Sunday, 22 June 2025
TheStatesTimes

ชลบุรี - เมืองพัทยา เริ่มแล้ว นำทีมติดตั้งโครงเหล็กเตรียมเปิดด่านตรวจวัดคัดกรองโควิด-19 หน้าวัดช่องลม

รองนายกเมืองพัทยานำทีมเตรียมความพร้อมสถานที่ตั้งด่านตรวจวัดคัดกรองป้องกันโควิด-19 หน้าวัดช่องลม (นาเกลือ) ตลอด 24 ชั่วโมง เข้มคนเดินทางเข้าเขตเมืองพัทยา

เมื่อวันที่ 1 พ.ค.64 มีรายงานว่า นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา พร้อมคณะทำงานนายกเมืองพัทยา เจ้าหน้าที่อำเภอบางละมุง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง และเจ้าหน้าที่ส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่นำอุปกรณ์โครงเหล็กเพื่อติดตั้งเต๊นท์ขนาดใหญ่ บริเวณหน้าวัดช่องลม (นาเกลือ) จ.ชลบุรี เพื่อเป็นด่านตรวจวัดคัดกรองป้องกันโควิด-19 ที่จะเริ่มปฏิบัติการการอย่างเข้มข้นในวันอาทิตย์ที่ 2 พ.ค.64 นี้

นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา ให้ข้อมูลด้วยว่า กรรมการควบคุมโรคจังหวัดชลบุรีที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีเป็นประธาน ได้จัดประชุมกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชลุบรี เพื่อยกระดับมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ตามประกาศของ ศบค. หลังจากจังหวัดชลบุรีเป็นหนึ่งใน 6 จังหวัด พื้นที่สีแดงเข้ม หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 

ในส่วนของอำเภอบางละมุง พบว่ามีรายงานพบผู้เชื้ออย่างต่อเนื่อง โดยเมืองพัทยา ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐฏิจที่สำคัญของจังหวัดชลบุรี คณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดชลบุรีจึงมีคำสั่งให้เพิ่มระดับความเข้มข้มของมาตรการการควบคุมโรค โดยให้มีการจัดตั้งด่านตรวจวัดคัดกรองผู้ที่จะเดินทางเข้าเขตพื้นที่

โดยบูรณาการกำลังเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าท่ีปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนงานราชการที่เกี่ยวข้อง และจิตอาสา ปฏิบัติหน้าท่ีตรวจวัดคัดกรองประจำด่านตรวจวัดคัดกรองก่อนเข้าเขตพื้นที่เมืองพัทยา โดยใช้ริมถนนสุขุมวิท บริเวณหน้าวัดช่องลม (นาเกลือ) โดยเบื้องต้นมีแนวคิดจะตั้งด่านตรวจวัดคัดกรองดังกล่าวตลอด 24 ชม.

ทั้งนี้ บริเวณขาเข้าเมืองพัทยา จะมีการตรวจวัดอุณหภูมิผู้สัญจรด้วยพาหนะทุกคัน ในส่วนขอขาออกนั้น ผู้ประสงค์ที่จะเดินทางออกนอกพื้นที่จะต้องมีหนังสืออนุญาตเดินทางจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น ๆ มาแสดงต่อทางเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจวัดคัดกรองอำเภอบางละมุงด้วย ส่วยรายละเอียดการปฏิบัติหน้าที่จะมีความชัดเจนในวันพรุ่งนี้จากทางนายอำเภอบางละมุง


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

ยะลา - เคอร์ฟิววันแรก เมืองเบตงเงียบสงัดทั้งเมือง มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง กู้ภัย ที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบ

เมื่อวันที่ 1 พ.ค.64 เวลา 21.00 น. ที่บริเวณหอนาฬิกาเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง ได้เป็นประธานปล่อยแถว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เบตง, นปพ.ยะลา32, ตชด.445, ฉก.ตชด.445, ทหาร ชุดป้องกันชายแดนที่4, ฝ่ายปกครอง และกู้ภัยในพื้นที่อำเภอเบตง จำนวน 200 นาย เพื่อดูแลรักษาความสงบในห้วงเวลาเคอร์ฟิว และเป็นการทำตามนโยบายผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ที่ประกาศ ห้ามประชาชนออกนอกเคหสถาน ตั้งแต่เวลา 22.00 น.-04.00 น. เพื่อเป็นมาตรการยกระดับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 COVID-19  โดยเริ่มจากวันนี้เป็นวันแรกจนถึงวันที่ 18 พ.ค.64 ผู้ที่ฝ่าฝืนนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยมีพ.ต.อ.เอกชัย พราหมณกุล ผกก.สภ.เบตง หัวหน้าหน่วยกำลังในพื้นที่เข้าร่วม

ทั้งนี้เมื่อถึงเวลา 22.00 น. นายอำเภอเบตงพร้อมเจ้าหน้าที่ได้เวียนไปตรวจดูตามถนนหนทาง สถานที่ร้านค้าต่างๆ ภายในเขตเทศบาลเมือง พบว่า ตามถนนหนทางภายในเขตเทศบาลเงียบสงัด ไม่มีประชาชน ออกมาพลุกพล่านเหมือนทุกคืนที่ผ่านมา มีเพียงเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามจุดต่าง ๆ เท่านั้น ส่วนตามร้านสะดวกซื้อก็ปิดบริการหมดแล้วตั้งแต่เวลา 21.00 น. เพราะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานต่าง ๆ ได้ทำการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน และร้านค้าต่าง ๆ ทราบมาก่อนหน้านี้แล้ว


ภาพ/ข่าว ธานินทร์ โพธิทัพพะ / ปื้ดเบตง  

ตาก - ผู้ประกอบการนำเข้าข้าวโพดเดือดร้อน วอนด่านตรวจพืชแม่สอดหาทางออก หลังมาตรการพบมอดเพียงตัวเดียว ต้องนำข้าวโพดกลับไปฝั่งเมียนมาใหม่ เสียค่าใช้จ่ายบานปลายมากถึง 20,000 บาทต่อ 1 พ่วง

เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม  2564 ตัวแทนผู้ประกอบการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากประเทศเมียนมาด้านจังหวัดเมียวดี ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ได้ไปยื่นหนังสือต่อหัวหน้าด่านตรวจพืช อ.แม่สอด จ.ตาก ทั้งนี้เพื่อขอผ่อนปรนการตรวจ หรือ วิธีการอื่น ๆ จากกรณีที่ ทางกรมวิชาการเกษตร มีหนังสือลงวันที่ 29 มีนาคม 2564 ให้การนำเข้าข้าวโพดจากต่างประเทศ (สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา) เข้ามาในราชอาณาจักรไทยมีข้อกำหนดของกรมวิชาการเกษตรว่า ห้ามมีตัวมอด และศัตรูพืชเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ถ้ามีต้องมีวิธีกำจัดคือ ตีกลับประเทศต้นทาง ต้องผ่านการอบตัวมอดจากบริษัทที่ผ่านการได้รับอนุญาตของกรมวิชาการเกษตร ซึ่งมี 6 บริษัท และทำลายทิ้ง แต่เนื่องจากบริษัทที่กำหนดไว้ไม่มีสาขา และพนักงานในพื้นที่ อ.แม่สอด

ขณะที่ยาที่กำจัดมอด และศัตรูพืชที่ชื่อว่า เมบรอม 100 (Mebromm 100 ) ที่กรมวิชาการเกษตรอนุมัติให้ใช้นั้นไม่มี   โดยไม่มีจำหน่ายในพื้นที่อำเภอแม่สอด ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถปฏิบัติตามปรพกาศของกรมวิชาการเกษตรได้ และทางเจ้าหน้าที่ด่านตรวจตรวจพืช ไม่มีทางออกอื่นให้ ส้งผลให้ผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อน ต้องเสียค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อนมากถึง 20,000 บาทต่อ 1 พ่วง และยังต้องเผชิญปัญหากับเหตุการณ์ไม่สงบ และปัญหาการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกด้วย และเมื่อปีที่ผ่านมาไม่มีข้อกำหนดดังกล่าว การยื่นหนังสือนี้จึงขอผ่อนปรนจากกรมวิชาการเกษตรเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการนำเข้าข้าวโพด

