Sunday, 15 June 2025
TheStatesTimes

‘หวังอี้’ เผย 'จีน' เล็งขยายความร่วมมือกับ 'ไทย' หลายด้าน เชื่อเสถียรภาพไทย แม้สถานการณ์ภายในจะมีการเปลี่ยนแปลง

(20 ส.ค. 66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันเสาร์ (19 ส.ค.66) หวังอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ได้พบปะกับดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ซึ่งเดินทางเยือนกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน

หวัง ซึ่งเป็นกรรมการกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน กล่าวว่าการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีจะไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ระหว่างประเทศหรือสถานการณ์ภายในประเทศของไทย พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่าไทยจะยังคงมีเสถียรภาพและการพัฒนาที่ยั่งยืน

จีนพร้อมส่งเสริมความร่วมมือด้านต่างๆ กับไทยให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น สนับสนุนการเร่งสร้างทางรถไฟจีน-ไทย และเส้นทางเชื่อมทางรถไฟจีน-ลาว-ไทย และร่วมพยายามปราบปรามกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งรวมถึงการฉ้อโกงทางโทรคมนาคม

นอกจากนั้น หวัง กล่าวถึงความพร้อมของจีนที่จะสนับสนุนการสร้างประชาคมอาเซียน สนับสนุนความเป็นกลางของอาเซียน และสนับสนุนความพยายามร่วมกันสร้างศูนย์กลางการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันจีนพร้อมทำงานร่วมกับกลุ่มประเทศอาเซียนเพื่อเร่งการปรึกษาหารือเกี่ยวกับประมวลการปฏิบัติในทะเลจีนใต้ พยายามกำหนดกฎเกณฑ์ระดับภูมิภาคอันมีประสิทธิภาพและแก่นสารตั้งแต่ระยะแรก และสร้างทะเลจีนใต้เป็นทะเลแห่งสันติภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือ

หวัง ชี้ว่ากลุ่มประเทศในภูมิภาคควรป้องกันกองกำลังนอกภูมิภาคมายั่วยุการเผชิญหน้าแบบแบ่งพรรคแบ่งพวกและกระตุ้นความคิดเกี่ยวกับสงครามเย็น ซึ่งจะบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพอันได้มาอย่างยากยิ่ง

ด้าน นายดอน กล่าวว่า ไทยยินดีเสริมสร้างการเสวนาหารือและการแลกเปลี่ยนกับจีน ส่งเสริมความร่วมมืออันเป็นประโยชน์ซึ่งกันและกันในด้านต่างๆ ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และสนับสนุนการเชื่อมต่อทางรถไฟจีน-ลาว-ไทย และทำงานเพื่อการพัฒนาร่วมกัน ภายใต้สถานการณ์ระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นและความไม่แน่นอนในภูมิภาคในปัจจุบัน

โรงพยาบาลพญาไท 3 จับมือสานสัมพันธ์คณะผู้บริหารภาครัฐและเอกชนจากประเทศเคนย่า

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมาโรงพยาบาลพญาไท3 มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับคณะผู้บริหารของภาครัฐและเอกชน จากประเทศเคนย่า โดยได้สถานทูตไทยในเคนย่าเป็นตัวแทนในการเชื่อมสัมพันธ์ที่ดีในครั้งนี้ ทั้งนี้โรงพยาบาลพญาไท3เข้าให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น นำทีมโดยท่านผู้บริหาร นายแพทย์สุรพล  โล่ห์สิริวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพญาไท3 ร่วมด้วย คุณณัฐชานันท์ นิธิโชติวรภัทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดโรงพยาบาลพญาไท3 พร้อมด้วยทีมแพทย์ ทีมพยาบาล และทีมฝ่ายการตลาดต่างประเทศ เข้าให้การต้อนรับในครั้งนี้ 

นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจาก รอ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ แพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์เชิงป้องกัน และหัวหน้าศูนย์ดูแลสุขภาพองค์รวม PWA รพ.พญาไท 3  เข้าร่วมพูดคุยถึง highlight & Innovative products ภาพรวมทางการแพทย์ของโรงพยาบาลพญาไท3 ซึ่งศูนย์ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างยิ่งจากคณะผู้เยี่ยมเยือนมากที่สุดคือ คลินิกผู้มีบุตรยาก และ  Preventive Medicine  โดยมีการเจาะประเด็นหารือลงลึกเพื่อสานต่อความร่วมมือทางการแพทย์ร่วมกันต่อไป

สกพอ. ขยายเครือข่ายพลังสตรี อีอีซี ต่อเนื่อง พร้อมเสริมบทบาทสตรีเชื่อมโยงประโยชน์การพัฒนา อีอีซี สู่ชุมชนในทุกมิติ

​ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี เป็นประธานกิจกรรมการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเสริมสร้างเครือข่ายการดูแลสิ่งแวดล้อม ชุมชน และเฝ้าระวังการใช้ประโยชน์ในที่ดินตามแผนผัง อีอีซี หรือ พลังสตรี อีอีซี พร้อมบรรยายความคืบหน้า อีอีซี และมอบแนวทางเกี่ยวกับบทบาทพลังสตรี อีอีซี เพื่อขับเคลื่อนการยกระดับคุณภาพชีวิต และเศรษฐกิจชุมชน โดยมีนางสาวฉัตรประอร นิยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้เกียรติกล่าวต้อนรับและมอบทิศทางการพัฒนาจังหวัดฉะเชิงเทราเพื่อรองรับการพัฒนา อีอีซี และนางธัญรัตน์ อินทร รองเลขาธิการสายงานพื้นที่และชุมชนและสายงานเพิ่มประสิทธิภาพองค์กร อีอีซี เป็นประธานมอบเกียตริบัตรแก่เครือข่ายพลังสตรี อีอีซี ที่เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนประมาณ 200 คน 
ณ โรงแรมซันธารา เวลเนส รีสอร์ท จังหวัดฉะเชิงเทรา 

​ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการ อีอีซี กล่าวว่า อีอีซี ได้ดำเนินการพลังสตรี อีอีซี ตั้งแต่ปี 2563 เพื่อให้กลุ่มสตรีใน อีอีซี มีส่วนร่วมและเป็นกลไกสำคัญในการสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับ อีอีซี และร่วมเป็นพลังเครือข่ายในการดูแลและเฝ้าระวังการใช้ประโยชน์ที่ดินใน อีอีซี ให้สอดคล้องกับข้อกำหนดในแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน อีอีซี และการดูแลสิ่งแวดล้อม โดยมีพลังสตรี อีอีซี ใน 3 จังหวัด ประมาณ 600 คน สำหรับในปีนี้มีเป้าหมายขยายเครือข่ายให้เพิ่มมากขึ้นครอบคลุมทุกตำบล และเพิ่มบทบาทให้พลังสตรี อีอีซี เป็นกลไกหลักของ อีอีซี ในการเชื่อมโยงประโยชน์ของการพัฒนา อีอีซี ไปสู่ประชาชน และชุมชนในพื้นที่ เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ สินค้าชุมชน ท่องเที่ยวชุมชน เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดและการกระจายรายได้ การยกระดับชุมชนไปสู่ชุมชน Low Carbon เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นต้น  

​ด้านนางสาวฉัตรประอร นิยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่าจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นจังหวัดแรกของ อีอีซี ที่เชื่อมต่อจากกรุงเทพมหานคร ซึ่งรัฐบาลมีเป้าหมายให้เป็นเมืองน่าอยู่ รองรับการขยายตัวจากกรุงเทพ โดยจังหวัดได้ตั้งเป้าหมายการพัฒนาระยะ 5 ปี (2566-2570) ต้องการเป็น “เมืองน่าอยู่ น่าเที่ยว น่าลงทุน พัฒนาสู่เมืองอัจฉริยะ” ต้องการพัฒนาจังหวัดให้มีความเจริญ แต่ต้องควบคู่กับการสร้างความสมดุลของพื้นที่ เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง ตั้งเป้าหมายเปลี่ยนจากเมืองผ่าน ให้เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวและผู้ที่จะมาอยู่อาศัย เพื่อสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่อย่างยั่งยืนเนื่องจากฉะเชิงเทรามีศักยภาพ 

นอกจากนี้ นางธัญรัตน์ อินทร รองเลขาธิการฯ ได้เน้นย้ำบทบาทของพลังสตรี อีอีซี ว่าเป็นพลังสำคัญในการสร้างการรับรู้ที่ถูกต้องและความคืบหน้า อีอีซี ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากการพัฒนา เป็นพลังในการเฝ้าระวังติดตามไม่ให้มีการใช้ที่ดินผิดจากข้อกำหนดในแผนผัง อีอีซี และดูแลสิ่งแวดล้อม โดย อีอีซี จะดึงเครือข่ายความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ มาสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน เชื่อมโยงการท่องเที่ยวชุมชน และขอให้ชุมชนที่มีความเข้มแข็งสนับสนุนชุมชนที่เป็นต้นน้ำเพื่อให้เติบโตไปด้วยกัน โดยหลังจากนี้ประธานเครือข่ายพลังสตรี อีอีซี ทั้ง 3 จังหวัด จะนำประโยชน์ที่ได้จากการประชุมฯ ไปจัดกิจกรรมขยายเครือข่ายในแต่ละจังหวัด เพื่อให้ได้โครงการที่ตรงกับความต้องการและศักยภาพของพื้นที่ต่อไป  

