Saturday, 26 April 2025
TheStatesTimes

วุฒิสภา จัดใหญ่ “เหลียวหลัง แลหน้า วุฒิสภาเพื่อประชาชน” โชว์ผลงาน 3 ปี  “พรเพชร” ลั่นไม่เคยรับคำสั่งใคร เป็นกลางมาตลอด

วันที่ 8 มิ.ย. 65 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดกิจกรรม และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ของวุฒิสภา ในโอกาสวุฒิสภาครบ 3 ปี กล่าวถึงการจัดกิจกรรมโครงการ “เหลียวหลัง แลหน้า วุฒิสภาเพื่อประชาชน” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบอกถึงอำนาจหน้าที่ และผลงานด้านต่างๆของวุฒิสภา ทั้งด้านกลั่นกรองกฎหมาย การบริหารราชการแผ่นดิน การให้ความเห็นชอบบุคคลดำรงตำแหน่ง และการเร่งรัดติดตามการปฏิรูปประเทศ รวมถึงรับฟังความต้องการ ข้อเสนอแนะของประชาชน

ด้าน นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ส.ว.ปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.2562 โดยดำเนินการด้านต่างๆ ภายใต้บทบัญญัติรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย อย่างเต็มกำลัง โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ประเทศและประชาชน ซึ่งตามรัฐธรรมนูญปี 2560 วุฒิสภามีอำนาจหน้าที่ 4 ด้าน คือ ด้านนิติบัญญัติ ด้านการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน ด้านการให้คำแนะนำ และให้ความเห็นชอบบุคคลดำรงตำแหน่งสำคัญตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย และด้านสุดท้ายคืองานที่วุฒิสภาต้องปฏิบัติตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ได้เพิ่มอำนาจหน้าที่ให้ส.ว. ในการติดตามเสนอแนะเร่งรัดการปฏิรูป และการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ

ดังนั้น กลไกสำคัญของส.ว. ในการปฏิบัติตามบทเฉพาะกาล คือต้องรับฟังความเห็นปัญหา และอุปสรรคต่างๆของประชาชนในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ ซึ่งการทำงานของส.ว. 3 ปีที่ผ่านมา มีปัญหาเรื่องการระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ปลายปี 2562 จึงต้องปรับเปลี่ยนการทำงาน โดยนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม สำหรับงานในวันนี้เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องเหลียวหลังทบทวนบทบาทหน้าที่ในวันเวลาที่ผ่านมา เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงแลหน้าอีก 2 ปี เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ และประชาชน

จากนั้น นายพรเพชร ให้สัมภาษณ์ว่า ภารกิจของวุฒิสภาทั้งภารกิจปกติ และภารกิจที่เป็นบทเฉพาะกาล สิ่งเหล่านี้ควรบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ คนไทยลืมง่ายว่าปี 2557 มีอะไรเกิดขึ้น ประวัติศาสตร์บันทึกไว้แต่ไม่มีใครสนใจ วันนี้ประวัติศาสตร์ก็ต้องบันทึกไว้ ตนสั่งให้บันทึกทุกอย่างที่พูดและแสดงในวันนี้ ไม่ใช่ดีทั้งหมดหรือแย่ทั้งหมด แต่มีทั้งดีและไม่ดี หากมีอะไรที่ประชาชนจะวิจารณ์ก็ทำได้ไม่มีปัญหา นี่คือวัตถุประสงค์ของงานนี้

'ปธ.สภาฯ รัสเซีย' แฉ!! สหรัฐฯ แบนน้ำมันรัสเซีย แต่กลับเดินหน้าซื้อน้ำมันเพิ่มเกือบเท่าตัว

สหรัฐฯ เผยให้เห็นถึงความเจ้าเล่ห์ตลบตะแลง ด้วยการประกาศแบนน้ำมันรัสเซีย แต่ความจริงคือยังคงเดินหน้าซื้อเชื้อเพลิงของมอสโกในปริมาณมาก จากการเปิดเผยของ ยาเชสลาฟ โวโลดิน ประธานสภาผู้แทนราษฎรรัสเซีย (สภาดูมา) เมื่อช่วงกลางสัปดาห์

วอชิงตัน อ้างว่า ได้เคลื่อนไหวห้ามนำเข้าน้ำมันดิบรัสเซียทั้งหมด ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมบางส่วน ก๊าซธรรมชาติเหลวและถ่านหิน ในช่วงต้นเดือนมีนาคม ส่วนหนึ่งในมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานมอสโก ตอบโต้กรณีรุกรานยูเครน

"น้ำมันรัสเซียจะไม่เป็นที่ต้อนรับตามท่าเรือต่างๆ ของสหรัฐฯ อีกต่อไป" โจ ไบเดน ประธานาธิบดีอเมริกา ประกาศ ณ เวลานั้น แต่คำพูดไม่ได้มาพร้อมกับการกระทำ โวโลดิน เหน็บแนมผ่านข้อความที่โพสต์บนเทเลแกรมในวันพุธ (8 มิ.ย.)

