Sunday, 29 June 2025
TheStatesTimes

สหรัฐฯ ส่อไม่รอด 'ภาวะเศรษฐกิจถดถอย' แบบหนัก ด้าน 'ดอยช์แบงก์' ชี้!! ยิ่งคุมเงินเฟ้อ ยิ่งกระอัก

ดอยช์แบงก์' คาดการณ์ สงครามรัสเซีย-ยูเครน ผสมโรงจีนล็อกดาวน์กระตุ้นเงินเฟ้อ ส่อพา 'สหรัฐฯ' เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ที่อาจจะไม่เบาอย่างที่คิด

CNN รายงานการประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจของทีมนักเศรษฐศาสตร์ประจำดอยช์แบงก์ (Deutsche Bank) ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำสัญชาติเยอรมันที่อยู่ในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งใหญ่

ธนาคารดอยต์เชอ หรือ ดอยช์แบงก์ (Deutsche Bank) เป็นธนาคารแรกที่พยากรณ์เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมานี้ว่า สหรัฐฯ จะเผชิญกับ ภาวะเศรษฐกิจถดถอย (recession) ระดับไม่รุนแรง แต่รายงานล่าสุดที่เผยแพร่กับลูกค้าเมื่อ 26 เม.ย. ระบุว่า “เราจะเจอกับภาวะถดถอยครั้งใหญ่”

การประเมินครั้งนี้มาจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ 'เฟด' ต้องการสยบภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งอาจใกล้จุดพีกแล้ว แต่ต้องอาศัยเวลาอีกนานกว่าจะลดต่ำลง 2% ตามเป้าหมายของเฟด และความพยายามที่จะกดอัตราเงินเฟ้ออย่างหนักจะส่งผลลบต่อเศรษฐกิจ

“เราคาดว่า มีแนวโน้มสูงที่เฟดจะกดอัตราเงินเฟ้ออย่างหนักอีก ดังนั้นจึงต้องอาศัยภาวะถดถอยมาช่วยกดให้เงินเฟ้อลดต่ำลง นี่เป็นเหตุผลว่า ภาวะถดถอยที่กำลังจะมาถึงนี้ อาจเลวร้ายกว่าที่คาดไว้” ทีมนักเศรษฐศาสตร์ดอยช์แบงก์ ระบุ

>> เบื้องหลังตัวเลขเงินเฟ้อ-ว่างงาน
เมื่อเดือนมีนาคม ราคาอุปโภคบริโภคสูงขึ้นไปแล้วถึง 8.5% เป็นอัตราพุ่งสูงสุดในรอบ 40 ปี ส่วนตลาดแรงงานยังน่าเป็นห่วง โดยจากการประเมินของมูดีส์ อนาไลติกส์ คาดว่า อัตราคนว่างงานจะดิ่งต่ำที่สุดนับจากช่วงต้นของทศวรรษ 1950

การประเมินครั้งนี้ ดอยช์แบงก์ได้สร้างดัชนีที่วัดระยะความห่างระหว่างเงินเฟ้อกับคนว่างงานในช่วง 60 ปีมานี้ และดูว่าเฟดตั้งเป้าตัวเลขทั้งสองด้านอย่างไร?

จากการวิจัยสถานการณ์ล่าสุดนี้ พบว่าปัจจุบันเฟดอยู่เบื้องหลังการกำหนดตัวเลขดังกล่าวมากกว่าเมื่อช่วงต้นทศวรรษ 1980 ตอนที่เงินเฟ้อสูงมากจนบีบให้ธนาคารกลางต้องขึ้นดอกเบี้ยเป็นสถิติเพื่อจัดการคุมเศรษฐกิจ

ซึ่งประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่า เฟดไม่เคยคุมเงินเฟ้อและอัตราการจ้างงานได้ โดยปราศจากการผลักให้เศรษฐกิจเข้าไปอยู่ในภาวะถดถอยอย่างเห็นได้ชัด

การบีบตลาดแรงงานจนแน่นเกินเพื่อจะให้อัตราว่างงานอยู่ที่ 2% ทำให้ต้องเลือกภาวะถดถอยรุนแรงมากกว่าที่จะเลือกแบบเบาบาง

