Wednesday, 18 June 2025
TheStatesTimes

อาราเล่ และมหากาพย์ดราก้อนบอล | The States Times Story เรื่องจริง ฟังเพลิน โดย เจต ณ นคร : EP.16

‘อากิระ โทริยาม่า’ นักวาดการ์ตูนชาวญี่ปุ่น เจ้าของผลงานดังจากเรื่อง ‘ดร.สลัมป์ กับหนูน้อยอารา’ และได้เป็นที่รู้จักกันดีจากเรื่อง ‘ดราก้อนบอล’ หลายคนอาจจะไม่รู้จักการ์ตูน ดร.สลัมป์กับหนูน้อยอาราเล่ โดยตรง แต่รู้จักผ่านดราก้อนบอล ซึ่งเพราะเป็นคนเขียนคนเดียวกัน ผลงานนี้ตีพิมพ์ในนิตยสารการ์ตูนโชเน็นจัมป์ช่วงปี 1980-1984 ถูกสร้างเป็นการ์ตูนทีวี 2 ครั้ง และยังเข้าไปมีบทบาทในการ์ตูนเรื่องดราก้อนบอลตั้งแต่ภาคแรกยันภาคล่าสุด คือ ภาคซูเปอร์ ซึ่งได้รับความนิยมมาจนถึงเมืองไทยในปัจจุบัน และสร้างปรากฏการณ์ทั่วโลก

.

.

'กบร่อน' ควง 2 สาวรุ่นน้อง ‘ฟาง Maxim’ และ ‘มาริส’ พากินหมูกระทะ บรรยากาศสุดชิล | กบร่อน EP.15

‘กบร่อน’ ควงสองสาวรุ่นน้อง ‘ฟาง Maxim ’ และ ‘มาริส’ มากินหมูกระทะย่านลาดพร้าว เป็นครั้งแรกที่สาว ๆ บอกว่า ไม่เคยออกกล้องโชว์การกินหมูกระทะที่ไหนมาก่อน !! มาดูกันว่าสองสาวจะถูกใจความอร่อย และบรรยากาศร้านหมูกระทะกันสักแค่ไหน ตามไปดูกันเลยย

"กบร่อน" รายการที่ "กบ" จะพาคุณไป ร่อน ตามที่ต่าง ๆ พร้อม Guest สนุก ๆ ให้เราได้รู้จักกันมากขึ้น ในสไตล์กบร่อน

ติดตามพิธีกรและแขกรับเชิญ

กบ IG : @kobjr007

ฟาง IG : @fangkaw_Maxim

มาริส IG : @supannatda13

.

.

พังงา - “กองทัพเรือ พร้อมนักสำรวจ วิจัยจากสถาบันต่าง ๆ ร่วมสำรวจทรัพยากรในพื้นที่เกาะยาวน้อย - เกาะยาวใหญ่ จ.พังงา”

เมื่อระหว่างวันที่ 3 – 11 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) ซึ่งประกอบด้วย กองทัพเรือ นักสำรวจวิจัยจากสถาบันต่าง ๆ และหน่วยงานในพื้นที่ ร่วมทำการสำรวจวิจัยทรัพยากรในพื้นที่เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่  อ.เกาะยาว จ.พังงา

การสำรวจทรัพยากรในพื้นที่เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่ ของ อพ.สธ.และกองทัพเรือ ในครั้งนี้นั้น เป็นการสำรวจใหญ่ประจำปี โดยมีคณะนักสำรวจวิจัยจากสถาบันต่าง ๆ ทั่วประเทศ ร่วมด้วยหน่วยงานจากกองทัพเรือ ได้แก่ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ กรมอุทกศาสตร์ทหารเรือ และกรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ ทำการสำรวจวิจัยความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติพื้นที่เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่ ทั้งบนบกและในทะเล พร้อมเก็บตัวอย่างพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ต่าง ๆ เพื่อนำมาศึกษาวิจัยของแต่ละพื้นที่ และนำมาใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ในพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย ตลอดจนพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์  และที่เกาะแสมสาร เพื่อให้เยาวชน นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนผู้ที่สนใจ ได้ศึกษาหาความรู้ถึงความอุดมสมบูร์ของพันธุ์พืช สัตว์ต่าง ๆ ที่มีอยู่ในประเทศไทย

โครงการ อพ.สธ. เป็นโครงการที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงสืบสานพระราชปณิธานในการอนุรักษ์ทรัพยากร ของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งทรงมีสายพระเนตรยาวไกล ทรงให้ความสำคัญและเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช โดยเริ่มโครงการตั้งแต่ปี 2535 จนถึงปัจจุบัน โดยมีแนวทางการดำเนินงานได้แก่ การปกปักพันธุกรรมพืช การสำรวจเก็บข้อมูลพันธุกรรมพืช การปลูกรักษาพันธุกรรมพืช การอนุรักษ์และใช้ประโยชน์พันธุกรรมพืช และการสร้างจิตสำนึก เพื่อให้ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรต่าง ๆ ในประเทศไทยมีอย่างยั่งยืน

นอกจากการสำรวจทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่แล้ว ทางกองทัพเรือ โดยกรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ได้มอบอุปกรณ์กีฬา อุปกรณ์สนับสนุนการเรียน และทุนอาหารกลางวันให้กับน้อง ๆ นักเรียนโรงเรียนบ้านช่องหลาด โดยมี นาวาเอก ชวิช วงษ์รัตน์ รองผู้อำนวยการสำนักกิจการพลเรือน กรมกิจการพลเรือนทหารเรือ เป็นผู้มอบให้แก่นายอรัญ ทำนากล้า ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านช่องหลาด  เพื่อสนับสนุนการออกกำลังกาย และร่วมปลูกจิตสำนึกให้ร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ต่อไป


