Friday, 16 May 2025
TheStatesTimes

‘นิพนธ์’ ร่วมเป็นสักขีพยานท้องถิ่น เพิ่มประสิทธิภาพเร่งรัดจัดเก็บภาษีรถยนต์ค้างจ่าย นำรายได้กระจายการพัฒนาท้องถิ่นไปสู่การพัฒนาประเทศ

(2 มี..65) ที่อาคารสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการประสานความร่วมมือเพื่อการดำเนินการเร่งรัดจัดเก็บภาษีประจำปีสำหรับรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์และกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกระหว่าง สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมการขนส่งทางบก อบจ.กระบี่ และ อบจ.สงขลา โดยมี นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายก อบจ.กระบี่ นายก อบจ.สงขลา ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงฯ และมีรองศาสตราจารย์ วีระศักดิ์ เครือเทพ ประธานอนุกรรมการเฉพาะกิจ เพื่อการพัฒนาการจัดเก็บภาษีรายได้ให้แก่ อปท. ร่วมเป็นสักขีพยานในครั้งนี้ด้วย

สืบเนื่องจากพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.. ๒๕๔๒ กำหนดการจัดสรรรายได้จากภาษีและค่าธรรมเนียมรถยนต์ให้แก่ อปท. ซึ่งคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่ อปท. ได้พิจารณาเห็นชอบหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินภาษีและค่าธรรมเนียมรถยนต์ให้แก่ อปท. และประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลใช้บังคับมาตั้งแต่ปี พ.. 2543 มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อพัฒนาการจัดเก็บรายได้ของ อปท. ได้พิจารณาเรื่อง แนวทางการแก้ไขปัญหาภาษีและค่าธรรมเนียมรถยนต์ที่ค้างชำระให้แก่ อปท. ตามที่สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย ได้ขอหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหาภาษีและค่าธรรมเนียมรถยนต์ที่ค้างชำระเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อการพัฒนาท้องถิ่น เพราะต้องใช้งบประมาณในการดำเนินงาน จึงจัดการประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมการขนส่งทางบก สมาคมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อร่วมกันกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาภาษีและค่าธรรมเนียมรถยนต์ที่ค้างชำระให้แก่ อปท. และเพื่อให้การดำเนินการเร่งรัดจัดเก็บภาษีประจำปีสำหรับรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์และรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกที่จดทะเบียนใน จ.กระบี่ และ จ.สงขลา ที่ค้างชำระได้มากขึ้นและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และส่งเสริมให้เจ้าของรถได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้ง สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กรมการขนส่งทางบก กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น อบจ.กระบี่ และ อบจ.สงขลา สามารถปฏิบัติงานสนับสนุนการจัดเก็บภาษีประจำปีสำหรับรถที่จดทะเบียน ในจังหวัดดังกล่าว ที่ค้างชำระภาษีประจำปีสำหรับรถของกรมการขนส่งทางบก และสนับสนุนการประชาสัมพันธ์ เชิญชวน และอำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าของรถยนต์สามารถชำระภาษีประจำปีสำหรับรถและค่าธรรมเนียมต่างๆ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

'ปศุสัตว์' ย้ำ ไก่ไทยไร้สารตกค้าง ไม่อันตราย

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานทางสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับประเด็น เรื่อง กินคอไก่ ปีกไก่ และหัวไก่ จะมีสารพิษ เมื่อทานแล้วสะสม เสี่ยงอันตรายต่อร่างกาย นั้น กรมปศุสัตว์ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว สรุปว่าเป็นข่าวปลอมไม่เป็นความจริง การนำเสนอข้อมูลเท็จนี้ สามารถสร้างความตื่นตะหนกให้แก่ประชาชนผู้บริโภคเนื้อไก่ได้ และอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยที่เป็นผู้ส่งออกเนื้อสัตว์ปีกรายใหญ่ของโลกได้ 