อย่างไรก็ตาม ยังพอมีข่าวดีจากดอยช์แบงก์ ว่าเริ่มเห็นแนวโน้มที่เศรษฐกิจจะกระเตื้องกลับมาช่วงกลางปี 2024 (พ.ศ. 2566) เมื่อเฟดถอยจากการต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ

ชาวเน็ตซัดแรง ค้านอนุทินแบนบุหรี่ไฟฟ้า ส.ส. ก้าวไกลหนุนปลดล็อคให้ถูกกฎหมาย

หลังมีข่าวนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แสดงจุดยืนไม่ดันบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย ชาวเน็ตจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงนายสมบัติ บุญงามอนงค์ นักเคลื่อนไหวกิจกรรมทางการเมือง เข้าไปแสดงความคิดเห็นในเพจต่างๆ ที่เสนอข่าวดังกล่าว โดยให้ความเห็นว่าการแบนบุหรี่ไฟฟ้าเป็นแนวทางที่ไม่สอดคล้องกับหลายประเทศที่เริ่มให้ความสำคัญกับการออกนโยบายสุขภาพจากพื้นฐานของข้อมูลวิชาการที่ชัดเจนว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีความเสี่ยงน้อยกว่าบุหรี่มวน บางส่วนก็ตั้งคำถามถึงเรื่องของผลประโยชน์ และความตั้งใจในการแก้ปัญหาด้านสุขภาพของ รมต. สาธารณสุข ซึ่งสนับสนุนการปลดล็อคกัญชา แต่กลับแบนบุหรี่ไฟฟ้า ขณะที่บุหรี่ซึ่งอันตรายกว่าและโรงงานยาสูบยังขายได้ตามปกติ
โดยความคิดเห็นของนายสมบัติ ระบุว่า “แน่จริงปิดโรงงานยาสูบครับ”
 
ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กรายหนึ่งแสดงความคิดเห็นอย่างดุเดือดว่า “รอแบ่งเค้กกันก่อนครับ ประเทศนี้ถูกกฎหมายได้ทุกอย่าง ถ้าแบ่งเค้กกันลงตัวแล้ว”
 
ขณะที่บัญชีเฟซบุ๊กรายอื่นๆ คอมเม้นท์ว่า “มีขายเต็มไปหมด มีแต่ท่านๆๆ นั้นล่ะครับหาชื้อไม่ได้ ไม่รู้ว่าใครขาย”
“ที่กัญชาใบกระท่อมทำให้ถูกกฎหมายได้ นายทุนรวยกันเป็นแถบๆ บุหรี่ไฟฟ้าน่าจะทำ จะได้ภาษีมาอีกหลายเลยนะ”
“ช่วยบอกโทษของบุหรี่ไฟฟ้ากับบุหรี่ธรรมดาให้ฟังหน่อยครับว่าต่างกันยังไง ทำไมอันหนึ่งขายได้อีกอันขายไม่ได้”
“บุหรี่ที่ถูกกฎหมาย​ตอนนี้กับบุหรี่ไฟฟ้าที่ผิดกฎหมาย​ อันไหนโทษรุนเเรงต่อสุขภาพมากกว่ากันครับ แต่ภาษีที่ได้จากบุหรี่ มันมากมายมหาศาล..จึงยอมแลกกับชีวิตประชาชน”
“แล้วแต่ทินเลย กันชา ใบท่อม ทินดันให้ถูกกฎหมาย แต่บุหรี่ไฟฟ้า ทินบอกอันตราย”
 
ด้านนายอาสา ศาลิคุปต ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า “กลุ่มลาขาดควันยาสูบ” และเฟซบุ๊กเพจ “บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร” เผยว่า “ผิดหวังกับจุดยืนของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข ที่ไม่สนับสนุนการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าอย่างถูกกฎหมาย ทั้งๆ ที่นโยบายของพรรคภูมิใจไทยสนับสนุนการปลดกัญชาออกจากการเป็นยาเสพติด และให้มีกฎหมายควบคุมการใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์กับการแพทย์ และวิสาหกิจชุมชน แต่ยังหวังว่านายอนุทินจะเปิดใจศึกษาข้อมูลทางวิชาการของบุหรี่ไฟฟ้า เช่นเดียวกับเมื่อครั้งผลักดันนโยบายกัญชาเสรี ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของหลายๆ ประเทศที่ควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าให้ถูกกฎหมาย”