ภาพ/ข่าว  สมนึก เชื้อสนุก

ขอนแก่น - โซเชียลจวกยับชาวขอนแก่น เล่นน้ำสงกรานต์ไม่สนประกาศคำสั่งห้ามเรื่องไวรัสโควิด-19 ไร้มาตรการการป้องกันโรค วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบด่วน

เมื่อเวลา 10.00 น..วันที่ 16 เม.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆ ทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ได้เผยแพร่ภาพคลิปกลุ่มชายหญิงทั้งเด็กและผู้ใหญ่กว่า 10 คน เล่นสาดน้ำสงกรานต์ในหมู่บ้าน โดยโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กพร้อมคลิปวีดีโอจำนวนหลายคลิปพร้อมข้อความระบุว่า “สงกรานต์วันสุดท้าย จ๊วดจ๊าด วันรวมญาติ(แต่ไม่ครบ) ปีหน้าว่ากันใหม่ สุขกายสบายใจกันทุกคนนะคะ ปีแรกที่ได้เล่นน้ำสงกรานต์ ถูกใจหลาย สงกรานต์ปีแรกของน้องกัปตัน” ซึ่งในคลิปนั้นปรากฏเป็นภาพของวัยรุ่นทั้งชายหญิง ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ไม่สวมใส่แมส บางรายเอาแมสไว้ที่คาง ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เต้นอยู่กลางถนน พร้อมกับสาดน้ำสงกรานต์เหมือนไม่มีประกาศคำสั่งให้งดและไม่เกรงกลัวโรคระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่อย่างใด

ซึ่งภายหลังผู้โพสต์มีการโพสต์ทั้งคลิปและภาพนิ่งที่เล่นน้ำสงกรานต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแชร์และแสดงความคิดเห็นถึงความไม่เหมาะสม และไร้จิตสำนึกของผู้โพสต์รวมทั้งคนที่เล่นน้ำสงกรานต์ในวันดังกล่าว อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและดำเนินคดี เพราะในขณะที่ทุกคนตระหนักถึงการป้องกันโรค แต่ยังมีคนจำนวนนี้ที่นึกถึงแต่ความสนุกความสบายของตัวเองโดยไม่สนใจว่าจะเกิดการแพร่ระยาดของโรคและขัดคำสั่งประกาศของทางเจ้าหน้าที่ที่ไม่ให้มีการเล่นสาดน้ำสงกรานต์ทุกพื้นที่

และภายหลังจากโซเชียลมีการแชร์ออกไปเป็นจำนวนมากผู้สื่อข่าวได้ทำการตรวจสอบพบว่าล่าสุดโพสต์ทั้ง 2 โพสต์นั้นถูกลบออกไปแล้ว แต่จะมีหลายเพจเฟซบุ๊กในจังหวัดขอนแก่นที่เซฟภาพไว้ทันนำมาโพสต์เพื่อให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาตรวจสอบ

น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตส.ว. โพสต์ความเห็นผ่านเฟซบุ๊ก ส่วนตัวเกี่ยวกับสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ในขณะนี้มีรายละเอียดว่า...

น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตส.ว. โพสต์ความเห็นผ่านเฟซบุ๊ก ส่วนตัวเกี่ยวกับสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ในขณะนี้มีรายละเอียดว่า... คนไทยไม่ใช่หนูทดลองวัคซีน-รู้ให้เท่าทันการล่าอาณานิคมวัคซีน เชื้อโควิด-19 เป็นไวรัสที่มีหนามจึงมีชื่อว่า โคโรน่าไวรัส แปลว่าไวรัสที่มีมงกุฎหนาม ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่แพร่กระจายเร็ว มีความรุนแรงและแพร่ระบาดไปในระดับโลก โดยอัตราการเสียชีวิตในระยะแรกจะสูงมาก

อย่างไรก็ตาม ไวรัสเป็นสิ่งมีชีวิตที่ปรับตัวเก่ง ในยามเริ่มแรกไวรัสโควิด-19 ยังเป็นพวกป่าเถื่อนอยู่ที่ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตเลย เปรียบเทียบกับโรคโคโรนาไวรัสซาร์สตัวแรกเมื่อ 18 ปีก่อน ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่มีมงกุฏหนามเช่นกันแต่เมื่อผู้ป่วยเสียชีวิต เชื้อไวรัสก็ตายด้วย ทำให้ซาร์ส-1 สูญหายไปเองอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้ยาฆ่าเชื้อหรือฉีดวัคซีนสารพัดยี่ห้อเหมือนเดี๋ยวนี้ ที่เรากำลังเผชิญหน้ากับโควิด-19 หรือ ซาร์ส-2 แม้จะรุนแรงน้อยกว่าซาร์ส-1 แต่ก็สิงสถิตอยู่กับเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้ยาวนานกว่ามาก และยังไม่มีใครตอบได้ว่าเจ้าโคโรนาไวรัสซาร์ส-2 หรือโควิด-19 จะอยู่กับเราไปอีกนานแค่ไหน

ถ้าเราลองนึกย้อนกลับไปในระยะใกล้ ๆ นี้ ยังไม่เคยมีการค้นพบวัคซีนป้องกันโรคไวรัสอุบัติใหม่ใดใดได้สำเร็จเลย จนกระทั่งโรคระบาดเหล่านั้นสูญหายไปเองในปีเดียว โดยไม่ต้องใช้วัคซีนเลย เช่น ไข้หวัดนก ไข้หวัดใหญ่2009 โรคซาร์ส โรคเมอร์ส เป็นต้น

