Saturday, 24 May 2025
TheStatesTimes

ออนไลน์อีกปี โฆษกรัฐบาลเผย ทำเนียบฯ จัดกิจกรรมฉลองวันเด็กแห่งชาติปีนี้ในรูปแบบออนไลน์ ถ่ายทอดผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์ NBT เชิญชวนเด็กเยาวชนร่วมรับชมได้ในวันเสาร์ที่ 8 มกราคมนี้ เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 - 12.00 น.

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ปีนี้ทำเนียบรัฐบาลได้จัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2565 ในรูปแบบออนไลน์และถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) กรมประชาสัมพันธ์ ในวันเสาร์ที่ 8 มกราคม 2565 เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 - 12.00 น. โดยมีกิจกรรมสำคัญที่น่าสนใจให้เด็กและเยาวชนได้รับร่วมรับชม  ประกอบด้วย

1. กิจกรรมนายกรัฐมนตรีพบเยาวชน แบ่งเป็น 2 ช่วง โดยช่วงที่ 1 นายกรัฐมนตรีจะพาเด็กเล็ก 5 คน เยี่ยมชมห้องทำงานนายกรัฐมนตรีพร้อมเปิดโอกาสให้เด็กได้ลองนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เพื่อสร้างขวัญกำลังใจและเป็นแรงบันดาลใจสำหรับเด็กและเยาวชนในอนาคต สำหรับช่วงที่ 2 นายกรัฐมนตรีจะพบผู้แทนเยาวชนดีเด่นและนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ จำนวน 19 คน ณ ตึกภักดีบดินทร์ โดยตัวแทนเยาวชน 5 คน  จะเป็นผู้แทนกล่าวข้อเสนอต่อนายกรัฐมนตรี 4 ประเด็น จากนั้นตัวแทนเยาวชนในโครงการเด็กอวด (ทำ) ดี จะเสนอบทสรุปด้วยการขับร้องเพลงฉ่อยต่อนายกรัฐมนตรีด้วย

2. กิจกรรมการขับร้องและบรรเลงเพลงของเยาวชนระดับต่าง ๆ จำนวน 4 กลุ่ม ซึ่งจะแทรกในรายการสลับกันไป ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 นักเรียนระดับประถม/มัธยมศึกษาจากโรงเรียนสอนร้องเพลงแกรมมี่ 14 คน จะขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์รัก และชะตาชีวิต กลุ่มที่ 2 วงดนตรีระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษาจะบรรเลงเพลงรักชาติ รักษ์โลก ได้แก่ เพลง Heal the World โดยโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ฯ  เพลงความฝันอันสูงสุด โดยมหาวิทยาลัยสยาม และ เพลงธงชาติ โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กลุ่มที่ 3 กลุ่ม SEED Thailand เป็น MV เกี่ยวกับบทบาทของเด็กและเยาวชน และกลุ่มที่ 4 วง the Wonder ซึ่งเป็นวงดนตรีที่เกิดจากการรวมตัวของผู้พิการจะร้องเพลงจับมือไว้แล้วไปด้วยกัน และเพลง Auld Lang Syne 

3. กิจกรรมนำเสนอสาระเรื่องการอนุรักษ์โลกและทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ  องค์การพิพิธภันฑ์วิทยาศาตร์ฯ (อพวช.) (อว.) ในหัวข้อ Climate Change โดยนำเสนอเป็นคลิปวีดิโอให้ความรู้ในเรื่อง Climate Change และผลกระทบจากปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้น ปัญหาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) และภัยพิบัติที่ทั่วโลกต้องเผชิญ โดยในช่วงท้ายจะมีกิจกรรมการประดิษฐ์อุปกรณ์จากกระดาษ เพื่อให้ผู้ที่สนใจ สามารถส่งรูป/คลิปสิ่งประดิษฐ์ ร่วมสนุกใต้โพสต์ของรายการ ผ่านทางเพจไทยคู่ฟ้า นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมตอบคำถามกับการ์ตูนโลก ที่เปิดให้เยาวชนเข้าไปตอบคำถามผ่านทางเพจกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

