Thursday, 15 May 2025
TheStatesTimes

'รมว.เฮ้ง' ห่วงน้ำท่วมใต้ สั่งหน่วยงานระดมกำลังช่วยเหลือแรงงาน เร่งด่วน!

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือกรณีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งจากข้อมูลของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ณ วันที่ 28 ก.พ.65 เวลา 06.00 น.รายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 25-28 ก.พ.65 มีฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมใน 7 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย นราธิวาส ยะลา นครศรีธรรมราช พัทลุง ปัตตานี สงขลา และตรัง ได้รับความเสียหาย 30 อำเภอ 127 ตำบล 440 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 12,129 ครัวเรือน ซึ่งรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี 
ที่กำกับดูแลกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยผู้ใช้แรงงานและประชาชนทั่วไปทุกคนที่ประสบปัญหาอุทกภัยได้รับความเดือดร้อน 

โดยได้สั่งการให้แต่ละหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องบูรณาการให้ความช่วยเหลือประชาชนเป็นการเร่งด่วน ทั้งการขนย้าย อพยพ เร่งระบายน้ำ การมอบสิ่งของเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน รวมถึงจัดให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบสถานการณ์อุทกภัยอย่างต่อเนื่อง ผมจึงได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดแต่ละจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ เร่งบูรณาการสนับสนุนความช่วยเหลือผู้ใช้แรงงาน ลูกจ้างผู้ประกันตน และประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนกับทางจังหวัดในแต่ละจังหวัด โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายประชาชนไปในสถานที่ที่ปลอดภัย จัดที่พักพิงชั่วคราว และสนับสนุนถุงยังชีพเครื่องอุปโภคบริโภคของใช้ที่จำเป็นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
          
นายสุชาติ ยังกล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของกระทรวงแรงงาน ว่า ล่าสุดผมได้สั่งการให้หน่วยงานจัดเตรียมถุงยังชีพเครื่องอุปโภคบริโภคของใช้ที่จำเป็นไปสนับสนุน ทั้งจากส่วนกลางและจังหวัดใกล้เคียง ในส่วนของจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดสงขลาเป็นศูนย์อำนวยการให้ความช่วยเหลือ ให้สำนักงานแรงงานจังหวัดในพื้นที่ของบประมาณจัดทำโครงการจ้างงานเร่งด่วนและพัฒนาทักษะฝีมือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านอาชีพ ดำเนินการจ้างงานช่วยเหลือชาวบ้านผู้ประสบภัยให้มีรายได้

ห้ามมีแป๊ะเจี๊ยะ!! 'ตรีนุช' เตือน โรงเรียนดัง ห้ามมีแป๊ะเจี๊ยะเด็ดขาด ลั่น ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เด็กทุกคนมีที่เรียนแน่นอน

'ตรีนุช' เตือน โรงเรียนดัง แข่งขันสูง รับนักเรียนปี 65 ห้ามมีแป๊ะเจี๊ยะเด็ดขาด ยึดหลัก โปร่งใส ตรงไปตรงมา คัดเลือกนักเรียนที่มีความสามารถแท้จริง ยันเด็กทุกคนมีที่เรียนแน่นอน

(28..65) นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ประกาศปฏิทินรับนักเรียน ประจำปีการศึกษา 2565 โดยก่อนประถมศึกษา รับสมัครวันที่ 12-15 กุมภาพันธ์ 65 จับฉลาก วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 65 ประกาศผลวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 65 รายงานตัววันที่ 19 กุมภาพันธ์ 65 และมอบตัววันที่ 26 กุมภาพันธ์ 65

ประถมศึกษาปีที่ 1 รับสมัครวันที่ 23-27 กุมภาพันธ์ 65 จับฉลากวันที่ 5 มีนาคม 65 ประกาศผลวันที่ 5 มีนาคม 65 รายงานตัว 5 มีนาคม 65 มอบตัววันที่ 12 มีนาคม 65

