Sunday, 25 May 2025
TheStatesTimes

รองผู้ว่ากทม. ผนึกกำลัง! กรมพก. เยี่ยมคนพิการ - ผู้ป่วยติดเตียง และกลุ่มเปราะบาง

"นายสกลธี ภัททิยกุล" รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย "นางสาวสราญภัทร อนุมัติราชกิจ" อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และนายสมบัติ กนกทิพย์วรรณ ผู้อำนวยการเขตหลักสี่ ลงพื้นที่ให้กำลังใจ และแนะนำสิทธิประโยชน์ของ "คนพิการ" พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่คนพิการติดเตียง และกลุ่มเปราะบาง จำนวน 46 รายในพื้นที่เคหะชุมชนทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่

อีกทั้ง ยังได้ให้คำแนะนำ คำปรึกษาเกี่ยวกับสิทธิ และสวัสดิการทางกฎหมายของ พระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการพ.ศ 2550 เพื่อเป็นเครื่องมือกลไกในการช่วยเหลือและขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตของคนพิการที่มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และสามารถได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที 

 

เวียดนามปืนไว!! เซ็นสัญญาตัวแทนขายวัคซีน​โควิดแคปซูล แม้ยังอยู่ในช่วงการทดลองในคลินิก

เมื่อ 29 ธันวาคม 2021 Oramed Pharmaceuticals บริษัทยาสัญชาติอิสราเอลได้แถลงว่า ทีมผู้พัฒนาวัคซีน Covid-19 ในรูปแบบเม็ดแคปซูล Oravax ได้เซ็นสัญญากับบริษัทโฮลดิงส์เวียดนาม Tan Thanh Holdings เพื่อสั่งซื้อแคปซูลวัคซีน Oravax ล่วงหน้าแล้วถึง 10 ล้านเม็ด แม้ว่าตอนนี้จะเพิ่งอยู่ในช่วงการทดลองในคลินิกก็ตาม

จากข้อตกลงนี้ จะทำให้บริษัท Tan Thanh ของเวียดนามได้สิทธิ์เป็นตัวแทนจัดจำหน่าย Oravax วัคซีน Covid-19 ชนิดแคปซูลอย่างเป็นทางการ ทั้งในเวียดนาม และในย่านอาเซียนทั้งหมด ตั้งแต่ไทย ลาว พม่า กัมพูชา มาเลเซีย สิงคโปร์ รวมถึงตลาดที่ใหญ่ที่สุดในย่านนี้ นั่นก็คือ อินโดนิเซีย 

ซึ่งยอดสั่งจองลวงหน้า 10 ล้านเม็ด เป็นเพียงข้อตกลงเบื้องต้น และคาดว่าจะมียอดสั่งซื้อตามมาอีกแน่นอน เนื่องจากทั้งผู้ผลิต และตัวแทนจำหน่ายของเวียดนามมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะนำวัคซีนแคปซูลตีตลาดในย่านอาเซียน ที่มีประชากรมากถึง 660 ล้านคน 

หลังจากได้พัฒนาวัคซีน Covid-19 รูปแบบแคปซูลจนผ่านขั้นตอนการทดสอบในกลุ่มสัตว์ทดลองแล้ว นาดาฟ คิดรอน ผู้บริหารสูงสุดของ Oramed กล่าวว่า Oravax ได้เข้าสู่การทดสอบในคลินิกกับกลุ่มอาสาสมัครแล้ว คาดว่าจะรู้ผลลัพธ์ไม่เกินต้นปี 2022 นี้ 

โดยทางการเวียดนามกำลังพิจารณาจากผลการทดสอบในเฟส 2 นี้อย่างใกล้ชิด หากผลสัมฤทธิ์ออกมาเป็นที่น่าพอใจ รัฐบาลเวียดนามพร้อมอนุมัติให้ใช้วัคซีนแคปซูล Oravax ในกรณีฉุกเฉินได้ทันที ซึ่งจะมีผลอย่างมากในการทำตลาดวัคซีน Oravax ในภูมิภาคอาเซียน

