เศษเสี้ยว 'คำตอบประเทศ' จากพื้นฐานบุคลากรในพรรคการเมือง 'ลุงชัช' ผู้ลัดเส้นทางให้ใช้ฟรี vs แสนสิริ ผู้หาวิธีโกย 10-20 บาท ก็เอา!!

เห็นแล้วก็อดไม่ได้!! ที่อยากจะเขียนถึง หลังจากไม่กี่วันมานี้ มีการนำเรื่องดี ๆ ที่น้อยคนจะรู้ของ 'ชัช เตาปูน' หรือ นายชัชวาลย์ คงอุดม, นายประสิทธิ์ จิตราธนวัฒน์ และบริษัทบางซื่อพลาซ่า ที่เปิดเส้นทางลัดไป 'ถนนเตชะวณิช' ให้ใช้ฟรี แถมเปิดเส้นทางลัดไปถนนพระราม 6 (ตัดใหม่) ให้ใช้ฟรีด้วยเช่นกัน 

ขอบอกก่อนนะหนูๆ ไอ้ที่ที่แชร์กันเนี่ย มันไม่ใช่เหตุการณ์ที่เพิ่งจะเริ่มเกิด แต่ถนนเส้นลัดนี้ ลุงชัชแกเปิดให้ใช้มานานร่วม 40 ปีแล้วเห็นจะได้ แต่ถ้าคิดจะหยิบมาเป็นเรื่องชื่นชมในตอนนี้ก็ไม่ว่ากัน...

อันที่จริง ถ้านอกจากเรื่องการเป็นเจ้าของบ่อนที่ถูกสังคมตราหน้าในทางลบ ลุงชัชแกก็ทำหน้าที่ผู้ใหญ่ใจดีแก่คนในชุมชนย่านเตาปูน-บางซื่อ มาตลอดชั่วชีวิต

เอ่อ...เท่าที่พอจะรวบรวมได้ก็เช่น...
ส่งเด็กเรียนหนังสือ เกือบ 200 คน ปั้นอนาคตของชาติให้มาช่วยประเทศ ผ่าน 40 ปีแล้ว จบปริญญาเอก มาแล้ว 4 คน มีท่านหนึ่งเป็นรองคณบดีสัตวแพทย์ มหาวิทยาลับเกษตรฯ ซึ่งเป็นนักเรียนทุนจบจากเยอรมัน บ้างก็จบแพทย์แล้วมาเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาล บ้างก็จบวิศวะ บ้างก็จบพยาบาล ซึ่งไม่ต้องชดใช้ทุนคืนสักบาทแต่เงื่อนไขต้องจบมาเพื่อช่วยเหลือประเทศ

แจกข้าวมากว่า 40 ปี ตั้งแต่ปี 22 จนราคาข้าวขึ้นสูงมาก จึงต้องหันมาปลูกข้าวแบบเกษตรอินทรีย์ เพื่อเอามาแจกคนจน

เคยช่วยหม่อมคึกฤทธิ์หาเสียง ในสมัยท่านเป็นนายกฯ และได้นับถือกันเป็นพ่อ-ลูก ในบั้นปลาย มรว.คึกฤทธิ์ได้มอบสยามรัฐให้ดูแลกิจการต่อและบอกว่า "อย่าให้สยามรัฐตายตามพ่อไปนะลูก"

ช่วยเหลือแรงงานไทยในประเทศลิเบีย กว่าหมื่นคน เพื่อให้กลับเข้าประเทศเราได้ ซึ่งแต่ละคนที่กลับมาไม่ได้มีความเป็นที่อยู่ที่ลำบากมาก นายจ้างเอารัดเอาเปรียบ บ้างก็ต้องนอนในโรงเพาะเห็ด ผิวหนังติดเชื้อ ขาดสารอาหารหลายราย ให้หากินวันละมื้อ จนต่อสู้ช่วยขอวีซ่านายจ้างกลับมาได้

เคยเป็นอดีต ส.ว. ปี 43 จากการเลือกตั้ง และ ผลงานผลักดัน...ตรวจสอบ หน่วยงาน ขสมก. ซึ่งทำให้รัฐเสียหายเป็นหมื่นล้าน จนผู้บริหารต้องลาออกจากราชการและบางท่านถูกพิพากษาจำคุก และกรณีปิดโรงงานถ่านหิน เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมและธุรกิจประมง ชาวประมง เกษตรกร

เกิดและเติบโตในสลัมย่านเตาปูน และปัจจุบันก็ยังอยู่ที่เดิม และคอยให้ความช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ ชาวบ้านที่ตกทุกข์ได้ยากที่มาร้องขอเกือบทุกวัน

สำเร็จการศึกษาจาก นิติศาสตร์ รามคำแหง ใช้เวลาแค่ 3 ปีครึ่งและสำเร็จปริญญาโท สาขา เศรษฐศาสตร์และการบริหาร

วันหนึ่งไปมอบรั้วโรงเรียน เห็นเด็กดื่มน้ำขุ่นๆ กลัวจะเป็นนิ่ว จึงสร้างโรงกรองน้ำดื่ม ปัจจุบันได้บริจาคเพื่อสร้างโรงกรองน้ำดื่มกว่า 200 โรงเรียนแล้ว