มัธยมศึกษาปีที่ 1 รับสมัครวันที่ 9-13 มีนาคม 65 สอบคัดเลือกวันที่ 26 มีนาคม 65 ประกาศผลวันที่ 30 มีนาคม 65 รายงานตัววันที่ 30 มีนาคม 65 จับฉลากวันที่ 1 เมษายน 65 ประกาศผลจับฉลากและรายงานตัววันที่ 1 เมษายน 65 มอบตัววันที่ 2 เมษายน

มัธยมศึกษาปีที่ 4 ประเภทสอบคัดเลือก สมัครวันที่ 9-13 มีนาคม 65 สอบคัดเลือกวันที่ 27 มีนาคม 65 ประกาศผลวันที่ 31 มีนาคม 65 และรายงานตัววันที่ 31 มีนาคม 65 มอบตัววันที่ 3 เมษายน 65

โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กรุงเทพมหานคร และโรงเรียนเตรียมศึกษาภูมิภาค รับสมัครวันที่ 19-23 กุมภาพันธ์ 65 สอบคัดเลือกวันที่ 5 มีนาคม 65 ประกาศผลวันที่ 12 มีนาคม 65 รายงานตัววันที่ 15 มีนาคม 65 มอบตัววันที่ 21 มีนาคม 65 นั้น

นางสาวตรีนุช ได้กล่าวว่า ในส่วนการรับนักเรียนในปีการศึกษานี้ของ ม.1 และ 4 ตนขอฝากให้โรงเรียนทุกแห่งมีการดำเนินการที่โปร่งใสและเป็นธรรม อย่าให้มีการเรียกรับเงินเพื่อแลกที่นั่งเรียนเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะโรงเรียนดังที่มีอัตราการแข่งขันสูง ซึ่งการรับนักเรียนจะต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และคัดเลือกผู้เข้าเรียนที่มีความรู้ความสามารถ โดยยืนยันว่าเด็กทุกคนจะมีที่เรียนอย่างแน่นอน เพราะนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เนื่องจากผู้เรียนทุกคนจะต้องเข้าถึงระบบการศึกษาอย่างเท่าเทียม

ทบ. เร่งส่งทหารร่วม ทุกภาคส่วนช่วยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมประเมินสถานการณ์และเข้าช่วยเหลือทันที

จากสถานการณ์ฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายจังหวัด ของภาคใต้ในขณะนี้ ซึ่ง พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว โดยได้รับรายงานการเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พร้อมกำชับให้บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 4 ได้ส่งกำลังพล 486 นาย เรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ 8 ลำ และยานพาหนะ 69 คัน ประกอบด้วย รถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ 24 คัน รถยนต์บรรทุกขนาดเล็ก 15 คัน รถยนต์บรรทุก 10 ตัน รถบรรทุกเทท้าย 11 คัน รถวางสะพาน 1 คัน รถยนต์ทางทหารอื่น ๆ 18 คัน เข้าพื้นที่ประสบภัยบูรณาการร่วมกับ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาชน จิตอาสา บรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนโดยทันที เน้นการเข้าเคลื่อนย้ายสิ่งของ มอบถุงยังชีพ และปรุงอาหารสดแจกจ่ายประชาชน รวมทั้งซ่อมแซมและเชื่อมต่อเส้นทางการสัญจรที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลาก 

โดยล่าสุด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยและพื้นที่เฝ้าระวังใน 4 จังหวัด  ได้แก่ จ.ยะลา, นราธิวาส, ปัตตานี และ สงขลา รวม 16 อำเภอ ซึ่งอยู่ในระหว่างการเข้าช่วยเหลือ อาทิ จ.ยะลา หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 ร่วมกับส่วนราชการ เข้าช่วยเหลือประชาชน พื้นที่ อ.รามัน, อ.ยะหา และ อ.กรงปินัง  มอบถุงยังชีพตามบ้านเรือน จัดทีมแพทย์เข้าให้การตรวจรักษา และที่ อ.บันนังสตา กองพันทหารช่างที่ 15 กองพลทหารราบที่ 15 ทำการติดตั้งสะพานเครื่องหนุนมั่นแบบเร่งด่วน (MFB) เชื่อมเส้นทางให้ประชาชนสัญจรหลังฝนตกหนัก
จ.นราธิวาส 

