Friday, 25 April 2025
TheStatesTimes

ไม่แปลกที่ ‘หมีขาว’ จะกริ้ว!! ส่องการขยายอิทธิพลของนาโต ตั้งแต่ปี 1949-2022

จากจุดเริ่มต้นขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต มีประเทศที่ร่วมก่อตั้ง 12 เมื่อปี 1949 แต่หลังจาก 70 ปีผ่านไป กลับมีสมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

หากสำรวจตามแผนที่แล้ว จะเห็นได้ว่า จากเดิมประเทศสมาชิกนาโต ที่อยู่ห่างไกลจากรัสเซีย ก็เริ่มขยับเข้าใกล้มากขึ้น แทบจะประชิดชายแดนกันเลยทีเดียว

ปัจจุบัน นาโตมีสมาชิก 30 ประเทศ และอาจจะเพิ่มขึ้นเป็น 32 ประเทศ เพราะสวีเดนและฟินแลนด์ เพิ่งยื่นใบสมัครรอการอนุมัติ จึงเป็นอีกหนึ่งชนวนเหตุที่ทำให้รัสเซียไม่พอใจอย่างยิ่ง เนื่องจากฟินแลนด์ มีพรมแดนฝั่งตะวันออกติดกับรัสเซียมากกว่า 1 พันกิโลเมตรนั่นเอง

'Netflix' ทดลองเก็บเงินค่าแชร์แอ็กเคานต์ แต่พบบางรายยังจ่ายเงินเท่าเดิม

เมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Netflix ใน 3 ประเทศ ได้แก่ ชิลิ, คอสตาริกา และเปรู ได้เริ่มทดสอบระบบสมาชิกแบบใหม่ ก็คือไม่ให้ผู้ใช้งานที่ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน แชร์รหัสผ่านและใช้แอ็กเคานต์ร่วมกัน

ซึ่งถ้าอยากแชร์รหัสผ่านกับบุคคลนอกครัวเรือน ก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่จะไม่แพงเท่าการเปิดบัญชีใหม่

ล่าสุด Rest of World เว็บไซต์ข่าวเทคโนโลยีได้ทำการสำรวจกับผู้ใช้งาน Netflix ในประเทศเปรู ที่มีการแชร์รหัสผ่านกับผู้อื่น พบว่า...

ผู้ใช้งานบางรายยังไม่ถูกเรียกเก็บเงินเพิ่ม แม้ว่าระบบสมาชิกแบบใหม่นี้ จะประกาศใช้มาแล้วกว่า 2 เดือน
หรือบางรายก็ไม่ทำการยืนยันตัวตนว่าอยู่คนละบ้าน จึงยังสามารถแชร์รหัสผ่านกันได้ตามปกติ

ส่วนบางรายมีการเรียกเก็บเงินเพิ่ม เลยทำให้พวกเขาพวกตัดสินใจยกเลิกบัญชี Netflix ทันที

อย่างไรก็ดี โดยรวมแล้ว Netflix ยังขาดความชัดเจนเกี่ยวกับคำว่า Household หรือการห้ามแชร์รหัสผ่านกับคนที่อยู่คนละบ้าน
 

‘ยิ่งลักษณ์’ ฉะ ‘บิ๊กตู่’ อ้างหนี้สาธารณะเพิ่ม เพราะรับจำนำข้าวหรือบริหารงานไม่เป็น

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 วงเงิน 3.18 ล้านล้านบาท ระบุว่า...

จากที่คุณประยุทธ์ชี้แจงในการอภิปรายงบประมาณปี 2566 และได้มีการพาดพิงรัฐบาลดิฉันว่าต้องใช้หนี้โครงการรับจำนำข้าวไปแล้วกว่า 7 แสนล้านบาท รู้สึกได้ทันทีว่าเป็นคำกล่าวหาเดียวกันที่เคยใช้มาเมื่อหลายครั้ง ซึ่งดิฉันก็ได้ชี้แจงไปแล้วเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2564 ตามลิงค์นี้ค่ะ https://www.facebook.com/.../a.20100121.../4413336935377394/

ดิฉันจึงอยากขอฝากอะไรไว้ให้เป็นแง่คิดระหว่างพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีว่า แม้รัฐบาลดิฉันถูกโจมตีอย่างหนักว่า “สร้างหนี้” ทั้งๆ ที่สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่เพียง 45.91% แต่หลังรัฐประหารผ่านไป 8 ปี หนี้ได้พุ่งขึ้นไปที่ 60.58% โดยรัฐบาลคุณประยุทธ์จัดทำงบประมาณขาดดุลมากขึ้นๆ ทุกปี

หนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นในช่วง 8 ปีที่ผ่านมามีจำนวนสูงถึง 4.4 ล้านล้านบาท ขณะที่รัฐบาลยังมีแผนการก่อหนี้ไปเรื่อยๆ อย่างไร้ยุทธศาสตร์ของการเพิ่มรายได้ ผิดหลักการที่ต้องใช้เงินกู้เพื่อทำให้เศรษฐกิจขยายตัว และเมื่อขณะนี้ประชาชนไม่มีรายได้เพิ่ม หนี้สินภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้น รัฐบาลจึงไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้เพียงพอ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ ไม่สามารถลดการขาดดุลงบประมาณลง 

พร้อม ‘คว่ำบาตร’ รัสเซียทุกด้าน เว้นพลังงาน ด้านหมีขาวสวน ได้ประโยชน์แต่ทำตัวเป็นอริ

ญี่ปุ่นประกาศกร้าวจะไม่ ‘คว่ำบาตร’ พลังงานรัสเซีย หวั่นกระทบความมั่นคง เจอรัสเซียสวนหมัดได้ผลประโยชน์ แต่ยังทำตัวปฏิปักษ์ แบบนี้ก็ได้เหรอ?
ญี่ปุ่นประกาศชัดจะไม่ ‘คว่ำบาตร’ พลังงานรัสเซีย เพราะ จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงด้านพลังงาน ด้านรัสเซียย้อนกลับญี่ปุ่น ได้ประโยชน์จากพลังงานรัสเซีย แต่กลับทำตัวเป็นปฏิปักษ์

สำนักข่าว RT ของรัสเซีย รายงานว่า นายโคอิชิ ฮากิอุดะ รัฐมนตรีการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่นได้แถลงต่อรัฐสภา เมื่อวานนี้ยืนยันว่า ญี่ปุ่นจะไม่ยกเลิกโครงการก๊าซธรรมชาติเหลวซัคคาลิน-2 กับรัสเซีย โดยกล่าวว่าโครงการนี้เป็นผลงานของรัฐบาลชุดก่อนๆ ที่ต้องใช้ความพยายามอย่างหนักกว่าจะได้มา และว่าอุปกรณ์และเครื่องจักรต่างๆ รวมทั้งสิทธิการเช่าเป็นของรัฐบาลและภาคเอกชนญี่ปุ่น 
 

BTS ตบเท้าเข้าทำเนียบขาว พบ ‘ไบเดน’ จี้!! สหรัฐฯ สกัดกระแสเหยียดเชื้อชาติ

BTS บอยแบนด์ดังจากเกาหลีใต้ ที่สร้างชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก ได้มีโอกาสเข้าพบ โจ ไบเดน ผู้นำแห่งสหรัฐอเมริกา ถึงทำเนียบขาวในวันนี้ โดยพวกเขาได้ชูประเด็นต่อต้านกระแสการเหยียดชาวเอเชีย และการก่อคดีอาชญากรรมที่พุ่งเป้าหมายที่กลุ่มชาวเอเชียในสหรัฐฯ เป็นสำคัญ ซึ่งพวกเขาหวังว่าการได้มาปรากฏตัวถึงทำเนียบขาวในวันนี้ จะทำให้ประเด็นดังกล่าวเป็นที่ตระหนัก และรัฐบาลสหรัฐฯ ควรให้ความสำคัญอย่างจริงจังมากขึ้น 

พัค จี-มิน หนึ่งในสมาชิกวง BTS ได้ให้สัมภาษณ์ว่า พวกเขารู้สึกหดหู่ใจกับคดีอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังต่อชาวเอเชียในสหรัฐอเมริกาเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในระยะนี้ และเพื่อต้องการหยุดการกระทำดังกล่าว หรือ สนับสนุนผู้ที่ทำหน้าที่ดูแลปัญหาเหล่านี้ พวกเราจึงขอใช้โอกาสนี้ เป็นกระบอกเสียงให้สังคมทั่วไปได้รับรู้อีกครั้ง

ชูกา หรือ มิน ยุน-กิ อีกหนึ่งในสมาชิกวง ยังได้กล่าวอีกว่า ไม่ผิดที่คนเราจะมีความแตกต่างกัน แต่ความเสมอภาคในสังคมต้องเริ่มจาการที่เราเปิดใจรับความแตกต่างของกันและกันได้ 

