Monday, 23 June 2025
TheStatesTimes

กนง.มีมติเอกฉันท์ คงดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง พร้อมลดเป้าจีดีพี ปี 64 เหลือ 3%

นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. ว่า กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ต่อปี เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยประเมินว่า เศรษฐกิจไทยโดยรวมยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง แต่เผชิญกับความเสี่ยงในระยะข้างหน้า จึงยังต้องการแรงสนับสนุนจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในการประชุมครั้งนี้ และรักษาขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงินที่มีจำกัดเพื่อใช้ในจังหวะที่เหมาะสมและเกิดประสิทธิผลสูงสุด

ทั้งนี้ ยังประเมินว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัว 3% ในปี 2564 และ 4.7% ในปี 2565 โดยขยายตัวต่ำกว่าประมาณการเดิมบ้างจากการปรับลดจำนวนนักท่องเที่ยว จากเดิมคาดว่าจะมี 5.5 ล้านคน เหลือเพียง 3 ล้านคน และผลกระทบของการระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโควิด-19 แต่ได้รับแรงสนับสนุนจากการส่งออกสินค้าที่ฟื้นตัวเร็วตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาเพิ่มเติม 

อย่างไรก็ดี การฟื้นตัวของแต่ละภาคเศรษฐกิจยังมีความแตกต่างกัน โดยมีความเสี่ยงสำคัญจากประสิทธิผลและการกระจายวัคซีนป้องกันโควิด การกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงความต่อเนื่องของแรงสนับสนุนจากภาครัฐ ด้านระบบการเงินมีเสถียรภาพ แต่ยังมีความเปราะบางในบางจุดจากผลกระทบของการระบาดระลอกใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มครัวเรือนที่มีรายได้น้อยและธุรกิจเอสเอ็มอี

บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสายสัญญาณที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนและผู้นำเข้าและค้าส่งอุปกรณ์เครือข่ายส่งสัญญาณ ภายใต้แบรนด์ LINK จัดงานสัมมนาใหญ่อัปเดตเทคโนโลยี Fiber Optic & FTTx Design and Install Solut

นอกจากนี้ ยังได้เจาะลึกวิธีการใช้สายสัญญาณและอุปกรณ์ Network ของ PON, OUTDOOR CCTV, SOLAR CABLE ให้แก่ลูกค้ากลุ่ม System Integrator (SI) และและผู้ที่สนใจ ในรูปแบบของ HYBRID ซึ่งงานนี้มี คุณสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการของบริษัท เป็นประธานกล่าวเปิดงาน

ขณะเดียวกันภายในงานยังมีการบรรยายพิเศษจากวิทยากรผู้เชี่ยวอย่าง ดร. วิรินทร์ เมฆประดิษฐสิน ผู้เชี่ยวชาญด้าน IT และ Networking ของประเทศไทย และ คุณภาคภูมิ พลธร Technical & Products Training Manager เป็นผู้ถ่ายทอดประสบการณ์ความรู้แบบเจาะลึก รู้ลึก รู้จริง ในเทคโนโลยี Fiber Optic & FTTx (PON) ที่จะสามารถตอบโจทย์ทุกการเชื่อมต่อ พร้อมถ่ายทอดเทคนิคการขายอย่างมืออาชีพ

สำหรับงานดังกล่าวได้มีการจัดกิจกรรมออกบูทแสดงโซลูชั่นใหม่ของผลิตภัณฑ์แบรนด์ LINK ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับโลก อาทิ บูทการติดตั้งระบบกล้องวงปิดภายนอกอาคารอย่างมืออาชีพ, LINK Solar Cable Solution, Live Demo FTTx (PON) สำหรับ Building / Condominium / Hotel เป็นต้น โดยงานนี้จัดขึ้นในวันที่ 24 มีนาคม 2564 ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ และได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานเป็นอย่างมาก

สำหรับ ไอลิงค์ มี 3 ธุรกิจหลักประกอบไปด้วย

1.) ธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ เป็นธุรกิจหลักและสามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง

2.) ธุรกิจโทรคมนาคม ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วและได้ Spin Off เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไปเรียบร้อยแล้ว

และ 3.) ธุรกิจวิศวกรรมโครงการ เป็นการรับงานจากภาครัฐเป็นหลัก

พี่สาวรุ้ง เผย ข้อความจาก ‘รุ้ง ปนัสยา’ ฝากถึงผู้ชุมนุม ยอมรับคนออกมาชุมนุมไม่มากเหมือนปีที่แล้ว แต่กระบวนประชาธิปไตยต้องไปต่อ

จากเฟซบุ๊ก Panusaya Sithijirawattanakul ได้มีการเผยแพร่ข้อความที่อ้างว่า พี่สาวของ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง ได้นำข้อความจาก รุ้ง ที่ขณะนี้อยู่ในเรือนจำ ฝากถึงผู้ชุมนุมว่า...

