Sunday, 27 April 2025
TheStatesTimes

ประเทศที่เลือกที่จะไม่ปิดล็อคดาวน์ประเทศอย่างเข้มงวด อย่างประเทศสวีเดน มีข้อมูลว่าอยู่ในมีการปล่อยให้ผู้ติดเชื้อสูงอายุเสียชีวิตโดยไม่มีการเข้ารับการรักษาเลย

คุณจูเลียน่า ได้แสดงภาพถ่ายคุณอาของเธอที่ถ่ายก่อนที่จะเสียชีวิตไปด้วยโรคโควิด "ถ้าคุณอาได้รับการรักษาที่ถูกต้อง น่าจะยังโอกาสที่่จะมีชีวิตอยู่ต่อ" คุณจูเลียน่าให้สัมภาษณ์กับนักข่าว TBS

หลังจากที่ตรวจพบการติดเชื้อ คุณอาของคุณจูเลียน่า "คุณโมเสส" อายุ 72 ปี ได้ถูกส่งตัวไปสถานที่พักคนชรา ในเดือนเมษายนปีนี้ และได้เสียชีวิตหลังจากนับจากตรวจพบการติดเชื้อโควิดเพียง 4 วัน

"คุณหมอบอกว่า ผู้ติดเชื้อที่เป็นผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว ทางโรงพยาบาลจะไม่ทำการรักษา" เป็นคำตอบจากคุณหมอที่ให้เธอ หลังจากคุณอาของเธอเสียชีวิต เธอถึงกับเสียใจร้องไห้จนนอนไม่หลับในวันนั้น และคิดขึ้นได้ว่า "นี่ไม่ใช่เพราะโควิด" ที่ทำให้คุณอาของเธอต้องจากไป

"นี่คือวิธีรับมือที่เหมาะสมต่อสถานการณ์ที่มีโอกาสเป็นต่อไปเรื่อย ๆ" คนของรัฐบาลสวีเดนแถลงการ โดยการรับมือแบบนี้ ได้รับการสนับสนุนจากประชากรถึง 70%

"รัฐบาลอื่นในยุโรปใช้วิธีไม่ถูกต้อง วิธีของสวีเดนแน่นอนว่ามีความเสี่ยง แต่การล็อคดาวน์นั้น ทำให้เศรษฐกิจโลกมีปัญหาไม่ใช่หรือ" ประชาชนในเมืองสต็อกโฮมกล่าว

แต่จำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 7,300 คนนั้น มีเกือบถึง 90% เป็นผู้สูงอายุ และสถานที่พักคนชราก็ไม่มีมาตรการรับมือต่อการติดโรคอย่างถูกวิธี ซึ่งดร.เทคเนลผู้ที่เป็นคนดูแลนโยบายการรับมือต่อโรคโควิทก็ยอมรับกับความจริงนี้

คุณจูเลียน่ายังให้ข้อมูลอีกว่า ก่อนที่คุณอาของเธอจะเสียชีวิต เธอได้ใช้โทรศัพท์แบบเห็นหน้าเพื่อดูสภาพของคุณอาของเธอ พบว่ามาตรการรับมือของสถานที่พักคนชรานั้นหละหลวมมาก

"เจ้าหน้าที่ไม่มีการใช้หน้ากากหรือถุงมือใด ๆ สัมผัสกับผู้ป่วยเลย"

นอกจากนี้แล้ว ทางด้านสถานที่พักคนชรายังเปลี่ยนการรักษา เป็นการบรรเทาอาการด้วยมอร์ฟีนโดยไม่มีการปรึกษาครอบครัวของเธอด้วย

"สถานที่พักคนชราใช้วิธีรักษาแบบบรรเทาอาการอย่างไม่มีเหตุผล ทำให้ฉันมั่นใจว่าคุณอาเป็นเพียงเครื่องสังเวยเท่านั้น" คุณจูเลียน่ากล่าว

ไม่ใช่แค่กรณีของคุณโมเสสเท่านั้น "สถานที่พักคนชราไม่มีการตรวจสภาพของผู้ป่วยอย่างถี่ถ้วน และให้การรักษาแบบบรรเทาอาการโดยไม่แจ้งทางครอบครัวให้รับทราบ มีให้เห็นหลายเคส" ศจ.ยินเวย์ กุฟสตาฟซอน หมอผู้เชี่ยวชาญด้านคนชรากล่าว

