Monday, 23 June 2025
TheStatesTimes

กองทัพเรือแจ้ง! ซื้อระบบเรดาร์จากบริษัทคู่สัญญา จัดซื้อโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้

เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ (บก.ทร.) พล.ร.ท.เชษฐา  ใจเปี่ยม  โฆษกกองทัพเรือ  เปิดเผยถึงกรณีที่บริษัท เอวิเอ แซทคอม จำกัด ปรากฏเป็นคู่สัญญากับกองทัพเรือซื้ออะไหล่และพัสดุ ในปีงบประมาณ 2563 - 2564  ทั้งที่ บริษัท เอวิเอ แซทคอม จำกัด เคยถูกตัดสินให้แพ้คดีร่วมกันฉ้อโกงขายเครื่องตรวจจับสารเสพติดอาวุธและวัตถุระเบิด GT200  และ ALPHA6 คดีดำเลขที่ อ284/62 คดีแดงที่ 931/62 เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2562 นั้น

 

โดยระบุว่า กรณีการทำสัญญาจัดซื้ออะไหล่และพัสดุตามการรายงานข่าวนั้น เป็นการจัดซื้ออะไหล่สำหรับระบบเรดาร์ ระบบสื่อสารและระบบควบคุมการยิง ตราอักษร SAAB จากบริษัท SAAB ประเทศสวีเดน ที่กองทัพเรือได้ดำเนินการจัดซื้อในปีงบประมาณ 2563 โดยระบบเรดาร์ ระบบสื่อสารและระบบควบคุมการยิงนี้ กองทัพเรือได้จัดหามาจากบริษัท SAAB และติดตั้งไว้ใช้ในราชการในเรือรบอยู่แล้ว 

.

ทำให้การจัดหาอะไหล่เพื่อการซ่อมบำรุงจำเป็นต้องจัดหาจากบริษัทผู้ผลิตที่เป็นเจ้าของระบบหรือเจ้าของผลิตภัณฑ์เท่านั้น ไม่สามารถจัดซื้อจากบริษัทผู้ผลิตรายอื่นได้ ซึ่งบริษัท SAAB ได้แต่งตั้งบริษัท เอวิเอ แซทคอม จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายอะไหล่ประเภทดังกล่าวให้กับหน่วยงานภาครัฐเพียงรายเดียวภายในประเทศไทย การจัดซื้ออะไหล่นี้ทำโดยวิธีเฉพาะเจาะจง เนื่องจากเป็นการจัดซื้อผ่านตัวแทน

 

นอกจากนี้ ในขณะที่ทำสัญญานั้น บริษัท เอวิเอ แซทคอม จำกัด ยังไม่ได้ถูกระบุชื่อให้เป็นผู้ทิ้งงานในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง กองทัพเรือจึงสามารถทำสัญญากับบริษัทตามพระราชบัญญัติจัดซื้อจัดจ้างพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ได้

 

“ยืนยันว่า กองทัพเรือ มุ่งมั่นในการเป็นกองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ เป็นที่พึ่งของประชาชนและบริหารจัดการด้วยความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งกระบวนการจัดหายุทโธปกรณ์เป็นไประเบียบราชการทุกประการ” พล.ร.ท.เชษฐา กล่าว 

‘ราชกิจจานุเบกษา ประกาศแต่งตั้ง 4 รัฐมนตรีใหม่ในรัฐบาลประยุทธ์ 2/4 อย่างเป็นทางการ 3 รมต.ป้ายแดง ‘ชัยวุฒิ’ นั่ง รมว.ดีอีเอส ‘สินิตย์’ นั่งรมช.พาณิชย์ ส่วน ‘ตรีนุช’ นั่งรมว.ศึกษา ตามโผ ส่วน ‘วีรศักดิ์’ ย้ายจาก รมช.พาณิชย์ไป รมช.คมนาคม

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี ความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 9 มิถุนายน 2562 แล้ว และแต่งตั้งรัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดิน ตามประกาศลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2562 และประกาศครั้งสุดท้าย ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2563 นั้น

บัดนี้ นายกรัฐมนตรีได้กราบบังคมทูลว่า ได้มีรัฐมนตรี 3 ตำแหน่ง ประกอบด้วย 1. นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม 2. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 3.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี เนื่องจากเป็นผู้ต้องคำพิพากษาให้จำคุก ทำให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ สมควรแต่งตั้งรัฐมนตรีแทนตำแหน่งที่ว่างและปรับปรุงรัฐมนตรีบางตำแหน่ง เพื่อความเหมาะสมและบังเกิดประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดิน

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้

1.ให้นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี

2.ให้แต่งตั้งรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้ นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสินิตย์ เลิศไกร เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 22 มี.ค. 2562 เป็นปีที่ 6 ในรัชกาลปัจจุบัน

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

“ธนาธร” บุก “เมืองกาญจน์” ปลุกเลือก “อัธยาศัย ประเสริฐผล” ชูนโยบายพัฒนาศูนย์เด็กเล็ก - ศูนย์กีฬาเยาวชน แห่รอบเมืองคนต้อนรับเพียบ

วันที่ 23 มีนาคม ที่จังหวัดกาญจนบุรี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เดินทางพบปะ ผู้สมัครนายกเทศมนตรี และทีมผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) ในนามคณะก้าวหน้า โดยในส่วนของเทศบาลเมืองกาญจนบุรี คณะก้าวหน้าส่ง นายอัธยาศัยประเสริฐผล ลงสมัครในตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองกาญจนบุรี เบอร์ 3 พร้อมส่งผู้สมัคร สท.ครบทั้งสามเขต โดยหลังการพูดคุย ได้เดินทางไปดูศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก (เตาปูน 3 ) ซึ่งตั้งอยู่ในชุมชนแออัด มีครู 1 คน ดูแลเด็กก่อนวัยเรียนถึง 18 คน ซึ่งผู้สมัครคณะก้าวหน้ามีนโยบายที่จะพัฒนาศูนย์แห่งนี้ 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น นายธนาธรและนายอัธยาศัย เดินทางไปที่ บ.ข.ส.เพื่อดู แนวทางการพัฒนาพื้นที่ ก่อนที่จะขึ้นรถแห่ไปยังศูนย์กีฬาเยาวชนของเทศบาล ซึ่งปัจจุบันอยู่ในสภาพรกร้าง ต้องปรับปรุงพัฒนาอีกมากเพื่อให้อำนวยความสะดวกประชาชนได้อย่างเต็มศักยภาพ ก่อนที่จะขึ้นรถแห่อีกครั้งไปตามถนนแม่น้ำแคว โดยมีประชาชนตลอดสองข้างทางโบกไม้โบกมือให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก และปิดท้ายที่การเดินพบปะพ่อค้าแม่ค้าบริเวณตลาดสะพานข้ามแม่น้ำแคว

 

นายอัธยาศัย กล่าวว่า ตลอดช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา ตนและทีมงานเดินพบปะประชาชนในพื้นที่ เคาะประตูบ้าน และมั่นใจว่าครบทุกหลังคาเรือนแล้วขณะนี้กำลังจะเดินเป็นรอบที่สอง ซึ่งแต่ละบ้านที่เราไปนั้น ใช้เวลาพูดคุยค่อนข้างนาน เพราะเราต้องการแนะนำตัวและแนะนำนโยบายให้ประชาชนได้รับทราบ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งนี้  

.

เนื่องจากเราไม่ซื้อสิทธิ์ ไม่ซื้อเสียง จุดแข็งที่เรามี คือ นโยบายและความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างเต็มที่ ที่จะนำนโยบายนี้ไปทำให้เกิดขึ้นจริง เพื่อจะเปลี่ยนชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเมืองกาญจนบุรีให้ดีขึ้น อย่างเช่นวันนี้ที่พาคุณธนาธรไปดูศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และศูนย์กีฬาเยาวชน ก็เพื่อจะยืนยันว่าเราต้องการเข้ามาปรับปรุงที่แห่งนี้ให้ดีขึ้น ให้เกิดประโยชน์กับชาวเมืองกาญจน์ให้มากที่สุด

 

"ตั๊น จิตภัสร์" นำทีม กมธ.ตำรวจฯ ลุยลงพื้นที่ชุมพร บุกตรวจเข้มด่านตรวจสกัดยาเสพติด เล็งประสานผู้ว่าฯ-อปท. เสริมเขี้ยวเล็บอุปกรณ์ไฮเทค พ่วงสวัสดิการเป็นขวัญกำลังใจ จนท.