ในขณะที่ไข้หวัดใหญ่ที่ผลิตวัคซีนออกมา กลับมีการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสใหม่ทุกปี แม้แต่โรคไวรัสเอดส์ ซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ร้ายแรงในอเมริกามาตั้งแต่ปี 2524 และเชื้อไวรัสเอดส์ยังอยู่กับเรามาจนบัดนี้ มีตัวเลขเมื่อปี 2563 นี้เองว่ามีผู้ติดเชื้อ HIV ทั่วโลกราว 37 ล้านคน กล่าวเฉพาะในกรุงเทพฯ ของเราจังหวัดเดียว ยกตัวอย่างในปี 2562 มีผู้ติดเชื้อ HIV ราว 77,558 คน และมีผู้เสียชีวิตที่รายงานว่าตายเพราะเอดส์ในปีเดียวกันจำนวน 1,877 คน ในปัจจุบันเรามีแต่ยาต้านเชื้อเอดส์ แต่ไม่มีวัคซีนป้องกันเอดส์แม้แต่เข็มเดียว ทั้งที่พวกบริษัทผลิตวัคซีนยักษ์ใหญ่มีเวลายาวนานถึง 40 ปี แต่ทำไมไม่มีความสามารถในการผลิตวัคซีนเอดส์

ในช่วงหลังจะพบว่าไวรัสโควิด-19 มีการปรับตัวมากขึ้นเพื่อจะได้ดำรงอยู่กับผู้ติดเชื้อได้ จึงมีการกลายพันธุ์ ที่พบขณะนี้อย่างน้อย 3 สายพันธุ์ คือ (1) สายพันธุ์อังกฤษ B.1.1.7 (2) สายพันธุ์แอฟริกาใต้ B.1.351 และ (3) สายพันธุ์บราซิล P.1 ยังไม่มีหลักฐานว่าไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ 3 สายพันธุ์นั้น ชนิดใดที่ทำให้ผู้ติดเชื้อมีอาการป่วยรุนแรงมากกว่าไวรัสโควิดสายพันธุ์เดิม โดยผู้ที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดคือผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว ไวรัสทั้ง 3 สายพันธุ์นี้มีการเปลี่ยนแปลงที่ปุ่มโปรตีน ซึ่งเป็นส่วนที่ไวรัสใช้ในการยึดเกาะกับเซลล์ในร่างกายมนุษย์ ทำให้สามารถที่จะเข้าสู่เซลล์และแพร่กระจายได้ง่ายขึ้น

โชคดีของคนไทยที่โควิด-19 ในระลอก 2 และ 3 ในประเทศเรานี้ มีอัตราความรุนแรงต่ำลงจากปีที่แล้ว โดยจากเดิมเมื่อปี 2563 ประเทศไทยมีอัตราการเสียชีวิต 2.95% แต่ปัจจุบันแม้มีผู้ติดเชื้อมาก แต่อัตราการเสียชีวิตต่ำกว่า 0.34% แปลว่าความรุนแรงของโรคลดลงมาก แม้ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน เชื้อโควิด ระยะหลัง ผู้ป่วยส่วนใหญ่ “ไม่มีไข้” แปลว่า ที่ผ่านมาการคัดกรองไข้ตามสถานที่ต่างๆ อาจจะหลงทางมานาน การคัดกรองด้วยการวัดไข้ 37.5 องศาเซสเซียส อาจกลายเป็นตัวชี้วัดที่ได้ผลน้อยหรืออาจไม่ได้ผลเลย จึงยากแก่การป้องกันควบคุมโรคระบาดระลอกใหม่นี้ได้

วัคซีนในปัจจุบันที่ประเทศไทยนำมาใช้มีอยู่ 2 ยี่ห้อคือ ซีโนแวคจากจีน และแอสตร้าเซเนก้าจากเกาหลีใต้ ซีโนแวคมีประสิทธิศักดิ์ต่ำแต่ปลอดภัยกว่าเพราะมาจากเชื้อโควิดที่ตายแล้ว แต่กลับห้ามฉีดในผู้สูงวัย ทั้ง ๆ ที่กลุ่มผู้สูงวัยเสี่ยงที่จะมีความรุนแรงของโรคมาก และอัตราการเสียชีวิตสูง แปลว่าเรากำลังฉีดวัคซีนลดความรุนแรงในกลุ่มที่มีความรุนแรงของโรคต่ำมากอยู่แล้ว ทำให้ดูเหมือนว่าวัคซีนเป็นตัวช่วยเรื่องนี้ ซึ่งแท้จริงอาจไม่ใช่มาจากวัคซีนก็เป็นได้ใช่หรือไม่

ในขณะที่แอสตร้าเซเนก้า เป็นวัคซีนที่ใช้เชื้อไวรัสหวัดชนิดหนึ่งจากลิงชิมแปนซี มาดัดแปลงพันธุกรรมเพื่อให้มีโปรตีนโคโรนาไวรัสเลียนแบบ ซึ่งจะกระตุ้นให้ร่างกายมนุษย์สร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาต้านเชื้อโควิด-19 ได้ ในทางทฤษฎี (ขอให้ขีดเส้นใต้ตรงคำว่า”ในทางทฤษฎี”) วัคซีนแอสตราเซเนก้าจึงอยู่ในระหว่างการพัฒนาให้ดีขึ้น และปลอดภัยขึ้น โดยทั้งนี้พบว่ายังเป็นวัคซีนที่มีค่าประสิทธิศักดิ์ต่ำกว่าวัคซีนอีกหลายตัวในยุโรป และเป็นวัคซีนที่ยังมีข้อถกเถียงเรื่องความปลอดภัย จึงยังไม่ใช่วัคซีนที่จะใช้ป้องกันโรค หรือใช้วงกว้างมากที่สุดเช่นกันในเวลานี้ ใช่หรือไม่