ประธานรัฐสภารัสเซียเขียนต่อว่า "ข้อมูลจากกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ บ่งชี้ว่ามีการส่งมอบน้ำมันจากรัสเซียเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวในเดือนมีนาคม เปรียบเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ จาก 2,325 ล้านบาร์เรล เป็น 4,218 ล้านบาร์เรลตามลำดับ"

"แม้ประกาศแบน แต่ประเทศของเราขยับขึ้นจากที่ 9 สู่ลำดับ 6 ในอันดับประเทศที่ส่งน้ำมันป้อนแก่สหรัฐฯ มากที่สุด" เขากล่าว

โวโลดิน เน้นย้ำข้อเท็จจริงที่ว่าในเดือนดังกล่าว เป็นช่วงเวลาที่วอชิงตันกำลังกดดันให้อียูละทิ้งน้ำมันรัสเซีย และสุดท้ายก็ประสบความสำเร็จ "ชัดเจนว่ามันเป็นสัญญาณของ 2 มาตรฐาน" เขาระบุ "ตอนนี้ ปล่อยให้พวกนักการเมืองและข้าราชการในยุโรปอธิบายประชาชนของพวกเขาเองว่า ทำไมพวกเขาถึงต้องอดทนกับการขึ้นราคาของไบเดน"

ความเห็นดังกล่าวเป็นการพาดพิงถึงประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่พยายามเชื่อมโยงภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ราคาก๊าซและอาหารที่พุ่งทะยาน กับปฏิบัติการรุกรานยูเครนของรัสเซีย โดยให้คำจำกัดความมันว่า "การขึ้นราคาของปูติน"

คอบอลชาวไทยเฮ!! 'โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ' ทุ่มร้อยล้าน คว้าสิทธิ์ 'ยูโร 2020' ยิงสดให้ชมครบทุกนัดแบบฟรี ๆ

เชียร์ยูโร Aerosoft เชียร์ยูโร ! เชียร์ยูโร Aerosoft เชียร์ยูโร ! เชียร์ยูโร Aerosoft เชียร์ยูโร ! 

เชื่อว่าหลายคนคงยังไม่ลืมเพลง 'เชียร์ยูโร Aerosoft 2020' อีกเพลงฮิตติดหูฉบับเร่งด่วน ที่ 'ณัฐภูมิ รัฐชยากร' เนรมิตขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งถูกนำมาใช้ประกอบกับลิขสิทธิ์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือยูโร 2020 กันไม่มากก็น้อย

โดยวันนี้เมื่อปีที่แล้ว คอบอลชาวไทยได้เฮ!! หลังแบรนด์ 'รองเท้าแอร์โร่ซอฟ' ทุ่ม 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คว้าลิขสิทธิ์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือยูโร 2020 ยิงสด NBT2HD SPORT ครบ 51 นัด โดยเริ่มคิกออฟคู่แรก อิตาลี VS ตุรกี ช่วงคืนวันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน 2564

ย้อนกลับไปก่อนวันที่ 11 มิ.ย.64 มีคำถามกันหนาหูในหมู่คนไทยว่า จะมี 'ยูโร 2020' มาให้รับทางฟรีทีวีหรือไม่ เนื่องจากยังไม่มีการประกาศอย่างชัดเจนจากหน่วยงานใดๆ ว่าจะมีการนำลิขสิทธิ์สัญญาณการถ่ายทอดสด 'ฟุตบอลยูโร 2020' มาเผยแพร่ในช่วงนั้น

