Tuesday, 17 June 2025
TheStatesTimes

รมว.สุชาติ รับมอบผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์นำไปทำความสะอาดฆ่าเชื้อป้องกันโควิด-19

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน รับมอบผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์สำหรับฆ่าเชื้อ จากบริษัท พรวิไล อินเตอร์เนชั่นแนล กรุพ เทรดดิ้ง จำกัด และบริษัท วิจิตรสมพรพาณิชย์ อินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัด เพื่อนำไปส่งมอบให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานนำไปใช้ทำความสะอาดฆ่าเชื้อในการป้องกันโควิด-19

เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ.2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน รับมอบแอลกอฮอล์สำหรับฆ่าเชื้อสำหรับหน่วยงานจาก นายอภิชาติ พัชรภิญโญพงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท พรวิไล อินเตอร์เนชั่นแนล กรุพ เทรดดิ้ง จำกัด เป็นโรงงานผลิตเอทิล แอลกอฮอล์ชนิด 95 % มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 กว่า 29 ปี เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา ได้เห็นถึงการขาดแคลนผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือของคนไทยในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ และบริษัท วิจิตรสมพรพาณิชย์ อินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัด โดยมี นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการจัดหางาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย ณ ห้องจัตุมงคล ชั้น 6 อาคารกระทรวงแรงงาน 

นายสุชาติ กล่าวว่า ในวันนี้ผมได้รับมอบผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาดฆ่าเชื้อสำหรับหน่วยงานจากกรรมการผู้จัดการบริษัท พรวิไล อินเตอร์เนชั่นแนล กรุพ เทรดดิ้ง จำกัด และบริษัท วิจิตรสมพรพาณิชย์ อินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัด โดยสำนักงานจัดหางานจังหวัดนครปฐมเป็นผู้ประสานงานนำมามอบให้กับกระทรวงแรงงานเพื่อนำไปส่งมอบให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานนำไปใช้ทำความสะอาดฆ่าเชื้อในการป้องกันโควิด-19 ซึ่งประกอบด้วย 1) แอลกอฮอล์ชนิดน้ำ 78 % ขนาด 5 ลิตร จำนวน 200 แกลลอน (ปริมาณ 1000 ลิตร) 2) แอลกอฮอล์ชนิดน้ำ 78 % ขนาด 50 ml จำนวน 300 ขวด (ปริมาณ 15 ลิตร) และ 3) แอลกอฮอล์ชนิดน้ำ 78 % ขนาด 20 ml จำนวน 200 ตลับ (ปริมาณ 4 ลิตร)

สศช.ชี้โควิด ทำกระทบคน 1.13 ล้านครัวเรือนเสี่ยงตกเป็นคนจน

นางสาวจินางค์กูร โรจนนันต์ รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า สศช. ประเมินว่าการระบาดของไวรัสโควิด-19 จะกระทบต่อครัวเรือนที่มีความเสี่ยงต่อการตกเป็นคนจน 1.13 ล้านครัวเรือน มากถึง ทั้งกลุ่มครัวเรือนที่พึ่งพิงรายได้จากเงินช่วยเหลือจากบุคคลอื่นภายนอกครัวเรือน ประมาณ 6.37 แสนครัวเรือน, กลุ่มครัวเรือนที่มีรายได้จากการทำงานลดลงมาก 4.5 แสนครัวเรือน เช่น ทำงานในภาคการท่องเที่ยว และครัวเรือนที่ประกอบอาชีพอิสระ และกลุ่มครัวเรือนเกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกิน หรือมีที่ดินทำกินน้อย ประมาณ 4.9 หมื่นครัวเรือน 

ส่วนตัวเลขความยากจนจากผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และการจ้างงาน ทำให้คนยากจนมีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยเมื่อใช้เส้นความยากจนในปี 62 ที่ 2,763 บาทต่อคนต่อเดือน ประเมินจำนวนคนจนในไตรมาส 1 - 3 ของปี 2563 พบว่า ไตรมาส 1 ปี 63 คนยากจนจะมีจำนวนทั้งสิ้น 7.8 ล้านคนคิดเป็นสัดส่วนคนจนที่ 12.7% เพิ่มขึ้นจากปี 62 ที่มีจำนวนคนจนเพียง 4.3 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วน 6.4%  

