Friday, 25 April 2025
Politics

🙏 ‘เศรษฐา’ นายกฯ ไทยผู้พกพาความนอบน้อมไปทุกๆ ที่

แม้จะร่ำเรียนต่างประเทศอยู่หลายปี แต่คุณลักษณะเด่นอย่างหนึ่งซึ่งเห็นได้จากนายกฯ 'เศรษฐา ทวีสิน' ก็คือ ความเคารพนบนอบอย่างไทย ไม่ว่าผู้อาวุโสกว่า ผู้สูงศักดิ์กว่า หรือแม้ชาวบ้านผู้เฒ่าผู้แก่ยามลงพื้นที่เยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชน ดังคำกล่าวที่ว่า "...คุณต้องรู้จักให้เกียรติ และให้ความเคารพ อีกฝ่ายหนึ่งเสียก่อน เขาจึงจะเกิดความเชื่อถือในตัวคุณ"

หรือภาพการให้ความเคารพต่อ 'ผู้มาก่อน' ก็เห็นเป็นประจักษ์โดยทั่วไป

การแสดงความเคารพ ถือเป็นมารยาทไทยอย่างหนึ่ง ซึ่งแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตนของผู้เยาว์ที่มีต่อผู้ใหญ่ ของผู้ด้อยอาวุโสต่อผู้อาวุโสกว่า ขนาดสภาวิจัยแห่งชาติ ยังได้เคยสำรวจและประมวลไว้เกี่ยวกับลักษณะนิสัยประจำชาติของคนไทยว่า

"รักสงบ เคารพอาวุโส"

ทว่าความ 'อ่อนน้อม' มิได้หมายถึง 'อ่อนแอ' และ 'นอบน้อม' ก็ไม่ใช่ 'พินอบพิเทา'

💸 ‘นายกฯ เศรษฐา’ พาคนไทยเป็นเศรษฐี

หลักการที่เป็นหัวใจในการบริหารประเทศของพรรคเพื่อไทย ภายใต้การบริหารของนายกรัฐมนตรีหนึ่งเดียว ‘เศรษฐา ทวีสิน’ คือ ‘เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส’ โดยจะทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ GDP เติบโตเฉลี่ยอย่างต่ำปีละ 5% โดยเพื่อไทยใช้แนวคิด ‘รดน้ำที่ราก’ เพื่อให้ต้นไม้งอกงามทั้งต้น

คือปฐมบทแห่งนโยบายรัฐบาล ‘เศรษฐา’

ประเทศไทยติดกับดัก ‘กำลังพัฒนา’ มาอย่างเนิ่นนาน การสร้างเขตธุรกิจใหม่ 4 แห่งเป็นพื้นที่นำร่อง ได้แก่ กรุงเทพ เชียงใหม่ ขอนแก่น และหาดใหญ่ ด้วยความพร้อมทางด้านมหาวิทยาลัย สนามบิน และโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมเพื่อขับเคลื่อน Startup และ SMEs สู่การสร้างรายได้ใหม่ให้แก่ประชาชน จึงเป็นเสมือนคำตอบที่ถูกต้องกับโจทย์

การพาดหัวบนหน้าปกนิตยสารข่าวระดับโลกเช่น 'Time' ว่านายกรัฐมนตรีของไทยกำลังทำงานแบบ ‘เซลล์แมน’ จึงมิใช่ภาพความฝันที่ไกลเกินเอื้อม หากกำลังจะเป็นความจริงซึ่งจับต้องได้

นายกฯ ‘เศรษฐา’ จะพาให้คนไทยทุกคนเป็น ‘เศรษฐี’

✨สำหรับ ‘เศรษฐา’ ทุกวัน คือ ความเท่าเทียม

หากศึกษาประวัติของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทย แล้วจะพบว่า เขาใส่ใจกับ 'ความเท่าเทียมกันทางสังคม' ในสำนึกและได้ลงมือปฏิบัติจริงตั้งแต่นั่งอยู่บนองค์กร 'แสนสิริ' นานก่อนย่างก้าวเข้าสู่แวดวงการเมือง

