือลดจากปกติ 50% ซึ่งปรากฏว่ามีชาวจีนในปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้แห่ไปต่อคิวรอซื้อจนขายหมดเกลี้ยงในเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมง

ลัคกิน และกุ้ยโจว เหมาไถ ระบุว่า sauce-flavoured latte มีปริมาณแอลกอฮอล์ผสมไม่เกิน 0.5%
สำหรับสุราเหมาไถนั้นได้รับยกย่องว่าเป็น ‘สุราแห่งชาติจีน’ โดยเป็นเหล้าขาวดีกรีแรงที่นิยมเสิร์ฟกันตามงานเลี้ยงต่างๆ และสำหรับ กุ้ยโจว เหมาไถ นั้นผู้ที่เคยดื่มส่วนใหญ่บอกว่ามีกลิ่นและรสชาติใกล้เคียงกับ ‘ซอสถั่วเหลือง’

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวยืนยัน ป.ป.ง. ยึดทรัพย์บัญชีม้าแน่!!!  

เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2566 เวลา 14.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.  พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ร่วมกันแถลงความคืบหนี้คดีฆ่ายกครัว 3 ศพ และร่วมพิธีจับรางวัลผู้โชคดีจากการทำแบบทดสอบวัคซีนไซเบอร์ สำหรับประชาชน จำนวน 40 ข้อ ชิงรางวัล iPhone 14 ประจำเดือน สิงหาคม 2566 จำนวน 20 รางวัล ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวว่า จากคดี  นายสาณิช ดอกไม้ คลุ้มคลั่งใช้อาวุธมีดปาดคอฆ่าภรรยา และบุตร 2 คน อายุ 13 ปี และ 11 ปี รวม 3 ศพ แล้ว นายสาณิชฯ  ปาดคอตัวเองหวังตายตาม เหตุเกิดในเขตพื้นที่ สภ.บางแก้ว จว.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2566 สาเหตุเกิดจากความเครียดในเรื่องหนี้สินค้ำประกันการซื้อรถให้เพื่อนบ้านเป็นเงิน 8 แสนบาท กรมบังคับคดีจะยึดบ้าน และเครียดที่ภรรยากู้เงินผ่านแอปพลิเคชันจนถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงินไปกว่า 1.7 ล้านบาท  เรื่องนี้เป็นเหตุสลดใจและสะเทือนความรู้สึกของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก คดีนี้ได้ออกหมายจับนายสาณิชฯ ผู้ก่อเหตุคดีฆ่ายกครัวแล้ว และได้สั่งการให้  พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  หักพาล รอง ผบ.ตร.  เร่งคลี่คลายคดี  จนสามารถออกหมายจับไปแล้วทั้งสิ้น 22 หมายจับ และได้มีการจับกุม อายัดตัว และมารายงานตัว จำนวน 10 ราย มีรายละเอียด ดังนี้
1. จับกุมได้แล้วทั้งสิ้น 8 ราย ดังนี้

1.1 น.ส.สุชาดา ชาบุตรศรี ตามหมายจับที่ 620/2566 เมื่อวันที่ 29 ส.ค.66 จับกุมได้ที่ จุดผ่านแดนบ้าน
คลองลึก ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จว.สระแก้ว
1.2 นายวัชรพงษ์ ครูศรี ตามหมายจับที่ 621/2566 เมื่อวันที่ 30 ส.ค.66 จับกุมได้ที่ หมู่ 3 ต.เมืองไผ่
อ.อรัญประเทศ จว.สระแก้ว
1.3 นายชัยยา ก้านศรี ตามหมายจับที่ 622/2566 เมื่อวันที่ 30 ส.ค.66 จับกุมได้ที่ หมู่ 1 ต.ห้วยโจด
อ.วัฒนานคร จว.สระแก้ว
1.4 น.ส.ณัฐณิชา ดีโสภา ตามหมายจับที่ 632/2566 เมื่อวันที่ 30 ส.ค.66 จับกุมได้ที่ จุดผ่านแดนบ้านคลองลึก ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จว.สระแก้ว
1.5 นายอนิรุต ปงก๋า ตามหมายจับที่ 634/2566 เมื่อวันที่ 31 ส.ค.66 จับกุมได้ที่ คอนโดคอมพลีท แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา
1.6 นายจำลอง นอใหม่ ตามหมายจับที่ 619/2566 เมื่อวันที่ 2 ก.ย.66 จับกุมได้ที่ บ้านเลขที่ 61 ม.2
ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา
1.7 นายดานิล อัลดูเนนคอฟ หรือ MR.DANIIL ALDUNENKOV ตามหมายจับที่ 647/2566 เมื่อวันที่ 3 ก.ย.66 จับกุมได้ที่ โรงแรมพาโนรามา ม.6 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
1.8 นายโรมัน บริค หรือ MR.ROMAN BRIK ตามหมายจับที่ 644/2566 เมื่อวันที่ 3 ก.ย.66  จับกุมได้ที่ หน้าโรงแรมพรีเมียร์โฮสเทล   ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

2. อายัดตัว มีดังนี้
- LONG SOTHY หรือ ลอง โซธีร์ ตามหมายจับที่ 643/2566 เมื่อวันที่ 30 ส.ค.66 อายัดตัวที่ สภ.คลองลึก

3. มารายงานตัว ดังนี้
- นายพีรดนย์ วิริยาธรณ์ภักดี ตามหมายจับที่ 640/2566 เมื่อวันที่ 1 ก.ย.66 มารายงานตัว ที่ สภ.บางแก้ว เนื่องจากถูกอายัดบัญชี

ขณะนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ  ได้รายงานว่าได้ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ และได้เดินทางไปยังประเทศกัมพูชา เพื่อขอความร่วมมือนายตำรวจระดับสูงและ ผบ.ตร. ของประเทศกัมพูชา ในการปราบปราม “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ชาวจีน ที่ใช้ประเทศกัมพูชา เป็นฐานหลอกลวงคนไทย ความคืบหน้าจะได้เรียนให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบต่อไป  จึงขอยืนยันกับพี่น้องประชาชนว่าคนร้ายที่กระทำผิดคิดหลอกลวงเอาเงินจากพี่น้องประชาชน  จะต้องถูกดำเนินคดีและถูกลงโทษทุกราย  โดยเฉพาะพวกบัญชีม้าที่พนักงานสอบสวนตรวจสอบเส้นทางการเงินแล้ว พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด เช่น ใช้รับโอนเงินจากผู้กระทำผิดหลายราย หรือหลายๆ ครั้ง    ถือว่า สนับสนุนการฉ้อโกงประชาชน  หรือ ฉ้อโกงเป็นปกติธุระ   อันเป็นความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒   เจ้าหน้าที่จะสามารถติดตามยึดทรัพย์สินจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดได้ ทั้งนี้หากพบว่าเจ้าของบัญชีม้าได้ดำเนินการ  โอน รับโอน หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด เพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินนั้นหรือเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น    หรือกระทำด้วยประการใด ๆ เพื่อปกปิดหรืออำพรางลักษณะที่แท้จริงของการได้มา   จะถือว่า เป็นผู้กระทำผิดฐานฟอกเงิน ต้องรับโทษทางอาญาเช่นเดียวกับผู้กระทำผิดมูลฐาน   เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการทางแพ่ง โดยการยึด อายัด เงิน หรือ ทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายฟอกเงินดังกล่าวข้างต้น

นอกจากการปราบปรามแล้ว  สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ประชาชนได้ทำแบบทดสอบวัคซีนไซเบอร์สำหรับประชาชน จำนวน 40 ข้อ ตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค.2566 จนถึง วันที่ 30 กันยายน 2566 หากทำแบบทดสอบครบ 40 ข้อแล้ว  จะได้รับ Whoscall Premium Gift Code ฟรี ซึ่งสามารถใช้บริการ Whoscall Premium Feature ได้ฟรี เป็นระยะเวลา 1 ปี หากทำแบบทดสอบได้คะแนนตั้งแต่ 35 ข้อ  ขึ้นไป จะมีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัล iPhone 14 เดือนละ 20 รางวัล เป็นเวลา 3 เดือน รวม 60 รางวัล โดยประชาชนสามารถทำแบบทดสอบได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง  แต่จะได้รับสิทธิ Whoscall Premium และสิทธิลุ้น iPhone 14 เพียง 1 สิทธิ และได้จับรางวัลผู้โชคดีประจำเดือน กรกฎาคม 2566 จำนวน 20 รางวัล ไปแล้วนั้น  

ในห้วงวันที่ 1– 31 ส.ค.2566  มีประชาชนเข้ามาทำแบบทดสอบวัคซีนไซเบอร์ สำหรับประชาชน จำนวน 40 ข้อ  และได้รับสิทธิ Whoscall Premium Gift Code ฟรี ซึ่งสามารถใช้บริการฟีเจอร์เสริมต่างๆ จาก Whoscall Premium ได้ฟรีเป็นระยะเวลา 1 ปี จำนวน 280,406 คน  ในจำนวนนี้มีประชาชน ทำแบบทดสอบได้คะแนนตั้งแต่ 35 ข้อ  ขึ้นไป และได้รับสิทธิ์ลุ้นรับรางวัล iPhone 14 จำนวน 238,974 คน สำหรับวันนี้เป็นการจับรางวัลหาผู้โชคดี ครั้งที่ 2 จำนวน 20 รางวัล ซึ่งจะได้รับรางวัล iPhone 14 จำนวน  20 รางวัลๆ ละ 1 เครื่อง โดยได้รับเกียรติจาก คุณเพ็ชรทาย  วงษ์คำเหลา หรือหม่ำจ๊กมก  ดาราตลกชื่อดังมาร่วมเป็นเกียรติและสักขีพยานในการจับรางวัลครั้งนี้ด้วย  

สำหรับวิธีการจับรางวัลผู้โชคดี จำนวน 20 ท่าน ใช้วิธีกดสุ่มเลือกผู้โชคดีทีละรางวัลจากรายชื่อทั้งหมด โดยข้าราชการตำรวจหรือข้าราชการอื่นที่เข้าไปทำแบบทดสอบ สำหรับประชาชน จำนวน 40 ข้อนี้  ทุกคนมีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลทั้งหมดเช่นเดิม  และวันนี้ผู้ที่โชคดีได้รับรางวัล iPhone 14  จำนวน 20 รางวัลๆ ละ 1 เครื่อง ได้แก่
1. P004426 นาย อัศวิน วงศ์พรม จว.แม่ฮ่องสอน
2. P023909 นาง ดาวรรณ์ พวกไธสง จว.สระแก้ว
3. P101234 นาง นุชรา โคตรวิชัย จว.สกลนคร
4. P091626 น.ส. สิริมาสย์ ปั้นริ้ว จว.กรุงเทพมหานคร
5. P095299 น.ส. สุภาภรณ์ คำสวัสดิ์ จว.สกลนคร
6. P066610 น.ส. เพชรัตน์ คำสียา จว.อุดรธานี
7. P027079 น.ส. ปภาณัช ขันอาสา จว.ฉะเชิงเทรา
8. P169706 นาง นัยนา ปาวรีย์ จว.ชัยนาท
9. P048933 นาง พังงา ศรีภา จว.หนองบัวลำภู
10. P070254 ว่าที่ ร.ต.อดิศร เชื้อบุญมี จว.เพชรบูรณ์
11. P021593 นาย วินัย ศรีละคร จว.ฉะเชิงเทรา
12. P111908 นาย ณัฐพล เพชรทองคำ จว.ลพบุรี
13. P132057 ด.ญ.ชลิดา คุณวงศ์ จว.มุกดาหาร
14. P045227 น.ส.วรรณพร ไขประภาย จว.สกลนคร
15. P048499 ด.ต.อำนาจ อุไร จว.เลย
16. P199467 น.ส.ธนรรชน เส็นสด จว.จันทบุรี
17. P229451 นาง สมวลี เขียวมณี จว.สมุทรสาคร
18. P023574 น.ส.ยุภาพร ผ่องใส จว.ปทุมธานี
19. P097995 นาวาโทหญิง ขนิษฐา โมฬี จว.พังงา
20. P062354 น.ส.ทรรศน์วรรณ รุ่งกลิ่น จว.กำแพงเพชร

