Sunday, 15 June 2025
TheStatesTimes

สตช.แสดงความเสียใจ ‘ผบ.หมู่ (ป.) สภ.แกลง’ เสียชีวิตขณะดูแลความปลอดภัยในการประชุม APEC 2022

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โพสต์แสดงความเสียใจการจากไปของ ด.ต.อดุลย์ มั่งคั่ง ผู้บังคับหมู่ งานป้องกันปราบปราม สภ.แกลง จ.ระยอง ที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยในการประชุม ‘APEC 2022’

เมื่อวันที่ 20 พ.ย. เพจ ‘สำนักงานตำรวจแห่งชาติ’ โพสต์แสดงความเสียใจการจากไปของ ด.ต.อดุลย์ มั่งคั่ง ผู้บังคับหมู่ งานป้องกันปราบปราม สภ.แกลง จ.ระยอง ที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยในการประชุม ‘APEC 2022’

โดยทางเพจรายงานว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติแสดงความเสียใจ ‘ผบ.หมู่ (ป.) สภ.แกลง’ เสียชีวิตในห้วงภารกิจเอเปก สั่งดูแลสวัสดิการเต็มที่ เลื่อนยศเป็น ร.ต.ต. มอบเงินช่วยเหลือครอบครัว 1.96 ล้านบาท

การบินค่อนโลก ดันแผนเหลือนักบินเดียว เพื่อลดต้นทุน ‘เยอรมนี-อังกฤษ-นิวซีแลนด์’ ถกแล้ว หวังทำจริง 2027

(21 พ.ย. 65) เพจ ‘เดือดทะลักจุดแตก’ โพสต์ข้อความกรณีการบินค่อนโลก ดันแผนเหลือนักบินคนเดียว ระบุว่า...

นี่เป็นสิ่งที่จินตนาการไม่เคยออกว่าจะมีอะไรแบบนี้

เราน่าจะคุ้นเคยกับหนังฝรั่งนะครับ เวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน นักบิน 2 คนในห้องบังคับจะช่วยกันกู้สถานการณ์  ปกติเครื่องบินจะเป็นระบบขับขี่อัตโนมัติเสมอ นักบินนั่งไว้ป้องกันกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน ก็จะเข้าควบคุมในทันใด ... ซึ่งในหนัง นักบินหลักคนเดียวมักจะเอาไม่อยู่ ต้องให้ผู้ช่วยเข้ามาแก้ไขสถานการณ์เสมอ ย้ำว่า ‘เสมอ’

เอ๊ะ แต่ว่ามันในหนังนะ ... แต่หนังพวกนี้ ส่วนใหญ่ก็ชอบสร้าง ‘อิงจากเหตุการณ์จริง’ นะครับ
 

‘บิ๊กตู่’ ปลื้ม!! IMF ชี้ เศรษฐกิจไทยขยายตัว ท่ามกลางการชะลอตัวของทั่วโลก

เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 65 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้รับทราบถึงรายงานที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประมาณการเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ร้อยละ 3.7 ในปี 2566 จากร้อยละ 2.8 ในปีนี้ พร้อมกับคาดว่าการว่างงานของไทยจะอยู่ในอัตราต่ำที่สุดในเอเชียแปซิฟิกที่ 1.0% โดยไทยเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในเอเชียที่ IMF มองว่าเศรษฐกิจจะยังขยายตัวได้ท่ามกลางการชะลอตัวของทั่วโลกที่เผชิญกับความท้าทายจากภาวะเงินเฟ้อ และต้นทุนการครองชีพที่สูงขึ้น

นายกรัฐมนตรี ยินดีกับผลการประเมินของ IMF และเห็นว่าความชัดเจนของนโยบายรัฐบาลมีผลสำคัญอย่างยิ่งต่อประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจไทยขององค์กรทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งนับแต่สามารถจัดการกับสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ให้อยู่ภายใต้การควบคุมได้ รัฐบาลได้เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยเฉพาะการเตรียมภาคการท่องเที่ยวซึ่งเป็นภาคเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ แรงงานจำนวนมากให้พร้อมรับนักท่องเที่ยว การมีมาตรการดึงดูดนักลงทุน เปิดพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ๆ มาตรการดึงดูดผู้เชี่ยวชาญ กลุ่มศักยภาพสูงเข้าสู่ประเทศไทย

