Wednesday, 26 June 2024
TheStatesTimes

สรุปยอดจองรถยนต์มอเตอร์เอ็กซ์โป 13 วัน 33,753 คัน ดันเงินหมุนเวียน 4.9 หมื่นลบ. กวาดคนเข้างาน 1,186,387 คน ค่ายสามห่วงยังยืนหนึ่งโกย 5,445 คัน

ยอดตัวเลข 13 วันของการจัดงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 37 ตั้งแต่วันที่1-13 ธ.ค.ที่ผ่านมา พบว่า ในส่วนของรถยนต์มียอดจองรวมที่ 33,753 คัน โดยยอดจอง 5 อันดับแรก คือโตโยต้า 5,445 คัน ฮอนด้า 4,508 คัน มาสด้า 4,018 คัน อีซูซุ 3,076คัน นิสสัน 2,666 คัน

ขณะที่ยอดจองรถจักรยานยนต์รวมอยู่ที่ 4,946 คัน โดย ยามาฮ่าครองยอดแชมป์ยอดจองสูงที่สุด 1,033 คัน ฮอนด้า 911คัน จีพีเอ็กซ์ 702 คัน เวสป้า 458 คัน คาวาซากิ 383 คัน

ส่วนราคาเฉลี่ยของรถที่ขายได้ในงานปีนี้ คือ 1,424,811 บาท และราคาเฉลี่ยของรถจักรยานยนต์ 230,140 บาท โดยตลอดการจัดงานมีเงินหมุนเวียนภายในงานราว 4.9 หมื่นล้านบาท ผู้เข้าชมงานจำนวน 1,186,387 คน

บิ๊กตู่ ยันปิดบิ๊กเมาท์เท่นไม่เกี่ยวการเมือง ย้ำเป็นอำนาจ ‘สสจ.- ผู้ว่าฯ โคราช’ ส่วนเคาท์ดาวน์ปีใหม่ ‘ไม่ติด’ แต่ต้องยึดกติกา ‘สธ.’ หากฝืนกฎ ชัตดาวน์ลูกเดียว

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาสั่งงดกิจกรรมเทศกาลดนตรีบิ๊กเมาน์เท่น มิวสิค เฟสติวัลว่า เป็นเรื่องของสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดมีสิทธิ์ และมีอำนาจพิจารณา โดยรัฐบาลมีหน้าที่ปลดล็อคต่างๆ เพื่อให้มีการจัดคอนเสิร์ตหรือกิจกรรมต่างๆ แต่ถ้าไม่ดำเนินการตามกติกา ก็ต้องปิด เพราะสิ่งสำคัญคือการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด -19 ถ้าหากมีคนเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดใครจะรับผิดชอบ ซึ่งก็เป็นหน้าที่รัฐบาลที่ต้องรับผิดชอบอีก

ทั้งนี้เป็นหน้าที่ของแต่ละพื้นที่ที่ต้องปฏิบัติเช่นเดียวกัน เพราะช่วงระยะเวลาต่อจากนี้จะมีการจัดงานคอนเสิร์ตการแสดงกิจกรรมมากมายก็ขอให้ปฏิบัติตามกติกาและทำให้ได้ตามนั้นซึ่งตนไม่ได้ขัดข้องกับใครและไม่ใช่การเมือง ตนไม่ต้องสั่ง ทุกคนทำหน้าที่ของตนเองอยู่แล้วและตนขอชมเชยสสจ.จังหวัดนครราชสีมา

นายกฯกล่าว ว่า “ผมทราบว่ามีการแสดงคอนเสิร์ตแล้วสั่งให้ยุติไปก็เพื่อความปลอดภัยของพวกเรา"

เมื่อถามว่า การจัดงานเคาต์ดาวน์ในช่วงเทศกาลปีใหม่จะสามารถทำได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องทำตามกติกา โดยเมื่อช่วงเช้าตนได้ประชุมศบค.วงเล็ก หารือว่าการจัดงานในช่วงต่อจากนี้จะต้องทำอย่างไร สิ่งสำคัญที่สุด คือการป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด เพราะถ้าหากมีการแพร่ระบาดในกรุงเทพฯมันจะหนัก ต้องไปดูว่าแต่ละงานจะมีมาตรการอย่างไร ถ้าเราทำแบบเดิมๆแล้วเกิดการแพร่ระบาดขึ้นมา รัฐบาลก็รับอีก แต่เรามีมาตรการการควบคุมและมีเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานเขาพร้อมอยู่แล้ว เพียงแต่ทุกท่านต้องให้ความร่วมมือ ต้นไม่ได้ขัดข้องอะไร