ข้อความจากรุ้ง

รุ้งรู้ว่าตั้งแต่ที่รุ้งเข้ามาเรือนจำ คนออกมาชุมนุมไม่มากเหมือนปีที่แล้ว อยากบอกทุกคนว่า ทุกคนมีเหตุผลของตัวเองที่จะออกมาหรือไม่ ไม่ว่าจะด้วยอุดมการณ์ ออกมาเพราะชื่นชมแกนนำ หรือเห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของการเคลื่อนไหว

สถานการณ์ตอนนี้ไม่ดีเลย มีคนต้องเข้ามาอยู่ในเรือนจำทีละคนๆ พรุ่งนี้ก็อาจจะมีเพื่อนของเราเข้ามาเรือนจำอีกถ้าพวกเขาไม่ได้รับการประกันตัว

ถ้าทุกคนไม่ออกมาไม่ว่าด้วยความกลัว ความใจเย็น วันต่อไปก็อาจจะเป็นคนใกล้ตัวคุณที่จะต้องเข้าเรือนจำ

อย่าให้ความกลัวหยุดการเคลื่อนไหว ทำให้คุณลังเลในการออกมาชุมนุมกับเพื่อน ๆ ของเรา

กระบวนประชาธิปไตยต้องไปต่อ และต้องไปต่อเรื่อยๆ แม้จะมีคนหายไประหว่างทาง

แต่ถ้าคุณมีใจคิดถึงพวกเรา อยากให้พวกเราได้ออกไป และไม่ต้องการให้ใครเข้ามาในนี้อีกวันนี้ทุกคนต้องออกไปชุมนุมกับเพื่อนๆ

มีเพื่อนชวนเพื่อน ชวนพ่อ แม่ ชวนครอบครัว จับมือร่วมกับเพื่อนเรา ให้เขาได้รู้ว่าถึงคุณจะจับอีกกี่คนก็หยุดเจตจำนงของประชาชนไม่ได้

รุ้ง ปนัสยา

(โพสต์โดยพี่สาวน้องรุ้ง)


ที่มา: https://www.facebook.com/panusaya.sithijirawattanakul/posts/3806679712712630

ชาวประมงบ้านเก้าเส้ง เจอสภาพอากาศแปรปรวนช่วงหน้าร้อน คลื่นลมแรงทำให้ต้องหยุดออกเรืออีกรอบ

หลังกรมอุตุใต้รายงานสภาพอากาศแปรปรวนช่วงหน้าร้อน มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และฝนหนักกับลมกระโชกแรง ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

วันนี้ 24 มีนาคม 2564  สภาพอากาศบริเวณชายฝั่งจังหวัดสงขลาทะเลเริ่มมีคลื่นลมแรงซัดเข้าหาฝั่งเป็นระลอก ๆ บริเวณชายหาดบ้านเก้าเส้ง เขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา มีลมกรรโชกแรงตลอดเวลา ทะเลมีคลื่นกำลังแรงพัดเข้าหาฝั่งเช่นเดียวกัน

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก รายงานสภาพอากาศในวันนี้ว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่างมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และฝนหนักกับลมกระโชกแรงบางแห่งทางตอนล่างของภาค บริเวณจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ส่วนลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลาง  ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง

สำหรับบริเวณอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

ชาวประมงพื้นบ้านเก้าเส้ง จึงจำเป็นต้องหยุดออกเรือจับปลานำเรือขึ้นมาจอดบริเวณชายฝั่ง ปากคลองสำโรงที่ถูกคลื่นซัดทรายขึ้นมาปิดปากคลองสำโรงเป็นสันดอนชายหาด สามารถนำเรือขึ้นไปจอดได้ กว่า 20 ลำ เนื่องจากไม่สามารถนำเรือเข้าไปจอดในคลองสำโรงได้

