Wednesday, 25 June 2025
TheStatesTimes

ทางการท้องถิ่นกรุงปักกิ่ง ใจป้ำ เจียดเงินราว 31 ล้านบาท จ่ายแรงงานต่างถิ่นประมาณ 1.7 หมื่นคน ที่เลี่ยงเดินทางกลับบ้านเกิด ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลตรุษจีน

ทางการท้องถิ่นกรุงปักกิ่งของจีน เปิดเผยว่า ปักกิ่งมอบเงินอุดหนุนราว 6.8 ล้านหยวน (ประมาณ 31 ล้านบาท) แก่แรงงานก่อสร้างต่างถิ่นประมาณ 17,000 คน ซึ่งตัดสินใจหลีกเลี่ยงการเดินทางกลับบ้านเกิดและพักอาศัยอยู่ในเมือง ระหว่างวันหยุดเทศกาลตรุษจีน

ทั้งนี้ แรงงานต่างถิ่น จะได้รับเงินอุดหนุน 400 หยวน (ประมาณ 1.800 บาท) ต่อคน จากคณะกรรมการเคหะและการพัฒนาเมือง - ชนบทเทศบาลนครปักกิ่ง

นอกจากนั้น คณะกรรมการฯ ยังจัดกิจกรรมหลากหลายสำหรับกลุ่มแรงงาน อาทิ การแข่งขันกีฬา พร้อมกำหนดให้มีมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) อันเข้มงวดในบริเวณสถานที่ก่อสร้าง ตลอดจนกระชับงานรับมือเหตุการณ์ฉุกเฉินด้วย


ที่มา : https://www.xinhuathai.com/china/178050_20210216?fbclid=IwAR3dzWgfOzIG0mNHPOx1DQhDbJtMt7p6xOYiMSW5Mthkwl8GPXV80DXYeIc

เด็กไทยวัย 18 ปี เจ๋ง!! คิดค้นเว็บไซต์ Thaitube ทางเลือกใหม่สำหรับคนไทยในการรับชมคลิปวิดีโอ แบบไม่มีโฆษณาคั่น ตั้งใจสร้างสรรค์แบบไม่หวังผลการค้า

ผู้สื่อข่าวจังหวัดอ่างทองลงพื้นที่พบกับนายพงศ์ปณต ไพรัชเวชภัณฑ์ อายุ 18ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดัง ชั้นปีที่ 2 ชาวอ่างทอง มีความสามารถในการผลิตเว็บไซต์ ไทยทูบ ThaiTube.in.th ที่เป็นเว็บไซต์ในรูปแบบคล้ายยูทูบ แต่เว็บไทยทูบนั้นผลิตโดยเด็กไทย เป็นเว็บ www.thaitube.in.th หรือจะเรียกสั้น ๆ ว่าไทยทูบ

นายพงศ์ปณต หรือน้องเบส เล่าให้ฟังว่า ที่เกิดไอเดียในการสร้างเวบไทยทูบขึ้นมานั้นเกิดจากอยากให้เป็นทางเลือกใหม่ของคนไทย ที่สามารถลงคลิปวิดีโอและดูวิดีโอได้โดยไม่มีการแทรกโฆษณา ซึ่งคลิปที่ลงในเว็บไซต์ไทยทูบจะไม่มีการโฆษณาเลย และเนื้อหาวิดีโอที่นำลงในเว็บไซต์ไทยทูบก็จะดูได้อย่างต่อเนื่องไม่มีโฆษณาแทรก

ซึ่งเป็นการผลิตขึ้นมาโดยไม่หวังผลในการค้ากำไรแต่อย่างใด เป็นการสนับสนุนให้ใช้โดยไม่มีการคิดค่าใช้จ่าย เพียงแค่เราพิมพ์เข้าไปว่า www.thaitube.in.th และใช้งานทั้งดูวิดีโอหรืออัพวิดีโอขึ้นในแพลตฟอร์มต่อไป