ขณะที่ในไตรมาส 2 ปี 63 ซึ่งเป็นช่วงที่โควิดกระทบต่อไทยสูงสุด ส่งผลให้จำนวนคนยากจนเพิ่มขึ้นเป็น 9.1 ล้านคน หรือ 14.9% อย่างไรก็ตามภายหลังการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด ที่ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้น จำนวนคนยากจนในไตรมาส 3 จึงปรับตัวลดลงมาที่ 7.2 ล้นคน หรือคิดเป็นสัดส่วนคนจนที่ 11.7% จากแนวโน้มนี้สะท้อนให้เห็นว่าสถานการณ์ความยากจนในปี 63 จะปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่จะไม่สูงมากนัก

รมว.สุชาติ เผย ตรวจโควิด – 19 เชิงรุกทุกอย่างราบรื่น ยืนยันหากผู้ประกันตนรายใด ที่ตรวจพบเชื้อ จะส่งเข้ารับการรักษาที่ HQ และอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์เป็นอย่างดี

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผย ภาพรวมการตรวจโควิด-19 เชิงรุก เพื่อผู้ประกันตน ตามโครงการแรงงาน...เราสู้ด้วยกัน ที่สนามไทย – ญี่ปุ่น ดินแดง วันที่ 3 ทุกอย่างราบรื่นเป็นไปตามขั้นตอนที่ สธ.กำหนด  หากพบว่ามีผู้ประกันตนรายใดที่ตรวจพบเชื้อจะถูกส่งตัวไปเข้ารับการรักษาที่โรงแรมที่เป็น HQ (Hospital Quarantine) ตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นสถานที่รองรับการรักษาตามอาการและอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์เป็นอย่างดี เล็งขยายจุดตรวจไปยังจังหวัดพื้นที่สีแดง

เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ.2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจโควิด-19 เชิงรุก เพื่อผู้ประกันตน ตามโครงการแรงงาน...เราสู้ด้วยกัน ว่า วันนี้เป็นวันที่ 3 ของการเปิดบริการตรวจโควิด-19 เชิงรุกแก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมตามมาตรา 33 ,39 และ 40 ที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อลดความแออัดและอำนวยความสะดวก โดยใช้อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย – ญี่ปุ่น) เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร เป็นสถานที่ตรวจ ซึ่งในเรื่องนี้ท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีความห่วงใยผู้ประกันตนที่เดินทางกลับต่างจังหวัดและไปในสถานที่เสี่ยงช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานจึงได้ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จัดการตรวจโควิด-19 เชิงรุก เพื่อผู้ประกันตน ตามโครงการแรงงาน...เราสู้ด้วยกัน ในวันนี้เป็นวันที่ 3 ของการตรวจ ซึ่งผมได้ติดตามสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่องและกำชับให้สำนักงานประกันสังคมตรวจสอบขั้นตอนต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกันตน 

นายสุชาติ ยังกล่าวถึงรายงานของสำนักงานประกันสังคมพบว่า ภาพรวมของโครงการเป็นที่น่าพอใจ ราบรื่นดี ขั้นตอนต่างๆ ยังคงเป็นไปตามแนวทางและมาตรการที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขกำหนด หากพบผู้ประกันรายใดตรวจพบเชื้อจะถูกส่งตัวไปเข้ารับการรักษาที่โรงแรมที่เป็น HQ (Hospital Quarantine) ตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุข ผู้ประกันตนคลายความกังวลใจได้ซึ่งเป็นสถานที่รองรับการรักษาตามอาการและอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์เป็นอย่างดี สำหรับโครงการดังกล่าวกระทรวงแรงงานยังมีแผนที่จะดำเนินการขยายจุดตรวจไปยังจังหวัดพื้นที่สีแดง อาทิ ปทุมธานี นนทบุรี ชลบุรี เชียงใหม่ สมุทรปราการ เป็นต้น         


“ทั้งนี้ ผู้ประกันตนที่ไปในสถานที่เสี่ยง และเข้าข่ายเป็นกลุ่มเสี่ยงตามที่กระทรวงสาธารณสุข และ สปสช.กำหนด สามารถลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์https://sso.icntracking.com/icntracking/self_register.php เพื่อจองคิวตรวจโควิด-19 ซึ่งหากพบเชื้อสามารถเข้ารับการรักษาตามขั้นตอนที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดได้อย่างทันท่วงที” รมว.สุชาติ กล่าวในตอนท้าย

เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ภูหินกอง จ.หนองบัวลำภู สร้างกิโยตินตัดคอตัวเองเสียชีวิต เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เพราะเชื่อว่าวิธีนี้จะทำให้ได้เป็นพระปักเจกพระพุทธเจ้าในโลกหน้า

ทางผู้สื่อข่าวได้ทำการเดินทางเข้าพบ 'พระราชธรรมนิเทศ' หรือ 'พระพยอม กัลยาโน' เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เพื่อทำความเข้าใจถึงกรณีดังกล่าว...

โดยพระพยอม ได้เปิดเผยว่า ไม่มีคำว่าตัดหัวถวายเป็นบารมี ถ้าตัดกิเลสตัดทุกข์ ตัดความเห็นผิด ก็ไม่ใช่ทางที่พระพุทธเจ้าตรัส เเละเรื่องการค่าตัวตายไม่ใช่มีในยุคนี้ ยุคก่อน ๆ ก็มี

พุทธเจ้าสอนให้ละสังขาร ละความยึดมั่นในสังขาร แต่ 'ตัดคอ' ตัดกิเลสตัดทุกข์ คือ คนละเรื่องกัน อย่าเอามาปนกัน ถ้าปนกันแล้วก็เป็นอีกลัทธินึง

ถ้าถามว่า การทำเเบบนี้เป็นพุทธบูชาไหม บูชามี 2 อย่าง 'อมิสบูชา' กับ 'ปฏิบัติบูชา' ถ้าเอาหัวไปบูชาน่าจะเข้าข้อ อมิสบูชา แต่ถ้าปฏิบัติบูชาอย่างหลวงปู่มั่นเอาชีวิตเข้าแรก ปฏิบัติให้ตายแล้วได้เป็นพระอรหันต์ อย่างนี้เรียกว่าเป็นการปฏิบัติบูชา

อย่างนี้เป็นการดูถูกพระพุทธเจ้าหรือไม่ที่นำหัวคนมาถวาย เพราะพระพุทธเจ้าไม่มีทางรับหัวคน ถ้ามีใครตัดคอลูกตัดคอเมียมาถวายพระพยอม ก็รับไม่ได้ เเละไม่รับเด็ดขาด เพราะเป็นหัวคน ชีวิตคนทั้งคน

พระพุทธเจ้าไม่ใช่ไสยเวทไสยศาสตร์ ที่จะนำหัวคนมาปลุกเสก พระพุทธเจ้ารับปัจจัย 4 อาหาร, เครื่องนุ่งห่ม, เสื้อผ้า, กุฏิที่อยู่อาศัย, ยารักษาโรค ไม่เห็นมีว่าเอาหัวคนเป็นปัจจัยที่ 5-6

อยากจะฝากสาวกคนที่เลื่อมใสศรัทธา-ความเชื่อ การเชื่อครูบาอาจารย์ เราจะเชื่อได้ แต่ไม่ใช่การเชื่อทางสอนที่จูงไปในทางผิด ถ้าจะบำเพ็ญบารมี ควรทำบารมี 10 ทรรศ แต่ตัดหัวนี่ไม่ใช่แน่นอน


ที่มา: https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000036770

ผช.โฆษกศบค.เผย ติดเชื้อเพิ่ม 1,390 ราย ตายเพิ่ม 3 ราย แจง เร่งบริหารจัดการเตียงรองรับ ยัน จะไม่มีคนตายจากการรอเตียง

วันที่ 19 เมษายน พ.ศ.2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค.แถลงสถานการณ์ประจำวัน ว่า วันนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1,390 ราย รวมติดเชื้อสะสม 43,742 ราย หายป่วยแล้ว 28,787 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 104  ซึ่งผู้ติดเชื้อรอบเดือนเม.ย.มีผู้ป่วยสะสม 14,879 ราย เสียชีวิตสะสม 10 ราย 