เมื่อถามย้ำว่า มีการนำเรื่องนี้ไปเชื่อมโยงกับเรื่องการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ก็พูดไปเมื่อกี้ ว่ามันมีการเมืองอะไร จะไปเกี่ยวอะไร แล้วผมก็ไม่รู้ว่าจะมีกิจกรรมอะไรในคอนเสิร์ต เขาก็ไปดูคอนเสิร์ตกันไม่ใช่หรือ ใครที่ทำก็ไปถามคนทำสิ ผมไม่ได้ไปตามเขาด้วยซ้ำไป”

ผู้สื่อข่าวถามว่า การชุมนุมยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง จะมีการแก้ปัญหาอย่างไรเพื่อไม่ให้เป็นการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ต้องใช้มาตรการที่รัดกุม ทำตามกฎหมาย และอย่าทำผิดกฎหมายเท่านั้นเอง เพราะกฎหมายอยู่เฉยๆแต่หากคนไปละเมิดกฎหมายก็ต้องถูกลงโทษ

เมื่อถามว่า จำเป็นต้องกลับมาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง เพื่อห้ามการชุมนุมเกิน 5 คน หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ยกเลิกไปตั้งนานแล้ว แต่หากถึงจุดนั้นก็ต้องกลับมาแบบเดิม ต้องย้อนกลับมาใหม่ แต่วันนี้ยังไม่มีสถานการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น ซึ่งผมก็กังวลว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ อย่างเช่น การไปจัดคอนเสิร์ตที่โคราช หากมีการแพร่ระบาดโควิด ออกมาข้างนอกจะทำอย่างไร หรือหากในกรุงเทพฯจัดงานคอนเสิร์ตแล้วมีแพร่ระบาดกันในกรุงเทพฯจะทำอย่างไร ทุกอย่างก็ต้องกลับไป ชัตดาวน์ใหม่ทั้งหมด ฉะนั้นทุกคนต้องช่วยกัน นายกฯไม่ได้เข้าไปทุกงานเพราะรัฐบาลบริหารในภาพรวม การใช้พรก.ฉุกเฉินต้องใช้ในสิ่งที่จำเป็น”

วัคซีนโควิด-19 ไทยเดินเครื่อง!! หลัง สธ.-จุฬาฯ ลงนามผลิตวัคซีนโควิดจากใบยาสูบ พร้อมทดสอบในคนปี 64 เพิ่มเติมอีกทางเลือก หลังรัฐจองวัคซีน ‘แอสตร้าเซนเนก้า’ ไว้ก่อนหน้า

เดินเครื่องเต็มตัวสำหรับวัคซีนโควิด-19 จากฝีมือคนไทย ภายหลัง อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม, ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ แพทย์วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ลงนามความร่วมมือพัฒนาและผลิตวัคซีนป้องโรคโควิด-19 โดยวัคซีนต้นแบบชนิดดังกล่าวพัฒนาจากใบยาสูบ เทคโนโลยีประเภท โปรตีน ซับยูนิต

การร่วมมือกันครั้งนี้ ประกอบด้วย องค์การเภสัชกรรม บริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด และบริษัท คินเจน ไบโอเทค จำกัด ที่ได้ร่วมมือกัน ค้นคว้า วิจัย พัฒนา วัคซีนป้องกันโควิด-19 จากใบพืชได้สำเร็จ เป็นครั้งแรกและเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้คนไทยสามารถเข้าถึงวัคซีนได้อย่างเท่าเทียม

โดยต่อจากนี้ทาง บริษัท ใบยาไฟโตฟาร์ม จะเป็นผู้ค้นคว้า วิจัยและพัฒนาผลิตวัคซีนตั้งต้น ส่วนบริษัท คินเจน ไบโอเทค จะเป็นผู้ทำวัคซีนให้บริสุทธิ์ และองค์การเภสัชกรรมจะทำหน้าที่ตั้งตำรับและบรรจุวัคซีนสำเร็จรูป สำหรับการทดสอบทางคลินิกเฟส 1 - 2 ในมนุษย์ คาดว่าจะเริ่มได้ในปีหน้า