ร้านอาหาร ‘R-HAAN’ ชวนลิ้มลองเมนูสุดพิเศษ พร้อมเปิดประสบการณ์แบบผู้นำเอเปคได้แล้ววันนี้

เชฟชุมพล แจ้งไพร ผู้รังสรรค์เมนูกาลาดินเนอร์ต้อนรับผู้นำเอเปค ชวนลิ้มลองรสชาติตามรอยผู้นำได้ตั้งแต่ 21 พ.ย. - 4 ธ.ค.นี้ ที่ร้านอาหาร ‘R-HAAN’

หลังจากเป็นปรากฏการณ์ Soft Power เกี่ยวกับอาหารไทยไปตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาสำหรับอาหารที่ ‘เชฟชุมพล แจ้งไพร’ รังสรรค์ไปเสิร์ฟขึ้นโต๊ะผู้นำเอเปค ล่าสุด ร้าน R-HAAN ร้านระดับสองดาวมิชลินของไทย ได้เปิดประสบการณ์ให้คนทั่วไปได้ลิ้มลองเมนูเหล่านั้นแล้ว

สำหรับ ร้านอาหาร R-HAAN เป็นร้านระดับ 2 ดาว มิชลิน ต่อเนื่องทุกปีนับตั้งแต่ปี 2019 เป็นร้านได้รับโอกาสรังสรรค์เมนูสุดพิเศษ สำรับต้อนรับผู้นำเขตเศรษฐกิจ 21 ประเทศ ภายใต้แนวคิด ‘Sustainable Thai Gastronomy - ภูมิปัญญาอาหารไทยอย่างยั่งยืน’ คัดสรรวัตถุดิบชั้นเยี่ยมจากแหล่งผลิตท้องถิ่นทั่วประเทศไทย

ในวันนี้ ‘ร้านอาหาร R-HAAN’ โดย เชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟผู้ร่วมก่อตั้งร้านอาหาร ขอนำเสนอเมนูสำรับ ‘ตามรอยผู้นำเอเปค 2022’ เมนูเดียวกับสำรับต้อนรับผู้นำเขตเศรษฐกิจ 21 ประเทศ มาให้ผู้สนใจได้รับประสบการณ์อาหารสุดพรีเมียมในแบบเดียวกัน

โดยในสำรับประกอบไปด้วย

อะมูสบุช เสิร์ฟในเมนู ‘กระทงทองไส้ครีมซอสและไข่ปลาสเตอร์เจียนคาเวียร์โครงการหลวงดอยอินทนนท์’

อาหารเรียกน้ำย่อย ‘Welcome To Thailand’ นำเสนออาหารไทย 4 ภาค ขนาดพอดีคำ วางบนแผนที่ประเทศไทยประจำแต่ละภาค อันได้แก่ 

แอ่วเหนือ - ข้าวซอยหมี่กรอบไทยล้านนา
เที่ยวกลาง - ต้มยำทอดมันกุ้งแม่น้ำกรุงศรีอยุธยา
ยามอีสาน - โคราชวากิวย่างถ่านสมุนไพรจิ้มแจ่ว
ล่องใต้ - ไก่เบตงย่างกอและ

สลัด ในเมนู ‘ยำใหญ่ผักออแกนิก 9 อย่างจากวิสาหกิจชุมชนทั่วทุกภาคของเมืองไทย กับไก่ออร์แกนิกและกุ้งมังกร 7 สีภูเก็ต พร้อมไข่เป็ดไล่ทุ่งเมืองสุพรรณบุรี ดองดอกเกลือเมืองเพชร’

'สี จิ้นผิง' เข้าเฝ้าฯ 'ในหลวง-พระราชินี' พร้อมกราบบังคมทูลจะทำงานร่วมกับไทยต่อไป เพื่อสานสายสัมพันธ์พิเศษที่ใกล้ชิดสนิทสนมดั่งเครือญาติของทั้งสองประเทศ