จากฝนที่ตกหนักตลอด 4 วัน ทำให้เกิดน้ำท่วมหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ อ.สุไหงโกลก กองพลทหารราบที่ 15 เข้าช่วยเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียงตลอดจนขนสิ่งของขึ้นที่สูง, ที่ อ.ระแงะ ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนอย่างรวดเร็ว  หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 เข้าช่วยเหลือประชาชน โดยทำอาหารปรุงสุกนำไปแจกจ่ายถึงบ้านพักเนื่องจากน้ำท่วมสูงไม่สามารถเดินทางได้

สิ้น 'พิชัย รัตตกุล'!! อดีตประธานรัฐสภา – หัวหน้าปชป. ถึงแก่อนิจกรรมอย่างสงบที่โรงพยาบาลศิริราช

พิชัย รัตตกุล’ อดีตประธานรัฐสภา-หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถึงแก่อนิจกรรมแล้ว ขณะมีอายุ 97 ปี

(28 ..65) นายพิจิตต รัตตกุล อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า นายพิชัย รัตตกุล อดีตประธานรัฐสภา และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เข้ารับการรักษาด้วยอาการป่วยมะเร็งปอด ที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนจะถึงแก่อนิจกรรมอย่างสงบที่โรงพยาบาลศิริราช

ทั้งนี้ก่อนที่นายพิชัย จะถึงแก่อนิจกรรมได้สั่งเสียครอบครัวไว้เรียบร้อยทุกประการ ทั้งนี้นายพิชัย เกิดเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2469 สิริรวมอายุ 97 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2564 ที่บ้านพักของนายพิชัย รัตตกุล ในหมู่บ้านปัญญา เขตสวนหลวง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมกับนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ได้เดินทางเข้ามอบแจกันดอกไม้และอวยพรเนื่องในวันคล้ายวันเกิด ขึ้นปีที่ 96 ของนายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนที่ 4

“อนุทิน” ไม่ประมาท สั่ง สธ.จับตาสถานการณ์เวชภันฑ์ใกล้ชิด หลังเกิดสถานการณ์ในยูเครน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มบุคคลออกมาให้ข้อมูลเรื่องการขาดแคลนยาฟาวิพิราเวียร์ ว่า ท่านปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ได้แถลงว่าเรามียาเพียงพอ เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ ทั้งนี้ ยาฟาวิพิราเวียร์ รวมถึงยาชนิดอื่น เราสามารถผลิตเองได้ ขณะเดียวกัน ได้มีการนำเข้ามาเพิ่ม ล่าสุด เอาเข้ามาเสริมอีก 2 ตัว คือ โมลนูพิราเวียร์ และแพ็กโลวิกซ์ นอกจากนั้น ยังสามารถผลิตฟ้าทะลายโจรได้ 

ขอให้มั่นใจข้อมูลจากทางทีมแพทย์ เพราะปฏิบัติหน้าที่อยู่หน้างาน ขอย้ำว่า ท่านปลัด ดูแลรับผิดชอบเรื่องโรงพยาบาล ดูแลเรื่องการจัดซื้อจัดหาเวชภัณฑ์ เพื่อมารักษาผู้ป่วย ที่สำคัญ ท่านเป็นประธานคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม ซึ่งเป็นโรงงานผลิตยาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ท่านรายงานว่ายามีเพียงพอ ไม่เชื่อหมอ แล้วจะเชื่อใคร แน่นอนว่าทุกคนมีสิทธิ์แสดงความเห็น แต่คนทำงานก็มีสิทธิ์ที่จะชี้แจง

“บิ๊กตู่” Conference เปิดโครงการบ้านเคหะสุขเกษม สมุทรปราการ “เปรย”ใครจะอยู่ ใครจะ้ป็น ขอร่วมมือทำทุกอย่างจะสำเร็จ “ย้ำ”เจอปัญหาทุกวันแต่ยิ้มสู้ แม้หงุดหงิดบ้างแต่ไม่เคยทิ้งประเทศ