วันที่ 23 มี.ค. 2564 นางสาวจิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร ส.ส. บัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมนายสราวุธ อ่อนละมัย ส.ส.ชุมพร เและนายประมวล พงศ์ถาวราเดช ส.ส ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมด่านตรวจความมั่นคงบ้านพละ อ.ปะทิว จ.ชุมพร และด่านตรวจยายพาหนะ ชุมพร กก.2 บก.ปส.4 อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร  

 

พร้อมทั้งได้มอบถุงยังชีพและน้ำดื่มเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ให้เจ้าหน้าที่ โดยมี พล.ต.ต.วิมล พิทักษ์บูรพา รอง ผบช.ภ.8  พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผบก.ภ. จ. ชุมพร  พ.ต.อ.ภาณุเดช ณ พัทลุง รอง ผบก.ภ.จ. ชุมพร  พล.ต.ต.วุฒิพงษ์ นาวิน ผบก.ปส.4 และ พ.ต.อ.ภวินทร์ ภานุมาส ผกก.2 บก.ปส.4 ร่วมตรวจลงพื้นที่ด้วย

 

นางสาวจิตภัสร์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ทั้งสองแห่งได้ใช้ระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทั้งการตรวจค้นยาเสพติดผ่านเครื่องสแกนยาเสพติดในรถยนต์ การรับรู้หมายเลขทะเบียนอัตโนมัติ หรือ (License Plate Recogition) อีกทั้งในอนาคตจะมีระบบสแกนใบหน้าบุคคลมาใช้ตรวจร่วมด้วย  แต่ยังพบปัญหา คือ อาคารสถานที่ปฏิบัติงาน และที่พักเจ้าหน้าที่คับแคบและมีสภาพทรุดโทรม ทั้งยังขาดแคลนอุปกรณ์ความปลอดภัย อาทิ  เสื้อสะท้อนแสง เครื่องหมายจราจร รวมถึงแบริเออร์ตั้งไหล่ทาง 

 

ซึ่งทางคณะกมธ. ตำรวจฯ จะร่วมกับส.ส.พื้นที่ประงานงานบูรณาการร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดและส่วนท้องถิ่นในจัดหางบพัฒนาจังหวัดเพื่อแก้ปัญหานี้ นอกจากนี้ทางด่านตรวจยังมีการนำร่องโครงการโคกหนองนาโมเดลและเศรษฐกิจพอเพียงช่วยลดค่าใช้จ่ายของกำลังพลอีกด้วย ซึ่งการลงพื้นที่จริง ทำให้รับทราบถึงปัญหา อุปสรรคและภาพรวมของการปฏิบัติงาน เพื่อที่จะดูแลด้านงบประมาณ สวัสดิการ กำลังพลและด้านอื่นๆ ที่มีผลต่อการปฏิบัติหน้าที่  เมื่อสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พร้อมทั้งให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ห่างไกล ที่ตั้งด่านสกัดกั้นเพื่อป้องกันปราบปรามปัญหายาเสพติดของประเทศให้มีความเข้มแข็ง ด้วยการสนับสนุนเทคโนโลยี เครื่องมืออุปกรณ์ที่ทันสมัย รวมถึงการพัฒนาทักษะและทบทวนยุทธวิธีให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติการประจำด่านตรวจต่อไป

 

“คณะ กมธ. การตำรวจ สภาผู้แทนฯ ได้ให้ความสำคัญกับปัญหายาเสพติด ซึ่งเป็นปัญหาหลักที่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน การสกัดกั้นของด่านตรวจอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติด เข้าไปในพื้นที่ต่างๆโดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ ซึ่ง กมธ.ตำรวจ  สภาฯจะนำข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับไปประกอบการพิจารณาศึกษา รวมทั้งนำเสนอความคิดเห็นของข้าราชการตำรวจในพื้นที่ และไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางในการให้ความช่วยเหลือ ผลักดัน และสนับสนุนให้เกิดการแก้ไขปัญหาต่อไป” รองประธาน กมธ.ตำรวจ สภาฯ กล่าว

ลุ้น! “คนละครึ่ง” เฟส 3 คนเคยลงทะเบียนแล้วลุ้นเงินเข้าเลย

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงการจัดทำโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการออกแบบโครงการคนละครึ่ง รอบใหม่ เบื้องต้นผู้ได้รับสิทธิรายเดิมอาจจะไม่ต้องลงทะเบียนใหม่อีกครั้ง เนื่องจากมีข้อมูลในแอปพลิเคชั่นเป๋าตังแล้ว แต่โครงการรอบใหม่จะไม่ได้ต่อโครงการทันทีในสิ้นเดือนมี.ค.นี้ หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการที่ระยะที่ 2 เพราะอาจต้องรอให้โครงการโครงการเราชนะ และ ม.33 เรารักกัน สิ้นสุดในช่วงเดือน พ.ค.64 ก่อน

.