ที่มา: https://www.thaipost.net/main/detail/93081

กรุงเทพมหานคร กำลังจะมีปอดใหญ่ใจกลางกรุงแห่งใหม่ จาก ‘อดีตสนามม้านางเลิ้ง’ ที่กำลังจะถูกเปลี่ยนเป็น ‘สวนสาธารณะ’ ที่จะเพิ่มพื้นที่สีเขียว 216 ไร่ พร้อมเปิดปี 2565

เพจเฟซบุ๊ก ‘โบราณนานมา’ ได้เปิดเผยภาพ ‘อดีตสนามม้านางเลิ้ง’ ที่กำลังจะถูกเปลี่ยนเป็น ‘สวนสาธารณะ’ ขนาดใหญ่ พร้อมระบุว่า

จาก “สนามม้านางเลิ้ง” สู่ “สวนสาธารณะ ๒๑๖ ไร่”

“ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์” หรือที่รู้จักกันว่า “สนามม้านางเลิ้ง” ก่อตั้งโดย “พระยาประดิพัทธภูบาล” และ “พระยาอรรถการประสิทธิ์” ทำหนังสือขึ้นทูลเกล้าฯ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ก่อตั้ง “สโมสรสนามม้าแข่งเพื่อบำรุงพันธุ์ม้า” โดยถวายที่ดินของ “กรมอัศวราช” เป็นสถานที่แข่งขัน ซึ่งต่อมามีพระบรมราชานุญาตพร้อมพระราชทานนามว่า “ราชตฤณมัยสมาคมแห่งกรุงสยาม

อีกทั้ง ทรงรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อ ๑๘ ธันวาคม ๒๔๕๙ รวมไปถึงพระองค์ยังทรงส่งม้าในคอกของพระองค์เข้าร่วมแข่งอีกด้วย สมาคมฯ ทำหน้าที่ในการดำเนินกิจการแข่งม้า จัดทำทะเบียนประวัติม้า เจ้าของและผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนการแข่งขันจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์เว้นอาทิตย์ สลับกันกับ “ราชกรีฑาสโมสร”

ปัจจุบันสัญญาเช่าได้ครบกำหนดอายุสัญญาเช่ามานานแล้ว สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ จำเป็นต้องใช้ที่ดินและอาคารดังกล่าว จึงไม่สามารถให้เช่าได้อีกต่อไป ซึ่งสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ได้ประสานและแจ้งบอกเลิกสัญญาเช่า “สนามม้านางเลิ้ง” และขอให้ส่งมอบสถานที่เช่าคืน และในเดือนมีนาคม ๒๕๖๒ ได้ทำการรื้อถอน “สนามม้านางเลิ้ง”

โดยหลังจากนี้ “อดีตสนามม้านางเลิ้ง” จะถูกเปลี่ยนเป็น “สวนสาธารณะ” ที่จะเพิ่มพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพมหานคร ในโครงการนี้มี

๑. สวนสาธารณะประมาณ ๒๑๖ ไร่

๒. พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙

๓. จอดรถใต้ดิน ๓ ชั้น รองรับรถยนต์ ๗๐๐ คัน

๔. ร้านค้าของ “ชุมชนนางเลิ้ง”

๕. อาคารจอดรถโรงพยาบาลรามาธิบดี

สวนสาธารณะแห่งนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้ใช้บริการ ภายในปี ๒๕๖๕


ที่มา : เพจ โบราณนานมา

https://web.facebook.com/boraannaanma/photos/a.1721168658137287/2790303887890420/?_rdc=1&_rdr

‘อนุทิน’ ชี้นายกฯ ได้ฉีดวัคซีนคนแรกหรือไม่อยู่ที่คณะกรรมการพิจารณา ยันกำหนดการบริษัทซิโนแวคฯ ส่งวัคซีนป้องโควิด-19 ล็อตแรกถึงไทย 24 ก.พ.

