Saturday, 5 July 2025
Politics

เศษเสี้ยว 'คำตอบประเทศ' จากพื้นฐานบุคลากรในพรรคการเมือง 'ลุงชัช' ผู้ลัดเส้นทางให้ใช้ฟรี vs แสนสิริ ผู้หาวิธีโกย 10-20 บาท ก็เอา!!

เห็นแล้วก็อดไม่ได้!! ที่อยากจะเขียนถึง หลังจากไม่กี่วันมานี้ มีการนำเรื่องดี ๆ ที่น้อยคนจะรู้ของ 'ชัช เตาปูน' หรือ นายชัชวาลย์ คงอุดม, นายประสิทธิ์ จิตราธนวัฒน์ และบริษัทบางซื่อพลาซ่า ที่เปิดเส้นทางลัดไป 'ถนนเตชะวณิช' ให้ใช้ฟรี แถมเปิดเส้นทางลัดไปถนนพระราม 6 (ตัดใหม่) ให้ใช้ฟรีด้วยเช่นกัน 

ขอบอกก่อนนะหนูๆ ไอ้ที่ที่แชร์กันเนี่ย มันไม่ใช่เหตุการณ์ที่เพิ่งจะเริ่มเกิด แต่ถนนเส้นลัดนี้ ลุงชัชแกเปิดให้ใช้มานานร่วม 40 ปีแล้วเห็นจะได้ แต่ถ้าคิดจะหยิบมาเป็นเรื่องชื่นชมในตอนนี้ก็ไม่ว่ากัน...

อันที่จริง ถ้านอกจากเรื่องการเป็นเจ้าของบ่อนที่ถูกสังคมตราหน้าในทางลบ ลุงชัชแกก็ทำหน้าที่ผู้ใหญ่ใจดีแก่คนในชุมชนย่านเตาปูน-บางซื่อ มาตลอดชั่วชีวิต

เอ่อ...เท่าที่พอจะรวบรวมได้ก็เช่น...
ส่งเด็กเรียนหนังสือ เกือบ 200 คน ปั้นอนาคตของชาติให้มาช่วยประเทศ ผ่าน 40 ปีแล้ว จบปริญญาเอก มาแล้ว 4 คน มีท่านหนึ่งเป็นรองคณบดีสัตวแพทย์ มหาวิทยาลับเกษตรฯ ซึ่งเป็นนักเรียนทุนจบจากเยอรมัน บ้างก็จบแพทย์แล้วมาเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาล บ้างก็จบวิศวะ บ้างก็จบพยาบาล ซึ่งไม่ต้องชดใช้ทุนคืนสักบาทแต่เงื่อนไขต้องจบมาเพื่อช่วยเหลือประเทศ

แจกข้าวมากว่า 40 ปี ตั้งแต่ปี 22 จนราคาข้าวขึ้นสูงมาก จึงต้องหันมาปลูกข้าวแบบเกษตรอินทรีย์ เพื่อเอามาแจกคนจน

เคยช่วยหม่อมคึกฤทธิ์หาเสียง ในสมัยท่านเป็นนายกฯ และได้นับถือกันเป็นพ่อ-ลูก ในบั้นปลาย มรว.คึกฤทธิ์ได้มอบสยามรัฐให้ดูแลกิจการต่อและบอกว่า "อย่าให้สยามรัฐตายตามพ่อไปนะลูก"

ช่วยเหลือแรงงานไทยในประเทศลิเบีย กว่าหมื่นคน เพื่อให้กลับเข้าประเทศเราได้ ซึ่งแต่ละคนที่กลับมาไม่ได้มีความเป็นที่อยู่ที่ลำบากมาก นายจ้างเอารัดเอาเปรียบ บ้างก็ต้องนอนในโรงเพาะเห็ด ผิวหนังติดเชื้อ ขาดสารอาหารหลายราย ให้หากินวันละมื้อ จนต่อสู้ช่วยขอวีซ่านายจ้างกลับมาได้

เคยเป็นอดีต ส.ว. ปี 43 จากการเลือกตั้ง และ ผลงานผลักดัน...ตรวจสอบ หน่วยงาน ขสมก. ซึ่งทำให้รัฐเสียหายเป็นหมื่นล้าน จนผู้บริหารต้องลาออกจากราชการและบางท่านถูกพิพากษาจำคุก และกรณีปิดโรงงานถ่านหิน เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมและธุรกิจประมง ชาวประมง เกษตรกร