ข้อเสนอของหลายฝ่ายในการใช้วัคซีนให้มากทั่วถึงและรวดเร็วในเวลานี้ดูไม่เป็นเหตุเป็นผลที่ชาวบ้านธรรมดาอย่างเรา ๆ จะเข้าใจได้เลย เพราะข้อเท็จจริงขัดกับความเชื่อที่ว่าวัคซีนจะเป็นเครื่องช่วยชีวิต ป้องกันการติดเชื้อและการแพร่ระบาดได้ ซึ่งผูกติดกับความเชื่อดั้งเดิมว่าฉีดวัคซีนแล้วจะไม่ติดเชื้อซ้ำอีก แต่วัคซีนโควิดในปัจจุบันยังไม่ตอบโจทย์ประเด็นข้างต้น จริงอยู่วัคซีนโควิดอาจช่วยได้คือลดความรุนแรงและไม่เสียชีวิตเมื่อติดเชื้อโควิด แต่ถ้าอัตราการตายจากโควิดในปีนี้ ลดลงมากจาก 2.75% ของปี 2563 เหลือเพียง 0.34% ในปี 2564 แน่นอนว่าไม่ได้เป็นผลมาจากวัคซีนแต่อย่างใด เพราะคนไทยเพิ่งได้รับวัคซีนไปราว 5 แสนคน ยังไม่ถึง 1% ของประชากรด้วยซ้ำไป ทั้งที่ ข้อมูลทางวิชาการระบุว่าวัคซีนที่จะหยุดการแพร่ระบาดได้ ต้องฉีดให้ได้อย่างต่ำ 25-60% ของประชากรจึงอาจจะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ขึ้นได้

ณ ขณะนี้ ประสิทธิศักดิ์ประสิทธิผล และความปลอดภัยของวัคซีนโควิดทุกยี่ห้อที่ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ ยังเป็นประเด็นถกเถียงกันในหมู่นักไวรัสวิทยาและนักอิมมูโนวิทยาทั่วโลก แม้องค์การอนามัยโลกจะไฟเขียวให้ใช้ได้ในสถานการณ์ฉุกเฉินแล้วก็ตาม แต่องค์การอนามัยโลกก็ยังไม่สามารถตอบคำถามได้ว่าจะต้องฉีดวัคซีนมากเท่าใด จึงจะเริ่มเกิดภูมิคุ้มกันได้จริงและอยู่ได้ยาวนานเพียงไร

สิ่งที่น่าปะหลาดใจอีกอย่างจากกรณีการตรวจเชิงรุกที่กลุ่มประชากรที่สมุทรสาคร ช่วงระบาดระลอก 2 พบข้อมูลสำคัญว่าผู้ที่เข้าตรวจนั้นมีภูมิคุ้มกันโควิด-19 อยู่แล้วถึง 73% โดยไม่ต้องฉีดวัคซีนใดๆ เลย (ดูตารางประกอบ) ยิ่งทำให้เห็นว่ารัฐควรทุ่มสรรพกำลังในการศึกษาวิจัยว่าคนในจังหวัดที่พบการระบาดมาก ว่ามีภูมิคุ้มกันแล้วเท่าใด หากพบมากก็จะไม่ต้องไปฉีดวัคซีนเพื่อกระตุ้นภูมิซ้ำซ้อนสิ้นเปลืองไปอีก

วิกฤตการณ์โควิดในเวลานี้ไม่ต่างจากสงครามโลกในอดีต แต่คราวนี้เป็นสงครามกับเชื้อโรค ในยามสงครามผู้จะร่ำรวยจากสงครามคือพ่อค้าอาวุธ แต่สงครามกับเชื้อโรค ผู้ที่จะร่ำรวยก็คือพ่อค้ายาและวัคซีน ใช่หรือไม่ ข้อนี้เป็นสิ่งที่คนทั่วไปอดสงสัยไม่ได้ ยิ่งคนแตกตื่นและหวังพึ่งวัคซีนที่ยังพัฒนาไม่เต็มร้อยเพียงอย่างเดียว จนไม่สนใจทางเลือกอื่นๆ ก็มีแต่ทำให้บริษัทยาร่ำรวยโดยไม่ต้องรับผิดชอบ

รัฐบาลควรพิจารณาทางเลือกจากภูมิปัญญาสมุนไพรของนักวิจัยไทยและนานาชาติในการใช้ฟ้าทะลายโจรกับผู้ป่วยโควิดโดยการทำวิจัยอย่างต่อเนื่องควบคู่กับการใช้ฟ้าทะลายโจรในการรักษา ซึ่งไม่ต่างจากการติดตามรายงานผลอาการ และผลข้างเคียงของคนรับวัคซีน เฟส 4 (post marketing) ของบริษัทยา โดยที่ฟ้าทะลายโจรเป็นยาในบัญชียาหลัก จึงมีความปลอดภัยสูง การพบว่าฟ้าทะลายโจรสามารถฆ่าเชื้อโควิด-19 ในหลอดทดลอง และการใช้ทางคลินิกพบว่า ผู้ติดเชื้อโควิด 270 คน สามารถหายได้ภายใน 5 วัน ที่รับรองผลการทดลองโดยกรมแพทย์แผนไทยแล้วอีกด้วย

ไม่ใช่แค่การทดลองในประเทศไทยเท่านั้น ยังมีงานวิจัยของจีนเกี่ยวกับฟ้าทะลายโจรกับโควิด-19 เมื่อ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 โดยนักวิจัยจีนใช้เทคนิคการจับของโครงสร้างยากับเชื้อโรค (molecular docking) ในคอมพิวเตอร์ พบว่าสารแอนโดรกราโฟไลด์ และอนุพันธุ์ของฟ้าทะลายโจร จับตัวกับเชื้อโควิดหลายตำแหน่งโดยเป็นตำแหน่งที่สำคัญในการยับยั้งการเข้าสู่เซลล์ของไวรัสโควิด และยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อไวรัส นอกจากนี้จีนยังเคยจดสิทธิบัตรสารแอนโดรกราโฟไลด์และอนุพันธ์ของฟ้าทะลายโจรในการป้องกันและรักษาโรคซาร์ส-1 ซึ่งเป็นโคโรนาไวรัสตระกูลเดียวกับโควิด-19