​การประชุมฯ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 19 สิงหาคม 2566 โดยมีวิทยากรจากกรมโยธาธิการและผังเมือง ให้ความรู้เกี่ยวกับแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน อีอีซี และความคืบหน้าการจัดทำผังเมืองรวมระดับอำเภอ และวิทยากรจากองค์การบริการจัดการก๊าซเรือนกระจก ให้ความรู้เกี่ยวกับโครงการ Carbon Credit เพื่อใช้เป็นแนวทางในการโครงการชุมชน Low Carbon รวมถึงจัด Workshop การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน การสร้าง Brand และแนวทางการขยายตลาด รวมถึงการเสวนาเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากวิสาหกิจชุมชนใน อีอีซี ที่ประสบความสำเร็จ เช่น ซอสทัย ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรผลิตไม้กฤษณา

มูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ จัดพิธีสมโภชและพุทธาภิเษกครั้งยิ่งใหญ่ หลวงพ่อโสธร รุ่น “ตร. 108 ปี” เสริมสร้างสิริมงคลแก่ตำรวจทั่วประเทศ

ด้วยมูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้จัดสร้างและมอบพระพุทธรูป หลวงพ่อโสธร รุ่น “ตร 108 ปี” หน้าตักขนาด 38 นิ้ว ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อประดิษฐานเป็นพระประจำอาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ เรียบร้อยแล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์สมโภชพิธีพุทธาภิเษก และพิธีอัญเชิญพระพุทธรูปหลวงพ่อโสธรดังกล่าวขึ้นประดิษฐาน ณ หอพระหลวงพ่อโสธร เพื่อให้ข้าราชการตำรวจและประชาชนและกราบบูชาเพื่อเป็นสิริมงคลสืบต่อไป

พล.ต.ท.อาชยน  ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า วันนี้ (20 ส.ค.66) เวลา 09.09 น. เป็นต้นไป พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ข้าราชการตำรวจ สมาคมแม่บ้านตำรวจ และมูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจ  ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์สมโภชและพุทธาภิเษกพระพุทธรูปหลวงพ่อโสธร รุ่น “ตร.108 ปี” หน้าตัก 38 นิ้ว ซึ่งได้อัญเชิญมาประดิษฐานยังหอพระหลวงพ่อโสธร หน้าอาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการนี้ สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) ได้เมตตาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ 

สำหรับ พิธีเจริญพระพุทธมนต์สมโภชและพุทธาภิเษกครั้งนี้ ถือเป็นพิธีมงคลครั้งสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งภายในพิธี ฯ ได้นิมนต์พระเถราจารย์จากทั่วประเทศ จำนวน 108 รูป ร่วมสวดเจริญพระพุทธมนต์ และพุทธาภิเษกพระพุทธรูปหลวงพ่อโสธร, พระกริ่งหลวงพ่อโสธร และเหรียญรูปอาร์ม พระพุทธโสธร รุ่น “ตร.108 ปี”  ซึ่งมีรายละเอียดการจัดงาน ดังนี้

•เวลา 09.00 น. แขกผู้มีเกียรติพร้อม ณ มณฑลพิธีลานด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 4
•เวลา 09.09 น. ผบ.ตร.เป็นประธานพิธีบวงสรวงเทพยดาบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ มณฑลพิธีลานด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 4
•เวลา 10.09 น. พิธีเจริญพระพุทธมนต์สมโภชพระพุทธรูปหลวงพ่อโสธร รุ่น ตร.108 ปี เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมนี วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เป็นพระธานสงฆ์ ณ มลฑลพิธีห้องประชุมแจ้งยอดสุข อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
•เวลา 11.00 น. ถวายภัตตาหารเพล/ รับประทานอาหารกลางวัน
•เวลา 13.15 น. พิธีพุทธาภิเษกพระพุทธรูปหลวงพ่อโสธร รุ่น ตร.108 ปี 
โดยพระเถราจารย์ 108 รูป ณ มลฑลพิธีด้านหน้าอาคาร อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
•เวลา 17.00 น. พิธีอัญเชิญพระพุทธรูปหลวงพ่อโสธร รุ่น ตร.108 ปี ประดิษฐาน ณ หอพระหลวงพ่อโสธร หน้าอาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
•เวลา 17.30 น. เสร็จพิธี