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทางรัฐบาลได้จองซื้อวัคซีนจาก บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า จำกัด ไว้แล้วจำนวน 26 ล้านโดส สำหรับคนไทยกลุ่มแรก 13 ล้านคน แต่ก็ยังได้วางแผนจัดหาวัคซีนจากแหล่งอื่น เพราะหากไทยสามารถผลิตวัคซีนได้เองตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ จะลดการพึ่งพาต่างชาติได้อย่างมาก

‘โฆษกปชป.’ ชวนประชาชน ‘เลือกคนดีจริง’ ปกครองท้องถิ่น 20 ธ.ค. ย้ำอย่าหลงเหลี่ยมก๊วนจัดตั้งโจมตีผู้สมัคร เชื่อมั่นทุกเสียงสำคัญ อย่าถูกซื้อ

จากการติดตามการหาเสียงในแต่ละจังหวัด สิ่งหนึ่งที่ปรากฏตามสภาวะสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปคือการใช้วิธีการหาเสียงผ่านช่องทางโซเชียลมากขึ้นก็ถือว่าได้ประโยชน์ แต่อีกมุมหนึ่งก็ใช้ไปในทางที่เป็นโทษด้วยเช่นกัน 

โดย ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาให้มุมมองเกี่ยวกับการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดว่า 

“การใส่ร้ายโจมตีกันผ่านช่องทางสื่อโซเชียล เป็นเรื่องที่น่ากังวลมากต่อกระบวนการเลือกตั้งในทุกระดับ บางจังหวัดทำเป็นกระบวนการจัดตั้งกลุ่มบุคคลเพื่อให้ไปแสดงความคิดเห็นที่เป็นการใส่ร้ายโจมตีผู้สมัคร คณะกรรมการการเลือกตั้งจึงต้องตั้งรับกับเรื่องดังกล่าวแก้ไขป้องกันด้วยความรวดเร็ว เพราะหากล่าช้าก็จะส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อผู้สมัครได้” 

ราเมศ กล่าวต่ออีกว่า “ขอให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 20 ธ.ค. ที่จะถึงนี้ ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึงเวลา 17.00 น. เลือกคนดี คนที่ทุ่มเท ตั้งใจ มีนโยบายที่ดี เข้าไปทำหน้าที่ในสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ซึ่งเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความสำคัญในการดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชนในแต่ละจังหวัด 

“ประชาชนมีหนึ่งเสียงที่สำคัญในการส่งเสริมคนดีให้ได้เข้าไปทำหน้าที่ดังกล่าว และที่สำคัญคือไม่ควรส่งเสริมคนที่ซื้อสิทธิ์ซื้อเสียงเข้าไปทำหน้าที่ เพราะสิ่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่จะนำพาไปสู่ความไม่สุจริตในการทำหน้าที่ ดังนั้นหากต้องการให้การเมืองสุจริตประชาชนต้องช่วยกันป้องกันเรื่องดังกล่าว”

‘ลุงตู่’ แจงเหตุฝุ่นพิษ PM2.5 โจทย์หินระดับโลก อ้อนคนไทยช่วยลดปัญหาที่ต้นตอ งดเผาในที่โล่ง - ตรวจถี่รถเก่า ชี้รัฐบาลไม่เคยปล่อยปละ เร่งแก้ปัญหาระยะสั้น - ยาวตลอด

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว ‘ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayuth Chan-o-cha’ ถึงปัญหาฝุ่น PM2.5 ว่า...

“ช่วงนี้ของทุกปีประเทศไทยจะเข้าสู่วังวนปัญหาฝุ่นละอองเล็กPM10และPM2.5ปกคลุมทั่วท้องฟ้า ซึ่งเกิดจากไอเสียรถยนต์ การเผาขยะเผาเศษวัสดุภาคเกษตรกรรมและควันจากโรงงานอุตสาหกรรมประกอบกับสภาพอากาศปิด ไม่มีลม เป็นสิ่งที่เราต้องประสบกันมานาน เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน และทุกรัฐบาลก็พยายามแก้ไขทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ยังถือเป็นปัญหาระดับโลกที่ต้องร่วมมือกันอีกด้วย”

นอกจากนั้น นายกฯ ยังระบุอีกว่า “ที่ผ่านมาได้มีการหารือ ทำความเข้าใจ และรับฟังข้อคิดเห็นจากทุกส่วนมาอย่างต่อเนื่อง เพราะการแก้ไขจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกคน ทุกภาคส่วน รวมถึงการขอความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน และการปรับปรุงข้อกฎหมายให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดยั่งยืน

