Saturday, 18 May 2024
NewsFeed

‘พิพัฒน์’ รับผิด ปมชวดดึง ‘ลิซ่า’ มาเคาท์ดาวน์ ยอมรับสื่อสารผิดพลาด รีบพูดก่อนดีลจบ

"พิพัฒน์" ยืดอกรับผิดปมชวดดึง "ลิซ่า" มาเคาท์ดาวน์ในไทย ยอมรับสื่อสารผิดพลาด รีบพูดก่อน พร้อมนำมาเป็นบทเรียน เดินหน้าชวนคนดังระดับโลกมาร่วมงาน

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 29 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวกรณีที่ "ลิซ่า แบล็คพิงก์" หรือ ลลิษา มโนบาล ไม่สามารถมาร่วมกิจกรรมเคาท์ดาวน์ปีใหม่ที่ประเทศไทยได้ มีสาเหตุเป็นเพราะฝ่ายไทยต้องการจ้างเพียงคนเดียว แต่ทางต้นสังกัดต้องการให้มาทั้งวง ว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง และไม่ใช่ข้อเท็จจริง รวมถึงกระแสข่าวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอาจไม่ใช่ข้อเท็จจริงทุกเรื่อง อย่างกรณี เชอรี่ โคลว์ และลิซ่า เรื่องแยกแพ็กเกจหรือไม่แยกนั้นไม่มีความจริง ถ้าแยกแล้วไม่มา แต่ถ้าไม่แยกแล้วไม่มา สิ่งเหล่านี้เป็นการสื่อสารที่ผิดพลาดของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่มีการสื่อสารออกไปในเบื้องต้น ขณะที่เรายังไม่เห็นรายละเอียดในสัญญาทั้งหมด อย่างที่ตนเคยพูดไปแล้วว่าในวันที่ 30 ต.ค.นี้ เราจะได้เห็นสัญญา และสุดท้ายก็เกิดความสับสน

"ผมคิดว่าบริษัทเขาคำนึงถึงชื่อเสียง และประกอบกับสำคัญที่ว่าเขาติดคิว ไม่สามารถยกเลิกคิวเพื่อเอามาให้ประเทศไทยได้ สิ่งเหล่านี้ผมขอเรียนอย่างตรงไปตรงมา ส่วนอีกคนนึง คือแอนเดรีย โบเชลลี นักร้องชาวอิตาเลียน ผมก็ยังไม่ขอพูดว่าความชัดเจนคืออะไรในช่วงนี้ เพราะจากความผิดพลาดที่ผ่านมา เราได้รับบทเรียนว่าสิ่งไหนที่ยังไม่จบ อย่าเพิ่งพูดก่อน ซึ่งตัวผมยอมรับว่าได้ให้สัมภาษณ์ในเบื้องต้นไป หลังจากนี้เราคงต้องทำอะไรให้รอบคอบมากกว่าเดิม แต่ก็คงยังมีศิลปินชื่อดังระดับโลกเข้ามาแน่ ๆ แต่จะเป็นใคร อย่างไรนั้น ต้องขอให้มีการลงตัวเรียบร้อยเสียก่อน จึงจะนำเสนอต่อไป" นายพิพัฒน์ กล่าว

'ไชยันต์' ย้อนปมปริศนาเอนทรานซ์ปี 47 เปิดคะแนน 'อุ๊งอิ๊ง' พุ่งสูงมหัศจรรย์

'ไชยันต์' ย้อนปมปริศนาข้อสอบเอนทรานซ์ปี 47 รั่ว เปิดคะแนนสูงมหัศจรรย์ลูกสาวอดีตนายกฯ สร้างรอยด่างวงการศึกษาไทยครั้งใหญ่

ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า…

ปมปริศนาความไม่เสมอภาคและความอยุติธรรมทางการศึกษาในปี พ.ศ. 2547 กรณีข้อสอบ Entrance ปี 47 รั่ว

แพทองธาร คะแนนสูงมหัศจรรย์ เมื่อคะแนน Ent ครั้งนั้นออก ผลการสอบของลูกสาวนายกฯ เทียบกับครั้งแรกตะลึง ภาษาไทย จาก 52 เพิ่มเป็น 72, สังคม จาก 41.25 เพิ่มเป็น 67.5, ภาษาอังกฤษจาก 64 เพิ่มเป็น 84, คณิตศาสตร์ 2 จาก 27 เพิ่มเป็น 63

