Saturday, 17 May 2025
TheStatesTimes

นิสิตจุฬาฯ ปี 1 ไอเดียเจ๋ง ผุดทางม้าลาย 3 มิติ ใครเห็นก็ต้องหยุด

โลกออนไลน์แห่แชร์ภาพทางม้าลาย 3 มิติสีชมพูที่สร้างสรรค์จากฝีมือนิสิตสถาปัตย์จุฬาฯ ปี 1 ชาวเน็ตแห่ชื่นชมไอเดียนี้เป็นจำนวนมาก

จากกรณีอุบัติเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์สีแดงชน พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือหมอกระต่าย อย่างแรงระหว่างเดินข้ามทางม้าลายบริเวณหน้าสถาบันไตภูมิราชนครินทร์ ถนนพญาไท จนถึงแก่ชีวิต ทำให้ทั่วทั้งประเทศหันมาให้ความสำคัญต่อทางม้าลาย มีการปรับปรุง ทาสีทางม้าลายให้เห็นชัดเจนมากขึ้น

‘เหมียนหยางเซียนเฟิงลู่ สิรินธร’ โรงเรียนในจีน สร้างจากทรัพย์ส่วนพระองค์ ‘กรมสมเด็จพระเทพฯ’

ในโอกาสวันตรุษจีน ดร.ยอดเยี่ยม เทพธรานนท์ ราชบัณฑิตวิชาสถาปัตยศิลป์ ได้โพสต์ภาพโรงเรียนเหมียนหยางเซียนเฟิงลู่ สิรินธร ที่สะท้อนความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทย-จีน ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมระบุข้อความ ว่า โรงเรียนหนึ่งเดียวในจีน นำพระนาม "กรมสมเด็จพระเทพฯ" ไปตั้งเป็นชื่อโรงเรียน

ที่เมืองจีนมีโรงเรียนที่นำพระนามของพระองค์ท่านมาตั้งชื่อโรงเรียน ("เหมียนหยางเซียนเฟิงลู่ สิรินธร") เพราะสิบกว่าปีก่อน ตอนนั้นมีแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ จนโรงเรียนพังพินาศ เด็กๆ ไม่สามารถเรียนหนังสือได้ พระองค์จึงมอบพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ให้สร้างโรงเรียนแห่งนี้ขึ้นมาใหม่ จนเด็กๆ ได้กลับมาเรียนหนังสือกันอีกครั้ง 

‘ภูเขาไฟระเบิด’ หายนะทางธรรมชาติ!! ที่มนุษย์เอาชนะไม่ได้

เมื่อประมาณกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา คิดว่าหลาย ๆ ท่านคงได้ยินข่าวที่น่าสนใจอันเกิดจากภัยธรรมชาติข่าวหนึ่ง ซึ่งเป็นภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในประเทศเล็ก ๆ ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักเท่าไรนัก แต่ก็เป็นข่าวดังไปทั่วโลก นั่นคือการระเบิดของภูเขาไฟในประเทศตองกานั่นเอง 

โดยเกิดขึ้นในบริเวณหมู่เกาะฮังกา-ฮายาไป (Hunga Ha’apai island) ห่างไปทางเหนือราว 65 กิโลเมตร จากกรุงนูกูอาโลฟา ซึ่งเป็นเมืองหลวงของตองกา ทั้งนี้จากภาพถ่ายดาวเทียมเวิลด์วิว 02 (Worldview02) ดาวเทียมเซนติเนล-1 (Sentinel-1) และดาวเทียมเกาเฟิน-1 (Gaofen-1) ที่แสดงให้เห็นว่าพื้นที่บางส่วนของเกาะฮังกา-ฮายาไป สูญหายหลังเกิดเหตุภูเขาไฟใต้ทะเลปะทุรุนแรงเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2565 และเกิดการระเบิดปะทุซ้ำขึ้นมาอีกรอบ ในช่วงบ่ายของวันที่ 15 มกราคม 2565