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดส่งวัคซีนป้องกันโวรัสโควิด-19 จากบริษัทซิโนแวค ไบโอเทค จำกัด ล็อตแรกที่จะมาถึงประเทศไทยในวันที่ 24 ก.พ.นี้ยังเป็นตามกำหนดเดิมหรือไม่ว่า เขากำหนดเวลานี้ โดยเราได้รับแจ้งจากผู้ผลิตวัคซีนว่าจะจัดส่งมาวันไหนและเครื่องบินไฟท์ไหน เมื่อมาถึงจะรีบนำเข้าสู่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เพื่อตรวจมาตรฐานการผลิต เราได้มีการเตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว ส่วนบุคคลที่จะได้รับวัคซีนเป็นกลุ่มแรกจะเป็นกลุ่มใด คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติจะเป็นผู้พิจารณา

เมื่อถามว่า ประชาชนยังมีความไม่มั่นใจต่อการฉีดวัคซีนเพราะเป็นเรื่องใหม่ นายกรัฐมนตรีจะเป็นคนแรกที่ได้รับวัคซีนหรือไม่ เพื่อสร้างความมั่นใจ นายอนุทิน กล่าวว่า "ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการฯ เพราะในการฉีดวัคซีนจะมีคำแนะนำบางส่วนอยู่ หากทำไม่ได้ก็ไม่ควรทำ ซึ่งไม่ควรเอาชีวิตคนมาเสี่ยง"

เมื่อถามถึงกรณีที่เคยระบุว่าจะอาสาเป็นผู้ฉีดวัคซีนเข็มแรก นายอนุทิน กล่าวว่า "หากแพทย์ยินดีที่จะฉีดให้ตนก็ยินดี แต่ไม่สำคัญว่าต้องเป็นเข็มแรกหรือเข็มสอง"

เมื่อถามว่า จะยังไม่มีการฉีดวัคซีนให้กับคนที่มีอายุ 60 ขึ้นไปหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า "วัคซีนจากบริษัทซิโนแวคฯ มีการระบุว่า ยังไม่เคยทดลองกับมนุษย์ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปมากเพียงพอ เรื่องนี้จึงไม่ควรใช้สปิริตหรือความแกร่งมาวัด แต่ต้องทำให้ดีที่สุด"

อพท. เผยโควิดกระทบท่องเที่ยวชุมชนฉุดรายได้ร่วง 46% พร้อมเร่งผลักดันเมืองเก่า จ.สุโขทัย ติดอันดับแหล่งท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในโลก 100 แห่ง

นาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. เปิดเผยว่า อพท. ได้จัดทำการประเมินระดับความอยู่ดีมีสุขของประชาชนในพื้นที่พิเศษในปี 2563 ที่ผ่านมาพบว่า ในภาพรวมประชาชนในพื้นที่พิเศษ มีระดับความอยู่ดีมีสุขอยู่ที่ 78.44% เมื่อเทียบกับเกณฑ์ความเพียงพอ(Sufficiency threshold) โดยอ้างอิงตามมาตรฐานในการวัด GNH ของประเทศภูฏานอยู่ในระดับ Deeply happy หรือมากที่สุด

ขณะที่รายได้เสริมจากการท่องเที่ยวในปี 2563 ใน 20 ชุมชนเป้าหมาย มีรายได้รวมเฉลี่ยลดลง 46.54% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยรายได้รวมทั้งหมดลดลงจาก 1,524,109.16 บาทต่อปี ลงมาอยู่ที่ 814,775.60 บาทต่อปี ในปี 63

สำหรับในปี 2564 อพท. ดำเนินการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่พิเศษ มุ่งเน้นพัฒนาพื้นที่ต้นแบบเพื่อสร้างการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ตามเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (Global Sustainable Tourism Criteria: GSTC) ในพื้นที่พิเศษจำนวน 6 แห่ง ได้แก่ พื้นที่ตำบลเกาะหมาก จ.ตราด พื้นที่ตำบลนาเกลือ จ.ชลบุรี พื้นที่ตำบลเมืองเก่า จ.สุโขทัย พื้นที่ตำบลเชียงคาน จ.เลย พื้นที่ตำบลในเวียง จ.น่าน และพื้นที่เทศบาลตำบลอู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป้าหมายสำคัญในปี 2564 คือ อพท. จะผลักดันให้พื้นที่ตำบลเมืองเก่า จ.สุโขทัย ให้เป็น Global Sustainable Destinations Top 100 หรือแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนที่ดีที่สุดในโลก 100 แห่ง

