Saturday, 26 April 2025
TheStatesTimes

จิบชายามบ่าย ปัง ๆ สไตล์ผู้ดีอังกฤษ บนโรงแรมห้าดาวสุดหรูใจกลางกรุงเทพ

สายจิบชามาทางนี้! วันนี้บอสจะพาไปจิบชายามบ่ายแบบหรูหราปัง ๆ บนโรงแรมห้าดาวอย่าง Siam Kempinski Hotel Bangkok กับ Afternoon Tea ที่ หนุมานบาร์ (Hanumanbar) Afternoon Tea ที่ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ เป็นอีกหนึ่งบาร์ชายามบ่ายที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ บวกกับได้สัมผัสประสบการณ์การดื่มชาแบบผู้ดีอังกฤษทั้งทางด้านรสชาติ และบรรยากาศรอบๆที่สบาย ๆ บวกกับเสียงดนตรี รู้สึกเหมือนนั่งจิบชาอยู่ที่สวนดอกไม้ สำหรับใครที่เป็นสายชอบดื่มชากับทานขนม แนะนำที่นี่ให้เป็นหนึ่งในชุดน้ำชายามบ่าย และตอนนี้เป็นช่วง Special กับSummery Dream Afternoon Tea – Limited Edition Tea

เปิดทุกวัน : 2PM - 5AM (สำหรับ Summery Dream Afternoon Tea ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2565)
คะแนนสำหรับที่นี่
ราคา 8.5/10  
บรรยากาศ 9/10 
การบริการ 8.5/10

บรรยากาศที่นั่งหน้าบาร์ที่หันหน้าเข้าหาโถงของโรงแรม

หนุมานบาร์ (ขึ้นมาจากที่จอดรถจะอยู่ด้านซ้ายมือ)

โรงแรมตกแต่งด้วยดอกไม้โทนชมพู ม่วง

ตู้เค้กด้านหน้าบาร์ แต่ละอันน่ากินมาก เห็นแล้วอยากสั่งทุกอันเลย

ฟังดนตรีไป จิบชาไป

เมนูชา และ Afternoon tea ของเราวันนี้

เราสั่งชาเป็นอารมณ์ Mixed Fruit รสชาติหอมเบอร์รี่มาก

"สนธิรัตน์" แนะ รัฐต้องกล้าตัดสินใจ เร่งหาแหล่งพลังงานราคาถูก และชี้แจงประชาชน

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์  เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุ ข้าวแกง อาหารตามสั่งขึ้นราคา อย่างกะเพราไข่ดาว 1 จานนี้วันนี้ 55 บาทแล้ว  ตนได้รับคำตอบว่า ที่ราคาขึ้นก็เพราะผัก และหมูแพง แถมแก๊สก็จะขึ้นราคา อย่างนี้ต้องเรียกว่าต้นทุนขึ้น ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ

เรื่องราคาน้ำมันแพง วันนี้รัฐบาลทำอยู่ 2 อย่าง คือ ชดเชยจากเงินกองทุนน้ำมัน กับ ลดภาษี เพราะราคาน้ำมันดิบที่ผ่านมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม ก็อยู่ในระดับที่สูงกว่า 110 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และมีแนวโน้มว่าอาจจะไปแตะ 120 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ได้ และตอนนี้กองทุนน้ำมันฯ ก็ติดลบอยู่กว่า 8 หมื่นล้านบาท (สิ้นเดือนพฤษภา) ถ้าจะกู้มาใช้มาช่วย ก็ต้องคิดว่า เราจะมีหน้าตักตรงนี้ได้นานอีกแค่ไหน

อนุดิษฐ์ ตอก “โฆษกทัพเรือ” เมินยุทธศาสตร์ชาติ มุ่งซื้อโดรน UAV ของนอก ทั้งที่ไทยผลิตเองได้-ถูกกว่าเท่าตัว

“อนุดิษฐ์” ขยี้ปม “ทัพเรือ” จัดซื้อโดรน UAV 4 พันล้านบ.แต่ไร้อาวุธติดตั้ง หวั่นขอซื้ออาวุธทีหลังแล้วมีปัญหา ติดใจไม่สนยุทธศาสตร์ชาติ ที่เน้นส่งเสริมอุตฯป้องกันประเทศของไทย ยัน สทป.ผลิตได้เหมือนกัน แถมราคาถูกกว่าเท่าตัว สอนมวย “โฆษก ทร.” ตอบไม่ตรงคำถาม ยิ่งทำให้คนสงสัยว่ามีเบื้องหลังหรือไม่อย่างไร