ด้านเจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืช แจ้งกับกลุ่มผู้ประกอบการที่ไปยื่นหนังสือว่า จะนำเรื่องนี้ รายงานไปยังกรมวิชาการเกษตร เพราะเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ไม่มีอำนาจใด ๆ นอกจากการปฏิบัติหน้าตามข้อกำหนดของกรมวิชาการเกษตร แต่ได้แนะนำให้รวมตัวกัน พร้อมกับชิปปิ้ง เพื่อหาทางออกร่วมกัน

ทางผู้ประกอบการแจ้งว่า ได้รับความเดือดร้อนมาก เนื่องจากการเข้มงวดตรวจรถบรรทุกข้าวโพดที่บริเวณด่านพรมแดนไทย-เมียนมา 2 ของเจ้าหน้าที่ หากพบมอดเพียงตัวเดียวก็ไม่ผ่าน นอกจากนี้ทางผู้ประกอบได้รวมตัวกัน เพื่อหาทางออก โดยจะขอให้บริษัทที่ทางกรมวิชาการเกษตรกำหนดไว้ให้ผู้ประกอบการต้องนำข้าวโพดผ่านการอบตัวมอด จาก 6 บริษัท ก็ไม่ยอมไปบริการถึงพื้นที่ หลังจากมีการร้องขอจากผู้ประกอบการ เนื่องจากปัญหาการระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ยิ่งทำให้ผู้ประกอบการไม่มีทางออกใด นอกจากการขอผ่อนปรนเท่านั้น

 

ตราด – ข้าวกล่องออนไลน์สุดฮอต !! ช่วงโควิด ข้าวคลุกน้ำพริกกะปิปลาทู ทำยอดขายพุ่ง

ร้านขายอาหารออนไลน์ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกช่วงโควิด ไม่ว่าจะเป็นโควิดละลอก 1 -2 หรือ ละลอก 3 อาหารออนไลน์ก็ยังเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของคน พิษโควิดทำร้านค้า ร้านอาหารหลายร้านต้องปิดตัวลง แต่ร้าน น้องแม็ก อิ่มอร่อย ที่เป็นธุรกิจครอบครัว ทำกันมาตั้งแต่ช่วงโควิดรอบแรก ยอดขายยังคงไม่ตก กลับพุ่งสูงขึ้นเท่าตัว โดยเฉพาะรอบนี้ ทำให้คนไม่กล้าออกจากบ้านนั่งกินอาหารที่ร้าน หันมาสั่งข้าวออนไลน์กันเป็นจำนวนมาก

นางสาวนุชนาฎ รังสิวัฒนศักดิ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองและครอบครัวทำอาหารขายออนไลน์อยู่กับบ้าน ในพื้นที่ ต.หนองเสม็ด อ.เมืองตราด โดยมีอาหารกล่องหลากหลาย มีลูกค้าประจำที่สั่งทานกันเรื่อยมา ตั้งแต่โควิดรอบแรก จนมาถึงโควิดรอบนี้ ลูกค้าประจำก็ยังสั่งข้าวกล่องทานกันอย่างต่อเนื่อง ลูกค้าที่เข้ามาใหม่ๆก็เยอะ ข้าวกล่องที่ร้านขายหลากหลายตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่ง แต่ที่ขายดีและเป็นที่ถูกอกถูกใจลูกก็จะเป็นข้าวคลุกกะปิ ที่ใส่เครื่องแบบแน่นๆ ขายกล่องละ 30-40 บาท และอีกอย่างหนึ่งที่ลูกค้าสั่งทานมากที่สุดก็คือข้าวคลุกน้ำพริกกะปิปลาทู ขายกล่องละ 40-50 บาท นางสาวนุชนาฎยังบอกอีกว่า ทางร้านได้เข้าร่วมโครงการของรัฐ เราชนะ และร่วมกับฟู๊ตแพนด้า โดยลูกค้าสามารถสั่งผ่านฟู๊ตฯได้เช่นเดียวกัน สำหรับโควิด 19 รอบนี้ ทำให้ยอดขายพุ่งเท่าตัว ซึ่งดูได้จากไข่ไก่ เมื่อก่อนจะใช้วันละไม่เกิน 5 แผง หลังจากโควิด ระบาดหนัก ๆ ลูกค้าสั่งกลับไปทานที่บ้าน ยอดขายเพิ่มขึ้น ตอนนี้ใช้ไข่ไก่วันละ 10 แผง นางสาวนุชนาฎยังฝากขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ยังอุดหนุนร้านน้องแม็ก อิ่มอร่อย กันมาตลอด และทางร้านจะทำให้ดีที่สุดเช่นเดียวกัน


