Monday, 20 January 2025
Politics

‘พรรคส้ม’ พ่ายอีกครั้งเลือกตั้ง นายกอบจ. กำแพงเพชร หลัง ‘สุนทร รัตนากร’ แชมป์เก่าโกยคะแนนทิ้งขาด

เมื่อวันที่ (1 ธ.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานผลการนับคะแนนเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร วันที่ 1 ธ.ค.2567 ซึ่งเปิดให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ลงคะแนนตั้งแต่เวลา 08.00 น.ซึ่งมีเขตเลือกตั้งทั้งหมด 11 อำเภอ มีหน่วยเลือกตั้ง 1,126 หน่วย แบ่งเป็นเขตอำเภอเมืองกำแพงเพชร 293 หน่วย อำเภอขาณุวรลักษบุรี 162 หน่วย อำเภอพรานกระต่าย 128 หน่วย, อำเภอคลองขลุง 120 หน่วย อำเภอลานกระบือ 70 หน่วย, อำเภอปางศิลาทอง 45 หน่วย, อำเภอบึงสามัคคี 49 หน่วย, และออำเภอทรายทองวัฒนา 43 หน่วย

ทั้งนี้ มีผู้เข้าสมัครเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร จำนวน 2 คน ได้แก่ หมายเลข 1 นายสุนทร รัตนากร อดีตนายก อบจ.กำแพงเพชร และหมายเลข 2 นายธานันท์ หล่าวเจริญ สมาชิกพรรคประชาชน

กระทั่งเวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ปิดหีบเลือกตั้งและเริ่มนับคะแนน เบื้องต้นเมื่อนับไปได้ 72% อย่างไม่เป็นทางการ ในเวลา20.40 น. ผลปรากฎว่า หมายเลข 1 นายสุนทร รัตนากร ได้ 104,413 คะแนน หมายเลข 2 นายธานันท์ หล่าวเจริญ ได้ 27,609 คะแนน

‘นายกฯอิ๊งค์’ โพสต์เหน็บ คนคิดเชิงลบ - ขาดความมั่นใจ หวังกดคนอื่นเพื่อยกตัวเองให้สูง ปมดรามา “สามีคนใต้”

นายกฯ โพสต์อินสตาแกรมหลังเกิดดรามา “สามีคนใต้” ชี้ “คนคิดเชิงลบ ไม่มั่นใจ มักกดคนอื่นต่ำลง ยกตัวสูงขึ้น”

วันนี้ (2 ธ.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ในอินสตาแกรมส่วนตัว บัญชีผู้ใช้ Ingshin21 เมื่อเวลาประมาณ 08.30 น. หลังเจอกระแสดรามาทั้งในโซเชียลและฝ่ายตรงข้าม กล่าวหาว่าละเลยภาคใต้ หลังเกิดสถานการณ์น้ำท่วมหนัก แต่ไม่ลงไปดูแลคนในพื้นที่ และเมื่อวานนี้ นายกฯ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อ ว่า “คำว่าละเลยภาคใต้ สามีเป็นคนใต้ ครอบครัวสามีเป็นคนใต้ ถ้าละเลยคนใต้ ไม่รักคนใต้ แต่งงานคนใต้ไม่ได้” จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงคำชี้แจงของนายกรัฐมนตรี

โดยวันนี้ นายกฯ ได้โพสต์ข้อความในสตอรี่อินสตาแกรมส่วนตัว ระบุข้อความภาษาอังกฤษว่า “Your negativity is a reflection of your own reality.” 100% ซึ่งเมื่อแปลเป็นภาษาไทย ว่า “ความคิดเชิงลบของคุณ สะท้อนถึงความเป็นจริงของตัวคุณเอง”

นอกจากนั้น ยังมีการแชร์อีก 1 ข้อความภาษาอังกฤษว่า “INSECURE PEOPLE PUT OTHERS DOWN TO RAISE THEMSELVES UP.” ซึ่งแปลความหมายคือ “คนที่ไม่มีความมั่นใจ กดคนอื่นให้ต่ำลง เพื่อยกตนเองให้สูงขึ้น”

ดรามาสามีคนใต้!! ‘เจี๊ยบ อมรัตน์’ แซะนายกฯ ตอบเฉิ่ม เสี่ยงให้คิดว่าควรมีผัวให้ครบทุกภาค ด้าน ‘คำ ผกา’ ซัดกลับ มีผัวไม่ดียังไง หลายคนอยากมีแต่หาไม่ได้ โดนสวนแนะใช้น้ำยาบ้วนปาก