ที่ห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบนโยบายด้านการอยู่อาศัยและการดูแลผู้สูงอายุของรัฐบาล (ผ่านระบบ Video Conference) ไปยังโครงการบ้านเคหะสุขเกษม ถนนเทพารักษ์ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ โอยกล่าวตอนหนึ่ง ว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งและเป็นสิ่งที่นายกฯคาดหวังและรอคอยมาโดยตลอดในหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประชาชน ที่ได้มอบหมายเป็นนโยบายลงไป ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ก็ได้ดำเนินการอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง

สำหรับนโยบายของรัฐบาลในด้านที่อยู่อาศัยและการดูแลผู้สูงอายุซึ่งทุกคนคงทราบว่ารัฐบาลมีความห่วงใยและใส่ใจในชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในทุกมิติ โดยเฉพาะการพัฒนาประเทศไปสู่ความมั่นคงระยะยาว เราต้องสร้างความเสมอภาคเท่าเทียมกันภายในสังคม สร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจ ตลอดจนการสร้างความมั่นคงในเรื่องของที่อยู่อาศัยให้กับประชาชน โดยรัฐบาลมีเป้าหมายให้คนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัยภายทั่วกันในปี 2579 ซึ่งต้องเป็นโครงการระยะยาวที่มีความต่อเนื่อง ที่ผ่านมารัฐบาลร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการขับเคลื่อนการพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะประชาชนกลุ่มที่มีรายได้น้อย เปราะบาง กลุ่มผู้สูงอายุ เพื่อให้มีโอกาสอย่างเท่าเทียมในการเป็นเจ้าของที่พักและที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมมาแล้วในหลายโครงการ และขยายไปสู่เป้าหมายอื่นๆโดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ข้าราชการเกษียณ พนักงานบริษัท และประชาชนทั่วไปที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 55 ปีหรือ 60 ปีขึ้นไป ให้ได้มีโอกาสความเท่าเทียมถึงสวัสดิการของรัฐ 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หวังอย่างยิ่งว่านโยบายแบบนี้ที่ได้กำหนดลงไป รัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่มุ่งมั่น ขอให้ทุกคนร่วมมือกันให้เกิดการสืบสานอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนมีความสุขตามพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้มีการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีเพียงพอ มีรายได้ที่เหมาะสม และการดำเนินการดังกล่าวนี้เพื่อประชาชนทั้งสิ้น ประชาชนเป็นศูนย์กลาง เราต้องดำเนินการด้วยความสุจริต โปร่งใส มีประสิทธิภาพ ผลประโยชน์ต้องเป็นของประชาชนโดยรวม โดยทั่วกันอย่างเป็นธรรม หากไม่ร่วมมือกันมันมาไม่ถึงวันนี้อยู่แล้ว “หวังอย่างยิ่งว่าเราจะได้ร่วมมือกันต่อไปในอนาคต ไม่ว่าใครจะเป็น ใครจะอยู่ ใครจะอะไรก็ตาม หวังว่านโยบายนี้จะสืบสานต่อไปเรื่อยๆ แล้ววันหนึ่งจะสำเร็จทุกอย่าง ไม่มีอะไรไม่สำเร็จหากเราร่วมมือกัน”นายกรัฐมนตรีกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หวังว่าทุกคนจะดีใจไปกับตนที่เห็นผลงานเป็นรูปธรรม การที่ประชาชนมีปัญหาในวันนี้ เราจะแก้ไขปัญหาความยากจนที่มีอยู่หลายอย่างด้วยกัน อันแรกคือจนเพราะรายได้ไม่เพียงพอ เพราะหนี้สินต่างๆ อันที่สองจนเพราะที่อยู่อาศัยไม่เหมาะสม คุณภาพชีวิตไม่ดี และเรื่องของจนความรู้ต้องมีการให้ความรู้ใหม่ๆใส่ลงไป อีกสิ่งคือเรื่องการศึกษาและการเข้าถึงบริการภาครัฐ 

‘กระทรวงแรงงาน’ ร่วมรับมอบโล่ รางวัลคุณธรรมต้นแบบโดดเด่น ส่งเสริมการขับเคลื่อนสังคมไทยเป็นสังคมคุณธรรม!!

