Thursday, 15 May 2025
TheStatesTimes

ปัตตานี - "นิพนธ์" รุดลงปัตตานี นำความห่วงใยรัฐบาล เร่งช่วยเหลือ ปชช. ประสบอุทกภัยในพื้นที่ สั่งระดมทุกหน่วยผนึกกำลัง พร้อมเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบโดยเร็วที่สุด!!

วันนี้ 28 กุมภาพันธ์ 2565 นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังผู้ที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมในพื้นที่ อ.เมืองปัตตานี และอ.แม่ลาน จ.ปัตตานี พร้อมมอบถุงยังชีพและสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น บรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประสบภัย บริเวณ 2 จุด จำนวนกว่า 500 ชุด โดยมีนายนิพันธ์ บุญหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้นำท้องที่ ร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย

ภาพรวมสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.ปัตตานี ได้รับผลกระทบจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงใกล้เกาะบอร์เนียว เคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศมาเลเซียและภาคใต้ตอนล่าง ทำให้พื้นที่จังหวัดปัตตานีมีฝนตกหนักสะสม ตั้งแต่ช่วงวันที่ 23 ก.พ. 65 ที่ผ่านมา 

จนกระทั่งวานนี้ (วันที่ 27 ก.พ. 65) หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณช่องแคบมะละกา ก็ยังคงเคลื่อนตัวทางตะวันตกเข้าปกคลุมเกาะสุมาตราตอนบน ในขณะที่ลมตะวันออกกำลังแรงที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง จนเกิดฝนตกหนักสะสมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 6 อำเภอ 27 ตำบล 81 หมู่บ้าน 3 ชุมชน1,730 ครัวเรือน 5,598 คน ในส่วนของอำเภอเมืองปัตตานี ได้รับผลกระทบ จำนวน 3 ตำบล 4 หมู่บ้าน 2 ชุมชน 162 ครัวเรือน 810 คน และอำเภอแม่ลาน ได้รับผลกระทบ จำนวน 3 ตำบล 10 หมู่บ้าน 219 ครัวเรือน 913 คน ส่วนผลกระทบด้านอื่นๆ อาทิ ด้านการเกษตรมีพื้นที่เสียหาย จำนวน 3,167 ไร่ ด้านประมงและปศุสัตว์ มีความเสียหายเล็กน้อยนอกจากนี้ในส่วนของสิ่งสาธารณูปโภค ถนนได้รับความเสียหาย 5 สาย และมัสยิด 1 แห่ง ทั้งนี้ อปท. ในพื้นที่ ได้ให้ความช่วยเหลือโดยการแจกถุงยังชีพให้แก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นแล้ว

นายนิพนธ์ กล่าวว่า สภาพภูมิอากาศในปีนี้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เกิดฝนนอกฤดูกาลอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีปริมาณน้ำฝนสะสมจำนวนมาก ตนมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว โดยได้ติดตาม/ประเมินสถานการณ์ พร้อมแจ้งเตือน/สร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารไปสู่พี่น้องประชาชนผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด ปัจจุบัน กรมอุตุมนิยมวิทยา กับ ปภ. ได้ทำงานใกล้ชิดกันมากขึ้น การคาดการณ์สถานการณ์ต่างๆ ของกรมอุตุนิยมวิทยามีความแม่นยำ ทำให้มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าและรับมือกับสถานการณ์ได้ดีขึ้น ทั้งนี้กระทรวงมหาดไทยเองก็ได้ติดตามและเน้นย้ำแนวทางในการปฏิบัติการตามแผนเผชิญเหตุอุทกภัยและวาตภัย เพื่อบริหารจัดการสถานการณ์ บูรณาการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และมีการสั่งเตรียมความพร้อมในพื้นที่มาโดยตลอดตั้งแต่ระดับจังหวัดลงไปจนถึง อปท. ซึ่งได้ประสานงานกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงทีทั้งเรื่องของบุคลากร ลงไปจนถึงอุปกรณ์เครื่องจักรกลต่าง ๆ อาทิ เรือท้องแบน รถราต่าง ๆ ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ เบื้องต้น อปท. ในพื้นที่ กับ ปภ. ได้ดำเนินการตามแผนอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัย และดูแลเรื่องอาหารการกินต่าง ๆ อย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