4. กิจกรรมสรุปผลงานของเด็กและเยาวชนในปีที่ผ่านมาจากโครงการเด็กอวด (ทำ) ดี ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และโครงการจ้างงานคนพิการ ซึ่งเป็นผลงานเยาวชนที่เข้าพบนายกรัฐมนตรีเมื่อปีที่ที่แล้วและสามารถขับเคลื่อนการฝึกอบรมจ้างงานคนพิการเพิ่มได้เป็น 600 คนในปีที่ผ่านมา

ทภ.2 แจงกรณี กำลังพลหน่วยทหารจังหวัดขอนแก่น ติดเชื้อ โควิด สายพันธุ์เดลต้า

พล.ต.สมบัติ จินดาศรี โฆษกกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อ โควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าในหน่วยทหารที่ จังหวัดขอนแก่น เข้าสู่ระบบการรักษาและควบคุมโรคตามมาตรฐานกรณีการติดเชื้อในหน่วยทหาร จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเกิดขึ้นในค่ายมหาศักดิพลเสพ กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 8 อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น การติดเชื้อดังกล่าวเกิดขึ้นจากกำลังพลไปมีกิจกรรมนอกค่ายได้รับเชื้อ โควิด-19 ในช่วงส่งท้ายปีเก่าซึ่งหน่วยต้นสังกัดได้ทำการตรวจหาเชื้อเชิงรุก (RT -PCR) พบการติดเชื้อ โควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า จำนวน 129 นาย ประกอบด้วย กำลังพล124 นาย, ครอบครัว 5 นาย ปัจจุบันผู้ติดเชื้ออยู่ในกลุ่มสีเขียวส่วนใหญ่ไม่มีอาการ 

ทั้งนี้เนื่องจากกำลังพลมีร่างกายแข็งแรง และได้รับการฉีดวัคซีนครบทุกคนแล้ว จำนวน 2 เข็ม โดยได้มีมาตรการปีดค่าย จำกัดพื้นที่อย่างเคร่งครัด เป็นระยะเวลา 14 วันภายใต้การดูแลของ โรงพยาบาลค่ายศรีพัชรินทร และ
โรงพยาบาลชุมแพ 

‘อนุทิน’ ขอประชาชนยกการ์ดสูง แม้โอมิครอนไม่แรง แต่ ‘เดลตา’ ยังระบาด

7 มกราคม พ.ศ. 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ระบุว่า ตอนนี้ ต้องค่อยๆ ยกระดับมาตรการ ให้สอดคล้องกับเหตุการณ์ หวังว่าจะไม่ต้องล็อกดาวน์กันอีกรอบ การระบาดที่เกิดขึ้น ผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ไม่แสดงอาการ ไปจนถึงมีอาการน้อย ส่วนหนึ่งเพราะติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน ที่ไม่รุนแรงไปกว่าเดลตา และคนไทยได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึงแล้ว 

ปัจจุบันพยายามให้มีจุดวอล์ก อิน มากที่สุด เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน เพราะทราบกันดีว่า วัคซีนช่วยป้องกันการป่วยหนัก และเสียชีวิต ส่วนการรักษาผู้ป่วย เรานำประสบการณ์มาปรับใช้ หากไม่แสดงอาการ หรือมีอาการน้อยมาก เรามีระบบกักตัวที่บ้าน และในชุมชน มีแพทย์คอยดูแลอาการผ่านระบบการสื่อสารทางไกล หากมีอาการปานกลาง ให้เข้าสู่ระบบของโรงพยาบาลสนาม แต่หากป่วยหนัก ก็ต้องเข้าโรงพยาบาล ที่มีเครื่องมือพร้อม ทุกอย่างให้เป็นไปตามดุลพินิจของแพทย์  

‘ประกันสังคม’ เร่งประชุมหารือผ่านระบบ Zoom ร่วมกับสถานพยาบาล รับมือโอมิครอน!! เตรียมพร้อมจัดระบบบริการทางการแพทย์ดูแลผู้ประกันตนติดเชื้อโควิด อย่างเต็มที่ และทันท่วงที

เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2565 นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ผ่านระบบ Zoom ร่วมกับผู้แทนและบุคลากรทางการแพทย์ของสถานพยาบาลประกันสังคมจำนวนกว่า 50 แห่ง พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสำนักงานประกันสังคม ผู้อำนวยการสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ทั้ง 12 แห่ง เข้าร่วมประชุมฯ ณ ห้องประชุมสมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ อาคารอเนกประสงค์ สำนักงานประกันสังคม 

นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวกับสื่อมวลชนว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรโน 2019 สายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) ที่กำลังระบาดทั่วโลกในขณะนี้ ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ไอมิครอนแล้วกว่า 2 พันราย ท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลกระทรวงแรงงาน นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มีความห่วงใยพี่น้องลูกจ้าง ผู้ประกันตน จึงกำชับให้สำนักงานประกันสังคม เตรียมแผนรับมือต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในทุกด้านหากสถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรงมากขึ้น เพื่อรองรับผู้ประกันตนที่ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่อาจจะเพิ่มมากขึ้น

โดยในวันนี้ สำนักงานประกันสังคม ได้จัดให้มีการประชุมผ่านระบบ vdo Conference โดยคำนึงถึงความปลอดภัยจากการติดเชื้อโควิด-19 หารือร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลในระบบประกันสังคม เพื่อเตรียมความพร้อมในการให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้ประกันตนที่ในระบบประกันสังคม มาตรา 33 และมาตรา 39 ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้ได้รับการดูแล และรักษาได้ทันที โดยมีประเด็นการประชุมฯ พร้อมแผนมาตรการรองรับร่วมกับสถานพยาบาล ในด้านการใช้สิทธิ์การรักษาพยาบาลของผู้ประกันตนกรณีการติดโควิด-19 ให้สามารถเข้ารับการรักษาได้ที่สถานพยาบาลตามสิทธิการรักษาพยาบาล และสถานพยาบาลใกล้ที่พักอาศัยทุกแห่ง กรณีที่สถานพยาบาลตามสิทธิฯ และสถานพยาบาลที่รับรักษา ไม่สามารถให้การรักษาได้หรือเกินศักยภาพในการรักษา จะทำการส่งตัวผู้ประกันตนไปรักษากับโรงพยาบาลที่มีศักยภาพสูงกว่า กรณีที่ผู้ประกันตนไม่สามารถเข้ารักษาในสถานพยาบาลตามสิทธิได้ เนื่องจากอยู่ต่างจังหวัด หรือต่างพื้นที่ สามารถเข้ารักษาได้ในสถานพยาบาลที่อยู่ใกล้ ผู้ประกันตนจะได้รับการดูแลรักษา ในสถานพยาบาล, โรงพยาบาลสนาม, Hospitel, Community Isolation, Home Isolation ตามแนวทางและระบบบริการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ด้านการเตรียมความพร้อมให้สถานพยาบาลในระบบประกันสังคม มีแผนรองรับการรักษาผู้ประกันตน โดยจัดหาเตียงให้เพียงพอต่อสถานการณ์การเพิ่มจำนวนของผู้ประกันตนที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่อาจจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยให้สถานพยาบาลจัดเตรียมสถานที่รองรับผู้ป่วยที่อาการแสดงน้อย หรือไม่แสดงอาการ (สีเขียว) เข้ารับการรักษา ในระบบ Hospitel และ Home Isolation ซึ่งในปัจจุบันมี สถานพยาบาลในระบบประกันสังคม มี Hospitel จำนวนทั้งสิ้น 12,856 เตียง และจำนวนเตียงว่างคงเหลือ 3,230 เตียง (ข้อมูล ณ วันที่ 5 มกราคม 2565) อีกทั้งสำนักงานประกันสังคม ได้มีการบูรณาการทำงานร่วมกับ สปสช. ในการดูแลให้ความช่วยเหลือผู้ประกันตนที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่มีแสดงอาการเล็กน้อย (สีเขียว) และประสงค์เข้ารักษาในระบบ Home Isolation โดยผู้ประกันตนสามารถลงทะเบียนในเว็บไซต์ สำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ ตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด

นอกจากนี้ยังมี โครงการ Factory Sandbox ในการตรวจ รักษา ควบคุม ดูแลในสถานประกอบการเพื่อการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมุ่งเน้นไปที่โรงงานภาคการผลิตส่งออกขนาดใหญ่ คือ ตรวจ : ดำเนินการตรวจคัดกรองด้วย RT – PCR 100% เพื่อแยกคนป่วยไปรักษาทันทีและดำเนินการตรวจSelf – ATK ทุกสัปดาห์ รักษา : ให้โรงงานจัดให้มีสถานรักษาพยาบาลขึ้นสถานแยกกัก (Factory Isolation : FAI, และ Hospitel สำหรับผู้ป่วยสีเขียว โรงพยาบาลสนามสำหรับผู้ป่วยสีเหลืองและห้องผู้ป่วยวิกฤต สำหรับผู้ป่วยสีแดง ดูแล : ดำเนินการฉีดวัคซีนให้แรงงานโดยเน้นกลุ่ม 7 โรคเสี่ยง คนท้องออกใบรับรอง “โรงงานสีฟ้า” เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ลงทุน ควบคุม : ให้นายจ้างและแรงงานปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรค ในพื้นที่เฉพาะ (Bubble and seal) และมาตรการด้านสาธารณสุข (DMHTT) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด

เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ได้กล่าวถึงหลักเกณฑ์การจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ ค่าตรวจคัดกรองโรค COVID-19 กรณีตรวจคัดกรองใน รพ. /ตรวจคัดกรองนอก รพ.โดยหน่วยบริการที่ขึ้นทะเบียนกับ สปสช. โดยผู้ประกันตนคนไทยเบิกเงินจาก สปสช. ผู้ประกันตนคนต่างชาติ เบิกเงินจาก สำนักงานประกันสังคม กรณีตรวจคัดกรองเชิงรุกในสถานประกอบการ ตามโครงการของสำนักงานประกันสังคมโครงการ Factory Sandbox เพื่อค้นหาผู้ประกันตนกลุ่มเสี่ยงในสถานประกอบการซึ่งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงและมีการแพร่ระบาดและได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อ เบิกเงินจากสำนักงานประกันสังคม สำหรับค่าใช้จ่าย ในการรักษาในสถานพยาบาลของรัฐบาล มีอาการเล็กน้อย (สีเขียว) ค่าห้องรวมค่าอาหารจ่ายตามจริงไม่เกิน 1,500 บาทต่อวัน ค่าอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล จ่ายตามจริงไม่เกิน 300 บาทต่อวัน มีอาการปานกลาง (สีเหลือง) ค่าห้องรวมค่าอาหารจ่ายตามจริงไม่เกิน 3,000 บาทต่อวัน ค่าอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล จ่ายตามจริงไม่เกิน 740 บาทต่อวัน มีอาการรุนแรง (สีแดง) ค่าห้องรวมค่าอาหารจ่ายตามจริงไม่เกิน 7,500 บาทต่อวัน ค่าอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล จ่ายตามจริงไม่เกิน 740 บาทต่อวัน