“เราทุกคนสามารถช่วยลดปัญหาได้ที่ต้นตอด้วยตนเอง เช่น งดการเผาวัชพืชหรือขยะในที่โล่งแจ้ง หมั่นตรวจเช็คสภาพรถเก่าอยู่เสมอ โดยภาครัฐก็จะเคร่งครัดและเพิ่มการตรวจแหล่งเกิดฝุ่นควัน และควันดำในหลายจุดทั่วทุกพื้นที่”

วงการฟุตบอลเศร้าอีกครั้ง! “เชราร์ อุลลิเย่ร์” อดีตกุนซือคนดังลิเวอร์พูล เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 73 ปี

ช็อกวงการฟุตบอลอีกครั้ง เมื่อสื่อดังจากฝรั่งเศส เลกิ๊ป และ อาร์เอ็มซี รายงานข่าวเศร้า เชราร์ อุลลิเย่ร์ อดีตกุนซือคนดังแห่งลิเวอร์พูล เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 73 ปีเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา หลังที่เขาเพิ่งเข้ารับการผ่าตัดหัวใจไปไม่นาน

กล่าวสำหรับ เชราร์ อุลลิเย่ร์ เคยเป็นผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ในช่วงปี ค.ศ. 1998 - 2004 โดยสามารถพาทีมลิเวอร์พูลคว้าแชมป์เอฟเอคัพ 1 สมัย และแชมป์ลีกคัพอีก 2 สมัย รวมทั้งฟุตบอลถ้วยยุโรปอย่าง ยูฟ่าคัพ (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น ยูโรป้าคัพ) ในปี 2000 - 2001 มาแล้ว

การเสียชีวิตของเฮดโค้ชคนดังครั้งนี้ ถือเป็นการสูญเสียบุคคลสำคัญในแวดวงฟุตบอลระดับโลกรายล่าสุด หลังจากที่เพิ่งมีนักฟุตบอลคนดังเสียชีวิตลงไปหลายคนในช่วงเวลาไม่นาน

ธปท. แจง ‘ชาวเน็ต’ เคลียร์ชัดธนบัตรที่ระลึก 100 & 1,000 ‘ปลอมยาก’ ขอปชช.มั่นใจ แม้ไม่มีกลุ่มดาวยูไรอัน แต่ให้สัมผัส - ยกส่อง – พลิกเอียง ส่วน 1,000 บาท แยกง่าย หลังตัวธนบัตรยาวกว่า1.2 ซม.

หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ปล่อยธนบัตรที่ระลึกเนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ชนิด 1,000 บาท และ 100 บาท ออกมา และ ‘สามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย’ (อ้างอิง หนังสือข่าว ธปท.ฉบับที่ 82/2563 ) 

แต่ดูเหมือนจะเป็นประเด็นเมื่อมี ‘ชาวเน็ต’ ตั้งข้อสังเกตว่า ธนบัตรชนิด 100 บาท ที่ปล่อยออกมานั้น ‘ไม่มีกลุ่มดาวยูไรอัน’ หรือ EURion constellation ซึ่งมีไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนนำธนบัตรไปถ่ายเอกสารสี (ซีรอกซ์) และนำไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมายได้ 

งานนี้ชาวเน็ตจึงให้ความเห็นว่า จะกลายเป็นช่องว่างในการปลอมแปลงธนบัตรหรือไม่ เพราะธนบัตรชนิด 100 บาทที่ออกมานั้น ได้หมุนอยู่ในระบบกว่า 20 ล้านฉบับ เป็นเงินกว่า 2 พันล้านบาทเลยทีเดียว

เมื่อเกิดประเด็นนี้ทาง ไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน รองผู้ว่าการ ด้านบริหาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จึงได้ออกมาชี้แจงว่า ธนบัตรดังกล่าว มีลักษณะการต่อต้านการปลอมแปลงตามมาตรฐานขั้นสูงในระดับเดียวกับธนบัตรหมุนเวียนตามปกติ เช่นเดียวกันกับธนบัตรที่ระลึกในอดีต ประชาชนจึงมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยต่อการถูกปลอมแปลงและสามารถนำไปใช้จ่ายหมุนเวียนได้ตามปกติเช่นเดียวกับธนบัตรทุกรุ่น

