Sunday, 18 May 2025
TheStatesTimes

“แรมโบ้” เชื่อมั่น ประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศยินดีนายกฯเยือนซาอุฯครั้งนี้ ฟื้นความสัมพันธ์ 32 ปี ส่งผลประเทศได้รับประโยชน์หลายด้าน ซัด “ฝ่ายค้าน” มองใหม่ ผลงานดีกว่ารัฐบาลทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ที่ รมว.ตปท.จ้องแต่จะคืนพาสปอร์ตให้นายใหญ่จนถูกศาลพิพากษาลงโทษ

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าการที่นายกฯ เยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบีย เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ 2 ประเทศได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์ในรอบ 32 ปีและจะได้ปรับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียให้เป็นปกติอย่างสมบูรณ์ รวมถึงรื้อฟื้นและส่งเสริมความร่วมมือในมิติต่างๆ 

นายเสกสกล ยังเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ปลื้มใจยินดีกับการที่นายกฯเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียในครั้งนี้ด้วย เพราะจะเกิดประโยชน์กับประเทศและประชาชนเป็นอย่างมากมายหลายด้าน เช่น ด้านแรงงาน การท่องเที่ยว พลังงาน การค้าการขาย การลงทุน ความมั่นคง ด้านอาหาร เป็นต้น

“ประวิตร” ถก กกท.สั่ง ติดตาม แก้ไข "พ.ร.บ.ควบคุมการใช้สารต้องห้ามฯ" ปลดล็อกWADAแบนไทย  เน้นใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาพัฒนาจริงจัง

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) ครั้งที่1/ 2565 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ 

โดยที่ประชุมเห็นชอบตามที่กกท.เสนอ ขออนุมัติการเดินทางไปปฎิบัติงานของคณะทำงานที่จะเดินทางไปร่วมสังเกตการณ์ การแข่งขันและให้กำลังใจนักกีฬาทีมชาติไทย รายการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว2022 ครั้งที่ 2 ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่4-20 ก.พ.และเห็นชอบการจัดสรรงบการดำเนินงานของคณะกรรมการกีฬาจังหวัด ประจำปี65 และการดำเนินงานของการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้แก่ อุดหนุนสมาคมกีฬาที่ใช้คำว่า แห่งประเทศไทย และการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลกรายการ "โมโตจีพี 2565" เป็นต้น และเห็นชอบให้ปรับปรุงองค์ประกอบและเพิ่มอำนาจหน้าที่ของอนุกรรมการขับเคลื่อนกีฬามวยไทย สู่โอลิมปิก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน 

นอกจากนั้นรับทราบความคืบหน้าการแก้ไข พระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ. 2555 โดยครม.อนุมัติพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ.2555  และร่างดังกล่าว ผ่านความเห็นชอบวุฒิสภา พิจารณาเรียบร้อยแล้ว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา172 ซึ่ง กกท.จะรายงานไปยังองค์การต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก  (WADA )เพื่อยกเลิกโทษแบนของไทย ต่อไป

ศาลอุทธรณ์ยืน "ยกฟ้อง" คดีครอบครัวชัยภูมิป่าแส ฟ้อง กองทัพบก ด้านทนายติดใจหลายประเด็น เตรียมขอรับรองฎีกาสู้ศาลสุดท้าย

ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โดยยืนตามศาลชั้นต้นคือ ยกฟ้อง คดี "ครอบชัยภูมิ ป่าแสฟ้องกองทัพบก" จากกรณีที่ครอบครัวของนายชัยภูมิ  ป่าแส เยาวชนนักปกป้องสิทธิมนุษยชนและนักกิจกรรมชาติพันธุ์ลาหู่ เรียกร้องค่าเสียหายจากกองทัพบก ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ทหาร 2 นาย ทำหน้าที่ทหารประจำด่านตรวจรินหลวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ที่วิสามัญฆาตกรรมนายชัยภูมิ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560

โดยมีทนายรัษฎา มนูรัษฎา และ นางสาวจันทร์จิรา จันทร์แผ้ว ทนายความภาคีนักกฎหมายเพื่อสิทธิมนุษยชนเป็นผู้ดูแลคดีครอบครัวนายชัยภูมิ ในฐานะทนายความโจทก์ และวันนี้มีนางอังคณา นีละไพจิตร นักสิทธิมนุษยชน เข้าร่วมฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ด้วย โดยศาลใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ในการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และพิจารณายกฟ้อง ยืนตามศาลชั้นต้น