ปลูกบ้านให้คนจนอยู่กว่า 200 หลังคาเรือน เพราะสาเหตุจากที่ชาวบ้านถูกไล่ที่ แล้วก็เรื่องการเปิดถนนส่วนบุคคลให้ชาวบ้านได้ใช้สัญจรฟรี มากว่า 40 ปี ตรงเส้นทางลัด 'เตชะวนิช-พระราม 6' แม้จะสามารถเก็บค่าผ่านทางได้ก็ตาม (หากวันนึงๆ ท่านเก็บค่าผ่านทางคงได้เยอะเลย)

แน่นอนว่า ช่วงนี้เป็นช่วงเข้าสู่ห้วงเวลาแห่งการเลือกตั้ง แล้วลุงชัช แกก็มีสังกัดเป็นตัวเป็นตนร่วมกับ รวมไทยสร้างชาติ ที่มีลุงตู่ร่วมขบวนอยู่ จะเรียกว่ากองเชียร์ เอามาอวยช่วยกัน ก็คงเป็นปกติวิสัย

***แต่บังเอิญ ไอ้เรื่องการเมือง มันก็มักมาพร้อมมากับเรื่องน้ำเน่า เพราะถ้ามีคนหนึ่ง 'ดี' มันก็ต้องมีอีกหนึ่งองค์ประกอบ 'เลว' โผล่ออกมาให้เกิดความสมดุลกัน...

ที่ว่าเช่นนี้เพราะ...พลันที่ชาวเน็ตบางส่วนดันเอา 'น้ำใจ' ส่วนนี้ของลุงชัชมาเผย ก็มีชาวเน็ตปากมากไม่น้อยมาเฉลยเชิงเปรียบกับ 'น้ำจิ้ม' ของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัท พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศ ที่มียอดขายระดับแสนล้าน และกำไรเป็นหมื่นล้านต่อปี แต่กลับเรียกเก็บเงินค่าผ่านทางสะพานข้ามคลองพระโขนงจากประชาชน แม้แต่ผู้ซื้ออาคารชุดในโครงการของบริษัท ยังไม่เว้น!!

เรียกว่าเห็นแก่ได้กับเงิน 10 บาท 20 บาท แบบไร้เกียรติและน่าอาย ไม่สมฐานะของบริษัทมหาชนขนาดใหญ่ และไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate social responsibility)

โดยเรื่องนี้มีการนำข้อมูลจากคุณประพันธุ์ คูณมี ที่เคยเขียนบทความไว้นานแล้ว ซึ่งใครอยากอ่านละเอียด ก็ตามวาร์ปนี้ดู >> https://www.thansettakij.com/columnist/440484

แต่ถ้าให้กล่าวโดยสรุปล่ะก็!! บริษัท แสนสิริ ผู้ขออนุญาตสร้างสะพานข้ามคลองพระโขนงดังกล่าว ไม่มีสิทธิที่จะมาเก็บเงินจากประชาชน ผู้ใช้ทางข้ามสะพานนั้นๆ เพราะตามระเบียบกรุงเทพมหานคร การขออนุญาตก่อสร้างสะพานข้ามคลอง "ผู้ขออนุญาตต้องยินยอมยกสะพานที่ก่อสร้างให้เป็นสาธารณประโยชน์ และมีหน้าที่ดูแลและบำรุงรักษาสะพานดังกล่าวให้มีความมั่นคงแข็งแรง และสามารถใช้งานได้โดยสะดวกด้วย"

เพียงแต่ทั้ง กทม.และ แสนสำราญ ต่างก็ดื้อตาใส ทำตัวเป็นพวกศรีธนญชัยหัวหมอ ตั้งด่านเก็บเงินก่อนขึ้นสะพานและที่ปลายสะพาน ซึ่งเคยมีข่าวรายงานออกมาด้วยว่า เจ้าหน้าที่เขตวัฒนา อ้างว่า "บริษัทไม่ได้ตั้งด่านเก็บเงินอยู่บนสะพาน แต่ตั้งอยู่บนที่ดินของโครงการของเอกชน" 

หูยย...ถ้ามีเจ้าหน้าที่ กทม.หัวหมอเลี่ยงบาลีให้แบบนี้ เอกชนคงอ้างกันได้ทั่วประเทศ ว่ายกสะพานให้ แต่ไม่ให้ทางขึ้นลงเบียดบังเอาที่สาธารณะหากินกันสบาย และบริษัทคงได้รับคำแนะนำเช่นนี้กระมัง

สรุปในสรุปอีกที ก็คือ 'คนจะกิน' มันก็หาทางดิ้นได้เสมอ!!

อ้อ!! อันที่จริง ก็ไม่ได้บอกว่า 'น้ำใจ' จะทำให้คนในพรรคการเมืองไหน สร้างคุณูปการต่อประเทศ แต่แค่จะบอกว่า หากประเทศได้คนที่แล้งน้ำใจ และไขว่คว้าแต่ประโยชน์ส่วนตน โกงกิน ล้างผิด สารพัด ซึ่งผลลัพธ์ก็เวียนวนกลับไปเหมือนเดิม...

ถูกโค่นโดยประชาชน...