เสียงชม ‘เจ้าภาพเอเปค’ จากนานาชาติล้นหลาม ชี้ ประเทศไทยมีแต่ได้ ภายใต้การนำของ ‘บิ๊กตู่’

บทสรุปเจ้าภาพเอเปค เสียงชื่นชม ‘บิ๊กตู่’ ล้นหลาม จัดได้สง่างามและสมศักดิ์ศรี สร้างความประทับใจทั้งไทยและนานาชาติ เห็นหนทางสดใส ประเทศไทยต้องไปต่อ

ปิดฉากการประชุมระดับโลกเอเปคที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพอย่างสง่างามและสมศักดิ์ศรี โดยมีการส่งชะลอมให้นางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีอเมริกา เพื่อเป็นสัญลักษณ์การเป็นเจ้าภาพครั้งต่อไป การจัดงานครั้งนี้เต็มไปด้วยความยอดเยี่ยม  เห็นได้จากการที่นางรีเบคกา สตามาเรีย ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการเอเปคชมว่าการจัดงานครั้งนี้จัดได้ในระดับเวิลด์คลาสทุกด้าน 

บรรดาผู้นำประเทศต่างๆ แสดงออกหลายวิธี เช่น นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ลี เซียนลุง โพสต์ภาพอาหารในงานเลี้ยงตามพร้อมคำชมมากมาย แต่ที่เป็นสีสันของงานคงไม่พ้นประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงแห่งฝรั่งเศส ที่แว้บไปชมมวยไทย เยี่ยมชมวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม แล้วไปเดินยาวราช พักนั่งดื่มเบียร์สิงห์ในร้านอาหารอย่างสนุกสนาน  

เจ้าชายมุฮัมหมัด บินซัลมาน มกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบียเอ่ยชมว่าประเทศไทยมีความเป็นมิตร ระหว่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชปฏิสันถาร พระองค์ทรงแย้มสรวลตลอดเวลา การเข้าเฝ้าของมกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบียครั้งนี้ เป็นภาพประวัติศาสตร์ที่ชัดเจนในการรื้อฟื้นสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ หลังจากซาอุดีอาระเบียตัดความสัมพันธ์กับไทยไปนานถึง 32 ปี และเพิ่งจะมารื้อฟื้นความสัมพันธ์กันอีกครั้งในช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยนโยบายทางการทูตของรัฐบาลไทยชุดนี้

การเยือนไทยของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นับเป็นการเยือนไทยในรอบ 11 ปี ทำให้การเยือนไทยของประธานาธิบดีจีนครั้งนี้มีความหมายและความสำคัญอย่างยิ่ง และที่ประทับใจอย่างยิ่งคือทางรัฐบาลไทยได้จัดเค้กวันเกิดเซอร์ไพรซ์ภริยาของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงด้วย 

นางกมลา แฮร์ริสสร้างความแปลกใจคาดไม่ถึง เพราะไม่อยู่ในกำหนดการ ด้วยการชวนสื่อทุกคนให้ไปตลาดอตก. จากนั้นซื้อเครื่องแกงหลายอย่าง ทั้งแกงเขียวหวาน แกงเผ็ด ใบมะกรูดแห้ง กลับอเมริกา สร้างความประทับใจแก่คนไทยทุกคน เรื่องเหล่านี้แม้จะไม่ใช่ประเด็นหลักในการจัดงานครั้งนี้ แต่สะท้อนความพึงพอใจที่ผู้นำประเทศ ที่มีต่อประเทศไทยได้เป็นอย่างดี

การประชุมเอเปคในประเทศไทยครั้งนี้มีความสำคัญ ถือว่าเป็นการประชุมระดับภูมิภาคที่สำคัญเวทีหนึ่งของโลก เป็นการประชุมแบบพหุภาคีจากหลายภาคส่วนที่มาเข้าร่วมกัน ประเด็นของการหารือมุ่งไปที่เรื่องของโปรโตคอลหรือในเชิงข้อตกลงตามระเบียบแบบแผน เน้นเรื่องการอำนวยความสะดวกทางการค้า การเชื่อมต่อระหว่างกัน ซึ่งประเทศไทยผลักดันในเรื่องของ BCG Model ทั้งเรื่องเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว

ประเด็นในการหารือครั้งนี้จะส่งผลช่วยเศรษฐกิจไทยทั้งรายย่อยและรายใหญ่ เป็นประโยชน์ที่คนไทยจะได้รับแน่นอน โดยเฉพาะด้านธุรกิจการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เม็ดเงินจำนวนนี้ก็จะลงไปสู่ธุรกิจรากหญ้าที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ประตูสนามบิน ไกด์ แท็กซี่ โรงแรม ธุรกิจนวดสปา ร้านอาหาร แม่ค้าพ่อค้าในแหล่งท่องเที่ยว นี่คือผลประโยชน์ร่วมของคนไทยที่ไม่อาจปฎิเสธได้

การจัดงานครั้งนี้คือช่องทางให้ไทยได้แสดงศักยภาพและความพร้อมในการจัดการประชุมระดับโลก หลังการระบาดของโควิด-19 ซึ่งทั้งโลกอยู่ในภาวะซบเซา สิ่งที่คนไทยจะได้รับอย่างชัดเจนคือ การกระตุ้นหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ การค้าขาย ทุกระดับ ผู้นำและตัวแทนประเทศต่างๆ รวมถึงสื่อมวลชนทุกชาติเข้ามาเยือนเมืองไทยและต้องกินใช้ในบ้านเรา นั่นคือการทำให้เม็ดเงินหมุนเวียน  

ในส่วนของเศรษฐกิจระดับมหภาค คงมีการดำเนินการต่อหลังจากนี้จนกลายเป็นผลประโยชน์ระยะยาวของเมืองไทย แต่ที่แน่ๆ ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียกลับมาแนบแน่นเหมือนเดิม หลังขาดสะบั้นไปนานถึง 32 ปี

นอกจากนี้เมื่อต่างชาติเห็นการพัฒนาในไทยก็นำเงินมาลงทุนในไทยมากขึ้น  การประชุมระดับโลกหนนี้คือโอกาสที่ทำให้เราได้นำเสนอความงามและอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม ซึ่งบางอย่างสามารถส่งเสริมเป็น Soft Power ได้ในอนาคต

ในส่วนของภาคธุรกิจระดับมหภาค คงมีการดำเนินการต่อหลังจากนี้จนกลายเป็นผลประโยชน์ระยะยาวของเมืองไทย แต่ที่แน่ๆ ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียกลับมาแนบแน่นเหมือนเกดิม หลังขาดสะบั้นไปนานถึง 32 ปี

มาดูการประเมินระดับความพึงพอใจของคนไทยกันบ้าง ผลสำรวจซูเปอร์โพลที่สำรวจความเห็นประชาชนพบว่าประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 85.6 เห็นว่าการประชุมเอเปคเป็นประโยชน์มากถึงมากที่สุด นอกจากนี้ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 82.5 พอใจมากถึงมากที่สุดต่อนายกฯ ที่มีผลงานจัดประชุมเอเปคในประเทศไทย ดีต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ 

คนไทยส่วนมากเข้าใจดีว่าประเทศและประชาชนจะได้รับประโยชน์อะไรจากการประชุมเอเปค และมั่นใจในตัวนายกรัฐมนตรีว่าสามารถพาประเทศเดินหน้าต่อไปได้ โดยเฉพาะเรื่องของเศรษฐกิจหลังเกิดสถานการณ์โควิด-19 

ประเทศไทยต้องไปต่อภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา