Wednesday, 15 May 2024
PoliticsQUIZ

นายกฯ บอกสื่อ ย้ำหลายครั้งไม่ยุบสภา ไม่ตอบพลังประชารัฐต้าน ‘พีระพันธุ์’

‘พล.อ.ประยุทธ์’ เผย ย้ำหลายครั้งแล้ว ไม่มียุบสภา ขอเดินหน้าแก้ปัญหาประเทศก่อน ทั้งโควิด น้ำท่วม เปิดประเทศ ยันจะดูแลให้ดีที่สุด ไม่ตอบพรรคพลังประชารัฐต้าน ‘พีระพันธุ์’

เมื่อเวลา 13.10 น. วันที่ 14 ต.ค. 64 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวช่วงหนึ่งระหว่างตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงสถานการณ์ การรับมือแก้ปัญหาอุทกภัย และการเยียวยาว่า ขอให้เห็นใจบ้างในทุกเรื่อง แต่ตนเองยืนยันจะดูแลให้ดีที่สุด เรื่องอื่นเอาไว้ก่อน ได้หรือไม่ เนื่องจากขอเร่งแก้ปัญหาเรื่องน้ำ แก้ปัญหาเรื่องโควิด แก้ปัญหาเรื่องเปิดประเทศ เรื่องของการฉีดวัคซีน ต่างๆ เหล่านี้ ที่ส่วนตัวได้พูดไปแล้ว ส่วนรายละเอียดต่างๆ ขอให้ติดตามจากโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ศิริกัญญา-วิโรจน์ ฟังปัญหาเกษตรกรเลี้ยงวัว ชี้ รัฐบาลเยียวยาลัมปีสกินล่าช้า

(14 ต.ค. 64) ศิริกัญญา ตันสกุล, วิโรจน์ ลักขณาอดิสร, สุรวาท ทองบุ, ทวีศักดิ์ ทักษิณ ผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย อดิศักดิ์ สมบัติคำ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.มหาสารคาม เขต 4 พรรคก้าวไกล และทีมจังหวัดมหาสารคาม ลงพื้นที่ตลาดนัดโค-กระบือ ต.วังไชย อ.บรบือ จ.มหาสารคาม เพื่อรับฟังปัญหาเกษตรกรที่เดือดร้อนจากการระบาดของโรคลัมปีสกินในวัวได้รับการเยียวยาล่าช้า

ศิริกัญญา กล่าวว่า การได้ฟังเสียงของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ทำให้เข้าใจความยากลำบากของเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวและเห็นว่ามาตรการช่วยเหลือที่ผ่านมาของรัฐบาลไม่ตรงจุด

“รัฐบาลสัญญาว่าจะเพิ่มเงินส่วนต่างค่าชดเชยวัวที่ตายจากโรคลัมปีสกิน แต่รัฐบาลไม่เคยประกาศว่าจะออกมาตรการเยียวยาวัวที่เสียราคาจากการเคยป่วย และผู้ที่อยู่ในธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่ได้รับผลกระทบ เขียงเนื้อที่ขาดรายได้ ผู้ผลิตอาหารสัตว์ที่ขาดรายได้ นายฮ้อยตลาดนัดซื้อขายวัวกระบือที่ขาดรายได้ รัฐบาลไม่เคยมีมาตรการเยียวยาออกมา

“การระบาดที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ได้เกิดจากเกษตรกร แต่เกิดจากรัฐบาลที่รู้ล่วงหน้าจากการเตือนขององค์กรระหว่างประเทศตั้งแต่ปี 2563 แล้ว แต่ยังไม่มีมาตรการใดมาป้องกัน ปล่อยให้ลัมปีสกินระบาดในประเทศไทยได้ ใครกันแน่ที่ควรต้องชดใช้ความเสียหาย”

“สงคราม” แนะ “บิ๊กตู่” ช่วยประชาชนต้องจริงใจอย่าคิดเอง อัดเสียดายเวลารัฐออนทัวร์ชี้ประชาชนไม่ได้ประโยชน์จากการลงพื้นที่ของรัฐบาล

นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาพบว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางไปจังหวัดต่างๆอ้างว่าไปตรวจราชการ แต่ในความเป็นจริงเป็นการเดินทางไปหาเสียงมากกว่า เพราะมีการระดมส.ส.เดินตามเพื่อวัดพลังในพรรคพลังประชารัฐ เจตนาของพลเอกประยุทธ์ไปเพื่อการเมืองมากกว่าไปเพื่อช่วยประชาชน 

นอกจากนี้หน่วยงานราชการในพื้นที่ต้องเกณฑ์ประชาชนมารอต้อนรับ มาชียร์ให้นายกสู้ สู้ ไปเพื่อการนี้เท่านั้น พลเอกประยุทธ์ไม่ได้จริงใจที่จะลงไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างแท้เจริงและการวัดพลังในพรรคการร่วมรัฐบาล ดังนั้นประชาชนไม่ได้อะไรจากการลงพื้นที่ ของพลเอกประยุทธ์และคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมา  

นายสงคราม กล่าวด้วยว่า การเยียวยา หรือการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ควรเยียวเป็น “เงินสด” เพื่อให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบทุกคนสามารถใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น รวมทั้งสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนได้ เพราะการจ่ายเป็นเงินสดประชาชนสามารถนำไปใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็น ซึ่งจะเป็นผลทำให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่และยกระดับเศรษฐกิจในชุมชนด้วย 

“ทิพานัน”โต้ “ส.ส. อุบลฯเพื่อไทย” อย่าคิดแต่การเมือง ยัน  “นายกฯ" ลงพื้นที่ แก้ปัญหาจริง

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่นายเอกชัย ทรงอำนาจเจริญ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทยกล่าวหาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมแค่สร้างภาพ หาเสียง หรือวัดกระแสกันเองภายในพรรค ว่า พล.อ.ประยุทธ์ทำงานอย่างจริงใจในฐานะผู้นำไม่ได้หวังหาเสียงหรือวัดกระแสภายในพรรค นอกจากกำชับให้ทุกภาคส่วนเร่งช่วยเหลือประชาชนและแก้ไขปัญหา สร้างขวัญและกำลังใจให้ประชาชนและผู้ปฏิบัติ  เช่นเดียวกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำ(กนช.)ที่ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ และกำชับให้รัฐมนตรีของพรรคลงพื้นที่  

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย โฟกัสที่พล.อ.ประยุทธ์ กับพล.อ.ประวิตร เพื่อหวังเสี้ยมให้เกิดความขัดแย้งและเป็นเรื่องการเมือง อาจหวังกลบข่าวผลงานการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใหญ่ทั้งสองท่าน แต่เชื่อว่าประชาชนไม่หลงเชื่อตามการชี้นำของนักการเมือง เพราะตนลงพื้นได้รับแต่เสียงสะท้อนชื่นชอบมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ และการลงพื้นที่จ.อุบลราชธานีอยู่ในเขตของลุ่มน้ำสำคัญทั้งลุ่มน้ำชีและลุ่มน้ำมูล ที่มวลน้ำจากแม่น้ำชีจะไปบรรจบกับแม่น้ำมูลที่อ.เมืองอุบลราชธานี ช่วงวันที่ 12-21 ต.ค.นี้ จึงต้องติดตามสถานการณ์ให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ พรรคเพื่อไทย มีส.ส. อุบลราชธานี น่าจะทราบดีว่ามีโครงการสำคัญของรัฐบาลหลายโครงการ จึงไปติดตามความคืบหน้ารวมถึงให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานและสอบถามข้อมูลในพื้นที่จริง ดังนี้โครงการบริหารจัดการน้ำอุบลราชธานี –โขงเจียม ระหว่างปี 2559-2564 จำนวน 34 โครงการ