ฮวา ชุนอิง ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของจีน ได้โพสต์รูปภาพนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ขณะเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีของไทย พร้อมข้อความผ่าน Twitter โดยระบุว่า…

'ส.ส.อมรัตน์-ก้าวไกล' ง้างปากเพื่อไทย เผยจุดยืน 112 ไม่ต้องขนาดเป็นนโยบาย ขอแค่กล้าพูดถึงบ้างก็ยังดี

(21 พ.ย. 65) จากกรณี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย แสดงจุดยืนในนามพรรคเพื่อไทย ไม่มีนโยบาย เกี่ยวกับการแก้ไขหรือยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

ล่าสุด นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า...

เสียงชม ‘เจ้าภาพเอเปค’ จากนานาชาติล้นหลาม ชี้ ประเทศไทยมีแต่ได้ ภายใต้การนำของ ‘บิ๊กตู่’

บทสรุปเจ้าภาพเอเปค เสียงชื่นชม ‘บิ๊กตู่’ ล้นหลาม จัดได้สง่างามและสมศักดิ์ศรี สร้างความประทับใจทั้งไทยและนานาชาติ เห็นหนทางสดใส ประเทศไทยต้องไปต่อ

ปิดฉากการประชุมระดับโลกเอเปคที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพอย่างสง่างามและสมศักดิ์ศรี โดยมีการส่งชะลอมให้นางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีอเมริกา เพื่อเป็นสัญลักษณ์การเป็นเจ้าภาพครั้งต่อไป การจัดงานครั้งนี้เต็มไปด้วยความยอดเยี่ยม  เห็นได้จากการที่นางรีเบคกา สตามาเรีย ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการเอเปคชมว่าการจัดงานครั้งนี้จัดได้ในระดับเวิลด์คลาสทุกด้าน 

บรรดาผู้นำประเทศต่างๆ แสดงออกหลายวิธี เช่น นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ลี เซียนลุง โพสต์ภาพอาหารในงานเลี้ยงตามพร้อมคำชมมากมาย แต่ที่เป็นสีสันของงานคงไม่พ้นประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงแห่งฝรั่งเศส ที่แว้บไปชมมวยไทย เยี่ยมชมวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม แล้วไปเดินยาวราช พักนั่งดื่มเบียร์สิงห์ในร้านอาหารอย่างสนุกสนาน  

เจ้าชายมุฮัมหมัด บินซัลมาน มกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบียเอ่ยชมว่าประเทศไทยมีความเป็นมิตร ระหว่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชปฏิสันถาร พระองค์ทรงแย้มสรวลตลอดเวลา การเข้าเฝ้าของมกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบียครั้งนี้ เป็นภาพประวัติศาสตร์ที่ชัดเจนในการรื้อฟื้นสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ หลังจากซาอุดีอาระเบียตัดความสัมพันธ์กับไทยไปนานถึง 32 ปี และเพิ่งจะมารื้อฟื้นความสัมพันธ์กันอีกครั้งในช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยนโยบายทางการทูตของรัฐบาลไทยชุดนี้

การเยือนไทยของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นับเป็นการเยือนไทยในรอบ 11 ปี ทำให้การเยือนไทยของประธานาธิบดีจีนครั้งนี้มีความหมายและความสำคัญอย่างยิ่ง และที่ประทับใจอย่างยิ่งคือทางรัฐบาลไทยได้จัดเค้กวันเกิดเซอร์ไพรซ์ภริยาของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงด้วย 

นางกมลา แฮร์ริสสร้างความแปลกใจคาดไม่ถึง เพราะไม่อยู่ในกำหนดการ ด้วยการชวนสื่อทุกคนให้ไปตลาดอตก. จากนั้นซื้อเครื่องแกงหลายอย่าง ทั้งแกงเขียวหวาน แกงเผ็ด ใบมะกรูดแห้ง กลับอเมริกา สร้างความประทับใจแก่คนไทยทุกคน เรื่องเหล่านี้แม้จะไม่ใช่ประเด็นหลักในการจัดงานครั้งนี้ แต่สะท้อนความพึงพอใจที่ผู้นำประเทศ ที่มีต่อประเทศไทยได้เป็นอย่างดี