จากกรณีที่ พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ออกชี้แจงกรณีที่ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. และนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ที่อภิปรายในระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ถึงโครงการจัดหาอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ประจำฐานบินชายฝั่ง ของกองทัพเรือ วงเงิน 4,070 ล้านบาทๅ ว่ามีความโปร่งใส และมีการแข่งขันราคาที่เป็นธรรมนั้น

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ต้องขอเน้นย้ำว่า ประเด็นที่ตนตั้งข้อสังเกตขึ้นมานั้น เป็นไปเพื่อปกป้องภาษีของพี่น้องประชาชนที่จะถูกใช้จ่ายไปอย่างไม่คุ้มค่า หรือที่แย่ไปกว่านั้นอาจเข้าข่ายการทุจริตประพฤติผิดมิชอบ จึงขอให้กองทัพเรือช่วยชี้แจงชัดๆก่อนว่า ในเมื่อกองทัพเรือระบุความต้องการจัดหา UAV ที่สามารถใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายได้ ทำไมจึงตัดเรื่องการส่งมอบอาวุธที่ต้องมาพร้อมกับ UAV ทิ้งไป เพราะการที่กองทัพเรืออ้างว่าสามารถจัดหาอาวุธมาติดตั้งได้ภายหลังนั้น ย่อมย้อนแย้งกับความต้องการในการจัดหา UAV ติดอาวุธของตัวเอง เพราะขอเงินภาษีประชาชนกับสภาผู้แทนราษฎร โดยบอกว่าจะไปซื้อ UAV ติดอาวุธ 3 ลำ ด้วยเงิน 4,070 ล้านบาท แปลว่า กองทัพเรือต้องซื้อ UAV ที่สามารถปฏิบัติภารกิจโจมตีเป้าหมายได้ แต่สุดท้ายกลับไปเซ็นสัญญาซื้อ UAV จำนวน 7 ลำ แต่ไม่ซื้ออาวุธมาด้วย ซึ่งแปลความว่า หลังจากการจัดซื้อครั้งนี้แล้ว กองทัพเรือต้องตั้งงบประมาณเพื่อจัดหาอาวุธมาติดตั้งให้ UAV อีก

“แล้วคราวนี้ไม่ใช่ยอดแค่ 3 ลำ แต่ต้องจัดหาอาวุธมาให้ทั้ง 7 ลำ แล้วสภาฯจะไปอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมให้อีกได้อย่างไร เพราะให้ไปตั้ง 4 พันล้านบาทแล้วเพื่อไปซื้อ UAV ติดอาวุธ แต่กลับได้มาแค่ UAV ที่ไม่มีอาวุธ เพราะฉะนั้นคำถามของผม ตรงไปตรงมาแบบนี้ ขอให้กองทัพเรือช่วยตอบให้ตรงคำถามด้วย” น.อ.อนุดิษฐ์ ระบุ

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวต่อว่า ที่สำคัญไปกว่านั้น หากในอนาคตกองทัพเรือของบประมาณไปซื้ออาวุธมาติดตั้งเพื่อนำไปปฏิบัติภารกิจ แต่ประเทศผู้ขายปฏิเสธไม่ขายให้กับประเทศไทย กองทัพเรือช่วยตอบด้วยว่าจะให้ใครรับผิดชอบ UAV ติดอาวุธ ที่ปฏิบัติภารกิจไม่ได้ เรื่องนี้ต้องบันทึกไว้เลยว่าตกลงใครต้องรับผิดชอบ เพราะไม่เช่นนั้นก็จะซ้ำรอยกับเรือดำน้ำที่ซื้อเครื่องยนต์เยอรมันมาติดตั้งไม่ได้ แต่ไม่เห็นมีใครออกมารับผิดชอบให้เป็นไปตามสัญญา ส่วนประเด็นที่สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) มีเอกสารยืนยันว่า ประเทศไทยมีขีดความสามารถในการผลิต UAV ขนาดกลาง หรือ MALE UAV (Medium Altitude Long Endurance) ตาม TOR เดียวกันกับที่กองทัพเรือซื้อด้วยราคาที่ถูกกว่าเท่าตัวนั้น โดยกองทัพเรือซื้อจากต่างประเทศ 4 พันล้านบาท แต่ผลิตในประเทศราคาประมาณ 2 พันล้านบาท แต่กองทัพเรือชี้แจงว่าได้ตรวจสอบแล้วยังไม่มีบริษัทในประเทศเคยผลิต UAV ตาม TOR ที่กองทัพเรือต้องการนั้น แต่บริษัทของประเทศอิสราเอลที่กองทัพเรือไทยสั่งซื้อ UAV นั้น วันแรกที่กองทัพอิสราเอลสั่งซื้อ UAV ลำแรกจากบริษัทนี้ ทางบริษัทก็ไม่เคยผลิต UAV แบบนี้มาก่อนเช่นกัน แต่บริษัทก็สามารถสร้างขึ้นมาตามความต้องการของกองทัพอิสราเอล โดยหลังจากบริษัทส่งมอบ UAV ลำแรก กองทัพอิสราเอลก็สั่งซื้อมาเรื่อยๆ จนอุตสาหกรรมด้าน UAV ของอิสราเอล เป็นสินค้าส่งออกไปหลายประเทศในขณะนี้