โดยมีครัวเรือนที่จะได้รับประโยชน์ 63,673 ครัวเรือน มีพื้นที่รับประโยชน์ราว 557,686 ไร่  ซึ่งในนี้จะเป็นโครงการป้องกันภัยน้ำท่วม จำนวน 10 โครงการ สามารถป้องกันพื้นที่น้ำท่วม 374,896.75 ไร่ และในระหว่างปี 2565-2567 อีก 129 โครงการ โดยพื้นที่ที่ประชาชนจะได้รับประโยชน์ 2.40 ล้านไร่ และในนี้จะเป็นโครงการป้องกันภัยน้ำท่วม จำนวน 20 โครงการ สามารถป้องกันน้ำท่วมราว 84,582 ไร่  ซึ่งโครงการต่างๆ เหล่านี้ มีผลสำเร็จและคืบหน้าอย่างไรบ้าง ติดขัดตรงไหนหรือไม่ เพื่อให้พี่น้องประชาชนในจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดใกล้เคียง  ได้รับประโยชน์อย่างคุ้มค่าและรวดเร็วที่สุด
  
 

“เสกสกล” โว ปชช.หนุน “นายกฯ”เปิดประเทศ ชี้ สร้างรายได้เข้าประเทศ พร้อมเหน็บ "ปลอดประสพ" แนะบิ๊กตู่แก้น้ำท่วม แล้วทำไม ตอนเป็นรมต.บริหารน้ำไม่ทำ ปล่อยท่วมใหญ่ปี54

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนสนับสนุนและมองว่าเป็นเรื่องที่ดีที่นายกรัฐมนตรี ประกาศเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.นี้ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัวสำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดส เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวภายในประเทศ ให้ประชาชนค้าขายมีรายได้ มั่นใจว่าประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศรอวันที่จะเปิดประเทศเช่นกัน และมั่นใจว่าศบค.จะมีมาตรการรองรับการเปิดประเทศ ไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดเป็นจำนวนมากอีก ซึ่งจากการจัดอันดับหลายแห่งแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยเป็น 1 ในประเทศที่มีระบบสาธารณสุขที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก  จึงขอให้ประชาชนไว้วางใจได้ว่ารัฐบาล ศบค. กระทรวงสาธารณสุข จะดำเนินการด้วยความรัดกุมอย่างดีที่สุดและขอให้ประชาชนทุกคน ทุกภาคส่วนร่วมมือกับรัฐบาลในการรับนักท่องเที่ยวพร้อมกับและดูแลตัวเองตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายลงให้ได้ 

นอกจากนี้นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก อวดผลงานเจรจากับคณะสมัชชาคนจนเปิดเขื่อนปากมูลพร้อมบอกความลับแก้ปัญหาน้ำท่วม ว่า การแก้ไขปัญหาน้ำของรัฐบาลนายกฯประยุทธ์ ไม่ได้แก้ไขปัญหาเฉพาะบางจังหวัด แต่ทำทั่วประเทศที่ประสบปัญหา วางโครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม พัฒนาแหล่งน้ำ รัฐบาลได้เร่งดำเนินการโครงการแก้มลิงทั่วประเทศ ในพื้นที่ 65 จังหวัด  บริหารจัดการน้ำพื้นที่ลุ่มต่ำ 13 ทุ่ง เพื่อใช้เป็นแก้มลิงขนาดใหญ่ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ชะลอน้ำหลาก และได้มีการจัดทำแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี พ.ศ.2561 – 2580 เป็นครั้งแรกที่มีการดำเนินงานจากทุกหน่วยงาน โดยตลอดระยะเวลา 7 ปี ที่ผ่านมามีความก้าวหน้าโดยลำดับ ส่งผลให้สถิติความเสียหายภัยจากน้ำลดลงอย่างชัดเจน 

"หมอวรงค์" แนะวิธีหยุดรัฐประหาร รัฐบาลต้องไม่เลวร้ายจนปชช.เบื่อหน่าย

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเพจ Warong Dechgitvigrom มีเนื้อหาระบุว่า..  #วิธีหยุดรัฐประหาร 