ผลของการระเบิดของภูเขาไฟใต้มหาสมุทรทั้ง 2 ครั้ง ส่งผลกระทบทำให้เกิดคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ที่มีความสูงราว 1.2 เมตร พัดถล่มหมู่เกาะ และชายฝั่งกรุงนูกูอาโลฟาจนเสียหายหนัก จากภาพถ่ายทางดาวเดียม เมื่อเปรียบเทียบก่อนและหลังการเกิดการระเบิดของภูเขาไฟ พบว่าหมู่เกาะทั้งเกาะหายไปเกือบทั้งเกาะเลยทีเดียว 

สำหรับวันนี้เราจะมาดูถึงที่มาและสาเหตุของการเกิดภูเขาไฟระเบิดกันครับ... การระเบิดของภูเขาไฟเป็นอีกปรากฏการณ์หนึ่งของธรรมชาติที่ส่งผลกระทบต่อมนุษย์ ก่อนอื่นที่จะทำความรู้จักการระเบิดของภูเขาไฟ เราต้องรู้กันก่อนน่ะครับว่าโลกที่เราอาศัยอยู่นี้ประกอบไปด้วยส่วนที่เป็นเปลือกโลก ซึ่งเราอาศัยอยู่ในส่วนนี้ และส่วนที่เป็นเนื้อโลก โดยภายในเนื้อโลกองค์ประกอบหลักเป็นธาตุโลหะหนักและหินที่มีอุณหภูมิสูงจนทำให้มีสถานะเป็นของเหลวหนืด ที่มีความร้อนสูง ซึ่งการเกิดภูเขาไฟเกิดก็เกิดขึ้นมาจากการที่ภายในชั้นเนื้อของโลกที่ประกอบไปด้วยหินหนืดที่มีความร้อนสูง หรือที่เรียกว่าแมกมา นั่นเอง  

“ประวิตร” ถก “คกก.กองทุนดิจิทัลฯ”ไฟเขียว 8โครงการพัฒนาศักยภาพ-ขยายเวลาผู้ประกอบการดิจิทัลฯ-เครื่องแรงดันลบฯช่วยโควิด

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัล เพื่เศรษฐกิจและสังคม ครั้งที่1/2565 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง 

โดยที่ประชุมเห็นชอบขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการด้านเศรษฐกิจ ดิจิทัล ภาคกลาง เพิ่มอีก180 วัน โครงการเครื่องปรับแรงดันอากาศเป็นลบ ขนาดใหญ่ สำหรับหอผู้ป่วยและหออภิบาลผู้ป่วยหนักทางเดินหายใจ เพิ่มอีก 62 วัน เพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 

จากนั้นที่ประชุมอนุมัติโครงการพัฒนาตามหลักเกณฑ์ รวมถึงการขอขยายระยะเวลาที่เหมาะสมและเกิดประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ ต่อสภาพเศรษฐกิจ สังคมและประชาชน มาตรา 26 (4) จำนวน 8โครงการ ได้แก่ 1.โครงการรถโรงเรียนรุ่นใหม่เด็กปลอดภัย 2.โครงการแพลตฟอร์ม "Connexion" 3.ขยายผลดำเนินโครงการTransform ตลาดยุควิถีใหม่ 4.โครงการเมล็ดพันธุ์นักรบดิจิทัลรุ่นใหม่ 5.โครงการจัดทำระบบดิจิทัลและเทคโนโลยี เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพทั่วประเทศ 6.โครงการพัฒนาทักษะและยกระดับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเกมไทยต่อยอดสู่ระดับสากล 7.โครงการพัฒนาและยกระดับผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรม e-Sports และ8.โครงการเปิดเมืองเปิดท่องเที่ยวไทย ด้วยดิจิทัล 

มิติใหม่ ‘การศึกษาไทย’!! พัฒนาการเรียนรู้ ผ่านวิถีแห่ง ‘บ้านเกิด’ | Click on Clear THE TOPIC EP.139

📌 เปิดใจ!! พัฒนา ‘การศึกษาไทย’!! ด้วยแนวทางการเรียนรู้จาก ‘บ้านเกิด’ ไปกับ ‘คุณสริภา สุจิตต์’ นิสิตและนักกิจกรรม

📌 ใน Topic : มิติใหม่ ‘การศึกษาไทย’!! พัฒนาการเรียนรู้ ผ่านวิถีแห่ง 'บ้านเกิด'

ร่วมจับประเด็น เน้นความรู้ได้ในรายการ Click on Clear THE TOPIC

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

.