ศ.ร.ต.อ.วรเดช จันทรศร เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา เปิดซองต้นฉบับการ์ดข้อสอบ วิชาภาษาไทยและวิชาสังคมศึกษา ก่อนส่งให้คณะอนุกรรมการพิมพ์ข้อสอบ

ผลสรุปเอ็นทรานซ์รั่ว “ทักษิณ-อดิศัย” ต้องรับผิดชอบ (14 มิ.ย. 47) กรณีข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยเอ็นทรานซ์รั่วที่ปรากฏขึ้นในรัฐบาลชุดนั้นถือเป็นรอยด่างให้กับวงการศึกษาไทยครั้งใหญ่ ทำให้ความเชื่อมั่นศรัทธาต่อระบบการสอบเอ็นทรานซ์ที่เคยได้รับความเชื่อถือศรัทธามานานนับสิบปีต้องสั่นคลอนอย่างหนัก ทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายอดิศัย โพธารามิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ต่างยืนยันว่า “ข้อสอบไม่รั่ว” รวมทั้งแสดงพฤติกรรมปกป้องคนผิดมาตลอด

เมื่อคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงชุด นายสุเมธ ตันติเวชกุล เป็นประธาน มีข้อสรุปว่า “ข้อสอบรั่ว” ศูนย์วิจัยฯ พรรคประชาธิปัตย์ ขณะนั้น เห็นว่าเมื่อผลสรุปออกมาแบบนี้ ทั้งนายกฯ ทักษิณ และ รมต.อดิศัย ต้องแสดงรับผิดชอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผลสรุปคณะกรรมการสอบสวนฯ ตบหน้า “ทักษิณ-อดิศัย”

ก่อนหน้านี้เมื่อเกิดเหตุการณ์อื้อฉาว สังคมตั้งข้อสงสัยเรื่องข้อสอบเอ็นทรานซ์รั่ว เพราะมีการเปิดเผยพฤติกรรมของข้าราชการระดับสูงบางคน โดยเฉพาะ ร.ต.อ.วรเดช จันทรศร อดีตเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (ก.อ.) ว่าไม่โปร่งใส มีการเปิดดูข้อสอบหรือนำข้อสอบไปเก็บไว้ในห้องทำงาน ในครั้งนั้นบรรดานักเรียน ผู้ปกครองรวมทั้งประชาชนทั่วไปเกิดความสงสัยและเรียกร้องให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมาโดยเร็ว

แต่ปรากฏว่า ได้รับการขัดขวางทุกวิถีทางทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยเฉพาะนายกฯ ทักษิณ และรมต.อดิศัยต่างออกมาปฏิเสธ และเห็นว่าไม่จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแต่อย่างใด อีกทั้งในบางครั้งยังออกมาพูดในทำนองว่าเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นเป็นเกมการเมืองหรือมีบางกลุ่มต้องการสร้างกระแสเพื่อดิสเครดิตรัฐบาลเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อกระแสสังคมเริ่มกดดันขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้รัฐบาลทนฝืนกระแสต่อไปไม่ไหว ก็มีการย้าย ร.ต.อ.วรเดช ไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาการศึกษา แทนที่จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงให้คลายความสงสัยกับสังคม หรือยังมีการตกรางวัลความดีความชอบตามระเบียบสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เพิ่มให้อีก 2 ขั้น

ที่สุดแล้วเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้จึงต้องยอมแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และมีข้อสรุปในเวลาต่อมาว่า “ข้อสอบรั่ว” รวมทั้งยังระบุว่า การกระทำของ ร.ต.อ.วรเดช เป็นการไม่ถือปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ พ.ศ. 2544 ข้อ 30 เพราะในรายงานการสอบสวนยังชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนอีกว่า ร.ต.อ.วรเดช เป็นผู้เปิดดูซองข้อสอบและเปลี่ยนแปลงสถานที่เก็บข้อสอบถึงสองครั้ง