ศึกแดง-ส้มกลับมาอีกแล้ว หลังนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ถูกดราม่าหนักปมตอบสื่อว่าตนเองไม่ละเลยปัญหาน้ำท่วมภาคใต้ โดยโยงเข้าเรื่องส่วนตัวของตนเองว่า “สามีเป็นคนใต้” ถ้าไม่รักคนใต้คงแต่งงานไม่ได้ จนเกิดเป็นเสียงวิจารณ์อย่างหนัก ถึงความเหมาะสมในการตอบคำถามดังกล่าว

ล่าสุด เจี๊ยบ อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีตสส.พรรคก้าวไกล ได้ร่วมวงติเตียนคำตอบดังกล่าวของอุ๊งอิ๊งผ่าน X @AmaratJeab โดยโพสต์ภาพคำพูดของนายกฯ พร้อมกับข้อความ “คำตอบไม่เคยเกินชายคาบ้าน เฉิ่มทุกครั้งที่อ้าปาก แนวคิดคนที่เอาตัวเองเป็นแกนกลางของจักรวาล โลกทั้งใบหมุนรอบตัวฉัน” ทำเอาผู้สนับสนุนขั้วเดียวกันแห่เข้ามาคอมเมนต์เห็นด้วย โดยมองว่าคนที่รับบทบาทเป็นผู้นำประเทศควรมีวุฒิภาวะในการตอบคำถามมากกว่านี้ และไม่พูดเรื่องส่วนตัวรวมกับปัญหาระดับประเทศ

นอกจากนี้ เจี๊ยบ อมรัตน์ ยังโพสต์ข้อความถัดมาระบุว่า “ตอบคำถามยังไง ให้มีความเสี่ยงต้องมีผัวให้ครบทุกภาค” เป็นสาเหตุให้มีทั้งคนที่มองว่านี่เป็นมุกตลกที่ขำขัน ขณะที่ผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย และชาวเน็ตบางส่วนมองว่านี่ไม่ใช่เรื่องตลก และไม่อยากให้ผู้หญิงคนไหนถูกนำชีวิตมาดูถูกในเชิงตลกร้ายเช่นนี้ ไม่ว่าจะมีตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี หรือปุถุชนคนธรรมดาก็ตาม

หลังจากอดีตสส. เจี๊ยบ โพสต์ข้อความดังกล่าว คำ ผกา ตัวแม่ของฝั่งพรรคเพื่อไทยก็ออกมาโต้กลับอย่างเจ็บแสบว่า “มีผัวครบทุกภาคไม่ดียังไงเหรอคะคุณอมรัตน์? ทางนี้ใฝ่ฝันอยากมีตั้งแต่ขั้วโลกเหนือยันขั้วโลกใต้เลยค่ะ เผอิญหาไม่ได้” ทำเอาด้อมส้มและสาวกพรรคแดงตามมาถล่มคอมเมนต์กันยกใหญ่ ซัดกันคนละหมัดอย่างไม่มีใครยอมใคร

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 3 ธ.ค. 67 ได้แคปภาพข้อความของ คำ ผกา มาโพสต์และตอบกลับว่า “ไม่มีตรงไหนบอกว่าไม่ดี เรื่องหาไม่ได้ดิฉันไม่มีประสบการณ์ แนะนำให้ลองใช้น้ำยาบ้วนปาก ยุคนี้แล้วสงสัยใคร่รู้อะไรเสิร์ชถามกูเกิ้ล ขออนุญาตไม่เกลือกกลั้วด้วยอีก #เจี๊ยบอมรัตน์”

ดูลาดเลาแล้วสงครามโซเชียลคงจะไม่จบลงง่าย ๆ โดยเฉพาะนายกฯ อุ๊งอิ๊ง ที่ไม่ว่าจะขยับตัวไปทางไหนก็เป็นประเด็น แม้แต่ลงสตอรี่คำคมก็ไม่วายจะถูกหยิบยกมาเป็นดราม่า และวิพากษ์วิจารณ์บนโซเชียล แต่ก็คงไม่มีใครคาดคิดว่าเหตุการณ์จะบานปลาย กระทั่งผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนหันมาวิวาทะกันเองเช่นนี้ คงต้องติดตามกันต่อว่าปมเล็ก ๆ ที่กลายเป็นมหากาพย์ ‘สามีคนใต้’ จะมีกระแสซบเซาลงจนชาวเน็ตลืมเลือนและเลิกพูดถึงได้วันไหน

ส่องหนทาง ‘ยิ่งลักษณ์’ กลับบ้าน ผสมผสาน ‘ทักษิณ - บุญทรง’ โมเดล..!?