ในขณะเดียวกัน ก็ต้องคอยระมัดระวัง หมั่นเดินมาดูแลเรืออยู่เป็นระยะ ๆ เนื่องจาก บางครั้ง ช่วงน้ำขึ้น คลื่นมีกำลังแรง จะชัดขึ้นมาถึงบริเวณที่จอดเรือ หากผูกมัดหรือไม่ดีเรืออาจจะลอยตามน้ำลงไปในทะเลได้

เนื่องจากในช่วงนี้ปรกติเป็นหน้าร้อน ทะเลจะเรียบไม่มีคลื่นลม ชาวประมงพื้นบ้านจะออกเรือจับสัตว์น้ำได้ ตลอดช่วงหน้าร้อน แต่ในช่วงนี้สภาพอากาศแปรปรวน ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านเก้าเส้ง ต้องหยุดออกเรือทำการประมง มา 2-3 วันแล้วและในวันนี้ก็ยังคงหยุดต่อไปอีก เพื่อรอให้คลื่นลมสงบจึงจะสามารถออกไปทำการประมงได้ตามปกติ

อย่างไรก็ตามชาวประมงพื้นบ้านก็จะต้องดูสภาพอากาศและคลื่นลมในช่วงย่ำรุ่งก่อนออกเรือทุกวัน เพราะสภาพอากาศแปรปรวนไม่แน่นอน  วันนี้ลมตะวันออกความเร็ว 15-35 กม./ชม. ยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ อ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ (หาดใหญ่ จ.สงขลา)

ตำรวจกองปราบ บุกรวบ "หลงจู๊สมชาย" เจ้าพ่อบ่อนคนดังภาคตะวันออก คาคฤหาสน์หรู โยงคดีจ้างวานฆ่าวินจักรยานยนต์ แอบถ่ายรูปบ่อนพนันเมืองพัทยา นำไปแฉ พ่วงจับลูกชายข้อหาจัดให้มีการเล่นพนันและฟอกเงิน

กองปราบ - เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 25 มี.ค.2564 พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. , พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. , พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ , พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. , พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป. , พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. , พ.ต.อ.วิจักข์ ตารมย์ ผกก.สสน.บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.2 และ กก.3 บก.ป.

พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ สนธิกำลังร่วมกับตำรวจ บช.ภ.2 นำหมายค้นศาลอาญากระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 21 จุด ในพื้นที่ 4 จังหวัด ประกอบด้วย จ.ระยอง จ.จันทบุรี จ.ชลบุรี และ กรุงเทพมหานคร เพื่อจับกุมตัว นายสมชาย จุติกิติ์เดชา หรือหลงจู๊ชาย อายุ 56 ปี เจ้าพ่อบ่อนพนันภาคตะวันออก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในคดี“จ้างวานฆ่า” พร้อมกับกลุ่มเครือญาติและลูกสมุนในคดี “ร่วมกันฟอกเงิน” ที่ได้มาจากธุรกิจบ่อนพนัน

โดยจุดสำคัญในการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ เป็นคฤหาสน์กลางเมืองระยองเนื้อที่ 2 ไร่ เลขที่ 158/28 ถนนราษฎร์บำรุง ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง ซึ่งเป็นบ้านพักของ นายสมชาย หรือ หลงจู๊สมชาย ผู้มีอิทธิพลคนดังเมืองระยอง ทันทีที่เจ้าหน้าทีไ่ปถึงได้แบ่งกำลังออกเป็นหลายส่วน พร้อมกระจายกำลังเข้าปิดล้อมเพื่อป้องกันการหลบหนีรอบทิศทาง ก่อนกดกริ่งประตูหน้าบ้านแสดงตัวขอเข้าตรวจค้น

แต่ผู้ที่อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าวไม่มีใครยอมออกมาเปิดประตูรั้วให้ ทางเจ้าหน้าที่จึงใช้บันไดปีนรั้วเข้าไป กระทั่งพบตัวนายสมชาย หรือ หลงจู๊สมชาย และนายธนา จุติกิติ์เดชา อายุ 26 ปี ลูกชาย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา จัดให้มีการเล่นพนัน และ ร่วมกันฟอกเงิน อยู่ในบ้านพักหลังดังกล่าวจึงแสดงหมายค้นและหมายจับให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนรับทราบ พร้อมกับทำควบคุมตัวจากนั้นจึงเข้าตรวจค้นภายในบ้าน