ทั้งนี้เพื่อเป็นการคุ้มครองและสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ จึงได้เร่งสร้างความรู้ความเข้าใจและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อผู้บริโภค และให้ทุกหน่วยงานกำกับดูแลสินค้าปศุสัตว์ให้มีความปลอดภัยอาหาร รักษาคุณภาพมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ที่ได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์อย่างเข้มงวดต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามกรมปศุสัตว์ ได้กำกับดูแลระบบการผลิตสินค้าปศุสัตว์ตลอดทั้งกระบวนการผลิตตลอดห่วงโซ่ ตั้งแต่ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ที่ได้มาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี GAP โรงฆ่าสัตว์ที่ถูกกฎหมาย มีกระบวนการผลิตที่ถูกสุขอนามัย สถานที่จำหน่ายที่ได้มาตรฐาน จนถึงมือประชาชนผู้บริโภค จึงมั่นใจได้ว่าสินค้าปศุสัตว์ที่ได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์ มีการตรวจสอบและกำกับดูแลตลอดห่วงโซ่การผลิต ไม่มีสารอันตรายตกค้าง ไม่มีฮอร์โมน สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ 

"สกลธี" รองผู้ว่ากรุงเทพฯพร้อมภาคีเครือข่ายเปิดโครงการจ้างงานคนพิการ กรุงเทพมหานคร

วันที่ 2 มีนาคม 2565 ณ.หอประชุมมูลนิธิออทิสติกไทย เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้เกียรติเป็นประธานเปิดโครงการ "สนับสนุนการจ้างงาน สร้างอาชีพสำหรับคนพิการ" พบช่วยคนพิการมีงานทำกว่า 7,000 คน สร้างอาชีพกว่า 20,000 งาน ลดบริษัทส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการกว่า 6,000 ล้านบาท เพื่อคุณภาพชีวิตดีอย่างยั่งยืน 

โดยภาคีเครือข่ายประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร ร่วมกับมูลนิธิออทิสติกไทย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)  กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และภาคีเครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ  เพื่อผลักดันและขับเคลื่อนให้คนพิการมีงานทำ สร้างอาชีพ และสร้างรายได้อย่างยั่งยืน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี  

"นายสกลธี  ภัททิยกุล" รองผู้ว่าราชการกรุงทพมหานคร กล่าวว่า โครงการสนับสนุนการจ้างงาน สร้างอาชีพสำหรับคนพิการ กรุงเทพมหานคร ที่มีเจตนารมณ์สนับสนุน ให้คนพิการมีอาชีพและมีงานทำ ที่ผ่านมาได้ผลักดันหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานครให้เร่งรับคนพิการเข้าทำงานโดยตลอด ตั้งเป้าหมายไว้ว่า ในปี 2565 สำนักพัฒนาสังคมจะต้องดำเนินการขอจัดสรรงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม เพื่อรองรับการจ้างงานคนพิการเข้าทำงานให้ได้มากขึ้นประมาณ 306 คน คาดว่าจะเริ่มจ้างงานคนพิการเข้าทำงานได้ในเดือนพฤษภาคม 2565 และจะเสนอขอตั้งงบประมาณต่อเนื่องไว้สำหรับปีงบประมาณ 2566

นอกจากนี้ได้ให้ความสำคัญต่อการดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาคนพิการให้มีความรู้ความสามารถ มีศักยภาพตรงกับความต้องการของหน่วยงาน องค์กรภาครัฐและเอกชนที่จะสามารถรับเข้าทำงานตามคุณวุฒิและคุณสมบัติที่กำหนด พร้อมจะทำงานเชิงรุกในการแก้ปัญหาเรื่องช่องทางสมัครงาน และการว่าจ้างงานที่ทำให้คนพิการไม่มีงานทำ

นายสกลธี กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้คนพิการได้มีงานทำ 2 เรื่องหลัก ดังนี้ 1.ส่งเสริมพัฒนาอาชีพให้คนพิการ โดยเปิดศูนย์ส่งเสริมทักษะอาชีพสำหรับคนพิการ ที่โรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร หนองจอก และทุ่งครุ เพื่อพัฒนาศักยภาพ สร้างความพร้อมในการประกอบอาชีพ นำร่องใน 5 หลักสูตร กับกลุ่มที่ต้องการประกอบอาชีพอิสระ  ได้แก่ หลักสูตรสอนการปลูกผักออแกนิค การเพราะเห็ด หลักสูตรบาริสต้า หลักสูตรคอมพิวเตอร์พื้นฐาน  และหลักสูตรการเขียนโปรแกรม และในอนาคตเตรียมขยายเพิ่มหลักสูตรอบรมให้มากขึ้นตามความต้องการของคนพิการและสังคมต่อไป