จากประสบการณ์ทางด้านธุรกิจระดับนานาชาติ หรือการศึกษาที่ต่างประะเทศ ทำให้นายกฯ เศรษฐาเข้าใจความเป็นไปของบริบทโลก ทั้งในทางเศรษฐศาสตร์ และสังคมศาสตร์ จึงเชื่อได้ว่าความเข้าใจต่อ 'ความเท่าเทียม' นั้น มิได้เป็นแค่เพียงการเอาใจคนบางกลุ่ม บางพวก ชาย หญิง หรือกลุ่มหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) เท่านั้น

คำกล่าวผ่านสาธารณะล่าสุดคงเป็นเครื่องยืนยัน 'ความเท่าเทียม' ของสังคมไทยยุครัฐบาลเศรษฐาได้ "...รัฐบาลเดินหน้าลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความเสมอภาคเท่าเทียมทางเพศอย่างต่อเนื่อง ครม. จึงได้เห็นชอบตามที่กระทรวงพัฒนาสังคมฯ เสนอในการร่วมแถลงการณ์รัฐมนตรีเอเปคด้านสตรีและเศรษฐกิจประจำปี 2567 เกี่ยวกับการส่งเสริมสตรีในอาชีพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์การสร้างโอกาส และการมีส่วนร่วมของสตรีในระบบการเงิน และการต่อต้านความรุนแรงต่อผู้หญิง"

ทุก ๆ วัน คือ ความเท่าเทียม

✨ ‘เศรษฐา’ นายกฯ จาก ‘เพื่อไทย’ ชีวิตนี้ขอทำเพื่อ ‘คนไทย’

ก่อนเข้าสู่สนามเลือกตั้งทั่วไป 2566 พรรค 'เพื่อไทย' เน้นชูจุดขายของ 'เศรษฐา ทวีสิน' แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอันดับ 1 ในด้านประสบการณ์ทางธุรกิจ และความสามารถบริหารเศรษฐกิจยุคหลังโควิด แม้เขาจะไม่มีประสบการณ์ด้านบริหารการเมืองมาก่อนก็ตามที

วันนี้นายกฯ คนที่ 30 ของประเทศ ก็มาจากพรรค 'เพื่อไทย'

โดยสิ่งที่นายกฯ เศรษฐา ทำอยู่ตลอดอายุรัฐนาวาย่าง 10 เดือน ล้วนมุ่งเน้นการฟื้นฟูประเทศ หลังบอบช้ำจากพิษโรคระบาด เศรษฐกิจซบเซา ท่ามกลางปัญหารุมเร้าทั้งจากภาคสังคมและการเมืองทั้งใน - นอกสภาฯ โดยดำเนินการตามนโยบายที่หาเสียงไว้กับประชาชนคนไทย

เหนืออื่นใด สิ่งที่ 'เศรษฐา ทวีสิน' ทำในนามนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย คือ

ทำ 'เพื่อ' ประเทศ และพี่น้องคน 'ไทย'

✨ ‘เศรษฐา’ กับ ‘ผ้าขาวม้า’ นี่แหละคนไทยของแทร่!!

พจนานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 เก็บคำ 'ผ้าขาวม้า' โดยให้ความหมายว่า 'น. ผ้าฝ้ายทอเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มักมีลายตาหมากรุก ใช้ผลัดอาบน้ำ หรือเคียนพุง เป็นต้น'

เป็นผ้าซึ่งเปี่ยมอัตลักษณ์ 'ไทย' อย่างยิ่ง จึงมิใช่เรื่องแปลกที่นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน จะเลือกใช้ 'ผ้าขาวม้า' ประดับกายให้ได้เห็นเมื่อครั้งเยือนมิตรประเทศ เช่น สหภาพยุโรป แหล่งอารยธรรมชั้นสูงด้านแฟชั่น

ศิลปินเพลงเพื่อชีวิต เพลงพื้นบ้าน ตลอดจนนักเคลื่อนไหวทางสังคม ก็ล้วนใช้ 'ผ้าขาวม้า' ประดับกายเพื่อสื่อถึงความ 'ชาตินิยม' ด้วยชนเผ่าไทยมีภูมิปัญญาทางการทอผ้าชนิดนี้มาเนิ่นนาน แม้นายกฯ จะมีภาพพจน์เป็นนักธุรกิจที่แต่งกายได้เหมาะสมในระดับสากล แต่ไม่เคยลืมเสน่ห์แห่งรากเหง้า 'ผ้าขาวม้าไทย'

และเมื่อมีโอกาส 'ผ้าขาวม้า' จะถูกนำเสนอต่อสายตาชาวโลกเสมอ

โดยนายกฯ คนที่ 30 ของไทยที่ชื่อ 'เศรษฐา ทวีสิน'

'เพจดัง' โชว์ภาพเต๊นท์ชักชวนคนเป็นสมาชิกพรรคประชาชนตั้งตระหง่าน แต่สะดุด!! เพราะอยู่หน้าทางเข้าวัดในเชียงใหม่ ติง!! ไม่เหมาะสม

(16 ส.ค.67) เพจ 'วันนี้พรรคส้มโกหกอะไร' ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า...