สำหรับการต่อต้าน และมุ่งทำร้ายชาวเอเชียในประเทศตะวันตก เริ่มต้นจากการกล่าวโทษว่าจีนเป็นต้นกำเนิดของเชื้อ Covid-19 ที่ปลุกกระแสความเกลียดชังโดยอดีตผู้นำสหรัฐฯ อย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ที่กลายเป็นปัญหาเรื้อรังมาจนถึงวันนี้ และทำให้คดีอาชญากรรมซึ่งมีเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายเป็นชาวเอเชียพุ่งสูงขึ้นอย่างมากในสหรัฐฯ เฉพาะปี 2021 ที่ผ่านมา โดยข้อมูลจาก Center for the Study of Hate and Extremism พบว่ามีคดีอาชญากรรมต่อชาวเอเชียในสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นถึง 339% 

ในขณะที่ BTS วง K-Pop จากเกาหลีใต้ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก เป็นหนึ่งในศิลปินกลุ่มที่มักสอดแทรกประเด็นทางสังคมในเนื้อเพลง และการจัดแคมเปญร่วมกับกลุ่มแฟนคลับอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วงเปิดตัวในปี 2013 อีกทั้งในเดือนมิถุนายน 2020 แฟนคลับของวง ก็เคยได้จัดร่วมจัดแคมเปญระดมเงินบริจาคได้ถึง 1 ล้านดอลลาร์ ผ่านแฮชแท็ก #MatchAMillion เพื่อสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่ม Black Lives Matter 

‘กรุณพล' แจง!! 'งบช้างป่วย' ไม่ใช่การลดบำนาญขรก. แต่ลดรายจ่ายประจำป้อนระบบราชการที่ใหญ่โต

กรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ภายหลังจากพรรคก้าวไกลประกาศคว่ำงบ 66 มีความพยายามบิดเบือนคำอภิปรายของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่กล่าวถึง 'งบช้างป่วย' เช่น กรณีของ ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่รีบออกมาตีธงตั้งแต่ก่อนการอภิรายว่า พรรคก้าวไกลต้องการของการคว่ำงบประมาณเนื่องมาจากไม่พอใจการจัดสรรงบประมาณแบบเดิมที่ส่วนใหญ่ใช้ไปกับงบบำนาญและสวัสดิการข้าราชการ ต่อมายังมีการกระจายความเข้าใจผิดแบบนี้ส่งต่อกันไปในโซเชี่ยลมีเดียนั้น

กรุณพล กล่าวว่า ต้องยืนยันว่า พรรคก้าวไกลไม่มีและไม่เคยมีนโยบายลดเงินเดือนข้าราชการหรือบำนาญ แต่สิ่งที่ พิธา อภิปรายคือการฉายให้เห็นภาพรวมของงบประมาณว่า ส่วนใหญ่ใช้ไปกับอะไร และมี 'งบประจำ' อะไรที่ป้อนระบบราชการใหญ่โตแต่เทอะทะเหมือนช้างป่วยที่สามารถปรับลดได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นงบสัมมนา งบดูงานเมืองนอก งบโครงการที่ทับซ้อนกัน รวมถึงงบกลางที่เป็นเงินสำรองเพื่อเปิดโอกาสให้รัฐบาลเอาไปใช้ได้ตามใจชอบ เป็นต้น

NGO ต่างจาก Lobbyist อย่างไร??

เป็นที่ถกเถียงในสังคมมาพักใหญ่ๆ แล้ว เกี่ยวกับ 'พ.ร.บ. ควบคุม NGO' ที่คนบางกลุ่มบางพวกนำมาอ้างว่าจะลิดรอนสิทธิเสรีภาพในการชุมนุม การรวมกลุ่ม หรือรับเงินจากต่างชาติ จนนำมาซึ่งการประท้วงเพื่อให้พ.ร.บ.ฉบับนี้ไม่ถูกนำมาบังคับใช้

อย่างไรก็ตาม หลายประเทศทั่วโลกก็มีกฎหมายแนวๆ นี้ บังคับใช้ โดยเฉพาะประเทศเสรีตะวันตก อย่างเช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย สหภาพยุโรป หรืออีกหลายประเทศ

อย่างในสหรัฐอเมริกา มีกฎหมายที่ชื่อว่า FARA (Foreign Agents Registration Act) ซึ่งเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียองค์กรต่างชาติ องค์กรซึ่งเป็นตัวแทนของต่างชาติ หรือรับเงินต่างชาติเข้ามา ซึ่งเป็นกฎหมายเกี่ยวกับความมั่นคงล้วนๆ เพราะมีไว้ควบคุมการเข้ามาแทรกแซง หรือครอบงำ หรือมีอิทธิพลของต่างชาติในการเมืองสหรัฐอเมริกา

หากมองลึกเข้าไปถึงแก่นแท้ จะเห็นได้ว่า พ.ร.บ. ฉบับนี้ ต้องการให้ NGO มีความโปร่งใส และเปิดเผยว่า...
1. เอาเงินมาจากไหน?
2. ใช้เงินทำตามวัตถุประสงค์หรือไม่?
3. แสวงหาอำนาจรัฐ หรือเอื้อต่อกลุ่มการเมืองใดหรือไม่?