การประชุมเอเปคในประเทศไทยครั้งนี้มีความสำคัญ ถือว่าเป็นการประชุมระดับภูมิภาคที่สำคัญเวทีหนึ่งของโลก เป็นการประชุมแบบพหุภาคีจากหลายภาคส่วนที่มาเข้าร่วมกัน ประเด็นของการหารือมุ่งไปที่เรื่องของโปรโตคอลหรือในเชิงข้อตกลงตามระเบียบแบบแผน เน้นเรื่องการอำนวยความสะดวกทางการค้า การเชื่อมต่อระหว่างกัน ซึ่งประเทศไทยผลักดันในเรื่องของ BCG Model ทั้งเรื่องเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว

ประเด็นในการหารือครั้งนี้จะส่งผลช่วยเศรษฐกิจไทยทั้งรายย่อยและรายใหญ่ เป็นประโยชน์ที่คนไทยจะได้รับแน่นอน โดยเฉพาะด้านธุรกิจการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เม็ดเงินจำนวนนี้ก็จะลงไปสู่ธุรกิจรากหญ้าที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ประตูสนามบิน ไกด์ แท็กซี่ โรงแรม ธุรกิจนวดสปา ร้านอาหาร แม่ค้าพ่อค้าในแหล่งท่องเที่ยว นี่คือผลประโยชน์ร่วมของคนไทยที่ไม่อาจปฎิเสธได้

การจัดงานครั้งนี้คือช่องทางให้ไทยได้แสดงศักยภาพและความพร้อมในการจัดการประชุมระดับโลก หลังการระบาดของโควิด-19 ซึ่งทั้งโลกอยู่ในภาวะซบเซา สิ่งที่คนไทยจะได้รับอย่างชัดเจนคือ การกระตุ้นหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ การค้าขาย ทุกระดับ ผู้นำและตัวแทนประเทศต่างๆ รวมถึงสื่อมวลชนทุกชาติเข้ามาเยือนเมืองไทยและต้องกินใช้ในบ้านเรา นั่นคือการทำให้เม็ดเงินหมุนเวียน  

ในส่วนของเศรษฐกิจระดับมหภาค คงมีการดำเนินการต่อหลังจากนี้จนกลายเป็นผลประโยชน์ระยะยาวของเมืองไทย แต่ที่แน่ๆ ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียกลับมาแนบแน่นเหมือนเดิม หลังขาดสะบั้นไปนานถึง 32 ปี

น่าปลื้มใจ!! สื่อจีนเผย ‘ละคร-อาหาร-ชุดไทย’ ดึงดูดคนจีนรุ่นใหม่ให้หลงใหลใน ‘วัฒนธรรมไทย’

สำนักข่าวซินหัว สื่อทางการของจีน ได้เผยเรื่องราวเกี่ยวกับเทรนด์ความสนใจของคนจีนรุ่นใหม่ว่า ปัจจุบันนี้มีความสนใจและชอบในวัฒนธรรมไทยมากขึ้น ผลมาจากการได้ดูละครและชิมอาหารไทย

สำนักข่าวซินหัว ได้เผยข้อมูลว่า ปัจจุบันวัฒนธรรมไทยอันมีเสน่ห์ได้ดึงดูดใจวัยรุ่นชาวจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างจีน-ไทย ที่นับวันจะแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

“ถ้ามีโอกาสนะ ฉันจะไปเที่ยวกรุงเทพฯ ลองชิมต้มยำกุ้งรสต้นตำรับ สวมชุดไทยแล้วเช็กอินบนโซเชียลมีเดียว่าอยู่ที่พระบรมมหาราชวัง” หลัวเผยเยี่ยน นักศึกษาชั้นปีที่ 4 จากมหาวิทยาลัยครูกว่างซีทางตอนใต้ของจีนพูดคุยถึงประเทศไทยว่า มีหัวข้อให้เธอพูดถึงได้อย่างไม่รู้จบ