พฤติกรรมดังกล่าวของ ร.ต.อ.วรเดช ทางคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงยังระบุว่า มีมูลที่ควรกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัย ฐานปฏิบัติราชการไม่เป็นไปตามระเบียบของทางราชการและมติคณะรัฐมนตรี ไม่ปฏิบัติตามระเบียบและแบบธรรมเนียมของทางราชการตามมาตรา 85 และมาตรา 91 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 และมีมูลที่ควรกล่าวหาว่าประพฤติตนไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ ดังนั้น เมื่อรายงานผลการสอบสวนออกมาตรงกันข้ามกับท่าทีและคำยืนยันของผู้บริหารระดับสูงของรัฐบาล สังคมจึงต้องการรู้ว่า ทั้งสองคนดังกล่าวจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไรบ้าง

“อดิศัยท้าทายสังคม ‘ตัดตอน’ ผลสอบเอ็นทรานซ์รั่ว” หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า อะไรคือสาเหตุจูงใจให้ ร.ต.อ.วรเดช และ รมต.อดิศัย ถึงกล้าแสดงพฤติกรรมที่ท้าทายสังคมมาตลอด อย่างไรก็ดี ถ้าหากมองย้อนไปในอดีตแล้วก็สามารถเชื่อมโยงได้ทันทีจากคำพูดของนายกฯ ทักษิณ ที่เคยกล่าวว่า จะให้นายอดิศัยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีไปจนครบ 4 ปี ซึ่งถือว่าเป็นการประกันเก้าอี้กันไว้ล่วงหน้า ทำให้หลายฝ่ายเข้าใจนี่อาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ รมต.อดิศัย ไม่สนใจต่อสังคมมากนัก

ประกอบกับเวลานี้สิ่งที่สังคมยังตั้งข้อสงสัยและไม่พอใจคือ ความพยายามในการบิดเบือนข้อสรุปของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงจาก นายอดิศัย โพธารามิก ที่เคยออกมาแถลงรายงานผลการสอบสวนเพียงบางส่วนโดยสรุปเหลือเพียง 2 หน้า จากจำนวนทั้งหมด 15 หน้า

สมอ. รุกตลาดสดปทุมธานี จับมือภาคีเครือข่ายเซ็น MoU นำร่องขายสินค้า มอก. ตั้งเป้าขยายผลให้ครอบคลุมทั่วประเทศเร็วๆ นี้ 

สมอ. จับมือภาคีเครือข่ายตลาดสดน่าซื้อจังหวัดปทุมธานี 37 แห่ง นำร่องขายสินค้าได้มาตรฐาน มอก. เตรียมขยายผลต่อเนื่องให้ครอบคลุมทั่วประเทศเร็วๆ นี้ สร้างการรับรู้ให้ประชาชนและร้านจำหน่าย ตระหนักถึงความสำคัญของการเลือกซื้อและจำหน่ายสินค้าที่ได้มาตรฐาน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนอย่างยั่งยืน

นายสุริยะ  จึงรุ่งเรืองกิจ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า นอกจากภารกิจด้านการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมให้สูงขึ้นแล้ว  กระทรวงอุตสาหกรรมยังมีภารกิจด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญในการคุ้มครองประชาชนให้ปลอดภัยจากการใช้สินค้าที่ได้มาตรฐาน โดยมีสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบและกำกับดูแล ทั้งการดำเนินงานด้านการมาตรฐานระดับประเทศ และระหว่างประเทศ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทยในเวทีการค้าโลก

นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวเพิ่มเติมว่า สมอ. ได้ส่งเสริมความรู้ด้านการมาตรฐานแก่ทุกภาคส่วนมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งภาคอุตสาหกรรม ภาครัฐ และประชาชน เพื่อสร้างการรับรู้และสร้างความตระหนักในความสำคัญของการมาตรฐาน ควบคู่ไปกับการควบคุมและกำกับติดตามการจำหน่ายสินค้าในท้องตลาดให้มีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐาน ล่าสุด สมอ. ได้ลงพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เพื่อหารือแนวทางร่วมกับภาคีเครือข่ายตลาดสดน่าซื้อ ในการร่วมมือกันให้ร้านค้ารายย่อยภายในตลาดทุกแห่งในจังหวัดปทุมธานี มีความรู้ความเข้าใจในการจำหน่ายสินค้าที่ได้มาตรฐาน และถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดการกระทำความผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์  โดยนำร่องที่จังหวัดปทุมธานีเป็นจังหวัดแรก