นายนิพนธ์ กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับแนวโน้มคาดการณ์ว่า จ.ปัตตานี สถานการณ์ในวันนี้ได้คลี่คลายลงแล้ว จนเกือบจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ส่วนปริมาณน้ำฝนที่ยังคั่งค้างอยู่ตามแนวเทือกเขาต่างๆ นั้น ก็จะไหลลงแม่น้ำหลัก อยากจะฝากไปถึงพี่น้องประชาชนให้ติดตามสถานการณ์และข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และฝากเตือนถึงเรื่องการสัญจรไปมา ให้ใช้ความระมัดระวังมากขึ้น งดลงเล่นน้ำ เพราะหากมีเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากเกิดขึ้นอีก อาจได้รับอันตรายจนถึงชีวิตได้ ซึ่งหลังจากนี้ หากสถานการณ์ทุกอย่างได้คลี่คลายลงแล้ว ตนก็สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้สำรวจ ตรวจตราความปลอดภัยของบ้านเรือน และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน เพื่อบรรเทาความวิตกกังวล พร้อมสั่งดำเนินการสำรวจและประเมินความเสียหายอย่างเร่งด่วน เพื่อดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ตามระเบียบของทางทางราชการกันต่อไปราชการ และนอกจากนี้ ตนยังมีความห่วงใยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ยังคงมีการระบาด และมีผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง พร้อมขอความร่วมมือประชาชนทุกคนให้ปฏิบัติตนตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เราทุกคนผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกัน

นวัตกรรมคนไทย!! คิดค้น ‘สเปรย์แอนติบอดีพ่นจมูก’ ยับยั้งโควิด คาดทดลองเสร็จ พร้อมออกสู่ตลาดไตรมาส 3 ปีนี้

จุฬาฯ ร่วม 4 หน่วยงานพัฒนาต่อยอดนวัตกรรม “สเปรย์แอนติบอดีพ่นจมูก” ยับยั้งโควิด ศึกษาทางคลินิกในอาสาสมัคร คาดออกสู่ตลาดไตรมาส 3 ปีนี้

เมื่อวันที่ 28 ก.พ.65 รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วย ผศ.ชัยชาญ ถาวรเวช อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร นพ.นพพร ชื่นกลิ่น ผอ.สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผอ.องค์การเภสัชกรรม (อภ.) และ น.ท.พญ.ภาพร ประสิทธิ์ดำรง กรรมการบริษัทไฮไบโอไซ จำกัด ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือพัฒนานวัตกรรม “สเปรย์แอนติบอดีพ่นจมูกที่มีคุณสมบัติยับยั้งเชื้อโควิด-19” เพื่อผลักดันงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมไทยสู่ระดับโลก

รศ.นพ.ฉันชาย กล่าวว่า ทีมนักวิจัยได้บ่มเพาะและพัฒนาแอนติบอดีที่มีคุณสมบัติยับยั้งเชื้อโควิด-19 มาตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการระบาด โดยได้รับการสนับสนุนทั้งจากภาคประชาชนและภาครัฐ คือ สวรส. กระทั่งสามารถพัฒนาแอนติบอดีต้นแบบได้และได้ยื่นจดสิทธิบัตรเป็นที่เรียบร้อย มีความพร้อมที่จะถ่ายทอดไปสู่ภาคเอกชนเพื่อนำไปต่อยอดในการทำการวิจัยทางคลินิก เพื่อสร้างเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่น่าจะมีส่วนช่วยป้องกันหรือรักษาโควิด-19 โดยหน่วยงานที่มาร่วมมือในครั้งนี้จะทำการวิจัยทางคลินิก และผลิตให้ได้ตามมาตรฐานเพื่อขอขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์กับสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ประมาณเดือนมิถุนายน 2565 คาดออกสู่ตลาดเพื่อให้ประชาชนไทยได้เข้าถึงนวัตกรรมสุขภาพอีกทางเลือกหนึ่งในการป้องกันเชื้อโควิด-19 ประมาณไตรมาส 3 ของปี 2565 และเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะมาช่วยรับมือกับสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 ต่อไป