“ฉันกดติดตามบล็อกเกอร์ชาวไทยหลายคน ดูพวกเขาแบ่งปันเรื่องราวการใช้ชีวิตในไทย ทำให้รู้สึกว่าไทยเป็นประเทศที่เป็นมิตรและอบอุ่นมาก” หลัวบอกกับนักข่าว พร้อมเสริมว่าแรกเริ่มเธอเรียนรู้วัฒนธรรมไทยผ่านภาพยนตร์จีนที่ถ่ายทำในไทยก่อนจะเขยิบไปดูละครไทยและกินอาหารไทยจนหลงใหลประเทศไทย

การเผยแพร่วัฒนธรรมภาพยนตร์และละครจีน-ไทย ได้หยั่งรากลึกในจิตใจของผู้คนอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นำไปสู่ความร่วมมือด้านละคร ภาพยนตร์ และเนื้อหาออนไลน์มากมายระหว่างสองประเทศ ก่อเกิดผลงานละครและภาพยนตร์ออกสู่สายตาสาธารณชน กลายเป็นสะพานเชื่อมคนรุ่นใหม่เข้าใจวัฒนธรรมของกันและกัน

จีนนั้นเริ่มนำเข้าละครโทรทัศน์ไทยตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 21 ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้ชมภายในประเทศอย่างมาก ขณะการพัฒนาอันรวดเร็วของแพลตฟอร์มคลิปวิดีโอสั้นในช่วงไม่กี่ปีนี้ช่วยให้ละครและภาพยนตร์ไทยน้ำดีเป็นที่รู้จักบนโลกออนไลน์ ส่วนเหล่าวัยรุ่นมีส่วนเผยแพร่ละครและภาพยนตร์ไทยที่พวกเขาชื่นชอบผ่านการพากย์เสียงและทำซับไตเติล

“ละครไทยไม่เพียงช่วยให้เธอเข้าใจวัฒนธรรมไทย แต่ยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญของการเรียนรู้ภาษาไทยด้วย” อิ่นหรุ่ย บัณฑิตสาวจากสาขาวิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัยกลุ่มชาติพันธุ์อวิ๋นหนาน (ยูนนาน) กล่าว โดยสมัยเรียน อิ่นเคยเข้าร่วมชมรมแปลซับไตเติลละครและภาพยนตร์ชื่อดัง รวมถึงข่าวสารของสื่อหลักในไทย

ขณะเดียวกันอิ่นยังเป็นนักพากย์เสียงละครไทยคนดัง ผลงานพากย์เสียงของเธอที่แชร์บนสื่อสังคมออนไลน์มักมียอดกดถูกใจจำนวนมาก โดยอิ่นเผยว่าการพากย์เสียงละครเรื่องโปรดเป็นอีกหนึ่งวิธีฝึกพูดภาษาไทยของเธอ รวมถึงหวังว่าการแปลและการเผยแพร่ผลงานเช่นนี้จะช่วยให้หลายคนเข้าใจประเทศไทยเพิ่มขึ้น

การสั่งสมประสบการณ์แปลละครไทยสมัยเรียนยังเกื้อหนุนการเลือกอาชีพของอิ่น โดยธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนจีน-ไทย ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้บรรดาชาวจีนที่เรียนภาษาไทยสามารถเลือกทำอาชีพนักแปลด้านธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนได้ด้วย

อนึ่ง การเรียนการสอนของสาขาวิชาภาษาไทยตามมหาวิทยาลัยจีนในช่วงหลายปีนี้ได้บูรณาการวัฒนธรรมไทยเข้ากับการเรียนการสอนแต่ละวันเพื่อช่วยนักศึกษาเรียนรู้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น เช่น การแข่งขันพากย์ละครไทย การแข่งขันกล่าวสุนทรพจน์ภาษาไทย สัปดาห์วัฒนธรรมเทศกาลลอยกระทง หรือวันไหว้ครูของไทย

‘อนุทิน’ ชี้!! แนวโน้มผู้ป่วยโควิดทั่วโลกเพิ่มขึ้นช่วงฤดูหนาว ห่วงกลุ่ม 608 แนะเข้ารับวัคซีนกระตุ้นสร้างภูมิคุ้มกัน