ผู้เสียชีวิตรายที่ 102 เป็นชายอายุ 56 ปี อาชีพพนักงานเสิร์ฟในสถานบันเทิง ในกทม.มีประวัติกลับบ้านที่จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 7 เม.ย. มีอาการไอ จนวันที่ 17 เม.ย. ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยเพลียมากขึ้น ไปพบแพทย์ที่คลินิก และในช่วงค่ำมีหายใจติดขัด จากนั้นส่งต่อไปโรงพยาบาล อาการหัวใจหยุดเต้น เสียชีวิต ดังนั้นผู้มีอาการควรเข้ารับการรักษา ไม่ควรอยู่ที่บ้านเพราะอาจมีอาการแย่ลงอย่างรวดเร็ว

รายที่ 103 เป็นหญิง อายุ 84 ปีโรคประจำตัวเบาหวาน ความดัน หลอดเลือดหัวใจตีบ ไตวายเรื้อรัง ประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้จากหลานชายที่ทำงานสถานบันเทิงในกทม.ที่กลับมาเยี่ยมในวันที่ 3 เม.ย.จากนั้นวันที่ 8 เม.ย.มีอาการไข้เหนื่อยหอบ ใส่ท่อช่วยหายใจเพื่อช่วยเหลือ และมีอาการแย่ลงอย่างรวดเร็วจนเสียชีวิตในวันที่ 16 เม.ย.

รายที่ 104 เป็นหญิงอายุ 61 ปีอาชีพค้าขายในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ วันที่ 6 เม.ย. มีประวัติรับประทานอาหารกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ที่มาเที่ยวสถานบันเทิงในจังหวัดหัวหิน เมื่อทราบว่าเพื่อนติดเชื้อ ได้ไปตรวจในวันที่ 10 เม.ย.และเข้ารักษาในโรงพยาบาล ในวันที่11 เม.ย.แต่อาการทรุดลงรวดเร็วและเสียชีวิตในวันที่ 18 เม.ย.จากติดเชื้อในกระแสเลือดและกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ 

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า แม้กราฟติดเชื้อหลายวันที่ผ่านมาสูง แต่ในวันนี้ลดลงหลังจากที่มีการประกาศข้อกำหนด จำกัดกิจการกิจกรรมและการเดินทางต้องร่วมมืออย่างต่อเนื่อง แต่ยังนิ่งนอนใจไม่ได้เพราะต้องดูในช่วงเวลา 14 วันหลังจากนี้ต่อ ส่วนเจ้าหน้าที่ยังเร่งคัดกรองค้นหาในชุมชนอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่ากทม.ที่แพร่ระบาดมาจากสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ตัวเลขติดเชื้อลดลงหลังปิดสถานบันเทิง แต่ยังตรวจพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่อง และมาจากตลาดชุมชน ขนส่ง และมีปัจจัยสัมผัสผู้เสี่ยงสูง การรวมกลุ่มสังสรรค์ ประชุมสัมมนา และจากโรงเรียนการสอบ ที่ต้องติดตามใกล้ชิด โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงสุด 6จังหวัด ที่กทม.เชียงใหม่ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ นนทบุรี และจ.สมุทรปราการ และยังมีกรณีศึกษาเคสผู้ติดเชื้อที่จ.สระแก้ว ซึ่งทำงานอยู่ที่สถานบันเทิงทองหล่อ มีกิจกรรม และเดินทางไปพบบุคคลและส่วนราชการ ไปร้านอาหารจนแพร่กระจายเชื้อไปกว่า 20 ราย 

ดังนั้นถ้าพบว่าติดเชื้อให้รีบไปพบแพทย์และปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังในระหว่างรอการรักษา รวมทั้งให้จดบันทึกหมายเลขโทรศัพท์ที่จะติดต่อกับหน่วยงานทางการแพทย์ เพื่อเข้ารักการรักษา ทั้งนี้เราได้บริหารจัดการบุคลากรและเตียง ให้เพียงพอสำหรับรองรับผู้ป่วยให้เกิดความเหมาะสม ในรายที่อาการไม่มากก็มีรพ.สนามรองรับ จึงขอให้เสียสละสำหรับผู้ที่มีอาการหนัก และยืนยันว่าจะไม่มีผู้เสียชีวิตจากการรอเตียงของโรงพยาบาลอย่างแน่นอน 