นอกจากนี้มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ สาขาสาธารณสุขศาสตร์ ตีพิมพ์แนวการรักษาโรคติดเชื้อโควิด-19 ที่มีภาวะปอดเสียหายเฉียบพลัน พบว่าอนุพันธุ์ของฟ้าทะลายโจร ชื่อ Dehydrographolide Succinate ซึ่งขึ้นทะเบียนที่จีนใช้เป็นยาฉีดรักษาปอดอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจส่วนบน ซึ่งอาจจะนำมาใช้ในการรักษาปอดเสียหายจากโควิดในรูปยาพ่นละออง

กลไกสำคัญของฟ้าทะลายโจรที่พบ 4 ประการคือ

1.) กลไกป้องกันไวรัสเข้าเซลล์

2.) ลดการแบ่งตัวของเชื้อไวรัส

3.) ลดการอักเสบ โดยเฉพาะที่ปอด

4.) เพิ่มภูมิคุ้มกัน

อย่างไรก็ดีวัคซีนป้องกันที่ดีที่สุดคือการเว้นระยะห่างทางกายภาพ การสวมใส่มาสก์ การล้างมือบ่อย ๆ การรักษาสุขภาพเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน ซึ่งแนวทางนี้ ประเทศไทยเคยทำมาแล้วสมัยเกิดอหิวาตกโรคเมื่อ 200 ปีก่อน (พ.ศ.2363) สมัยรัชกาลที่ 2 คนไทยในพระนครตายไป 30,000 คน ในเวลานั้น มีประชากรในกรุงเทพฯ แค่แสนเศษ เท่ากับเสียชีวิตถึง 30% แต่เมื่อล้นเกล้ารัชกาลที่ 2 ทรงรับสั่งให้ประชาชนอยู่กับบ้าน (lock-down) ข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยฝ่ายหน้า ฝ่ายใน ก็โปรดมิให้เข้าเฝ้า ให้งดกิจราชการเสียทั้งหมด ปล่อยไพร่ทาสและนักโทษทั้งหมดให้กลับไปอยู่บ้านเรือนของตน ถนนหนทางไม่มีคนเดิน ตลาดหยุดค้าขาย เว้นไป 15 วัน โรคระบาดภายในกรุงเทพฯสมัยนั้นก็ทุเลาลง

การต่อสู้กับโควิด-19 ในเวลานี้ ผู้นำต้องมีวิสัยทัศน์ และความพยายามในการพึ่งตนเองโดยอาศัยภูมิปัญญาการรักษาของสังคม และลดการระบาดด้วยสุขอนามัยคือการใส่มาสก์ ล้างมือ ไม่อยู่ในที่แออัดอย่างที่บรรพบุรุษไทยเคยใช้กันอย่างได้ผลมาแล้ว ในขณะที่หลายคนกำลังคิดว่าทำไมประเทศไทยจึงฉีดช้ากว่าประเทศอื่นๆ ทำไมเราไม่ตั้งคำถามว่า เราจะเสี่ยงกับวัคซีนที่ยังไม่วิจัยอย่างชัดเจนเพื่ออะไร ในขณะที่ประเทศไทยมีอัตราความรุนแรงของโรคต่ำมาก อัตราการเสียชีวิตก็ต่ำมาก และวัคซีนก็ยังไม่ถึงระดับป้องกันการติดเชื้อได้ อีกทั้งเราสามารถใช้สมุนไพรของเราเองรักษาโรคได้อย่างมีประสิทธิผลดีอยู่แล้ว

ในสถานการณ์เช่นนี้ ที่โควิดยังกลายพันธุ์ไปเรื่อย ๆ จนอาจต้องฉีดวัคซีนกันไม่สิ้นสุด คนไทยควรจะเป็นหนูทดลองพร้อมชาติอื่น หรือจะให้คนชาติอื่นใช้วัคซีนไปก่อนสักพักเพื่อดูผลกระทบโดยรวม อะไรที่จะเป็นวิธีที่ดีกว่ากัน

รสนา โตสิตระกูล

11 เมษายน 2564

#คนไทยไม่ใช่หนูทดลองวัคซีน #วัคซีนไม่ใช่ทางออกเดียว #โควิดรักษาได้ #พึ่งตนเองไม่ต้องรอวัคซีน #รสนาโตสิตระกูลว่าที่ผู้สมัครผู้ว่ากทม #รสนา #ฟ้าทะลายโจร #ผู้ว่ากทม. #วัคซีน #Covid-19


ที่มา https://www.facebook.com/%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2-%E0%B9%82%E0%B8%95%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B9%E0%B8%A5-236945323048705

กระบี่ - ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19ระลอกใหม่พุ่งไม่หยุด เพิ่มอีก6 ราย เป็น 21 ราย

ด้านผวจ.กระบี่ เตรียมจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มแห่งที่2  รองรับผู้ป่วยได้ 140 เตียง ขณะที่สสจ.ประกาศ! ผู้โดยสารเรือสปีดโบ้ทภูเก็ต-กระบี่ ในรอบ15:00 น. วันที่ 5 เม.ย.64 และเกาะพีพี- กระบี่  ในรอบเวลา 15:00 น. วันที่ 7 เม.ย.64  ขอให้ไปรายงานตัว ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน ด่วน 