25 ส.ค. 2560 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสิน คดีรับจำนำข้าว...บุญทรง เตริยาภิรมย์  อดีตรมว.พาณิชย์และพวกเดินเข้าคุกด้วยโทษที่สูงเต็มพิกัด  ส่วน ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ อดีตนายกฯใช้ช่องทางธรรมชาติหลบหนีออกนอกประเทศ ศาลออกหมายจับและอ่านคำพิพากษาย้อนหลังในวันที่ 27 ก.ย.2560..ลงโทษจำคุก 5 ปี

เมื่อ (2 ธ.ค. 67) ที่ผ่านมา บุญทรงที่มีโทษจำคุก 48 ปี แต่ได้รับพระราชทานอภัยโทษต่างกรรมต่างวาระ 4 ครั้ง เหลือรับโทษจริง 10 ปี 8 เดือน นับแต่ 25 ส.ค. 2560 ถึง 2 ธ.ค. 2567 ติดคุกมาแล้ว 7 ปี 3 เดือน 10 วัน  เหลือโทษ 3 ปี 4 เดือน 20 วัน กำหนดพ้นโทษวันที่ 21 เม.ย. 2571 เข้าเกณฑ์ได้รับการพักโทษ...

2 ธ.ค. ที่ผ่านมา บุญทรงได้รับอิสรภาพภายใต้ติดกำไล EM ไปคุมประพฤติอยู่ที่เชียงใหม่ เป็นที่เรียบร้อย  เช่นเดียวกับ ภูมิ สาระผล  อดีตรมช.พาณิชย์  ที่มีโทษจำคุก 36 ปี ได้รับการพักโทษไปแล้วเมื่อเดือน ก.ย. 2567 จะพ้นโทษจริง 25 ส.ค. 2568

ตอนนี้สปอตไลท์ฉายจับไปที่ ‘อาปู’ ของนายกรัฐมนตรี  น้องสาวสุดเลิฟของ ‘ทักษิณ  ชินวัตร’  จะมารับโทษ..พักโทษกับเขาเมื่อไหร่..

แทบทุกวงการเชื่อตามทักษิณว่า...อดีตนายกฯปู  ยิ่งลักษณ์น่าจะได้กลับมาก่อนหรือหลังสงกรานต์ 2568 เล็กน้อย...ถามว่าจะกลับเข้ามาด้วยวิธีการไหน.. ‘ทักษิณโมเดล’ ที่ไม่ติดคุกจริงๆ แม้แต่วันเดียวจนคนด่ากันทั้งเมืองอย่างนั้นหรือ...คำตอบคือ...ไม่ใช่แต่อาจใกล้เคียง...ยังไงๆ ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม...

ส่องกล้องมองทางยาวดูแล้ว ความเป็นไปได้กรณียิ่งลักษณ์มี 2-3 หนทางที่กุนซือทีมงานกำลังตกผลึกออกแบบกันอยู่...

1)เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมกลับมารับโทษ  แต่ใช้พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ 2560, กฎกระทรวงการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.2563และกฎกติกาต่างๆ โดยเฉพาะระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ.2566  เอื้ออำนวยการคุมขังนอกเรือนจำ...ที่แม้อาจไม่เหมือนห้องสูทชั้น 14 รพ.ตำรวจ เป็นนักโทษนางฟ้าไม่ได้..แต่ก็ถือว่าอยู่ในที่ที่ชิล ๆ ...สบาย ๆ

เมื่อเข้าสู่กระบวนการรับโทษ..ก็ถวายฎีกาของพระราชทานอภัยโทษแบบทักษิณ...ติดคุกครบ 2 ใน 3 ของโทษจริงแล้วก็เข้าข่ายพักโทษได้..

2)หาหนทางฟื้นคดีจำนำข้าว...ต่อสู้ให้หลุดพ้นข้อหาปล่อยปละละเลย...อ้างกรณีข้าว 10 ปียังกินได้ขายได้..ฯลฯ...ระหว่างสู้คดีก็ขอประกันตัว..