ผศ.ชัยชาญ กล่าวว่า คณะเภสัชศาสตร์ ม.ศิลปากร ได้ร่วมศึกษาวิจัยกับทีมวิจัยจากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบสเปรย์แอนติบอดีสำหรับพ่นจมูกเพื่อป้องกันโควิด-19 ซึ่งจากผลการทดลองเบื้องต้นในระดับห้องปฏิบัติการและการศึกษาวิจัยในสัตว์ทดลอง แอนติบอดีพ่นจมูกที่พัฒนาขึ้นมีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นพ.นพพร กล่าวว่า สเปรย์แอนติบอดีพ่นจมูกที่มีคุณสมบัติยับยั้งเชื้อโควิด-19 ที่กำลังจะถูกพัฒนาขึ้นมาและมีการศึกษาประสิทธิภาพในมนุษย์นั้น เป็นการต่อยอดจากงานวิจัยที่ สวรส.ได้ให้การสนับสนุนในโครงการพัฒนา Monoclonal antibody cocktail ต่อเชื้อ SAR-CoV-2 จากผู้ป่วยโควิด-19 ที่หายจากโรค พร้อมกันนี้ สวรส. ยังได้สนับสนุนทุนวิจัยในด้านนวัตกรรม เพื่อเป้าหมายในการเติมเต็มความมั่นคงด้านสุขภาพ รวมทั้งการเข้าถึงบริการสุขภาพของคนไทยอย่างเท่าเทียม และนวัตกรรมด้านสุขภาพจะช่วยให้คนไทยเกิดการพึ่งพาตนเองด้านสุขภาพมากยิ่งขึ้น

ขยายตัวต่อเนื่อง!! ‘สุริยะ’ เผยดัชนีผลผลิตอุตฯ เดือน ม.ค. โต 99% รับอานิสงส์ผ่อนคลายล็อกดาวน์ - เปิดประเทศ

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนมกราคม 2565 ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 อยู่ที่ระดับ 104.42 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.99 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.11 จากเดือนก่อนหน้า ด้านดัชนีแรงงานอุตสาหกรรมขยายตัวร้อยละ 1.04 รับอานิสงส์จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัว

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมไทยขยายตัวใกล้เคียงกับช่วงก่อนหน้าสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนมกราคมปี 2565 อยู่ที่ 104.42 ขยายตัวร้อยละ 1.99 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 นับตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2564 อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การติดเชื้อโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในสถานประกอบการยังไม่ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิต สะท้อนได้จากดัชนีแรงงานอุตสาหกรรม เดือนมกราคมปี 2565 ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ร้อยละ 1.04 และอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ร้อยละ 65.91

เศรษฐกิจภายในประเทศกลับมาขยายตัวเพิ่มขึ้น หลังการกระจายวัคซีนที่ดีขึ้นและการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด ตลาดภายในประเทศเริ่มฟื้นตัวหลังได้รับการสนับสนุนผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องของภาครัฐและนโยบายเปิดประเทศ รวมถึงสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในประเทศอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ ในขณะที่เศรษฐกิจโลกยังคงเติบโตได้ แม้หลายประเทศจะเริ่มกลับมาบังคับใช้มาตรการควบคุมการระบาด แต่ยังคงสามารถดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่ทั้งนี้จำเป็นต้องติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในรัสเซียและยูเครน ซึ่งในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด” นายสุริยะ กล่าว

นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า การผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดและนโยบายการเปิดประเทศส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ทำให้อุปสงค์ในประเทศทยอยฟื้นตัว สะท้อนได้จากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมน้ำมันปิโตรเลียม ถึงแม้ผู้ประกอบการจะเผชิญกับแรงกดดันจากต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาพลังงานและค่าขนส่ง ตลอดจนความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่ส่งผลต่อราคาวัตถุดิบนำเข้า

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรมของประเทศไทยยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดย สศอ. ได้ใช้เครื่องมือระบบเตือนด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทย (The Early Warning System Industry Economics : EWS-IE) ในการคำนวณ สะท้อนให้เห็นว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีแน้วโน้มขยายตัวใน 1-2 เดือนข้างหน้า ด้านเศรษฐกิจประเทศคู่ค้ามีแนวโน้มกลับมาขยายตัวเช่นกัน ทั้งนี้ จำเป็นต้องจับตาดูสถานการณ์ของรัสเซียและยูเครน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานและเป็นตัวเร่งให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงสถานการณ์ความไม่สงบดังกล่าว อาจเป็นอุปสรรคการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และการค้าโลกอาจจะกลับมาสะดุดอีกครั้งหากสงครามยืดเยื้อ

ลำปาง - จิตอาสา มทบ.32 ร่วมกิจกรรมวันรณรงค์ ‘ปลอดควันพิษจากไฟป่า’

เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์​ 2565 เวลา​ 10.00​ น.​ พลตรีอโณทัย​ ชัยมงคล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 มอบหมายให้วิทยากรจิตอาสา 904 จัดกำลังพลจิตอาสา มณฑลทหารบกที่ 32, กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดลำปาง , สำนักงานทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลำปาง ,หน่วยงานกรมอุทยาน และกรมป่าไม้ ในพื้นที่จังหวัดลำปาง, ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง, สถานีตำรวจภูธรเขลางค์,ชุดปฏิบัติการรณรงค์ป้องกัน และแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน มณฑลทหารบกที่ 32 และเครือข่ายภาคประชาชน ร่วมกิจกรรมวันรณรงค์ให้ปลอดควันพิษจากไฟป่า 

โดยร่วมกันทำแนวกันไฟ และบริหารจัดการเชื้อเพลิง และสร้างความตระหนักรู้ ร่วมกันปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันของจังหวัดลำปาง โดยมีนาย นฤพนธ์ ทิพย์มณฑา ทสจ.ลป.เป็นประธานฯ ณ​ สวนรุกขชาติ อุทยานเขลางค์บรรพต ตำบลพระบาท อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง

 

ตราด - ไอเดียเก๋! ‘กัญชง และโรงกัญชา’ ปลูกกัญชา 600 ต้น วิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรหาดเล็ก พร้อมส่งเสริมเศรษฐกิจ และสุขภาพชายแดน!

วิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรหาดเล็ก หมู่ 2 ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด นายณรงค์ เทพเสนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานในพิธีเปิดวิสาหากิจชุมชนพืชสมุนไพร ต.หาดเล็ก พร้อมด้วย  นายเทวัญ ธานีรัตน์ ผู้อํานวยการกองการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก นส.กิปภา ประสิทธิเวช นายกเทศมตรีตําบลหาดเล็ก นายโชคชัยแสนสิทธิ์ ปลัดอําเภอคลองใหญ่ ประธานสภา สมาชิกสภาเทศบาล เกษตรจังหวัดตราด ตํารวจ กํานัน ผู้ใหญ่บ้านพร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมพิธีเปิด 

โดยมี นส.อรภา ชูใจหาญ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรหาดเล็ก กล่าวรายงานการจัดโครงการ