อย่างไรก็ตาม หลังจากได้มีการนำมาใช้วันแรก เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2563 และมีการตั้งคำถามจากชาวเน็ต ว่ามีการป้องกันการปลอมแปลงธนบัตรหรือไม่ ทาง ธปท. จึงได้ชี้ถึง  5 จุดสังเกตของธนบัตรที่ระลึกฯ ชนิดราคา 100 ได้แก่ 1.ตัวเลขแจ้งชนิดราคา 2.ธนบัตรเป็นสีเหลืองทอง 3.ตราพระราชพิธีฯ 4.ตัวเลขแจ้งชนิดราคาในดอกไม้ และ 5.ภาพด้านหลัง  

นอกจากนี้ประชาชนยังสามารถตรวจสอบธนบัตรด้วย 3 วิธีง่ายๆ คือ สัมผัส - ยกส่อง - พลิกเอียง ซึ่งมีจุดสังเกตที่สำคัญ เช่น ความนูนของการพิมพ์บอกชนิดราคาที่มุมธนบัตรและคำว่ารัฐบาลไทย ลายน้ำ แถบสีที่มีภาพเคลื่อนไหว และหมึกพิมพ์แม่เหล็กสามมิติเปลี่ยนสีได้ 

ในส่วนของปัญหาที่ประชาชนมีความสับสนในการใช้ธนบัตรชนิดราคา 100 บาท ที่มีความคล้ายกับธนบัตรราคา 1,000 บาท สามารถสังเกตได้ ด้วยขนาดของธนบัตรหมุนเวียน 1,000 บาท จะมีขนาดความยาวกว่าใบละ 100 ที่ 1.2 เซนติเมตร โดยธนบัตรทั้ง 2 แบบ มีตัวเลขบอกชนิดราคาที่มุมธนบัตรด้านล่างอย่างชัดเจน
 

ททท. เคาะ 9 เส้นทางคนโสดเที่ยวทั่วประเทศ นำร่อง 3 เส้นทาง ‘โสดสายมู - โสดสายแซ่บ - โสดสายชิลล์’ ดีเดย์ 15 ธันวาคม ปูพรม ‘จอง’ ทริปสลัดคาน

ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. ร่วมกับบริษัท ไดรฟ์ดิจิทัล จำกัด และแอปพลิเคชัน Tinder ทำเส้นทางคนโสด ซิงเกิล เจอร์นี่ย์ #อย่าล้อเล่นกับความเหงา ส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศสไตล์คนโสด คนเดียวก็เที่ยวได้ ด้วยความหลากหลายสไตล์การท่องเที่ยว โสดซีซั่นทั่วประเทศ 9 เส้นทาง คือ

.

1.) แม่ฮ่องสอน

2.) เชียงใหม่

3.) เชียงราย

4.) ลพบุรี-สระบุรี

5.) อุดรธานี-เลย ชุมพร-สุราษฎร์ธานี

6.) ภูเก็ต

7.) พัทยา

8.) พระนครศรีอยุธยา

9.) และกรุงเทพฯ

.

โดยนำร่อง 3 เส้นทาง คือ โสดสายมู ล่องเรือ ไหว้พระ หารัก, โสดสายแซ่บ ซีเคร็ด ไอแลนด์ เกาะลับไม่ห่างรัก และโสดสายชิลล์ รถไฟขบวนสุดท้าย ซึ่งเริ่มเปิดจองตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ.2563 นี้

.

สำหรับเส้นทางนำร่องแรก คือ โสดสายมู ล่องเรือ ไหว้พระ หารัก โดยททท. ร่วมกับบริษัท แกรนด์เพิร์ล จำกัด จัดทริปล่องเรือ ขอพร ไหว้พระ 9 วัด กับหมอช้าง “ทศพร ศรีตุลา” เล่าถึงเคล็ดลับการไหว้พระขอพร และดินเนอร์กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ จำนวนจำกัด 100 คน ไม่มีค่าใช้จ่าย โดยสามารถลุ้นเข้าร่วมทริปผ่านกิจกรรมของพาร์ทเนอร์ต่าง ๆ ได้แก่  แฟนเพจ Sneakout แอปพลิเคชัน Tinder