3)หนทางอื่นๆ  เช่น การนิรโทษกรรม  ที่สภาฯจะพิจารณากันในเดือนนี้เดือนหน้าไม่เข้าข่ายเช่นเดียวกับความผิดมาตรา 112 ใครขืนแปรญัตติเพิ่มใส่ไปวงแตก รัฐบาลหัวคะมำแน่นอน

กล่าวโดยสรุป ความเป็นไปได้ยากจะเป็นอื่นไปได้ นอกจากต้องเริ่มต้นด้วยช่องทาง ‘กฎหมาย’ แล้วค่อยผ่อนคลายด้วยกฎ-ระเบียบกระทรวง  ความสุขสบายอาจไม่เทียบชั้นพี่ชายแต่ก็ชิล ๆ ก่อนที่จะขอพักโทษเหมือนบุญทรง..แนวทางนี้น่าจะสร้างแรงสั่นสะเทือนทางการเมืองน้อยที่สุด...ยิ่งถ้า ‘ยิ่งลักษณ์’ แต่งชุดนักโทษให้เห็นกันแบบเต็มตา  ชดเชยไถ่บาปให้กับ ‘นักโทษเทวดา’  แรงเสียดสีต่างๆ ก็คงจะไม่มี  เผลอๆอาจจะมีเสียงปรบมืออีกต่างหาก..

เล่ากันว่าวันที่ 25 ส.ค. 2560 ก่อนศาลตัดสิน… ‘บุญทรง’ ได้รับโทรศัพท์เสียงสุภาพสตรีบอกว่า..รอแป๊บ..เดี๋ยวถึง แต่สุดท้ายเจ้าของเสียงล่องหนหายไป 7 ปี....สงกรานต์ปีหน้าก็ยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าจะกลับมาหรือไม่…

สำหรับ ‘บุญทรง’ ที่อยู่ในมุ้งใหญ่ของ ‘เจ๊แดง’ เยาวภา  วงศ์สวัสดิ์  ชีวิตก็คงจะตกผลึกหลายเรื่อง  แต่ยังไงๆ เชื่อว่าคงไม่ถึงขั้นปลีกวิเวกหลีกหนีการเมืองไปได้  โดยสถานภาพและบารมีเก่าๆ เขาก็คงจะเป็นพลังสำคัญที่ช่วยฟื้นฟูกู้ชีพให้พรรคเพื่อไทย เชียงใหม่กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง...

แน่นอนด่านแรก 1 ก.พ. 2568 คือต้องช่วยเจ๊แดง-นายใหญ่ ให้ ‘นายกก๊อง’ พิชัย  เลิศพงษ์อดิศร รักษาแชมป์นายกอบจ.เชียงใหม่เอาไว้ให้ได้..!!

‘ไอติม’ ชื่นชมเกาหลีใต้ใช้กลไกลสภาสู้กลับ ‘ปธน.ยุน’ หลังโหวตคว่ำกฎอัยการศึก ยกเป็นบทเรียนต้านรัฐประหาร

‘ไอติม’ ปลื้ม ปชช.-นักการเมืองเกาหลีใต้ สู้กลับ ‘ปธน.ยุน ซอก ยอล’ ใช้กลไกลสภายกเลิก ‘กฎอัยการศึก’ มองชัยชนะครั้งนี้ เป็นบทเรียนประเทศอื่นต้าน “รัฐประหาร” 

วันที่ (4 ธ.ค.67) นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.พรรคประชาชน ทวิตข้อความว่า กำลังเฝ้าติดตามสถานการณ์ใน #เกาหลีใต้ ด้วยความรู้สึกชื่นชมการต่อสู้กลับของประชาชนและนักการเมือง ในการใช้กลไกสภายกเลิกการประกาศกฎอัยการศึกของประธานาธิบดี และหวังว่ากองทัพจะทำตามกฎหมาย แทนที่จะทำตามอำเภอใจของประธานาธิบดี

หากประชาชนเกาหลีใต้ปกป้องประชาธิปไตยได้สำเร็จ ชัยชนะนี้จะเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับประเทศอื่น (รวมถึงไทย) ในการวางแนวทางป้องกันรัฐประหาร ซึ่งต้องดำเนินการ 2 อย่างคู่ขนาน

1. แก้กฎหมาย (เช่น รธน. / พรบ. กฎอัยการศึก) เพื่อติดอาวุธให้ประชาชนมีเครื่องมือหรือกลไกในการต่อต้านและต่อกรกับผู้ก่อรัฐประหาร

2. รณรงค์ทางความคิดให้ประชาชนและนักการเมืองทุกฝ่าย (ไม่ว่าสนับสนุนหรือสังกัดพรรคใด) มีจุดยืนร่วมกันในการออกมาปกป้องประชาธิปไตย

‘คำผกา’ ทวีตข้อความแซะ!! ‘จอห์น วิญญู’ อวย!! ‘สส.เกาหลี’ แขวะ!! ‘สส.ไทย’

เมื่อวานนี้ (4 ธ.ค. 67) คำ ผกา หรือ แขก พิธีกรชื่อดัง ทวีตข้อความผ่านแอปพลิเคชัน  X (ทวิตเตอร์) @kamphaka ระบุว่า...
อยากเห็นจอนลงถนนไม่ไหว พรุ่งนี้นำเลยนะ