นายรัษฎา กล่าวภายหลังศาลอุทธรณ์ยกฟ้องว่า ทางทนายความเคารพคำตัดสินของศาลแต่ก็มีประเด็นที่ติดใจและไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะประเด็นกล้องวงจรปิดพี่ศาลไม่ให้ความสำคัญ แต่ให้น้ำหนักพยานบุคคล และศาลเห็นว่า กระสุนจากอาวุธสงครามของทหาร ที่ยิงเข้าต้นแขนและทะลุซี่โครงนายชัยภูมิ เป็นเหตุให้ถึงแก่ชีวิตนั้นเป็นการยิงเพื่อป้องกันตัวของเจ้าหน้าที่ทหารไม่ได้เป็นการวิสามัญฆาตกรรม รวมถึงกรณีการพิสูจน์ DNA ของนายชัยภูมิ บนวัตถุระเบิด ซึ่งยังมีข้อกังขาอยู่

ทนายรัชฎา เปิดเผยว่า ทางทนายความจะปรึกษาทางครอบครัวนายชัยภูมิและเห็นว่าต้องต่อสู้คดีให้ถึงที่สุด โดยจะยื่นศาลแพ่งต่อไป ซึ่งลักษณะของคดีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ต่างยกฟ้องนั้น มีกระบวนการที่จะต้องให้ผู้พิพากษาที่นั่งบัลลังก์หรือตัดสินในศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์หรือทั้ง 2 ศาลที่ยกฟ้องคดีไปนั้น "รับรองว่าคดีนี้มีปัญหาสำคัญอันควรเข้าสู่การพิจารณาของศาลสูงหรือศาลฎีกา" ตามกระบวนการ ซึ่งฝ่ายโจทก์ จะดำเนินการหลังจากนี้

คณะกรรมการอย.เห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการด้านการจัดการด้านอาหารของประเทศไทย ระยะที่1 ดำเนินการ 4 กลยุทธ์ เพื่อความมั่นคงทางอาหาร สนับสนุนทั้งมูลค่าการค้าและส่งออก ประชาชนได้รับอาหารคุณภาพ  

ที่ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข มอบหมายให้นายเรวัต ฉ่ำเฉลิม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอาหารแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2565 (ผ่านระบบ Video Conference) โดยมีนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ นายพลพีร์ สุวรรณฉวี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พร้อมกับผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาและเห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการด้านการจัดการด้านอาหารของประเทศไทย ระยะที่ 1 (พ.ศ.2566-25670) ซึ่งจะเป็นแผนปฏิบัติการ ระยะเวลา 5 ปี ที่อ้างอิงตามกรอบยุทธศาสตร์การจัดการด้านอาหารของประเทศไทย ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2561-2580) ระยะ 20 ปี ที่มุ่งการเชื่อมโยงทุกมิติที่เกี่ยวข้องกับอาหาร บูรณาการการทำงานของหน่วยงานต่างๆ เพื่อนำไปสู่เป้าหมายสำคัญคือการสร้างความั่นคงทางอาหารของประเทศที่ยั่งยืน ประชาชนได้รับอาหารที่มีคุณภาพ และมีสุขภาวะที่ดีขึ้นจากการได้รับอาหารที่มีคุณภาพ  ทั้งนี้ ตามแผนปฏิบัติการฯ จะดำเนินจัดการด้านอาหารผ่านกลยุทธ์ 4 ด้าน ได้แก่ ด้านความมั่นคงอาหาร ด้านการคุณภาพและความปลอดภัยด้านอาหาร ด้านอาหารศึกษา และด้านบริหารจัดการ โดยมีเป้าหมายสำคัญ 6 เป้าหมาย ประกอบด้วย 1.จำนวนคนขาดแคลนอาหารลดลง โดยสิ้นสุดแผนปี 2570 จะต้องมีประชากรที่ขาดแคนอาหารไม่เกินร้อยละ 7 ของจำนวนประชากร 2.ปริมาณการสูญเสียอาหาร และขยะอาหารลดลง 3.ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อคุณภาพและความปลอดภัยอาหารเพิ่มขึ้น โดย ณ ปี 2570 ระดับความเชื่อมั่นต้องอยู่ในระดับดี  