.

ครม. ไฟเขียวตั้ง ‘ศูนย์ปราบข่าวปลอม’ พบข่าวปลอม ต้องจัดการภายใน 1 ชม.

ครม. เห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ พ.ศ. ....  จัดตั้ง “ศูนย์ประสานงานการป้องกันปราบปราม และแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์กลางประจำกระทรวง - จังหวัด เดินหน้าขจัดข่าวปลอม (Fake news) ป้องกันการยั่วยุ สร้างความแตกแยกในสังคมในวงกว้าง    

.

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 มีมติเห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ พ.ศ. .... เป็นแนวทางและหลักเกณฑ์ในการดำเนินการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหา การเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ร่วมกันของหน่วยงานของรัฐ เพื่อคุ้มครองประชาชนให้ได้รับความปลอดภัยและได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นประโยชน์ 

.

ทั้งนี้ จะให้มีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานการป้องกัน ปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ ได้แก่ 

.

1.) ศูนย์ประสานงานกลาง 

2.) ศูนย์ประสานงานประจำกระทรวง 

และ 3.) ศูนย์ประสานงานประจำจังหวัด เพื่อเป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกันของหน่วยงานของรัฐในการแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์

.

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สาระสำคัญร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ อาทิ การกำหนดนิยามคำสำคัญ เช่น สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) และ ข่าวปลอม, การจัดตั้งศูนย์ประสานงานกลาง ให้สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จัดตั้งศูนย์ประสานงานการป้องกันปราบปราม และแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์กลางเพื่อเป็นศูนย์กลางในการดำเนินการ  

.

โดยให้ทุกกระทรวงจัดตั้งศูนย์ประสานงานการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ ประจำกระทรวง และให้กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย จัดตั้งศูนย์ประสานงานการป้องกัน ปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ ประจำจังหวัดโดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้ว่าราชการจังหวัด ที่ได้รับมอบหมายทำหน้าที่หัวหน้าศูนย์ประสานงานประจำจังหวัด 

.

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สาระสำคัญอีกเรื่อง คือมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ข่าวปลอม ดำเนินการแถลงข่าวทันทีที่พบว่าข่าวดังกล่าวเป็นข่าวปลอม และแจ้งกรมประชาสัมพันธ์ภายใน 1 ชั่วโมง และให้บังคับใช้กฎหมาย ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบและต้องจัดให้มีการร้องทุกข์หรือกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนโดยเร็ว

.

สำหรับกรณีข่าวปลอมใดที่เข้าข่ายหรือสมควรดำเนินการระงับการทำ ให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ ให้เป็นหน้าที่ของข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบตามระเบียบนี้ แจ้งให้ ดศ. ดำเนินการระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ รวมทั้งกำหนดตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายผลสัมฤทธิ์ ของงานเพื่อการประเมินผลการดำเนินงานตามระเบียบนี้

'ช.การช่าง-ไอทีดี' พร้อม!! เริ่มก่อสร้าง 65 คาดพร้อมเปิดให้บริการภายในปี 2570

เพจ ข่าวรถไฟ โพสต์ข้อความระบุว่า ปักหมุดเตรียมก่อสร้างสายสีม่วงใต้!