ภาพ/ข่าว  ณัฐวุฒิ สวัสดิ์วารี 

กาฬสินธุ์ – ผลกระทบโควิดฮิต !! ใช้แพข้ามฟากเขื่อนลำปาว รัดเข็มขัด ประหยัดน้ำมัน

จากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ทำให้การดำเนินชีวิตของประชาชน เผชิญกับภาวะเสี่ยงได้รับเชื้อ สถานบริการหลายแห่งปิดกิจการ หลายคนขาดรายได้ จึงต้องประหยัดค่าใช้จ่ายทุกด้าน รวมทั้งการเดินทางที่ต้องประหยัดค่าน้ำมัน ทำให้บรรยากาศการบริการแพข้ามฟากข้ามอ่างเก็บน้ำลำปาว ที่คลองเชื่อมระหว่างอำเภอเมืองกาฬสินธุ์และอำเภอหนองกุงศรี กลับมาคึกคักอีกครั้ง

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงาน จากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยล่าสุดยอดผู้ป่วยสะสมสูงถึง 71 ราย และเสียชีวิต 1 ราย ส่งผลให้ประชาชน ดำเนินชีวิตด้วยความระมัดระวัง และป้องกันตนเองไม่ให้รับเชื้อ โดยปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันโควิด-19 D-M-H-T-T-A อย่างเคร่งครัด ทั้งการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ล้างมือบ่อย ๆ เว้นระยะห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 2 เมตร ไม่เข้าไปในสถานที่แออัด อากาศไม่ถ่ายเท ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย สแกนไทยชนะหรือหมอชนะ เป็นต้น

ขณะเดียวกัน ในส่วนของการเดินทาง และการประกอบอาชีพของประชาชน ยังต้องรัดเข็มขัด ประหยัดกิน ประหยัดใช้ เนื่องจากสถานบริการ หรือสถานประกอบการหลายแห่งต้องหยุดกิจการ ส่งให้หลายคนว่างงาน ขาดรายได้ ขณะที่ในส่วนผู้ที่ยังทำงาน และประกอบอาชีพ จึงต้องประหยัดทุกวิถีทาง เพื่อที่จะลดรายจ่าย และเลี้ยงดูสมาชิกในครัวเรือนที่ว่างงาน  เช่น ประหยัดน้ำมันในการเดินทางข้ามอำเภอ หรือข้ามจังหวัด รวมทั้งลดระยะทางในการเดินทางค้าขาย รับจ้างและหาจับสัตว์น้ำ

จากสาเหตุดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้พบว่า บรรยากาศการบริการที่แพข้ามฟาก บริเวณคลองเชื่อมเขื่อนลำปาว ตรงข้ามกับบ้านสะอาดนาทม ต.ลำคลอง อ.เมืองกาฬสินธุ์ กับ ต.เสาเล้า อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์  ได้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งแต่ละวันจะมีผู้ใช้รถเดินทางมาใช้บริการขึ้นแพ โดยใช้แรงคนชักลากเพื่อข้ามคลองเชื่อม ซึ่งมีความกว้างประมาณ 30 เมตร