เหตุผลที่ทำให้เรื่องนี้ดูนิ่งๆ ไป เพราะต้องยอมรับว่า สถานการณ์ในตอนนั้น ทางภาครัฐบาลไม่สามารถนำงบภาษีที่เก็บจากประชาชนมาคืนความสุข ด้วยการไปร่วมประมูลซื้อลิขสิทธิ์มาถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ (ทีวีพูล) หรือผ่านช่องทางอื่นได้ ต้องเป็นช่องทีวีเอกชนเท่านั้น ถึงจะสามารถประมูลฟุตบอลยูโร มาถ่ายทอดสดให้คนไทยได้ดูกัน เพียงแต่ในช่วงที่ผ่านมาก็ยังไม่มีเอกชนรายใดขอซื้อลิขสิทธิ์เข้ามาถ่ายทอด จนคนไทยส่วนใหญ่น่าจะไปหวังพึ่งลิงก์เถื่อนที่ดูไปสะดุดไป อย่างไร้อรรถรส

12 มิถุนายน ของทุกปี วันต่อต้านการใช้แรงงานเด็กสากล ร่วมป้องกันและขจัดการใช้แรงงานเด็กที่เลวร้าย

12 มิถุนายนของทุกปี องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Orginazation: ILO) กำหนดให้เป็นวันต่อต้านการใช้แรงงานเด็กโลก เริ่มตั้งแต่ปี 2542

จากที่ได้ร่วมประชุมข้อตกลงร่วมกันระหว่างนานาประเทศ เพื่อให้ประเทศสมาชิกดำเนินการป้องกันและขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายให้หมดไปอย่างเร่งด่วน จนถึงขณะนี้มีประเทศสมาชิกร่วมลงนามแล้วจำนวน 178 ประเทศ
 

'นักวิชาการอิสระ' โพสต์!! เพิ่งทำงาน 8 วัน ขอลากิจ 4 วัน ขณะที่ไอ้เฒ่าเป่าหูนศ. ในไทยไม่ให้ไปรับปริญญา

นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก 'เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค' ดังนี้...

ขำ ตลกร้ายเสียจริง

“ถ้าหยุด(งาน)ไป เวลาทำงานก็น้อยลง”

แต่หลังจากทำงานไป 8 วัน….

ผมขอลากิจ 4 วันนะครัช ลูกรับปริญญาที่ต่างประเทศ

ในขณะที่ไอ้เฒ่าเป่าหูเด็กนักศึกษาในเมืองไทย

“ไม่ให้ไปรับปริญญา”

ถ้าบริษัทของคุณ หรือหน่วยราชการของคุณ มีคนเพิ่งมาทำงานใหม่ยังไม่ถึงเดือน แล้วเขาขอลากิจ !

ถ้าคุณเป็นผู้บริหาร หรือ เป็นผู้ร่วมงาน

คุณจะคิดว่า อย่างไร ?


ที่มา : https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=314988374174721&id=100566188950275

'ลอยด์ เจ.ออสติน' เตรียมเยือนไทย ร่วมหารือกับ 'บิ๊กตู่' ยกระดับความสัมพันธ์ทางทหาร 2 ประเทศให้แน่นแฟ้น

(9 มิ.ย. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันจันทร์ที่ 13 มิ.ย. 2565 กระทรวงกลาโหม กำหนดจัดพิธีต้อนรับและรับรอง นาย Lloyd J.Austin III (ลอยด์ เจ.ออสติน ที่สาม) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา และคณะในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของกระทรวงกลาโหม โดยมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้การต้อนรับ ณ ศาลาว่าการกลาโหม

เวลา 15.00 น. ​พิธีตรวจแถวกองทหารเกียรติยศผสมสามเหล่าทัพ ณ ลานอเนกประสงค์ ในศาลาว่าการกลาโหม

'สำนักการแพทย์ กทม.' พร้อมให้บริการ วัคซีนโนวาแวกซ์ ทางเลือกใหม่สำหรับคนไม่เคยฉีดวัคซีนโควิดมาก่อน

เพจเฟซบุ๊ก 'สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร' ประกาศว่า...

มาแล้ว! วัคซีนทางเลือก Novavax ที่รอคอย ทางเลือกใหม่สำหรับ 'เข็มแรก' เท่านั้น วัคซีนป้องกันโควิด Novavax พร้อมให้บริการแล้ววันนี้ โดยนัดหมายผ่านศูนย์ BFC ของ รพ.กลาง (0-2225-1354) และรพ.เจริญกรุงประชารักษ์ (0-2289-7966) ในวันและเวลาราชการ มาร่วมกันสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ไปด้วยกันนะครับ