อนุทิน ห่วงใยประชาชน หลังพบ แนวโน้มผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วโลกเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาว แนะกลุ่ม 608 เข้ารับวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกัน 

(21 พ.ย. 65) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข มีความห่วงใยประชาชนจากแนวโน้มจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในหลายประเทศเนื่องด้วยขณะนี้เป็นฤดูหนาวที่เอื้อต่อการแพร่เชื้อไวรัส ประกอบกับทั่วโลกมีการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโรค ขณะที่ไทยก็ได้เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวซึ่งมีผู้เดินทางมาจากทั่วโลก

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า การดูแลป้องกันตนเอง เช่น สวมหน้ากากอนามัย เมื่ออยู่ในที่แออัด การล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ตลอดจนการสร้างภูมิคุ้มกันโดยการรับวัคซีนจึงมีความจำเป็นสำหรับประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่ม 608 ซึ่งมีความเสี่ยงสูง ต้องเข้ารับวัคซีนตามเกณฑ์ และเข็มกระตุ้นเมื่อครบระยะเวลา เพื่อลดอาการป่วยหนักหรือเสียชีวิต โดยประชาชนสามารถติดต่อเข้ารับวัคซีนสถานพยายาลใกล้บ้าน ซึ่งปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขกระจายวัคซีนสำหรับประชาชนทุกกลุ่มไปยังสถานพยาบาลทั่วประเทศและเพียงพอกับความต้องการ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า แม้สถานการณ์แพร่ระบาด หรือการมีจำนวนผู้ป่วยหนักในไทยไม่ได้อยู่ในระดับสูงหรือน่ากังวล แต่ฤดูหนาวจะเป็นช่วงที่ไวรัสมีการแพร่กระจายรวดเร็ว และตอนนี้หลายประเทศที่อากาศหนาวจัดก็มีผู้ป่วยมากขึ้น นายอนุทินจึงมีความห่วงใย และขอให้ประชาชนเข้ารับวัคซีน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้กระจายวัคซีนสำหรับทุกกลุ่มไปยังสถานพยาบาลพร้อมบริการให้ประชาชนทั่วประเทศ

‘ธนาธร’ ร่วมวงปลุกพลังเลือก ‘ก้าวไกล’ ชูอุดมการณ์ ลดเหลื่อมล้ำ สู้ทุนใหญ่ผูกขาด

‘ก้าวไกล’ ล่องใต้เปิดเวทีพบสมาชิกที่กระบี่-ภูเก็ต เดินหน้าขยายฐานสมาชิกเตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง ‘ธนาธร’ ร่วมเวทีด้วย เคลียร์ชัดอุดมการณ์อนาคตใหม่ ต่อเนื่องสู่ก้าวหน้า-ก้าวไกล คือการต่อสู้กับความเหลื่อมล้ำ สร้างสังคมที่เป็นธรรมเป็นประชาธิปไตย 

พรรคก้าวไกล จัดกิจกรรมเปิดรับสมัครและพบปะสมาชิกพรรคที่จังหวัดกระบี่และจังหวัดภูเก็ต โดยมี ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ร่วมเวทีเปิดการรณรงค์ขยายฐานสมาชิก และพูดคุยเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ของพรรคก้าวไกลในการเตรียมสู้ศึกเลือกตั้งทั่วประเทศ พร้อมเชิญ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ร่วมการบรรยายเกี่ยวกับประเทศไทยที่พรรคก้าวไกล-คณะก้าวหน้า อยากเห็น

ธนาธร เริ่มต้นด้วยการอธิบายถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ในประเทศไทยที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก โดยระบุว่าความเหลื่อมล้ำเช่นนี้เป็นผลโดยตรงจากการจัดสรรทรัพยากรของประเทศอย่างไม่เป็นธรรม อำนาจทางการเมืองถูกใช้เพื่อการเอื้อประโยชน์ให้แก่กลุ่มทุนขนาดใหญ่มากกว่าประชาชน นำไปสู่การผูกขาดทางเศรษฐกิจอยู่ในมือของกลุ่มทุนขนาดใหญ่และชนชั้นนำ 