กรณีมีอาการเล็กน้อย(สีเขียว) ดูแลรักษาโรงพยาบาลสนาม Hospitel Hotel Isolation ตั้งแต่ 1 ม.ค.65 จ่ายแบบเหมาจ่ายในอัตรา 1,000 บาท ต่อวัน ไม่เกิน 10 วัน และค่าอุปกรณ์ในการดูแลติดตามสัญญาณชีพ 500 บาทต่อวัน ค่าชุด PPE จ่ายตามจริงไม่เกิน 150 บาทต่อราย ดูแลรักษาแบบ Home Isolation และการแยกกักในชุมชน Community Isolation ค่าดูแลให้บริการผู้ป่วย สำหรับค่าติดตามประเมินอาการ ให้คำปรึกษา ค่ายาพื้นฐาน จ่ายแบบเหมาจ่ายไม่รวมค่าอาหาร 3 มื้อในอัตรา 600 บาทต่อวัน /รวมค่าอาหาร 3 มื้อ ในอัตรา 1,000 บาท ต่อวัน ไม่เกิน 10 วัน กรณีรักษาในสถานพยาบาลเอกชนจ่ายค่าบริการทางการแพทย์กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด 19 ตามราคากลางประกาศกระทรวงสาธารณสุข สำหรับค่ารถรับส่งผู้ป่วย กรณีจำเป็นต้องส่งต่อภายในจังหวัดเดียวกัน จ่ายตามจริง ไม่เกิน 500 บาท กรณีต่างท้องที่จังหวัดอื่น จ่ายเบื้องต้น 500 บาท และจ่ายเพิ่มกิโลเมตรละ 4 บาท ค่าอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) และค่าทำความสะอาดฆ่าเชื้อยานพาหนะ ไม่เกิน 1,400 บาทต่อครั้ง ค่าใช้จ่ายเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อสำหรับบุคลากรที่จัดการศพผู้เสียชีวิตด้วยโรค โควิด-19 เหมาจ่าย 2,600 บาทต่อราย

 

“บิ๊กตู่”  เร่งฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด-วางแผนฉีดเข็มกระตุ้นเข็ม 3-4  และเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี  ขณะที่ ศบค. ปรับระดับพื้นที่ควบคุม 69 จ. นำร่อง  8 จ. ท่องเที่ยว สถานบันเทิง เปิดในรูปแบบร้านอาหารได้ แต่ต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม. ก่อ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 1/2565  ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมฯผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบ ปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่ 9 ม.ค. 65 พื้นที่ควบคุม 69 จังหวัด และพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว 8 จังหวัด ขยายระยะเวลา WFH ออกไปถึง 31 ม.ค. 65  สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ให้เปิดในรูปแบบร้านอาหาร โดยต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด /กทม. ก่อนวันที่ 15 ม.ค.65 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ขอบคุณ ศบค. ที่ได้ร่วมกันทำงานอย่างเต็มกำลัง ทำให้ประเทศไทยผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤตที่เกิดขึ้นในปี 2564 ได้  จนได้รับการยอมรับและยกย่องให้เป็นประเทศที่มีความแข็งแกร่งของระบบสาธารณสุขอันดับ 5 ของโลก อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังไม่ยุติลง ยังพบการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19  ปัจจุบันมีการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งทำให้หลายประเทศดำเนินมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น หลายประเทศกลับไปใช้มาตรการ Lock Down อีกครั้ง โดยที่ไทยยังพบการระบาดจากโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจากนักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย 

“ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการเปิดประเทศเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2564 และการจัดงานช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่ได้รับความร่วมมือในการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข โดยขอบคุณทุกฝ่ายที่ได้ดำเนินการอย่างเข้มแข็ง ทั้งนี้ ทุกคนทราบดีว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโอมิครอน มีการแพร่ระบาดที่รวดเร็วขึ้น โดยข้อมูลจาก WHO ระบุว่าสายพันธุ์โอมิครอนติดเชื้อได้เร็ว แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า จึงต้องหาแนวทางประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องแก่ประชาชน ให้มีความรู้ความเข้าใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่ตื่นตระหนก และให้เกิดการให้ความร่วมมือ โดยขอให้ ศปก.สธ. และ ศปก.ศบค. เตรียมความพร้อมทางด้านสาธารณสุขของไทย