นายปิยวุฒิ ประสิทธิเวช กํานันตําบลหาดเล็ก ที่ปรึกษาวิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรหาดเล็ก นายเทวัญ ธานีรัตน์ ผู้อํานวยการกองการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกได้ร่วมกับหน่วยงานเปิดป้ายวิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรหาดเล็ก และร่วมกันปลูกกัญชา ซึ่งการจัดโครงการในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ และเป็นการประชาสัมพันธ์วิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรหาดเล็กให้เป็นที่รู้จักโดยทั่วกัน 

Good Morning THE STATES TIMES | ประจำวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2565

เช้านี้มีอะไรอัปเดต!!
#GoodMorningTHESTATESTIMES
ประจำวันที่ 1 มีนาคม 2565

พบกับประเด็นข่าวน่าลิงก์ Good Morning THE STATES TIMES
ข่าวยามเช้าที่จะมาสแตนบาย ทุกวันอังคาร-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 5.00 น. เป็นต้นไป
โดย ปริม-กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา

.

.
 

เอาตัวรอดอย่างไร? เมื่อเกิด ‘ภัยทางน้ำ’ !! | Click on Clear THE TOPIC EP.157

📌 การเอาตัวรอดจาก ‘อุบัติเหตุทางน้ำ’!! ไปกับ ‘คุณฝันเด่น จรรยาธนากร’ นักร้อง - นักแสดง และอาสาสมัคร “กลุ่มใจถึงใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน”

📌🌊 ใน Topic : เอาตัวรอดอย่างไร? เมื่อเกิด ‘ภัยทางน้ำ’ !!

ร่วมจับประเด็น เน้นความรู้ได้ในรายการ Click on Clear THE TOPIC

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

.

.

'ผบ.ตร' เป็นประธานอบรมพนักงานสอบสวน และทีมงานสหวิชาชีพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการคุ้มครองแรงงานแก่คนต่างด้าว

ที่ห้องประชุมออคิดบอลรูม  โรงแรมพูลแมนขอนแก่น จว.ขอนแก่น พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ประธานพิธีเปิดโครงการอบรมสัมมนาพนักงานสอบสวน และทีมงานสหวิชาชีพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการคุ้มครองแรงงานแก่คนต่างด้าว และการป้องกันการละเมิดสิทธิตามกฎหมายแรงงาน อันจะนำไปสู่ปัญหาการค้ามนุษย์
 

“โฆษกรัฐบาล” ย้ำ 1มี.ค.ลงทะเบียน TEST AND GO - แจก ATK ให้ปชช.กลุ่มเสี่ยงฟรี ผ่านหน่วยบริการกว่า 2,000 แห่ง ยัน เดินทางเศรษฐกิจคู่กับป้องกันระบาด

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ใน 1 มี.ค.นี้ รัฐบาลเดินหน้านโยบายมาตรการควบคุมด้านสาธารณสุข ควบคู่ไปกับการเปิดลงทะเบียนตามหลักเกณฑ์การเดินทางเข้าประเทศไทย ในรูปแบบ TEST AND GO โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.)และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเร่งกระจายชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ผ่าน โครงการกระจายอุปกรณ์ตรวจด้วยตนเอง เพื่อคัดกรองการติดเชื้อ COVID-19 ซึ่งเป็นการขยายบริการให้ครอบคลุมการเข้าถึงสิทธิสร้างเสริมสุขภาพและระบบสาธารณสุข อย่างต่อเนื่อง 

นายธนกร กล่าวว่า สำหรับคนไทยทุกสิทธิ ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 จะกระจายผ่านหน่วยบริการในระบบสปสช.กว่า 2,000 แห่ง รวมทั้งร้านยาที่เข้าร่วมโครงการประมาณ 1,500 ร้านทั่วประเทศ โดยวิธีการรับบริการ ผ่านสมาร์ทโฟน เข้าแอปพลิเคชันเป๋าตัง,กระเป๋าสุขภาพ เลือก “ฟรี ชุดตรวจโควิด” โดยทำแบบประเมินความเสี่ยงก่อน หากมีความเสี่ยง ระบบจะให้ค้นหาหน่วยบริการใกล้ฉันและโทรติดต่อสอบถาม จากนั้นให้ไปรับพร้อมมือถือที่มีแอปเป๋าตัง เพื่อใช้สแกน QR Code แอปถุงเงินของหน่วยบริการ ได้รับชุดตรวจ 2 ชุด นำกลับมาตรวจและบันทึกผลผ่านแอปเป๋าตัง กระเป๋าสุขภาพ สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยดาวน์โหลดแอปฯ เป๋าตัง สามารถดาวน์โหลดและลงทะเบียนได้ที่ https://krungthai.com/link/paotang-ktbwallet 