2.สร้างเว็บไซต์ bangkok.skynebula.tech เปิดพื้นที่ ให้คนพิการที่มีความพร้อมและประสงค์จะสมัครงาน และนายจ้างที่ต้องการรับผู้พิการเข้าทำงานได้พบกัน และเกิดประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งผู้พิการก็สามารถเลือกตำแหน่งงาน ในหน่วยงานที่ตนต้องการสมัครได้  และนายจ้างก็สามารถเข้ามาในเว็บไซต์ดังกล่าวเพื่อค้นหาผู้พิการที่มีคุณสมบัติตรงกับความต้องการ เข้าสู่กระบวนการนัดหมาย สอบ สัมภาษณ์ และรับเข้าทำงาน ได้รวดเร็ว และหลากหลายขึ้น

"นายชูศักดิ์  จันทยานนท์ " ประธานมูลนิธิออทิสติกไทย กล่าวว่า โครงการศูนย์ส่งเสริมทักษะอาชีพสำหรับคนพิการ กรุงเทพมหานคร  จะเป็นแหล่งการเรียนรู้ในการพัฒนาทักษะด้านอาชีพให้กับคนพิการ  เพื่อให้สามารถนำความรู้และทักษะไปต่อยอดสร้างอาชีพให้ตนเองและครอบครัว หรือสามารถสมัครงานในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชนได้  เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับผู้พิการ ก่อให้เกิดความมั่นคงในชีวิต

ซึ่งคนพิการจำเป็นต้องมีโรงเรียนฝึกอาชีพเพื่อเป็นแหล่งการเรียนรู้ในการพัฒนาทักษะด้านอาชีพ อาทิ หลักสูตรระยะสั้นในการเรียนรู้ให้เหมือนกับคนทั่วไป เพื่อเพิ่มทักษะและความชำนาญด้านวิชาชีพ จึงเป็นที่มาของการจัดทำโครงการนี้ขึ้น โดยจัดฝึกอบรมวิชาชีพสำหรับคนพิการ 5 วิชา ได้แก่ หลักสูตรการผลิตเห็ดเพื่อการค้า หลักสูตรการออกแบบเว็บไซต์  หลักสูตรคอมพิวเตอร์เบื้องต้น  หลักสูตรเครื่องดื่มตามสมัยนิยม  และหลักสูตรการเพาะต้นอ่อนพืชออร์แกนิค ตั้งเป้าหมายรับคนพิการทุกประเภทเข้าอบรม จำนวน 150 คน  ซึ่งการฝึกอบรมอาชีพสำหรับคนพิการจำเป็นต้องมีการออกแบบ การจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับการเรียนรู้ของคนพิการ แต่ละบุคคลที่แตกต่างจากบุคคลทั่วไป

"นางภรณี ภู่ประเสริฐ" ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สสส.กล่าวว่า “คนพิการ” คือ 1 ใน 11 กลุ่มประชากรกลุ่มเฉพาะ ที่ต้องได้รับความเป็นธรรมทางสุขภาวะในชีวิตทุกมิติ เพื่อให้มี “สิทธิ ศักดิ์ศรี คุณค่า และพึ่งพาตัวเอง” ได้เหมือนคนทั่วไป ทำให้ สสส. ขับเคลื่อนงานร่วมกับภาคีเครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน เพื่อทำให้คนพิการมีงานทำ ภายใต้การจ้างงานเชิงสังคมตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 ตามมาตรา 33 และ มาตรา 35

จังหวัดนครพนม มอบหนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทย ฉบับสมบูรณ์ ปี 2564 ให้หน่วยงานเร่งขยายผลสู่เยาวชนและประชาชนในพื้นที่

(2 มี..65) นครพนม-ที่ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานการมอบหนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทย ฉบับสมบูรณ์ ปี 2564 ให้กับตัวแทนส่วนราชการ จำนวน 29 หน่วยงาน เพื่อนำไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้แก่ข้าราชการ พนักงานของรัฐ เด็กและเยาวชน ตลอดจนประชาชนในจังหวัดนครพนม ให้ได้เรียนรู้เพื่อสร้างความภาคภูมิใจและสำนึกในความเป็นไทย

โดยเฉพาะการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้เป็นพิเศษ เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้เกิดความรักชาติและมีความกตัญญูต่อบรรพบุรุษไทย ตามยุทธศาสตร์ชาติ (.. 2561-2580) ที่ได้กำหนดวิสัยทัศน์ว่า ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยในยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคงได้กำหนดประเด็นการพัฒนาและเสริมสร้างความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติ เพื่อให้คนในชาติมีจิตสำนึกรักและหวงแหน มุ่งจงรักภักดี พร้อมธำรงรักษาไว้ซึ่ง สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้เป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยว และเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนทั้งชาติ โดยปลูกฝังและสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของสถาบันหลักของชาติ รณรงค์เสริมสร้างความรักความภาคภูมิใจในความเป็นคนไทยและชาติไทย ผ่านกลไกต่างๆ รวมถึงการศึกษาประวัติศาสตร์ในเชิงสร้างสรรค์

กกท. ร่วม สถาบันอนุญาโตตุลาการ เปิดศูนย์ระงับข้อพิพาททางการกีฬาแห่งแรกของไทย มุ่งยกระดับวงการกีฬาสู่มาตรฐานสากล

การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ร่วมกับ สถาบันอนุญาโตตุลาการ (THAC) เปิดตัวศูนย์ระงับข้อพิพาททางการกีฬา (Thailand Center of ADR for Sport: TCAS) แห่งแรกของประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการใช้กลไกการระงับข้อพิพาทด้วยวิธีการประนอมข้อพิพาท และการอนุญาโตตุลาการ มุ่งหวังยกระดับวงการกีฬาไทยให้มีประสิทธิภาพ และทัดเทียมกับมาตรฐานสากล

นายธนวัชร นิติกาญจนา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายเขมพล อุ้ยตยะกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในการแถลงข่าวเปิดตัวศูนย์ระงับข้อพิพาททางการกีฬา (Thailand Center of ADR for Sport: TCAS) โดยมี นายพสิษฐ์ อัศววัฒนาพร ผู้อำนวยการสถาบันอนุญาโตตุลาการ (THAC) และนายวิษณุ ไล่ชะพิษ รองผู้ว่าการ ฝ่ายบริหาร ร่วมแถลง ณ บริเวณด้านหน้า อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา กกท. เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา

นายธนวัชร นิติกาญจนา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรม มีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าการร่วมมือของทั้งสองหน่วยงานในครั้งนี้ จะนำไปสู่การพัฒนาที่สำคัญของการระงับข้อพิพาททางเลือกด้านการกีฬาของประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพ เป็นไปตามมาตรฐานระดับสากล และจะเป็นการดึงดูดให้บุคลากรทางการกีฬา อาทิ นักกีฬา สมาคมกีฬา สมาพันธ์ทางการกีฬาต่างๆ เล็งเห็นถึงความสำคัญและเลือกใช้กระบวนการระงับข้อพิพาททางเลือกเมื่อมีข้อพิพาททางการกีฬากันมากยิ่งขึ้น

นายเขมพล อุ้ยตยะกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การจัดตั้งศูนย์ระงับข้อพิพาทฯ ในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ในด้านการพัฒนากีฬาในประเทศไทย ทั้งการให้ความเป็นธรรม ความเท่าเทียมของนักกีฬา หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ฝึกสอน ตลอดจนสโมสรต่างๆ รวมทั้งยังเป็นการสร้างมาตรฐานทางการกีฬาที่มีความโปร่งใส ซึ่งจะส่งผลโดยรวมให้กับประเทศ รวมถึงการแข่งขันในระดับชาติ ต่อไป