​วันนี้ได้จับรางวัลหาผู้โชคดีรับ iPhone 14 ครั้งที่ 2 จำนวน 20 ท่าน  ครบถ้วนแล้ว  และสำหรับเดือนสิงหาคม 2566  มีผู้ที่ได้รับรางวัลในการแนะนำให้ประชาชนทำแบบทดสอบมากที่สุด จำนวน 2 รางวัล ได้แก่
1. พ.ต.อ.อุเทน นุ้ยพิน รอง ผบก.อก.ภ.6 แนะนำ จำนวน 3,612 ราย
2. นาย เชาว์ชัยพัฒน์ ฉวีนิรมล แนะนำ จำนวน 599 ราย
สำหรับผู้ที่ทำแบบทดสอบไปแล้ว  แต่ไม่ได้รับรางวัลประจำเดือน สิงหาคม 2566  ยังมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลประจำเดือน กันยายน 2566 ซึ่งเป็นเดือนสุดท้าย โดยไม่ต้องทำแบบทดสอบใหม่ ส่วนผู้แนะนำที่จะได้รับรางวัล ต้องเริ่มนับใหม่ในเดือนถัดไป และต้องไม่ซ้ำคนเดิม ส่วนแบบทดสอบยังใช้แบบทดสอบเดิมบนระบบเดิม จึงขอฝากให้พี่น้องสื่อมวลชนได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้โชคดีได้รับทราบทั่วกัน สำหรับผู้โชคดีสามารถตรวจสอบรายชื่อได้ช่องทาง www.เตือนภัยออนไลน์.com  ในการรับรางวัล  จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อไปยังผู้ที่โชคดี  จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับมอบหมายจะนำส่งรางวัลถึงบ้านหรือที่อยู่ของผู้โชคดีกับมือท่านเอง  

การจับรางวัลหาผู้โชคดีได้รับรางวัล iPhone 14 ประจำเดือน กันยายน 2566  ซึ่งเป็นเดือนสุดท้าย จำนวน 20 รางวัล จะมีขึ้นในวันที่เท่าใด  ขอให้ติดตามรายละเอียดได้ในช่องทาง  www.เตือนภัยออนไลน์.com  จึงขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนได้เข้าทำแบบทดสอบเพื่อจะได้มีภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์และได้ลุ้นรางวัล iPhone 14 ได้ใน 3 ช่องทาง ดังนี้ 1) สแกนคิวอาร์โค้ด 2) เข้าเว็ปไซต์ไซเบอร์วัคซีน และ ๓) ทำแบบทดสอบเมื่อครูไซเบอร์ไปให้ความรู้ในพื้นที่ โดยเป็นการเข้าทำแบบทดสอบผ่าน Google Form สำหรับทำแบบทดสอบ  ( หากไม่ชิงรางวัล สามารถทำแบบทดสอบได้เลย ) และจะสามารถดูเฉลยได้เมื่อทำข้อสอบเสร็จ กด "ดูคะแนน"

กรณีต้องการรับสิทธิเพื่อชิงรางวัลต้องดำเนินการ ดังนี้
1. กดลิงก์ "เข้าเว็บไซต์ไซเบอร์วัคซีน" จาก Google form  หรือ เข้าผ่านเว็บไซต์  www.เตือนภัยออนไลน์.com  
และสมัครใช้งานและเข้าสู่ระบบไซเบอร์วัคซีนผ่านเว็บไซต์ดังกล่าว (เข้าสู่ระบบผ่านไลน์)
2. ทำการยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชน  หรือแอปพลิเคชัน THaID
3. หน้าแรกของระบบไซเบอร์วัคซีน จะมีปุ่ม "ทดสอบ 40 คำถามสำหรับประชาชน"  ให้กดเพื่อทำแบบทดสอบ
4. เลือกยืนยันความสมัครใจรับการทดสอบ และ กรอกอีเมล  กรณีต้องการทราบผลคะแนนทางอีเมล
นายเพ็ชรทายหรือหม่ำ จ๊กมก  กล่าวแสดงความยินดีกับผู้โชคดีได้รับ iPhone 14 และเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ที่ได้รับรางวัลในการแนะนำให้ประชาชนทำแบบทดสอบในครั้งนี้ด้วย   และได้เห็นถึงความตั้งใจของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ ผบ.ตร.  ที่ต้องการให้ประชาชนได้รู้เท่าทันภัยออนไลน์  โดยการประชาสัมพันธ์ให้มีการทำแบบทดสอบจำนวน 40 ข้อ  เพื่อจะได้มีภูมิคุ้มกันภัยออนไลน์ รู้สึกดีใจและมีความอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูกที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ส่วนตัวได้ทำแบบทดสอบทั้ง 40 ข้อแล้ว ยอมรับว่ามีความรู้เกี่ยวกับภัยออนไลน์เพิ่มมากขึ้น  รับรองไม่มีทางตกเป็นเหยื่อของแก็งคนร้ายอย่างแน่นอน  สำหรับการทำแบบทดสอบครั้งนี้ได้คะแนนมากกว่า 35 ข้อเช่นกัน  และจะรอลุ้นการจับสลากรางวัล iPhone 14  อีก 20 รางวัลในเดือนสุดท้าย  จึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้รีบเข้ามาทำแบบทดสอบกัน  จะได้มีความรู้และมีโชครับ iPhone 14  ไปใช้งานฟรีๆ
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ ผบ.ตร. กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันยังมีประชาชนตกเป็นเหยื่อของคนร้ายอยู่  ดังนั้น เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รู้เท่าทันภัยออนไลน์อย่างต่อเนื่อง จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ทำแบบทดสอบ วัคซีนไซเบอร์ จำนวน 40 ข้อ และขอให้แชร์แบบทดสอบไปให้กับญาติหรือผู้เป็นที่รักเพื่อให้พี่น้องประชาชนที่ทำแบบทดสอบมีความรู้เท่าทันกลโกงของคนร้ายบนโลกออนไลน์   และไม่ตกเป็นเหยื่อ      
ทั้งนี้  สามารถติดตามข้อมูลการแจ้งเตือนภัยออนไลน์ได้ผ่านทาง www.เตือนภัยออนไลน์.com    Facebook https://www.facebook.com/เตือนภัยออนไลน์  หมายเลขโทรศัพท์ 081-866-3000 หรือโทรศัพท์สายด่วน 1441 กรณีถูกคนร้ายหลอกลวงแจ้งความตำรวจผ่านระบบ www.thaipoliceonline.com ( QR CODE ข้อสอบ 40 ข้อ สำหรับประชาชน)

6 กันยายน ของทุกปี เป็นวันต่อต้านคอร์รัปชันแห่งชาติ ปลุกจิตสำนึกคนไทยต่อต้านการทุจริต

วันที่ 6 กันยายน ของทุกปี กำหนดเป็นวันต่อต้านการคอร์รัปชันแห่งชาติ เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมจากการริเริ่มของ ดุสิต นนทะนาคร อดีตประธานหอการค้าไทย ที่ได้สร้างความตื่นตัวของคนไทยในเรื่องนี้ จนกลายเป็นวาระแห่งชาติ

ในปี พ.ศ. 2554 ประเทศไทยมีอันดับการคอร์รัปชันแย่ลงจาก 78 เป็น 80 จาก 183 ประเทศทั่วโลกทั้งยังมีคะแนนดัชนีความเชื่อมั่นเพียง 3.4 จาก 10 คะแนนเท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ปัญหาคอร์รัปชันในประเทศไทยนับวันจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 ‘ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชัน’ ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมต่อต้านคอร์รัปชันเพื่อกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนของสังคมเกิดความตื่นตัว และลุกขึ้นมาร่วมใจกันต่อต้านคอร์รัปชันอย่างเป็นรูปธรรม 

โดยในปีแรกงานจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2554 ณ ลานพระบรมรูปรัชกาลที่ 6 สวนลุมพินี ภายใต้หัวข้อ ‘จุดเปลี่ยนประเทศไทย’ และได้กำหนดให้วันที่ 6 กันยายนของทุกปีเป็น ‘วันต่อต้านคอร์รัปชันแห่งชาติ’ เพื่อเป็นการรำลึกถึง คุณดุสิต นนทะนาครพลังสำคัญผู้ก่อตั้งภาคีฯ ผู้นำการต่อต้านการคอร์รัปชันเข้าสู่แผนปฏิรูปประเทศไทยภายใต้แผนปรองดองของหอการค้าไทย ที่ได้เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2554

ต้านสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา อ้างลดทอนคุณค่าโบราณสถาน แม้สร้างห่างพื้นที่ร่วม 1.5 กิโลเมตร แต่ก็ไม่วายโดนดรามา

(5 ก.ย.66) เฟซบุ๊ก 'Ringsideการเมือง' ได้โพสต์ข้อความกรณี นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส. อยุธยา เขต 1 พรรคก้าวไกล เตรียมเสนอตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาผลกระทบด้านทรัพย์สินทางวัฒนธรรมต่อแหล่งมรดกโลกเมืองเก่าอโยธยาจากโครงการรถไฟความเร็วสูง สถานีอยุธยา ว่า...

ความพยายามที่เกิดขึ้น มีการมองว่า จะยิ่งทำให้โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเสร็จช้าขึ้นไปอีก

สำหรับโครงการนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง กรุงเทพฯ-นครราชสีมา 

ช่วงที่กำลังถกเถียงกันอยู่คือ ช่วงเส้นทาง 13.3 กิโลเมตร จากสถานีบ้านโพมาถึงสถานีพระแก้ว

โดยฝ่ายที่กังวลเรื่องการก่อสร้าง มองว่าที่ตั้งของสถานี อาจไปกระทบกับวิวทิวทัศน์ลดทอนคุณค่าของโบราณสถาน 

เรื่องนี้ มีทั้งคนเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย ซึ่งฝ่ายหลังมองว่า อยากให้จังหวัดท่องเที่ยวแห่งนี้ มีรถไฟฟ้าความเร็วสูงเพื่อพัฒนาศักยภาพของจังหวัด แต่ฝ่ายแรกมองว่า สถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูง อาจทำลายคุณค่าทางวัฒนธรรม

ข้อเท็จจริงจากฝ่ายการรถไฟแห่งประเทศไทย คือ...

ทางหน่วยงาน ได้ทำการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งมีการศึกษาในด้านการศึกษาผลกระทบต่อโบราณสถาน พร้อมกำหนดมาตรการลดผลกระทบ ซึ่งได้รับการอนุมัติไปแล้วตั้งแต่ปี 2562 

และปัจจุบันยังได้ทำการศึกษาการประเมินผลกระทบด้านทรัพย์สินทางวัฒนธรรม (HIA) ของแหล่งมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ผ่านทางที่ปรึกษาจากทางมหาวิทยาลัยศิลปากร

ซึ่งประเมินผลกระทบที่มีต่อแหล่งมรดกโลก 3 ด้าน ได้แก่ ด้านทัศนียภาพ ด้านกายภาพ และด้านสังคมและเศรษฐกิจ

ที่น่าสนใจคือ...

ในการก่อสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา พื้นที่ก่อสร้างสถานีได้ตั้งอยู่ในเขตทางรถไฟเดิม 

ซึ่งมีระยะห่างจากพื้นที่แหล่งมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา มากถึง 1.5 กิโลเมตร

จุดนี้การรถไฟฯ เชื่อว่า การก่อสร้างจะไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อโบราณสถานหรือทัศนียภาพในพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน

สรุป...