4.มูลค่าการค้าอาหารเพิ่มขึ้น โดยมีตัวชี้วัดเป็นการเติบโตของมูลค่าการส่งออกอาหาร ตั้งแต่ปี 2566-2570 ที่ร้อยละ 3 ต่อปี ดัชนีการส่งออกอาหารเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 ต่อปี ดัชนีผลผลิตผลิตภัณฑ์อาหารเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.5 ต่อปี 5.จำนวนคนที่มีภาวะทุพโภชนาการ(ขาดและเกิน) ลดลง โดย ณ ปี 2570 เด็กอายุ 0-5 ปี มีภาวะเตี้ยไม่เกินร้อยละ 8 มีภาวะผอมไม่เกินร้อยละ 5 มีภาวะเริ่มอ้วนและอ้วนไม่เกินร้อยละ 8  6.มีกลไกประสานงานกลางและบูรณาการดำเนินงาน  โดยหลังจากนี้สำนักงาน อย. ในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการฯ  จะเสนอร่างแผนปฏิบัติการฯ  ต่อสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ก่อนเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อพิจารณาอนุมัติและนำสู่การปฏิบัติต่อไป   

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า  ที่ประชุมได้เห็นชอบ ข้อเสนอเชิงนโยบายโครงการวิจัยเรื่องการพัฒนากลไกการจัดตั้ง FFC (Food with Function Claims) Thailand  และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งภาคีเครือข่ายต่างๆ ร่วมกันกำหนดแผนการวิจัยบูรณาการ เพื่อให้ได้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือในการสนับสนุนการผลิต ความปลอดภัย และประสิทธิผลของสินค้าเกษตรและอาหารของไทยที่มีผลต่อสุขภาพต่อไป  พร้อมเห็นชอบประกาศคณะกรรมกาาอาหารแห่งชาติ ที่..../2565 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะเรื่อง ซึ่งเป็นการปรับปรุงองค์คณะในคณะกรรมการ  4 คณะ ให้มีความเหมาะสมและเป็นปัจจุบัน เพื่อรองรับกับสถานการณ์ปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลง และเกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผลต่อการบูรณาการดำเนินงานของทุกหน่วยงานมุ่งสู่เป้าหมายและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ประกอบด้วย คณะกรรมการขับเคลื่อนด้วยความมั่นคงอาหารตลอดห่วงโซ่ คณะกรรมการขับเคลื่อนด้วยคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร คณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เพื่อสร้างความเชื่อมโยงด้านอหารและโภชนาการสู่คุณภาพชีวิตที่ดี และคณะกรรมกาขับเคลื่อนด้วยการบริหารจัดการ   

'พาณิชย์' คาดตรุษจีนราคาสินค้าปรับขึ้นไม่มาก

นายวัฒนศักย์  เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ปี 2565 ราคาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการไหว้เจ้าหลายรายการอาจจะปรับขึ้นบ้าง แต่เป็นการปรับขึ้นเล็กน้อย เพราะมีความต้องการมากกว่าปกติ โดยเฉพาะเนื้อหมู ขณะนี้แนวโน้มราคาหมูเนื้อแดงในท้องตลาดเริ่มปรับลดลงแล้ว หลังจากกรมการค้าภายใน หารือร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกร โรงเชือด และห้างสรรพสินค้า ขณะนี้ราคาเริ่มทรงตัว และมีแนวโน้มปรับลดลง  

ขณะที่สถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวด ยอมรับว่าปีนี้ราคาปรับตัวสูงขึ้น แต่ถือเป็นปีทองของชาวสวนปาล์ม จากปีที่ผ่านมาราคาตกต่ำ ซึ่งปัจจุบัน ราคาผลปาล์มขยับขึ้นไป 11 บาทกว่า แต่ในช่วงเดือนก.พ.นี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ประมาณการณ์ว่าผลผลิตจะเริ่มทยอยออกสู่ตลาด และจะออกมากขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป จึงคาดว่าแนวโน้มสถานการณ์ราคาน่าจะอ่อนตัวลงตามกลไกตลาด 

สุรินทร์ - ผบ.มทบ.25 มอบจักรยาน ตามโครงการ "Army Bike สานฝัน ปันสุข" โรงเรียนบ้านกันตรง ต.บึง อ.เขวาสินรินทร์