'หมอพรทิพย์' ขยี้ซ้ำผลสรุปคดี 'แตงโม' ชี้! ภาพที่ส่งต่ออัยการอาจไม่สมบูรณ์ 

'หมอพรทิพย์' ขยี้ซ้ำผลสรุปคดีแตงโม ภาพที่ส่งต่ออัยการจึงอาจมีความไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดแพะ เกิดความไม่เป็นธรรมมากมาย ยันวิทยาศาสตร์จะบอกได้ว่าจุดตกไม่ใช่ท้ายเรือ ย้ำ อย่าให้ความชั่วครอบงำ

27 เม.ย. 65 แพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) อดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก กรณีตำรวจชุดสอบสวน แถลงสรุปสำนวน คดีแตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงสาว ตกจากสปีดโบ๊ตเสียชีวิต กลางแม่น้ำเจ้าพระยา โดยยืนยันว่าบาดแผลเกิดจากใบพัดเรือ สั่งฟ้อง 5 คนบนเรือกับกุนซือ โดย 3 คนโดนข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มีเนื้อหาดังนี้

จิบกาแฟหน้าเจดีย์พระรัตนตรัยหลังทำข้าวผัดปลาเค็มถวายพระเรียบร้อย ได้มีเวลาดูข่าวแตงโมนิดหน่อย เหมือนอย่างที่เคยบอกว่าการรวบรวมพยานหลักฐานเหมือนการต่อจิ๊กซอว์ บางชิ้นเสียบลงแต่ไม่ใช่ส่วนของภาพ บางชิ้นที่เป็นส่วนสำคัญยังหาชิ้นเชื่อมโยงไม่ได้ก็เลยทิ้งไป หรือไม่อยากเอามาใส่เพราะไม่ได้ให้ความสำคัญ

‘พงศ์พรหม’ ยกเหตุดีเจคนดังถูกไล่ลงจากเครื่องบิน ชี้ “สิทธิ” ต้องมาพร้อมกับคำว่า “เคารพสิทธิ”

พงศ์พรหม ยามะรัต ยกเคสศึกษาดีเจคนดัง ถูกไล่ลงจากเครื่อง ชี้ “สิทธิ” ต้องมาพร้อมกับคำว่า “เคารพสิทธิ”

จากเหตุการณ์ ดีเจชื่อดังจากเกาหลีอย่าง "ดีเจโซดา" (ฮวังโซฮี) ได้มีการโพสต์คลิปพร้อมข้อความผ่านอินสตาแกรม @deejaysoda เผยว่าตัวเธอเองถูกสายการบิน American Airlines ไล่ลงจากเครื่อง เหตุเพราะใส่กางเกงที่มีข้อความภาษาอังกฤษว่า "ฟักยู" (F_ck You)

โดยเธอเผยว่าเธอต้องถูกบังคับให้ลงจากเครื่องบินและถอดกางเกงต่อหน้าลูกเรือที่ประตูและทำให้เธออับอายเป็นอย่างมาก ก่อนยังระบุว่าที่ผ่านมาเธอไม่เคยมีปัญหากับการใส่กางเกงตัวนี้ขึ้นเครื่องแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตามวันนี้ ( 27 เม.ย.) นายพงศ์พรหม ยามะรัต อดีตรองหัวหน้าพรรคกล้า ได้โพสต์ข้อความลงเพจส่วนตัว “Pongprom Yamarat” ในประเด็นดังกล่าวเกี่ยวกับ “สิทธิ” ตามที่เข้าใจ โดยได้ระบุว่า

“ข่าวดีเจคนนึงที่ใส่กางเกงที่มีคำว่า “F_ck You” ทั่วกางเกงไปหมด จนทำให้สายการบินอเมริกาต้องขอให้ลงจากเครื่องไปเปลี่ยนกางเกงใหม่ กำลังเป็นประเด็นด้านสิทธิของ “ผู้ใส่”