ทั้งเรื่องวัคซีน ยา เวชภัณฑ์ การครองเตียงต่าง ๆ ให้พร้อม ชุดตรวจ ATK ยารักษาที่จำเป็น ที่ต้องมีเพียงพอ รวมทั้งเตรียมโรงพยาบาลสนาม ศูนย์พักคอย HI / CI ในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดมาก เพื่อให้สามารถดูแลช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็ว เร่งรัดแผนการฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด ซึ่งในปี 2564 สามารถฉีดวัคซีนไปได้ประมาณ 105 ล้านโดส ดังนั้น ต้องวางแผนการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เข็ม 3 และเข็ม 4 และการฉีดวัคซีนให้แก่เด็กนักเรียนอายุต่ำกว่า 12 ปีด้วยวัคซีนที่ได้รับการรับรองแล้ว เพื่อจะช่วยลดความรุนแรงของโรคโควิด-19 ได้ ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์อะไรก็ตาม” 

นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการท่องเที่ยวจากต่างประเทศว่า ถ้าดูจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทย ยังคงมีจำนวนไม่มากนัก เพราะประเทศต่าง ๆ ยังคงไม่ให้ประชาชนเดินทางออกนอกประเทศ จึงขอเน้นย้ำให้ประชาชน สถานประกอบการ สถานที่ท่องเที่ยว ยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันแบบครอบจักรวาล Universal Prevention และ Covid Free Setting รวมถึงการปฏิบัติงานที่บ้าน Work From Home ซึ่งควรต้องมีการติดตามประเมินผลการปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาระบบติดตามตัว แอปพลิเคชันหมอพร้อม หมอชนะ ให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องต่อไป  พร้อมกับนายกรัฐมนตรีย้ำว่าประเทศไทยต้องเดินหน้าต่อไป โดยต้องระมัดระวังอย่างที่สุดเพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้น และนายกรัฐมนตรียังห่วงใยสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยขณะนี้ ย้ำให้ความสำคัญในพื้นที่เสี่ยงต่าง ๆ ทั้งชุมชน ชุมชนแออัด ที่ส่วนท้องถิ่นต้องช่วยกันดูแล โดยขอให้หน่วยงานในพื้นที่ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง ร่วมมือการแก้ปัญหาอย่างเข้มแข็งต่อไป

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับมติที่ประชุม ศบค. ที่สำคัญ ได้เห็นชอบการปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2565 เป็นต้นไป ดังนี้ พื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด 0 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุด 0 จังหวัด พื้นที่ควบคุม 69 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังสูง 0 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวัง 0 จังหวัด และพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว 8 จังหวัด ,ขยายระยะเวลา WFH (Work From Home) ออกไปถึงวันที่ 31 มกราคม 2565

‘เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี’ จัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยว ภายใต้โครงการพัฒนาส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้กับชุมชน “Chiang Mai Night Safari"

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 7 มกราคม 2565 สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) โดยสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จัดแถลงข่าวการจัดโครงการพัฒนาส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับชุมชน “Chiang Mai Night Safari" โดยมี นายสายสิทธิ์ เจตสิกทัต ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร เป็นประธานเปิด และคณะผู้บริหาร เข้าร่วมด้วย ณ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี

นายสายสิทธิ์ เจตสิกทัต ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ส่งผลกระทบโดยตรงและโดยอ้อม ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง เนื่องจากมีมาตรการการปิดประเทศ ทำให้ภาคผู้ประกอบการท่องเที่ยวและภาคประชาชนต้องอยู่ในสภาวะวิกฤตจากพิษเศรษฐกิจที่หยุดชะงักตัวลง ความหวังเดียวในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวคือ การกระตุ้นการท่องเที่ยวของคนไทยในประเทศด้วยกันเอง เนื่องจากรายได้หลักมาจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจึงมีแนวคิดที่จะฟื้นฟู ปรับปรุง และสร้างกิจกรรมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทย เพื่อสร้างรายได้ให้กับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีและชุมชนให้มีรายได้เพิ่มขึ้น

จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับชุมชน “Chiang Mai Night Safari” ขึ้น เพื่อสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีและจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มขึ้น และเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง พร้อมพัฒนาส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับชุมชน ให้เกิดการกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งก่อให้เกิดกระแสการท่องเที่ยว การซื้อสินค้า และบริการ ทั้งในระดับจังหวัดและระดับภูมิภาค เป็นการกระจายรายได้สู่ภาคประชาชน ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชน ต่อไป