นอกจากนี้ ยังต้องการขับเคลื่อนเมืองตามแนวทางเครือข่ายเมืองท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ (The UNESCO Creative Cities Network-UCCN) 2 แห่ง ได้แก่ จ.น่าน และ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งมีเป้าหมายดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์ประจำปี 2564 ให้ได้ 75% และจัดทำใบสมัครในการเสนอเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก

อย่างไรก็ดี ยังมีเป้าหมายการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชน โดยการสร้างต้นแบบการท่องเที่ยวโดยชุมชน จากการใช้เกณฑ์การท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างยั่งยืนหรือ CBT Thailand เพื่อยกระดับความสามารถทางการแข่งขันโดยมีเป้าหมายในการผลักดันชุมชนเข้าสู่ตลาดอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้ได้อย่างน้อย 8 ชุมชน และยังได้จับมือกับหน่วยงานชั้นนำในระดับโลก เพื่อต่อยอดความสำเร็จสู่การเป็นต้นแบบในระดับสากลในหลายๆ ด้านอีกด้วย

จากเฟซบุ๊ก 'Arak Wongworachat' หรือ นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เผยเคสของผู้ป่วยหญิงอายุ 60 ปี ที่มาโรงพยาบาลด้วยเหตุเปลือกกุ้งแทงติดหลอดอาหาร ซึ่งเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจอย่างมากของผู้ที่ชอบทานกุ้งทั้งเปลือก

#แกงส้มกุ้งเป็นเหตุเปลือกกุ้งแทงติดหลอดอาหาร

เคสน่าสนใจผู้ป่วยหญิงอายุ 60 ปี

ในขณะรับประทานอาหารกับครอบครัว เมนูเด็ดแกงส้มกุ้ง ดอกแค ข้าวสวยร้อนๆ ที่สำคัญคือกุ้งขนาดกลางๆ ไม่ได้แกะเปลือกออก มีหัวกุ้งติดอยู่ด้วย ระหว่างรับประทานอาหารอย่างเพลิดเพลิน

ถอดหัวกุ้งออกแต่ลำตัวยังติดเปลือกติดหาง ตัวแรก ตัวที่สองผ่านไปสบาย เคี้ยวได้อย่างเอร็ดอร่อย ตัวถัดไปคงเคี้ยวไม่ดี พอกลืนลงไปเหมือนมีอะไรติดคอ ตรงตำแหน่งลูกกระเดือก พยายามปั้นข้าวเป็นก้อนกลืนลงไป ยิ่งกลืนยิ่งปวดมากขึ้นเรื่อยๆ ดื่มน้ำตามก็ปวด กลืนน้ำลายก็ปวด อยู่เฉยๆก็ปวด ความอร่อยหายไปทันที จึงไปนั่งพักเผื่อว่าจะดีขึ้น แต่อาการกลับรุนแรงมากขึ้น จนไม่กล้ากลืนน้ำลาย ต้องบ้วนน้ำลายทิ้งแทน ญาติจึงรีบนำส่งโรงพยาบาลสิชล

ผู้ป่วยเข้าห้องฉุกเฉิน พยาบาลซักประวัติ วัดสัญญานชีพ ประเมินความเจ็บปวด ให้ระดับ 10 เต็ม 10 ถือเป็นความเจ็บปวดระดับสูงสุด จึงให้พบแพทย์เวร ส่องในลำคอไม่พบสิ่งแปลกปลอมใดๆ จึงสั่งเอกซเรย์ทั่วไปด่วนที่ลำคอและฉีดยาแก้ปวดให้ไปก่อน ให้ผู้ป่วยงดอาหารและน้ำ แพทย์เวรตามไปดูผู้ป่วยที่ห้องเอกซเรย์ เผื่อว่าไม่เห็นอะไรจะได้ส่งเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ต่อเนื่องไปเลย