ตอนนี้ก็รู้ผลกันแล้วว่า สายสีม่วงใต้ใครจะได้บริษัทอะไรบ้างสร้างในช่วงไหนบ้าง โดยเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 65 ที่ผ่านมา ทาง รฟม. หรือการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยได้เปิดเผยผลการประกวดราคาจ้างการก่อสร้างดังนี้

สัญญาที่ 1 ช่วงเตาปูน - หอสมุดแห่งชาติ ได้ผู้เสนอราคาต่ำสุดคือ CKST-PL JOINT VENTURE (บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน))

สัญญาที่ 2 ช่วงหอสมุดแห่งชาติ - ผ่านฟ้า ได้ผู้เสนอราคาต่ำสุดคือ CKST-PL JOINT VENTURE (บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน))

‘ทิพานัน’ เตือนอย่าแลกสิทธิคนละครึ่งเป็นเงินสด ชี้ ผิดกฎหมาย-ถูกตัดสิทธิเข้าร่วมโครงการอื่น

‘ทิพานัน’ เตือน ร้านค้า-ประชาชน อย่าแลกสิทธิคนละครึ่งเป็นเงินสด ชี้ ผิดกฎหมาย-ถูกตัดสิทธิเข้าร่วมโครงการอื่น 

เมื่อวันที่ 2 ก.พ. น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ข้าวราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่รัฐบาล เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 โดยเริ่มใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. - 30 เม.ย. นี้ จำนวน 1,200 บาทต่อคน ให้กับประชาชนที่รับสิทธิเข้าร่วมโครงการ 29 ล้านคน คาดว่าจะทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 7-8 หมื่นล้านบาท โดยภาพรวมการใช้จ่ายในวันแรกคึกคัก มีผู้กดยืนยันสิทธิเข้าร่วมโครงการ 16.93 ล้านคน ใช้สิทธิสแกนจ่าย 2.4 ล้านราย ยอดใช้จ่าย 253.43 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่าย 247.81 ล้านบาท มียอดใช้จ่ายรวมในวันแรก 501.24 ล้านบาท 

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า จากการมอนิเตอร์โซเชียลเน็ตเวิร์ก พบว่ามีบุคคลจำนวนมาก ประกาศรับแลกสิทธิโครงการคนละครึ่ง เช่น ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ทวีตข้อความว่า “รับแลกคนละครึ่งนะคะ สแกนเสร็จโอนทันที สนใจแอดไลน์ … ค่ะ เจ้าเก่าเจ้าเดิม…” เป็นต้น ข้อความดังกล่าวสะท้อนว่าทำมาหลายครั้ง และผิดวัตถุประสงค์ของโครงการ การแลกวงเงินสิทธิเป็นเงินสด ถือว่ากระทำทุจริตผิดกฎหมายเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง มีเจตนาหลอกลวงผู้อื่นด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ปกปิดข้อความจริงที่ควรแจ้ง ทำให้ได้ประโยชน์ทางทรัพย์สินไปจากผู้ถูกหลอกคือรัฐ มีโทษจำคุกถึง 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 341

ระยอง - เผย!ใช้สารเคมี Dispersant 80,000 ลิตร ในการสลายคราบน้ำมันดิบรั่วไหลกลางทะเล เร่งฟื้นฟู! ‘ชายหาดแม่รำพึง’ สร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวเล่นน้ำทะเล และความปลอดภัยอาหารทะเล

กองอำนวยการปฏิบัติการกู้คราบน้ำมันรั่วไหล จังหวัดระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนันต์ นาคนิยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พล.ร.ต.อภิชาต วรภมร รองโฆษกกองทัพเรือ และนายธวัช เจนการ หน.อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าการปฏิบัติการกู้คราบน้ำมันของ บ.SPRC รั่วไหลกลางทะเล จังหวัดระยอง