นายพสิษฐ์ อัศววัฒนาพร ผู้อำนวยการสถาบันอนุญาโตตุลาการ (THAC) กล่าวว่า ในปัจจุบันวงการกีฬาไทยมีความก้าวหน้า และเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากความสำเร็จของนักกีฬาทีมชาติไทย รวมถึงกฎเกณฑ์การแข่งขัน หรือการตัดสินผลแพ้ - ชนะในกีฬาสมัครเล่น และกีฬาอาชีพ ที่จัดการแข่งขันขึ้นในประเทศ และในเวทีระดับโลกที่มาตรฐานของการแข่งขันมีความก้าวหน้า และปรับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว สิ่งเหล่านี้อาจนำมาซึ่งข้อพิพาทในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวงการกีฬาทุกแขนง เช่น สัญญานักกีฬาอาชีพ การตัดสินชี้ขาดผลการแข่งขัน หรือแม้กระทั่งกฎการควบคุมสารต้องห้าม เป็นต้น สิ่งเหล่านี้คือที่มาของการจัดตั้งศูนย์ฯ เพื่อยกระดับวงการกีฬาไทยสู่มาตรฐานสากล

ททท. ชูโครงการ ‘Thailand Holideals’ บุกตลาดออนไลน์ และออฟไลน์ครั้งยิ่งใหญ่ พร้อมกระตุ้นการขายให้กับผู้ประกอบการ

(2 ..65) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. เป็นประธานในงานแถลงข่าว เปิดตัวโครงการ Thailand Holideals ตอบรับเทรนด์แห่งโลกอนาคตก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล ผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ใช้เหรียญดิจิทัลแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการท่องเที่ยว กระตุ้นตลาดด้านการท่องเที่ยวในประเทศ พร้อมบุกตลาดออนไลน์ และออฟไลน์ครั้งยิ่งใหญ่ เพื่อกระตุ้นการส่งเสริมการขายให้กับผู้ประกอบการในทุกช่องทางที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยว และผู้เดินทาง ณ ศูนย์ปฏิบัติการศิลปกรรมดิจิทัล FAAMAI Digital Arts Hub เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร

ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีบล็อกเชนที่เข้ามามีบทบาทในระบบเศรษฐกิจและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ส่งผลให้รูปแบบการใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไป รวมไปถึงการเปิดมิติของการทำธุรกิจและการตลาดที่จะช่วยอำนวยความสะดวกสบาย รวดเร็ว และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน

โดยเฉพาะการเข้ามาของสกุลเงินดิจิทัลต่างๆ ททท. ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการผสานเทคโนโลยีเข้ากับการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว จึงได้ร่วมมือกับบริษัท กู๊ด มู๊ด จำกัด พร้อมจับมือกับ พันธมิตรด้านการท่องเที่ยว อาทิ MVP, KLOOK และ Ascend Travel จัดทำโครงการ “Thailand Holideals” รวบรวมแพ็กเกจ และ Voucher ท่องเที่ยวในราคาสุดพิเศษ จากผู้ประกอบการท่องเที่ยวชั้นนำทั่วเมืองไทยมาให้นักท่องเที่ยวได้เลือกสรร บนเว็บไซต์ www.tourismthailand.org/holideals โดยครอบคลุมทุกหมวดหมู่ของการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น โรงแรม ร้านอาหาร สปา นันทนาการ และบริษัทนำเที่ยว พร้อมทั้งสามารถเลือกชำระด้วยระบบโทเคนดิจิทัลได้ด้วย นับเป็นครั้งแรกของเมืองไทยกับการใช้เหรียญดิจิทัลเพื่อการจับจ่ายสินค้าท่องเที่ยวของโครงการ ตอบโจทย์การท่องเที่ยวในไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยว Free Individual Traveller และ Group Individual Traveller ซึ่งต้องการประสบการณ์ท่องเที่ยวใหม่ๆ และเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศให้เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง

กกร.ปรับจีดีพีไทยใหม่ปีนี้โตแค่ 2.5-4.5%

นายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ส่งผลให้กิจกรรมเศรษฐกิจช่วงต้นปีชะลอตัวเล็กน้อย แต่ผลกระทบโดยรวมคาดว่าไม่รุนแรง ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่ยังสามารถดำเนินต่อไปได้ตามปกติ โดยกกร. ได้ปรับกรอบประมาณการเศรษฐกิจปี 2565 ใหม่ เป็น 2.5-4.5% จากเดิม 3.0-4.5% และคงการส่งออกโต 3-5% และปรับอัตราเงินเฟ้อจาก 1.5-2.5% เป็น 2-3%