พระพุทธโสธร รุ่น “ตร. 108 ปี” มีวัตถุประสงค์จัดสร้างขึ้นเพื่อจัดหารายได้มอบให้แก่มูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจ ในพระบรมราชินูปถัมภ์, มูลนิธิสงเคราะห์ข้าราชการตำรวจและครอบครัว และสมาคมตำรวจ เพื่อใช้เป็นเงินสนับสนุนในการช่วยเหลือ และเป็นสวัสดิการให้กับข้าราชการตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ อีกทั้งในปี 2566 เป็นปีประวัติศาสตร์ครบรอบ 108 ปี กรมตำรวจ ซึ่งตัวเลข 108 มีความเชื่อว่าจะนำมาซึ่งโชคลาภและสิริมงคล โดยในทางพระพุทธศาสนาเชื่อว่าจะทำให้เกิดสัมฤทธิ์ผล  108 คือ ผลรวมของพระพุทธคุณ (56) พระธรรมคุณ (38) และพระสังฆคุณ (14) จึงเป็นที่มาของชื่อรุ่นว่า “ตร. 108 ปี” และมี “รูปพระแสงดาบเขนและโล่” ประกอบแบบพิมพ์ ทั้งนี้ สำหรับเหรียญรูปอาร์มพระพุทธโสธรเนื้อทองแดง จะได้มีการแจกจ่ายให้กับข้าราชการตำรวจทุกนายทั่วประเทศ เพื่อเป็นสิริมงคล และเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานต่อไป

‘แอนโทเนีย โพซิ้ว’ สาวลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก คว้าตำแหน่ง Miss Universe Thailand 2023

(21 ส.ค. 66) ในที่สุด MUT 31 ‘แอนโทเนีย โพซิ้ว’ จังหวัดนครราชสีมา ก็ได้คว้ามงกุฎ Miss Universe Thailand 2023 และสำหรับรางวัลที่ ‘แอนโทเนีย โพซิ้ว’ จะได้รับคือ คอนโดมิเนียมหรู ตกแต่งพร้อมอยู่ที่โครงการ Modiz Rhyme Ramkhamhaeng มูลค่า 3.75 ล้านบาท และได้เป็นตัวแทนสาวงามไปชิงมงกุฏ  Miss Universe 2023 ณ ประเทศเอลซัลวาดอร์

‘แอนโทเนีย โพซิ้ว’ เป็นหนึ่งในนางงามตัวเต็งที่เคยได้รับตำแหน่ง Miss Supranational 2 ปีซ้อน คือ 2019-2020 ปัจจุบัน แอนโทเนีย เป็นสาวลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก อายุ 26 ปี

จบการศึกษาในหลักสูตรนานาชาติ สาขาวิชาการตลาดและประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด เคยเป็นผู้เข้าแข่งขันรายการ The Face Thailand Season 1 ผ่านเข้ารอบ 15 คน หลังจากนั้นเธอก็หันหน้าสู่เส้นทางนางงาม โดยเป็นคนไทยคนแรกที่ได้สวมมงกุฎ Miss Supranational

ซึ่ง ‘แอนโทเนีย โพซิ้ว’ เคยให้สัมภาษณ์ว่า การมาประกวด MUT 2023 ในครั้งนี้ เธอยืนยันว่าไม่มีการล็อกมง เริ่มทุกอย่างจากศูนย์ และแบกรับความคาดหวังเอาไว้มากมาย แต่ก็มาด้วยความพร้อมเต็มเปี่ยม

‘เต้น ณัฐวุฒิ’ ประกาศยุติบทบาท ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย หลัง ‘เพื่อไทย’ ดึงพรรค 2 ลุงร่วมจัดตั้งรัฐบาล

(21 ส.ค. 66) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์รายการ ‘คุยนอกจอ’ ของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา หลังจากโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ตอนหนึ่งระบุ ว่า “ข้าพเจ้าเพียงรอเวลา และเวลาของข้าพเจ้า มาถึงแล้ว”

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ตนยุติบทบาทผู้อำนวยการครัวเพื่อไทย (พท.) เรื่องนี้ได้บอกกับผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรค ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม เมื่อสถานการณ์อาจจะมีแนวโน้มว่าจะมีการจับมือกับพรรคการเมืองบางพรรค ที่จะมาจัดตั้งรัฐบาล ด้วยความเข้าใจ พท. ไม่ได้โกรธเคือง ไม่ได้มีอะไรขัดข้องหมองใจกัน ตนได้บอกผู้หลักผู้ใหญ่ภายในวันนั้นว่า ถ้ามันถึงจุดนั้น ตนก็คงจะอยู่ในพรรคไม่ได้ แล้วเหตุการณ์ก็เดินมาเรื่อย ๆ จนถึงวันที่ 12 สิงหาคม ตนได้ติดต่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรค พท. ว่าจะอยู่ในพรรค หรืออยู่ในกระบวนการของรัฐบาลไม่ได้ นอกจากนี้ ได้บอก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย บอกผู้หลักผู้ใหญ่ บอกทุกคนในพรรค