จากการประเมินของ Oramed พบว่า กลุ่มประเทศทุ่มงบประมาณถึง 4% ของ GDP ในสวัสดิการสาธารณสุขในประเทศ คิดเป็นมูลค่าสูงกว่า 2.5 หมื่นล้านเหรียญในแต่ละปี ที่เป็นโอกาสในการทำตลาดของวัคซีนแคปซูล Oravax 

ซึ่งวัคซีน Covid-19 ชนิดแคปซูลเม็ด กำลังเป็นที่สนใจอย่างมากแม้ในประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา เนื่องจากการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของสายพันธุ์ Omicron 

ดังนั้นการใช้วัคซีนชนิดแคปซูล ที่ใช้ได้ง่ายเหมือนยาทั่วไปอาจเป็นจุดเปลี่ยนเกมสำคัญในการกระจายวัคซีน สร้างภูมิคุ้มกันหมู่อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว แต่เสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าวัคซีนแบบฉีดที่ใช้กันอยู่ตอนนี้มาก 

และหากวัคซีนแคปซูล Oravax ประสบความสำเร็จในการพัฒนา ก็นับว่าโชคดีของบริษัทโฮลดิงส์จากเวียดนาม ที่ปืนไว เซ็นสัญญาก่อนใครในภูมิภาคนี้


เรื่อง: ยีนส์​ อรุณรัตน์

อ้างอิง: Channal News Asia / Biospace.com / The Jerusarem Post

“ ตร.เตรียมความพร้อม ดูแลประชาชนเดินทางไป-กลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัย ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ”

วันนี้ (29 ธ.ค.2564) เวลา 16.30 น. ที่ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (หมอชิต) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ได้มอบนโยบายแนวทางในการปฏิบัติเกี่ยวกับการบริหารจัดการจราจร โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด บช.น. กว่า 14,000 นาย ช่วยอำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ที่จะถึงนี้

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ เปิดเผยว่าได้กำชับการปฏิบัติเกี่ยวกับการบริหารจัดการจราจรในพื้นที่กรุงเทพมหานครให้อำนวยความสะดวกการจราจร ป้องกันอุบัติเหตุจราจรให้กับพี่น้องประชาชน และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการเดินทางไป – กลับภูมิลำเนา เพื่อฉลองปีใหม่กับครอบครัวและบุคคลอันเป็นที่รักอย่างปลอดภัยและมีความสุข ทั้งนี้กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้เตรียมความพร้อมการปฏิบัติในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 โดยจัดกำลังข้าราชการตำรวจ จำนวน 14,000 นายเศษ ไว้คอยดูแลความเรียบร้อย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรบริเวณเส้นทางเข้า – ออกกรุงเทพมหานคร, สถานีขนส่ง, สนามบิน และจุดเชื่อมต่อเส้นทางหลักให้กับพี่น้องประชาชน รวมทั้งตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์และสารเสพติดร่วมกับ บขส. เพื่อวัดปริมาณแอลกอฮอล์พนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ การตั้งจุดกวดขันวินัยจราจร เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางถนน โดยมอบนโยบายเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติดังนี้

1) ให้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรในทุกส่วน เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับประชาชน โดยเน้นเส้นทางเข้า - ออก กรุงเทพมหานคร, สถานีขนส่ง, สถานีรถไฟ และสนามบิน ตลอดจนการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนรับทราบประกอบในการวางแผนการเดินทาง

2) ขอความร่วมมือจากประชาชนในทุกภาคส่วน ให้ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรโดยเคร่งครัด เพื่อเป็นการป้องกันและลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่

3) จัดให้มีจุดบริการประชาชน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

4) จัดเตรียม และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับการช่วยเหลือประชาชนกรณีมีเหตุฉุกเฉิน เช่น  รถยก, 
รถกู้ภัย, รถฉุกเฉินทางการแพทย์ เป็นต้น

5) การบังคับใช้กฎหมาย โดยให้มีการตั้งจุดตรวจเพื่อกวดขันวินัยจราจร, จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์, เพื่อป้องกันอุบัติเหตุให้กับประชาชน โดยเน้นพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ