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 10.00 น. นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นางสาวบุปผา เรืองสุด รองปลัดกระทรวงแรงงาน ร่วมพิธีรับมอบโล่รางวัลคุณธรรมต้นแบบโดดเด่น และรางวัลผู้ชนะการประกวด Infographic “Moral Awards” หัวข้อ “คนไทยวินัยไม่มีหมด” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 

เพื่อจะเป็นการสร้างขวัญกำลังใจ และเสริมแรงจูงใจ ในการส่งเสริมการขับเคลื่อนงานด้านคุณธรรม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายในการสร้าง “สังคมไทยเป็นสังคมคุณธรรม ที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” โดยมีนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธี ณ ห้อง G 5 ชั้น 1 อาคารหอศิลป์แห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า คณะกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ได้เห็นความสำคัญในการส่งเสริมคุณธรรมในทุกภาคส่วน จึงมีนโยบายส่งเสริมการขับเคลื่อนคุณธรรมในระดับชุมชน องค์กร อำเภอ และจังหวัดโดยกำหนดตัวชี้วัดและเกณฑ์การประเมินที่มีมาตรฐานกลางในการประเมินความสำเร็จ 3 ระดับ คือ ระดับส่งเสริมคุณธรรม ระดับคุณธรรม และระดับคุณธรรมต้นแบบ เพื่อบ่งบอกถึงกระบวนการในการพัฒนาคุณธรรมที่ได้มาตรฐานและในปีงบประมาณพุทธศักราช 2564 

โดยได้มีการคัดเลือกในระดับคุณธรรมต้นแบบที่มีผลสัมฤทธิ์การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในเชิงประจักษ์ จำนวน 235 แห่ง ประกอบด้วย…

1. ชุมชนคุณธรรมต้นแบบโดดเด่น จำนวน 76 ชุมชน 

2. องค์กรคุณธรรมต้นแบบโดดเด่น จำนวน 84 องค์กร 

3. อำเภอคุณธรรมต้นแบบโดดเด่น จำนวน 70 อำเภอ และ 

4. จังหวัดคุณธรรมต้นแบบโดดเด่น จำนวน 5 จังหวัด

อวดไทยให้ต่างชาติมอง!! ‘นายกฯ’ กำชับเพิ่มศักยภาพพื้นที่อีอีซี ดันสู่ศูนย์กลางลงทุนในภูมิภาค

นายกรัฐมนตรี กำชับทุกภาคส่วนเร่งผลักดันให้ประเทศไทย โดยเฉพาะ EEC เป็นจุดหมายสำหรับนักลงทุนและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ด้าน ‘สุริยะ’ ย้ำความพร้อมรองรับการขยายตัวอุตสาหกรรมปิโตรเคมี เชื่อหากโครงการฯ แล้วเสร็จจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถรองรับการขนถ่ายกลุ่มสินค้าเหลวและสินค้ากลุ่มพลังงาน

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานกล่าวเปิด ‘โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 (ช่วงที่ 1)’ ผ่านระบบออนไลน์ จากห้อง PMOC ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลว่า โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 (ช่วงที่ 1) เป็นการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักที่สำคัญ 1 ใน 5 ของโครงการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญมาโดยตลอด มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้รองรับการขนถ่ายก๊าซธรรมชาติและวัตถุดิบเหลวสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ตลอดจนรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมเหล็กครบวงจร และอุตสาหกรรมปุ๋ยเคมี

การดำเนินโครงการดังกล่าว ยังเป็นการยืนยันเจตจำนงของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ในการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งจะก่อให้เกิดการลงทุนในด้านต่าง ๆ ที่ครอบคลุมทุกมิติ ส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายทั้ง S-Curve และ New S- Curve สู่พื้นที่ EEC ทำให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับคนไทยทุกคน ทั้งนี้ หากโครงการดังกล่าวสำเร็จลุล่วงจะก่อให้เกิดประโยชน์ในพื้นที่ ในการเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ทางน้ำ และเป็นประตูการค้าเชื่อมโยงกับประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซียนสู่เศรษฐกิจนานาชาติ ตลอดจนมีส่วนในการพัฒนาพื้นที่และท้องถิ่นให้เกิดการจ้างงาน สร้างเศรษฐกิจชุมชน เพิ่มรายได้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่