เกิดและเติบโตในสลัมย่านเตาปูน และปัจจุบันก็ยังอยู่ที่เดิม และคอยให้ความช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ ชาวบ้านที่ตกทุกข์ได้ยากที่มาร้องขอเกือบทุกวัน

สำเร็จการศึกษาจาก นิติศาสตร์ รามคำแหง ใช้เวลาแค่ 3 ปีครึ่งและสำเร็จปริญญาโท สาขา เศรษฐศาสตร์และการบริหาร

วันหนึ่งไปมอบรั้วโรงเรียน เห็นเด็กดื่มน้ำขุ่นๆ กลัวจะเป็นนิ่ว จึงสร้างโรงกรองน้ำดื่ม ปัจจุบันได้บริจาคเพื่อสร้างโรงกรองน้ำดื่มกว่า 200 โรงเรียนแล้ว

ปลูกบ้านให้คนจนอยู่กว่า 200 หลังคาเรือน เพราะสาเหตุจากที่ชาวบ้านถูกไล่ที่ แล้วก็เรื่องการเปิดถนนส่วนบุคคลให้ชาวบ้านได้ใช้สัญจรฟรี มากว่า 40 ปี ตรงเส้นทางลัด 'เตชะวนิช-พระราม 6' แม้จะสามารถเก็บค่าผ่านทางได้ก็ตาม (หากวันนึงๆ ท่านเก็บค่าผ่านทางคงได้เยอะเลย)

แน่นอนว่า ช่วงนี้เป็นช่วงเข้าสู่ห้วงเวลาแห่งการเลือกตั้ง แล้วลุงชัช แกก็มีสังกัดเป็นตัวเป็นตนร่วมกับ รวมไทยสร้างชาติ ที่มีลุงตู่ร่วมขบวนอยู่ จะเรียกว่ากองเชียร์ เอามาอวยช่วยกัน ก็คงเป็นปกติวิสัย

***แต่บังเอิญ ไอ้เรื่องการเมือง มันก็มักมาพร้อมมากับเรื่องน้ำเน่า เพราะถ้ามีคนหนึ่ง 'ดี' มันก็ต้องมีอีกหนึ่งองค์ประกอบ 'เลว' โผล่ออกมาให้เกิดความสมดุลกัน...

ที่ว่าเช่นนี้เพราะ...พลันที่ชาวเน็ตบางส่วนดันเอา 'น้ำใจ' ส่วนนี้ของลุงชัชมาเผย ก็มีชาวเน็ตปากมากไม่น้อยมาเฉลยเชิงเปรียบกับ 'น้ำจิ้ม' ของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัท พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศ ที่มียอดขายระดับแสนล้าน และกำไรเป็นหมื่นล้านต่อปี แต่กลับเรียกเก็บเงินค่าผ่านทางสะพานข้ามคลองพระโขนงจากประชาชน แม้แต่ผู้ซื้ออาคารชุดในโครงการของบริษัท ยังไม่เว้น!!

ประชาชาติจัดปราศรัยที่ อ.สุไหงโกลก ชนกับพรรคประชาธิปัตย์ ‘ทดดวีดดด สอดส่อง’ ลั่นไม่กังวล ชี้ประชาธิปัตย์ไม่มี ส.ส.เหลืออยู่ในพื้นที่แล้ว

พรรคประชาชาติจัดเวทีปราศรัยพบปะกลุ่มสตรีในจังหวัดนราธิวาส ที่ห้องประชุมปลายสยาม โรงแรมเคปเก็นติ้ง อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ซึ่งได้รับความสนใจจากกลุ่มสตรีจำนวนหลายร้อยคนมาร่วมรับฟังการศรัยจนแน่นเต็มห้องประชุม โดยนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคประชาชาติ และนายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ รองหัวหน้าพรรคประชาชาติ มาปราศรัยช่วยหาเสียงในพื้นที่นราธิวาส เขต 2 ซึ่งพรรคประชาชาติส่งนายนายเจ๊ะซู ตาเหย็บ เป็นผู้ลงสมัคร นอกจากนี้ ยังมีนายสุรเชษฐ์ แวอาแซ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่ได้ย้ายมาสังกัดพรรคประชาชาติ และล่าสุดเพิ่งจะได้รับเลือกเป็นรองหัวหน้าพรรค ได้ร่วมขึ้นเวทีปราศรัยด้วย ท่ามกลางเสียงปรบมือและเสียงเชียร์ตลอดเวลา

นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ รองหัวหน้าพรรคประชาชาติ พูดถึง ‘ฮิญาบ’ หรือผ้าคลุมศีรษะที่เป็นคุณค่าและอัตลักษณ์ของสตรีมุสลิม กล่าวว่า กว่าสตรีมุสลิมจะได้มีสิทธิเสรีภาพสวมฮิญาบอย่างภาคภูมิเช่นในวันนี้ ต้องผ่านการต่อสู้และเรียกร้องมาอย่างยาวนาน จนวันนี้โลกได้กำหนดให้ทุกวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เป็นวันฮิญาบโลก และพรรคประชาชาติได้ต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพเรื่องนี้มาโดยตลอด

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เริ่มการปราศรัยด้วยการพูดถึงการตอบคำถามจากสื่อมวลชน ว่าสื่อมวลชนถาม ในฐานะที่พรรคประชาชาติเป็นเจ้าของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความกังวลหรือไม่ที่มีแกนนำพรรคการเมืองหลายพรรคลงพื้นที่มาปราศรัยถี่มากในช่วงนี้ เช่นวันนี้มีพรรคประชาธิปัตย์มาปราศรัยที่ อ.สุไหงโกลกด้วย พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า “ผมก็พยายามนึกว่า ส.ส.ประชาธิปัตย์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีกี่คน ก็นึกได้ว่าไม่มีสักคน เดิมมี ส.ส.อันวาร์ สาและอยู่หนึ่งคน แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว นราธิวาสเขต 2 อ.ตากใบ อ.สุไหงโกลกแชมป์เก่าก็ไม่ใช่ประชาธิปัตย์ แต่เป็นของพลังประชารัฐ แต่หลังการเลือกตั้งครั้งนี้ เขตนี้จะเป็นของเจ๊ะซู พรรคประชาชาติ” 

‘จตุพร’ ถอดรหัสคำปราศรัย ‘เศรษฐา’​ จวก ทั้งชีวิตอยู่กับความร่ำรวย จะเข้าใจคนจนได้อย่างไร

(19 มี.ค. 66) นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน ‘ประชาชนอยู่ตรงไหน?’ โดยถามนายเศรษฐา ทวีสิน ว่าที่แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทยว่า คนไทยยากจน ทั้งชีวิตได้แต่เสาะแสวงหาความสุขและการอยู่รอด ดังนั้น ประชาชนผู้ทุกข์ยาก มากความเดือดร้อนอยู่ตรงไหนในหัวใจว่าที่ผู้นำที่จะมาเป็นผู้ปกครองมือใหม่ ผู้ยังไม่ปรากฎความเสียสละแก่สังคม แต่ทั้งชีวิตความสำเร็จอยู่กับความร่ำรวย อาจไม่เคยเห็นคุณค่าการเสาะแสวงหาใด ๆ เลย เพราะไม่เคยเสาะหา อยากได้สิ่งใดก็มีคนเอามาให้ แล้วจะเข้าใจประชาชนยากจนที่อยู่ปกครองได้อย่างไร

นายจตุพร ยกคำพูดตอนหนึ่งของนายเศรษฐา ทวีสิน ว่าที่แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ที่ระบุบนเวทีจัดงาน ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน’ เพื่อเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ทั้ง 400 เขต มาวิพากษ์วิจารณ์บทบาทของผู้ปกครองมือใหม่ถอดด้ามที่อาสามาเป็นผู้นำของประเทศไทยที่มากด้วยคนยากไร้ เดือดร้อนทุกข์

พร้อมระบุคำพูดของนายเศรษฐา ว่า คนมีอภิสิทธิ์ ใหญ่คับฟ้าทำผิดไม่ผิด เห็นผู้นำไร้หัวใจไล่ประชาชนที่มีศักยภาพให้ออกจากแผ่นดินที่เขาเกิด เพียงแค่คนเหล่านี้ไม่อยู่ใต้โอวาท ประชาชนที่ได้ผลกระทบทุกคนต่างฝากความหวังไว้ในการเลือกตั้ง ซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนประเทศ เขาอยากเลือกพรรคการเมืองที่จะสร้างโอกาสให้ชีวิตเขาดีขึ้น