สถานีรถไฟความเร็วสูงที่ดรามา ก็สร้างในเขตรถไฟเดิม ห่างจากแหล่งมรดก 1 กม. ครึ่ง

แล้วมันมีปัญหาตรงไหน ??? นี่คือคำถามคาใจของฝ่ายที่เชียร์ให้เดินหน้าโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง

การรถไฟแห่งประเทศไทย โดย นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ ให้ความเห็นว่า...

"การก่อสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงในพื้นที่เขตทางรถไฟเดิม ถือเป็นข้อดีที่ช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวให้กับพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา และพื้นที่โดยรอบอย่างยั่งยืน สามารถอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยว การกระจายความเจริญ สร้างงานสร้างรายได้แก่คนในชุมชนให้เกิดความเข้มแข็ง ตลอดจนยังช่วยเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม 

"ด้วยการลดการเดินทางรถยนต์ และปรับโหมดการเดินทางไปสู่ระบบรางมากขึ้น ซึ่งการพัฒนาและการอนุรักษ์ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยพัฒนาประเทศให้รุ่งเรืองและคงไว้ซึ่งมรดกทางวัฒนธรรมอันดีของไทย 

"ทั้งสองสิ่งสามารถดำเนินการควบคู่กันได้ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของประชาชนชาวไทย และทุกภาคส่วน เพื่อสร้างประเทศไทยให้มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนต่อไป"

‘พีระพันธุ์’ เผย ‘ในหลวง’ รับสั่ง ครม.ทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ นำพาประเทศชาติเดินหน้า ประชาชนมีความสงบสุข-ร่มเย็น

‘พีระพันธุ์’ รับสนองพระบรมราโชวาท ทำให้บ้านเมืองเดินหน้า-ประชาชนมีความสงบร่มเย็น พร้อมย้ำ ‘นายกฯ’ เตรียมออกมาตรการช่วยเหลือ ปชช.เรื่องพลังงานในการประชุม ครม.นัดแรก ด้าน ‘วราวุธ’ เผย ‘ในหลวง’ ทรงให้ซื่อสัตย์ ทำงานเพื่อประชาชน

(5 ก.ย. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ว่า พวกเราจะต้องรับสนองพระบรมราโชวาทพระองค์ท่าน เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้า พัฒนาต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเน้นย้ำอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า “ให้พวกเราปฏิบัติหน้าที่ให้เต็มที่ ทำให้บ้านเมืองเดินหน้า พี่น้องประชาชนมีความสงบร่มเย็น”

เมื่อถามว่า ดูเหมือน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ระบุขอให้เชื่อมั่นในรัฐบาลชุดนี้ ในส่วนของกระทรวงพลังงาน เรื่องของพลังงานจะบอกกับประชาชนอย่างไร นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตนคิดว่านโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะนายกฯ ที่ได้บอกไปแล้ว ซึ่งมีนโยบายที่จะปรับลด โดยได้ไปดูเบื้องต้น โครงสร้างของราคาพลังงานทั้งหลาย โดยมี 2 ส่วน บางส่วนอยู่เหนือการควบคุม เช่น ราคาแก๊ส ซึ่งปรับลดในส่วนนั้นไม่ได้ แต่ในโครงสร้างราคาทั้งหมด มีหลายส่วนที่จะไปดู เบื้องต้นสามารถปรับลดได้อย่างแน่นอน

เมื่อถามว่า การประชุม ครม.นัดแรก ในวันที่ 12 ก.ย.จะมีมาตรการบางส่วนก่อนเลยหรือไม่ หรือต้องรอก่อน นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า หลังจากแถลงนโยบายเสร็จ และการประชุม ครม.นัดแรกก็ต้องมีมาตรการออกมา ซึ่งนายกฯ และกระทรวงพลังงานได้เตรียมการเรื่องนี้แล้ว ส่วนเรื่องของรูปแบบในการช่วยเหลือประชาชน อันดับแรก เพื่อให้เกิดความรวดเร็วจะใช้โครงสร้างเดิมก่อน ดูว่าส่วนไหนสามารถปรับลดลงไปได้ เพราะโครงสร้างราคาต่างๆ เหล่านี้ ประกอบไปด้วยหลายส่วน ส่วนไหนที่ปรับลดได้ก็ปรับลด ปรับลดราคาสุดท้ายที่ขาย เพียงแต่รัฐฯ ก็ต้องยอมเสียสละในส่วนที่เคยได้อยู่ ต้องยอมเสียสละออกไป

เมื่อถามว่า งบประมาณที่อยู่ จำเป็นต้องกู้ยืมหรือใช้งบประมาณในส่วนอื่น นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตรงนั้นเป็นเรื่องที่กำลังพิจารณาอยู่ว่าจะเป็นรูปแบบไหน ก็ต้องเลือกในสิ่งที่ดีที่สุด และคุ้มค่าที่สุด ที่สำคัญ เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง พยายามหาทางลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน หลักเกณฑ์ต่างๆ ของรัฐบาล คือ การไม่ไปสร้างอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจ หรือการดำรงชีวิตของประชาชน ต้องเป็นรัฐบาลที่สร้างการสนับสนุนให้ภาคเอกชนเดินหน้าต่อไปในทุกเรื่อง

ส่วนเรื่องการแถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ก็เรียบร้อย ไม่มีปัญหา ประเด็นหลักๆ มีหมด เช่น การป้องกันการทุจริต ประพฤติมิชอบ เรื่องของสถาบัน เรื่องของความไม่เป็นธรรม เรื่องของกฎหมาย โดยเฉพาะเรื่องการปฏิรูปพลังงาน และข้อกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องที่ตนเคยพูดเอาไว้ทั้งหมด

เมื่อถามอีกว่า ถือเป็นการต่อยอดนโยบายของพรรค รทสช.ด้วยหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ถ้าต่อยอดได้ด้วยก็ดี

ด้าน นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระบรมราโชวาทว่า ขอให้มีสติปัญญาในการทำงานให้กับพี่น้องประชาชน ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และขอให้มีความขยันทำงานเพื่อประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวถามว่า มองความท้าทายของรัฐบาลชุดนี้อย่างไรบ้าง นายวราวุธ กล่าวว่า ตนว่าความท้าทายคือ มีปัญหาของประเทศชาติอยู่หลายมิติ ที่เป็นความคาดหวังของพี่น้องประชาชน คงจะต้องเร่งทำงานกันในทุกๆ มิติ

‘แพทตี้’ สลัดลุคนางเอกหน้าหวาน อวดความเซ็กซี่เบาๆ สวมชุดว่ายน้ำคลุมด้วยเสื้อครอปตัวจิ๋ว ทำเอาทะเลร้อนฉ่า!!