ผมเชื่อว่าตัวคุณดีเจก็คงยังโมโห เพราะโพสต์ “บ่น” ในเรื่องนี้ แทนที่จะขอโทษ

ผมขอลองแนะนำคำว่า “สิทธิ” ตามที่เข้าใจ

ทุกคนมี “สิทธิ” ตราบใดที่ “สิทธิ” นั้น ไม่ไปละเมิดสิทธิคนอื่น

ผมไม่ทราบหรอกว่าคุณดีเจชอบอะไรในกางเกงตัวนี้

1. คุณดีเจยังเป็นวัยรุ่น เลยชอบการแต่งตัวอะไรที่แรงๆ อันนี้ผมเข้าใจมากๆ
2. คุณดีเจชอบดีไซน์ของมันเป็นการส่วนตัว
3. คุณดีเจแค่อยากให้คนมอง

คำตอบคือผมไม่ทราบว่าคุณดีเจชอบมันเพราะอะไร

ตอนวัยรุ่นผมเคยมีกางเกง “Dolce & Gabbana” ที่เขียนคำว่า “Dolce & Gabbana” ยาวตั้งแต่เอวจนถึงข้อเท้า

ผมขอบยี่ห้อ ผมชอบความเด่น แต่ถามตรงๆ ดีไซน์ถือว่าดีมั้ย? ถ้าโกหก ผมจะตอบว่าใช่ แต่จริงๆ มันก็ไม่

แต่ขอเสนอ

ข้อแรก สายการบินเค้ามีกฏกติกา เพื่อคุ้มครอง “สิทธิ” คนอื่นครับ เช่นการนั่งชั้น business หรือ first ในหลายๆ สายการบิน จะได้รับการแนะนำให้แต่งตัวเรียบร้อย มิดชิด คือไม่ได้ต้องใส่สูทนะครับ ขอเสื้อยืด กางเกงขายาวกีฬาก็ได้แล้ว อย่าไปขนาดเสื้อกล้าม ขาสั้น

ข้อสอง เครื่องบินถือเป็นที่ๆ คนสาธารณะมาใช้ครับ หมายถึงผู้สูงอายุ เด็ก พระ รวมถึงคนต่างศาสนา

การจะไปในที่เหล่านี้ ต้อง “คิด” ครับ

มนุษย์ที่ดี ควร “คิด” ให้มาก และที่สำคัญ นอกจากคิดถึงตัวเอง ก็ต้องคิดถึงคนอื่นด้วย

‘รัสเซีย’ งดป้อนก๊าซให้ ‘โปแลนด์-บัลแกเรีย’ ชี้ อยู่ในข่ายประเทศไม่เป็นมิตร ต้องจ่ายด้วย ‘รูเบิล’

เจ้าหน้าที่ในโปแลนด์และบัลแกเรียในวันอังคาร (26 เม.ย.) เปิดเผยว่า รัสเซียกำลังระงับการส่งก๊าซธรรมชาติมายังประเทศของพวกเขา หลังจากทั้ง 2 ประเทศปฏิเสธจ่ายค่าก๊าซของรัสเซียเป็นสกุลเงินรูเบิล

รัฐบาลของ 2 ชาติสมาชิกสภาพยุโรปและนาโต้ เปิดเผยว่า ก๊าซพรอม รัฐวิสาหกิจพลังงานยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย ได้แจ้งกับพวกเขาว่ากำลังระงับการป้อนก๊าซธรรมชาติในวันพุธ (27 เม.ย.)

การระงับป้อนก๊าซครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ประกาศเมื่อเดือนที่แล้ว ว่า บรรดาผู้ซื้อต่างชาติ "ประเทศไม่เป็นมิตร" จะต้องจ่ายค่าก๊าซแก่ก๊าซพรอมด้วยสกุลเงินรูเบิล แทนดอลลาร์หรือยูโร โดยจนถึงตอนนี้มีเพียงฮังการีชาติเดียวที่ยอมจ่ายเป็นสกุลเงินรูเบิล

ถ้าก๊าซพรอมระงับการป้อนก๊าซไปยังประเทศอื่นๆ มันอาจก่อความเจ็บปวดทางเศรษฐกิจแก่ยุโรป ดันราคาก๊าซพุ่งสูง และเป็นไปได้ว่าอาจต้องใช้มาตรการปันส่วนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเยอรมนี ที่อยู่ในภาวะอ่อนแออย่างมาก เนื่องจากพวกเขาพึ่งพิงก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียเป็นอย่างสูง แต่อีกด้านหนึ่ง การตัดการส่งมอบก๊าซใดๆ อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของรัสเซียเองเช่นกัน