นายจตุพร เริ่มกล่าวด้วยการยกคำพูดท่อนหนึ่งที่ระบุถึง ‘ผู้นำไร้หัวใจ’ มาวิพากษ์วิจารณ์ ว่า ผู้นำโลกและผู้นำไทยที่ผ่านมา ล้วนไม่เคยมีหัวใจ พร้อมถามนายเศรษฐา เมื่อช่วงเป็นซีอีโอ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ สร้างบ้านขายกลุ่มคนรวยมาทั้งชีวิต

“คุณมีหัวใจหรือไม่ และเคยเห็นผู้ปกครองไทย ใครบ้าง เคยมีหัวใจ” นายจตุพร กล่าว

อย่างไรก็ตาม หัวใจคนจะเกิดก่อนที่มาเป็นผู้นำ หรือระหว่างวางแผนที่จะเข้าไปเป็นผู้นำ จากนั้นเมื่อมาเป็นผู้นำแล้ว หัวใจจะถูกเอาออกตามลำดับ จนอยู่ในสภาพคนไร้หัวใจ 

อีกทั้งกล่าวว่า ในระหว่างช่วงชิงอำนาจ หัวใจจะเริ่มดำสนิท แต่เมื่อมีอำนาจหัวใจจะไม่มี แล้วกลายเป็นมนุษย์พิเศษที่ไม่มีหัวใจในการทำงาน เพราะตลอดเวลาถ้าผู้นำมีหัวใจ ประเทศจะไม่อยู่ในสภาพแบบนี้ การตัดสินใจระหว่างผลประโยชน์ชาติกับประโยชน์ตัวเอง ถ้าผู้นำมีหัวใจทำไม่ได้ มือล้างได้ แต่ใจยากที่จะล้างออก ดังนั้น ที่บอกว่า ผู้นำไร้หัวใจ หวังว่านายเศรษฐา จะรักษาหัวใจเอาไว้ได้ จนถึงวันใฝ่ฝัน เพราะต้องการเป็นนายกฯ ตำแหน่งเดียว

ส่วนนายเศรษฐา กล่าวถึงผู้นำไร้หัวใจไล่คนไทยออกนอกประเทศนั้น นายจตุพร เห็นว่า ขึ้นอยู่กับการเข้าใจ อย่างไรก็ตาม ต้องรู้ให้ตรงกันก่อนว่า ไม่มีใครสามารถไล่คนไทยออกนอกประเทศได้ ขณะเดียวกันก็ไม่มีคนไทยคนใดที่จะห้ามคนไทย ไม่ให้กลับเข้าแผ่นดินไทยได้เช่นกัน อีกทั้งไม่มีกฎหมายห้ามคนไทยเข้าประเทศด้วย ดังนั้น การออกนอกประเทศคงเป็นเพราะเขาไม่ให้อยู่ หรือไม่อยู่เอง

อย่างไรก็ตาม ในอดีต ช่วงเกิดเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 จอมพลถนอม กิตติขจร และจอมพลประภาส จารุเสถียร ตัดสินใจออกนอกประเทศเอง โดยประชาชนขับไล่ แค่ต้องการให้ออกจากตำแหน่งเท่านั้น รวมทั้งนายปรีดี พนมยงค์ และจอมพล ป. พิบูลสงคราม ล้วนแต่เป็นการตัดสินใจออกนอกประเทศเองทั้งสิ้น แต่การไม่กลับมาแผ่นดินไทยนั้น ไม่มีใครห้ามปรามได้เลย

นายจตุพร กล่าวว่า เจตนาของนายเศรษฐา ที่พูดถึงการไล่คนออกนอกประเทศนั้น คงต้องการสื่อให้คนในห้องประชุมนึกถึงหน้าทักษิณ ชินวัตร หรือยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ พี่น้อง อย่างไรก็ตาม ควรต้องยึดหลักสำคัญว่า คนไทยไม่มีสิทธิ์ไล่ใครออกนอกประเทศ แม้จะมีการพูดจริง แต่ไม่มีอำนาจ ดังนั้น การไม่อยู่ในประเทศจึงเป็นเรื่องของแต่ละคนจะตัดสินใจ และถึงที่สุดแล้ว เมื่อนายเศรษฐาอาจได้เป็นนายกฯ ต้องเข้าใจตรงกันก่อนว่า แผ่นดินนี้ไม่มีใครบังคับให้คนไทยออกนอกประเทศได้ นอกจากจะออกไปเอง