‘อนุรักษ์’ โอด!! ป้ายหาเสียง ถูกทำลายหลายจุด วอน!! ‘เจ้าหน้าที่’ ช่วยดูแล เลือกตั้ง ‘อบจ.ตาก’

(5 ธ.ค. 67) นางอัจฉรา ทวีเกื้อกูลกิจ ลูกสะใภ้ ของนายณัฐวุฒิ ทวีเกื้อกุลกิจ อดีตนายกอบจ. ต้องปะทะกับค่ายพลังประชารัฐ ผู้สมัครหมายเลข2 พตท.อนุรักษ์ จิรจิตร อดีต ผู้ช่วยรมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สมัยนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ที่ได้ พรรคประชาชน ตบเท้ามาร่วม เดินสาย ร่วมรบเพื่อหวังให้เมืองตาก เปลี่ยนเป็นเมืองที่พัฒนา และทันสมัย ล่าสุด ก่อนการเลือกตั้งโค้งสุดท้ายพบว่ามีการทำลายป้ายผู้สมัครกันในหลายพื้นที่ เช่น อำเภอ พบพระ อำเภอ อุ้มผาง  

วอนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ และดูแลด้วยเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม

คุณจะเป็นคนแบบไหนก็ได้ แต่ขอให้ชัดเจน อย่าเป็น 'มนุษย์ย้อนแย้ง' เพราะมันน่ารังเกียจสิ้นดี

ตั้งแต่มีพรรคส้มเกิดขึ้นมาในสังคมไทย คำว่า 'มนุษย์ย้อนแย้ง' ก็กลับมาฮิตติดปาก คนทั่วไปมักจะใช้คำนี้เรียกขานกลุ่มคนที่ 'นิยมส้ม' เพราะจะมีพฤติกรรมที่ 'ขัดแย้งในตัวเอง' ให้เห็นเป็นประจำ แต่กลับไม่รู้สึกถึงความเขินอายสังคมแม้แต่น้อย เช่น…

เคยแต่งชุดดำร้องไห้จะเป็นจะตายร่วมกับคนไทยค่อนประเทศตอนปลายปี 2559 แต่กลับกาเลือกพรรคการเมืองที่มีสันดานจาบจ้วง กัดเซาะ ดูหมิ่น หยาบคาย และมีแนวคิดล้มล้างการปกครอง ถ้าเพราะไม่รู้ว่าพรรคที่ตนเองเลือกนั้นล้มเจ้า ก็ต้องถือว่าเป็นมนุษย์ที่เบาปัญญาสิ้นดี 

เป็นศิลปินนักร้องที่เกลียดชังสถาบัน แต่กลับทำมาหากินกับการร้องเพลงพระราชนิพนธ์ หรือรับงานที่มีกิจกรรมเกี่ยวข้องกับการเชิดชูสถาบัน ไม่สนว่าใครจะมองเป็นคนประเภท 'เกลียดตัวแต่ชอบแอบกินไข่' ถือเป็นพฤติกรรมย้อนแย้งที่ไร้ความละอายอย่างจริงแท้ 

เปิดร้านขายผลงานซีดี และแผ่นเสียงเพลงไทย แสดงออกตรง ๆ ว่าเกลียดสถาบัน และเชียร์พรรคการเมืองที่เดินหน้าล้มล้างการปกครอง แต่ภายในร้านกลับวางจำหน่ายผลงานอัลบั้มที่งานประพันธ์นั้นมาจาก 'ในหลวงรัชกาลที่ ๙' หรือติดรูปในหลวงไว้ข้างฝาร้านให้ผู้คนเข้าใจว่าตัวเองนั้นเป็นคนไทยอีกคนที่จงรักภักดีเหมือนคนส่วนใหญ่ เพื่อจะได้ขายของ ทั้ง ๆ ที่ส่วนลึกของหัวใจนั้นนิยมเกลือกกลั้วอยู่ในฝั่งคนชิงชังสถาบัน 

เป็นคนจัดงานคอนเสิร์ตที่แอบสนับสนุนกลุ่มคนล้มเจ้าตลอดเวลา และมักพูดถึงสถาบันไปในทางเสื่อมเสีย แต่กลับรับจ้างจัดงานที่ต้องใช้บทเพลงพระราชนิพนธ์ หรือจัดกิจกรรมที่เชิดชูสถาบันกษัตริย์ไทย เรียกว่าย้อนแย้งแบบสุด ๆ 