พล.ร.ต.อภิชาต วรภมร รองโฆษกกองทัพเรือ ได้ยืนยันว่าตั้งแต่ปฏิบัติภารกิจมาวันเกิดเหตุวันที่ 25 ม.ค.ไม่เหลือคราบน้ำมันหลงเหลือในพื้นที่ผิวชายหาด แต่ในทะเลที่สลายในทะเลอาจจะหลงเหลืออยู่บ้าง อาจจับตัวแป็นก้อนเล็กๆ ขึ้นฝั่ง แต่ก็มีเจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าระวังตามหาดต่างๆ ตลอด 24 ชม.เข้าไปเก็บกู้ให้กระทบชายหาดน้อยที่สุด ส่วนการปฏิบัติการกู้คราบน้ำมันครั้งนี้ มีการขออนุญาตใช้สารเคมี Dispersant สลายคราบน้ำมันในทะเล ประมาณ 80,000 ลิตรเศษ ซึ่งจาก 2 วันที่ผ่านมา ไม่ได้มีการใช้สารเคมีสลายคราบน้ำมันเลย ส่วนคราบน้ำมันที่เก็บกู้ขึ้นมาจะมีการนำไปกำจัดอย่างถูกวิธีต่อไป

ด้านนายอนันต์ นาคนิยม รอง ผวจ.ยอมรับว่ากังวลกับการแก้ไขเหตุการณ์และความปลอดภัยของประชาชนที่มาเล่นน้ำ ได้มีการประชาสัมพันธ์งดเล่นน้ำหาดแม่รำพึงไปก่อน ส่วนหาดอื่น และเกาะเสม็ดก็สามารถมาเที่ยวได้ไม่ได้รับผลกระทบ ซึ่งบรรยากาศท่องเที่ยวจังหวัดจะได้โฟกัสหาดแม่รำพึง พยายามให้สภาพความสวยงามกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด และจะสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวในการเล่นน้ำทะเลและความปลอดภัยอาหารทะเลด้วย

โปรเจกต์ 'เชื่อมมิตร-เศรษฐกิจ' ใต้ความล้ำคิดของจีน ที่ชาติพันธมิตรถอดใจ เหตุมองจุดคุ้มจากการลงทุน

เพจ ลึกชัดกับผิงผิง โพสต์ข้อความถึงโครงการรถไฟจีน-ลาว ว่า ปี 2017 นายหยวน เจ้อเสียง หนุ่มชาวมณฑลหูหนาน (袁志祥) จบการศึกษามหาวิทยาลัย เข้าทำงานการรถไฟจีน เป็นช่วงที่กำลังก่อสร้างทางรถไฟจีน-ลาว เขาจึงถูกส่งไปทำงานที่เขตเขาที่อยู่ทางเหนือของทางรถไฟลาว 

ต่อมาไม่นาน หยวน เขารู้จักกับสาวลาวท้องถิ่นชื่ออาเฟิน (ชื่อภาษาจีน) และกลายเป็นแฟนกันในที่สุด 

ปี 2018 อาเฟินได้รับเชิญไปร่วมงานฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ นายหยวน เจ้อเสียงขึ้นเวทีร้องเพลงจีน “เจิงฝู” (征服) ที่แปลว่าพิชิต เพลงนี้พิชิตใจสาวงาม อาเฟินตัดสินใจแต่งงานกับเขา 

ปี 2019 ลูกสาวคนแรกถือกำเนิดที่อำเภอหมื่นล่า มณฑลยูนนาน พวกเขาตั้งชื่อหยวน ซืออี๋ ซึ่งมีความหมายถึงมิตรภาพจีน-ลาว 

หลังโครงการทางรถไฟจีน-ลาวสร้างแล้วเสร็จ ครอบครัวนี้ยังอยู่ต่อในลาวอีกระยะหนึ่ง จนให้กำเนิดลูกสาวคนที่ 2 และตั้งชื่อ หยวน ซืออัน มีความหมายที่ต้องการให้จีนกับลาวเจริญรุ่งเรือง ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข 

เรื่องดังกล่าวเป็นเหตุการณ์เล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นในโครงการก่อสร้างทางรถไฟจีน-ลาว ที่เป็นก้าวแรกของเครือข่ายรถไฟจีน-อาเซียน ตลอดจนเครือข่ายรถไฟอาเซียน-จีน-ยุโรป 