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะแก้ปัญหาที่โรงพยาบาลงดรับผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยฉุกเฉิน ผู้ป่วยตามนัดอย่างไร พญ.อภิพิศมัย กล่าวว่า การระบาดครั้งนี้ มีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อไปแล้วนับตั้งแต่วันที่1 - 18 เม.ย. 146 รายส่วนใหญ่เป็นแพทย์และพยาบาล ทำให้ไม่ให้สามารถปฎิบัติหน้าที่ได้สิ่งที่สำคัญ 58% หรือ 33 คน ติดเชื้อจากการสัมผัสผู้ป่วย ที่อาจไม่เปิดเผยไทม์ไลน์ ดังนั้นหากประชาชน ไม่ช่วยกัน บุคลากรที่จะปฎิบัติหน้าที่ด่านหน้า ที่เตรียมไว้ก็อาจจะไม่ไหว

'ฟิล์ม-รัฐภูมิ' เรียกร้องให้รัฐบาลเยียวยาช่วยเหลือผู้ประกอบการสถานบันเทิงที่ถูกสั่งปิดตามมาตรการควบคุมโควิด เพราะถึงแม้จะไม่มีคำสั่งล็อกดาวน์ แต่การสั่งปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจก็ไม่ต่างจากการล็อกดาวน์

นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ สมาชิกพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงสถานการณ์โควิดที่แพร่ระบาดในวงกว้างอยู่ในขณะนี้ว่า ผู้ที่ต้องตกเป็นจำเลยของสังคมส่วนหนึ่งก็คือกลุ่มคนในวงการบันเทิง รวมถึงผับ บาร์ คาราโอเกะ นักดนตรีอิสระ เพราะถูกมองว่าทำงานอยู่ในสถานที่ที่เป็นต้นเหตุของการแพร่ระบาด แต่ต้องไม่ลืมว่าพวกเขาเหล่านี้เป็นเพียงคนทำมาหากินเลี้ยงชีพตนเองเหมือนกับคนกลุ่มอื่น ๆ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมายซึ่งเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่จะต้องเข้มงวดควบคุมให้สถานบริการต่าง ๆ เป็นไปตามกฎระเบียบเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด

"ส่วนมากคนในธุรกิจบันเทิงจะไม่ได้อยู่ในระบบสวัสดิการของรัฐไม่ว่าจะเป็นประกันสังคมหรือสิทธิ์อื่น ๆ ทั้งที่คนเหล่านี้เป็นผู้ที่อยู่ในระบบเศรษฐกิจของประเทศและเสียภาษีตามกฎหมาย มาตรการเยียวยาที่ออกมาถึงบ้างไม่ถึงบ้าง ต้องแย่งกันลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ บางครั้งคนไม่มีทางเลือกในชีวิตมากนัก เพื่อที่จะเข้าถึงสวัสดิการของรัฐหรือการศึกษาที่ดีพอ แต่ด้วยระบบเศรษฐกิจการเมืองแบบปัจจุบันทำให้คนไทยยังติดอยู่ในวังวน โง่ จน เจ็บ อยู่เหมือนเดิม จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องต่อสู้ดิ้นรนทำมาหากินในทุกวิถีทาง"

ในฐานะคนในวงการบันเทิงอยากส่งเสียงดัง ๆ ไปยังผู้มีอำนาจขอให้มีมาตรการเยียวยาแบบทั่วหน้าและมีมาตรการสำหรับสถานประกอบการที่ต้องทำตามมาตรการของรัฐในการปิดสถานประกอบการ เพราะถึงแม้ครั้งนี้จะไม่มีการล็อกดาวน์ แต่การสั่งปิดสถานประกอบการผับบาร์คาราโอเกะทั่วทั้งประเทศ ก็ไม่ต่างอะไรจากการสั่งปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจตามมาตรการล็อกดาวน์ก่อนหน้านี้ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับทั้งเจ้าของกิจการ ลูกจ้าง นักดนตรี เด็กเสริฟ ไปจนถึงพ่อครัวแม่ครัว หลายแห่งทนพิษบาดแผลจากโควิดและมาตรการของรัฐไม่ไหว ต้องปิดกิจการ สร้างผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปถึงครอบครัวของแต่ละคน

"ดังนั้น รัฐบาลควรมีมาตรการเยียวยาคนเหล่านี้ด้วย ไม่ใช่สั่งให้ปิดร้านไปอย่างน้อยถึงสิ้นเดือน แต่กลับไม่มีการช่วยเหลือใดใดเลย เวลาจ่ายหรือถูกปรับ อาชีพของพวกเราก็ไม่เคยถูกละเว้น แต่ทำไมตอนที่พวกเราต้องการความช่วยเหลือเยียวยาเหมือนกับคนอาชีพอื่นๆกลับต้องละเว้น ผมไม่เข้าใจ รอบนี้คงมีหลายคนอดตายก่อนเป็นโควิดแน่ สถานการณ์โควิดวันนี้ สิ่งที่รัฐควรทำคือแสดงภาวะผู้นำและการบริหารแบบชาญฉลาดเพื่อให้ทุกคนอยู่รอด ไม่ใช่ให้รัฐบาลกับพรรคพวกอยู่รอดอย่างเดียว" นายรัฐภูมิ กล่าว


ที่มา: https://www.naewna.com/politic/566841

อีกความภาคภูมิใจของประเทศไทย หลังเพจ JU - JITSU THAI ได้โพสต์ข้อความแสดงความยินดีกับ 'เพชรดา เคซี ตัน' สาวสัญชาติไทยที่คว้าเหรียญทองในการแข่งขัน Abu Dhabi World Professional Jiu-Jitsu 2021

กลายเป็นอีกความภาคภูมิใจของประเทศไทย หลังเพจ JU - JITSU THAI ได้โพสต์ข้อความแสดงความยินดีกับ 'เพชรดา เคซี ตัน' สาวสัญชาติไทยที่คว้าเหรียญทองในการแข่งขัน Abu Dhabi World Professional Jiu-Jitsu 2021 ระดับสายม่วงรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 49 กิโลกรัม ในวันที่ 8 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา และยังคว้าเหรียญทองในรายการ Abu dhabi Grandslam 2021 ระดับสายม่วงรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 49 กิโลกรัม

โดยทั้งสองรายการทำการแข่งขัน ณ เมืองอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นรายการยิวยิตสูระดับโลก

'เพชรดา เคซี ตัน' ชื่อเดิม 'เพชรดา กกฝ้าย' เกิดที่เมืองไทย จบการศึกษา ระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยรังสิต คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์

สำหรับเส้นทางชีวิตของเธอก่อนจะคว้าแชมป์ยิวยิตสูระดับโลกได้นั้น ดูน่าสนใจอย่างมาก เพราะก่อนหน้านี้เธอทำงานเป็นสถาปนิกในบริษัทชั้นนำในประเทศไทย (Origin Properly)

แต่เธอได้ตัดสินใจลาออกจากงาน เพื่อไล่ตามความฝันนี้ โดยในปี 2019 เธอเดินทางไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา และบราซิล เพื่อฝึกฝนอย่างหนัก หวังว่าสักวันหนึ่งจะสามารถคว้าเหรียญทองให้กับประเทศไทยกับกีฬาประเภทนี้

และวันนี้เธอทำได้แล้ว!!

ติดตามผลงานของเธอได้ใน

Instagram : kacieingi


ที่มา: https://www.facebook.com/262984937235819/posts/1694994830701482/

วันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมามีเอกสารภายในแจ้งไปยังเขตศุลกากรเมียวดีว่า ระงับการนำเข้าสินค้าไทย 5 กลุ่ม

วันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมามีเอกสารภายในแจ้งไปยังเขตศุลกากรเมียวดีว่า ระงับการนำเข้าสินค้าไทย 5 กลุ่มได้แก่ น้ำอัดลม ชาและกาแฟปรุงสำเร็จ กาแฟสำเร็จรูป นมจืดและนมข้น ผ่านชายแดนแม่สอด-เมียวดีชั่วคราว

โดยให้นำเข้าผ่านทางทะเลแทน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป


ที่มา: AYA IRRAWADEE

เพจ KKU GROUP มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดย รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ออกมาชี้แจงผ่านเพจดังกล่าว จากกรณีการเลิกจ้าง นายเดวิด สเตร็คฟัสส์ นักวิชาการชาวอเมริกัน โดยระบุว่า...