ช่วงนี้พวกโกงชาติออกมาคลับเฮาส์บ่อย จนไม่มีจิตสำนึก หรือละอาย เขาอาจคิดว่าคนไทยโง่และลืมง่าย คนพวกนี้ก็จะเคลมตัวเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย พยายามด้อยค่ากองทัพว่า เป็นพวกทำลายประชาธิปไตยด้วยการรัฐประหาร 

อีกกลุ่มที่ออกมาคล้ายกัน ยังไม่มีประเด็นโกงชาติ แต่อนาคตไม่แน่ เพราะยังไม่เคยเป็นรัฐบาล แต่แน่ ๆ คนพวกนี้ ก็มีพฤติกรรมต้องการล้มเจ้าชัดเจน แต่เลี่ยงภาษาที่พูด แม้จะมีการต่อต้านจากประชาชน แต่ก็ยังไม่ละความพยายาม อาจเป็นเพราะมีแรงหนุนที่ดีจากต่างชาติ 

ทั้งพวกโกงชาติ พวกล้มเจ้า จะใช้ยุทธศาสตร์หลักคล้ายกันคือ เป็นฝ่ายประชาธิปไตย ปล่อยเฟคนิวส์ และพยายามแสดงออกเรื่องต้านรัฐประหาร ทั้ง ๆที่ความเป็นจริง ตอนคนกลุ่มนี้มีอำนาจนั้น มีพฤติกรรมเผด็จการสุด ๆ 

ประชาธิปัตย์ เปิดตัว ‘เมธี ลาบานูน’ เตรียมส่งลงชิงเก้าอี้ส.ส.นราธิวาส พร้อมได้เลือดเก่าไหลกลับ ‘เจะอามิง’ พร้อมใจหนุน ‘จุรินทร์’ นั่งนายกฯ

เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่จ.นราธิวาส นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส โดยนายจุรินทร์ ระบุว่า แคมเปญ ‘เลือดใหม่ไหลเข้า เลือดเก่าไหลกลับ’ ยังเดินหน้าและประสบความสำเร็จโดยต่อเนื่อง จึงได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จ.นราธิวาส ประกอบด้วย นายเมธี อรุณ นักร้องดัง วงลาบานูน นายเจะอามิง โตะตาหยง  อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่กลับเข้าพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง และนายกูอาเซ็ม กูจินามิง อดีต ส.ส. ประชาธิปัตย์ พร้อมมอบเสื้อแจ็กเกต ตราสัญลักษณ์พรรคประชาธิปัตย์ให้กับว่าที่ผู้สมัคร

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า วันนี้ เมธี ลาบานูน ตัดสินใจเข้าร่วมอุดมการณ์กับพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะคนรุ่นใหม่ที่เดินเข้าพรรค ถือเป็นเลือดใหม่ที่ไหลเข้ามาสู่พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งการก้าวมาสู่วงการเมืองครั้งนี้ไม่ใช่ไม่มีการเตรียมการ ที่ผ่านมาก็ทำกิจกรรมเพื่อสังคมในนามจิตอาสา องค์กรแห่งความรักมาเป็นเวลาหลายปีต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือสังคมทั้งด้านการศึกษา และกลุ่มเยาวชน ที่สำคัญยังเป็นอาจารย์สอนรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ เป็นเวลากว่า 4 ปี ดังนั้นการก้าวเข้ามาสู่พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งของเมธี จึงถือว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความเหมาะสม และเชื่อว่าจะได้รับการต้อนรับจากพี่น้องชาวนราธิวาส และคนไทยทั้งประเทศอย่างอบอุ่น

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ส่วนนายเจะอามิง ตัวแทนของ ‘เลือดเก่าไหลกลับ’ นั้น เป็นผู้ร่วมอุดมการณ์กับพรรคมายาวนาน เป็นเพื่อนผู้แทนราษฎรในช่วงเดียวกับตนมาหลายสมัย มาถึงวันนี้ นายเจะอามิง เป็นผู้แทนราษฎรมาแล้ว 5 สมัย เพียงแต่การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาได้ลาออกจากพรรค และไปลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคการเมืองอื่น สำหรับครั้งนี้ได้ตัดสินใจแล้วชัดเจนว่าจะขอเป็นเลือดเก่าไหลกลับ พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อมาร่วมกันสร้างพรรคให้เติบโตต่อไปโดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดชายแดนภาคใต้ 