เนื่องจากเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ มีตลาดค้าปลีก-ค้าส่ง มากถึง 37 แห่ง ซึ่งตลาดเหล่านี้มีร้านค้าขนาดเล็ก เช่น ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ร้านวัสดุก่อสร้าง และร้านค้าทุกอย่าง 20 บาท กระจายอยู่โดยรอบ ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าได้โดยง่าย และสะดวก ประกอบกับสินค้ามีราคาถูก จึงทำให้ร้านค้าในลักษณะนี้เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย และโดยส่วนใหญ่ร้านค้าเหล่านี้จะขายสินค้าที่ สมอ. ควบคุม เช่น  วัสดุก่อสร้าง  ก๊อกน้ำ  ฝักบัว  พัดลม หม้อหุงข้าว  เตาปิ้งย่าง กระทะไฟฟ้า หม้ออบลมร้อน  ไฟแช็ก ไดร์เป่าผม  ที่หนีบผม  ของเด็กเล่น พาวเวอร์แบงค์  อะแด็ปเตอร์  ปลั๊กพ่วง  หลอดไฟ  สปอตไลท์  หลอดไฟแอลอีดี ถ่านไฟฉาย  ท่อน้ำดื่ม  ภาชนะจานชามเมลามีน ผงซักฟอก ไม้ขีดไฟ ไฟแช็คก๊าซ หัวนมยางดูดเล่น ฟิล์มยืดหุ้มห่ออาหาร แอลกอฮอล์แข็งสำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิง และสีเทียน เป็นต้น

 

ธพว. ร่วมพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานกระทรวงอุตสาหกรรม

นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานกรรมการ นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เข้าร่วมพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน กระทรวงอุตสาหกรรม ประจำปี 2564 โดยมี นายธีระยุทธ วานิชชัง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานในพิธี พร้อมมอบทุนการศึกษาแก่ โรงเรียนวัดสร้อยทอง และ โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดสร้อยทอง นอกจากนี้ ภายในพิธียังมีคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และพนักงาน กระทรวงอุตสาหกรรม หน่วยงานในสังกัด ตลอดจนประชาชนผู้มีจิตศรัทธาเข้าร่วมพิธีดังกล่าวฯ ณ วัดสร้อยทอง กรุงเทพมหานคร 

ห้ามพลาด!! คลังเปิดเก็บตกคนละครึ่ง 1 แสนสิทธิ เริ่ม 1 พ.ย.นี้

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ กระทรวงการคลังได้ประมวลผลผู้ที่ลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ซึ่งจากข้อมูล ณ วันที่ 25 ต.ค.2564 มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ เต็มจำนวน 28 ล้านสิทธิแล้ว แต่มีผู้ที่ลงทะเบียนไม่สำเร็จ มีจำนวน 119,974 ซึ่งจะนำสิทธิที่เหลือมาเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการอีกครั้งในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ตั้งแต่เวลา 06.00 – 22.00 น. ของทุกวันจนกว่าจะครบ 28 ล้านสิทธิ ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือผ่าน g-Wallet บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง 

สำหรับประชาชนที่ได้เข้าร่วมโครงการอยู่แล้ว จะมีการเพิ่มวงเงินสนับสนุนรัฐร่วมจ่าย รอบที่ 3 จำนวน 1,500 บาทต่อคน ในวันที่ 1 พ.ย.2564 ซึ่งวงเงินสนับสนุนเพิ่มเติมดังกล่าวจะได้รับโดยอัติโนมัติ และสำหรับผู้ที่ได้รับสิทธิโครงการตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2564 จะได้รับวงเงินสนับสนุนรัฐร่วมจ่ายทั้งสิ้น 4,500 บาทต่อคน ทั้งนี้ ประชาชนสามารถใช้จ่ายในโครงการได้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2564

‘รุ้ง ปนัสยา’ นำทีมยื่นฟ้องนากยฯ - ผบ.ทสส. พร้อมขอเลิกพรก.ฉุกเฉิน - ให้คุ้มครองม็อบ 31 ต.ค.