ส่วนเส้นทางที่ 2 โสดสายแซ่บ เกาะลับไม่ห่างรัก ร่วมกับ เลิฟ อันดามัน จัดปาร์ตี้ริมทะเล ชมคอนเสิร์ต ณ เกาะไข่ จังหวัดภูเก็ต ราคาพิเศษ 222 บาท สำหรับ 50 คนแรก ในวันที่ 9 ม.ค.64 และเส้นทางโสดสายชิลล์ รถไฟขบวนสุดท้าย ร่วมกับ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ปิดโบกี้รถไฟลอยน้ำ เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี (วันเดียวกลับ) ชมวิว ถ่ายรูป และรับประทานอาหารกลางเขื่อน ราคาพิเศษ 555 บาท สำหรับ 50 คนแรก ในวันที่ 23 มกราคม พ.ศ.2564

โควิด-19 ส่งผล ทำให้เขตพัฒนา กวมลวมไชเชดถา แห่ง สปป ลาว ซึ่งเป็นนิคมอุตสาหกรรมที่ดึงดูดนักลงทุนมากกว่า 80 บริษัท ต้องชะลอตัว ผลกระทบส่วนใหญ่ เป็นเรื่องบุคลากรและการนำเข้าวัตถุดิบต่างๆ

คอลัมน์​ "เบิ่งข้ามโขง"

โครงการนิคมอุตสาหกรรม เขตพัฒนา กวมลวมไชเชดถา นครหลวงเวียงจันทน์  ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในพื้นที่มากขึ้นเรื่อย ๆ

ปัจจุบันมี บริษัท จดทะเบียน 86 บริษัท และ บริษัท จาก 7 ประเทศในภูมิภาคทั่วโลก ได้แก่ บริษัทโฮย่า จากญี่ปุ่น, บริษัทปิโตรเคมีลาว - จีน ,บริษัทยาสูบลาว - จีน , บริษัทความหวังใหม่ , บริษัท โกลเด้นลาว และ บริษัทที่มีชื่อเสียงอื่น ๆ ในภูมิภาค

การลงทุน 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ท่านหว่าง เหว่ย คุน อำนวยการบริษัทลาว - จีน ได้ให้สัมภาษณ์

โครงการนิคมอุตสาหกรรม เขตพัฒนา กวมลวมไชเชดถา  นครหลวงเวียงจันทน์ เป็นโครงการที่กลุ่มบริษัทก่อสร้างและลงทุนมณฑลยูนนาน หุ้นส่วนจำกัด กับองค์กรนครหลวงเวียงจันทน์ ร่วมทุนจัดตั้ง และ เป็นโครงการร่วมมือระหว่างรัฐบาลทั้งสองประเทศ

นอกจากนี้ยังเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษต่างประเทศแห่งเดียวของจีนในสปป. ลาว ..

ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเวียงจันทน์ครอบคลุมพื้นที่ 1,149 เฮกตาร์โครงการลงทุนรวม 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

โครงการมุ่งเน้นการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมและการพัฒนาเมืองอย่างผสมผสาน

โดยแบ่งงานก่อสร้างออกเป็น 3 ช่วง ได้แก่

ระยะที่ 1 -  จะเน้นการพัฒนาในภาคอุตสาหกรรม

ระยะที่ 2 และ 3 - ได้รับการพัฒนาในด้านการคมนาคมการค้าที่อยู่อาศัยและแหล่งท่องเที่ยวและ จะพยายาม สร้างเมืองเวียงจันทน์ใหม่

คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีพ.ศ.2573 

ปัจจุบันโครงการได้ดำเนินการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานครอบคลุมพื้นที่ 400 เฮกตาร์ รวมถึง ก่อสร้างในระยะแรก แล้วเสร็จ เช่น ถนน พื้นที่สีเขียว ระบบท่อน้ำรวม  สถานีไฟฟ้า 115 กิโลวัตต์

ก่อสร้างโรงงานมาตรฐาน บนพื้นที่ 80,000 ตารางเมตรเสร็จสิ้น

การก่อสร้างหอพักพนักงานเพื่อรองรับและสามารถตอบสนองความต้องการบริการขั้นพื้นฐานของสถานประกอบการในพื้นที่

กำลังดำเนินการพัฒนาโครงการในระยะที่สองและสาม ได้แก่ การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและการก่อสร้าง โครงการริเริ่มในตัวเมืองใหม่ ซึ่งแล้วเสร็จประมาณ 60%

มีการสร้างงานมากกว่า 1,800 ตำแหน่ง และ ภายในสิ้นปีนี้ จะมีการสร้างงานมากกว่า 5,000 ตำแหน่ง

ภายใต้ความเอาใจใส่และการสนับสนุนของสองรัฐบาลลาวและจีน ถือได้ว่า ประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง

แต่จนถึงปีนี้เนื่องจากการระบาดของโรคระบาดโควิด - 19

ทำให้โครงการได้รับผลกระทบอย่างมาก ในแง่ของการดึงดูดนักลงทุนและงานก่อสร้าง จำนวนบริษัทใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาลงทุนและการทำสัญญา

และ เมื่อเทียบกับปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกันเป็นการลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

ผลกระทบส่วนใหญ่ จะเป็นเรื่องของบุคลากรและการนำเข้าวัตถุดิบต่าง ๆ

นอกจากนี้ ความคืบหน้าของการก่อสร้าง บางส่วนในพื้นที่ก็ล่าช้าออกไปด้วย


ที่มา  ປະເທດລາວ Pathedlao

หนุ่มโคราชคลุกคลี กับเมืองลาวทั้งด้านธุรกิจเอกชน​และภาครัฐมานานหลายปี ยินดีแนะนํา​ภาคเอกชนไทย​ บุกตลาดอินโดจีน สรรหาเรื่องเล่า​ วีถีชีวิต​ วัฒนธรรม​ เศรษฐกิจ​ การเมืองประเทศฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง​  หรือ​ มุมมองเบิ่งข้ามโขง

 

‘วิกฤติฝุ่นยังไม่ทุเลา’ เช้านี้คนกรุงต้องฝ่าฝุ่นใช้ชีวิต มีถึง 6 เขต ที่ปริมาณฝุ่นหนักส่งผลต่อสุขภาพ ด้านรัฐสั่งเร่งรับมือ ขับเคลื่อนการแก้ปัญหาทุกภาคส่วน

เช้านี้ สถานการณ์คุณภาพอากาศ พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ยังอยู่ในขั้นไม่ปลอดภัย ผลการตรวจวัดมีถึง 6 เขต ที่มีปริมาณฝุ่นละอองสูงในขั้นส่งผลต่อสุขภาพ

ได้แก่ ริมถนนดินแดง เขตดินแดง วัดค่าฝุ่นละอองได้ 118 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, ริมถนนเจริญนคร เขตคลองสาน ระดับ 102 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, ริมถนนศรีนครินทร์ ริมถนนมาเจริญ เพชรเกษม 8 เขตหนองแขม อยู่ที่ 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, เขตประเวศ อยู่ในระดับ 94 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, ริมถนนแยกท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ ระดับที่ 94 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ ริมถนนสามเสน เขตพระนคร อยู่ที่ระดับ 93 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ด้านรัฐบาล นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ได้สั่งการให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและวิ่งแวดล้อม (ทส.) ประสานการทำงานภาพรวมกับ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมานาคม กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กทม.และ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันดำเนินการตามมาตรการที่กำหนดอย่างต่อเนื่องจริงจัง

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ขอให้กระทรวงมหาดไทย ระดับท้องถิ่น นำข้อมูลแผนที่จุดความร้อนและลงพื้นที่ตรวจสอบกวดขันบังคับใช้กฎหมายกับการเผาพืชไร่ในที่โล่ง และประสานอุตสาหกรรม ตรวจสอบมลภาวะของโรงงานอุตสาหกรรมและขอความร่วมมือลดกำลังการผลิตในภาวะดังกล่าว

พร้อมทั้ง ขอให้ ทส.ประสานกับคมนาคม และ ตำรวจ ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาจราจร โดยเฉพาะพื้นที่การจราจรที่คับคั่ง และจัดตั้งจุดตรวจสกัดรถควันดำที่สร้างปัญหาในพื้นที่ ร่วมกับมาตรการส่งเสริมให้ประชาชนใช้การขนส่งสาธารณะมากขึ้น

สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขอให้ กทม.และจังหวัดปริมณฑล พิจารณาออกมาตรการควบคุมเฉพาะหน้าและขอความร่วมมือประชาชน ร่วมกันลดต้นเหตุของการก่อปัญหาในภาพรวม เช่น ควบคุมเวลากิจกรรมการก่อสร้าง การลดใช้ยานพาหนะในพื้นที่เขตเมืองที่หนาแน่น โดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล การลดกิจกรรมที่ก่อให้เกิดควัน

ทั้งนี้ ขอให้ สาธารณสุขร่วมดูแลสุขภาพประชาชนในภาพรวม โดยเฉพาะเด็ก คนชราและผู้ป่วยโรคภูมิแพ้


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top