“ประวิตร” สั่งเข้ม ห้ามจนท.โยงค้ามนุษย์ ลั่น อย่าเกียร์ว่างในกาาช่วยเหยื่อ

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ เพื่อขับเคลื่อนยกระดับการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ให้มีประสิทธิภาพ

โดยที่ประชุมเห็นชอบแนวทางการพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในสองระยะ คือ ระยะเร่งด่วน ในการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ และระยะปานกลางในการจัดตั้งสำนักวิชาการ เพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ในรูปแบบเสมือนจริง เพื่อยกระดับความสามารถเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปราม การจัดการคดีและคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ 

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์เป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาล ซึ่งสังคมไม่สามารถยอมรับเรื่องการกักขัง หน่วงเหนี่ยว กรรโชกทรัพย์เหยื่อ และบังคับทรมานขืนใจหรือข่มขืน โดยเฉพาะเด็กและสตรี ไม่ว่าจะเป็นชนชาติใด รัฐบาลจะไม่เพิกเฉยปล่อยปละละเลยให้เกิดขึ้นในไทยอีกต่อไป

ดังนั้นให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ ทหาร กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานอัยการสูงสุด กรมประมง กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมมือกันโดยเฉพาะแรงงานในภาคประมง ต้องไม่ปล่อยปละละเลย ให้นึกถึงใจเขาใจเรากับเหยื่อ ต้องขับเคลื่อนแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ทั้งระบบ และเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์จากทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้ารับการพัฒนาศักยภาพและปฏิบัติงานไปด้วยกันให้ครบทุกมิติ ทั้งด้านป้องกันและปราบปราม การจัดการคดี การคัดแยกเหยื่อและการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย 

 

‘ยิ่งลักษณ์’ ส่งตัวแทนช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม โทษรัฐประหาร ส่งผลแผนจัดการน้ำถูกยับยั้ง

15 ต.ค. 64 - น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ส่งตัวแทนมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ตำบลบางกระบือ อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี นำโดย ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ หลานสาวและอดีตนายทะเบียนพรรคทษช. นายวิม รุ่งวัฒนจินดา อดีตรองเลขาธิการพรรคทษช. และทีมเลขาน.ส.ยิ่งลักษณ์

ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ฝากให้กำลังใจพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมทุกๆ ครอบครัว เชื่อว่าทุกอย่างจะผ่านพ้นไปโดยเร็ว และอยากฝากถึงรัฐบาล เรื่องการเยียวยาหลังน้ำท่วมขอให้ทั่วถึงและเป็นธรรมต่อพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน โดยเฉพาะเกษตรกร ที่จะต้องขาดรายได้ไปตลอดทั้งปี เพราะพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสีย สำหรับพี่น้องชาวจังหวัดสิงห์บุรี ท่านนายกฯ ฝากให้กำลังใจ ขอให้ทุกคนผ่านพ้นความลำบากนี้ไปให้ได้ ในช่วงปี 54 ท่านนายกฯ ได้เดินทางมาตรวจงานที่สิงห์บุรีบ่อยมากๆ เนื่องจากมีเหตุที่ประตูระบายน้ำบางโฉมศรีแตก ที่อำเภออินทร์บุรี

นายวิม กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้โทรมาสอบถามถึงสถานการณ์น้ำท่วม หลังจากมีข่าวว่าหลายจังหวัดถูกน้ำท่วมจนทำให้พี่น้องประชาชนต้องกลายเป็นผู้ประสบภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง ตลอดจนภาคอีสาน ที่ปีนี้ภาคอีสานกลายเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมมากที่สุด น.ส.ยิ่งลักษณ์จึงคิดว่าเบื้องต้นเพื่อลดปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยก่อน โดยเฉพาะเรื่อง อาหาร น้ำดื่ม และยาสามัญประจำบ้าน ที่จำเป็นต้องใช้ ท่านจึงให้ทีมงานช่วยกันจัด ”ถุงน้ำใจ จากยิ่งลักษณ์“ เพื่อนำมามอบให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ประสบภัย ที่หน่วยงานรัฐยังไม่เข้ามาช่วยเหลือ หรือบางพื้นที่ที่อาจถูกมองข้ามไป ซึ่งทางทีมงานก็ได้ประสานไปยังกลุ่มผู้ประสบภัยที่ได้รับความเดือดร้อนจริงๆ