“กระทรวงการคลัง จะมีการพิจารณารายละเอียดของโครงการก่อน เพราะตอนนี้เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจยังมีอยู่ถึงในช่วงเดือนพ.ค.นี้ แต่จะพยายามผลักดันให้มีเงินออกมาดูแลเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง”  

.

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังขอจัดการเรื่องร้านค้าทุจริตให้เรียบร้อยก่อนจะดำเนินโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 โดยตอนนี้มีร้านค้าที่ถูกดำเนินคดีและถูกจับตาจากภาครัฐที่ส่อเกิดการทุจริตอยู่จำนวนหลายร้อยแห่ง ซึ่งในเรื่องนี้จะต้องหาวิธีทำให้รัดกุม ก่อนจะเปิดโครงการระยะต่อไป 

คนหางาน เตรียมตัวให้พร้อม “Bangkok Job Fair 2021”  เสิร์ฟตำแหน่งงานกว่า 5 พันอัตรา

กระทรวงแรงงาน เตรียมตำแหน่งงานกว่า 5 พันอัตรา รองรับคนหางาน กิจกรรมสาธิต 20 อาชีพอิสระติดเทรนด์คนรุ่นใหม่ หาไอเดียธุรกิจ Food Truck รวมทั้งรับบริการและคำปรึกษาด้านแรงงานจากเจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงแรงงาน ในงาน BANGKOK JOB FAIR 2021 ณ ฟอร์จูนสตรีท ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ กรุงเทพมหานคร วันศุกร์ที่ 26 และ เสาร์ที่ 27 มีนาคม 2564 

 

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เชิญชวน ผู้สนใจสมัครงาน และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมงานได้ในวันที่ 26 – 27 มีนาคม 2564 ตั้งแต่เวลา 09.00 - 16.30 น. ที่บริเวณลานฟอร์จูนสตรีท (หน้าอาคาร) ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ กรุงเทพมหานคร โดยภายในงานมีนายจ้าง/สถานประกอบการชั้นนำ เข้าร่วมรับสมัครงาน จำนวน 40 บริษัท อาทิ  บริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) บ.ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด  บ. เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด  บ.ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด  บ.เอกชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (มหาชน)  บ.สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)  บ. ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) บ. ไทยน้ำทิพย์ จำกัด บ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) บ.บางจากกรีนเนท จำกัด  และ บริษัท ซีพี แลนด์ จำกัด (มหาชน)  เป็นต้น ซึ่งมีตำแหน่งงานว่าง จำนวนกว่า 5,000 อัตรา เช่น วิศวกรโยธา สถาปนิก เขียนแบบ ผู้ช่วยผู้จัดการร้าน พนักงานบัญชี เจ้าหน้าที่ธุรการ พนักงานบริการ และพนักงานทั่วไป (ฝ่ายผลิต)

 

“สำหรับงาน “Bangkok Job Fair 2021” เป็นงานที่กระทรวงแรงงานตั้งใจจัดขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสในการสมัครงาน คนหางานได้คัดเลือกตำแหน่งงานว่างที่ตรงกับความรู้ความสามารถ และได้สมัครงานกับนายจ้าง/สถานประกอบการจำนวนมากในคราวเดียว ทั้งเพื่ออำนวยความสะดวกให้นายจ้าง/สถานประกอบการและผู้สมัครงานได้พบและพิจารณาคัดเลือกกันโดยตรง 

 

“ซึ่งการส่งเสริมการจ้างงาน และแก้ปัญหาการว่างงานเป็น 1 ในภารกิจหลักของกระทรวงแรงงาน ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำรัฐบาล และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับดูแลกระทรวงแรงงานให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นปัญหาที่กระทบต่อการดำเนินชีวิต การใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จนถึงเศรษฐกิจในระดับประเทศ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว

 