อีกนัยก็เพื่อเป็นการแยก NGO ที่ดี ออกจากพวกที่มีผลประโยชน์ทางการเมืองแอบแฝง 

กกต.ตั้งขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ตามกฎหมาย ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อทำตามความต้องการของผู้ใด

กกต.ตั้งขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ตามกฎหมาย ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อทำตามความต้องการของผู้ใด
 สิ่งที่เราทำทุกอย่างเป็นเรื่องที่ถูกต้องตามกฎหมาย กระแสไม่ได้ทำให้เราละเลยความถูกต้อง

นายแสวง บุญมี 
เลขาธิการ กกต.
กล่าวเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2565

นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ให้การต้อนรับ และมอบใบรับรองแก่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและ ส.ก. 45 ราย
โดยนายแสวง กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้ว่าฯ กทม. และส.ก. ท่านได้รับเสียงมหาชน ต้องไปทำหน้าที่ตามที่ได้เสนอต่อประชาชน ขอให้ท่านทำหน้าที่ได้สำเร็จตามที่ได้เสนอไว้ เพราะประชาชนคาดหวังไว้ ขอบคุณท่านและผู้สมัครทุกคนทั้งที่ไม่ได้อยู่ที่นี่ ที่ได้ร่วมกับ กกต. ทำให้การเลือกตั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตั้งแต่เริ่มสมัคร หาเสียง จนประกาศผล การหาเสียงครั้งนี้เป็นไปด้วยความสร้างสรรค์ มีรูปแบบที่แตกต่างออกไปจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ทำให้การเลือกตั้งเป็นที่สนใจ และเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

๓ มิถุนายน ๒๕๖๕ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี

พลเอกหญิง สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2521 ณ ตำบลบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มีพระนามเดิมว่า สุทิดา ติดใจ ครอบครัวของพระองค์เป็นชาวไทยเชื้อสายจีน ทรงเข้าเรียนระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัยสมบูรณ์กุลกันยา จากนั้นจึงทรงเข้าศึกษาหลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต ณ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ จนจบการศึกษาเมื่อปี พ.ศ. 2543

หลังจากสำเร็จการศึกษาแล้ว ในช่วงเวลานั้นพระองค์ทรงเข้าเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน บริษัท แจลเวย์ จำกัด เมื่อปี พ.ศ. 2543 - พ.ศ. 2546 และทรงเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เมื่อปี พ.ศ. 2546 - พ.ศ. 2551 ทรงใช้ชีวิตแบบสามัญชนทั่วไป

ต่อมาทรงเข้ารับราชการทหารในหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ทรงดำรงตำแหน่งสูงสุด เป็นรองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ (อัตรา พลเอกพิเศษ) ทั้งยังทรงได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ให้ทรงดำรงตำแหน่งเป็นราชองครักษ์เวรในพระองค์และพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์

ย้อนกลับไปในวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2557 สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ (ในเวลานั้นคือพลเอกหญิงสุทิดา วชิราลงกรณ์) ได้โดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในพิธีพระราชทานธงชัยเฉลิมพล

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 ได้ตามเสด็จในพิธีสังเวยพระป้ายในเทศกาลตรุษจีน ณ พระที่นั่งอัมพรสถานฯ และปรากฏตัวอีกครั้งในวันประสูติพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ในปีเดียวกัน

ต่อมาวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2559 ทางกองพระราชพิธี สำนักพระราชวังได้เผยแพร่รายงานการเสด็จพระราชดำเนินที่พระองค์ได้ตามเสด็จพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติไปทอดพระเนตรพระราชวังบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และพลเอกหญิงสุทิดา วชิราลงกรณ์ ได้รับพระราชทานพระอิสริยยศเพิ่มเติมเป็น วชิราลงกรณ์ ณ อยุธยา (มีหมายกำหนดการระบุชื่อสกุลดังกล่าวมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีเดียวกัน)