#ทุกคนคะ ชาวบ้านที่ อำเภอเชียงดาว เชียงใหม่ ฝากเพจช่วยเป็นกระบอกเสียงด้วยค่ะ

"ตอนเย็นตั้งใจจะไปทำบุญที่วัด แต่เจอเต๊นท์ชักชวนคนเป็นสมาชิกพรรคประชาชนหน้าทางเข้าวัด หมดอารมณ์ มันไม่เหมาะสม ขอพื้นที่ปลอดการเมืองบ้างค่ะ"

'สวนดุสิตโพล' เผลผลสำรวจ ‘คนไทยกับนายกรัฐมนตรี’ คาดหวัง!! เข้าใจปัญหาอย่างลึกซึ้ง-แก้ปากท้องได้ทันที

(16 ส.ค. 67) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง ‘คนไทยกับนายกรัฐมนตรี’ ระหว่างวันที่ 14-15 สิงหาคม 2567 กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,239 คน สำรวจผ่านทางออนไลน์และภาคสนาม พบว่า กลุ่มตัวอย่างคิดว่าการที่นายกฯ เศรษฐาหลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นเรื่องการเมือง มีเบื้องลึกเบื้องหลัง ร้อยละ 52.88 และน่าจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเมือง ร้อยละ 70.30

ทั้งนี้หวังว่าผู้ที่จะมาเป็นนายกฯ คนใหม่ ควรเข้าใจปัญหาสังคมและประชาชน ร้อยละ 62.62 สุดท้ายคิดว่าคนที่จะมาเป็นนายกฯ คนใหม่ น่าจะเป็นคุณแพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 36.35 รองลงมาคือคุณอนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 25.33

นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า จากผลโพลสะท้อนถึงความกังวลของประชาชนต่อสถานการณ์ทางการเมืองที่เข้มข้นในช่วงนี้ มองเห็นถึงความไม่มั่นคงทางการเมืองที่อาจกระทบต่อทิศทางการบริหารประเทศและนโยบายเรือธงที่เป็นความหวังของประชาชน เรื่องการเมืองมีความซับซ้อนและผลประโยชน์ซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลัง ดังนั้น ผู้นำคนใหม่จึงต้องเป็นผู้ที่มีความเข้าใจลึกซึ้งในปัญหาของประเทศและสามารถเชื่อมโยงกับประชาชนได้อย่างแท้จริง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและนำพาประเทศไปสู่เสถียรภาพที่มั่นคง

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ยอดชาย ชุติกาโม อาจารย์ประจำโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า การหลุดจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้สถานการณ์ทางการเมืองไทย ณ เวลานี้ มีความร้อนแรงอย่างยิ่ง และกระทบไปยังภาคส่วนต่างๆ จากผลสำรวจของสวนดุสิตโพล พบว่า 52.88% ประชาชนเชื่อว่าเป็นเรื่องการเมือง มีเบื้องลึกเบื้องหลัง มีประชาชน เพียง 15.76% เท่านั้นที่เชื่อว่าไม่มีผลกระทบกับชีวิตประจำวัน

ขณะที่คนส่วนใหญ่มองว่าการหลุดจากตำแหน่งของนายเศรษฐา น่าจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเมืองไทย ในประเด็นที่ว่าใครสมควรเป็นนายกฯ คนต่อไป ประชาชน 36.35% ให้คุณแพทองธาร ชินวัตร มาเป็นอันดับหนึ่ง เบียดคู่แข่งที่มาแรงอย่างคุณอนุทิน ชาญวีรกูล โดยประชาชนส่วนใหญ่คาดหวังว่านายกฯ คนต่อไป ต้องเข้าใจปัญหาสังคมและประชาชน และสามารถแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจได้ทันทีซึ่งประชาชนมีความคาดหวังเรื่องเศรษฐกิจถึง 61.97%