(5 ก.ย. 66) นับวันยิ่งเผยความเซ็กซี่ออกมาให้เห็นทุกที สำหรับนางเอกสาวหน้าใส ‘แพทตี้ อังศุมาลิน’ นางเอกหน้าแบ๊ว วัย 32 ปี ภรรยาคนสวยของ ‘แดน วรเวช ดานุวงศ์’ โดยล่าสุดทั้งคู่ได้เดินทางไปใช้เวลาพักผ่อนแบบชิลๆ ริมทะเล

โดยงานนี้สาวแพทตี้ ได้โชว์ความเซ็กซี่เบาๆ ด้วยสวมชุดว่ายน้ำสีฟ้าลายตาราง แม้จะคลุมทับด้วยเสื้อครอปตัวจิ๋ว แต่ยังดูฮอตสุดๆ งานนี้บอกเลยว่าแม้นานๆ ทีจะออกมาโชว์ความเซ็กซี่ แต่บอกเลยว่าจัดเต็มสุดๆ

รู้จัก Wegovy ยาลดน้ำหนักที่ ‘อีลอน มัสก์’ ยังลอง มาแรงถึงขั้นสร้างมูลค่าแซงหน้า ‘หลุยส์ วิตตอง’

(5 ก.ย. 66) เรื่องน้ำหนักตัว (อ้วน!!) เป็นปัญหาโลกแตกสำหรับทุกเพศ ทุกวัย ที่นอกจากจะมีผลกระทบกับสุขภาพแล้ว ยังลดทอนความมั่นใจสำหรับบางคนอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าหากมีใครสามารถคิดค้นสิ่งที่จะมาช่วยแก้ปัญหานี้อย่างได้ผล และปลอดภัยจริงๆ คงจะสร้างมูลค่าทางการตลาดได้มหาศาลเลยทีเดียว 

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มีบริษัทผู้ผลิตสินค้าเพื่อรักษาโรคอ้วนที่กำลังถูกพูดถึงอย่างมาก นั่นก็คือ บริษัทเวชภัณฑ์ของเดนมาร์กที่ชื่อ ‘Novo Nordisk’ ซึ่งได้พัฒนายา ‘Wegovy’ ซึ่งเป็นยาที่ช่วยในการควบคุมและรักษาโรคอ้วน หรือที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า ‘Semaglutide’ โดยเพิ่งวางจำหน่ายยานี้อย่างเป็นทางการในอังกฤษ เมื่อวันจันทร์ (4 ก.ย. 66) ที่ผ่านมา 

เจ้า ‘Wegovy’ นี้ ได้รับการรับรองแล้ว จากสถาบันแห่งชาติเพื่อความเป็นเลิศด้านสุขภาพ และการแพทย์แห่งอังกฤษ ให้สามารถใช้กับผู้ป่วยโรคอ้วน หรือ ‘ผู้ที่มีดัชนีมวลกาย’ (BMI) เกิน 30 ในระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 2 ปี ควบคู่กับการควบคุมอาหาร และ ออกกำลังกายได้

‘Wegovy’ เป็นยาควบคุมน้ำหนักที่ฉีดใต้ผิวหนัง มีคุณสมบัติในการระงับอาการหิว และทำให้ผู้รับยา บริโภคอาหารน้อยลงจากที่เคย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการลดน้ำหนัก และได้ทดสอบกับกลุ่มผู้ใหญ่ที่มีอาการโรคอ้วนจำนวน 304 คน คู่กับกลุ่มที่ใช้ยาหลอก ร่วมกับการรับประทานอาหารแคลอรี่ต่ำ และ ออกกำลังกายมากขึ้นในระยะเวลา 104 สัปดาห์ พบว่า กลุ่มทดลองที่ใช้ Wegovy มีน้ำหนักลดลงอย่างชัดเจนกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ใช้ยา 

อีกทั้ง Novo Nordisk ยังอ้างว่าการใช้ Wegovy ช่วยลดความเสี่ยงจาก โรคหัวใจ และหลอดเลือดสมองได้ และมีคนดังจำนวนมาก รวมถึง ‘อีลอน มัสก์’ เปิดเผยว่าใช้ยาตัวนี้ช่วยควบคุมน้ำหนักอยู่เช่นกัน ทำให้มูลค่าหุ้นของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

จนกระทั่งวันนี้ ที่มีการเปิดตัวจำหน่าย Wegovy ในอังกฤษ มูลค่าหุ้นของบริษัท Novo Nordisk ก็พุ่งทะยานถึง 4.28 แสนล้านเหรียญ กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดของยุโรป แซงหน้าหุ้นของ LVMH หรือ ‘หลุยส์ วิตตอง’ แบรนด์หรูของฝรั่งเศส ไปแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น หุ้นของ Novo Nordisk ยังถูกคาดว่าจะพุ่งขึ้นไปได้อีก เพราะความต้องการยาควบคุมน้ำหนัก Wegovy เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก เพราะเอาแค่เฉพาะในอังกฤษ ทางกรมดูแลสุขภาพแห่งชาติ ถึงกับเปิดเผยว่า น่าจะมีคนไข้ชาวอังกฤษที่รอรับยา Wegovy หลายหมื่นคน ไม่รวมคลินิกเอกชนอีกต่างหาก ในขณะที่ Wegovy ในคลังยามีอยู่อย่างจำกัด  