วันนี้ (29 ต.ค.) ที่ ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก นางสาว ปนัสยา สิทธิจิราวัฒนกุล หรือ ‘รุ้ง’ และ นายเสกสิทธิ์ แย้มสงวน พร้อมทนาย ได้เข้ายื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กรณีออกข้อกำหนดและประกาศจำกัดสิทธิเสรีภาพการชุมนุม พร้อมทั้งยื่นขอไต่สวนฉุกเฉิน ขอคุ้มครองชั่วคราว ‘ม็อบ 31 ตุลาคม’ 

โดย นางสาว ปนัสยา กล่าวว่า วันนี้มาขอให้ศาลรับคำร้องและขออนุญาตให้ไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อออกคำสั่งคุ้มครอง ในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ที่จะมีการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ วันนี้มาฟ้องพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา และพลเอกเฉลิมพงษ์ เพราะเราต้องการจะรับฟังเหตุผลของเราในฐานะประชาชนที่จะออกมาใช้สิทธิเสรีภาพที่จะแสดงออกทางการเมือง แต่ว่าตลอดมานั้น เราประกาศจะชุมนุม อย่างสงบสันติ ในทุก ๆ ครั้งจะมีการขัดขวางอยู่เสมอ 

โดยการขัดขวางไม่ได้ถูกรับรองโดยทางกฎหมาย เช่น การใช้ลวดหนาม การใช้ตู้คอนเทนเนอร์ ไม่มีการบัญญัติไว้ในสิ่งของที่ใช้ได้ในพรก.ฉุกเฉิน ในเมื่ออีก 3 วันจะมีการเปิดประเทศแล้วทำไมถึงยังมีการห้ามการชุมนุม เพราะการเปิดประเทศแล้วจะมีการรวมตัวกันทั้งประเทศ โดยที่คนทั่วไปออกมาใช้ชีวิตกันอย่างปกติ เราจึงคิดว่าพรก.ฉุกเฉินไม่มีเหตุจำเป็นอีกต่อไป วันนี้เราคาดหวังจริง ๆ ว่ากระบวนการยุติธรรม จะเป็นการยุติธรรมกับประชาชนจริง ๆ

เชียงใหม่ - สร้างสีสันวัฒนธรรมม หกรรมวิถีล้านนา “งานประเพณีปอยออกหว่า โคมไฟแม่วาง”

กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ประกอบด้วย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปางและแม่ฮ่องสอน โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับเทศบาลตำบลแม่วาง วัดจำลอง ตลอดจนพุทธศาสนิกชน คณะศรัทธาวัดจำลอง  จัดกิจกรรม“งานประเพณีปอยออกหว่า โคมไฟแม่วาง”กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวประเพณีท้องถิ่นวิถีล้านนา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 โดยมีนายพีระศักดิ์ ธีรบดี นายอำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานพิธีเปิด พร้อมด้วย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ ,ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูน แขกผู้มีเกียรติร่วมงาน ณ วัดจำลอง อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่

นายพีระศักดิ์ ธีรบดี นายอำเภอแม่วาง กล่าวว่า งานสีสันวัฒนธรรมมหกรรมวิถีล้านนา “งานประเพณีปอยออกหว่า โคมไฟแม่วาง” ประจำปี 2564 คณะศรัทธาพุทธศาสนิกชน ที่เข้าร่วมในการจัดงาน ร่วมแสดงตนเป็นชาวพุทธศาสนิกชน  ผู้มีความเลื่อมใส  ในองค์สมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า การที่ทุกท่านได้มาร่วมกระทำกิจกรรมงานบุญออกหว่าในวันนี้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ชาวพุทธ ควรจะต้องยึดถือและปฏิบัติให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่อนุชนรุ่นหลัง ถือเป็นโอกาสที่ดียิ่ง ที่จะได้แสดงตนให้เข้าถึงแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา

พระพุทธศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ หากชาวพุทธทุกคนได้มีโอกาสทำกิจกรรมทางศาสนาร่วมกันแล้ว ก็ถือได้ว่า เป็นการแสดงตน เพื่อเป็นชาวพุทธมามกะที่ดี จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พุทธศาสนิกชนที่เข้าร่วมกิจกรรม จะได้รับผลบุญอานิสงส์ในการกระทำของตนเอง ส่งผลให้มีความเจริญผาสุข ต่อตนเอง ต่อครอบครัว ต่อสังคมและประเทศชาติ อย่างเจริญมั่นคงสืบไป