“เมื่อคนไทยมีศักยภาพที่นายเศรษฐา บอกว่า เขาไม่อยู่ใต้โอวาท จึงถามว่า ใต้โอวาทของผู้นำคนไหน ที่ไม่ฟัง จึงต้องออกกันไป ซึ่งคำนี้เป็นคำละเอียดอ่อน ใช้ปลุกใจได้ ถ้าไม่เข้าใจบริบทแล้ว จะนำไปสู่ความขัดแย้งมากมาย” นายจตุพร กล่าว

รวมทั้ง เสนอว่า วันนี้ ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ กลับบ้านในไทยได้ตลอดเวลา และไม่มีใครขับไล่ออกนอกประเทศ ตลอดจนไม่มีใครห้ามทักษิณกลับไทยด้วย ดังนั้น คำพูดของนายเศรษฐา จึงเป็นการสร้างจินตนาการที่ใหญ่โตมาก

นิพนธ์ ลั่น จุรินทร์พร้อมนั่งนายกฯหากประชาชนให้ความไว้วางใจ เชื่อมั่น ผ่านงานหลายกระทรวง เป็นนักบริหารรัฐกิจมืออาชีพ และส.ส.หลายสมัย

เมื่อวานนี้ (19 มี.ค.66) บนเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่สนามช้างเผือก อ.เมือง จ.ยะลา นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์/ผอ.เตรียมการเลือกตั้งพรรคฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า พรรคประชาธิปัตย์เลือกหัวหน้าพรรคมานั้นคน ๆ นั้นต้องพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี โดยขอยืนยันกับพี่น้องประชาชนว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคปชป.นั้น เป็นผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมของการเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดี เพราะจากการที่ไปนั่งบริหารงานในฐานะรัฐมนตรีหลายกระทรวงก็สามารถจัดการแก้ไขปัญหาที่ค้างคาสะสมได้ทั้งหมด 

‘ไพศาล’ ฟัน!! ยุบสภาฯ พาการเมืองไทยเข้าสู่ ‘กลียุค’ พรรคการเมืองเก่า-ใหม่ ผวา!! หวิดถูกยุบพรรคเป็นพรวน

(20 มี.ค. 66) นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า จากยุบสภาสู่การยุบพรรคและกลียุค!!!

1. การนับเวลาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ต้องนับวาระของสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ว่า จะสิ้นสุดลงในเวลา 24.00 น. วันที่ 22 มี.ค. 66 ซึ่งเป็นที่ยุติชัดเจนแล้วว่าไม่มีการนำเสนอคณะรัฐมนตรีให้พิจารณาตราพระราชกฤษฎีกายุบสภา เพราะมีคนถือว่า ‘เป็นเรื่องพิเศษ’ กล่าวง่าย ๆ คือเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี

แต่รัฐธรรมนูญบัญญัติในเรื่องนี้ไว้เฉพาะแล้วว่า “พระมหากษัตริย์ทรงใช้อำนาจอธิปไตยผ่านคณะรัฐมนตรี” และ “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการยุบสภา” คือลงว่าเป็นพระราชกฤษฎีกาแล้วก็ต้องปฏิบัติตามนี้ ไม่มีกรณีพิเศษนอกเหนือจากนี้

2. จับตาว่าจะมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษายุบสภาในวันนี้ตามที่เป็นข่าวลือกันหรือไม่ ถ้าจริง ก็จะลบล้างกำหนดการเลือกตั้งที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประกาศ ก่อนหน้านี้ และทำให้เวลาการสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งขยายเอาไป ซึ่งคงจะขยายไปถึงต้นเดือนเมษายน 66 ก็จะขยายเวลาตกปลาในอ่างได้อีกระยะหนึ่ง

จากนั้นก็ต้องติดตามข่าวกระบวนการเดินหน้าในเรื่องยุบพรรค โดยเฉพาะการยุบพรรคเพื่อไทย (พท.) ก้าวไกล (ก.ก.) และพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และขณะนี้ ก็มีเรื่องการยุบพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และรวมไทยรักษาชาติ (รทสช.) ตามเข้ามาเป็นพรวนด้วย