การที่คุณจูเลียน่าออกมาสัมภาษณ์เช่นนี้ต้องการให้ทุกคนได้รับรู้ว่าผู้สูงอายุของสวีเดนกำลังถูกทอดทิ้ง

"สิ่งที่ทำให้รู้สึกโกรธที่สุดคือทางรัฐบาลรับทราบเรื่องนี้อยู่เต็มอก แต่ยังคงให้ผู้สูงอายุเป็นเหยื่อสังเวยอยู่" ไม่ใช่แค่คุณอาของฉันเท่านั้น ยังมีผู้สูงอายุคนอื่นๆ ที่ประสบเหตุเหมือนกันอีกมากมาย" คุณจูเลียน่าทิ้งท้าย


บทความข่าว : https://news.tbs.co.jp/newseye/tbs_newseye4150148.htm?1608044107001

ศาลอาญาในกรุงโตเกียวได้ตัดสินพิพากษาประหารชีวิตนาย ทาคาฮิโระ ชิราอิชิ หนุ่มวัย 30 ปี ชาวเมืองซามะ ชานกรุงโตเกียว ในข้อหาฆาตกรรมเหยื่อถึง 9 คนภายในช่วงเวลาเพียง 3 เดือน

ศาลอาญาในกรุงโตเกียวได้ตัดสินพิพากษาประหารชีวิตนาย ทาคาฮิโระ ชิราอิชิ หนุ่มวัย 30 ปี ชาวเมืองซามะ ชานกรุงโตเกียว ในข้อหาฆาตกรรมเหยื่อถึง 9 คนภายในช่วงเวลาเพียง 3 เดือน ตั้งแต่สิงหาคม – ตุลาคม 2017 โดยการวางยา ชิงทรัพย์ ข่มขืน แล้วจัดการสังหารเหยื่อด้วยการรัดคอ และหั่นศพเก็บเอาไว้ภายในห้องพักของเขาเอง

คดีนี้ได้รับความสนใจจากชาวญี่ปุ่นอย่างมาก บางส่วนพร้อมใจเดินทางมาเพื่อร่วมฟังคำพิพากษาเป็นจำนวนมากกว่า 400 คนในขณะที่ห้องรับฟังคำพิพากษามีเพียง 16 ที่นั่งเท่านั้น และคดีนี้นับเป็นหนึ่งในคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่สยองขวัญที่สุดครั้งหนึ่งของญี่ปุ่น

ต้นเรื่องของคดีฆาตกรรมนี้ ก็มีเบื้องหลังที่เขย่าศีลธรรมสังคมญี่ปุ่นไม่น้อย เนื่องจากนายชิราอิชิ ฆาตกร มีวิธีหาเหยื่อง่ายๆ โดยการใช้ทวิตเตอร์ที่พูดคุยเกี่ยวกับการฆ่าตัวตาย โดยเขาจะเลือกเหยื่อที่หมายตาเป็นหญิงสาว ในช่วงอายุตั้งแต่ 15 – 26 ปี ที่มีปัญหาคับข้องใจ และเลือกที่จะหาทางออกด้วยการฆ่าตัวตาย

หลังจากที่คุยกันผ่านทวิตเตอร์ได้สักพัก เขาก็จะล่อหลอกให้เหยื่อมาพบที่บ้าน โดยอ้างว่าเขาจะช่วยให้เหยื่อสามารถหลุดพ้นจากโลกนี้ไปได้อย่างสงบสุข และบางครั้งยังหลอกว่า ตัวเขายินดีจะฆ่าตัวตายตามไปด้วยกันในภายหลังอีกด้วย

และในช่วงเวลา 3 เดือนที่นายชิราอิชิเปิดทวิตเตอร์คุยเรื่องฆ่าตัวตาย เขาได้ลวงหญิงสาวมาสังหารถึง 8 คน ที่ล้วนแต่เป็นเด็กสาววัยรุ่น วัยมหาวิทยาลัยแทบทั้งสิ้น มีเพียงรายที่ 9 เท่านั้นที่เป็นชายหนุ่ม ซึ่งเป็นพี่ชายของเหยื่อ 1 รายของนายชิราอิชิ ที่ได้ตามรอยน้องสาวที่หายตัวไปจากข้อความในทวิตเตอร์ จนมาถึงบ้านของชิราอิชิ เลยถูกสังหารเพื่อปิดปาก