“ผมได้โทรเรียนท่านนายกฯ ทักษิณ (ชินวัตร) ด้วย เพราะว่าท่านเป็นคนที่ผมเคารพนับถือ และท่านเป็นคนที่ก่อตั้งพรรคการเมืองนี้ พร้อมกับเรียนนายกฯ ยิ่งลักษณ์ (ชินวัตร) ด้วย ก็บอกทุกคนไว้ตั้งแต่หลายวันก่อน เพียงแต่ผมรอเวลาให้พรรคการเมืองที่ผมรัก ให้บุคคลการเมืองที่ผมรัก เดินมาอยู่ในจุดที่เป็นสถานการณ์ที่ไม่ได้กำลังยากลำบากนัก อย่างน้อยที่สุด กำลังเดินไปสู่การโหวตนายกรัฐมนตรี ซึ่งผมได้ถามคนสำคัญในพรรค ก็ได้รับการยืนยันว่านายเศรษฐาผ่านการโหวตเป็นนายกฯ แน่ ๆ นายเศรษฐาปลอดภัยแล้ว ผมไม่เคยเดินออกมาจากใครในวันที่เขาลำบาก รอจนกว่าทุกอย่างเดินไปข้างหน้า ผมจึงมาส่งตรงนี้” นายณัฐวุฒิกล่าว

นายสรยุทธถามว่า ไม่ใช่ละครใช่หรือไม่ ทำทีจากไป แต่จริง ๆ ก็ยังอยู่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า “ครับ ผมเป็นผมครับ นักเลงเขาไม่ทำกันแบบนั้น”

นายสรยุทธถามอีกว่า ตัดขาด? นายณัฐวุฒิกล่าวว่า “อย่าใช้คำนั้น ใช้คำว่ายุติบทบาท แล้วไม่ร่วมกิจกรรมกับพรรค และรัฐบาล และไม่ได้เกี่ยวข้องแล้ว”

นายสรยุทธถามว่า เป็นผลจาก พท. ตั้งรัฐบาล โดยร่วม 2 ลุง นายณัฐวุฒิกล่าวว่า “ครับ เหตุผลนั้น เป็นเหตุผลสำคัญ ผมไม่ได้ปฏิปักษ์ส่วนตัวกับนักการเมืองคนไหนใน 2 พรรคนั้นนะ แม้ว่าจะยืนคนละข้างทางการเมือง ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นศัตรู เข้าใจ และเห็นใจ พท. อย่างยิ่งสำหรับสถานการณ์ที่มันเป็น เพียงแต่ว่าวิถีการเมืองแบบผม เมื่อได้ประกาศประชาชน และแสดงจุดยืนเช่นนั้นมาตลอด ผมต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่ได้ยืนยันมา”

“การตัดสินใจยุติบทบาทของผม มันก็เป็นเรื่องมีรอยในใจ ที่นี่เป็นบ้านผม ผมเกิดที่นี่ ผมโตที่นี่ ผมสู้ที่นี่ แล้วคนในบ้านที่น้องผมนั้น แต่ว่าถึงเวลามันต้องตัดสินใจ” นายณัฐวุฒิกล่าว

นายสรยุทธถามอีกว่า ตัดสินใจยากหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า “ยาก ไม่ได้ยากที่ห่วงยศศักดิ์ ตำแหน่ง ไม่ได้มีอยู่แล้ว ตอนผมเข้ามาทำหน้าที่ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย พรรคพวกเพื่อนฝูง บอกว่าให้เอาเมีย หาญาติพี่น้องไปลงบัญชีรายชื่อ ในลำดับที่ปลอดภัย ผมบอกว่าไม่ใช่ผม ผมเป็นนักการเมือง แต่เมีย ลูก และญาติพี่น้องผมไม่ใช่ ก็ไม่มี จะตั้งรัฐบาล ไม่ต่อรองเรียกร้องอะไรให้ตัวเองก็ไม่มี เดินออกมามือเปล่า”

“ความยากที่เดินออกมา คือความผูกพัน ความรัก ความปรารถนาดี มันยาก แต่ถึงเวลาต้องตัดสินใจ ผมไม่มีทางที่ผมจะทำให้พรรคนี้เกิดความเสียหาย ไม่มีทางที่ออกมาแล้วเขวี้ยงก้อนหินใส่หลังคาบ้าน ไม่มี”