กรณีไม่มีสมาร์ตโฟน ให้โทร 1330 หรือผ่านเว็บไซต์ สปสช.เพื่อตรวจสอบข้อมูลหน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการ
และเดินทางไปที่หน่วยบริการ พร้อมบัตรประชาชน สูติบัตร เพื่อให้ ตัวแทนหน่วยบริการ ทำประเมินความเสี่ยง หากมีความเสี่ยง จะได้รับชุดตรวจ 2 ชุด และนำกลับมาตรวจ และแจ้งผลให้ตัวแทนหน่วยบริการบันทึกผลตรวจให้ โดยตัวแทนหน่วยบริการสแกนคิวอาร์โคด แอปฯถุงเงิน ของหน่วยตนเองเพื่อบันทึกการแจกโดยแจกได้ 100คนต่อวัน และหลังจากได้รับแจกแล้ว อีก 10 วัน สามารถมาขอรับชุดตรวจได้เพิ่ม ทั้งนี้ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน สปสช. 1330 ตลอด 24 ชม. หรือ คลิกchttps://tp.consular.go.th/ เพิ่มเพื่อนไลน์กับ สปสช. @nhso

นายธนกร กล่าวว่า ส่วนขั้นตอนหลักเกณฑ์การเดินทางเข้าประเทศไทยในรูปแบบ TEST AND GO ที่จะเปิดให้ลงทะเบียนอีกครั้ง วันที่ 1 มี.ค.นี้ ให้ลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass ที่ https://tp.consular.go.th/ โดยจะใช้เวลาในการพิจารณา 3- 7วัน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดีเดย์ 1 มี.ค. เปิดศูนย์รับแจ้งความออนไลน์คดีทางเทคโนโลยี  ดึง 21 ธนาคารทำ MOU เพิ่มประสิทธิภาพติดตามคดีรวดเร็วยิ่งขึ้น 

ที่อาคารหอประชุมสัมมนา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมืองทองธานี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เป็นประธานเปิดศูนย์รับแจ้งความออนไลน์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี และทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง ตร. กับ สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ สมาคมธนาคารไทย และธนาคารสมาชิก รวม 21 ธนาคาร ในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยมี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ศิริพงษ์ ติมุลา ผบช.สทส., พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท., ผู้บัญชาการ ผู้บังคับการ ทุกหน่วยทั่วประเทศ ผู้แทนกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กสทช. ปปง. ธนาคารแห่งประเทศไทย เครือข่ายผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ และ สมาคมพนักงานสอบสวน เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในพิธี 

พล.ต.อ.สุวัฒน์ เปิดเผยว่า โครงการระบบรับแจ้งความออนไลน์อาชญากรรมทางเทคโนโลยีนี้ ประชาชนจะสามารถเข้าถึงตำรวจได้ง่ายขึ้น ด้วยการแจ้งความทางเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com ผ่านคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์สมาร์ตโฟน โดยจะต้องลงทะเบียนเพื่อยืนยันตัวตน กรอกข้อมูลทางคดี ตามขั้นตอนจนเสร็จ ผู้แจ้งจะได้รับ “เลขรับแจ้งความออนไลน์ หรือ  Case ID” เช่น 65021 จะมีผู้บริหารการรับแจ้ง (Admin) และผู้บริหารคดี (Case Manager) วิเคราะห์ข้อมูล และส่งเรื่องต่อไปยังสถานีตำรวจที่ผู้แจ้งสะดวกในการเดินทางไปแจ้งความ โดยสถานีตำรวจที่ได้รับเรื่องจะเริ่มกระบวนการสืบสวนในทันทีที่ได้รับข้อมูลจากระบบรับแจ้งความออนไลน์

ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า เมื่อ Admin ของสถานีตำรวจรับเรื่องแล้ว ก็จะนำเสนอผู้บริหารคดี เพื่อจ่ายคดีให้แก่พนักงานสอบสวนทำการโทรนัดหมายผู้แจ้ง หรือผู้เสียหายมาสอบปากคำ และรายงานความคืบหน้าทางคดีในระบบออนไลน์ โดยผู้เสียหายจะสามารถติดตามความคืบหน้า ส่งข้อมูลเพิ่มเติม หรือสอบถามปัญหาผ่านระบบได้ตลอดเวลา แต่ทั้งนี้ ในคดีอาชญากรรมทางออนไลน์ ประชาชนก็ยังสามารถไปแจ้งความโดยตรงได้ทุกสถานีตำรวจที่ท่านสะดวก แม้สถานีตำรวจนั้นจะไม่มีอำนาจการสอบสวน ก็จะส่งเรื่องต่อไปยังสถานีตำรวจที่มีอำนาจการสอบสวนต่อไป

เราคาดหวังว่า ประชาชนจะได้รับความสะดวกมากขึ้น มีการนัดหมายล่วงหน้า ไม่ต้องไปรอคิวที่สถานีตำรวจ  ไม่ต้องให้การในเรื่องเดิมซ้ำหลายครั้ง และสามารถร้องขอให้ธนาคารระงับธุรกรรมทางการเงินได้อย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้เงินของผู้เสียหายถูกโอนไปยังเครือข่ายของคนร้าย และเจ้าหน้าที่เองก็จะได้รับประโยชน์กรณีผู้ต้องหากระทำความผิดหลายท้องที่ เนื่องจากสามารถเชื่อมโยงคดี มีข้อมูลที่สามารถขอศาลออกหมายจับได้ง่ายขึ้น 

เมื่อถามถึงความพร้อม ผบ.ตร. กล่าวว่า เราได้ปรับปรุงพัฒนาและทดสอบระบบจนสามารถใช้การได้เป็นอย่างดี โดยจะเริ่มเปิดใช้งานจริงในวันที่ 1 มี.ค.65 นี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการจัดฝึกอบรม Admin และ ผู้บริหารคดี ทั่วประเทศ จำนวน 8,383 นาย พนักงานสอบสวน 10,487 นาย เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนอีก 12,305 นาย รวมผู้เข้ารับการอบรมทั้งสิ้น 31,175 นาย รวมทั้งมีการทดสอบความรู้หลังการฝึกอบรม เพื่อให้มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ทุกนายจะสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้เราได้จัดพิธีทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง ตร. กับ สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ สมาคมธนาคารไทย และ 21 ธนาคารสมาชิก ในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยให้ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ของ ตร. เป็นศูนย์กลางในการร่วมกันกำหนดแนวทางติดตามเส้นทางการเงินของคนร้ายและเครือข่าย เพื่อป้องกันมิให้คนร้ายโอนเงินต่อเป็นทอดๆ ไปยังกลุ่มเครือข่าย 

รวมถึงกำหนดรูปแบบและวิธีการรับส่งข้อมูลผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ปลอดภัย และหากคดีมีความเชื่อมโยงกับบัญชีหลายธนาคาร ก็จะมีคณะทำงานย่อยร่วมกันเพื่อให้การสืบสวนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว นอกจากนี้จะมีการกำหนดรูปแบบในการประชาสัมพันธ์เตือนภัยถึงพฤติการณ์ในรูปแบบต่างๆ ของคนร้าย และแลกเปลี่ยนเทคนิค ข้อมูลความรู้ระหว่างเจ้าหน้าที่ เพื่อให้การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top