โปแลนด์ คือผู้สนับสนุนตัวยงของยูเครน ประเทศเพื่อนบ้าน ระหว่างที่ต้องเผชิญการรุกรานของรัสเซีย พวกเขาเป็นจุดโอนถ่ายอาวุธที่สหรัฐฯ และประเทศตะวันตกอื่นๆ ส่งมอบให้แก่ยูเครน

รัฐบาลโปแลนด์ยืนยันเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ว่ากำลังส่งมอบรถถังแก่กองทัพยูเครน และในวันอังคาร (26 เม.ย.) ได้แถลงมาตรการคว่ำบาตรเล็งเป้าเล่นงานเหล่าบุคคลอิทธิพลทางธุรกิจและทางการเมือง รวมถึงบริษัทต่างๆ ของรัสเซีย 50 รายชื่อ ในนั้นรวมถึงก๊าซพรอม

ส่วนบัลแกเรีย ครั้งหนึ่งเคยเป็นพันธมิตรใกล้ชิดที่สุดของมอสโก ได้ตัดความสัมพันธ์เก่าแก่หลายๆ ด้านกับรัสเซีย หลังจากรัฐบาลเสรีนิยมชุดใหม่เข้ารับตำแหน่งเมื่อฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว และหลังจากกองทัพปูตินรุกรานยูเครน พวกเขาสนับสนุนมาตรการคว่ำบาตรกำหนดเล่นงานรัสเซีย และมอบความช่วยเหลือด้านสิทธิมนุษยชนแก่ยูเครน

บัลแกเรีย ลังเลมอบความช่วยเหลือด้านการทหารแก่ยูเครน แต่นายกรัฐมนตรีคิริล เพทคอฟ และสมาชิกในรัฐบาลผสมของเขา เตรียมเดินทางไปเยือนเคียฟในวันพุธ (27 เม.ย.) เพื่อพูดคุยหารือกับบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครน เกี่ยวกับความช่วยเหลือเพิ่มเติมที่จะมอบแก่ประเทศแห่งนี้

PGNiG รัฐวิสาหกิจก๊าซธรรมชาติของโปแลนด์ เผยได้รับแจ้งจากก๊าซพรอม ว่า ทางก๊าซพรอมจะหยุดส่งมอบก๊าซผ่านท่อลำเลียงยามาน-ยุโรป ในตอนเช้าวันพุธ (27 เม.ย.) และต่อมา กระทรวงพลังงานบัลแกเรียระบุได้รับแจ้งว่ารัสเซียจะหยุดจ่ายก๊าซแก่บัลแกเรียผ่านท่อลำเลียงเติร์กสตรีมในวันพุธ (27 เม.ย.) เช่นกัน

ยุโรปนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียในปริมาณมหาศาล เพื่อสร้างความอบอุ่นแก่บ้านเรือน ก่อกำเนิดไฟฟ้าและเป็นเชื้อเพลิงภาคอุตสาหกรรม และการนำเข้ายังมีอยู่อย่างต่อเนื่องแม้เกิดสงครามในยูเครน

ที่ผ่านมา ราว 60% ของปริมาณการนำเข้าเป็นการชำระเงินในรูปแบบของยูโร ส่วนที่เหลือจ่ายด้วยสกุลเงินดอลลาร์ และความต้องการของปูติน ดูเหมือนเป็นความตั้งใจช่วยเสริมความเข้มแข็งแก่สกุลเงินรัสเซีย ท่ามกลางมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกที่กำหนดเล่นงานมอสโก ต่อกรณีรุกรานยูเครน

พวกผู้นำอียูบอกว่า จะไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับให้ชำระเงินเป็นสกุลรูเบิล โดยอ้างว่ามันละเมิดเงื่อนไขในสัญญาและมาตรการคว่ำบาตรของพวกเขาที่กำหนดเล่นงานรัสเซีย

ท่อลำเลียงยามาน ลำเลียงก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียไปยังโปแลนด์และเยอรมนี ผ่านเบลารุส ทั้งนี้ โปแลนด์นำเข้าก๊าซจากรัสเซียราว 9,000 ล้านลูกบาศก์เมตรในแต่ละปี คิดเป็นสัดส่วนราว 45% ของอุปสงค์ทั้งหมดของประเทศ