“กระทรวงเกษตรฯ” ใส่เกียร์ลุย "5ยุทธศาสตร์เฉลิมชัย" พัฒนาระบบ บิ๊กดาต้าฐานข้อมูลเกษตร 77 จังหวัดพร้อมเปิดบริการภาครัฐออนไลน์รูปแบบเว็บแอปพลิเคชัน (Web Application)

“อลงกรณ์” เร่งเครื่องถ่ายทอดเทคโนโลยีเกษตรเมดอินไทยแลนด์ (M.I.T.) ปักธงจัดตั้งสตาร์ทอัพเกษตรทุกจังหวัดทั่วประเทศหวังเป็นคานงัดสร้างจุดเปลี่ยนภาคเกษตรไทย

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยวันนี้ (1มิ.ย) ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเทคโนโลยีเกษตร 4.0 และคณะกรรมการบริหารศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (AIC : Agritech and Innovation Center) ว่า ภายใต้การขับเคลื่อน 5 ยุทธศาสตร์ของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คณะกรรมการทั้ง2คณะได้เร่งทำงานเชิงรุกมีผลงานความคืบหน้าการดำเนินงานดังนี้

1. คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนบิ๊กดาต้า ( Big Data) และรัฐบาลเทคโนโลยี (Gov Tech) กำลังเร่งเดินหน้าโครงการพัฒนาฐานข้อมูล (Big Data) ระดับจังหวัด 77 จังหวัด เพื่อใช้ประโยชน์จากข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลและการพยากรณ์ข้อมูลโดยให้หน่วยงานส่วนกลางและพื้นที่เชื่อมโยงชุดข้อมูลจัดทำเป็นบัญชีข้อมูลตามมาตรฐานของ สำนักงานรัฐบาลดิจิตอล (สพร.) โดยศูนย์ข้อมูลเกษตรแห่งชาติ (ศกช. - National Agriculture Big Data Center:NABC) ภายใต้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.)รับผิดชอบดำเนินการ

สำหรับการดำเนินงานด้านระบบบริการภาครัฐด้วยเทคโนโลยีดิจิตอล (Gov Tech) ได้สำรวจเรื่องการใช้งานระบบ CKAN จัดทำบัญชีข้อมูล (Data Catalog) ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทั้ง 22 หน่วยงานแล้ว 

ในส่วนของการบริการรูปแบบอีเล็คทรอนิกส์ (e-Service) ขณะนี้ ดำเนินการให้เป็น Digital Service คืบหน้าไปกว่า 95% ซึ่งคาดว่าจะดําเนินการพัฒนาให้แล้วเสร็จทั้ง 176 ระบบภายในปี 2565  

ส่วนการพัฒนาการเชื่อมโยงการทำธุรกรรมผ่านระบบ NSW (National Single Window) ระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับผู้ประกอบการ ขณะนี้มีการเชื่อมโยงแล้ว 55 ระบบ และเพื่อเป็นการอํานวยความสะดวกต่อผู้ใช้งานทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชนทั่วไปให้สืบค้นข้อมูลได้ อย่างรวดเร็วและเข้าถึงการบริการ e-Service ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น สํานักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนบิ๊กดาต้า (Big Data) และรัฐบาลเทคโนโลยี (Gov Tech) ภายใต้คณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเทคโนโลยีเกษตร 4.0 ของกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ ได้จัดทําเว็บแอพพลิเคชันระบบบริการภาครัฐ (Web Application) เพื่อเป็นช่องทางกลางในการเข้าถึงบริการ ( e-Service) ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย “ระบบบริการภาครัฐ” มีเมนูจําแนกตามกิจกรรมบริการที่สอดคล้องกับวัฏจักรการทําการเกษตรทั้ง 6 ด้าน ประกอบด้วย 

1) การวางแผนการผลิต 

2) การหาปัจจัยการผลิต 

3) การเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ ดูแลรักษา 

4) การเก็บเกี่ยว 

5) การแปรรูป การเพิ่มมูลค่าและ 

6) การตลาด การจําหน่าย 

นอกจากนี้ ยังมีเมนูพิเศษอื่น ๆ เพื่อการสืบค้นและสามารถเข้าถึงงานวิจัย ตลอดจน รายชื่อองค์ความรู้เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมของศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (ศูนย์ AIC 77 จังหวัด) โดยผู้ใช้งานสามารถค้นหาระบบ e-Service ที่ต้องการได้ทันที และระบบจะเชื่อมโยงไปถึงระบบ e-Service


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top