นายสรยุทธถามว่า ทั้งที่ไม่เห็นด้วย แล้วทำไมไม่ต่อว่า นายณัฐวุฒิกล่าวว่า “ไม่เห็นด้วย แต่อย่าทำเลย คนต่อว่า พท. เยอะแล้ว อย่าให้มันออกจากปากนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อเลย มันไม่ใช่ผม”

‘นายกฯ ญี่ปุ่น’ ถูกวิจารณ์ยับ หลังส่งเงินช่วยไฟป่าฮาวายอย่างไว แต่ภัยพิบัติประเทศตัวเองกลับเคลื่อนไหวล่าช้าเหลือเกิน

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศว่าจะจัดส่งเงินช่วยเหลือ 2 ล้านดอลลาร์สำหรับภัยพิบัติไฟป่าในรัฐฮาวาย ในขณะที่เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในประเทศว่า ความเคลื่อนไหวนี้ช่างแตกต่างจากการตอบสนองต่อภัยพิบัติธรรมชาติในญี่ปุ่นเหลือเกิน

นับตั้งแต่เกิดไฟป่าในเกาะเมาอีของฮาวายเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม จนถึงตอนนี้มีผู้เสียชีวิตรวมแล้ว 100 ราย แต่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยยังคงปฏิบัติงานค้นหาต่อไป หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศว่า พวกเขาได้รับคำขอความช่วยเหลือจากทางสหรัฐฯ และพวกเขาจะส่งเงินช่วยเหลือประมาณ 290 ล้านเยน

ในวันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม มีรายงานข่าวว่า นายกรัฐมนตรี ฟูมิโอะ คิชิดะ จะแสดงความเสียใจในที่ประชุมซัมมิตญี่ปุ่น-สหรัฐฯ ด้วยตนเอง ถึงแม้จะมีเสียงชื่นชมถึงความรวดเร็วในการตอบสนอง แต่ก็มีเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ในญี่ปุ่นเช่นกัน

โดยในตอนนี้ ญี่ปุ่นเองมีรายงานความเสียหายและผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นหมายเลข 7 ออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่มีรายงานเช่นกันว่า คิชิดะกำลังมีแผนไปตีกอล์ฟที่ฮาวาย ความกังวลนี้ถูกพูดถึงแม้กระทั่งภายในพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือแอลดีพีเอง

เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม จังหวัดคิวชูรายงานฝนตกหนัก แต่นายกรัฐมนตรีคิชิดะใช้เวลากว่าสัปดาห์กว่าจะไปเยี่ยมพื้นที่ภัยพิบัติ โดยในตอนนั้นมีรายงานว่า เขาอยู่ระหว่างการเยือน 3 ประเทศในตะวันออกกลาง และใช้เวลาทั้งวันอยู่ในที่พักรับรอง

ถึงแม้ว่าจะถูกวิจารณ์ในเรื่องการเลือกปฏิบัติเช่นนี้ แต่จนถึงตอนนี้รัฐบาลคิชิดะยังคงไม่มีความแน่ชัดในเรื่องการช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัย ยิ่งก่อให้เกิดความไม่พอใจในโซเชียลมากขึ้นไปอีก

โดยความคิดเห็นหนึ่งระบุว่า "ทำไมช่วยเหลือประเทศอื่นเร็วจัง แต่ประเทศตัวเองกลับช้าเป็นเต่าคลาน" และอีกความคิดเห็น ระบุว่า "ฉันรู้ว่าไฟป่าฮาวายมันรุนแรง แต่ 2 ล้านดอลลาร์เลยหรอ 

‘หมอธีระวัฒน์’ ชี้ สูงวัย 80 ขึ้น แค่ทำตัวกระฉับกระเฉง มีดนตรีในหัวใจ  ช่วยลดอายุสมองไปหลายสิบปี ความจำเป็นเลิศเหมือนอายุเพียงแค่ 50

(21 ส.ค. 66) นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง คนอายุตั้งแต่ 80 ขึ้นไป และพบว่าสมองยังอยู่อย่างดี ความจำเลิศเหมือนอายุเพียงแค่ 50 มีเนื้อหาว่า

คนอายุตั้งแต่ 80 ขึ้นไป และพบว่าสมองยังอยู่อย่างดี ความจำเลิศเหมือนอายุเพียงแค่ 50 (ลดอายุสมองไปอีก 30 ปี) พบว่า

1.) มีการเคลื่อนไหวร่างกายตลอดเวลาสม่ำเสมอ (ไม่ได้หมายความว่าต้องออกกำลังกายเป็นบ้าเป็นหลัง) ทำกิจกรรมกาย ทำสวน รดน้ำต้นไม้ เดิน ไปนู่นนี่