แต่แล้วตำรวจก็ได้ตามรอยทวิตเตอร์มาจนเจอบ้านของนายชิราอิชิ เช่นเดียวกัน และได้ขอตรวจค้นบ้านของชิราอิชิที่เป็นเพียงอพาร์ตเม้นท์เล็ก ๆ พื้นที่เพียง 13.5 ตารางเมตร และก็พบหลักฐานอันน่าตกใจ เป็นศีรษะมนุษย์ในตู้แช่ 9 หัว และโครงกระดูกกว่า 240 ชิ้นในกล่องแช่เย็น ทั้ง ๆที่เจ้าตัวก็ยังนอนอยู่ในห้องพักตามปกติ

เมื่อหลักฐานถูกเปิดเผย สร้างความตื่นตะลึงให้กับชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก และได้เรียกชื่อสถานที่เกิดเหตุเป็น "บ้านพักสยองขวัญแห่งเมืองซามะ"

หลังจากที่มีการไต่สวน นายชิราอิชิ รับสารภาพในทุกคดีที่เขาก่อไว้ และเล่าว่าแรงจูงใจทั้งหมดเริ่มต้นจากความต้องการเงิน เหยื่อรายแรกเป็นสาววัย 23 ปี ที่เขาเพียงต้องการมอมยา ข่มขืน และรีดไถ่เงินก้อนโตจากเหยื่อ แต่ต่อมาหญิงสาวกลับมาทวงเงินเขาพร้อมขู่ที่จะแจ้งตำรวจข้อหากรรโชกทรัพย์ ทำให้เขาตัดสินใจฆ่าเธอทิ้ง และหั่นศพในห้องน้ำ โดยการแยกชิ้นส่วน เนื้อหนัง เครื่องใน แล้วทิ้งลงในถุงขยะให้เทศบาลมาเก็บไป ส่วนศีรษะ และโครงกระดูกเขาจำเป็นต้องเก็บเอาไปเพื่ออำพรางคดีไม่ให้ถูกจับได้ และเขาก็ใช้วิธีเดียวกันนี้กับเหยื่อทั้งหมด จนกระทั่งถูกจับตัวได้ในที่สุด

หลังจากที่รวบรวมหลักฐาน และพิจารณาคดีมานานกว่า 3 ปี ศาลอาญาเมืองโตเกียวได้ตัดสินประหารชีวิตนายทาคาฮิโระ ชิราอิชิ ด้วยการแขวนคอ ซึ่งนายชิราอิชิก็เหมือนจะรู้ชะตากรรมของตัวเอง และยอมรับโทษทัณฑ์สูงสุดโดยไม่ขอสู้คดีต่อ

และจากคดีของนายชิราอิชิ ทำให้สังคมญี่ปุ่นวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักว่า ควรที่จะปล่อยให้มีการพูดคุยเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายกันอย่างเปิดเผยในโลกโซเชียล หรือเว็บบอร์ดสาธารณะอีกหรือไม่

ญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีอัตราการฆ่าตัวตายสูง เมื่อหลายปีก่อน กลุ่มคนที่ฆ่าตัวตายในญี่ปุ่นมักเป็นผู้สูงอายุที่มีปัญหาสุขภาพ และการเงิน ไม่อยากเป็นภาระของลูกหลาน

แต่ปัจจุบัน อัตราการฆ่าตัวตายในวัยหนุ่มสาวกลับเพิ่มสูงขึ้น ด้วยสภาพสังคมที่มีความกดดันสูง เศรษฐกิจตกต่ำ และความโดดเดี่ยวที่เป็นเหตุผลที่หนุ่ม สาวชาวญี่ปุ่นจำนวนมากเลือกที่จะจบชีวิตก่อนเวลาอันควร ทั้ง ๆ ที่เป็นช่วงวัยสำคัญ ที่จะเป็นกำลังของชาติ