3. การกล่าวหาเรื่องใช้อำนาจอ้างการตรวจราชการเพื่อหาเสียงเลือกตั้ง รวม 19 ครั้ง ที่พรรคเสรีรวมไทยโดยอาจารย์สมชัยและคุณวีระเป็นผู้กล่าวหานั้น ได้ยินว่ามีข้อพิสูจน์ง่ายมาก

~การกระทำทั้ง 19 ครั้งมีหลักฐานชัดเจนทั้งภาพถ่ายและคลิป รวมทั้งตัวบุคคล

~สามารถเปรียบเทียบการตรวจราชการในช่วง 3 ปีก่อนนี้ว่ามีลักษณะรูปแบบอย่างไรแตกต่างกับ ที่อ้างไปตรวจราชการในช่วงก่อนเลือกตั้งนี้อย่างไร ที่ชัดเจนคือการระดมบุคคลหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งจังหวัดมาต้อนรับ การจัดรายการพบปะราษฎรและการกล่าวปราศรัยหาเสียงเลือกตั้ง รวมทั้งการนำผู้ที่จะสมัครรับเลือกตั้งขึ้นโชว์ตัวกันเป็นตับ

อย่าทำเป็นเล่นไป เพราะถ้าวันใดกระบวนการยุติธรรมแสดงความศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา ก็คงน่าดูชม ไม่ใครก็ใครอาจต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศ

‘บิ๊กตู่’ ตอบนักข่าว หลังถามเรื่องยุบสภาฯ พร้อมย้ำ ขรก. ระวังใช้จ่ายงบฯ ช่วง รบ. รักษาการ

‘บิ๊กตู่’ เตือน ขรก.จากนี้ไปทำอะไรต้องระวังช่วงเป็นรัฐบาลรักษาการ ก่อนตอบนักข่าว “ก็คอยซิจ๊ะ” หลังถามว่าราชกิจจานุเบกษาฯ จะประกาศในวันนี้หรือไม่

(20 มี.ค. 66) ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวตอนหนึ่งเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ครั้งที่ 1/2566 โดยกำชับในที่ประชุมว่า ช่วงนี้ต้องระมัดระวัง จากนี้ไปต้องระวังในเรื่องการเป็นรัฐบาลรักษาการ ในการใช้จ่ายงบประมาณริเริ่มทำโครงการใหม่ ๆ ก็ตาม วันนี้จะมีการประชุมเพื่อรับทราบแนวนโยบายจากคณะกรรมการการเลือกตั้งซึ่งนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีนำทีมหารือในเช้าวันเดียวกันนี้ เพื่อทำความเข้าใจในเรื่องนี้

‘พี่ศรี’ ไม่ทน!! โร่ฟ้องกกต. เอาผิด ‘ปดิพัทธ์ หลังปราศรัยพิษณุโลกพาดพิงถึงสถาบัน ชี้!! มีผลยุบพรรค

‘ศรีสุวรรณ’ ยื่นกกต. เอาผิด ‘ปดิพัทธ์’ ส.ส.ก้าวไกล ปราศรัยพาดพิงสถาบันระหว่างหาเสียงที่พิษณุโลก มีผลยุบพรรค

(20 มี.ค. 66) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางยื่นคำร้องต่อกกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบถ้อยคำปราศรัยของนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล และกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ที่ได้ปราศรัยหาเสียงพาดพิงสถาบัน ที่จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา

โดยนายศรีสุวรรณ กล่าวว่า วันนี้ตนนำหลักฐานเป็นคลิปคำปราศรัยของกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล โดยในคำปราศรัยล้วนแล้วพูดถึงแต่สถาบัน บางถ้อยคำปรากฏชัดเจนว่าเป็นการพาดพิงไปถึงโครงการพระราชดำริมากมาย มีการคอร์รัปชัน ซึ่งคำพูดดังกล่าวตนคิดว่าเป็นการให้ร้ายต่อสถาบัน โดยโครงการพระราชดำริเป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 ทรงพระราชทานให้กับพสกนิกร ประชาชน เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปของประชาชนชาวไทย และชาวต่างประเทศ ซึ่งมีมากกว่า 4,700 โครงการ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาให้กับคนทั้งประเทศ