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ค.ศ. 2021 มีพิธีเปิดทางรถไฟจีน-ลาว ที่เชื่อมต่อกรุงเวียงจันทน์กับเมืองคุนหมิงเมืองเอกมณฑลยูนนาน ผู้นำจีนและลาวต่างมาร่วมพิธีเปิด ถือว่าเป็นการให้ความสำคัญกับทางรถไฟสายนี้อย่างสูง 

ทางรถไฟจีน-ลาวช่วงที่อยู่ในลาวมีระยะทาง 414 กิโลเมตร ความเร็ว 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่จีนในปัจจุบันเฉพาะทางรถไฟความเร็วสูงก็มีกว่า 35,000 กิโลเมตร จึงมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าทางรถไฟจีน-ลาวมีความสำคัญสูงถึงขนาดที่ผู้นำทั้งสองประเทศต้องไปร่วมพิธีเปิดการเดินรถเลยหรือ? 

คำตอบคือใช่ เพราะนี่เป็นทางรถไฟที่เกี่ยวข้องกับอนาคตของประชาชนลาว ประชาชนในภาคตะวันตกเฉียงใต้จีนและประชาชนอาเซียน 

มีคำถามว่า ลาวเป็นประเทศยากจนและไม่มีทางออกสู่ทะเล จะมีความสามารถปรับเปลี่ยนอนาคตของมณฑลยูนนาน กระทั่งเขตภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีนเชียวหรือ? คำตอบคือ ลาวคงไม่มี แต่ภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้มีศักยภาพแบบนี้ ทางรถไฟจีน-ลาว เป็นเพียงขั้นแรก เป็นส่วนหนึ่งของทางรถไฟแพนเอเชีย 

ลาวเป็นประเทศที่มีภูมิประเทศแบบดั้งเดิม มีทรัพยากรธรรมชาติมากมาย เฉพาะเหมืองแร่โลหะขนาดใหญ่ก็มีกว่า 450 แห่ง ปัจจุบันขุดออกมาใช้แค่เพียง 3% เท่านั้น เพราะเมื่อขุดออกมาแล้วไม่มีทางขนส่งออกไปขาย จึงไม่มีใครกล้ามาลงทุนช่วยลาวขุดเหมืองแร่ ชาวลาวจึงเพียงเฝ้ารอคอย 

ปี 2016 รัฐบาลลาววางแผนพัฒนาระยะ 15 ปี หวังรับการลงทุนจากต่างประเทศเพื่อสร้างทางรถไฟ ทำให้ลาวซึ่งเดิมเป็นประเทศที่ถูกล็อกไว้ในแผ่นดินชั้นในมาเป็นประเทศที่เป็นชุมทางภูมิภาค และการสร้างทางรถไฟนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย ดังนั้น ประเทศเอเชียตะวันออกจำนวนหนึ่งก็ยินดีเข้าร่วมด้วย 

ก่อนเปิดเดินรถไฟจีน-ลาว ทั้งประเทศลาวมีทางรถไฟเพียง 3 กิโลเมตรเท่านั้น นี่ไปทางรถไฟที่จะเชื่อมต่อกับไทย เพื่อให้ความสะดวกแก่แรงงานลาวที่จะเข้าไปทำงานในไทย 

พื้นที่ส่วนใหญ่ของลาวเป็นป่าไม้ เขตที่สร้างทางรถไฟพอดีอยู่ในเขตรอยต่อของแผ่นธรณีภาคยูเรเซีย (Eurasian Plate) รองรับทวีปยุโรป ทวีปเอเชียและพื้นน้ำบริเวณใกล้เคียงมีชั้นแตกหักมากมาย ทั้งเป็นแนวที่เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.0 ริกเตอร์ สัดส่วนอุโมงค์และสะพานมีกว่า 70% ช่วงเดือนเมษายนถึงตุลาคม จะมีฝนตกชุก 