สืบเนื่องจากจากกรณีไทยสั่งระงับวีซ่า 'เดวิด สเตร็คฟัสส์' นักวิชาการชาวอเมริกัน อดีต ผอ.โครงการ CIEE ขอนแก่น ผู้ดูแล 'The Isaan Record' ที่ฝังตัวทำงานในไทยกว่า 35 ปี และเป็นหนึ่งในกลุ่มนักวิชาการต่างชาติที่เคลื่อนไหวต่อต้าน ม.112 และ วิพากษ์วิจารณ์สถาบันฯของไทย มาโดยตลอดนั้น

ล่าสุด เพจ KKU GROUP มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดย รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. ได้ออกมาชี้แจงผ่านเพจดังกล่าว จากกรณีการเลิกจ้าง นายเดวิด สเตร็คฟัสส์ (Mr.David Streckfuss) นักวิชาการชาวอเมริกัน โดยระบุว่า...

ผมขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อจากเมื่อวาน หลังจากได้ข้อมูลจากคณบดีและฝ่ายการต่างประเทศของ มข. ดังนี้ครับ

1.) โครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษา CIEE เป็นหน่วยงานภายนอก มข. มีความร่วมมือกับ มข.ในเรื่องการแลกเปลี่ยนนักศึกษาต่างประเทศ โดยไม่เคยมีสัญญาจ้าง

2.) มีการยกเลิกโครงการ CIEE เมื่อปีที่แล้ว (มข. ไม่ได้เป็นผู้ยกเลิก)

3.) หลังจากโครงการ CIEE ถูกยกเลิก คณะสาธารณสุขศาสตร์ มข.ได้มีสัญญาจ้าง 1 ปี โดยไม่ได้จ่ายค่าตอบแทนเพื่อให้ดำเนินการสร้างเครือข่ายการแลกเปลี่ยนนักศึกษาต่างประเทศกับหลาย ๆ ประเทศตามที่เจ้าตัวเสนอ เริ่มสัญญาจ้างเมื่อเดือน ส.ค.2563

4.) เดือน ก.พ.2564 ทางคณะฯ เห็นว่าไม่มีความก้าวหน้าในงานที่ได้ตกลงกันไว้ จึงแจ้งเจ้าตัวขอยกเลิกสัญญา

และ 5.) ไม่เคยมีตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐใดใด มาพบหรือมากดดันอธิการบดีและคณบดี จึงเรียนข้อมูลให้ทุกท่านรับทราบ


ที่มา: https://www.thaipost.net/main/detail/99761

https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=801780967427399&id=336295587309275

เจ้าอาวาสวัดอัมพวัน (จ.สุราษฎร์ธานี) เปิดใช้ศาลาวัด ตั้ง 'รพ.สนาม'

จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบัน ส่งผลให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นทุกวัน ซึ่งหลาย ๆ โรงพยาบาลตอนนี้ กำลังประสบกับปัญหาเตียงเต็ม

นั่นจึงทำให้เกิดการดัดแปลงสถานที่ต่าง ๆ เพื่อจัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนามมากขึ้น

ล่าสุด ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้เผยภาพ โรงพยาบาลสนาม ซึ่งใช้พื้นที่ศาลาวัดมาตั้งเตียงผู้ป่วย โดยสถานที่ดังกล่าว อยู่บนเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี โดยระบุข้อความไว้ว่า...

"ขอขอบพระคุณ ท่านเจ้าอาวาสวัด อัมพวัน ที่เอื้อเฟื้อ สถานที่ ให้จัด โรงพยาบาลสนาม"

ทั้งนี้หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้มีชาวเน็ตจำนวนมากต่างพากันเข้ามาแสดงความคิดเห็น โดยส่วนใหญ่บอกว่า สาธุ, บุญรักษา พระคุ้มครอง


ที่มา: https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1/145798

ภาพ : มีรูนะ ซัง : https://www.facebook.com/sangclinic


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top