6) จัดกำลังพลตรวจตราการจัดงาน/กิจกรรมในช่วงเทศกาลปีใหม่ รวมทั้งร้านอาหาร สถานประกอบการ ให้ปฏิบัติตามมาตรการของคณะกรรมการควบคุมโรค เช่น การจำกัดจำนวนคนเข้ารับบริการ การเว้นระยะห่างไม่แออัดจนเกินไป และการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร

สมุทรปราการ-ธารน้ำใจ “พระครูจาบ” วัดหนามแดง เมตตามอบถุงยังชีพ-เงินช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง

ที่ภายในศาลาวัดหนามแดง ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ท่าน พระครูวิทูรกิจจาทร (พระครูจาบ) รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดหนามแดง มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่ได้รับความเดือดร้อนในเขตพื้นที่ตำบลบางแก้ว และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 

สืบเนื่องจาก ท่าน พระครูวิทูรกิจจาทร (พระครูจาบ) มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งได้ประสานความช่วยเหลือผ่านผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่ อสม. ให้ดำเนินการตรวจสอบและดำเนินการคัดกรองผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงตามชุมชนต่างๆ ในเขตพื้นที่ตำบลบางแก้ว เพื่อให้ความช่วยเหลือโดยจะมอบถุงยังชีพพร้อมด้วยเงินสดช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในชุมชนต่างๆ ในเขตพื้นที่ตำบลบางแก้
โดยในวันนี้ ทางวัดหนามแดง โดยท่าน พระครูวิทูรกิจจาทร (พระครูจาบ) รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดหนามแดง พร้อมด้วย พ.ต.อ.มงคล อ่อนแก้ว ผกก.สภ.บางแก้ว พ.ต.อ.พรณรงค์ เจริญวัฒนวิญญู ผกก.พิสูจน์หลักฐานสมุทรปราการ พ.ต.อ.ชนินทร์ เคหะ ผกก.สอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.ภ.1 ร่วมมอบถุงยังชีพให้กับทางตัวแทนและญาติของผู้ป่วยติดเตียง จำนวนกว่า 150 ราย ประกอบด้วย ข้าวสาร อาหารแห้ง เจลแอลกอฮอล์ น้ำยาฆ่าเชื้อ เงินสดคนละ 500 บาท และสิ่งของอื่นๆ อีกหลายรายการ อีกทั้ง ถือเป็นการส่งมอบความสุข ความห่วงใยที่มีต่อพี่น้องประชาชน รับเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึง

ด้าน ท่านพระครูวิทูรกิจจาทร (พระครูจาบ) กล่าวว่า ในวันนี้ทางวัดหนามแดง มีความห่วงใยในการดำรงชีวิตของพี่น้องประชาชน รวมถึงผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุที่ขาดรายได้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงได้ประสานความร่วมมือกับทางผู้นำชุมชนต่างๆ เจ้าหน้าที่ อสม.เร่งคัดกรองจำนวนผู้ป่วยติดเตียงเพื่อดำเนินการช่วยเหลือช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน

“บิ๊กตู่”ปลื้ม ชื่นชมช้างศึกชนะนัดแรกในรอบชิงชนะเลิศ AFF Suzuki Cup 2020

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมชื่นชมผลงานนักบอลทีมชาติไทยที่เอาชนะอินโดนีเซียด้วยประตู 4 ต่อ 0 ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน AFF Suzuki Cup 2020 (ฟุตบอล เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020) ที่สิงคโปร์ เนชั่นแนล สเตเดี้ยม ประเทศสิงคโปร์ ในคืนวันที่ 29 ธันวาคม 2564 นัดที่ 1 

ทอ.จัด UAV แบบ RTAF U1 บินสำรวจเส้นทางคมนาคม ร่วมตำรวจ จ.สระแก้ว เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางของปชช. ช่วงเทศกาลปีใหม่ พื้นที่จังหวัดสระแก้ว และใกล้เคียง 