พลตรีสาธิต เกิดโภค ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 เป็นประธานในพิธีมอบจักรยาน ตามโครงการ "Army Bike สานฝัน ปันสุข" ณ โรงเรียนบ้านกันตรง ตำบลบึง อำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ โดยมี นายพิณี หาสุข  ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกันตรงและคณะครูร่วมเป็นเกียรติ โครงการ "Army Bike สานฝัน ปันสุข" มี พันเอกรุหาญ  รุจธารจรูญ หัวหน้ากองกิจการพลเรือน มณฑลทหารบกที่ 25 กล่าวรายงาน ด้วยความห่วงใยของ พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ที่ได้เล็งเห็นถึงความลำบาก ของการเดินทางของนักเรียนในพื้นที่ห่างไกล จึงได้ให้หน่วยทหาร ที่มีความเชี่ยวชาญด้านงานช่าง ทำการซ่อมจักรยาน ที่มีผู้บริจาคให้มีสภาพดีพร้อมใช้ และมอบให้เด็กนักเรียนที่มีความจำเป็น นำไปใช้ในการเดินทางไปโรงเรียน เพื่อความปลอดภัยในโครงการ "Army Bike สานฝัน ปันสุข" โดยเริ่มดำเนินการในพื้นที่แนวชายแดน พื้นที่ทุรกันดาร ของประเทศ

โดยหน่วยมณฑลทหารบกที่ 25 ได้ประชาสัมพันธ์ กำลังพลของหน่วยและประชาชนในพื้นที่ ในเรื่องรับบริจาคจักรยานที่เก่าหรือชำรุด เพื่อรวบรวมส่งต่อให้กับหน่วยซ่อมบำรุงจักรยานที่ได้รับบริจาคให้กลับมาอยู่ในสภาพดีใช้งานได้ตามปกติ  แล้วจึงนำมามอบให้กับนักเรียน ที่อยู่ในพื้นที่ชายแดน พื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร ในพื้นที่รับผิดชอบของหน่วย เพื่อใช้ในการเดินทางไปโรงเรียน ตลอดจนเป็นการแบ่งเบาภาระของผู้ปกครองอีกทางหนึ่งด้วย

“บิ๊กตู่” สั่งการทุกหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาน้ำมันดิบรั่วไหล

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี รับทราบเหตุน้ำมันดิบรั่วไหล บริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกเดี่ยวกลางทะเล ท่าเรือมาบตาพุด จ.ระยอง แม้จะสามารถควบคุมการรั่วไหลได้แล้ว แต่นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใย จึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น กรมควบคุมมลพิษ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม บูรณาการร่วมกับจังหวัด และบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) รับมือผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากเหตุดังกล่าว

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ขอให้เร่งขจัดคราบน้ำมันโดยเร็ว เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมให้ได้มากที่สุด และป้องกันคราบน้ำมันไหลสู่ชายหาด โดยยังได้กำชับให้กระทรวงกลาโหม สนับสนุนกำลังพลและเรือในการแก้ไขปัญหานี้อย่างเต็มกำลัง พร้อมกันนี้ ยังให้ประเมินผลกระทบทางทะเล และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แจ้งเตือนประชาชนในการประกอบอาชีพ เพื่อที่ประชาชนจะได้ทราบถึงแนวทางการปฏิบัติ ไม่เกิดความตื่นตระหนกจากสถานการณ์ 

ประจวบคีรีขันธ์ - ทูตเบลเยียม พบผู้ว่าประจวบฯ หารือถึงสถานการณ์โควิด และปัญหาชายแดน!!