เป็นสื่อที่ปากบอกรักสถาบัน รักในหลวง แต่กลับเชิญแต่พวกล้มเจ้ามาออกในรายการ และปล่อยให้คนที่คิดร้ายพูดถึงสถาบันในทางที่ไม่จริงโดยไม่เคยทัดทาน หรือท้วงติง ถือเป็นคนสื่อที่ย้อนแย้ง และต้องถือว่าเป็นอันตรายต่อสังคมไทย

ใด ๆ ก็ตาม 'มนุษย์ย้อนแย้ง' มักเป็นคนที่ขาดอุดมการณ์อันแรงกล้าต่อสิ่งที่เชื่อ, คิด และทำ เป็นประเภท 'เงินมาผ้าหลุด' มีชีวิตมีลมหายใจแค่ทำมาหารับประทาน หรือรับจ้างไปวัน ๆ เป็นคนที่น่ารังเกียจ, ไม่จริงใจ และไร้ราคา

‘ถาวร’ ยังไม่ชัด ‘ไพเจน-แบน-สุพิศ’ ชัดเจนแล้ว ศึกเลือกตั้ง ครั้งใหญ่!! ชิงนายกฯ อบจ.สงขลา

(7 ธ.ค. 67) แม้ ‘ถาวร เสนเนียม’ อดีตรัฐมนตรีช่วยคมนาคม จะยังไม่ชัดว่าจะลงสมัครชิงเก้าอี้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาหรือไม่ แต่สำหรับ ‘นายกฯแบน’ ประสงค์ บริรักษ์ อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเขารูปช้าง ได้ตัดสินใจแล้ว ลงสมัครนายกฯอบจ.สงขลาแน่นอน แต่ไม่ส่ง ส.อบจ.นะ

“ลงสมัครแน่นอน ถ้าไม่มีปัญหาเกี่ยวกับคดีที่อยู่ระหว่างการอุทธรณ์ รอประชุมกับทีมทนายความประเมินคดี แนวทางการสู้คดี ถ้าทนายความประเมินผลออกมาทางบวก ก็จะลงสมัคร ถ้าผลออกมายังไม่แน่ใจ หรือออกมาเป็นลบ ก็จะไม่ลงสมัคร” ถาวร กล่าว

ถาวร กล่าวต่อว่า คดีในชั้นอุทธรณ์น่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 1 ปี ถ้าตนลงสมัครแล้วได้รับเลือก แต่ประมาณ 1 ปี ถ้าศาลตัดสินจำคุก ก็จะขาดคุณสมบัตินายกฯ อบจ.ต้องจัดเลือกตั้งใหม่

“ผมไม่อยากให้ อบจ.สงขลาต้องสูญเสียงบประมาณร่วม 100 ล้านบาทมาจัดการเลือกตั้งนายกฯอบจ.ใหม่ อันเป็นงบประมาณจากภาษีประชาชน 100 ล้านทำอะไรได้อีกมาก สร้างถนนในระดับหมู่บ้านได้หลายสาย” ถาวร กล่าว

ถาวร กล่าวย้ำว่า กลางเดือนธันวาคมจะทราบผลการประเมินคดีจากทีมทนายความ ทราบผลก็จะได้ตัดสินใจ และแถลงข่าวให้ประชาชนทราบ

หลังสื่อบางสำนักรายงานว่า ถาวรจะจับมือกับโกเกี๊ยะ (ภูมิใจไทย) ส่งถาวรลงชิงนายกฯ อบจ.สงขลา มีกระแสตอบรับดีมาก ร้านน้ำชา-กาแฟ มีการพูดถึงในเชิงบวก บางคนพูดย้ำว่าพร้อมสนับสนุนช่วยเหลือในการหาเสียง รอเพียงถาวรตัดสินใจเท่านั้น

สำหรับ ‘สุพิศ พิทักษ์ธรรม’ อดีตอธิบดีกรมฝนหลวง หลังเปิดตัวลงชิงเก้าอี้นายกฯอบจ.สงขลา ครึกโครม แต่หลังจากนั้นเงียบไปในสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ของสงขลา เข้าใจว่าเดินทางไปต่างประเทศที่เตรียมการไว้ก่อนน้ำท่วมแล้ว ประกอบกับไม่อยากแจกของในช่วงใกล้วันสมัคร จะวุ่นวายกับการถูกร้องเรียน แน่นอนว่าถ้าถาวรลงก็จะไปชิงคะแนนของสุพิศ เพราะถาวรอยู่คนละขั้วกับ ‘นิพนธ์ บุญญามณี’ และ ‘เดชอิศม์ ขาวทอง’ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่ทั้งสองให้การสนับสนุนสุพิศ และคะแนนของไพเจน มากสุวรรณ์ นายกฯอบจ.คนปัจจุบันที่ไม่ลงสมัครต่อ ก็จะไหลไปทางอื่น ไม่ใช่ไหลไปสุพิศ ถ้าถาวรลง คะแนนไพเจนจะไหลไปถาวร ถ้าถาวรไม่ลงสมัครคะแนนอาจจะไหลไปพรรคประชาชน (นิรันดร์ จินดานาค)