ด้านนายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า สำหรับผู้ที่กำลังมองหางาน สามารถสมัครงานโดยตรงกับนายจ้าง/สถานประกอบภายในงานได้ทันที เพื่อความสะดวกรวดเร็วผู้สมัครงานอาจเตรียมเอกสารสมัครงาน ได้แก่ เรซูเม่ รูปถ่าย ใบรับรองผลการศึกษา และเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการพิจารณาของนายจ้าง/สถานประกอบการ นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ได้แก่ กิจกรรมการสาธิตประกอบอาชีพอิสระที่ได้รับความนิยม และเป็นที่ต้องการของตลาดงาน วันละ 10 อาชีพ อาทิ การทำกระเป๋าบุผ้าปักริบบิ้น สายคล้องหน้ากากอนามัย สบู่สมุนไพร ตระกร้าผ้าย้อมคราม การทำเค้กกล้วยหอม บราวนี่ ขิงอ่อนดอง เป็นต้น  

 

รวมไปถึง ธุรกิจแฟรนไชน์ในรูปแบบ Food Truck  เช่น ซดเตี๋ยว (ก๋วยเตี๋ยวเป็ด) กรอบอยู่ได้ (ลูกชิ้นปลาระเบิด)  Supper Sip (เครื่องดื่มโกโก้) และ Takoyaki by Jenny (ขนมครกญี่ปุ่น อาหารญี่ปุ่น) รวมทั้งการให้คำปรึกษาปัญหาด้านแรงงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ได้แก่ การให้บริการจัดหางานสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ โดยกรมการจัดหางาน  การให้บริการคำปรึกษา คำแนะนำ ตามพรบ.คุ้มครองคนหางาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน  การให้บริการคำปรึกษา คำแนะนำ การฝึกทักษะฝีมือแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน  การให้บริการคำปรึกษา คำแนะนำ การขึ้นทะเบียนประกันตน ม.33, ม.39, ม.40 และสิทธิประโยชน์ต่างๆ ตามพรบ.ประกันสังคม โดยสำนักงานประกันสังคม การให้บริการตรวจสุขภาพ โดยโรงพยาบาล วิภาราม พัฒนาการ และกิจกรรมบนเวที เสวนาหัวข้อ “ ใช้ชีวิตให้มีความสุขในยุคโควิด ” โดยพระมหาสมปอง ตาลปุตโต  และพระอาจารย์ ดร.สมชาย รตนวํโส ในวันเสาร์ที่ 27 มีนาคม เวลา 15.00 น.

 

สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางมาร่วมงาน “Bangkok Job Fair 2021” สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว โดยศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกพระราม 9 ติดกับโรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว ฟอร์จูน และเทสโก้ โลตัส ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน 3 จุด ได้แก่ จุดขึ้นลงทางด่วนพระราม 9 ขั้นที่ 2  จุดขึ้นลงทางด่วนรัชดาภิเษก –อโศกดินแดง จุดขึ้นลงทางด่วนเอกมัย – รามอินทรา  หรือเดินทางอย่างสะดวกสบาย ด้วยรถไฟฟ้า ใต้ดิน (MRT) สถานีพระราม 9 ทางออกที่ 1 

 

รถไฟฟ้า BTS สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ต่อรถเมล์ หรือรถตู้ปรับอากาศ มีนบุรี-อนุสาวรีย์ (ลงหน้า อสมท.) หรือสถานีอโศก ต่อรถไฟใต้ดินลงสถานีพระราม 9 ทางออกที่ 1 หรือเดินทางด้วย รถตู้ปรับอากาศ  สะพานใหม่-อสมท., งามวงศ์วาน-อสมท., มีนบุรี-อนุสาวรีย์ (ลงหน้า อสมท.) เดินทางด้วย รถโดยสารประจำทางสาย  172 ,98 ,171  ,36 ,73  ,73ก ,137 ,168 ,204 ,206 ,514 ,517 ,528 และ 529

 

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร.1694

“บิ๊กตู่” เร่งเดินหน้าพัฒนาประเทศ สู่การเป็นดิจิทัลไทยแลนด์และดิจิทัลอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบ พร้อม บอร์ดดีอี อนุมัติงบ 500 ล้านบาท ขับเคลื่อนโครงการนำร่อง 5G

วันที่ 24 มี.ค. 2564 ณ ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ดดีอี) ครั้งที่ 1/2564 โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รักษาราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมด้วย