ทั้งนี้ สำหรับการเข้าจับกุมนายสมชายครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2563 ได้เกิดเหตุคนร้ายจำนวน 2 ราย ขี่รถจักรยานยนต์ใช้อาวุธปืนประกบยิง นายประทุม สะอาดนัก อายุ 47 ปี อาชีพวินจักรยานยนต์รับจ้าง เสียชีวิตด้านหลังโรงเรียนเมืองพัทยา 8 ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา สามารถจับกุม นายมนัส อิ่มหนำ อายุ 39 ปี และ นายนิพนธ์ ปานทอง อายุ 47 ปี ผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้

ก่อนให้การอ้างว่าสาเหตุมาจากมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน แต่ทางญาติของผู้เสียชีวิตไม่ปักใจเชื่อจึงเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เพราะเชื่อว่าปมสังหารที่แท้จริงน่าจะเป็นเรื่องที่ผู้ตายไปมีความขัดแย้งกับผู้มีอิทธิพลเกี่ยวกับเรื่องการพนัน

เนื่องจากก่อนเกิดเหตุ นายประทุม ผู้ตาย ได้แอบเข้าไปถ่ายรูปสถานที่แห่งหนึ่งในเมืองพัทยา ซึ่งมีการลักลอบเปิดบ่อนการพนัน ก่อนเรื่องดังกล่าวรู้ถึงหูของกลุ่มนายทุนเจ้าของบ่อนจึงเกิดความไม่พอใจ สั่งการให้นายสุพรรณ ใหม่งาม อายุ 53 ปี นายถาวร สาระกูล อายุ 53 ปี ผู้ดูแลบ่อน จัดหามือปืนมาก่อเหตุฆ่าปิดปาก ด้วยเหตุนี้ทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์ จึงมอบหมายให้ทางกองปราบ ในฐานะเลขาศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอร.ตร.)

โดยได้รับโอนสำนวนคดีดังกล่าวมาอยู่ในความดูแล พร้อมกับสืบสวนขยายผลจนสามารถติดตามจับกุมนายสุพรรณ และ นายถาวร ได้เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา จากนั้นจึงขยายผลต่อเนื่องจนกระทั่งพบความเชื่อมโยงถึง นายสมชาย หรือ หลงจู๊สมชาย ผู้ต้องหารายนี้ซึ่งเป็นนายทุนบ่อนดังกล่าวและบ่อนการพนันอีกหลายแห่งในพื้นที่ภาคตะวันออก จึงรวบรวมพยานหลักฐานจนนำมาสู่การจับกุมดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ จะควบคุมตัวนายสมชาย พร้อมพวก ไปทำการสอบปากคำ พร้อมกับแถลงข่าวชี้แจงรายละเอียดทางคดีต่อสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการอีกครั้งที่กองบังคับการปราบปรามต่อไป


ที่มา : https://www.komchadluek.net/news/crime/462019

สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดลำพูน จัดโครงการเสริมสร้างความโปร่งใสในการจัดซื้อ-จัดจ้าง ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ที่ โรงแรม กัชชัน พาโนรามา กอล์ฟ คลับ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานเปิดโครงการเสริมสร้างความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้าง ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดลำพูน  จัดโดย สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดลำพูน  โดยมีนางสาววิศรา รัตนสมัย  ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดลำพูน   กล่าวรายงาน  มีนายชาตรี กิตติธนดิตถ์  ปลัดจังหวัดลำพูน หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงาน และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานหน่วยงานขององค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น 58 หน่วยงาน และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง  จำนวน 140 คน  เข้าร่วมโครงการ

สืบเนื่องจากสภาพปัญหาการกระทำความผิดและเรื่องร้องเรียนที่ สำนักงาน ป.ป.ช. รับไว้ดำเนินการในปีที่ผ่านมา พบว่าในระดับประเทศและระดับจังหวัด จากข้อมูล สถิติเรื่องกล่าวหาที่สำนักงาน ป.ป.ช. รับไว้ดำเนินการในปี พ.ศ. 2563 ปรากฏว่าการกระทำความผิดมีสัดส่วนสูงที่สุด 2 อันดับแรก คือ 1. การจัดซื้อจัดจ้าง จำนวน  1,199 เรื่อง    2. ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จำนวน 1,024  เรื่อง โดยพบว่า จำนวน เรื่องร้องเรียนกล่าวหาเกี่ยวกับการกระทำความผิดการจัด จัดจ้างสูงเป็นลำดับที่ 1 ดังกล่าว หน่วยงานที่ถูกร้องเรียนกล่าวหา เป็นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นถึง 2,212 เรื่อง คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของเรื่องร้องเรียนกล่าวหาทั้งหมด