2.) มีสุขภาพจิตดีเยี่ยมไม่หมกมุ่นอยู่กับความกังวล หดหู่ ซึมเศร้า แม้จะอยู่คนเดียว เพราะคู่ชีวิตเสียไปแล้วหรือหย่า มิสนใจใครว่าร้าย
*เพราะคนคิดไม่ดีต่อคนอื่น กลับขึ้งเคียดเอง เพราะคนไม่สนใจ กลับเต็มไปด้วยความร้อนบาปกลับเข้าตัวเอง สมองเลยจะเสื่อมเอง (หลักพุทธศาสนา)

3.) มีการเล่นเครื่องดนตรีไม่ว่าจะเป็นสมัครเล่นหรืออาชีพก็ตาม ตั้งแต่วัยกลางคน เรื่อยมาตลอด

*เล่นเก่งไม่เก่ง ไม่ได้ระบุ ขอให้มีความสุข หมอเองเลยหัดเล่น งู ๆ ปลา ๆ ขอให้ได้เล่น ทั้งนี้ ไม่ขึ้นอยู่กับเศรษฐานะ ระดับความสูงส่งทางการศึกษา แม้กระทั่งโรคประจำกาย

มนุษย์สูงวัยสมองใสเหล่านี้เรียกว่า ‘superagers’ โดยที่มีการฝ่อเหี่ยว ของสมองกลีบขมับทางด้านในที่เกี่ยวข้องกับความจำ (medial temporal) และใจกลางสมอง (thalamus) ที่เกี่ยวข้องกับความกระฉับกระเฉงการเคลื่อนไหวไม่ทอดหุ่ยเนือยนิ่ง รวมทั้งเปลือกผิวสมองในตำแหน่งต่าง ๆ ไม่ฝ่อลงไปเร็ว

สรุปว่า ใจใส กระฉับกระเฉง มีดนตรีในหัวใจ และสำคัญการให้เท่าที่ทำได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นเงินทองคือความสุข

‘ก้อย รัชวิน’ จับมือให้กำลังใจสามี ‘ตูน’ หลังผ่าตัด สัญญาจะอยู่เคียงข้างเสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

(21 ส.ค. 66) ล่าสุด ‘ก้อย รัชวิน’ ภรรยาของ ‘ตูน บอดี้สแลม’ ได้ออกมาโพสต์ภาพตูนที่สวมชุดคนไข้ที่โรงพยาบาลและกำลังเล่นกีต้าร์ รวมถึงมีภาพจับมือกันของทั้งคู่ ลงในอินสตาแกรมส่วนตัว @rachwinwong พร้อมกับระบุแคปชันว่า

“กว่าจะมาถึงวันนี้ เราผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะมาก ๆ และครั้งนี้ก็จะเป็นอีกครั้ง ที่เราจะจับมือแล้วผ่านมันไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แม่อยู่ข้าง ๆ พ่อเสมอนะ…Together…Forever

ปล. ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้พ่อ ๆ นะคะ ทุกอย่างราบรื่นดี คุณหมอเก่งมาก ๆ ตอนนี้พ่อ ๆกำลังพักฟื้นเพื่อให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม เตรียมต้อนรับเบบี๋ในท้องที่กำลังจะออกมาเจอกันอีก 4 เดือนข้างหน้า เป็นกำลังใจให้พ่อ ๆ ด้วยนะคะ” ท่ามกลางแฟนคลับและเหล่าศิลปินที่เข้ามาส่งกำลังใจกันมากมาย

'ต้มยำกุ้ง' เจิดจรัส!! งานแสดงสินค้าจีน-เอเชียใต้ ที่คุนหมิง หลังลูกค้าสอบถามถึงเครื่องปรุง 'ต้มยำกุ้ง' กันมากที่สุด

(20 ส.ค. 66) สำนักข่าวซินหัว เผย ณ พาวิลเลียนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนหนึ่งของงานแสดงสินค้าจีน-เอเชียใต้ ครั้งที่ 7 ในนครคุนหมิง มณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน 'จ้าวปิน' สาละวนอยู่กับการแนะนำสารพัดสินค้าเครื่องปรุงอาหารไทยแก่ลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย โดยบรรดาลูกค้าสอบถามถึงเครื่องปรุง 'ต้มยำกุ้ง' กันมากที่สุด

กลุ่มผู้จัดแสดงสินค้าที่ 'พาวิลเลียนไทย' ส่วนย่อยของพาวิลเลียนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พากันนำเสนอเครื่องปรุงต้มยำกุ้ง เพื่อช่วยให้คนรักอาหารไทยได้ลองลิ้มชิมรสชาติต้นตำรับได้ที่บ้าน โดยจ้าวเผยว่าเครื่องปรุงที่นำมาจำหน่ายผลิตในไทย และเขาเตรียมสินค้าสำหรับงานแสดงสินค้าฯ ในปีนี้มากถึง 18 ตัน