“ทิศทางการเมืองไทยนับจากนี้ เราจะมีนายกรัฐมนตรี และผู้นำฝ่ายค้านที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของการปกครองไทยนับตั้งแต่มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยมา 92 ปี คนรุ่นใหม่ที่หลายฝ่ายอยากได้มาสร้างรูปแบบ และกระบวนการทางการเมืองใหม่ ๆ จะเป็นดังที่หลายฝ่ายคาดหวังไว้หรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ยอดชาย ระบุ

ฉลุย!! ‘อิ๊งค์-แพทองธาร’ ขึ้นแท่นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย

(16 ส.ค. 67) ที่ประชุมรัฐสภา มีมติเห็นชอบนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นบุคคลที่สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ด้วยเสียงเห็นชอบ 319 เสียง ไม่เห็นชอบ 145 เสียง งดออกเสียง 27 เสียง

สำหรับประวัติส่วนตัว เกิดเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2529 สัญชาติไทย เป็นบุตรของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร กับ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์

สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายจากโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย ระดับปริญญาตรีจากคณะรัฐศาสตร์ ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษย์วิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และระดับปริญญาโทจาก MSc International Hotel Management, University of Surrey, Weybridge, United Kingdom

ในด้านประวัติการทำงาน ดำรงตำแหน่ง กรรมการบริษัท เรนด์ เพลินจิต โอเต็ล จำกัด (2554 - 2567) / กรรมการบริษัท เรนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจโรงแรม และสนามกอล์ฟ บ. เรนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (2555 - 2567)

กรรมการบริษัท เทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ โฮเต็ล จำกัด (2556 - 2567) / กรรมการบริษัท อัลไพน์ กอล์ฟแอนด์สปอร์ตคลับ จำกัด (2559 - 2567) / กรรมการบริษัท อัลไพน์ การ์เด็น ดีไซน์ จำกัด (2559 - 2567) / กรรมการบริษัท โอเอไอ คอนซัลแต้นท์แอนด์แมนเนจเม้นท์ จำกัด (2559 - 2567)

ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วม และนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย, หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย (2565-ปัจจุบัน) / รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ, รองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ (2566 - 2567) และ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (2566 - ปัจจุบัน)

'เจ๊หน่อย' เดือด!! 6 สส.ไทยสร้างไทย โหวต 'อุ๊งอิ๊ง' นั่งนายกฯ ชี้!! ผิดมารยาทในการทำงานร่วมกับพรรคฝ่ายค้าน

(16 ส.ค.67) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก หลัง 6 สส.พรรคไทยสร้างไทย โหวตเห็นชอบ ให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี ระบุว่า...

ดิฉัน และผู้บริหารพรรคไทยสร้างไทย ขอยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทย เรามีจุดยืนรักษาอุดมการณ์ประชาธิปไตย และทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านที่ซื่อสัตย์ต่อเสียงประชาชน และต้องปฏิบัติตามมติของพรรคฝ่ายค้านร่วม 

ดังนั้นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคไทยสร้างไทย ควรมีจิตสำนึกต่อการทำหน้าที่อย่างสุจริต ในฐานะพรรคฝ่ายค้านในสภา การลงมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี จากพรรครัฐบาลในวันนี้ ถือว่าเป็นการขัดต่อจุดยืนและอุดมการณ์ของพรรคไทยสร้างไทย และผิดมารยาทในการทำงานร่วมกับพรรคฝ่ายค้าน

ซึ่งในเวลา 14:00 น. วันนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อพิจารณาการกระทำของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคไทยสร้างไทย ที่ขัดต่อจุดยืนและอุดมการณ์ของพรรคไทยสร้างไทย 

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบในเบื้องต้น

โดยหลังประชุมกรรมการบริหาร จะมีการออกแถลงการณ์ให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ

และต้องกราบขอโทษต่อพี่น้องประชาชนสำหรับการกระทำของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อเสียงของประชาชน

'สุริยะ' มั่นใจ!! 'อุ๊งอิ๊ง' มุ่งมั่นทำงาน คนไทยฝากความหวังได้ เชื่อ!! บทเรียนในอดีตช่วยให้ไม่พลาด ส่วนอายุน้อยไม่ใช่ปัญหา