อีกทั้งสังคมโซเชียลที่เปิดกว้าง ในการพูดคุยกันในเรื่องการฆ่าตัวตายที่ทำให้อาชญากรสบช่องทางในการก่อคดีกับผู้ที่สิ้นหวังในชีวิตอย่างเช่นคดีนี้ ที่ทำให้สังคมญี่ปุ่นต้องกลับมาคิดทบทวนวิธีการที่จะแก้ปัญหาเยียวยาคนในครอบครัวอย่างไร เพื่อที่จะไม่เกิดเหตุเศร้าเช่นนี้


แหล่งข่าว

https://www.straitstimes.com/asia/east-asia/japan-serial-killer-who-baited-suicidal-people-using-twitter-sentenced-to-death

https://www.bbc.com/news/world-asia-55313161

https://english.kyodonews.net/news/2020/12/f319bac1961f-urgent-japans-twitter-killer-sentenced-to-death-over-2017-serial-murders.html

กรุงย่างกุ้ง สหภาพเมียนมา คือเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงประเทศมานานแสนนานหลายชั่วอายุคน ในอดีตกรุงย่างกุ้งคือศุนย์กลางที่คนในภูมิภาคต้องไปหาหมอเนื่องจากเป็นศูนย์การแพทย์ที่ทันสมัยที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ย่างกุ้งคือศูนย์กลางความเจริญในภูมิภาคในหลายด้าน แม่น้ำย่างกุ้ง แม่น้ำ Hlaing โอบล้อมนครย่างกุ้งแห่งนี้และมีท่าเรือสำคัญที่เป็นจุดเชื่อมต่อไปถึงยุโรป เช่นสกอตแลนด์ หรือ อัมสเตอร์ดัมส์ของเนเธอร์แลนด์ ทำให้ความเจริญของย่างกุ้งเมื่อ 60 ปีก่อนมีสูงมาก

ท่านผู้อ่านไม่ต้องสงสัยกันนะครับว่ายาหม่อง ก็กำเนิดจากเมียนมานี่แหละ ถึงได้เรียกขานว่ายาหม่องกัน โดยมีจุดเริ่มต้นจาก Tiger Hill ที่ผลิตยาหม่องตราเสือมาให้เราได้ใช้กันมานาน ถามว่า Tiger Hill อยู่ที่ไหน คำตอบก็คือตรงบริเวนห้องอาหารของโรงแรม Chatrium ในนครย่างกุ้งนี่หละครับ

ในยุคสมัยของท่านลีกวนยู อดีตผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของสิงคโปร์ ซึ่งถูกมาเลเซียเตะออกมาตั้งประเทศก็ใช้ตัวอย่างการสร้างชาติจากการมาดูเมียนมาหรือพม่าในสมัยนั้นหละครับ เพื่อเป็นต้นแบบในการสร้างบ้านแปลงเมือง ยุคสมัยนี้กลับกันครับ รัฐบาลเมียนมาต้องวิ่งกลับไปดูต้นแบบของสิงคโปร์ซะแล้ว และสิงคโปร์ก็ร่างพิมพ์เขียวให้เมียนมาได้ใช้เป็นแบบแผนต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรม

จุดพลุเรียกน้ำย่อยกันไว้อย่างนี้หละครับ แล้วค่อยกลับมาดูกันในตอนหน้าว่า ปี 2020 เกิดอะไรบ้างในเมียนมา และอะไรจะเป็นภาพสำหรับปี 2021 ให้เราได้ติดตามกันต่อไป เจซูทินบาเด ขอบคุณที่ติดตามนะครับ อยากฟังเรื่องใดในอาเซียน แจ้งกันเข้ามานะครับ


จิรวัฒน์

ผู้บุกเบิกการตลาด อินโดจีน พม่า อาเซียนให้บริษัทยักษ์ใหญ่ ตั้งแต่ยุคที่อาเซียนยังไม่ได้รวมตัวกัน เอาประสบการณ์ตรงมาเล่าแบ่งปัน ในวันที่โควิด - 19 ล็อคประตูเพื่อนบ้าน เรายิ่งต้องทำงานหนักมากขึ้น

กระทรวงพาณิชย์ มอบของขวัญส่งท้ายปี ด้วยการเปิดเข้าศูนย์บริการ-ให้คำปรึกษา อัญมณีฟรี!! เอาใจคนรักเครื่องประดับตัวจริง!!

วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ส่งความสุขส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ มอบสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT โดยเปิดให้บริการให้ ‘คำปรึกษา’ และ ‘ตรวจสอบ’ อัญมณี-เครื่องประดับเบื้องต้น (Verbal) โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

พร้อมทั้งเอาใจผู้รักอัญมณีด้วยการเปิดให้เข้าใช้บริการศูนย์การเรียนรู้ด้วยตนเองของสถาบันฟรี ทั้ง ห้องสมุดอัญมณีและเครื่องประดับ พิพิธภัณฑ์อัญมณีและเครื่องประดับ ตั้งแต่วันนี้ - 15 มกราคม 2564 ณ อาคารไอทีเอฟ ทาวเวอร์ ถนนสีลม สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม สอบถาม 02 - 634 - 4999 ต่อ 635 - 642

"อนุทิน ชาญวีรกูล" เผยไม่มีปัญหาหาที่นั่งคณะกรรมการสมานฉันท์ เพราะ "เป็นเรื่องของแต่ละพรรค" ยัน "พรรคภูมิใจไทย" ยังยึดหลัก "สามัคคี - ปรองดอง - ปกป้องสถาบัน"

อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจัดตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ ในส่วนของรัฐบาล โดยได้กล่าวว่า

"พรรคภูมิใจไทยไม่มีปัญหา เป็นเรื่องของแต่ละพรรคการเมือง สำหรับพรรคภูมิใจไทยเสนอชื่อ สรอรรถ กลิ่นประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย เป็นตัวแทนไปเข้าร่วม สำหรับตัวแทนของรัฐบาลนั้นยังไม่ได้มีการหารือ ส่วนจะเป็นใครนั้นเราไม่มีปัญหา เป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรค ขณะที่รายละเอียดเป็นเรื่องของรัฐสภา ซึ่งพรรคภูมิใจไทยมีคนทำงานในส่วนของสภาอยู่แล้ว

ทั้งนี้ รายชื่อที่ออกมา ส่วนใหญ่ตนเห็นด้วย เพราะเป็นคนกันเองทั้งนั้น กรณีที่มีข่าวว่า ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ไม่พอใจกับกระแสข่าวที่มีชื่อของ สุภรณ์ อัตถาวงศ์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรัฐบาลนั้น เรื่องนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีเลย จึงยังไม่ทราบ"

เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะทำให้การทำงานของคณะกรรมการสมานฉันท์สะดุดจนไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า "ในส่วนของผมไม่มีปัญหาแน่นอน เพราะผมต้องการสมานฉันท์อยู่แล้ว พรรคภูมิใจไทยเน้นการสมานฉันท์ เน้นความสามัคคีปรองดอง ปกป้องสถาบัน นี่คือแนวทางของพวกผม"

คงต้องยอมรับว่าโครงการคนละครึ่ง เฟส 2 ที่ปิดรับลงทะเบียนไปเรียบร้อยภายในเวลาร่วม 2 ชั่วโมง เมื่อ 16 ธันวาคม พ.ศ.2563 ที่ผ่านมา เป็นตัวการันตีว่าโครงการดังกล่าวเป็นนโยบายภาครัฐที่ได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ย่อมมีทั้งคนที่สมหวังและไม่สมหวังในการได้รับสิทธิ์ โดยเฉพาะผู้ไม่สมหวัง รวมถึงผู้ที่อาจจะตั้งเป้าโจมตีนโยบายดังกล่าวแบบไม่หยุดหย่อน ทั้ง ๆ ที่เชื่อได้ว่าเฟสต่อ ๆ ไปของโครงการนี้จะต้องตามติดออกมาอีกแน่นอน

ทั้งนี้จากเฟซบุ๊กส่วนตัว "Chao Jiranuntarat" หรือ สมคิด จิรานันตรัตน์ ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หนึ่งในทีมดูแลระบบการลงทะเบียนให้กับโครงการของรัฐบาลหลายโครงการ เช่น เราไม่ทิ้งกัน, วอลเล็ต สบม. รวมทั้งโครงการคนละครึ่ง ได้โพสต์ข้อความหนึ่งออกมาเตือนสติได้อย่างน่าสนใจว่า...