สอบถามนายชาติ กุลพลเมือง อายุ 50 ปี ชาวบ้านสะอาดนาทม ต.ลำคลอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ผู้ประกอบการแพลากข้ามฟาก กล่าวว่า ได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่า ในการให้บริการแพลากกับผู้ใช้รถ ที่จะเดินทางข้ามไป-มา ระหว่าง 2 อำเภอนี้ ซึ่งจะให้บริการในช่วงฤดูแล้งที่น้ำลด ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่จะเดินทางระหว่าง 2 อำเภอได้รับความสะดวก คือใกล้กว่าที่จะขับไปขึ้นสะพานเทพสุดา ระหว่างแหลมโนนวิเศษ ต.โนนบุรี อ .สหัสขันธ์ กับเกาะมหาราช ต.หนองบัว อ.หนองกุงศรี โดยสามารถร่นระยะเดินทางได้กว่าเส้นทางถนนประมาณ 30-50 กม.ทีเดียว

นายชาติกล่าวอีกว่า ในช่วงฤดูแล้งนี้ และประกอบกับสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 พบว่ามีผู้ใช้รถมาใช้บริการเป็นจำนวนมากขึ้น เฉลี่ยวันละ 20-30 คัน สำหรับค่าบริการแพข้ามฟาก รถจักรยานยนต์คันละ 20 บาท รถกระบะและรถไถคันละ 40 บาท รถบรรทุก 6 ล้อคันละ 60 บาท เป็นต้น สำหรับชาวบ้าน ที่ข้ามฝั่งไปหาอาหาร หรือหาหอย ปู หาปลา ในเขื่อน ก็จะไม่เก็บค่าบริการ เนื่องจากเห็นอกเห็นใจกัน และบรรเทาความเดือดร้อน ที่ประสบปัญหาเรื่องปากท้อง ในช่วงสถานการณ์โควิด-19

สิงคโปร์ ท้าโลกร้อน ขอเปลี่ยนเมืองร้อนให้เป็นเมือง Cool ด้วยนวัตกรรม | LOCK LENS GURU EP.7

LOCK LENS GURU / EP.7 วันอังคาร ที่ 4 พฤษภาคม

???? GURU : คุณอรุณรัตน์ เปรมสิริอำไพ คอลัมนิสต์อิสระ นักแปล นักเล่าข่าว

▶️ หัวข้อ : สิงคโปร์ ท้าโลกร้อน ขอเปลี่ยนเมืองร้อนให้เป็นเมือง Cool ด้วยนวัตกรรม

 อ่านคอลัมน์เพิ่มเติม : https://thestatestimes.com/post/2021041107

???? ดำเนินรายการโดย เจ THE STATES TIMES

.

.

สุโขทัย - Sukhothai Crafts and Folk Art “ลวดลายจากสังคโลกสู่ผืนผ้า”ที่ "บ้านปรีดาภิรมย์"

ไม่ใกล้ไม่ไกลจากอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ในเขตชุมชนเมืองเก่า จ.สุโขทัย มีบ้านไม้หลังหนึ่ง รอให้ทุกคนได้มาสร้างสรรค์ลวดลายสังคโลกลงบนผืนผ้าที่ “บ้านปรีดาภิรมย์” ที่นี่เราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับรูปแบบและความหมายของลวดลายสังคโลกซึ่งถือเป็นงานหัตถกรรมที่สำคัญของสุโขทัยมาช้านาน โดยปกติแล้วเรามักจะเห็นลวดลายสังคโลกอยู่บนเซรามิก

แต่เมื่อ คุณธารารัตน์ ปรีดาภิรมย์ หรือฝน และชาวบ้านชุมชนเมืองเก่าต้องการที่จะอนุรักษ์ สืบสานลวดลายบนเครื่องสังคโลกเอาไว้ไม่ ให้หายไปตามกาลเวลา จึงเกิดเป็นกิจกรรมเวิร์คช้อปดีๆ ให้นักท่องเที่ยว และบุคคลทั่วไปที่สนใจได้เข้ามามีส่วนร่วมในการหัดเขียนลวดลายสังคโลก