ประกอบกับรัฐบาลอังกฤษยังสนับสนุนงบประมาณในการทดสอบยานี้กับผู้ป่วยโรคอ้วน เพื่อดูประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคเบาหวาน ซึ่งเป็นโรคเรื้อรังที่กินงบประมาณด้านสุขภาพของอังกฤษ มากถึง 6.5 พันล้านปอนด์ต่อปี 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ‘ริชี ซูแน็ก’ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยังเชื่อเลยว่า Wegovy อาจเป็นจุดเปลี่ยนเกมของผู้ป่วยโรคอ้วน ที่ต้องเสี่ยงอันตรายจากภาวะโรคเบาหวาน ให้กลับมามีสุขภาพที่ดีขึ้นได้

จากปรากฏการณ์นี้ จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมความต้องการยาควบคุมน้ำหนัก Wegovy ถึงเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ทั้งในอังกฤษ, ยุโรป และในสหรัฐอเมริกา จนดันมูลค่าหุ้นของ Novo Nordisk แซงหน้าบริษัทแบรนด์หรูได้ เพราะสุดท้าย สิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของคนเราก็คือ ‘สุขภาพ’ ของตัวเอง หาใช่ทรัพย์สินภายนอก

เรื่อง : ยีนส์ อรุณรัตน์

'ชลน่าน' ปลื้มใจ!! หลังเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน เผย 'ในหลวง' ทรงยิ้มแย้ม ตรัสชม ‘เศรษฐา’ เป็นคนเก่ง

(5 ก.ย. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ว่า ครั้งนี้เป็นการเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นครั้งที่ 2 ของตนเอง ต้องเรียนด้วยความเคารพว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชปฏิสันถารที่ทำให้คณะรัฐมนตรีมีกำลังใจอย่างมาก ทรงมีพระราชกระแสตรัสให้กำลังใจ หลังจากถวายสัตย์ปฏิญาณเสร็จสิ้นพระองค์ได้เดินเข้ามาหานายกฯ ด้วยพระพักตร์ที่ยิ้มแย้ม และพูดให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี ซึ่งเชื่อมั่นว่านายกฯ จะทำหน้าที่ได้ดี พระองค์ท่านยังทรงชมนายกฯ ว่าเชื่อมั่นว่าเป็นคนเก่งอยู่แล้ว และทรงมีพระสรวล เราเองก็มีความปิติตามที่เราได้ถวายสัตย์ปฏิญาณ ว่าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริตเพื่อประเทศชาติและบ้านเมือง และปฏิบัติตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญทุกประการ

นพ.ชลน่าน กล่าวถึงแนวทางการเข้าปฏิบัติหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุขหลังจากนี้ว่าส่วนตัวมั่นใจในการทำงาน เพราะนายเศรษฐา ได้มอบนโยบายชัดเจนว่าเราคือรัฐบาลของประชาชน เราคำนึงถึงประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก ดังนั้น กลไกในการบริหารราชการแผ่นดินของกระทรวงสาธารณสุข อะไรที่ยึดโยงกับประชาชนดีอยู่แล้วเราก็ทำต่อไป อะไรที่ต้องปรับเปลี่ยน เพื่อตอบสนองของประชาชนได้ดีขึ้นก็ต้องดำเนินการ ดังนั้นจึงมุ่งอยู่ที่ประชาชน ทั้งสุขภาวะร่างกายจิตใจ รวมถึงสติปัญญา เราตั้งใจมุ่งมั่นที่จะใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ รวมถึงต้องวางโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบไอที จึงต้องอาศัยความร่วมมือของทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง

สืบ ตม. ร่วมกับสำนักงานปราบปรามยาเสพติด บุกคริสตจักรย่านสะพานสูง พบหนุ่มผิวสีหลบหนีเข้าเมือง 

กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้รับการประสานงานจากสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ขอความอนุเคราะห์สนับสนุนชุดร่วมปฏิบัติการตรวจสอบพฤติการณ์ชาวแอฟริกาตะวันตก ภายในคริสตจักรแห่งหนึ่ง เขตสะพานสูง กทม. ซึ่งเป็นสถานที่รวมตัวพบปะกันของชายสัญชาติไนจีเรีย จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ต.จงชนะ ประสพสุข สว.กก.ปอพ.บก.สส.สตม. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. เข้าตรวจสอบสถานที่ดังกล่าว จากการสืบสวนเชื่อว่าสถานที่ดังกล่าวไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ประกอบกิจกรรมศาสนพิธีทางศาสนา แต่ยังเป็นสถานที่เจรจา ตกลง ซื้อขาย ส่งมอบยาเสพติด เมื่อไปถึงพบนายโอเคซี่ (นามสมมติ) สัญชาติไนจีเรีย แสดงตนเป็นผู้ดูแลสถานที่ดังกล่าว และสมัครใจพาเข้าไปตรวจสอบภายในสถานที่ดังกล่าว จากการตรวจสอบไม่พบยาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมาย พบเพียงชายลักษณะคล้ายคนต่างด้าว 4 ราย คือ นายเอ็มมานูเอล (นามสมมติ) อายุ 34 ปี สัญชาติไนจีเรีย, นายพอล (นามสมมติ) อายุ 38 ปี สัญชาติไนจีเรีย, นายเดวิด (นามสมมติ) อายุ 37 ปี สัญชาติไนจีเรีย และนายเอเคเน (นามสมมติ) อายุ 38 ปี กำลังทำกิจกรรมทางศาสนาอยู่ จึงขอตรวจสอบหนังสือเดินทาง นายเอ็มมานูเอลและนายพอลมีภาพถ่ายหนังสือเดินทางในโทรศัพท์มือถือ ส่วนนายพอล, นายเดวิด และนายเอเคเน ไม่มีหนังสือเดินทางและภาพถ่ายหนังสือเดินทางแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจึงตรวจสอบในระบบสารสนเทศ ตม. ผลปรากฏว่า ไม่พบข้อมูลการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรของชายชาวไนจีเรียทั้ง 4 รายแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” และแจ้งสิทธิให้ทราบ จากนั้นจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ส่งพนักงานสอบสวน สน.บางชัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง

ชวนเที่ยว ‘งานตักบาตรขนมครก’ 22 ก.ย.นี้ สืบสานประเพณีเก่าแก่ มีเพียงแห่งเดียวที่วัดแก่นจันทร์เจริญ อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม

สมุทรสงคราม แห่งเดียวของไทย อบจ.แม่กลอง ชวนเที่ยวงานตักบาตรขนมครก ‘ขนมคู่รักกัน’ 22 ก.ย. นี้ เพื่อสืบสานประเพณีเก่าแก่เกือบร้อยปี

เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 66 น.ส.กาญจน์สุดา ปานะสุทธะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ) สมุทรสงคราม เปิดเผยว่า ประเพณีตักบาตรขนมครก เป็นประเพณีที่เก่าแก่ของจังหวัดสมุทรสงคราม ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ปี 2473 ปัจจุบันมีเพียงแห่งเดียวที่วัดแก่นจันทร์เจริญ ตำบลบางพรม อำเภอบางคนที

โดยจัดกันในวันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปี โดยเลียนแบบการจัดงานมาจากขนมเบื้องของพระราชพิธีในวัง ที่สืบทอดกันมาจนถึงปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี

โดยญาติโยมที่มาร่วมทำบุญ จะซื้อขนมครก และน้ำตาลทราย จากพ่อค้าแม่ค้าที่พายเรือมาขายหน้าวัดแก่นจันทร์เจริญ ถวายพระสงฆ์ แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ชาวบ้านจึงเกรงว่าประเพณีตักบาตรขนมครกจะสูญหายไปด้วย

จึงได้ช่วยกันลงแรงและร่วมกันบริจาคเงินซื้อข้าวสารมาหมักค้างคืนไว้ พอเช้าตรู่ของวันใหม่ก็ไปรวมตัวกันที่วัดแก่นจันทร์เจริญ ช่วยกันโม่แป้ง คั้นกะทิ ทำขนมครก เพื่อนำไปตักบาตรถวายพระสงฆ์ พร้อมกับน้ำตาลทรายถวายคู่กัน เนื่องจากพระบางรูปชอบหวาน จึงมีน้ำตาลทรายให้มาด้วย

นายก อบจ.สมุทรสงคราม กล่าวว่า ตามตำนานบอกเล่าของคนเฒ่าคนแก่เล่าว่า ประเพณีตักบาตรขนมครกนั้น เกิดขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีชายหญิงคู่หนึ่งชอบพอกัน ฝ่ายชายชื่อ ‘กะทิ’ ส่วนฝ่ายหญิงชื่อ ‘แป้ง’ แต่พ่อของแป้ง ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านไม่ชอบกะทิ จึงหาทางขัดขวางไม่ให้มายุ่งเกี่ยวกับลูกสาว และยังยกลูกสาวให้แต่งงานกับปลัดอำเภอหนุ่มจากกรุงเทพฯ

เมื่อพ่อของแป้ง รู้ว่ากะทิ จะมาขัดขวางงานแต่งงานลูกสาว จึงขุดหลุมพรางไว้เพื่อดักฝังกะทิทั้งเป็น จนกลางคืนกะทิกับแป้งได้นัดพบกัน และเกิดพลัดตกลงไปในหลุมพรางของพ่อแป้งทั้งคู่ ลูกน้องของผู้ใหญ่บ้านนึกว่ากะทิตกหลุมพรางคนเดียว จึงนำดินมาฝังกลบทั้งคู่จนตายทั้งเป็น รุ่งเช้าผู้ใหญ่บ้านรู้เข้าจึงเกิดความเศร้าโศกเสียใจ จึงสร้างเจดีย์ไว้เป็นอนุสรณ์แด่คนทั้งสอง

ต่อมาชาวบ้านรู้ข่าวจึงเห็นใจในชะตาชีวิตของหนุ่มสาวคู่นี้ จึงนำขนมที่ทำจากกะทิและแป้ง และเรียกว่า ‘ขนมคู่รักกัน’ มาเซ่นไหว้ ต่อมาได้มีผู้เห็นว่าชื่อเรียกยาก จึงตัดเอาตัวอักษรแต่ละคำคือเอาตัว ค.ควาย, ร.เรือ และ ก.ไก่ มารวมกันจึงอ่านว่า ‘ครก’ หรือ ‘ขนมครก’ นั่นเอง

และเพื่ออนุรักษ์ประเพณีตักบาตรขนมครก ที่สืบทอดกันมานานเกือบ 100 ปี อบจ.สมุทรสงคราม จึงร่วมกับ จ.สมุทรสงคราม, อบต.บางพรม, ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม, สำนักงานวัฒนธรรม จ.สมุทรสงคราม และชาวตำบลบางพรม จัดงานตักบาตรขนมครกขึ้นที่วัดแก่นจันทร์เจริญ ในวันขึ้น 8 ค่ำเดือน 10 ซึ่งปีนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ 22 กันยายน 2566

โดยจะมีเตาขนมครกซึ่งส่วนใหญ่เป็นเตาถ่านกว่า 20 เตา มีการสาธิตการขูดมะพร้าวจากกระต่ายแบบโบราณ การโม่แป้งด้วยโม่หินแบบโบราณ การหยอดและการแคะขนมครกจากเด็กนักเรียนโรงเรียนวัดแก่นจันทร์เจริญ เริ่มงานตั้งแต่เวลา 07.00 น.เป็นต้นไป

โดยเวลา 09.30 น. มีพิธีเปิดงานโดยนายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม จากนั้นเป็นการตักบาตรขนมครก โดยมีพระสงฆ์วัดแก่นจันทร์ทุกรูปมารับบาตร

ส่วนขนมครกที่เหลือจากพระฉันแล้ว ทางวัดจะแจกจ่ายให้นักท่องเที่ยวและชาวบ้านนำกลับบ้านฝากญาติพี่น้องรับประทาน เพื่อความเป็นสิริมงคล จึงขอเชิญนักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจไปร่วมงานดังกล่าวได้ที่วัดแก่นจันทร์เจริญ ตามวันและเวลาดังกล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top