ตราด - ‘กองทัพเรือ’ โดยทัพเรือภาคที่ 1 เลี้ยงอาหารกลางวัน มอบอุปกรณ์การเรียน - อุปกรณ์กีฬา และของขวัญวันเด็ก

กองทัพเรือ โดย ทัพเรือภาคที่ 1 ฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด ทัพเรือภาคที่ 1 และศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเลกองทัพเรือเกาะช้าง จัดเลี้ยงอาหารกลางวัน มอบอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา และของขวัญ ให้แก่เด็กนักเรียนเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2565 ตามโรงเรียนต่าง ๆ ในพื้นที่รับผิดชอบ ภายใต้แนวคิดคำขวัญวันเด็ก ประจำปี 2565 “รู้คิด รอบคอบ รับผิดชอบต่อสังคม”

โดยวันที่ 5 มกราคม 2565 ฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด ทัพเรือภาคที่ 1 นำโดยนาวาเอก ปฏิรูป  อยู่พรหม ผู้บังคับการฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด ทัพเรือภาคที่ 1 จัดกิจกรรมเลี้ยงอาหารกลางวัน มอบอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา และของขวัญ ให้แก่เด็กนักเรียน และทำความสะอาดโรงเรียนบ้านเนินดินแดง อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด โดยมี ครู และ นักเรียนโรงเรียนบ้านเนินดินแดงให้การต้อนรับ

และวันเดียวกัน ศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเลกองทัพเรือเกาะช้าง นำโดย นาวาโท พงษ์กาญจน์  กฤตินันท์ หัวหน้าศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเลกองทัพเรือเกาะช้าง ร่วมกับชุมชนสลักคอก จัดกิจกรรมเลี้ยงอาหารกลางวัน มอบอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา และของขวัญ ให้แก่เด็กนักเรียน และทำความสะอาดโรงเรียน วัดวัชคามคชทวีป อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด โดยมี ครู และ นักเรียนโรงเรียนวัดวัชคามชคทวีป ให้การต้อนรับ

และในวันที่ 6 มกราคม 2565 ทัพเรือภาคที่ 1 นำโดย นาวาเอก วีระชัย บุญมาก ผู้อำนวยการกองกิจการพลเรือน ทัพเรือภาคที่ 1 จัดกิจกรรมเลี้ยงอาหารกลางวัน มอบอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา และของขวัญ ให้แก่เด็กนักเรียน และทำความสะอาดโรงเรียนเกล็ดแก้ว ตำบลบางเสร่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี ครู และ นักเรียนโรงเรียนวัดวัชคามชคทวีป ให้การต้อนรับ

ถึงแม้ในปีนี้ จะไม่มีการจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ในรูปแบบของการแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ การแสดงทางทหารของหน่วยงานในพื้นที่ต่าง ๆ ของกองทัพเรือ งดการรวมตัวกันเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 แต่การจัดกิจกรรม เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2565 ในรูปแบบของการเลี้ยงอาหารกลางวัน มอบอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา และของขวัญนั้น เป็นการจัดกิจกรรมที่มีรูปแบบที่คำนึงถึงความปลอดภัยของเด็กนักเรียน คุณครู และกำลังพลในสังกัดเป็นหลัก มีการดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อไวรัส COVI-19 อย่างเคร่งครัด  เพื่อเป็นการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19

 

นักสืบเอกชน เปิดแพ็กเกจสืบประวัติคู่แต่งงาน เช็กให้ชัวร์ตั้งแต่ตอนนี้ ดีกว่าเสียใจทีหลัง !!