การลงมือวาดลวดลายต่าง ๆ ลงบนผืนผ้า เสื้อยืด กระเป๋าหรือโคมไฟ ไม่ว่าจะเป็น ลวดลายสัตว์ (ลายปลา ลายนกคุ้ม) ลวดลายพืชพรรณ (ลายดอกบัว ต้นไม้) และลวดลายเรขาคณิตแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์กับวิถีชีวิต สังคม ความเชื่อและรูปแบบศิลปะเฉพาะของสุโขทัย จะเป็นวิธีการหนึ่งที่จะทำให้เกิดความเข้าใจในคุณค่าของ “จิตวิญญาณของวัฒนธรรม” เมืองสุโขทัย และเข้าใจอัตลักษณ์ของความเป็นสุโขทัยมากขึ้น


ภาพ/ข่าว  เสนิศชนันต์ สุขกสิกร

ชลบุรี - กลุ่มคนใจดี นำแอปเปิลมาให้ลิงเขาสามมุขกิน หลังอดจากพิษโควิด-19

ลิงเขาสามมุข กำลังอดอยากจากพิษโควิด รอบ 3 หมดนักท่องเที่ยวไม่มีใครให้อาหาร ยังมีกลุ่มผู้ใจบุญนำแอปเปิ้ลมาแจกให้พอประทังความหิว

บรรยากาศถนน รอบเขาสามมุข ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี ที่มีลิงอาศัยอยู่เป็นจำนวนหลายพันตัว  ซึ่งเมื่อก่อนนี้ จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวเล่นน้ำหาดบางแสน แล้วจะเลยมาเที่ยวกราบไหว้เจ้าแม่สามมุขแล้วจะซื้อผลไม้มาให้ลิงเป็นการให้ทาน แต่ปัจจุบันพิษการแพร่เชื้อไวรัสโควิด รอบที่ 3 ทำให้มีการปิดหาดบางแสนและหลายจังหวัด มีการจำกัดการเดินทางไม่มีนักท่องเที่ยวมา ถึงมีก็น้อยมากจะมีก็เป็นประชาชนใกล้เคียง ทำให้ไม่มีใครมาให้อาหารลิง จากการสังเกตดูลิงมีอาการหงอยเหงา บางตัวหิวมากก็จะไปดื่มน้ำที่อยู่ในแอ่งข้างทางพอบรรเทาความหิว

นายสุเทพ จารุวรรณ ตัวแทนกลุ่มพนัสปันน้ำใจ ร่วมกับเจ้าหน้าที่กู้ชีพทางทะเลฉลามขาว ได้นำแอปเปิ้ลจากพ่อค้าแม่ค้าที่มีน้ำใจ และบางส่วนก็เป็นผลไม้ที่มีขนาดเล็กไม่เป็นที่ต้องการของลูกค้ามาบริจาคให้ลิงกิน เมื่อลิงได้รับผลไม้แอปเปิ้ล ต่างก็นั่งกินด้วยความเอร็ดอร่อย ทำให้ผู้ที่มาร่วมแจกนั้นปลื้มใจในผลแห่งการให้

นายสุเทพ จารุวรรณ ตัวแทนกลุ่มพนัสปันน้ำใจ กล่าวว่า ตนได้รับทราบจากเพื่อนในกลุ่มว่า ลิงที่อยู่รอบเขาสามมุขช่วงนี้ไม่มีอาหารกิน ตนก็กลัวว่าลิงจะขาดอาหารแล้วป่วยได้ จึงได้บอกกับพ่อค้าแม่ค้าแถวตลาด อ.พนัสนิคม ซึ่งทุกคนพอได้ทราบก็ร่วมใจนำผลไม้ผ่านตนมาแจกให้ลิงกิน ผลไม้ที่มีแอปเปิ้ลเป็นส่วนใหญ่ที่เอามาให้ลิงกินมีประมาณ 1 ตัน หรือ 1,000 กิโลกรัม


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

ชลบุรี – ปิดเกาะล้าน !! ล็อกดาวน์ 14 วัน ป้องกันโควิดรอบ 3

ชาวบ้านเกาะบ้านลงมติล็อกดาวน์ปิดเกาะ 14 วัน ระหว่างวันที่ 5-20 พ.ค.นี้ พร้อมยกระดับมาตรการควบคุมและป้องกันโรคตามแนวทางเมืองพัทยา และ คก.โรคติดต่อชลบุรี