วันที่ 16  เม.ย.64 ศูนย์อำนวยการบริหารสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19  จังหวัดกระบี่ ได้รายงานสถานการณ์การแพร่เชื้อโควิด19 ในจังหวัดกระบี่ ระลอกใหม่  ตั้งแต่วันที่ 1-15  เม.ย.64  พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อเพิ่มอีก 6 ราย จากเดิม 15 ราย รวม เป็น 21 ราย รอผลตรวจ อีก 60 ราย  ทีมสอบสวนโรคสำนักงาน สาธารณสุขจังหวัดกระบี่ อยู่ระหว่างลงพื้นที่ติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงมาตรวจคัดกรองหาเชื้อ  โดยในนจำนวนนี้มี 5 รายเป็นเด็กนักเรียนหญิงวัย 8- 9 ขวบ   ที่รับเชื้อจากครูสอนภาษา ต่างชาติ วัย 27  ปี  โดยไทม์ไลน์ ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มที่เดินทางกลับมาจากจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดรุนแรง อาทิ กทม.  เชียงใหม่  ประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น  และมีความเชื่อมโยงกับสถานบันเทิง

ขณะที่สำนักงานสาธารสุขจังหวัดกระบี่ ได้ออกประกาศ! ผู้โดยสารเรือสปีดโบ้ท ภูเก็ต -  กระบี่ ใน รอบ 15:00 น. วันที่ 5 เม.ย.64 และผู้โดยสารเรือสปีดโบ้ท  เกาะพีพี - กระบี่  ในรอบเวลา 15:00 น. วันที่ 7 เม.ย.64  ขอให้ไปรายงานตัว ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อประเมินความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด-19 ด่วน 

ด้านพันตำรวจโทหม่อมหลวงกิติบดี  ประวิตร  ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่  กล่าวว่า  เนื่องจากสถานการการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ทวีความรุนแรง และเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว  ขณะที่โรงพยาบาลสนามที่แรก คืออาคารโกเมน ในพื้นที่ตำบลอ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ สามารรองรับผู้ป่วยได้เพียง  110 เตียง  คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกระบี่ ได้ทำการสำรวจโรงพยาบาลสนามแห่งที่2  ภายในค่ายกองพันทหารราบที่ 1  กรมทหารราบที่ 15  (ร.15พัน1 ) พื้นที่อำเภอคลองท่อม  จ.กระบี่  เป็นอาคารชั้นเดียว  สามารถรองรับผู้กักตัวได้จำนวน 40 คน, เกรงว่าจะไม่สามารถรองรับผู้ป่วยจำนวนมากได้ จึงต้องหาสถานที่ใหม่ ซึ่งเป็นอาคารกองบังคับการกองร้อยอาวุธเบาที่ 2 ในค่าย ร.15พัน1  ซึ่งเคยใช้เป็นสถานที่เตรียมรับทหารใหม่ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น สามารถรองรับจำนวนผู้ป่วยได้ 140 เตียงโดยไม่แออัด  ทั้งมีห้องนำห้องสุขากว้างขวาง เป็นอาคารที่อยู่กลางโล่งแจ้ง แต่ทั้งนี้ทางคณะกรรมการจะได้ทำหนังสือขออนุมัติใช้จากกองทัพบกโดยเร่งด่วนแล้ว

ในขณะเดียวกันองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ได้สั่งการให้กองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยนำชุด ฉก.covid19 ออกพ่นยาฆ่าเชื้อในสถานที่ ราชการ ท่าเรือคลองจิหลาด โรงเรียน  สถานที่กลุ่มเสี่ยงที่มีผู้ติดเชื้อติดเชื้อ เพื่อเป็นการ สร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนในจังหวัดกระบี่


ภาพ/ข่าว  ณัฏฐพงษ์  ศรีปล้อง 

กลายข่าวสะเทือนสายการบินสัญชาติสิงคโปร์วันนี้ เมื่อทางการฮ่องกงมีคำสั่งระงับเที่ยวบินของ Scoot สายการบินราคาประหยัดในเครือของสิงคโปร์แอร์ไลน์เป็นเวลานานถึง 2 สัปดาห์

กลายข่าวสะเทือนสายการบินสัญชาติสิงคโปร์วันนี้ เมื่อทางการฮ่องกงมีคำสั่งระงับเที่ยวบินของ Scoot สายการบินราคาประหยัดในเครือของสิงคโปร์แอร์ไลน์ เส้นทางสิงคโปร์ ไปฮ่องกงเป็นเวลานานถึง 2 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 16-29 เมษายน ค.ศ.2021 นี้ เนื่องจากตรวจพบผู้โดยสาร 2 คน ติดเชื้อ Covid-19 บนเที่ยวบินที่ขาไปฮ่องกง

ผู้โดยสารทั้ง 2 คนเดินทางไปกับสายการบิน Scoot เที่ยวบิน TR980 จากท่าอากาศยานสิงคโปร์ไปฮ่องกงเมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งปัญหาคือ ผู้โดยสารทั้ง 2 คน มีผลตรวจเชื้อเป็นลบก่อนเดินทางออกจากสิงคโปร์ แต่กลับพบผลตรวจเป็นบวกเมื่อไปถึงที่ท่าอากาศยานฮ่องกง

และยังพบว่ามีผู้โดยสารบางคนมีเอกสารประกอบการเดินทางไม่เป็นไปตามข้อกำหนดด้านการควบคุมโรคระบาดของทางการฮ่องกง จึงเป็นเหตุให้รัฐบาลฮ่องกงตัดสินใจระงับเที่ยวบินจากสิงคโปร์สู่ฮ่องกงของสายการบิน Scoot เป็นเวลา 2 สัปดาห์ แต่คำสั่งนี้ไม่มีผลกับเที่ยวบินขากลับ ฮ่องกง สู่สิงคโปร์ ผู้โดยสารยังสามารถเดินทางได้ตามปกติ