"ปุจฉา: "#คนละครึ่ง ควรเป็นสิทธิที่รัฐบาลให้ประชาชน ไม่ใช่ให้ประชาชนแย่งกันเหมือนขอทานจากรัฐบาล"

"วิสัชนา: สิทธิ์คนจน รัฐควรให้ทุกคนที่เข้าข่าย สวัสดิการของรัฐ รัฐควรให้ขั้นต่ำ แต่คนละครึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ร้านเล็กๆ ไม่ให้ ร้านใหญ่เข้าร่วม และทุกร้านที่เข้าร่วมไม่ได้จำกัดจำนวน แต่คนที่จะได้สิทธิ์คนละครึ่งก็มีงบประมาณจำกัด ต้องหาวิธีที่ต้องมีคนต้องการและได้สิทธิ์นั้น คนที่ได้สิทธิ์ทางอื่นอยู่แล้วก็ไม่ควรได้ การลงทะเบียนอาจไม่เป็นธรรมกับบางคน แต่ก็เป็นวิธีที่กระจายมากที่สุด มีคนทุกวัยทุกท้องที่กระจายกันอยู่ ในอนาคตเมื่อรัฐมีข้อมูลของประชาชนถูกต้องมากขึ้น ก็อาจมีวิธีการที่กระจายได้ดีกว่านี้ แต่การพูดว่าแย่งกันเหมือนขอทานจากรัฐบาลเป็นคำพูดที่เสียดแทงใจและเป็นการทำให้โครงการที่ได้ประโยชน์แบบนี้ถูกมองเป็นลบมากขึ้น"

"การลงทะเบียนที่ผ่านมามีปัญหาเรื่อง การส่ง SMS ซึ่งรู้ว่าเป็นข้อจำกัด ในอนาคตอาจไม่ต้องมี แต่การบอกว่า NET ไม่ดี เสียเปรียบ คนจนเสียเปรียบ ก็ต้องลองไปดูว่าคนลงทะเบียนได้เป็นคนประเภทไหนบ้าง คนรวยลงได้มากกว่าจริงหรือ การที่จะพัฒนาโครงการดีๆ แบบนี้ ไม่รั่วไหลให้นักการเมือง ไม่ใช่ว่าจะทำได้ง่าย ๆ ในบ้านเรา ไม่เข้าใจว่าคนที่คิดว่า แย่งกันเหมือนขอทานมีความคิดอย่างไร และหากงบรัฐมีจำกัด มีข้อเสนอแนะอย่างไรที่เป็นธรรมและกระจายได้มากที่สุด"

สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เตรียมเปิดเส้นทางบินใหม่ (ไป-กลับ) กรุงเทพฯ-แม่สอด (ตาก) ดีเดย์เริ่มเที่ยวแรกวันที่ 1 ก.พ.64 หลังเลื่อนจาก 1 ธ.ค.63 เหตุโควิดฝั่งพม่ายังระบาดหนัก

บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) หรือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส กำหนดวันเตรียมเปิดเส้นทางบินใหม่ (ไป - กลับ) กรุงเทพฯ - แม่สอด (ตาก) เริ่มวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 หลังจากกำหนดเดิมมีแผนเปิดบินในวันที่ 1 ธันวาคม 2363

เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรคติดเชื่อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ทางฝั่งประเทศเมียนมาร์ยังหนัก

โดยเส้นทางบินดังกล่าว จะให้บริการทุกวัน วันละ 3 เที่ยวบิน ด้วยเครื่องบินแบบเอทีอาร์ 72-600 และสามารถสำรองที่นั่งได้ตั้งแต่วันนี้

พร้อมย้ำว่า ทางสายการบินฯ ยังคงปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) อย่างเคร่งครัด

สำหรับตารางบินของเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพ-แม่สอด (ตาก) ดังนี้ เที่ยวบินที่ PG381 ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 07.50 น. ถึงสนามบินแม่สอด เวลา 09.20 น. , เที่ยวบินที่ PG382 ออกจากสนามบินแม่สอด เวลา 09.50 น.ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 11.25 น.

เที่ยวบินที่ PG383 ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 12.00 น. ถึงสนามบินแม่สอด เวลา 13.30 น., เที่ยวบินที่ PG384 ออกจากสนามบินแม่สอด เวลา 14.00 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 15.35 น., เที่ยวบินที่ PG385 ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 15.00 น. ถึงสนามบินแม่สอด เวลา 16.30 น. และเที่ยวบินที่ PG386 ออกจากสนามบินแม่สอด เวลา 17.00 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 18.35 น.

สำหรับอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ทางรัฐบาลกำหนดให้เป็น "เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ" ส่งผลให้แม่สอดจากเดิมเป็นแค่เมืองเล็ก ๆ ติดชายแดนประเทศเมียนมา กลายเป็นเมืองขนาดใหญ่ขึ้นมาทันที และปัจจุบันมีเพียงสายการบินนกแอร์ รายเดียวเท่านั้นที่มีเที่ยวบินให้บริการไปยังแม่สอด

อนุทิน ชาญวีรกูล ไฟเขียว "อีเว้นท์ปีใหม่" แต่ต้องขออนุญาตและปฏิบัติตามกฏ ขณะเดียวกันได้เผยในส่วนของสถานการณ์โควิด-19 ชายแดน โดยตอนนี้รัฐควบคุมสถานการณ์ได้ดี

จากกรณีคอนเสิร์ตที่ปากช่อง จ.นครราชสีมา ที่ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า ปีใหม่นี้จะยังสามารถจัดกิจกรรมปีใหม่ได้อยู่ไหม งานนี้ "อนุทิน ชาญวีรกูล" รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า

"ยังสามารถจัดได้ ซึ่งภาครัฐ มีมาตรการอยู่แล้ว ส่วนผู้จัดต้องมาขออนุญาต นำเสนอแผน เมื่อได้รับการอนุญาต เวลาจัดงาน ต้องทำตามแผน แต่ถ้าผิดจากนั้น ก็ต้องรับผิดชอบ หากภาครัฐสั่งยุติกิจกรรม ก็ต้องหยุด เพราะถ้ายังจัดต่อ แล้วเจ้าหน้าที่เพิกเฉย เจ้าหน้าที่จะมีความผิด"

"สำหรับประชาชน มั่นใจว่าทุกคนเรียนรู้มามาก รู้ว่าจะจัดการตัวเองอย่างไร เช่น สวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่างตามสมควร ก็ต้องปฏิบัติต่อไป"

"ส่วนสถานการณ์ตามชายแดน ตอนนี้ ดีขึ้นมาก กลุ่มที่มาจากท่าขี้เหล็ก ภาครัฐควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ผู้ติดเชื้อ ผู้มีความเสี่ยง ได้รับการรักษา ได้รับการกักตัว เข้าสู่กระบวนการควบคุมโรคแล้ว ขณะที่ฝ่ายความมั่นคง ก็เข้มแข็งในการปฏิบัติหน้าที่"

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขรายหนึ่งในรัฐอะแลสกา สหรัฐฯ ก่ออาการแพ้รุนแรง หลังเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค แต่ตอนนี้อาการทรงตัวแล้ว

หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานว่า บุคคลรายดังกล่าวเข้ารับการฉีดวัคซีนเมื่อวันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ.2563 และทาง ไฟเซอร์ ยืนยันว่า กำลังร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ในการสืบสวนกรณีดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในสหราชอาณาจักร 2 คน ก็เกิดอาการแพ้คล้ายๆ กัน เป็นเหตุให้ทางรัฐบาลต้องแจ้งเตือนกับประชาชน ให้หลีกเลี่ยงเข้ารับวัคซีน หากมีประวัติเกี่ยวกับอาการแพ้รุนแรง

คณะผู้ควบคุมกฎระเบียบของสหรัฐฯ อนุมัติใช้วัคซีนตัวดังกล่าวภายใต้คำเตือนว่า ประชาชนคนใดที่รู้ตัวว่ามีอาการแพ้ต่อส่วนผสมที่อยู่ในวัคซีน ไม่ควรเข้ารับการฉีดวัคซีน

"เรายังไม่มีข้อมูลครบทุกรายละเอียดเกี่ยวกับรายงานข่าวจากอะแลสกา ในเรื่องที่ว่าอาจมีอาการแพ้อย่างรุนแรงในคนไข้ แต่เรากำลังทำงานอย่างขมีขมันร่วมกับบรรดาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขท้องถิ่น เพื่อประเมินกรณีดังกล่าว" โฆษกของไฟเซอร์ระบุ