เมื่อวันที่ 2 พ.ค.64 มีรายงานว่า ที่วัดใหม่สำราญ เกาะล้าน เมืองพัทยา จ.ชลบุรี คณะกรรมการชุมชนเกาะล้าน โดย นายบุญเชิด บุญยิ่ง ประธานชุมชนเกาะล้าน ได้จัดลงมติลงคะแนนเสียงมาตรการล็อกดาวน์ป้องกันโควิด-19 เพื่อเสนอปิดเกาะล้าน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนบนเกาะ และเป็นไปตามมาตรการควบคุมโรคระบาดของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี

ทั้งนี้ ได้ทำการเปิดรับลงคะแนนเสียงเพื่อแสดงมติของประชาชนบนเกาะล้าน ว่าต้องการให้เป็นไปในรูปใด โดยรูปแบบที่ 1.ปิดเกาะแบบห้ามทุกคนเข้า-ออก อย่างน้อย 15 วัน, รูปแบบที่ 2 ปิดเกาะแบบงดนักท่องเที่ยวอย่างน้อย 15 วัน และรูปแบบที่ 3 เปิดเกาะต่อไปภายใต้มาตรการของจังหวัดชลบุรี ทั้งนี้พบว่ามีประชาชนชาวเกาะล้านมาลงคะแนนเสียงแสดงมติดังกล่าวรวมทั้งสิ้น 845 คน

แบ่งเป็นบัตรดี 826 ใบ และบัตรเสีย 19 ใบ ผลการลงคะแนนปรากฏว่าชาวบ้านเลือกรูปแบบที่ 1 ปิดเกาะแบบห้ามทุกคนเข้า-ออกอย่างน้อย 15 วัน รวมทั้งสิ้น 306 เสียง, รูปแบบที่ 2 ปิดเกาะแบบงดนักท่องเที่ยวอย่างน้อย 15 วัน รวมทั้งสิ้น 420 เสียง, รูปแบบที่ 3 เปิดเกาะต่อไปภายใต้มาตรการของจังหวัดชลบุรีรวมทั้งสิ้น 96 เสียง และ 4.ไม่แสดงความคิดเห็นรวมทั้งสิ้น 4 เสียง

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการชุมชนเกาะล้าน จะได้นำมติผลการออกคะเสียงของประชานชาวบ้านเกาะล้าน ที่เลือกให้มีการดำเนินการในรูปแบบที่ 2 คือ ให้มีการปิดเกาะแบบงดนักท่องเที่ยว โดยกำหนดเริ่มล็อกดาวน์ปิดเกาะล้าน ตั้งแต่วันที่ 5-20 พ.ค.64 นี้ โดยประมาณ โดยทางคณะกรรมการชุมชนเกาะล้าน พร้อมที่จะรอฟังคำสั่งและนโยบายจากทางเมืองพัทยา และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี โดยตลอด


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

กาฬสินธุ์ – สภาพอากาศวิปริต น้ำเสียจากสารเคมีที่ไหลลงเขื่อน ทำปลาตาย ประชาชนหากินลำบาก

ชาวประมงรอบเขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่หาจับปลาเพื่อบริโภคในครัวเรือนและจำหน่ายในชุมชน กำลังประสบปัญหาจับปลาได้ยากมากขึ้น ระบุเป็นผลพวงมาจากสภาพอากาศวิปริต และน้ำเสียจากสารเคมีที่ไหลลงเขื่อน เป็นสาเหตุของปลาตาย จึงหาจับปลาได้น้อยลง ไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า ที่สั่งจองไปประกอบอาหารรับประทานในครัวเรือนช่วงสถานการณ์โควิด-19