‘ชวน’ ปลื้ม!! สภาอยู่ครบ 4 ปี ผ่าน กม. หลายฉบับ แต่เสียดาย เริ่มทำงาน 500 คน สุดท้ายเหลือ 393 คน

‘ชวน’ แถลงขอบคุณสื่อสภา นำเสนอพฤติกรรมนักการเมือง ชี้มีส่วนช่วยตัดสินใจวันกาบัตร ปลื้มผ่าน กม.หลายฉบับ เสียดายแผ่วปลายช่วงท้าย เหตุองค์ประชุมไม่ครบ เผยเริ่มต้นทำงาน 500 คน สุดท้ายเหลือ 393 คน

(20 มี.ค. 66) ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวขอบคุณสื่อมวลชนประจำรัฐสภาตลอดการทำงานร่วมกัน 4 ปีที่ผ่านมาว่า วันนี้คาดหมายว่าน่าจะมีประกาศพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ยุบสภา ดังนั้น จึงถือโอกาสนี้รายงานสถานภาพของสภาผู้แทนราษฎรให้พี่น้องสื่อมวลชนได้ทราบเป็นครั้งสุดท้าย

นายชวนกล่าวว่า ความจริงตัวเลขของผู้แทนราษฎรชุดนี้เริ่มต้น 500 คน แต่เมื่อพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบทำให้ ส.ส.ที่เป็นกรรมการบริหารพรรคสิ้นสภาพไป 11 คน, มี ส.ส.ที่ศาลฎีกาสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่เรื่องเสียบบัตรแทนกัน 3 คน, มี ส.ส.ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ 4 คนกรณีขอสร้างสนามฟุตซอล, มี ส.ส.พรรคต่าง ๆ ที่ถูกศาลตัดสินให้พ้นสมาชิกภาพโดยไม่มีการเลือกตั้งซ่อมและไม่มีการเลื่อนลำดับทดแทน 4 คน, และมี ส.ส.ลาออกในช่วง 180 วัน ทำให้สมาชิกลดลงไปอีก 84 คน และเสียชีวิตในช่วงเวลานั้นอีก 1 คน ดังนั้น ในวันนี้จึงเหลือ ส.ส.อยู่ 393 คน

นายชวนกล่าวว่า ถ้าเราทบทวนการปฏิบัติหน้าที่ของสภาชุดนี้ก็จะเห็นว่าเป็นชุดพิเศษที่หลังว่างเว้นให้มีการเลือกตั้งมา 5 ปี จึงเป็นเหมือนชุดที่เริ่มใหม่ สมาชิกที่เข้ามาใหม่ 500 คน ตอนเริ่มแรกนั้นจึงเป็นสมาชิกใหม่เกินกว่าครึ่งหนึ่ง จึงมีข้อวิพากษ์วิจารณ์ในพฤติกรรม ทั้งนี้ สภาชุดนี้ได้เริ่มใช้ที่ในการประชุมที่กระทรวงการต่างประเทศ จากนั้นย้ายไปห้องประชุมของ TOT ต่อมาย้ายมาที่ห้องประชุมจันทราของวุฒิสภา และห้องประชุมสุริยันของสภา จึงไม่มีเคยมีสภาชุดไหนที่เปลี่ยนที่ประชุมมากเท่านี้ ก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19

“โชคดีว่าสภาขยันทำงานในช่วงต้น ประกอบกับรัฐบาลเสนอกฎหมายในช่วงต้นไม่มากนักจึงไม่มีอะไรค้าง จนกระทั่งเกิดวิกฤตโควิด-19 เราก็หยุดการประชุมไป 1 เดือน ตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แม้จะมีสมาชิกบางฝ่ายเสนอให้หยุดต่อเนื่องจนกว่าจะหายจากโรคระบาด แต่เราก็เชื่อว่าถ้าจะรอให้หมดการระบาดคงเป็นไปไม่ได้ เราจึงประชุมต่อเนื่องตลอดมา และชดเชยการประชุมในวันศุกร์” ประธานสภากล่าว