(16 ส.ค. 67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม กล่าวภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้รับการโหวตจากสภาให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า…

ต้องขอแสดงความยินดีกับนายกฯ คนใหม่ ซึ่งเป็นคนที่ 3 แล้วของคนในตระกูลชินวัตร น.ส.แพทองธารอยู่ในแวดวงการเมืองตั้งแต่สมัยที่ตนเป็นเลขาธิการพรรคไทยรักไทยแล้ว ซึ่งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไม่ว่าจะไปไหนก็จะพา น.ส.แพทองธารไปด้วย เชื่อว่า น.ส.แพทองธารได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องการเมืองมานาน และตอนที่ น.ส.แพทองธาร มาเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็มีการสะสมประสบการณ์มาเรื่อย ๆ จึงคิดว่า เมื่อ น.ส.แพทองธารมารับตำแหน่งนายกฯ ในวันนี้ ได้รับเสียงโหวตจากสภาฯ และหลังจากได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นนายกฯ อย่างเป็นทางการ ก็เชื่อมั่นว่า น.ส.แพทองธารจะสามารถช่วยประเทศชาติได้หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจ สังคม ได้อย่างดี

ต่อคำถามที่ว่า แม้ น.ส.แพทองธารจะตามนายทักษิณมานาน แต่ด้วยอายุและประสบการณ์ยังน้อยเกินไปสำหรับการเป็นนายกฯ ที่จะมาบริหารประเทศ นายสุริยะ กล่าวว่า ยุคนี้เป็นยุคของคนรุ่นใหม่ อย่างนายกฯฝรั่งเศสก็อายุยังน้อย ฉะนั้น คนรุ่นใหม่มีความกระฉับกระเฉง โลกวันนี้ไม่ได้แข่งกันที่ความใหญ่ แต่มันแข่งกันที่ความรวดเร็ว โลกยุคใหม่ คนรุ่นใหม่ จะทำได้ดีมาก ตนเชื่อมั่นอย่างนั้น

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า มองอย่างไรที่คนมองว่า น.ส.แพทองธารอาจจะมีจุดจบทางการเมืองเหมือนกับพ่อและอา นายสุริยะ กล่าวว่า ตนไม่เชื่ออย่างนั้น แต่เชื่อว่า ถ้าตราบใดที่เรามีบทเรียนในอดีตอยู่แล้ว ที่ผ่านมามีความผิดพลาดอย่างไร แต่ต้องยอมรับว่า ในอดีตมันมีระบบที่เข้ามาพยายามทำลายระบอบประชาธิปไตย แต่ทุกครั้งเราก็กลับมาได้ ดังนั้น จึงเชื่อว่า จากบทเรียนที่ผ่านมา นายกฯ คนใหม่จะเอาบทเรียนในอดีตมาพิจารณา

ผู้สื่อข่าวถามซักต่อว่า เรื่องของดิจิทัลวอลเล็ต ไม่น่าห่วงสำหรับนายกฯ ใหม่ใช่หรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า โครงการนี้หลังจากฟอร์มรัฐบาลเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางพรรคร่วมรัฐบาลจะมาดูกันอีกทีว่า จะดำเนินการกันอย่างไร 

ผู้สื่อข่าวถามเพิ่มว่า ยังต้องรับฟังความคิดเห็นจากรัฐบาลอีกหรือ ในเมื่อให้ประชาชนลงทะเบียนไปแล้ว นายสุริยะ กล่าวว่า เนื่องจากตอนนี้มีการเปลี่ยนนายกฯ คนใหม่ พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องมาคุยกันอีกครั้ง 

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ยืนยันว่าโครงการนี้จะไม่หยุดชะงักกลางคันใช่หรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า รอพรรคร่วมรัฐบาลคุยกันอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ประชาชนฝากความหวังกับนายกฯ คนใหม่ได้ใช่หรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า เชื่อว่า น.ส.แพทองธาร จะมุ่งมั่นและตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ ในส่วนของพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลทุกคนก็มั่นใจว่า น.ส.แพทองธาร จะทำหน้าที่ได้ดี ฉะนั้น มั่นใจว่า ประชาชนฝากความหวังไว้ได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top