เมื่อวันที่  3 พฤษภาคม 2564 จากการติดตามบรรยากาศการประกอบอาชีพของประชาชนชาว จ.กาฬสินธุ์ ในช่วงรอยต่อฤดูแล้งกับฤดูฝน โดยเฉพาะชุมชนรอบเขื่อนลำปาว ซึ่งมีการใช้อุปกรณ์ลงเรือ เพื่อหาจับสัตว์น้ำ เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา ทั้งนี้ หากมองในภาพรวม เหมือนไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 มากนัก เนื่องจากอยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่โล่งแจ้ง ปลอดโปร่ง ไม่แออัด โดยเฉพาะถือว่าอยู่ในทำเลที่ได้เปรียบกว่าชุมชนเมือง หรือชุมชนที่อยู่นอกเขตชลทาน เพราะมีแหล่งน้ำให้หาจับสัตว์น้ำ เพื่อบริโภคในครัวเรือน และจำหน่ายเป็นรายได้เสริมในครัวเรือนอีกทางหนึ่ง

นายถวัลย์ ชารี อายุ 55 ปี บ้านเลขที่ 30 บ้านหนองม่วง หมู่ 7 ต.ลำคลอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนกับเพื่อนบ้านที่มีความชำนาญในการหาปลา บริเวณรอบเขื่อนลำปาว บางคนใช้แห ลอบ เบ็ด และตาข่ายดักปลา เคยจับปลาได้วันละหลายสิบ ก.ก. มีรายได้จากการขายปลาวันละ 500-1,000บาท ซึ่งปลาที่จับได้ เช่น ปลาสร้อย ปลากราย ปลาสวาย ปลานิล โดยจะนำไปประกอบอาหารทานในครัวเรือนและเพื่อการจำหน่าย ทั้งในรูปแบบปลาสด หรือแปรรูปเป็นปลาส้ม ปลาแดดเดียว ปลาร้า ซึ่งหากรวมยอดในแต่ละสัปดาห์ จะได้คนละ 500-800 ก.ก.หรือถึง 1 ตันเลยทีเดียว อาชีพจับปลาจึงเป็นอาชีพหลักของชาวประมงหลายราย ขณะที่ตนมาหาปลาเป็นอาชีพเสริมจากการเลี้ยงกุ้งก้ามกรามและทำนา

นายถวัลย์ กล่าวอีกว่า  ในระยะหลังมานี้การหาจับปลาบริเวณรอบเขื่อนลำปาวจะหายากมากขึ้น ทั้งนี้ปัญหามาจากน้ำเสียที่เกิดจากเกษตรกรพื้นที่เหนือเขื่อนลำปาวปลูกมัน ปลูกอ้อย เมื่อมีฝนตกลงมาได้ชะล้างสารเคมีที่ตกค้างในแปลงเกษตรลงสู่เขื่อนลำปาว ส่งผลกระทบต่อน้ำและทำให้ปลาตาย นอกจากนี้ในฤดูแล้ง และเริ่มต้นฤดูฝนที่สภาพอากาศวิปริต บางวันร้อน บางวันฝนตก ประกอบกับน้ำในเขื่อนเหลือน้อย จึงทำให้ปลาบางชนิดปรับตัวไม่ทัน จึงเกิดการน็อคตาย ส่วนที่เหลือก็อพยพลงไปอาศัยอยู่ในบริเวณร่องน้ำลึก ซึ่งเป็นเขตอันตราย รวมทั้งห้ามล่าและห้ามเข้าไปจับปลา จึงทำให้ช่วงนี้หาจับปลาได้น้อยลง

นายถวัลย์กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อช่วงนี้หาจับปลาได้น้อยลง หรือได้วันละ 10-20 ก.ก.เท่านั้น บางวันได้เพียงบริโภคในครัวเรือน ไม่เพียงพอที่จะนำไปขายให้ลูกค้า โดยเฉพาะพ่อค้าคนกลางที่สั่งซื้อจอง เพื่อนำไปขายต่อตามตลาดชุมชนและเพื่อแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม  จึงเป็นการเสียโอกาสอย่างน่าเสียดาย ในการสร้างรายได้จากการจำหน่ายปลา ให้กับลูกค้าและประชาชนในชุมชน ที่หลายคนกักกันตัวเองอยู่บ้าน ต้องการปลาไปประกอบอาหาร และกำลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top