ชาวเน็ตแห่แชร์ พาดหัวข่าวสื่อดัง น้ำท่วมขัง 'ยุคอัศวิน' พอ 'ยุคชัชชาติ' เป็นฝนโปรยความชุ่มฉ่ำหลังเลิกงาน

ขณะนี้ชาวเน็ต ได้มีการแชร์ข่าวจากเพจเฟซบุ๊กของสำนักข่าวออนไลน์แห่งหนึ่ง ที่รายงานข่าวเกี่ยวกับฝนตกน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ ในยุค พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คนปัจจุบัน

โดยเนื้อข่าวท้ังสอง ระบุเหตุการณ์ ฝนตก น้ำท่วมหลายพื้นที่ในกทม. การสัญจรของประชาชนเป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่พอดูพาดหัวข่าว กับคนละเรื่องคนละอารมณ์กันเลย ดังนี้...

ยุคอัศวิน >> ฝนถล่มกรุง น้ำท่วม น้ำขัง น้ำรอระบาย สภาพชีวิตที่เหมือนปัญหาลอยลอยมาแบบเดิม ๆ

ยุคชัชชาติ >> ฝนถล่มกรุง โปรยความชุ่มชื่นหลังเลิกงาน

ชาวเน็ตหลายคน ตั้งคำถามไปที่สำนักข่าวนั้นว่า "ทำไมเหตุการณ์เดียวกัน พาดหัวไม่เหมือนกันครับ?"


ที่มา: https://www.thaipost.net/x-cite-news/158134/

'ฝ่ายค้าน' โว!! ข้อมูลเชือด 10 รมต.ในศึกซักฟอก ใต้ยุทธการ 'เด็ดหัว สอยนั่งร้าน' ล้มรัฐบาลได้แน่

ฝ่ายค้าน เปิดยุทธการ 'เด็ดหัว สอยนั่งร้าน' ซักฟอก 10 รมต. 3 ป.นำทีมถูกเด็ด เผย 15 มิ.ย. พร้อมยื่น มั่นใจข้อมูลแน่น แง้ม มีใบเสร็จทางการเมืองล้มรัฐบาลได้แน่

(9 มิ.ย.) ที่รัฐสภา พรรคร่วมฝ่ายค้าน 6 พรรค ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย, พรรคก้าวไกล, พรรคเสรีรวมไทย, พรรคประชาชาติ, พรรคเพื่อชาติ และพรรคพลังปวงชนไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน แถลงว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติร่วมกันว่าจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ในเวลา 10.00 น. วันที่ 15 มิ.ย.นี้ โดยกำหนดการอภิปรายครั้งนี้ว่าเป็นยุทธการ 'เด็ดหัว สอยนั่งร้าน' ดังนั้น จะเป็นการอภิปรายเด็ดหัวนายกรัฐมนตรี และครม.เป็นรายบุคคล ในประเด็นข้อกล่าวหาเกี่ยวกับความผิดพลาดล้มเหลวการบริหารราชการแผ่นดิน จงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญและมาตรฐานจริยธรรม ส่อทุจริตเอื้อประโยชน์ ไม่ปฏิบัติตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาหรือเรื่องที่ฝ่ายค้านเคยอภิปรายทักท้วงไว้ การละเมิดสิทธิมนุษยชน และทำลายระบอบประชาธิปไตยระบบรัฐสภา ซึ่งในกรอบ 6 เรื่องนี้ เรามั่นใจในข้อมูลจาก 6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน บวกกับพรรคไทยศรีวิไลย์ที่จะมาร่วมอภิปรายด้วย

เมื่อถามว่า การอภิปรายครั้งนี้จะส่งผลให้ล้มรัฐบาลได้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พิจารณาจากข้อกล่าวหาในประเด็นทุจริตทำผิดกฎหมาย เรามั่นใจ เพราะเป็นข้อกล่าวหาที่ชี้ชัดลงไป เรามีใบเสร็จทางการเมืองที่จะชี้ให้เห็น จึงมีความมั่นใจ โดยเฉพาะรัฐมนตรีที่ทำผิดต่อกฎหมาย ส่วนนายกฯ จะเป็นผลพวงจากหน้าที่ที่ท่านกำกับดูแล 

ทั้งนี้ ยืนยันว่า เสียงของฝ่ายค้านเหนียวแน่น แม้ว่าอาจแปรปรวนไปบ้างจากการลงมติที่ผ่านมา แต่เราไม่เคยนับคนกลุ่มนั้นว่าอยู่ในกลุ่มฝ่ายค้านอยู่แล้ว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top