นอกจากนั้น ช่วงสงครามเวียดนาม เส้นทางโฮจิมินห์ส่วนใหญ่ผ่านลาว ทหารสหรัฐฯ ฝังระเบิดไว้กว่า 200 ล้านลูก จนถึงปัจจุบันยังเหลือกว่า 10 ล้านลูกที่ยังไม่ระเบิด จำนวนลูกระเบิดมากกว่าจำนวนประชากรลาวด้วย ทำให้ลาวมีพื้นที่ที่ต้องปิดไม่ให้ผู้คนเข้าไปอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งยังทำให้ลาวที่เป็นประเทศยากจน แต่สินค้ากลับมีราคาสูง 

สรุป การสร้างทางรถไฟในลาวยากมากและอันตรายมาก ต้องลงทุนสูงและมีความเสี่ยงสูง สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และยุโรปไม่ยอมลงทุน มีแต่จีนเท่านั้นที่ตัดสินใจไปช่วย 

การสร้างทางรถไฟต้องใช้เงินทุน รัฐบาลลาวออกทุน 33% รัฐบาลจีนออก 7% บริษัทจีนในลาวออกทุน 60% หลังสร้างเสร็จ จีนเป็นฝ่ายบริหารก่อนครบอายุสัญญา แล้วจึงมอบให้แก่รัฐบาลลาว โครงการที่ทำยากมากๆ นี้แต่จีนใช้เวลา 5 ปีก็สร้างเสร็จและเปิดใช้ได้ 

ย้อนหลังทศวรรษที่ 1960 คณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งเอเชียและแปซิฟิก (Economic And Social Commission For Asia And The Pacific) หรือ แอสแคป (ESCAP) ได้กำหนดโครงการเครือข่ายทางรถไฟขนส่งสินค้าที่เชื่อมต่อทวีปเอเชียกับยุโรป ระยะทาง 14,080 กิโลเมตร ที่เริ่มจากสิงคโปร์-อิสตันบูล จนถึงยุโรป กระทั่งเชื่อมต่อกับแอฟริกา 

ปี ค.ศ. 1995 ในการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 5 ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย สืบทอดแนวคิดโครงการดังกล่าว เสนอให้สร้างทางรถไฟระหว่างประเทศที่ออกจากคุนหมิงผ่านลาวเข้าไทยกับ มาเลเซียและสิ้นสุดที่สิงคโปร์ เหล่าผู้นำประเทศที่ร่วมการประชุมล้วนเห็นด้วย และวางแผนจะสร้างให้แล้วเสร็จภายในเวลา 10 ปี โดยมียอดการลงทุนกว่า 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จีนออกประมาณครึ่งหนึ่ง

แต่เรื่องนี้พูดง่ายทำยาก คุยไปคุยมาจนถึงเดือนกันยายนปี 1999 จึงมีการลงนามบันทึกช่วยจำในการประชุมระดับรัฐมนตรีครั้งที่ 5 อาเซียน กำหนดแผนรถไฟแพนเอเชีย 

หลังจากนั้นคุยกันอีก 4 ปี เดือนสิงหาคม ค.ศ. 2010 ที่เมืองปูซาน เกาหลีใต้ 18 ประเทศได้ลงนาม “ความตกลงระหว่างรัฐบาลเกี่ยวกับเครือข่ายรถไฟเอเชีย” ที่มีแผนจะสร้าง “เส้นทางสายไหมเหล็กกล้า” 4 สาย เพื่อเชื่อมต่อทวีปเอเชียกับยุโรป ได้แก่ 

เส้นทางเหนือ เชื่อมต่อคาบสมุทรเกาหลี จีน มองโกเลีย คาซัคสถาน รัสเซีย ระยะทางรวม 32,500 กิโลเมตร

เส้นทางใต้ ผ่านยูนนาน พม่า อินเดีย อิหร่าน ถึง ตุรกี ระยะทางรวม 22,600 กิโลเมตร


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top