จ่อขึ้นค่าไฟปลายปีแตะ 5 บาท/หน่วย อ้าง กฟผ.แบกต้นทุนแล้วกว่า 8 หมื่นล้าน
จ่อประกาศขึ้นค่าไฟฟ้า หลังประเมินต้นทุนยังแพง คนไทยอ่วม! อาจจ่ายเพิ่มช่วงครึ่งหลังของปี แตะ 5 บาท/หน่วย กกพ.ชี้ก๊าซแพงแตะ 30 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู แจง กฟผ.แบกต้นทุนหลังแอ่นใกล้แตะแสนล้านปลายปีนี้
เมื่อวันที่ (10 ก.ค.) แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานอยู่ระหว่างพิจารณาทบทวนและปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) ในงวดใหม่เดือน (ก.ย.-ธ.ค.65) มีแนวโน้มพุ่งสูงถึง 90-100 สตางค์ต่อหน่วย และอาจทำให้ค่าไฟฟ้าอาจต้องปรับเพิ่มสูงถึงเกือบ 5 บาท/หน่วย ในช่วง 4 เดือนที่เหลือของปีนี้ โดยจะประกาศค่าเอฟทีอย่างเป็นทางการประมาณปลายเดือนนี้หรือต้นเดือนหน้า เนื่องจากต้นทุนค่าเชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) นำเข้าเพื่อทดแทนก๊าซธรรมชาติต้นทุนต่ำในอ่าวไทย และยังมีแนวโน้มราคาแพงต่อเนื่องตั้งแต่เดือน (พ.ค.65) จนถึงปัจจุบัน
“ปลายสัปดาห์นี้ กกพ.จะต้องประชุมทบทวนอีกครั้ง เพื่อประกาศค่าเอฟที ราคาแอลเอ็นจีนำเข้าตอนนี้พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน พุ่งสูงแตะระดับกว่า 30 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียูแล้ว จากเดิมอยู่ที่กว่า 20 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู เป็นปัจจัยที่นอกเหนือการควบคุม ซึ่ง กกพ.ค่อนข้างหนักใจ ปริมาณก๊าซในอ่าวไทยยังขาดความชัดเจน ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แบกรับแทนประชาชนอีกกว่า 80,000 ล้านบาทในงวดก่อนหน้าที่ กกพ.อาจจะต้องเข้าไปดูแลช่วยลดภาระต้นทุนผ่านการทยอยปรับเพิ่มผ่านค่าเอฟทีด้วย” แหล่งข่าวกล่าว
ทั้งนี้ สิ่งที่ กกพ.ต้องเลือกที่จะดูแลความมั่นคงทางพลังงานเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะดูแลผลกระทบต่อค่าครองชีพประชาชน เพื่อให้มั่นใจว่าไฟฟ้าต้องไม่ขาด ประชาชนและภาคธุรกิจต้องมีไฟฟ้าใช้ ดังนั้นหากให้ กฟผ.แบกรับภาระทางการเงินแทนผู้ใช้ไฟฟ้าเกินกำลังต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน จะส่งผลด้านลบต่อความสามารถในการผลิตไฟฟ้าเพื่อป้อนให้กับระบบ และการดูแลความมั่นคงทางด้านไฟฟ้าในการประกาศค่าเอฟทีตั้งแต่ต้นปี 65 กกพ.ได้ทยอยปรับเพิ่มค่าเอฟทีโดยขอให้ กฟผ.ได้แบกรับภาระต้นทุนค่าเชื้อเพลิงแทนประชาชนเป็นมูลค่าประมาณ 80,000 ล้านบาท และ ครม.ได้มีมติให้ กฟผ.กู้เงินมาเพื่อเสริมสภาพคล่องจำนวน 25,000 ล้านบาท ในช่วงที่มีการแบกรับภาระต้นทุนเชื้อเพลิง