เป็นที่ฮือฮาอย่างมากในโลกโซเชียล เมื่อเพจเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า “นักสืบประเทศไทย สำนักงานที่ปรึกษากฎหมายและนักสืบทีบีแอลเอส” ได้โพสต์แคมเปญ “บริการสืบประวัติก่อนแต่งงาน” พร้อมกับสโลแกน “อย่าให้ความไม่รู้ ทำให้เราเสียใจภายหลัง คนที่จะมาใช้ชีวิตร่วมกับคุณ คุณรู้จักเขาดีพอหรือยัง”

บริการนี้จะสืบได้ตั้งแต่ ข้อมูลทั่วไป การเปลี่ยนชื่อ ย้ายที่อยู่ ประวัติอาชญากรรม ประวัติด้านครอบครัว ฐานะทรัพย์สินต่างๆ ครบจบที่เดียว โดยมีราคาค่าบริการเพียง 9,999 บาท ซึ่งราคานี้จะสิ้นสุดในวันที่ 31 มกราคม 2565 เท่านั้น 

States TOON EP.43

วัคซีนธรรมชาติ!!

ติดตามการ์ตูนอัปเดตได้ทุกสัปดาห์…

ปทุมธานี - ‘บิ๊กแจ๊ส’ เปิดยุทธการ!สู้ศึกโอไมครอน ฉีดพ่นฆ่าเชื้อตามสถานศึกษา เพื่อรับการเปิดเรียน

เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2565 ที่โรงเรียนปทุมวิไล ตำบลบางปรอก อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี , นายณเรศ คุชิตา ที่ปรึกษานายก อบจ.ปทุมธานี และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีเขตอำเภอเมืองปทุมธานี ร่วมเปิดยุทธการฉีดพ่นฆ่าเชื้อสู่ศึกโอไมครอน ปล่อยรถฉีดพ่นและเจ้าหน้าที่ชุดฉีดพ่นในอาคาร เพื่อฉีดพ่นฆ่าเชื้อสร้างความมั่นใจให้นักเรียนและผู้ปกครองในการส่งบุตรหลานเข้าเรียนภายในสถานศึกษา ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า ทาง อบจ.ปทุมธานีได้ประสาน ผอ.โรงเรียนต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีอยู่ตลอดเวลา ในการเตรียมเปิดเรียนของโรงเรียนต่าง ๆ ซึ่งทางโรงเรียนได้เตรียมความพร้อมไว้ทั้งหมดแล้ว

โดยทาง อบจ.ปทุมธานีได้นำทีมฉีดพ่นฆ่าเชื้อเข้ามาฉีดพ่นภายในอาคารและภายนอกอาคาร รวมถึงใครที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนก็มีการฉีดวัคซีนให้สำหรับคนที่ยังไม่ได้ฉีด เราอยากให้นักเรียนลูกหลานเราได้กลับมาเรียนตามปกติให้เร็วที่สุด เราก็เชื่อว่าที่เราทำมาทั้งหมดจะสามารถหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดปทุมธานี ขอให้ทาง ผอ.โรงเรียนดูระเบียบกฎต่าง ๆ ของกระทรวงสาธารณสุข เราอย่าทำให้ผิดกฎของกระทรวงฯ ที่ได้กำหนดไว้ หากมีการแพร่ระบาดจะเป็นคลัสเตอร์ใหม่ก็จะเป็นเกิดการเสียหายในภาพรวม จึงขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันระมัดระวังต่อไป

ในส่วนของชุดตรวจ ATK ทาง อบจ.ได้พยายามจัดหามาให้ ซึ่งเป็นชุดตรวจที่มีคุณภาพมีความแม่นยำสูง นอกจากนี้ยังต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน โดยต้องป้องกันตัวเองตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ใส่แมสก์ ล้างมือ เว้นระยะห่าง ระมัดระวังทั้งที่อยู่ที่โรงเรียนและอยู่บ้าน ทาง อบจ.ได้พยายามประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องชาวปทุมธานีระมัดระวังกันทั้งจังหวัด โดยผมหวังอย่างยิ่งต้องมีชีวิตความเป็นอยู่ และต่อสู้ผ่านสงครามครั้งนี้ไปด้วยกันอย่างปลอดภัยทั้งจังหวัด

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top