แต่เมื่อดูจากเอกซเรย์เบื้องต้นพบว่ามีเงาทึบแสงสีขาวๆ ตามภาพรังสีในวงกลมขนาดประมาณ2.5ซม. ขวางอยู่ที่หลอดอาหารส่วนบน จึงรีบนำตัวผู้ป่วยกลับห้องฉุกเฉิน ให้น้ำเกลือ ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน หู คอ จมูก ให้ส่งเข้าห้องผ่าตัดทันที

เนื่องจากผู้ป่วยรับประทานอาหารมาเพียง 2 ชั่วโมง วิสัญญีแพทย์ต้องใส่ท่อช่วยหายใจวิธีพิเศษเพื่อไม่ให้สำลักในระหว่างดมยาสลบเพื่อส่องกล้องไปในหลอดอาหาร เมื่อส่องกล้องเข้าไปพบว่ามี 'เปลือกกุ้งสีเหลือง' แทงติดอยู่ที่หลอดอาหารในแนวขวางตรงตำแหน่งหูรูดระหว่างลำคอกับหลอดอาหาร จึงค่อยๆสอดใส่เครื่องมือคืบออกมาได้สำเร็จ มีการตรวจดูโดยละเอียดว่าไม่มีชิ้นส่วนอื่นตกค้าง ฉีดน้ำล้าง ให้ยาต้านเชื้อ5วัน หลังติดตามการรักษา หายเป็นปกติ

ถือเป็นการรักษาภาวะสิ่งแปลกปลอมในหลอดอาหารที่มีความยุ่งยากซับซ้อน ต้องระมัดระวังในทุกขั้นตอน ความพร้อมของทีมแพทย์ พยาบาล สถานที่ เครื่องมือแพทย์ ก็สำคัญมากๆ

เป็นบทเรียนให้กับทุกท่านที่ชอบกินกุ้งตัวโตทั้งเปลือกต้องระวังให้มาก ควรหลีกเลี่ยง

ขอบคุณภาพ จากคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านหู คอ จมูก โรงพยาบาลสิชล


ที่มา: https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=4089425834409585&id=100000266267821

ดอนทรายโผล่กลางน้ำโขงหลายจุด หลังจีนลดปล่อยน้ำจากเขื่อนจิ่งหง หลังไม่มีการเดินเรือสินค้าจากสกานการณ์โควิด-19 ทำให้ไม่มีการแจ้งเตือนถึงการปล่อยน้ำให้กับกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง คาดจะกลับมาปล่อยน้ำหลังเทศกาลตรุษจีน

วันที่ 17 ก.พ.64 สถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำโขง ที่หน้าที่ว่าการอำเภอเชียงแสน จ.เชียงราย พบว่า ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. ลึก 2.50 ,11 ก.พ. ลึก 2.50 ,12 ก.พ. ลึก 2.19 ,13 ก.พ. ลึก 1.98 ,14 ก.พ. ลึก 1.92 ,15 ก.พ. ลึก 1.88 ,16 ก.พ. ลึก 1.89 ,17 ก.พ. ลึก 1.84 และยังมีแนวโน้มว่าจะยังคงมีระดับลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดดอนทรายผุดขึ้นมากลางแม่น้ำโขงหลายจุด ทำให้เรือขนาดใหญ่ไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งการขึ้นลงของระดับน้ำในแม่น้ำโขง ทางปลายน้ำไม่ได้รับแจ้งมาเหมือนก่อนหน้านี้

จากเดิมที่ศูนย์ควบคุมแม่น้ำล้านช้าง เขื่อนจิ่งหง เขตปกครองตนเองชนชาติไต สิบสองปันนา มณฑลยูนนาน ไปทางทิศเหนือประมาณ 400 กิโลเมตร จะรายงานการระบายน้ำออกจากเขื่อนให้กับเรือที่เป็นสมาชิกกับองค์กรเดินเรือในมณฑลยูนนาน เพื่อให้คนเดินเรือได้เตรียมพร้อม แต่ในช่วง 7 - 8 เดือนที่ผ่านมา ทางศูนย์ควบคุมแม่น้ำล้านช้าง ไม่มีการแจ้งข้อมูลให้แก่สมาชิกที่อยู่นอกประเทศ ส่งผลให้การเดินเรือเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากไม่สามารถคาดคะเนได้ว่าระดับน้ำจะขึ้นหรือลงอย่างไร