แม้ไพเจนจะได้ประกาศชัดผ่านแถลงการณ์ ยืนยันไม่ลงสมัครต่อ แต่แฟนคลับ ขาเชียร์ก็ยังหนาแน่น วันที่ 19 ธันวาคม จะหมดวาระ ก็จะอำลาตำแหน่ง ทราบว่า จะมี ส.อบจ.ปัจจุบัน และว่าที่ผู้สมัคร ส.อบจ.ที่ไม่ใช่สายสุพิศ นำมวลชนมาให้กำลังใจไพเจน 2-3000 คน พร้อมกับโน้มน้าวให้กลับใจลงสมัครอีกสมัย

โทษจำ 104 ปี ติดจริง 8 ปี ‘เสี่ยเปี๋ยง’ คนเหนือคุก..!!

(7 ธ.ค. 67) เรื่องร้อนจากแนวรบกระทรวงยุติธรรม -กรมราชทัณฑ์ ในรอบสัปดาห์หนีไม่พ้นการได้รับการพักโทษของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ เมื่อ2ธ.ค.2567 โทษติดคุกคดีจำนำข้าว 48 ปี ได้รับพระราชทานอภัยโทษ 4 ครั้ง เหลือโทษจริง 10ปี ติดมาแล้ว 7 ปี..เข้าเกณฑ์พักโทษ  จะพ้นโทษจริง  2571

ก่อนหน้านั้นภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์ พักโทษไปเงียบๆ เมื่อเดือนก.ย....จะพ้นโทษจริง 2569

แต่ที่เงียบเชียบ..ถ้า ‘เดอะแจ๊ค’ วัชระ เพชรทอง ไม่ออกมาปูดข่าวว่าได้รับการปล่อยตัว-พักโทษไปแล้วเมื่อ 9 ต.ค.2567 สังคมก็คงไม่ได้รับทราบกันก็คือ ‘เสี่ยเปี๋ยง’ อภิชาติ  จันทร์สกุลพร แห่งบ.สยามอินดิก้า ขนาด ‘เดอะแจ๊ค’ ออกมาเปิด..หลายคนก็ยังคิดว้าเป็นข่าวลือ เป็นไปไม่ได้  เพราะเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์นายหนึ่ง ออกมาพูดฉอด ๆ ผ่านรายการคุณ ‘หมาแก่’ ช่อง 9อสมท.ว่า..เสี่ยเปี๋ยงยังไม่ได้รับการพักโทษ..เพราะโทษสูง รวมกันถึง 104 ปี ก่อนที่สองวันต่อมา..อธิบดีคุก ต้องยอมรับว่า..พักโทษแล้ว!! 

6 ธ.ค. มีการอธิบายความ แถลงข่าวชุดใหญ่ นำโดยนายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารมว.ยุติธรรม ชี้แจงกรณีต่าง ๆ รวมทั้งกรณีเสี่ยเปี๋ยง โดยนายสมบูรณ์อธิบายว่าการพักโทษมี 2 รูปแบบ คือ แบบปกติ นักโทษชั้นกลาง ชั้นเยี่ยม ผ่านจำคุก 2ใน 3 ของกำหนดโทษ แบบที่สอง แบบพิเศษ จำคุกมาแล้ว 1 ใน 3 และมีอาการป่วยรุนแรงตามกฎหมายกำหนด..

กรณีเสี่ยเปี๋ยงที่อายุเกิน 70 ปีแล้ว เข้ารูปแบบพิเศษ คณะอนุกรรมการลงมติ 8:0 ให้พักโทษ....

อันว่า ‘เสี่ยเปี๋ยง’ เป็นที่รู้ ๆ กันดีว่าแนบแน่นกับระบอบทักษิณแบบร่วมหัวจมท้าย..โดยคดีทุจริตเกี่ยวธุรกิจค้าข้าว,บ้านเอื้ออาทร..รวมโทษแล้ว 100 กว่าปี หากไม่พักโทษหรือลดโทษเขาจะติดคุก..พ้นโทษจริงวันที่ 21 พ.ย.2629

เอกสาร..ข้อมูลที่อยู่ในมือกรมราชทัณฑ์แต่ไม่เผยแพร่..แต่ 'เล็ก เลียบด่วน' ได้เห็นมา ขอสรุปสั้น ๆ บันทึกไว้ให้รับทราบพิจารณากัน ดังนี้..

#กรณีนายอภิชาต..คดีที่ศาลออกหมายจำคุก เมื่อคดีถึงที่สุดมี 4 คดี

คดีที่ 1  ยักยอกทรัพย์ (ศาลแขวงสมุทรปราการ) จำคุก 3 ปีนับแต่ 27 ต.ค. 2558 -พ้นโทษแล้ว

คดีที่ 2 ยักยอกทรัพย์ จำคุก3ปี ศาลแขวงสมุทรปราการ (หักขัง1,281 วัน) นับแต่ 27 ต.ค.2561 พ้นโทษในวันเดียวกัน

คดีที่ 3 ความผิดพ.ร.บ. การเสนอราคาต่อรัฐ (คดีจำนำข้าวจีทูจี) จำคุก 48 ปี (หักขัง 422 วัน) นับแต่ 27 ต.ค.2561 กำหนดพ้นโทษ 3 ส.ค.2608 

คดีนี้ได้รับพระราชทานอภัยโทษ 5 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อปี 2562 เหลือโทษ 32 ปี,ครั้งที่2 เดือนส.ค.2563 เหลือโทษ 21 ปี 4 เดือน,ครั้งที่สาม เดือนธ.ค.2563 เหลือโทษ 14 ปี 2 เดือน,ครั้งที่สี่ เดือนก.ค.2564 เหลือโทษ 9 ปี 5 เดือน ครั้งที่ห้า เดือนธ.ค.2564 เหลือโทษ 6 ปี 3 เดือน..

คดีที่ 4 ความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ (คดีบ้านเอื้ออาทร) โทษจำคุก 50 ปี นับแต่ 29 ธ.ค.2581 พ้นโทษ 21 พ.ย.2629 ได้รับพระราชทานอภัยโทษ 3 ครั้ง ลดโทษแล้วเหลือ 14ปี 9เดือน 24 วัน  จะพ้นโทษ 7 ก.ย.2579

#ตามเอกสารสรุปว่า ปัจจุบันนายอภิชาตเหลือโทษจำคุกเพียงคดีเดียวคือคดีที่ 4 เหลือกำหนดโทษ 14 ปี 9 เดือน 24 วัน (มีหักขัง 769 วัน) แต่ได้รับพระราชทานอภัยโทษพ.ศ.2567 1ใน 7 ชั้นเยี่ยม ลดโทษ 2 ปี 1 เดือน 12 วัน เหลือโทษ 12 ปี 8 เดือน 12 วันนับแต่ 26 ธ.ค.2566 คดีนี้จำมาแล้ว 2 ปี 9 เดือน 5วัน เหลือโทษจำต่อไปอีก 9ปี 11เดือน 12 วัน จะพ้นโทษ 27 ก.ค.2577

#เอกสารสรุปว่านายอภิชาติได้รับการปล่อยตัวพักโทษ(กรณีมีเหตุพิเศษ เจ็บป่วยร้ายแรง และอยู่ระหว่างการคุมประพฤติของพนักงานคุมประพฤติ โดยมีการประชุมเมื่อวันที่ 29 มี.ค.2567 และปล่อยตัวเมื่อวันที่ 9 ต.ค.2567 ที่ ร.พ.รามาธิบดี เนื่องจากยังพักรักษาตัวอยู่ที่ร.พ.ดังกล่าว   

รวมระยะเวลาที่นายอภิชาติติดคุก 8 ปี 11 เดือน 18 วัน ก่อนที่จะได้รับการพักโทษ..โดยไม่ต้องติดกำไลอีเอ็ม

ข้อมูลทั้งหมดตามนั้น..ในขณะที่คดีทางแพ่งที่เสี่ยเปี๋ยงและใครต่อใครต้องชดใช้ความเสียหาย (คดีจำนำข้าว) ให้กับแผ่นดิน วันนี้ก็ยังมีความชัดเจน..ชัดเจนอยู่อย่างเดียวทุกปีรัฐต้องตั้งงบประมาณใช้หนี้ความเสียหายอันเนื่องจากคดีจำนำข้าวสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์...

‘ยิ่งลักษณ์’ ที่จะกลับในปีหน้าด้วยยานวิเศษ..พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ 2560, กฎกระทรวง 2563 และระเบียบราชทัณฑ์ 2566 ว่าด้วยคุกนอกเรือนจำ..ดังที่ได้นำเสนอมาก่อนหน้านี้แล้ว..ฟันธง!!


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top