 

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาประเทศ ควบคู่กับการแก้ไขปัญหาความยากจน ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเสริมสร้างความเข้มแข็ง แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้การวางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลมีความคืบหน้าอย่างมาก เพื่อใช้ประโยชน์และขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 5G ของประเทศไทย เช่น โครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้ครอบคลุมทั่วถึงทั้งประเทศเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจภายในประเทศ (เน็ตประชารัฐ)  

 

รวมทั้งการเตรียมพร้อมเรื่องของปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ต่าง ๆ ด้วยการนำเทคโนโลยีด้านนวัตกรรมมาใช้ในการดำเนินงานของทุกภาคส่วน นำไปสู่การเป็นดิจิทัลไทยแลนด์และดิจิทัลอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนให้บรรลุผลตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ

 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังเน้นย้ำทุกส่วนราชการผลักดันให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงาน การใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลขนาดใหญ่หรือคลาวด์กลางภาครัฐ เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ นำไปสู่การพัฒนาประเทศในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และความมั่นคง รวมทั้งบริการประชาชนให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม  ทุกระดับ ทุกช่วงวัย ทุกสาขาอาชีพ ส่งเสริมประชาชนใช้ดิจิทัลให้เกิดประโยชน์เพื่อเดินหน้าไปสู่รัฐบาลดิจิทัล หรือ e-Government โดยการใช้จ่ายงบประมาณต้องไปเป็นอย่างเหมาะสม คุ้มค่า โปรงใส่ เกิดประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนโดยรวมอย่างแท้จริง

 

ทั้งนี้ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบและอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมสำหรับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 5G ของประเทศไทย เพื่อการต่อยอดการใช้ประโยชน์ ตามมาตรา 26 (6) วงเงินงบประมาณ 500 ล้านบาท

 

พร้อมเห็นชอบ (ร่าง) หลักเกณฑ์ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ของกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตามมาตรา 26 (6) แห่ง พ.ร.บ.การพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. 2560 สำหรับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 5G ของประเทศไทย โดยโครงการที่เข้าเกณฑ์ได้รับการพิจารณาสนับสนุน ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขหลัก ได้แก่ เป็นโครงการที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการขับเคลื่อน 5G แห่งชาติ เป็นโครงการนำร่องที่มีความสอดคล้องกับแผนปฏิบัติการว่าด้วยการส่งเสริมการใช้ประโยชน์เทคโนโลยี 5G ของประเทศไทย ระยะที่ 1 โดยเป็นโครงการที่มีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนต่อยุคดิจิทัล หรือจะส่งผลกระทบในวงกว้าง และโครงการที่ขอรับการสนับสนุน ต้องมีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กองทุนดีอี)

 

ในส่วนของความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย ที่มีรายงานจัดอันดับช่วงต้นปีนี้โดย Ookla Speedtest ผู้ให้บริการทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตระดับโลก ระบุว่า อินเทอร์เน็ตบ้าน (Fixed Broadband) ของไทย มีความเร็วเฉลี่ยในการดาวน์โหลดสูงถึง 308.35 เมกะบิท/วินาที (Mbps) ขึ้นแท่นอันดับ 1 ของโลก

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า เทคโนโลยี 5G พลิกโฉมการใช้ประโยชน์ในมิติทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม โทรคมนาคม ระบบสาธารณูปโภค ภาคการขนส่ง ภาคการเกษตร ด้านสาธารณสุข เนื่องจาก อย่างก้าวกระโดดช่วยยกระดับด้านเศรษฐกิจและสังคม ของประเทศไทยอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

กองทัพอากาศ ยัน ! กรณีการจัดซื้อจัดจ้าง โปร่งใสตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน

เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2564 ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) พล.อ.ท.ฐานัตถ์ จันทร์อำไพ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ ในฐานะโฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการรายงานข้อมูลของสื่อมวลชนในประเด็นที่ บริษัท เอวิเอ แซทคอม จำกัด ได้ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีความกรณีการจัดซื้อเครื่องมือ GT-200 ซึ่งมีข้อพิพาทต่อสู้คดีกับหน่วยงานภาครัฐในชั้นศาล โดยมีการตั้งข้อคำถามว่าเพราะเหตุใดจึงยังมีการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างกับกองทัพอากาศ มีข้อมูลสำคัญดังนี้