นี่คือปัญหาที่พรรคอนาคตใหม่เดิม มาจนถึงพรรคก้าวไกลและคณะก้าวหน้าวันนี้ยืนยันมาตลอดว่าเป็นเป้าหมาย ก็คือการทลายทุนผูกขาด และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนไทยทุกคน ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย อำนาจเป็นของประชาชน และทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในการเรียกร้องแสดงออก

ธนาธร กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาชนชั้นนำมักอ้างความสามัคคีปรองดองมาเรียกร้องต่อทุกคนในชาติและใช้ในการโจมตีพวกเราตลอดเวลา แต่คำถามคือการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนผูกขาดร่ำรวยเป็นหลักแสนล้านภายในเวลาไม่กี่ปี ขณะที่ปล่อยให้คนเกิน 50% ของประเทศนี้มีรายได้ไม่ถึง 7,500 บาทต่อเดือน เข้าไม่ถึงน้ำประปาที่มีคุณภาพ บริการสาธารณะที่ดี ทั้งที่เป็นสิทธิพื้นฐาน สิ่งนี้คือความปรองดองของคนในชาติหรือไม่

ดังนั้น ประเทศไทยในแบบที่เราอยากเห็นเป็นเรื่องที่เรียบง่ายมาก คือเป็นประเทศที่ประชาชนทุกคนไม่ว่าจะเกิดที่จังหวัดไหน ต้องเข้าถึงบริการสาธารณะขั้นพื้นฐาน น้ำประปา โรงเรียน โรงพยาบาลที่ดีเหมือนกัน เราต้องการสร้างประเทศที่เสมอภาคเป็นธรรม ดอกผลการพัฒนากระจายถึงทุกคน มีเศรษฐกิจที่ทันสมัย มีเทคโนโลยีของตัวเอง และเป็นประชาธิปไตย ซึ่งเป็นเรื่องสามัญพื้นฐานที่คนไทยทุกคนควรได้รับ นี่คือสังคมไทยที่เราเปลี่ยนแปลงได้

“การเรียกร้องให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพ มีความเป็นธรรม ดอกผลการพัฒนากระจายถึงทุกคน มีเศรษฐกิจที่ทันสมัย ไม่ใช่เรื่องสุดโต่ง ไม่ใช่เรื่องที่ผิด นี่คือสังคมที่เราทุกคนอยากให้ลูกหลานของเราเติบโตขึ้นมา โอกาสในการเปลี่ยนแปลงอยู่ในมือทุกท่านแล้ว มาร่วมกันผลักดันวาระสำคัญของประเทศ ให้ดอกผลของการพัฒนาไม่ได้ตกอยู่กับเจ้าสัวไม่กี่คน แต่อยู่กับคนส่วนใหญ่ของประเทศนี้ เราทำได้ด้วยการร่วมสร้างพรรคก้าวไกลด้วยกัน” ธนาธรกล่าว

ด้านชัยธวัช ได้บรรยายถึงยุทธศาสตร์ของพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้ง โดยระบุว่าพรรคก้าวไกลมีเป้าหมายที่ต้องการเป็นพรรคเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศ โดยเล็งเห็นว่าการเปลี่ยนรัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรีเพียงลำพังไม่สามารถทำให้ประเทศไทยดีขึ้นได้ ต้องเปลี่ยนไปถึงโครงสร้างทั้งทางการเมืองและทางเศรษฐกิจของประเทศ

นั่นเป็นเพราะปัญหาของสังคมไทยที่เป็นข้อขัดแย้งไม่จบสิ้นมายาวนาน ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 คืออำนาจการเมืองในประเทศนี้อยู่ที่ประชาชนหรืออยู่ที่อื่น ซึ่งที่ผ่านมาการรัฐประหารทั้งสองครั้งล่าสุดในปี 2549 และ 2557 เป็นการรัฐประหารที่ฝ่ายชนชั้นนำได้ลดทอนอำนาจจากการเลือกตั้ง และเพิ่มอำนาจให้กลุ่มที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ทั้งกองทัพ องค์กรอิสระ และตุลาการมาโดยตลอด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top