'พี่ศรี' ไล่เลียงคุณสมบัติ 'ทนายขยะ' ด่าคนอื่นหิวแสง แต่ชอบแย่งคดีมาทำ

'ศรีสุวรรณ' ไล่เลียงคุณสมบัติ 'ทนายขยะ' ชอบด่าคนอื่นว่าหิวแสง แต่ตนเองนั้นยิ่งกว่า ชอบไลฟ์สดอวดเก่ง ว่าแน่กว่าทนายคนอื่น ชอบแย่งคดีทนายอื่นมาทำ อย่างไม่ละอาย แถมชอบอ้างรู้จักตำรวจ/คนใหญ่คนโตไปทั่ว

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า…
คุณสมบัติของ ‘ทนายขยะ’ ขาดข้อใดข้อหนึ่งถือว่าไม่ใช่…

- ชอบด่าคนอื่นว่าหิวแสง แต่ตนเองนั้นยิ่งกว่า
- ชอบไลฟ์สดอวดเก่ง ว่าแน่กว่าทนายคนอื่น
- ชอบแย่งคดีทนายอื่นมาทำ อย่างไม่ละอาย
- ชอบตอบคำถามข้างๆ คูๆ เถียงคำไม่ตกฟาก
- ชอบอ้างรู้จักตำรวจ/คนใหญ่คนโตไปทั่ว
- ชอบเถียงฉันไม่แคร์เพราะมี FC เยอะเวลาถูกทัวร์ลง
- ชอบร้อง จุกกรูรรรรร์ๆๆ ๆๆ เป็นเนืองนิจ

ประชุม ‘คก.บห.’ พรรคสร้างอนาคตไทย นัดแรก!! รับทราบการแต่งตั้ง คกก.สรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง พร้อมตั้ง ‘บุญส่ง ชเลธร’ นั่งรองเลขาธิการพรรคคู่ ‘วัชระ กรรณิการ์’

(27 เม..65) ที่ทำการพรรคสร้างอนาคตไทย/พรรคสร้างอนาคตไทยจัดประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคครั้งแรก ภายหลังจากการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในการปนะชุมใหญ่พรรค เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา โดยมีคณะกรรมการบริหารพรรคเข้าประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน นำโดย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสันติ กีระนันท์ เหรัญญิกพรรค นายนิทัศน์ ประทักษ์ใจ นายทะเบียนพรรค นายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรค อาทิ นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ, นายวิเชียร ชวลิต, นายสุพล ฟองงาม และนายพินิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ เป็นต้น

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้รับทราบวาระการตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง จำนวน 11 คน ในสัดส่วนต่างๆ ดังนี้

คณะกรรมการสรรหาสัดส่วนกรรมการบริหารพรรคสร้างอนาคตไทย จำนวน 5 คน ได้แก่

1. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค

2. นายสุพล ฟองงาม รองหัวหน้าพรรค / กรรมการบริหารพรรค

3. นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค / กรรมการบริหารพรรค

4. นายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรค / กรรมการบริหารพรรค

5. นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรค / กรรมการบริหารพรรค

คณะกรรมการสรรหาสัดส่วนหัวหน้าสาขาพรรคสร้างอนาคตไทย จำนวน 4 คน ได้แก่...

1. นายณรงค์ชัย แกหลวง หัวหน้าสาขาจังหวัดเชียงใหม่

2. นายจรงค์ หมื่นเมือง หัวหน้าสาขาจังหวัดนราธิวาส

3. นางสาวจินตนา กลั่นแก้ว หัวหน้าสาขาจังหวัดหวัดสุรินทร์

4. นายชัยพัฒน์ ตั้งแดนทอง หัวหน้าสาขาจังหวัดเพชรบุรี

คณะกรรมการสรรหาสัดส่วนตัวแทนพรรคสร้างอนาคตไทย จำนวน 2 คน ได้แก่...