ก่อนหน้านั้นศูนย์ดังกล่าวจะมีการแจ้งข้อมูลพื้นฐานให้ทราบ โดยในช่วงเวลาปกติจะมีการปล่อยน้ำจากเขื่อนในอัตรา 1,200 - 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และในฤดูน้ำหลากจะปล่อยน้ำในอัตรา 2,000 - 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนการปล่อยน้ำในฤดูแล้งอาจจะต่ำกว่า 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย กล่าวว่า ตามปกติเขื่อนจิ่งหงจะลดการปล่อยน้ำในช่วงเทศกาลสำคัญต่าง ๆ ซึ่งในช่วงนี้ก็เป็นช่วงเวลาเทศกาลตรุษจีน ทำให้ระดับน้ำแห้งลง แต่ปีนี้ถือว่าระดับน้ำแห้งกว่าทุกปี ล่าสุดได้นำเรือท่องเที่ยวที่กินน้ำลึกเพียง 80 ซ.ม.พบว่าใต้เรือยังตีทรายที่ใต้ท้องน้ำ ดังนั้นกรณีเป็นเรือสินค้าแทบเป็นไปไม่ได้เลย โดยเฉพาะ

จุดสำคัญ ๆ ที่ขึ้นชื่อเรื่องหาดทรายที่ตื้นเขิน เช่น มองป่าแหลว ชายแดนประเทศเมียนมา - สปป.ลาว ส่วนสาเหตุที่ไม่มีการแจ้งข้อมูลจากศูนย์ควบคุมแม่น้ำล้านช้างนั้น คงเกิดจากการที่ยังปิดท่าเรือกวนเหล่ยตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 ของประเทศจีนติดต่อกันมานานหลายเดือน ทำให้ไม่มีเรือขนส่งสินค้าจีนในแม่น้ำโขงตั้งแต่ชายแดนที่ติดกับเมียนมาและ สปป.ลาว จนถึงท่าเรือของ สปป.ลาว เหลือเพียงท่าเรือไทยและเมียนมา ซึ่งกรณีของเมียนมาก็หันมาใช้การขนส่งสินค้าทางบกแทน คาดว่าหากจีนกลับมาเปิดท่าเรือและมีเรือสินค้าก็จะกลับมาแจ้งข้อมูลระดับน้ำเหมือนเดิม


ณัฐวัตร ลาพิงค์/เชียงราย

อดีตนายกรัฐมนตรี ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ โพสต์โชว์ภาพฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ดูไบ พร้อมเผยรัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จัดหาวัคซีนฉีดให้ทุกคน หวังคนไทยมีโอกาสได้ฉีดเร็ว ๆ นี้

วันที่ 17 กพ.นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊คส่วนตัว ถึงการรับวัคซีนไวรัสโควิด-19 ว่า “วันนี้ที่ดูไบ ดิฉันได้มีโอกาสฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม (Sinopharm) เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ค่ะ รัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้จัดสรรวัคซีนจาก 2 บริษัทให้ประชาชนทั้งหมดและผู้อยู่อาศัยที่นี่ทุกคน"

"โดยรัฐบาลมีนโยบายให้จัดสรรวัคซีน ซิโนฟาร์ม (Sinopharm) ของจีนซึ่งมีประสิทธิผล 86% ให้แก่ประชาชนทั่วไป และวัคซีน ไฟเซอร์ - ไบโอเอ็นเทค (Pfizer/BioNTech) ของสหรัฐ - เยอรมนี ซึ่งมีประสิทธิผล 95% พร้อมกันนี้ทางรัฐบาลยังคงเปิดโอกาสให้มีการใช้วัคซีนสปุตนิค (Sputnik) จากรัสเซียในกรณีฉุกเฉินและกำลังเริ่มทดลองใช้วัคซีนแอสตร้าซิเนก้า (AstraZeneca Plc) ของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ซึ่งผลิตจากอินเดียอีกด้วย"

"รัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ถือเป็นประเทศที่จัดสรรวัคซีนให้ประชากรและผู้อยู่อาศัยในอัตราสูงสุดเมื่อเทียบกับอัตราการฉีดวัคซีนของประเทศอื่นทั่วโลกเนื่องจากรัฐถือหลักนโยบายที่ให้ความสำคัญอย่างสมดุลต่อการควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อและคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศอย่างเท่าเทียมกัน"

"นอกจากการฉีดวัคซีนแล้ว ก็ยังคงต้องให้หมั่นล้างมือ ใส่หน้ากาก เหมือนเดิม และมีการเพิ่มการเว้นระยะห่างก็ให้เว้นมากขึ้นจากเดิม 2 เมตรเป็น 3 เมตร ทำให้เมืองดูไบยังสามารถเดินหน้าประกอบธุรกิจการค้า รองรับนักท่องเที่ยวได้ จึงทำให้ดิฉันอดคิดถึงพี่น้องประชาชนคนไทยไม่ได้และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะได้มีโอกาสฉีดวัคซีนในเร็วๆนี้เพื่อสามารถเปิดประเทศให้เกิดธุรกิจการค้าได้โดยเร็วนะคะ"


ที่มา:

https://www.cnbc.com/2021/01/18/uae-on-track-to-vaccinate-half-its-population-by-end-of-march-.html

https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-02-07/dubai-aims-to-give-vaccination-to-all-eligible-adults-this-year

เว็บไซต์มิเรอร์ เผยรายงานว่า หญิงสาวรัสเซียนาม Christina Ozturk ในวัย 23 ปี ซึ่งใช้ชีวิตอยู่กับ มหาเศรษฐีเจ้าของโรงแรม ในเมืองบาทูมิ ประเทศจอร์เจีย ได้มีลูกด้วยกันมากถึง 11 คน

แต่ก่อนหน้านี้ พวกเขายังเผยเรื่องสุดเซอร์ไพรซ์มากกว่านั้น เมื่อได้พูดพึงตัวเลขเล่นๆ ผ่านโซเชียลมีเดียว่าอยากมีลูกด้วยกันอย่างน้อย 105 คน แต่ก็ยอมรับในเวลาต่อมาว่า ตัวเลขดังกล่าวแค่พูดสุ่มๆ ขึ้นมา ส่วนตัวเลขจริงๆ จะเป็นไปได้มากขนาดนั้นไหมพวกเขาก็ยังไม่ทราบเช่นกัน แต่ยังไม่คิดจะปิดอู่อยู่แค่ 11 คนแน่นอน

อย่างไรก็ตาม Christina เผยว่า ตอนนี้เธอมีลูก ๆ ที่เกิดจากการตั้งครรภ์แล้วถึง 10 คน และแผนที่จะมีลูกคนต่อ ๆ ไปอาจจะใช้วิธีจ้างแม่อุ้มบุญมาช่วยเติมเต็มความต้องการในการมีลูก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่ขอเป็นฝ่ายตั้งครรภ์เองหลังจากนี้ โดยให้ทุกอย่างเป็นไปตามเวลา และเธอก็ไม่ทราบเช่นกันว่าท้ายที่สุดแล้วจะมีลูกๆ มาเติมสีสันในบ้านรวมทั้งสิ้นกี่คนกันแน่ เพราะในตอนนี้เธอกับสามียังไม่พร้อมที่จะพูดถึงตัวเลขสุดท้าย

นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะทำเด็กหลอดแก้วโดยใช้พันธุกรรมของพวกเขา ซึ่งทางคลินิกก็จะเป็นฝ่ายติดต่อแม่อุ้มบุญมาให้เลือก โดยคู่รักจะเลือกแต่แม่อุ้มบุญที่ยังสาว เคยผ่านการตั้งครรภ์มาแล้วอย่างน้อย 1 ครั้ง และไม่มีสารเสพติดในตัว จากนั้นผู้ที่ได้รับเลือกก็จะต้องผ่านขั้นตอนการให้คำปรึกษา และเซ็นเอกสารยินยอมทางกฎหมายอีกด้วย

ทั้งนี้ Christina ยอมรับว่า การเลี้ยงดูครอบครัวขนาดใหญ่เป็นเรื่องยากกว่าที่คิด ซึ่งส่วนใหญ่หลายคนคิดว่าเธอคงจะจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาเป็นกองทัพเพื่อช่วยเลี้ยงดูลูก ๆ แต่จริง ๆ แล้วเธอได้ทุ่มเทเวลาทั้งวันไปกับการเลี้ยงดูและอยู่กับลูก ๆ ไม่ได้นั่งสบายเป็นคุณนายแต่อย่างใด


ที่มา: https://www.tnews.co.th/foreign/541682/คุณแม่ยังสาว-อายุแค่-23-มีลูกแล้ว-11-คน-ยังอยากปั๊มเพิ่มอีก

ห้อยแล้วแคล้วคลาด! ‘ณัฐชา’ ชม ‘สิระ’ เลือกถูกแล้ว แขวนเหรียญ ‘ประวิตร’ ระบุรุ่นนี้ขลัง เหมาะกับคนติดคดี แต่ยังเหน็บ จะอวยทั้งที ยังสะกดชื่อผิด แนะ ‘ปารีณา’ รีบหามาคล้องด่วน ประท้วงถี่แบบนี้ยิ่งสะท้อนคดีร้อน

นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี ที่นาย สิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ คล้องสร้อยคอ ประทับหน้าพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ โดยกล่าวอ้างว่า เหรียญรุ่นนี้เป็นสิริมงคลนั้น

นายณัฐชา ระบุว่า ท่านเลือกเหรียญดีแล้วเพราะเหรียญรุ่นนี้ คนที่มีคดีความหนักๆห้อยอะไรก็ไม่แคล้วคลาด ควรพึ่งเหรียญประวิตร วงษ์สุววรณ เพราะเหรียญรุ่นนี้เคลียร์ทางได้หมด และอีกไม่นานเหรียญนี้น่าจะมีมูลค่าเพิ่มจำนวนมาก ไม่ใช่เพราะคนในรูปแต่เป็นเพราะราคาทองคำขึ้นทุกวัน ๆ และคนมีคดีฝั่งท่านก็มีเยอะขึ้นทุกวัน คงต้องพึ่งเหรียญรุ่นนี้

ทั้งนี้นายณัฐชา กล่าวว่า เมื่อวานก็เห็นคุณสิระ ขยันทำผลงานประท้วงในสภาหลายต่อหลายครั้ง นายสิระคงปลุกของมาเต็มที่ ผลงานรอบนี้ท่าจะเข้าตาผู้หลักผู้ใหญ่ บวกกับเหรียญที่ห้อยมาวันนี้ น่าจะทำให้ท่านรอด ผมอยากแนะนำให้คุณปารีณา ไปหาเหรียญมาห้อยด้วย เพราะดูจากสีหน้าค่าตาและความคืบหน้าคดีแล้วคงต้องยิ่งพึ่งพาเหรียญรุ่นนี้ให้เร็วที่สุด

แต่ขอเตือนอย่างหนึ่งว่าอย่าแสดงความรักจอมปลอมให้เขาจับได้เหมือนคุณสิระ เพราะขนาดชื่อบนเหรียญยังพิมพ์ผิด ท่านชื่อ ‘ประวิตร’ ไม่ใช่ ‘ประวิทย์’ จำให้ดี จดไว้ให้ขึ้นใจ เพราะความรักจอมปลอมย่อมถ่ายทอดจากสิ่งของที่คุณทำให้ อยากจะอวยอยากจะประจบแต่ชื่อยังผิดแบบนี้ คุณปารีณาอย่าซ้ำรอย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top