สำนักงาน ปปช. ประจำจังหวัดลำพูน จึงได้จัดโครงการดังกล่าวขึ้น โดยมีการเสวนา แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการให้ความรู้เกี่ยวกับพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560  และประเด็นปัญหาด้านพัสดุ ในเพื่อสร้างความตระหนักและความเข้าใจให้แก่ผู้บริหาร และข้าราชการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานเกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดลำพูน ในการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างด้วยความถูกต้องโปร่งใส อันเป็นการลดปัญหาการกระทำความผิดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ตลอดจนส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีการบริหารงานด้วยหลักธรรมาภิบาล เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน  ต่อไป

ภาพ/ข่าว  นายคมศักดิ์  หล่อเถิน

"อนุทิน" เยี่ยม รพ.สนามสโมสรตำรวจ มั่นใจมาตรฐานความปลอดภัย ป้องกันเชื้อหลุดสู่ชุมชน

24 มีนาคม 2564 ที่ โรงพยาบาลสนาม บริเวณสโมสรตำรวจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหารได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมมาตรการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 และมาตรฐานด้านความปลอดภัย ในการตั้งโรงพยายาลสนาม 

หลังการตรวจเยี่ยม นายอนุทิน กล่าวว่า การใช้โรงพยาบาลสนามในการควบคุมโรค เป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพ และใช้โดยทั่วไป ผู้ที่เข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ เป็นคนต่างด้าว ในวัยหนุ่มสาว ป่วยไม่แสดงอาการ ก็ต้องรักษาจนหาย ตามวิธีที่กำหนดไว้ แต่ถ้าหากแสดงอาการก็จะต้องส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล อาทิ โรงพยาบาลในเครือข่ายสถาบันกรมการแพทย์ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลนพรัตน์ โรงพยาบาลเลิดสิน  โรงพยาบาลในเครือข่ายของกรุงเทพมหานคร เป็นต้น

ในส่วนของการรักษา ทำอย่างเต็มที่ตามความเหมาะสม เมื่อผู้ป่วยหายป่วยแล้วก็ต้องผลักดันกลับประเทศ อย่างไรก็ตาม ในขั้นตอนดังกล่าวต้องประสานประเทศปลายทางให้มารับคนของตนเองกลับ ทางการไทย จะไม่นำใครไปทิ้งขว้าง 

ขอยืนยันว่า การตั้งโรงพยาบาลสนามแต่ละครั้งมีการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบมาก ต้องพิจารณาหลายปัจจัย ป้องกันการแพร่เชื้อสู่ชุมชนภายนอก ขอให้ประชาชนมั่นใจมาตรการ และความสามารถในการจัดการปัญ ทั้งนี้ ได้ จัดสรรวัคซีนแก่เจ้าหน้าที่ ตำรวจ พี่จะต้องทำงานเกี่ยวข้องกับการควบคุมโรคแล้วเพื่อสร้างความมั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่ 

สำหรับแผนการบริหารจัดการวัคซีนยังเป็นไปตามเป้า เดือนมิถุนายนจะมีการกระจายวัคซีนสู่ประชาชนจำนวน 5 ล้านโดส หลังจากนั้นจะเพิ่มมากขึ้นเป็น 10 ล้านโดสต่อเดือน ขอย้ำว่าประเทศไทย มีวัคซีนเพียงพอต่อความต้องการ

“บิ๊กตู่” เคาะงบกองทุนดีอี 500 ล้าน ดันเทคโนโลยี 5จี

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ดดีอี) ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้อนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือกองทุนดีอี สำหรับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 5จี ของประเทศไทยเพื่อการต่อยอดการใช้ประโยชน์ วงเงิน 500 ล้านบาท ตาม พ.ร.บ.การพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. 2560 พร้อมทั้งเห็นชอบร่างหลักเกณฑ์ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ของกองทุนดีอี สำหรับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 5จีด้วย 

“นายกรัฐมนตรียังสั่งให้ทุกส่วนราชการผลักดันให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงาน การใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ หรือคลาวด์กลางภาครัฐ เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ นำไปสู่การพัฒนาประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และความมั่นคง รวมทั้งบริการประชาชนให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ทุกระดับ ทุกช่วงวัย ทุกสาขาอาชีพ ส่งเสริมประชาชนใช้ดิจิทัลให้เกิดประโยชน์เพื่อเดินหน้าไปสู่รัฐบาลดิจิทัล หรือ อี - กัฟเวอร์เม้นท์  โดยการใช้จ่ายงบประมาณต้องไปเป็นอย่างเหมาะสม คุ้มค่า โปรงใส และเกิดประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนโดยรวม”