 

1.ในปี 2563 กองทัพอากาศได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างกับ บริษัท เอวิเอ แซทคอม จำกัด จริง เพื่อดำรงขีดความสามารถในการป้องกันทางอากาศตามภารกิจของกองทัพอากาศ

 

2.การจัดซื้อจัดจ้าง มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดหาพัสดุอะไหล่และจ้างเหมาการซ่อมบำรุง ระบบป้องกันทางอากาศ (ระบบ ACCS) ระบบเรดาร์เคลื่อนที่ แบบ Giraffe – 40 และ Giraffe – 180 

 

3.การดำเนินการจัดซื้อพัสดุอะไหล่และจ้างเหมาซ่อมบำรุงมีความจำเป็นต้องดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง กับ บริษัท เอวิเอ แซทคอม จำกัด เนื่องจากระบบเรดาร์และระบบบัญชาการและควบคุมการป้องกันทางอากาศถูกใช้มาเป็นระยะเวลายาวนาน ส่งผลให้อะไหล่บางส่วนหมดอายุและหยุดสายการผลิต ไม่สามารถจัดหาตามแหล่งจัดหาทั่วไปได้ 

 

ซึ่งบริษัท เอวิเอ แซทคอม จำกัด ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้แทนอย่างถูกต้องตามกฎหมายเพียงผู้เดียวในประเทศไทย ในการจัดหาพัสดุอะไหล่และการซ่อมบำรุงรักษาอุปกรณ์จากบริษัทผู้ผลิตที่กองทัพอากาศได้จัดซื้อซึ่งมีความจำเป็นในการดำเนินการ เพื่อมิให้มีผลกระทบต่อภารกิจของทางราชการ 

 

4.ก่อนการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง กองทัพอากาศได้ดำเนินการจัดตั้งคณะทำงานดำเนินการตรวจสอบ บริษัท เอวิเอ แซทคอม แล้ว ไม่พบหลักฐานว่าเป็นผู้ที่อยู่ในบัญชีผู้ทิ้งงานตาม พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ  พ.ศ.2560 ประกอบระเบียบของกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 

 

“กองทัพอากาศ ขอยืนยันว่าการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างของกองทัพอากาศได้ดำเนินการด้วยความรอบคอบและผ่านการพิจารณาของ ผู้เชี่ยวชาญ คณะกรรมการที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง และผู้เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงความถูกต้อง รัดกุม ตามระเบียบของทางราชการเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ” โฆษกกองทัพอากาศ กล่าว

ปปช.จัดอบรมเยาวชนเชิงวิชาการ โครงการ STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริต สร้างเยาวชน Anti-corruption Young Leaders (ACYL)

วันที่ 23 มีนาคม 2564 เวลา 09.30 น. ที่หอประชุมอำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี “ นายจรัส คงเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด เป็นประธานเปิดโครงการ STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริต สร้างเยาวชน Anti-corruption Young Leaders (ACYL) โดยมี นายณรงค์ชัย ภักดีณรงค์ชัย ประธานชมรม STRONG จิตพอเพียงต้านทุจริต จังหวัดปราจีนบุรี เป็นผู้กล่าวรายงาน

โดยทางชมรม STRONG – จิตพอเพียง ต้านทุจริต จังหวัดปราจีนบุรี ได้บูรณาการความร่วมมือกับสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดปราจีนบุรี ดำเนินการจัดโครงการ STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริต จังหวัด ปราจีนบุรี กิจกรรม A3 สร้างเยาวชน Anti-corruption Young Leaders (ACYL)

ในปัจจุบันปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน ทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากประชาชนทุกคนมองว่าปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันเป็นปัญหาที่ไกลตัว และมีค่านิยมที่ผิดในการยอมทน ยอมเฉย จนกระทั่งชินชากับปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันซึ่งรัฐบาลและสำนักงาน ป.ป.ช. ได้พยายามสร้างการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต น้อมนำหลักปรัญชาของเศรษฐกิจพอเพียง มาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ทำให้ทุกวันนี้เกิดกระแส การตื่นตัวของประชาชนต่อการทุจริตคอร์รัปชันมากขึ้น ให้ความสนใจต่อข่าวสารและตระหนักถึงผลกระทบของการทุจริตคอร์รัปชัน ที่มีต่อประเทศมากขึ้น มีการแสดงออกซึ่งการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ทั้งในชีวิตประจำวัน และการแสดงออกผ่านสื่อสาธารณะและสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ

ซึ่งการจัดกิจกรรมในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันการป้องกันการทุจริตเชิงรุก ด้วยการสร้างเสริมให้เยาวชนมีจิตพอเพียงต้านทุจริตด้วยกรอบ STRONG จนกระทั่งพัฒนาเป็นวัฒนธรรมต้านทุจริต ปลูกฝังวิธีคิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัว และผลประโยชน์ส่วนรวม รวมทั้งความอายและไม่ทนต่อการทุจริตทุกรูปแบบ เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพที่จะร่วมสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต ปลูกฝังค่านิยมซื่อสัตย์สุจริตให้แก่ทุกคน ผ่านกระบวนการกิจกรรมการต่อต้านการทุจริต และเกิดการป้องปรามการทุจริตในชุมชน เพื่อจับตามอง ดูแลพื้นที่ การประกอบกิจการหรือการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ซึ่งจะส่งผลให้การทุจริตเกิดได้ยากมากขึ้น เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่ประเทศให้มีความโปร่งใส ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ

ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 พ.ศ.2560 – 2564 วิสัยทัศน์ "ประเทศไทยใสสะอาด ไทยทั้งชาติต้านทุจริต" รูปแบบการจัดกิจกรรมในวันนี้ เป็นการอบรม เชิงปฏิบัติการ แก่เยาวชน Anti-corruption Young Leaders (ผู้นำเยาวชนต่อต้านการทุจริต) แบ่งกลุ่มทำกิจกรรมการมีส่วนร่วมจำนวน 5 กลุ่ม ในการกำหนดข้อเสนอแนะที่เป็นแนวทางในการแก้ปัญหาการทุจริตในพื้นที่ อย่างน้อยกลุ่มละ 1 เรื่องกลุ่มเป้าหมายผู้เข้าร่วมกิจกรรม ประกอบด้วย เยาวชน จากโรงเรียนประจันตราษฎรบำรุง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่4 - 6 จำนวน 100 คน และโค้ชกรรมการชมรมฯ สมาชิกชมรมฯ จำนวน 10 คน


กองบรรณาธิการข่าว รายงาน

ททท.นำคณะสื่อมวลชนสำรวจวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ที่วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวชุมชนบ้านทุ่งประดู่ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำคณะสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ ขึ้นรถแท็กซี่ชุมชน หรือรถซาเล้ง สำรวจแหล่งท่องเที่ยวและวิถีชีวิตชาวชุมชนทุ่งประดู่ ทั้งวิถีประมงและวิถีเกษตร เริ่มด้วยกิจกรรม “สปาทราย” หรือ “ห่มทราย” บริเวณหาดสน ซึ่งเป็นภูมิปัญญาของชุมชนที่สืบทอดกันมาเพื่อเป็นการบำบัดความเครียด และยังขับสารพิษออกจากร่างกายด้วย แถมทรายที่นี่ยังมีรุธาตุที่มีคุณสมบัติพิเศษช่วยดูดซับสารพิษ ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต บรรเทาอาการเหน็บชาและอัมพฤกษ์ได้ด้วย

จากนั้นก็ไปตามเส้นทางเลียบชายทะเล แวะชมสตรีทอาร์ตและสะพานไม้ชายเลทับสะแก ที่เป็นสะพานปลาเก่าแก่สร้างยื่นออกไปในทะเลและมีแห่งเดียวในทะเลอ่าวไทย  ซึ่งได้กลายเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของอำเภอทับสะแก ต่อด้วยเยี่ยมชมสวนมะพร้าวลุงบูรณ์ ที่รวบรวมมะพร้าวทานสดไว้หลายสายพันธุ์ โดยเฉพาะมะพร้าวนกคุ่ม ที่มีรสชาติน้ำหวาน หอม เนื้ออร่อย ผลเล็ก ต้นเตี้ย ออกลูกดก ทลายใหญ่  เมื่อทุกคนได้ชิม ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสมคำร่ำลือจริงๆ และได้ร่วมกันทำของที่ระลึกจากกะลามะพร้าวอีกด้วย


ภาพ/ข่าว : อโนทัย งานดี (พังงา)


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top