“การที่กองทัพเรือชี้แจงว่า ได้ตรวจสอบแล้วยังไม่มีบริษัทในประเทศเคยผลิต UAV ตาม TOR ที่กองทัพเรือต้องการนั้น คำตอบเช่นนี้ไม่ควรออกมาจากกองทัพเรือได้เลย เพราะแปลว่ากองทัพเรือไม่ให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทย ที่เป็น S Curve ตัวที่ 11 ตามที่กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติเลยแม้แต่น้อย กรณีที่ของประเทศอิสราเอล วันแรกที่กองทัพเขาสั่งกับบริษัทในประเทศก็ยังไม่มีการผลิตเช่นกัน แต่ตอนนี้เขาสามารถผลิตแล้วจำหน่ายไปทั่วโลกแล้ว ถือเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของประเทศโดยแท้ เรื่องแบบนี้ทำไมกองทัพเรือถึงไม่เอาเป็นตัวอย่าง” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว

สำนักงานตำรวจแห่งชาติชี้แจงไม่เคยสั่งการให้เฝ้าระวังกลุ่มบุคคลสัญชาติอิหร่านและคนไทยมุสลิมชีอะห์ที่อาจแฝงตัวเข้ามาก่อเหตุความไม่สงบเรียบร้อยภายในประเทศ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติชี้แจงไม่เคยสั่งการให้เฝ้าระวังกลุ่มบุคคลสัญชาติอิหร่านและคนไทยมุสลิมชีอะห์ที่อาจแฝงตัวเข้ามาก่อเหตุความไม่สงบเรียบร้อยภายในประเทศ

ตามที่ปรากฏข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ อ้างอิงเว็บไซต์สำนักข่าว Bangkok Post ที่อ้างว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีข้อสั่งการลับไปยังหน่วยงานในสังกัดให้เฝ้าระวังกลุ่มบุคคลสัญชาติอิหร่านและคนไทยมุสลิมชีอะห์ที่อาจแฝงตัวเข้ามาก่อเหตุความไม่สงบเรียบร้อยภายในประเทศซึ่งเป็นประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อ

ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน นั้น พล.ต.ต.เขมรินทร์ หัสศิริ ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ/รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเรียนให้ทราบว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง สำนักงานตำรวจแห่งชาติมิได้มีการสั่งการให้เฝ้าระวังกลุ่มบุคคลข้างต้น 

พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้กองการต่างประเทศตรวจสอบยืนยันกับประเทศที่เกี่ยวข้อง ผ่านช่องทางตำรวจสากลเกี่ยวกับการจับกุมคนร้ายที่ประเทศอินโดนีเซียในปี 2564 ผลปรากฏว่าทางการตำรวจอินโดนีเซียมิได้มีการประสานข้อมูลการข่าวกับทางการตำรวจไทยในการขยายผลถึงบุคคลอื่นที่อาจมี ส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในประเด็นที่เกี่ยวกับความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มี การประสานการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องในการรักษาสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม APEC 2022  ในปีนี้ 

'วิสาร' ชี้ 8 ปี 'ประยุทธ์' คนไทยจนเพิ่มขึ้น 10 ล้านคน ลั่นอภิปรายไม่ไว้วางใจพุ่งเป้า 'บิ๊กตู่' ปฏิรูปล้มเหลวทุกด้าน

นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.จังหวัดเชียงราย พรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคฝ่ายค้านพุ่งประเด็นไปที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่องผลการบริหารงานที่ผ่านมา 8 ปี ล้มเหลวทุกด้านโดยเฉพาะการแก้ปัญหาประเทศที่ไม่สามารถ พาประชาชน ก้าวข้ามความยากจนไปได้เลย

ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่พลเอกประยุทธ์ รับปากไว้ไม่เคยทำได้แม้แต่เรื่องเดียว ไม่สามารถปฏิรูปประเทศได้เลย เมื่อทำไม่ได้ มักอ้างปัญหารัฐบาลที่ผ่านมาทั้งเรื่องการบริหารการเงินการคลัง อ้างผลจากโครงการจำนำข้าว แต่ไม่พูดถึงการทุ่มงบประมาณให้เหล่าทัพ 8 ปี ไม่ต่ำกว่า 2 ล้านล้าน อยากถามพลเอกประยุทธ์ นี่หรือคือผลการปฏิรูปกองทัพนายพลกว่า 1,500 คนนั่งตากแอร์ไปวันๆ ไม่มีงานทำ

เชียงใหม่-กลุ่มงานจราจรฯ จัดประชุมประจำเดือน และการฝึกอบรมทบทวนอาสาจราจร ครั้งที่ 1

วันที่ 8 มิถุนายน 2565 เวลา 09.00 - 12.00 น. ณ.ที่ทำการกลุ่มงานจราจรตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ. เจน โสภา ผกก.กลุ่มงานจราจรฯ มอบหมายให้ พ.ต.ท.ศุภชัย จันทรา รอง ผกก.กลุ่มงานฯ และงานศึกษาอบรม ได้ดำเนินการจัดการประชุมประจำเดือน และการฝึกอบรมทบทวนอาสาจราจร ครั้งที่ 1 ประจำเดือน มิถุนายน 2565 

‘มะกัน’ พล่าน!! หวั่นจีนแผ่อิทธิพลผ่านอ่าวไทย หลังสะพัด!! ซุ่มปักธงฐานทัพเรือลับในกัมพูชา

(8 มิ.ย.65) สำนักข่าว Washington Post รายงานว่า จีนเตรียมเปิดฐานทัพเรือของตนในท่าเรือเรียม ประเทศกัมพูชาอย่างลับๆ หลังจากที่ซุ่มวางแผนพัฒนาท่าเรือริมฝั่งอ่าวไทยมานาน และเตรียมจะทำพิธีวางศิลาฤกษ์ภายในสัปดาห์นี้ 

ทั้งนี้สื่อสหรัฐฯ ได้อ้างอิงจากแหล่งข่าววงในของรัฐบาลกัมพูชา ถึงแผนการปักธงยุทธศาสตร์ในทะเลจีนใต้ ที่เลือกใช้ท่าเรือของกัมพูชาในอ่าวไทยตั้งฐานทัพเรือ ภายหลังจากที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลจีนได้เซ็นข้อตกลงด้านความมั่นคงกับประเทศหมู่เกาะโซโลมอนไปแล้ว ไว้ว่า ส่วนหนึ่งมาจากความไม่ประสบผลสำเร็จใจการเจรจากับกลุ่มประเทศในแปซิฟิกอีก 10 ชาติ เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานั้น

และหากจีนทำได้สำเร็จ ท่าเรือเรียมจะกลายเป็นฐานทัพจีนแห่งแรกในย่านอินโด-แปซิฟิก และเป็นฐานทัพเรือแห่งที่สอง นอกดินแดนของจีนต่อจากฐานทัพที่ประเทศจิบูตี ด้านชายฝั่งแอฟริกาตะวันออก รวมถึงจีนจะขยับสร้างเครือข่ายอิทธิพลด้านการทหารผ่านโครงการฐานทัพเรือลับในอีกหลายประเทศทั่วโลกอีกด้วย

สำหรับโครงการฐานลับเรือลับจีน เคยมีรายงานข่าวมาตั้งแต่ช่วงปี 2019 ที่จีนได้ตกลงกับรัฐบาลกัมพูชาในด้านความร่วมมือทางทหาร โดยแลกกับการให้จีนได้ใช้พื้นที่ในการตั้งฐานทัพเรือได้อย่างลับ ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชา และ สหรัฐฯ ไม่น้อย แต่โครงการนี้ก็เงียบไปจนกระทั่งกลายเป็นข่าวขึ้นมาในวันนี้ 

แต่หลังจากที่สื่อสหรัฐฯ รายงานข่าวความคืบหน้าในโครงการฐานทัพเรือลับที่ท่าเรือเรียมไม่นาน นายไพ สีพัน หัวหน้ากองโฆษกรัฐบาลกัมพูชา ก็ออกมาปฏิเสธว่า “ไม่เป็นความจริง” โดยทางรัฐบาลกัมพูชาไม่ได้อนุญาติให้จีนใช้กัมพูชาตั้งฐานทัพ หรือมีพิธีวางศิลาฤกษ์ดังที่มีการกล่าวอ้าง หากแต่เป็นเพียงการเปิดโรงงานซ่อมบำรุงเรือรบ และก่อสร้างทางลาดเท่านั้น 