เมื่อวันที่ 26 ม.ค. นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ให้การต้อนรับ นางซีบิลล์ เดอ การ์ทิเย่ร์ ดีฟส์ (Mrs.Sibille de Cartier d’Yves) เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเบลเยียม ประจำประเทศไทย ในโอกาสเดินทางมาเยือน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 23-24 มกราคม 65 พร้อมให้ข้อมูลที่สำคัญและปรึกษาหารือในประเด็นต่าง ๆ โดย นางซีบิลล์ มีความสนใจแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แผนและแนวทางการฟื้นฟูจังหวัดจากสถานการณ์โควิด รวมทั้งแผนการท่องเที่ยวแบบ Sandbox และกรณีปัญหาการอพยพของชาวเมียนมาซึ่งลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดน

ซึ่งผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ ได้นำเสนอข้อมูลในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจังหวัดประจวบฯถือว่ายังสามารถควบคุมได้และมีอัตราการเสียชีวิตต่ำ ในส่วนแผนและแนวทางการฟื้นฟูจังหวัดจากสถานการณ์โรคโควิด-19 ในด้านการท่องเที่ยว ถือเป็นด้านที่ต้องการฟื้นฟูมากที่สุด เนื่องจากการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่เป็นรายได้หลักของจังหวัดประจวบฯ โดยมีแนวทางในการประชาสัมพันธ์แนะนำแหล่งท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ทราบถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามภายในจังหวัด

นอกจาก “หัวหิน” ที่เป็นเป้าหมายหลักสำหรับนักท่องเที่ยวในการเดินทางมาจังหวัดประจวบฯแล้ว ภายในจังหวัดยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามและหน้าสนใจอีกหลายจุดรวมทั้งยังมีเส้นทางการท่องเที่ยวในรูปแบบต่าง ๆ ที่หลากหลายเช่น การท่องเที่ยวในเชิงสุขภาพ การท่องเที่ยววิถีชุมชน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีทางเลือกที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น และกรณีการท่องเที่ยวแบบ Sandbox นั้นทางจังหวัดประจวบฯได้มีแผนที่จะทำในอนาคต แต่อาจจะต้องใช้เวลาในการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาเพื่อให้มีมาตรการที่ครอบคลุมปลอดภัย สำหรับผลกระทบในด้านการเกษตรหรืออุตสาหกรรมในจังหวัด ยังไม่ส่งผลมากนักจากสถานการณ์โควิด เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวซึ่งเป็นรายได้หลักของประชาชนในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

 

ฟื้นสัมพันธ์ ‘ไทย-ซาอุฯ’ สำแดงฤทธิ์ คนซาอุฯ เตรียมบินตรงเที่ยวไทย พ.ค.นี้

สายการบิน Saudi Arabian Airlines ประกาศเปิดเที่ยวบินตรง จากซาอุ-ไทย ในเดือน พ.ค. 65 นี้ หลังนายกรัฐมนตรีไทย เดินทางไปเยือนประเทศซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 65 ที่ผ่านมา

หลัง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา ตามคำเชิญของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นการเยือนในระดับผู้นำรัฐบาลระหว่างสองประเทศเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี

“เฉลิมชัย”เผยส่งออกผลไม้สูงสุดเป็นประวัติการณ์เฉพาะทุเรียนทะลุแสนล้าน เผยปีนี้ผลผลิตเพิ่มกว่า 5 แสนตัน มอบ“อลงกรณ์”รับผิดชอบชุดเฉพาะกิจผนึกทีมผลไม้ภาคตะวันออกรับมือฤดูผลไม้ล่วงหน้า พร้อมลุยหนองคายเร่งรถไฟจีน-ลาวขนสินค้าเกษตร 27 ม.ค.นี้

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการผลไม้(Fruit Board)กล่าววันนี้(26ม.ค)ถึงผลดำเนินงานบริหารจัดการผลไม้ปี2564และปี2565ว่า ในปี 2564 สามารถส่งออกผลไม้สูงสุดเป็นประวัติการณ์เฉพาะทุเรียนขายทะลุหนึ่งแสนล้านบาทเป็นครั้งแรกแม้เผชิญปัญหาการขนส่งโลจิสติกส์จากค่าระวางที่สูงขึ้น การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และการปิดด่านหลายครั้งจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19