ก่อนหน้านี้ ทางฮ่องกงเคยสั่งระงับเที่ยวบินของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์มาแล้ว เมื่อพบผู้โดยสาร 1 คนบนเครื่องติดเชื้อ Covid-19 และมีผู้โดยสารอีก 3 คนที่ไม่ทำตามระเบียบเรื่องการควบคุมโรคของสายการบิน จึงทำให้สิงคโปร์แอร์ไลน์ถูกระงับเที่ยวบินจากสิงคโปร์เข้าสู่ฮ่องกงเป็นเวลา 2 สัปดาห์เช่นกัน และเพิ่งพ้นโทษแบนในวันนี้ 16 เมษายน ก็มาเกิดเหตุกรณีเดียวกันกับสายการบิน Scoot ต่อทันที

ตอนนี้ รัฐบาลฮ่องกง และ สิงคโปร์กำลังเข้าสู่การสรุปรายละเอียดในการทำข้อตกลง "ระเบียงท่องเที่ยว" หรือ Travel Bubble ร่วมกัน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ที่จะทำให้พลเมืองทั้ง 2 แห่งสามารถเดินทางเข้า-ออก ประเทศได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องกักตัว 14 วัน โดยมีเงื่อนไขว่า ทั้งสิงคโปร์ และ ฮ่องกง จะต้องไม่มีเคสการติดเชื้อที่ไม่ทราบที่มาเกินกว่า 5 เคสในรอบ 7 วัน และผู้เดินทางต้องได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว

แต่หากยังตรวจพบผู้โดยสารที่ติดเชื้อ Covid-19 บนเที่ยวบินระหว่างเดินทาง อาจทำให้โครงการ Travel Bubble ระหว่าง ฮ่องกง-สิงคโปร์ อาจต้องเลื่อนไปก่อนอย่างไม่มีกำหนดก็เป็นได้


อ้างอิง:

https://www.straitstimes.com/singapore/transport/scoot-flights-from-spore-barred-from-landing-in-hong-kong-for-2-weeks-after-2

https://www.channelnewsasia.com/news/singapore/covid-19-scoot-hong-kong-bars-passenger-flights-singapore-14627588

https://thethaiger.com/hong-kong/hong-kong-slaps-singapore-airlines-with-2-week-ban-over-covid-infractions

https://www.straitstimes.com/singapore/transport/spore-and-hk-finalising-details-of-air-travel-bubble-hope-to-announce-plans-soon

สถานการณ์ COVID-19 ประเทศไทยและอาเซียน ประจำวันที่ 16 เมษายน พ.ศ.2564

สถานการณ์โควิด-19 ประเทศไทยและอาเซียน ยอดผู้ติดเชื้อในไทยแตะหลักพันวันที่ 3 แล้ว ยอดกว่า 1,582 ราย ขณะที่ในอาเซียนยอดยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง!

“อนุทิน” ชง ศบค.ชุดใหญ่ “คุมเข้มจ.สีแดง ปิดสถานบันเทิง ยาวสิ้นเม.ย.-ห้ามสังสรรค์ในครอบครัว-ให้อำนาจผู้ว่าฯตัดสิน ห้ามออกนอกเคหะสถานหรือไม่ -ไม่ห้ามข้ามจังหวัด แนะปชช.ให้ดูข้อกำหนดแต่ละพื้นที่ ย้ำ เตียงรพ.ยังเพียงพอ ริงรับสถานการณ์

วันที่ 16 เมษายน พ.ศ.2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)หรือ ศบค.ว่า ทางสาธารณสุข จะเสนอที่ประชุมพิจารณามติของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เมื่อวันที่ 15 เมษายน ที่เสนอปรับโซนสีพื้นที่จังหวัดทั่วประเทศ ส่วนการเดินทางของประชาชนยังคงเดินทางไปมาได้ แต่ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละจังหวัดจะออกมาตรการรองรับอย่างไร รวมถึงให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจตัดสินใจเรื่องการออกนอกเคหะสถาน เช่น จังหวัดสมุทรสาคร เคยประกาศก่อนหน้านี้เพราะเขาทราบถึงสถานการณ์ในจังหวัดดี 

โดยมาตรการในภาพรวมของทั้งประเทศ พยายามจะให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด แต่จะเข้มข้นขึ้นบางเรื่อง โดยจะเสนอห้ามการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารและสถานประกอบการต่าง ๆ และให้ปิด ผับ บาร์ คาราโอเกะ ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายนนี้ เพราะหวังว่าถ้าประชาชนรวมกลุ่มกันน้อยลง จะลดการแพร่ระบาดได้ ส่วนการจำหน่ายสุราในร้านค้าทั่วไป จะขอความร่วมมือให้ซื้อกลับไปกินที่บ้านแต่ไม่ใช่ว่าห้ามขายในร้านอาหารแล้วไปนัดกันที่บ้าน ดังนั้นจะเสนอศบค.ไม่ให้มีการเลี้ยงสังสรรค์กันสำหรับคนในครอบครัวเพิ่มเติม เพราะจะเป็นการรวมตัวของคนจำนวนมาก 