อย่างไรก็ตาม นายกฯ ย้ำในที่ประชุมว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาประเทศ ควบคู่กับการแก้ไขปัญหาความยากจนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเสริมสร้างความเข้มแข็ง แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้การวางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลมีความคืบหน้าอย่างมากเพื่อใช้ประโยชน์และขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 5 จี ของประเทศไทย เช่น โครงข่ายเน็ตประชารัฐ  รวมทั้งการเตรียมพร้อมเรื่องของปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ต่าง ๆ การนำเทคโนโลยีด้านนวัตกรรมมาใช้ในการดำเนินงานของทุกภาคส่วน นำไปสู่การเป็นดิจิทัลไทยแลนด์และดิจิทัลอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบ

กลุ่มเปราะบางแม่กลอง เฮ!! กระทรวงแรงงาน สร้างโอกาส มีงานทำ มีอาชีพ สร้างหลักประกันในชีวิต

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่สมุทรสงคราม ตรวจเยี่ยมโครงการขยายโอกาสการมีงานทำแก่กลุ่มเปราะบาง กิจกรรมส่งเสริมการประกอบอาชีพให้ผู้สูงอายุตรงตามความต้องการของตนเอง ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม เสริมสร้างภาวะทางร่างกาย จิตใจ ตระหนักถึงคุณค่าและศักยภาพของตนเองให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ 
นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานตรวจเยี่ยมโครงการขยายโอกาสการมีงานทำให้ผู้สูงอายุ กิจกรรมส่งเสริมการประกอบอาชีพให้ผู้สูงอายุ จังหวัดสมุทรสงคราม ณ วิสาหกิจชุมชนบ้านสวนนุกูล หมู่ที่ 4 ตำบลท้ายหาด อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม โดยมี นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย 

โดยนางธิวัลรัตน์ กล่าวว่า รัฐบาล ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบ สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และกลุ่มเปราะบาง ให้มีงานทำ มีอาชีพ มีรายได้ มีหลักประกันความมั่นคงในชีวิต

นางธิวัลรัตน์ กล่าวต่อว่า ในวันนี้ ท่านสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จึงได้มอบหมายให้ดิฉันลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อมาตรวจเยี่ยมโครงการขยายโอกาสการมีงานทำให้ผู้สูงอายุ กิจกรรมส่งเสริมการประกอบอาชีพให้ผู้สูงอายุ จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งมีผู้เข้ารับการอบรมเป็นผู้สูงอายุ 20 คน โดยกิจกรรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับการส่งเสริมการประกอบอาชีพที่ตรงตามความต้องการของตนเอง ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม รวมทั้งได้รับการเสริมสร้างภาวะทางร่างกาย จิตใจ ตระหนักถึงคุณค่าและศักยภาพของตนเองนำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดี 

โดยจัดอบรมหลักสูตร “การทำขนมไทยโบราณ” ได้แก่ การทำขนมบุหลันดั้นเมฆ ขนมช่อผกากรอง และขนมเปี๊ยะบัวหิมะ ในวันที่ 24 – 25 มีนาคม 2564 การฝึกอบรมในครั้งนี้จะทำให้ผู้เข้ารับการอบรมนำความรู้ที่ได้ไปประกอบอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ นำไปต่อยอดโดยการการส่งเสริมการมีงานทำ และส่งเสริมการประกอบอาชีพอิสระให้กับผู้สูงอายุ ผู้พิการ และกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ ให้มีรายได้สามารถพึ่งพาตนเองและมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นต่อไปได้อีกด้วย

“ประวิตร” รับ! ฉีดแอสตราเซเนกาแล้ว ไร้ผลข้างเคียง เผยพร้อมจิ้มเข็ม 2 อีก 3 เดือนข้างหน้า

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ ถึงกระแสข่าวการเดินทางไปฉีดวัคซีน ป้องกันเชื้อไวรัส covid-19 ของบริษัทแอสตราเซเนกา เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมาที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์  ว่า ตนเองได้ฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาจริง ซึ่งไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ และมีอาการเป็นปกติ รวมไปถึงยังมีอารมณ์ดี ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ยังเปิดเผยอีกว่า การฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 จะฉีดอีกครั้งในอีก 3 เดือนข้าง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top