ผมขอเน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนเตรียมความพร้อมและใช้โอกาสในการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทย ผลักดันและส่งเสริมผลประโยชน์ต่อภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และประชาชนคนไทยในทุกด้าน ทำให้ EEC และประเทศไทยเป็นจุดหมายสำหรับนักลงทุน และนักท่องเที่ยวทั่วโลก เป็นฟันเฟืองสำคัญสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม การดำเนินโครงการต่าง ๆ รวมทั้งโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ต้องคำนึงถึงความเชื่อมโยงในทุกมิติ สร้างสมดุลในทุกด้าน ทั้งการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม และสิ่งแวดล้อม ตามแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG Economy ทั้งนี้ ผมมั่นใจอย่างยิ่งว่า ความสำเร็จที่เกิดขึ้นในวันนี้จะเป็นแรงผลักดันสำคัญต่อการพัฒนาประเทศให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนต่อไป” นายกรัฐมนตรี กล่าว

รบจริง - เจ็บจริง – ตายจริง!! ‘ยูเครน’ เปิดรับสมัครนักรบต่างชาติ ใครอยากลองรบสนามจริงเชิญทางนี้

โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ผู้นำยูเครนเปิดแคมเปญใหม่ รับสมัครอาสาสมัครนักรบจากทั่วโลกมาสู้รบกับกองทหารรัสเซียในยูเครน หน่วยกล้าท้าตายคนใดสนใจ สามารถลงชื่อสมัครได้ที่สถานทูตยูเครนทั่วโลกตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

แผนเกณฑ์นักรบต่างชาติของเซเลนสกี้ จะได้รับการบรรจุเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพยูเครน ในกองรบพิเศษที่ชื่อว่า “International Brigade of the Territorial Defense of Ukraine” ซึ่งผู้นำยูเครนย้ำว่า นี่ไม่ใช่การรบเพื่อป้องกันดินแดนยูเครนเท่านั้น แต่จะเป็นแผ่นดินยุโรปทั้งผืนจากการรุกรานของรัสเซีย

และทันทีที่มีประกาศแคมเปญนี้ ที่หน้า Facebook ของสถานทูตยูเครนทั้งโลก รวมถึงประเทศไทย ก็ได้ลงประกาศรับสมัครนักรบ ไปลงสนามจริงที่ยูเครนด้วยกัน

นอกจากการรับสมัครนักรบต่างชาติเพิ่มแล้ว ยังมียอดบริจาคจากต่างประเทศหลั่งไหลไปที่ยูเครนเป็นจำนวนมาก เพื่อให้เอาไปใช้จ่ายบำรุงกองทัพ และจัดหาอาวุธมายันทัพรัสเซีย รวมทั้งชาติมหาอำนาจตะวันตกอย่าง สหรัฐอเมริกา, ฝรั่งเศส, เยอรมัน ก็ได้จัดส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ล็อตใหญ่ไปส่งให้ยูเครนถึงบ้าน

พิษโอมิครอนฉุดเศรษฐกิจเดือน ม.ค. ชะลอตัว

น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารการสื่อสารองค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจและการเงิน เดือนม.ค. 2565 ว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนมกราคม มีการชะลอตัวลงบ้าง จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วปรับลดลง จากการระงับการลงทะเบียนเข้าประเทศผ่านระบบ Test & Go ในช่วงวันที่ 21 ธ.ค.2564 - 31 ม.ค. 2565 หลังจากที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน 

ส่วนการบริโภคและลงทุนของภาคเอกชนปรับลดลง จากความกังวลต่อการระบาดของโอมิครอน โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชน ที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วปรับลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนในเกือบทุกหมวด โดยเป็นผลจากสถานการณ์การระบาดในประเทศที่กลับมารุนแรงขึ้น และการเพิ่มความเข้มงวดของมาตรการควบคุมการระบาด ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมและความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับลดลงบ้าง 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top