จ้าว ผู้บริหารบริษัท การค้านำเข้าและส่งออก บริษัท คุนหมิง สุวรรณภูมิ จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจหลักเกี่ยวกับอาหารไทย เครื่องปรุง เครื่องดื่ม และอื่นๆ เผยว่าแต่ละปีบริษัทของเขาจัดจำหน่ายเครื่องปรุงอาหารไทยเมนูต่างๆ สู่มณฑลอวิ๋นหนาน กุ้ยโจว และซื่อชวน (เสฉวน) คิดเป็นปริมาณมากกว่า 20 ตัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครื่องปรุงต้มยำกุ้ง

จ้าว เริ่มต้นทำธุรกิจนำเข้าสินค้าไทยตั้งแต่ปี 2009 โดยตอนนั้นสินค้าไทยเป็นที่ยอมรับในระดับทั่วไป ยอดจำหน่ายไม่ได้หวือหวา รายการสินค้าไม่ได้มากมาย มีเพียงขนมขบเคี้ยว สบู่หอม หรือเครื่องเทศ สวนทางกับตอนนี้ที่อาหารไทยและสินค้าไทยเป็นที่ยอมรับอย่างมากในจีน ทำให้มีสินค้าให้เลือกหลากหลายและยอดจำหน่ายเฟื่องฟู

อนึ่ง งานแสดงสินค้าจีน-เอเชียใต้ ครั้งที่ 7 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวและการประสานงานเพื่อการพัฒนาร่วมกัน" ระหว่างวันที่ 16-20 ส.ค. มีผู้เข้าร่วมจัดแสดงสินค้าทางออนไลน์และออฟไลน์จากกว่า 85 ประเทศและภูมิภาค รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศ จำนวนกว่า 30,000 ราย

สำหรับพาวิลเลียนไทยมีผู้ประกอบการเข้าร่วมจัดแสดงสินค้า 58 ราย แบ่งเป็นผู้ประกอบการไทย 38 ราย และผู้นำเข้า-จัดจำหน่ายสินค้าไทย 20 ราย ซึ่งนำเสนอสินค้าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม เสื้อผ้าและเครื่องประดับ ของตกแต่งบ้าน ฯลฯ

รายงานระบุว่าเครื่องปรุงต้มยำกุ้งทุกรูปแบบกลายเป็นสินค้าที่มียอดจำหน่ายดีที่สุดในพาวิลเลียนไทย ดังเช่นชายแซ่หยางจากนครเฉิงตู เมืองเอกของมณฑลซื่อชวน ซื้อเครื่องปรุงต้มยำกุ้งกระปุกใหญ่กลับบ้านถึง 3 กระปุก ขณะเดียวกันสินค้าอย่างเครื่องปรุงผัดไทและน้ำจิ้มสุกี้แบบไทยได้รับความสนใจจากลูกค้าเช่นกัน

อาหารไทยชื่อดังระดับโลกอย่างต้มยำกุ้งได้ส่งกลิ่นหอมขจรขจายทั่วงานแสดงสินค้าครั้งนี้ ตอกย้ำวัฒนธรรมอันมีเอกลักษณ์และมนต์เสน่ห์ของอาหารไทย โดยสถิติจากเหม่ยถวนและเตี่ยนผิงระบุว่าช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-กรกฎาคม) จำนวนร้านอาหารเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บนแพลตฟอร์มในจีนเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 64 เมื่อเทียบกับปี 2019

นครคุนหมิงมีร้านอาหารเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้น 98 แห่งในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ขณะผู้ใช้งานแพลตฟอร์ม เตี่ยนผิงในคุนหมิงค้นหาคำว่า "อาหารไทย" เพิ่มขึ้นร้อยละ 102 เมื่อเทียบปีต่อปี โดยเฉพาะความต้องการของคนอายุต่ำกว่า 30 ปี ที่ครองสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 53 ของการค้นหาทั้งหมด

นอกจากนั้นความนิยมชมชอบต้มยำกุ้งยังก่อให้เกิดกระแสอาหารคาวหวานหลายเมนูที่มีรสชาติต้มยำกุ้งในจีน เช่น หม้อไฟต้มยำกุ้ง ซุปหม่าล่าต้มยำกุ้ง ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง รวมถึงความสนใจเมนูอื่นๆ อย่างข้าวเหนียวมะม่วง ปลานึ่งมะนาว และต้มเล้งแซ่บอีกด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top