1. นายแดงดี แสงโยธา ตัวแทนพรรคประจําจังหวัดสกลนคร เขตเลือกตั้งที่ 4

2. นายวิฑูรย์ กวางทอง ตัวแทนพรรคประจําจังหวัดอุดรธานี เขตเลือกตั้งที่ 4

นอนหลับอย่างไรให้สุขภาพดี

ในแต่ละวันการนอนหลับใช้เวลาเกือบ 1 ใน 3 ของช่วงเวลาทั้งวัน ดังนั้นหากนอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองอย่างเต็มที่ ส่งผลให้ฮอร์โมนต่างๆ ทำงานอย่างปกติและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะในขณะที่นอนหลับสนิท ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนที่กระตุ้นการเจริญเติบโต (Growth hormone) ออกมาเป็นจำนวนมาก

การนอนหลับบนที่นอนและหมอนที่เหมาะสมมีส่วนช่วยให้เกิดความผ่อนคลายและความสบาย ดังนั้นการเลือกที่นอนและหมอนที่ดีจึงมีความสำคัญและไม่ควรมองข้าม

✨ที่นอนที่ดีเป็นอย่างไร ?

ที่นอนที่ดีต้องรองรับน้ำหนักตัวได้อย่างเต็มที่ สามารถกระจายน้ำหนักตัวออกไปได้มากที่สุดจนร่างกายทุกส่วนรู้สึกผ่อนคลายและกล้ามเนื้อต่างๆ ทำงานน้อยที่สุด ทำให้กล้ามเนื้อได้พักผ่อนตลอดการนอนหลับ        6-8 ชั่วโมง ในทางตรงข้ามหากนอนหลับบนที่นอนที่ไม่เหมาะสม ไม่สามารถรองรับและกระจายน้ำหนักตัวได้เต็มที่ กล้ามเนื้อบางมัดอาจอยู่ในท่าเกร็งหรือไม่ผ่อนคลาย ส่งผลให้ปวดเมื่อยร่างกายได้

1.) ที่นอนที่ดีต้องเรียบ ตึง และแน่น
อาจทำจากนุ่น ใยสังเคราะห์ สปริงหรือใยมะพร้าว โดยมีความยืดหยุ่นพอสมควร นอกจากนี้ต้องไม่มีส่วนนูนโค้งเพราะทำให้รับน้ำหนักไม่สม่ำเสมอและกล้ามเนื้อบางมัดต้องทำงานขณะนอนหลับ 

2.) ที่นอนที่ดีต้องไม่นิ่มหรือแข็งจนเกินไป
ถ้าที่นอนนิ่มเกินไป ร่างกายจะจมลงไปในที่นอน ส่วนที่หนักจะถูกกดทับและรับน้ำหนักมากกว่าส่วนอื่น การกระจายน้ำหนักไม่ดี ทำให้รู้สึกปวดเมื่อยได้ง่าย ส่วนที่นอนที่แข็งเกินไป อาจทำให้รู้สึกเจ็บบริเวณปุ่มกระดูกต่างๆ 

3.) ควรเลือกที่นอนที่เหมาะสมกับรูปร่างของตัวเอง
สำหรับคนรูปร่างผอมอาจเลือกที่นอนที่มีลักษณะนิ่มกว่าเพื่อรองรับปุ่มกระดูกต่างๆ ของร่างกาย ส่วนคนรูปร่างใหญ่อาจเลือกที่นอนที่มีความแข็งกว่า เพราะกล้ามเนื้อและไขมันจะช่วยรองรับและกระจายน้ำหนักตัวได้ แต่ถ้าคนรูปร่างใหญ่ใช้ที่นอนนิ่ม ส่วนของร่างกายจะจมลงไปในที่นอน ทำให้รู้สึกไม่สบายตัว

นอกจากที่นอนที่ดีแล้ว อุปกรณ์ในการนอนที่มีความสำคัญเช่นกันก็คือ “หมอน” เพราะช่วยรองรับและกระจายน้ำหนัก โดยเฉพาะร่างกายช่วงคอบ่าไหล่

นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 4/2565

พล...ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า วันพุธ ที่ 27 เม..65 พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (.ตร.) ครั้งที่ 4/2565 ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และคณะอนุกรรมการด้านต่างๆ เข้าร่วมประชุม

โดยคณะอนุกรรมการข้าราชการตำรวจด้านวินัย อุทธรณ์ ร้องทุกข์ และบริหารทรัพยากรบุคคล ได้รายงานข้อมูลการกระทำผิดวินัยร้ายแรง ของข้าราชการตำรวจ เดือน เม.. 65 มีข้าราชการตำรวจถูกลงโทษทั้งสิ้น จำนวน 25 นาย เป็นการไล่ออกจากราชการ จำนวน 19 นาย และปลดออกจากราชการ จำนวน 6 นาย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top