โฆษกของไฟเซอร์บอกต่อว่า "เราจะจับตาอย่างใกล้ชิดต่อรายงานข่าวทั้งหมดที่บ่งชี้ว่ามีคนเกิดอาการแพ้รุนแรงหลังเข้ารับการฉีดวัคซีน และจะอัพเดทคำเตือนเป็นสลากยาถ้ามีความจำเป็น"

ในส่วนของอาสมัคร 44,000 คน ที่เข้าร่วมการทดลองทางคลินิกของไฟเซอร์ ใครก็ตามที่มีประวัติแพ้วัคซีนหรือส่วนผสมของวัคซีนโควิด-19 จะถูกกันออกไป

อย่างไรก็ตาม ทางโฆษกยืนยันว่า โดยรวมแล้วการทดลองไม่พบประเด็นด้านความปลอดภัยร้ายแรงใด ๆ แต่ทางคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบและทางบริษัทจะเดินหน้าเฝ้าสังเกตการณ์ในกรณีที่อาจเกิดผลร้ายใดๆ หลังได้รับวัคซีน

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในขณะที่สหรัฐฯ กำลังฉีดวัคซีนให้กับประชาชนราวๆ 3 ล้านคนในสัปดาห์นี้ และหวังว่าจะสามารถฉีดวัคซีนให้ประชาชนแตะระดับ 20 ล้านคน ภายในเดือนนี้ หากว่าวัคซีนอีกตัวที่พัฒนาโดยโมเดอร์นา ผ่านการอนุมัติจากคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบ


ที่มา: เฟซบุ๊ก คุยทุกเรื่องกับสนธิ / เอเอฟพี

กระทรวงการคลังสหรัฐฯ จัดไทย เป็น 1 ใน 10 ประเทศที่ต้องเฝ้าติดตาม เหตุเสียเปรียบดุลการค้าให้ไทยกว่า 6 แสนล้านบาท ด้านธปท. ยันไม่แทรกแซงค่าเงินหนุนการค้า

นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายสื่อสารและความสัมพันธ์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐฯ (U.S. Treasury) ได้เผยแพร่รายงานการประเมินนโยบายเศรษฐกิจและอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศคู่ค้าสำคัญของสหรัฐฯ ฉบับล่าสุด

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2563 ซึ่งประเทศไทยถูกจัดอยู่ใน Monitoring List หรือเป็นรายชื่อประเทศที่ต้องเฝ้าติดตาม จากการที่ไทยเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ มากกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 6 แสนล้านบาท และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลมากกว่า 2% ของจีดีพี ซึ่งเป็นเกณฑ์และเงื่อนไขภายใต้กฎหมายภายในของสหรัฐฯ โดยในรอบนี้ มีคู่ค้า 10 ประเทศที่จัดอยู่ในบัญชีนี้ ทั้ง จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เยอรมนี อิตาลี สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน ไทย และอินเดีย

"การที่ประเทศไทยถูกจัดอยู่รายชื่อครั้งนี้ ไม่มีนัยสำคัญต่อธุรกิจที่มีการค้าการลงทุนกับสหรัฐฯ ซึ่งภาคธุรกิจไทยและสหรัฐฯ ยังคงดำเนินธุรกิจกันได้ตามปกติ และการประเมินดังกล่าวไม่กระทบต่อการดำเนินนโยบายของ ธปท. เพื่อดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินภายในประเทศ รวมถึงการดูแลเสถียรภาพอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งเป็นไปตามหน้าที่ของธนาคารกลางและความจำเป็นของสถานการณ์"

นางจันทวรรณ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ธปท. ได้สื่อสารและทำความเข้าใจกับทางการสหรัฐฯ เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจและแนวทางการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจการเงินของไทย รวมถึงสร้างความมั่นใจกับสหรัฐฯ ว่าไทยดำเนินนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนแบบยืดหยุ่นและจะเข้าดูแลค่าเงินบาทเมื่อมีความจำเป็น เพื่อชะลอความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนไม่ให้รุนแรงเกินไป ทั้งในด้านแข็งค่าและอ่อนค่า และไม่มีนโยบายแทรกแซงค่าเงินเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการค้าระหว่างประเทศแต่อย่างใด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top