นายชวนกล่าวต่อว่า โดยหลักแล้วพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คือเครื่องมือของฝ่ายบริหารที่ต้องใช้ ดังนั้น กฎหมายของรัฐบาลจึงไม่มีฉบับใดค้างอยู่ ทั้งในส่วนของสภาผู้แทนราษฎรและรัฐสภา แต่ในช่วงท้ายที่รัฐบาลส่งกฎหมายมาอีกหลายฉบับ แล้วก็ไม่นำองค์ประชุมมาด้วย จนตนต้องทำหนังสือถึงนายกฯ และเจ้ากระทรวงผู้เสนอกฎหมายนั้น แต่สุดท้ายองค์ประชุมก็ยังไม่ครบ

นายชวนกล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจที่สภาอยู่ได้มาจนครบ 4 ปี ซึ่งไม่ได้มีอย่างนี้ทุกครั้งไป ถือว่าฝ่ายนิติบัญญัติทำหน้าที่จนเกือบครบถ้วน ถ้าไม่มองช่วงปลายที่มีกฎหมายค้างอยู่ เช่น ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง และร่างรัฐธรรมนูญ ที่ไม่ได้มีการพิจารณา เพราะองค์ประชุมไม่ครบ เกือบจะพูดได้ว่ากฎหมายของรัฐบาลได้ผ่านไปเกือบทั้งสิ้น ยกเว้นช่วงปลายซึ่งเป็นกฎหมายที่เสนอเข้ามาใหม่และองค์ประชุมไม่ครบ

นายชวนกล่าวว่า ส่วนตนที่ได้นั่งเป็นประธานสภาตลอด 4 ปี ตั้งใจจะคุมสภานี้ให้ถึงที่สุด และคิดว่าสมาชิกใหม่ต้องการคำแนะนำหลายเรื่อง ซึ่งสมาชิกเหล่านี้ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยมีปรากฏการณ์ใหม่ก็คือ  เรื่องการรักษาเวลาการอภิปราย ทำให้ทุกคนที่ได้อภิปราย แต่มีบางเรื่องคือพรรคที่มีเสียงมากอภิปรายไม่กี่คน ส่วนพรรคที่เสียงน้อยกลับอภิปรายมาก ทั้งที่ความจริงควรจะเป็นไปตามสัดส่วนของจำนวน ส.ส.ของพรรคนั้นๆ

‘บิ๊กป้อม’ ลุย ‘กระบี่-พังงา’ หาแนวทาง รับมือน้ำท่วม-ภัยแล้ง พร้อมหนุน ‘ศูนย์กลางผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ’

‘บิ๊กป้อม’ โหมงาน ลุยกระบี่-พังงา ติดตามพัฒนาแหล่งน้ำ-เมืองท่องเที่ยว-ดัน พ.ร.บ.ปาล์มน้ำมัน ชู ไทย ‘ศูนย์กลางผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ’ และมีหน่วยงานรองรับตรง 

(20 มี.ค. 66) เมื่อเวลา 09.30. น.ที่ จ.กระบี่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และคณะ เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.กระบี่ และพังงา โดยจุดแรก ติดตามความคืบหน้าโครงการฝายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และการอนุรักษ์แหล่งน้ำในพื้นที่ มี ผวจ.กระบี่และพังงา เลขา สทนช. อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ อธิบดีกรมชลประทาน และหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ให้การต้อนรับ 

โดยรับฟังการบรรยายสรุปในพื้นที่ โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองไหล ต.พรุเตียว อ.เขาพนม จว.กระบี่ พร้อมพบปะรับฟังปัญหาประชาชนในพื้นที่ ภาพรวมสถานการณ์น้ำของ จว.กระบี่ปัจจุบัน ปี 61 - 65 ดำเนินการแล้ว 447 โครงการ ประชาชนได้ประโยชน์กว่า 15,000 ครัวเรือน พื้นที่รับประโยชน์กว่า 23,500 ไร่  ปี 66 อยู่ระหว่างดำเนินการ 13 โครงการ พื้นที่รับประโยชน์  1,430 ไร่ ประชาชนได้ประโยชน์กว่า 1,000 ครัวเรือน และปี 67 เตรียมโครงการรรองรับ 148 โครงการ พื้นที่รับประโยชน์กว่า 48,000 ไร่ ประชาชนรับประโยชน์กว่า 7,100 ครัวเรือน สำหรับปี 66 คาดการณ์มีภาวะฝนทิ้งช่วง มิ.ย.- กค. ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำสะสมน้อยกว่าเกณฑ์ที่กำหนด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top