พล.อ.ต.บุญเลิศ  อันดารา โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า พล.อ.อ.นภาเดช  ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ได้สั่งการให้ กองบิน 3 จังหวัดสระแก้ว สนับสนุนเครื่องบินไร้คนขับตรวจการณ์และฝึกแบบที่ 1 (UAV แบบ RTAF U1) ในการบินสำรวจเส้นทางคมนาคม เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ตามที่ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้วร้องขอ ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2564 - 1 มกราคม 2565 บริเวณทางหลวงหมายเลข 3395 (วัฒนานคร - โคคลาน) ทางหลวงหมายเลข 3486 (โคคลาน - บ้านใหม่ไทยถาวร) และทางหลวงหมายเลข 348 (เขาช่องตะโก) จังหวัดสระแก้ว

โดย กองทัพอากาศ ได้จัดเครื่องบินไร้คนขับตรวจการณ์และฝึกแบบที่ 1 (RTAF U1) จากหน่วยบิน 3011 ฝูงบิน 301 กองบิน 3 สนับสนุนภารกิจดังกล่าว โดยเชื่อมสัญญาณ Video Downlink (VDL) ไปยังกองอำนวยการร่วม สำหรับบัญชาการและควบคุม (Command and Control Room) ที่ห้องศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว และห้องบัญชาการและควบคุมส่วนหน้า สถานีตำรวจภูธรตาพระยา อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว เพื่อประสานการปฏิบัติร่วมกันในการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยสำหรับการเดินทางให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 

“รองโฆษกรัฐบาล” แก้หนี้กยศ.เป็นของขวัญปีใหม่  จัดของขวัญปีใหม่ ลดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ เสนอร่างแก้ไขพ.ร.บ.กยศ. เข้าสภา 5 ม.ค. คลายทุกข์ลูกหนี้และผู้ค้ำฯหลายล้านคน

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ติดตามการแก้ปัญหาหนี้กองทุนเงินกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา (กยศ.) ซึ่งรัฐบาลถือเป็นวาระเร่งด่วน โดยข้อมูล สิ้นปี 2563  เงินกู้กยศ. มีหนี้เสีย (NPL) สูงถึง 63เปอร์เซ็นต์ สูงที่สุดในช่วง 25 ปี ปัจจัยที่ทำให้ผู้กู้ไม่สามารถชำระหนี้ได้เป็นจำนวนมาก มาจากรูปแบบการชำระเงินคืนไม่สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้คืน ซึ่งบางช่วงเศรษฐกิจเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้น กยศ.จึงได้ทำการปรับรูปแบบการชำระหนี้ เพื่อลดโอกาสการผิดนัดชำระหนี้และกลายเป็นหนี้เสีย

เพิ่มแผนการรับชำระหนี้ให้หลากหลาย ทำให้ผู้กู้สามารถเลือกแผนการชำระคืนให้เหมาะสมกับศักยภาพของตนเอง และยังได้เปิดให้ผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างผ่อนชำระหนี้ที่ยังไม่ถูกฟ้องคดี จำนวนกว่า 1.7 ล้านคน ให้เข้ามาแจ้งความประสงค์ขอปรับโครงสร้างหนี้ได้แล้วแบบสมัครใจ ผ่านแอปพลิเคชัน กยศ. Connect หรือผ่านเว็บไซต์ https://wsa.dsl.studentloan.or.th  เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้กู้ยืมช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19

น.ส.รัชดา กล่าวว่า รูปแบบการชำระหนี้ใหม่ที่จัดให้แก่ผู้กู้ อาทิ  1.การชำระหนี้คืนจากรายปีเป็นรายเดือน และขยายระยะเวลาการผ่อนเป็น 25 ปี จากเดิม 15 ปี 2. ปรับลำดับการตัดชาระหนี้ โดยจะตัดเงินต้นก่อน แล้วจึงนำมาตัดดอกเบี้ย ทำให้ยอดหนี้ลดลง 3.ลดอัตราดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้จากร้อยละ 18 ต่อปี เหลือร้อยละ 2 ต่อปี 4. ยกเลิกผู้ค้ำประกัน นับตั้งแต่ปีการศึกษา 2564 เป็นต้นไป 5.ปรับโครงสร้างหนี้ ให้กับผู้ที่มีปัญหาชำระหนี้ไม่ได้ อนึ่ง ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ กยศ. มอบของขวัญแก่ลูกหนี้ ด้วยการขยายเวลา 5 มาตรการ ออกไปถึง 30 มิ.ย.65 จากเดิมสิ้นสุด 31 ธ.ค.นี้