ความสำเร็จดังกล่าวมาจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนทั้งชาวสวนผลไม้ ผู้ประกอบการภาคเอกชนและภาครัฐที่ร่วมกันฝ่าฟันอุปสรรคในปีที่ผ่านมาและสามารถสร้างรายได้ให้ประเทศชาติจากการส่งออกทำสถิตินิวไฮโดย11เดือน(ม.ค.-พ.ย.)ของปี 2564ส่งออกผลไม้7ชนิดได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง ลำไย ลิ้นจี่และมะม่วงจำนวน1,992,751ตันคิดเป็นมูลค่า 165,624ล้านบาทเพิ่มขึ้น 40.75% เทียบกับปี 2563ที่ส่งออก1,718,228ตันมูลค่า 117,673ล้านบาท สำหรับทุเรียนส่งออก 903,700ตัน คิดเป็นปริมาณเพิ่มขึ้น38.29% คิดเป็นมูลค่า115,459ล้านบาทเติบโต59.11%เทียบกับปี2563ส่งออก653,476ตันมูลค่า72,566ล้านบาท โดยฤดูกาลผลิตปี2565จะมีผลผลิตออกมา5,200,009ตันเพิ่ม11.39%หรือเพิ่มกว่า5แสนตันเทียบกับปี2563ที่มีปริมาณ4,668,435ตันซึ่งเป็นตัวเลขจากกรมศุลกากร

ดร.เฉลิมชัยกล่าวต่อไปว่า เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือผลไม้ที่จะเริ่มต้นฤดูในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้จึงมอบนโยบายให้ฟรุ้ทบอร์ดกำหนดมาตรการล่วงหน้าโดยมอบหมายนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานคณะทำงานจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาผลไม้เศรษฐกิจล่วงหน้าทั้งระบบ

ทางด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะทำงานจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาผลไม้เศรษฐกิจล่วงหน้าทั้งระบบกล่าวว่า คณะทำงานฯได้กำหนด5มาตรการ21โครงการสำหรับบริหารผลไม้ในภาวะวิกฤติเสร็จเรียบร้อยแล้วโดยร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการจัดทำแผนและโครงการต่างๆ

และเมื่อวันเสาร์ที่ 23 มกราคมที่ผ่านมาได้จัดการประชุมทางไกลกับสมาคมทุเรียนไทย ตัวแทนแปลงใหญ่ทุเรียนจังหวัดระยอง สมาพันธ์ชาวสวนทุเรียน สมาคมผู้ผลิตทุเรียนไทย สถาบันทุเรียนไทย หอการค้าจังหวัดจันทบุรี สมาคมการค้าผลไม้ยุคใหม่ ตัวแทนเกษตรกรและผู้ประกอบการภาคตะวันออก นายชรัตน์ เนรัญชรและนายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา คณะทำงานที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น อบจ.ระยอง สมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ สำนักงานวิจัยและพัฒนาการการเกษตรเขตที่6 อธิบดีกรมวิขาการเกษตร เกษตรและสหกรณ์จังหวัดระยอง เกษตรและสหกรณ์จังหวัดจันทบุรี เกษตรและสหกรณ์จังหวัดตราด หน่วยงานEECและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะเพิ่มเติมรองรับผลไม้ภาคตะวันออกโดยมีข้อเสนอแนะที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์อย่างมาก เช่นข้อเสนอให้เร่งจัดทำมาตรฐานzero covid ทุเรียนที่มีงานวิจัยรองรับโดยกำหนดหน่วยงานที่รับผิดชอบที่ชัดเจนและสื่อสารกับจีนเพื่อสร้างความมั่นใจกับจีนและประเทศลูกค้าอื่นๆ การใช้ระบบตรวจสอบย้อนกลับ(Traceability)

การหารือกับจีนในการขนส่งบนเส้นทางรถไฟจีน-ลาวโดยการปิดตู้ที่ประเทศลาว และ ส่งไปคุนหมิงเลยโดยไม่ต้องแวะตรวจที่ด่านโมฮ่านเพื่อให้สามารถส่งทุเรียนและผลไม้เศรษฐกิจอื่นๆทางรางได้ตั้งแต่เดือน มีนาคมปีนี้ ตลอดจนข้อเสนอให้ประชุมหารือกับประเทศจีน ลาวและเวียดนามเพื่อตกลงมาตรการร่วมกันเรื่อง protocol ในการเปิด-ปิดด่านชายแดนต่างๆรวมทั้งข้อเสนอให้ด่านมีGreen Lane สำหรับผลไม้ไทยเป็นการเฉพาะรวมทั้งปัญหาการทำGAPที่ชาวสวนต้องจ่ายมากขึ้นว่าจะมีแนวทางช่วยเหลืออย่างไรเมื่อใดรวมทั้งข้อพิจารณาเรื่องการเยียวยาชาวสวนลำไยในฤดูกาลที่ผ่านมา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top