เมื่อถามถึงกระแสข่าวการรวมกลุ่มเล่นการพนันในโรงพยาบาลสนาม นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน คงไม่มีถึงขนาดนั้น ซึ่งผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนามทุกคนถือเป็นผู้ป่วยจะไม่มีการแพร่เชื้อกันเพิ่มขึ้น แต่ถ้ามีการตั้งวงเล่นการพนันกันก็คงต้องออกจากโรงพยาบาลสนามไปเข้าคุก เรื่องนี้ผู้รับผิดชอบในโรงพยาบาลสนามคงต้องไปดูแล หากเป็นการเล่นเพื่อผ่อนคลายไม่ใช่การพนัน คลายเครียดเล่นดีดนิ้ว ไม่ได้แพร่กระจายเชื้อก็โอเค ทั้งนี้วงรอบของการแพร่เชื้อจะอยู่ที่ 2 สัปดาห์ ขอให้เราอึดกันอีก 2 สัปดาห์จะต้องดีขึ้น แม้ตัวเลขอาจจะไม่เป็นศูนย์ แต่เมื่อมีมาตรการออกมา 2 สัปดาห์นี้ตัวเลขจะลดลง หากเราหย่อนมาตรการวงรอบจะไม่ตัดวงจรการระบาด ดังนั้น 2 สัปดาห์หลังจากนี้เราคิดว่าน่าจะตัดวงจรได้ระดับหนึ่ง แต่ถ้าเข้มสุด ๆ ก็กังวลว่าประชาชนจะเดือดร้อน เราพยายามทำในระดับที่ระบบสาธารณสุขยอมรับได้ และได้รับความร่วมมือจากประชาชน ก็จะสามารถประดับประคองสถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติได้

เมื่อถามถึงความพร้อมเตียงสำหรับคนไข้ นายอนุทิน กล่าวว่า ยืนยันว่ามีเพียงพอ แต่บุคคลากรทางการแพทย์เรามีเท่านี้ ดังนั้นเมื่อเราใช้มาตรการที่เข้มข้นอยู่ในช่วงนี้ก็หวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากประชาชนมนการป้องกันตัวเองด้วย เพราะจำนวนผู้ป่วยแต่ละวัน ในช่วงสัปดาห์หลังจากนี้จะค่อย ๆ ลดลงไป ขณะที่กทม.ก็เตรียมโรงพยาบาลสนามไว้แล้ว ถ้าไม่ถึงขั้นจำเป็นมากเราก็อยู่ในระบบสาธารณสุข ในโรงพยาบาลจะดีกว่า แต่ถ้าเราไม่มีมาตรการอะไรเลยแบบนั้นจะไม่พอ จำเป็นต้องใช้โรงพยาบาลสนาม และต้องเน้นการรักษาที่บ้าน ซึ่งเราไม่อยากให้ไปถึงจุดนั้น ยืนยันตอนนี้ยังดูแลไหวอยู่ ก็อยากให้ทุกคนได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างเต็มที่ แต่ก็ยอมรับว่าการเข้ารักษาตัวของประชาชนตอนนี้ยากกว่าเดิม เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงกว่าก่อนหน้านี้ 

ตอนนี้ถ้าใครเป็นก็ขอว่าให้กักตัวอยู่ในบ้านและเว้นระยะห่างกันที่สุด หน้ากากอนามัยต้องไม่หลุด แต่ระบบก็จะไล่ส่งรถไปรับให้ทุกคนมารักษาพยาบาล และตอนนี้ก็เริ่มมีการให้ผู้ป่วยที่มีรถส่วนตัวให้เข้ามาที่โรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษา เป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน สำหรับแผนการกระจายวัคซีนที่เพิ่งได้รับมา 1 ล้านโดสเมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา จะเน้นกระจายไปที่บุคลากรทางการแพทย์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ยืนยันเราไม่ปิดกั้นการจัดหาวัคซีนและพร้อมให้ทุกฝ่ายร่วมดำเนินการ

“เสกสกล” จวก “อมรัตน์” สมองกะโหลกกะลา ไร้แก่นสาร จ้องคิดลบกับรัฐบาล เหน็บ ทำได้คิดแค่เกาะหลังม็อบสามนิ้ว

เมื่อวันที่ 16 เมษายน พ.ศ.2564 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวตอบโต้นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “รำคาญทุกจำนวน นับทุกแถลงการณ์ และทุกสถิติของรัฐกะลา ไม่ตื่นเต้นและไม่เชื่ออะไรทั้งนั้น” ว่า หากนางอมรัตน์ ไม่อยากฟัง ไม่เชื่อในความสามารถของนายกรัฐมนตรีในการแก้โควิด-19 ก็ไม่เป็นไร เพราะคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศฟัง แต่อย่าเป็นตัวถ่วง และที่หัวหน้าพรรคก้าวไกล นำส.ส. พรรค ไปรับการฉีดวัคซีน ที่สถาบันบำราศนราดูร เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักที่จะรับวัคซีนในวันที่ 1 พ.ค.นี้ เรียกว่าทำตามนโยบายของรัฐหรือไม่ และแสดงว่าหัวหน้าพรรคก้าวไกล และส.ส.เห็นความสำคัญ

“คงมีแค่นางอมรัตน์ ที่สมองกะโหลกกะลา ชอบกล่าวหานายกฯและรัฐบาล คนประเภทนี้สมองกลวง ชอบมองโลกในแง่ร้าย คิดลบตลอดเวลา คิดแต่เรื่องโจมตีใส่ร้ายแบบไร้สาระ และมีนิสัยที่คนไทยทั้งประเทศรู้ดีว่า ชอบไปร่วมชุมนุมกับม็อบสามนิ้วที่ก้าวล่วง จาบจ้วงสถาบัน และชอบโชว์เอาตำแหน่ง ส.ส.ประกันตัวให้แกนนำคนที่คิดล้มล้างสถาบัน ให้การสนับสนุนแกนนำสามนิ้วทุกรูปแบบ จนคนไทยส่วนใหญ่ที่ปกป้องสถาบัน รู้ถึงนิสัยสันดานจนเอือมระอา และตั้งฉายาให้ว่า เตี้ยหลังม็อบ เพราะชอบแอบเข้าไปร่วมชุมนุมกับม็อบสามนิ้วทุกครั้ง นี่คือพฤติกรรมของคนที่มีหัวกะโหลกกะลา หาอะไรที่เป็นแก่นสารกับชีวิตไม่ได้เลยสักเรื่อง” นายเสกสกล กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top