โดย ลดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจากเดิม 1 เปอร์เซ็นต์ เป็น 0.01 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ 2) ลดเงินต้น 5 เปอร์เซ็นต์กรณีชำระหนี้ปิดบัญชีสำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ 3.ลดเบี้ยปรับ 100 เปอร์เซ็นต์กรณีชำระหนี้ปิดบัญชีสำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี 4.ลดเบี้ยปรับ 80 เปอร์เซ็นต์ สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีที่ชำระหนี้ค้างทั้งหมดให้มีสถานะปกติ 5.ลดอัตราการคิดเบี้ยปรับเหลือ 0.5 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีและไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด

ดับวันแรก 39 ราย เจ็บ 362 คน ศปถ.ประสานจว.เข้มดูแลความปลอดภัยถนนสายหลัก - เส้นทางเชื่อมต่อสู่ภูมิภาค

ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปีผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่พ.ศ.2565 ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 29 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันแรกของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 362 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 39 ราย ผู้บาดเจ็บ 362 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 34.60 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 23.80 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด

ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 81.30 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง 83.90 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 36.80 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 34.60 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 15.01 – 18.00 น. ร้อยละ 22.70  ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 29.94 ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,875 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 5,721 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 360,412 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 62,932 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 18,142 ราย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 7,939 ราย รถจักรยานยนต์ไม่ปลอดภัย 5,007 ราย 

แบงก์ชาติ ชี้ เศรษฐกิจไทยพ.ย. ปรับตัวดี พร้อมจับตาโอมิครอนปีหน้า

น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารการสื่อสารองค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนพ.ย. 2564 ปรับดีขึ้นจากเดือนก่อน โดยการส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้นตามอุปสงค์ประเทศคู่ค้า และปัญหา supply disruption ที่ทยอยคลี่คลายลง สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปรับเพิ่มขึ้นหลังการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ด้านการใช้จ่ายในประเทศของภาคเอกชนเพิ่มขึ้นทั้งการบริโภคและการลงทุน ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐยังมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะผ่านรายจ่ายเงินโอน ซึ่งอุปสงค์ที่ฟื้นตัวทำให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมทยอยปรับดีขึ้น

ส่วนด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับเพิ่มขึ้นตามราคาอาหารสดที่ได้รับผลกระทบชั่วคราวจากสถานการณ์น้ำท่วม ขณะที่ราคาในหมวดพลังงานยังอยู่ในระดับสูงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ด้านตลาดแรงงานทยอยปรับดีขึ้นตามการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่โดยรวมยังเปราะบาง สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดกลับมาเกินดุลเล็กน้อย เนื่องจากดุลรายได้ บริการ และเงินโอนขาดดุลน้อยลง ขณะที่ดุลการค้าเกินดุลมากขึ้น

สสว. หวังปีหน้า เอสเอ็มอีรายเล็กกลับมาฟื้นได้หากคุมโอมิครอนอยู่

นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยสถานการณ์ของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีขนาดเล็ก หรือไมโครเอสเอมอี (MSME) ในปี 2565 ว่า หากสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้ คาดว่า จีดีพี MSME จะเติบโตระหว่าง 3.2 – 5.4% หรือมีมูลค่าประมาณ 5.669 – 5.789 ล้านล้านบาท โดยมีปัจจัยบวกมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจประเทศ โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง 

ทั้งนี้ สสว. ประเมินว่า ในปีหน้าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวไทยเพิ่มขึ้น 30 – 40% มีรายได้จากการท่องเที่ยว 5.9 แสนล้านบาท คาดว่าธุรกิจในภาคบริการจะเติบโตระหว่าง 3.4 – 5.8% และธุรกิจที่น่าจับตามองในปี 2565 ได้แก่ ธุรกิจอาหารแปรรูป ธุรกิจให้ความบันเทิง (สันทนาการ) ธุรกิจที่พักแรม ธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจเครื่องสำอาง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจคลังสินค้า ธุรกิจโมเดิร์นเทรด ธุรกิจโลจิสติกส์ และธุรกิจแปรรูปยางพารา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top