ส่วนความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน รุนแรงและยืดเยื้อกว่าที่คาด และมีแนวโน้มเผชิญหน้ากันมากขึ้น ซึ่งทำให้ทั่วโลกได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติที่สูงขึ้นมาก โดยราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นสูงสู่ระดับ 100 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น และกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในภาพรวม

อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งในหลายด้าน ทั้งเงินเฟ้อ การส่งออก รวมถึงการท่องเที่ยว โดยเงินเฟ้อมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นมากตามทิศทางราคาพลังงาน โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอาจสูงกว่าระดับ 3% ซึ่งจะเป็นแรงกดดันต่อการฟื้นตัวของอุปสงค์และกำลังซื้อในประเทศ ขณะที่การส่งออกได้รับผลกระทบทางตรงจากตลาดรัสเซียและยูเครนไม่มาก เนื่องจากไม่ใช่คู่ค้าหลัก แต่อาจจะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจคู่ค้าอื่นที่ชะลอลง โดยเฉพาะสหภาพยุโรป

ส่งออกม.ค.บอก 8% จับตาสงครามยูเครน-รัสเซีย

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ตัวเลขการส่งออกเดือนม.ค.65 มีมูลค่า 21,258.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 8% คิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 708,312 ล้านบาท ซึ่งถือว่ายังขยายตัวได้ดี เมื่อเทียบกับม.ค.2564 ที่ขยายตัวแค่ 0.1% โดยมีปัจจัยบวกที่ช่วยสนับสนุนให้การส่งออกเดือนม.ค.2565 เป็นบวกถึง 8% เพราะมีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชน ที่เดินหน้าต่อไปอย่างเข้มข้น ภาคการผลิตทั่วโลกยังขยายตัว และปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์เริ่มดีขึ้น 

สำหรับตลาดที่ขยายตัวสูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ 1.อินเดีย เพิ่ม 31.9% 2.รัสเซีย เพิ่ม 31.9% 3.สหราชอาณาจักร เพิ่ม 29.7% 4.เกาหลีใต้ เพิ่ม 26.8% 5.สหรัฐฯ เพิ่ม 24.1% 6.แคนาดา เพิ่ม 13.6% 7.อาเซียน 5 ประเทศ เพิ่ม 13.2% 8.จีน เพิ่ม 6.8% 9.ลาตินอเมริกา เพิ่ม 5.0% 10.สหภาพยุโรป เพิ่ม 1.4% ขณที่ยอดการนำเข้ามีมูลค่า 23,785 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 20.5% ซึ่งเป็นผลมาจากการนำเข้าวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการผลิต และการนำเข้าน้ำมันที่ราคาสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยขาดดุลการค้าในเดือนม.ค.65 คิดเป็นมูลค่า 2,526.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

‘แพทย์ทหารเรือ’ เปิดบริการตรวจโควิดแบบOne Stop Service

พลเรือตรี ณัฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ, นาวาเอก ปิยะวัฒน์ วงษ์วานิช รอง ผอ.รพ.ฯ ฝ่ายบริหาร และ นาวาเอกหญิง วรัญญา คุ้มผาติ รอง ผอ.รพ.ฯ ฝ่ายการพยาบาล รับมอบงานโครงการอาคารชั่วคราว ห้องตรวจโรคแรงดันบวก ARI./PUI. Clinic จากบริษัท เอสซีจี ดิสทริบิวชั่น จำกัด ร่วมกับ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (ท่าหลวง) จำกัด โดยมี คุณดุสิต ศุทธกิจ Co creation and operation development director, คุณธวัชชัย ศรีพนมธนากร CSC Director Metro และคุณดุสิต อนุกูลมีชัย Project Owner Manager เป็นผู้แทนส่งมอบงานฯ ณ อาคารชั่วคราว ห้องตรวจ ARI PUI Clinic เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565

Good Morning THE STATES TIMES | ประจำวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2565

เช้านี้มีอะไรอัปเดต!!
#GoodMorningTHESTATESTIMES
ประจำวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2565

พบกับประเด็นข่าวน่าลิงก์ Good Morning THE STATES TIMES
ข่าวยามเช้าที่จะมาสแตนบาย ทุกวันอังคาร-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 5.00 น. เป็นต้นไป
โดย ปริม-กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา

.

.


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top