‘ก้าวไกล’ ถกปัญหา ‘คนจนเมืองขอนแก่น’ ปมไล่ที่ ทำรถไฟความเร็วสูง แต่ไร้เยียวยา

ฟังคนขอนแก่น ‘วีรนันท์’ ว่าที่ผู้สมัครสส.เขต 1 ขอนแก่นนำทีม ‘ก้าวไกล’ ตั้งโต๊ะถกปัญหา ‘คนจนเมืองขอนแก่น’ เผยโครงการ ‘รถไฟฟ้า’ เส้นอีสานไล่ที่ไร้เยียวยา กระทบกว่า 10,000 ครอบครัว ‘วิโรจน์’ จ่อตั้งกระทู้ถาม ‘ศักดิ์สยาม’ ด้าน ‘อภิชาติ’ รับนำเข้ากมธ.ที่ดิน เตรียมเชิญหน่วยงานชี้เเจง

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2564 ณ ชุมชนมิตรภาพริมทางรถไฟ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล, อภิชาติ ศิริสุนทร และสุรวาท ทองบุ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เดินทางไปรับฟังเสียงสะท้อนปัญหาจากพื้นที่ชุมชนริมทางรถไฟต่อกรณีที่ได้รับผลกระทบจากโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง โดยมี วีรนันท์ ฮวดศรี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จังหวัดขอนแก่น พรรคก้าวไกล ตัวเเทนจากเครือข่ายสลัมสี่ภาค และประชาชนที่ได้รับผลกระทบร่วมกันจัดวงเสวนาโต๊ะกลมเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองต่อกรณีดังกล่าว

วิโรจน์ กล่าวในวงเสวนาว่า สิ่งที่เกิดขึ้นแม้ว่าเป็นกรณีที่ไม่มีสัญญาเช่า แต่รัฐจะทำเป็นไม่รู้เรื่องแล้วใช้กฎหมายมาปิดปากเพื่อจัดการประชาชนไม่ได้ จึงมีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องเอาเรื่องที่รัฐไม่พูดถึงมาอยู่บนโต๊ะเพื่อเปิดให้มีการเจรจาและหาทางออกร่วมกัน  

“เบื้องต้นพรรคก้าวไกลมอบหมายให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ขอนแก่น สรุปเรื่องราวเข้ามา เพื่อเป็นข้อมูลข้อเท็จจริงในการตั้งกระทู้ถามต่อไปยัง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ตอบและชี้แจงถึงมาตรการของการเยียวยารวมถึงความชัดเจนของหน่วยงานที่รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหานี้ ทราบว่าประชาชนจำนวนมากไม่มีสัญญาเช่า ไม่มีโฉนดที่ดิน แต่ในการพัฒนาเมืองประชาชนก็ไม่ได้ต่อต้าน จึงอยากให้ทางรัฐเข้าใจหัวอกของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้วย ผมอยากเห็นเมืองที่คนตัวเล็กตัวน้อยสามารถอยู่ร่วมในเมืองได้อย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่ใช่เมืองที่พัฒนาแต่ความศิวิไลซ์ อยากเห็นเมืองที่มีการแบ่งปันพื้นที่ให้กับประชาชนรากหญ้าอย่างเป็นธรรมและเข้าใจวิถีชีวิตที่เขาเคยอยู่ ไม่ใช่เป็น Smart City แต่ผู้อยู่อาศัยได้รับความเดือดร้อน รัฐมองแผ่นดิน แต่ไม่มองประชาชนที่อยู่อาศัยไม่ได้” วิโรจน์ กล่าว 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top