กองทัพอากาศ  ดำเนินการจัดการทดสอบการใช้กำลังทางอากาศ  ประจำปี 2565

พลอากาศเอก คงศักดิ์ จันทรโสภา ผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมปฏิบัติการในการทดสอบการใช้กำลังทางอากาศ กองทัพอากาศ ทั้ง 3 แห่ง เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2565 โดยมีรายละเอียดดังนี้ 

- ตรวจความพร้อมหน่วยบินที่เข้าร่วมทดสอบฯ และเยี่ยมชมปฏิบัติการเตรียมความพร้อมของหน่วยบินขับไล่สกัดกั้นที่จะทำการขึ้นบินสกัดกั้นอากาศยานที่ไม่ทราบฝ่ายเข้าล้ำน่านฟ้าของประเทศไทย (Hot scramble)  ณ กองบิน 4 (อำเภอตาคลี  จังหวัดนครสวรรค์) 

- ตรวจความพร้อมการปฏิบัติการทางอากาศ ณ กองบิน 1 (อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา) 

- ชมภาพสถานการณ์การทดสอบใช้กำลังทางอากาศ และ ชมการสาธิตการปฏิบัติการทางอากาศ ณ สนามฝึกใช้อาวุธทางอากาศชัยบาดาล (อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี)

สำหรับการทดสอบการใช้กำลังของกองทัพอากาศ (Air Operations) กำหนดขึ้นระหว่างวันที่ 6-10 มิถุนายน 2565 โดยมี พลอากาศโท ตากเพชร พินพันธุ์ รองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ เป็น ผู้อำนวยการทดสอบการใช้กำลังของกองทัพอากาศ ประจำปี 2565 มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบการบัญชาการและควบคุมการปฏิบัติทางอากาศในการปฏิบัติทางอากาศยุทธวิธีต่าง ๆ และการป้องกันทางอากาศรวมถึงการปฏิบัติการร่วมกับเหล่าทัพอื่น อีกทั้งยังทดสอบในภารกิจที่มิใช่การรบในการทดสอบการลำเลียงผู้ป่วยในระบบการแพทย์ฉุกเฉินด้วยเฮลิคอปเตอร์กองทัพอากาศร่วมกับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) โดยจัดตั้งศูนย์ควบคุม ณ กองบัญชาการควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ  

TOPIC 11 : เมื่อหนี้สาธารณะใช้พัฒนาชาติคู่ขนานแผน สมานแผลเศรษฐกิจแบบคนไทยไม่เป็นหนี้

รู้ไว้ก่อนด่าลุง!! 
เมื่อ ‘หนี้สาธารณะ’ ใช้พัฒนาชาติ
คู่ขนานแผน ‘สมานแผลเศรษฐกิจ’ 
ในแบบที่คนไทย ไม่ต้องเป็นหนี้ใคร!!

'นักวิชาการอิสระ' ชี้ ไม่มีคำสั่งจับตาชาวอิหร่าน ย้ำ!! 'ไทย-อิหร่าน' เป็นมิตรที่ดีต่อกัน

เมื่อไม่นานมานี้ ดร.โญธิน มานะบุญ นักวิชาการอิสระ ด้านความมั่นคง และประวัติศาสตร์สงครามสมัยใหม่ ครับ ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า...

กระทรวงการต่างประเทศยืนยันว่า คำสั่งลับ สตช. ให้ตร.เฝ้าระวังความเคลื่อนไหวของชาวอิหร่านเป็นข่าวปลอม (Fake news)

ตามที่มีรายงานข่าวเมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๕ ระบุว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีคำสั่งลับ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าระวังความเคลื่อนไหวของบุคคลสัญชาติอิหร่านนั้น 

กระทรวงการต่างประเทศได้ตรวจสอบกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานด้านความมั่นคงของไทย และขอชี้แจงว่ารายงานข่าวดังกล่าวไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติมิได้ให้ข้อมูลข่าวดังกล่าว

กระทรวงการต่างประเทศขอยืนยันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและอิหร่านเป็นความสัมพันธ์ฉันท์มิตรที่ดียิ่งมาตลอดเวลาช้านาน และเป็นความสัมพันธ์ที่ตั้งอยู่บนความเคารพซึ่งอธิปไตยและศักดิ์ศรีซึ่งกันและกัน 

รัฐบาลอิหร่านได้ให้คำมั่นกับประเทศไทยว่า จะดูแลอย่างดียิ่งที่จะไม่ให้มีสิ่งใดมาเป็นปัจจัยทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกันได้ทั้งสิ้น ข่าวที่มีการนำเสนอโดยมิได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริงและเป็นการกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบ และนำไปสู่ความเสียหายในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ที่มา นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ (โฆษกกระทรางการต่างประเทศ)


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top