นางประทุม ปิยะพันธ์โอภาส นายกเทศมนตรีตำบลแม่วาง กล่าวว่าเทศบาลตำบลแม่วาง ร่วมกับวัดจำลอง ตลอดจนพุทธศาสนิกชน คณะศรัทธาวัดจำลอง  นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 อันประกอบด้วยจังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปางและลำพูน หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมจัดกิจกรรมงานสีสันวัฒนธรรมมหกรรมวิถีล้านนา “งานประเพณีปอยออกหว่า โคมไฟแม่วาง” โดยได้กำหนดจัดกิจกรรมขึ้น ระหว่างวันที่ 22 - 24  ตุลาคม 2564 โดยมีวัตถุประสงค์

1. เพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น ทางพระพุทธ ศาสนาให้คงอยู่สืบไป

2. เพื่อเป็นการส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่าได้ยึดถือ ปฏิบัติตามศีลธรรมจารีตประเพณีอันดีงาม 

3. เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเผยแพร่วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชาวไทยใหญ่

4. เพื่อให้หน่วยงานองค์กรต่าง ๆ ได้ตระหนักถึงความสำคัญและร่วมกันส่งเสริมอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่น

'พรรคกล้า' เดินหน้าตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัด  “อรรถวิชช์” ยัน จ.ขอนแก่น ไม่ได้เป็นของพรรคใดพรรคหนึ่ง ประกาศหาผู้สมัครส่งครบ 11 เขต เดินหน้าปักหมุดภาคอีสาน ตั้งธงส่งผู้สมัครครบ 400 เขตทั่วประเทศ 

ที่จ.ขอนแก่น นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวถึงการลงพื้นที่ จัดตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดอีก 2 เขต คือเขต 1 อ.เมือง และเขต 2 อ.ซำสูง จ.ขอนแก่น ว่า ได้รับการต้อนรับจากประชาชนอย่างอบอุ่น และจังหวัดขอนแก่นไม่ได้เป็นพื้นที่ของพรรคใดพรรคหนึ่ง แม้พรรคกล้าเป็นพรรคน้องใหม่ แต่ตัดสินใจเดินทางมาขอนแก่นครั้งนี้ ได้จัดตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดได้หลายเขตแล้ว ยืนยันว่าพรรคกล้าจะส่งผู้สมัครให้ครบทั้ง 11 เขตในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งขณะนี้ได้ผู้สมัครหลายเขตแล้วแต่ยังไม่ครบถ้วน หากท่านใดมีความสนใจก็อยากเชิญชวนให้สมัครสมาชิก โดยพรรคกำลังคัดสรรคนที่มีความชำนาญเฉพาะด้านในพื้นที่ อย่างภาคการเกษตร การปลูกข้าว การจัดการน้ำ ส่วนพื้นที่ อ.เมืองเขต 1 ก็มีผู้เสนอตัวมา แต่จะมีการเลือกอีกครั้ง โดยจะมีการทำไพรมารี่ขึ้นมาแข่งขันกัน เพราะเป็นพื้นที่สำคัญที่มีมหาวิทยาลัย เป็นเมืองศูนย์กลางอินโดจีน ซึ่งอีก 3 สัปดาห์ พรรคก็จะกลับมาทำกิจกรรมในพื้นที่อีกครั้ง

เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวต่อว่า ส่วนภาพรวมความพร้อมในพื้นที่ภาคอีสานนั้น  พรรคกล้ามีเป้าหมายส่งผู้สมัครให้ครบในภาคอีสาน และครบทั้ง 400 เขตเลือกตั้งทั่วประเทศ ไม่ว่าระบบเลือกตั้งจะเป็นแบบไหนพรรคกล้าพร้อมสู้เสมอ และเชื่อว่าหลักความเป็นพรรคเศรษฐกิจ การทำประเทศให้ทันสมัยด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ เข้าใจประสบการณ์ รวบรวมคนที่มีความรู้ความชำนาญเฉพาะด้านมาอยู่ด้วยกัน ไม่ผูกขาดไปที่นักการเมือง แต่ใช้บุคคลจากประสบการณ์สาขาอีกชีพ มีความหมายกับพรรคมากในการทำประเทศให้ทันสมัยขึ้น

สมุทรปราการ - ‘ตู่ นันทิดา' อบจ.สมุทรปราการ มอบชุดตรวจเชื้อโควิด-19 (ATK) แก่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ

ที่ห้องประชุมชั้น 2 ศาลาประชาคม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ นางสาวนันทิดา แก้วบัวสาย นายก อบจ.สมุทรปราการ เป็นประธานมอบชุดตรวจเชื้อโควิด-19 (ATK) ให้กับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ โดยมี นพ.นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ เป็นตัวแทนรับมอบ เพื่อดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุกด้วยชุดตรวจ ATK ให้กับประชาชน 150,000 ชุด และ พิธีมอบเสื้อสนับสนุนกิจการ อสม.จังหวัดสมุทรปราการ

โดย น.ส.นันทิดา แก้วบัวสาย นายกอบจ. เป็นตัวแทนนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ ที่ใช้เงินส่วนตัว เพื่อนำเสื้อและหมวกเพื่อสนับสนุน อสม.ของจังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 8,000 ชุด โดยมี ดร.พิริยะ โตสกุลวงศ์ นายสมลักษณ์ ควรสงวน รองนายก อบจ.สมุทรปราการ นางสาวชนม์ทิดา อัศวเหม ดร.รัชชานนท์ ทองอร่าม เลขานุการนายก อบจ.สมุทรปราการ และสมาชิกสภา อบจ.สมุทรปราการ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จังหวัดสมุทรปราการ เข้าร่วมพิธี

 

‘บิ๊กตู่’ ขาอ่อน เดินสะดุดโพเดียมหน้าคะมำ โหมงานจนอ่อนแรง ประชุมอาเซียน 3 วันติด

'บิ๊กตู่' เดินสะดุดโพเดียมหน้าคะมำ ก่อนแถลง ศบค. บอกไม่ค่อยมีแรง หลังประชุมอาเซียน 3 วันติด วอนผู้ชุมนุมหยุดป่วน หวั่นเปิดประเทศแล้วต่างชาติไม่มา

29 ต.ค. 64 - ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 17/2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้หารือเป็นการส่วนตัวกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่ห้องสีเหลือง ตึกสันติไมตรี ประมาณ 10 นาที

ขณะที่ช่วงเวลาเดียวกัน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กรรมการบริหารพรรค นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ได้ยืนพูดคุยกันที่บริเวณห้องโถง ตึกสันติไมตรี ประมาณ 5 นาที ก่อนที่นายพีระพันธุ์ จะเดินเข้าไป ที่ห้องสีเหลือง ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.อนุพงษ์ พูดคุยกันอยู่

จากนั้นเวลา 13.10 น. พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินไปที่โพเดียมเพื่อแถลงข่าว แต่ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ ได้สะดุดพื้นเวทีที่ยกระดับขึ้น และเซถึงสองครั้ง ก่อนยืนตั้งหลักได้และมีสีหน้าเสียเล็กน้อย ก่อนกล่าวกับสื่อมวลชนแก้เขินว่า “เห็นไหมว่าเวลาอยู่ต่อหน้าสื่อรู้สึกจะกดดันมากไปหน่อย พอดีว่าไม่ค่อยมีแรง ประชุมมา 3 วันติด ๆ เดี๋ยวถ้าพรุ่งนี้ใครเอารูปฉันหกล้มไปเมื่อกี้ล่ะก็ มีเรื่องนะ เอาเรื่องที่เป็นสาระ”

จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ได้แถลงผลการประชุมศบค. โดยระบุว่า ตามที่ประกาศให้วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นวันเปิดประเทศ ต้อนรับชาวต่างชาติ 46 ประเทศ เข้ามาทางอากาศโดยไม่ต้องกักตัว ซึ่งความร่วมมือที่อยากจะได้จากประชาชนทุกคน ประกอบด้วย 

1.) ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันระมัดระวังใช้มาตรการทางสาธารณสุขอย่างเต็มที่ ข้อสำคัญต้องมีวินัยในตัวเอง ไม่เป็นผู้แพร่เชื้อ 

2.) มาตรการเดินทางเข้าประเทศเส้นทางอื่น ทางบก ทางน้ำต้องกักตัวเหมือนเดิม

“ส่วนการค้าขายชายแดน ผมให้นโยบายไปยังกระทรวงมหาดไทยและผู้ว่าราชการจังหวัดให้ทยอยเปิดจุดผ่านแดนซื้อขายสินค้า แต่ต้องเป็นพื้นที่ปลอดภัย มีมาตรการส่งสินค้าระหว่างกัน เพื่อไม่ให้แพร่เชื้อ 

3.) บุคลากรทางการแพทย์ เราต้องมีแผนเผชิญเหตุ เตรียมโรงพยาบาลสนามและพื้นที่กักตัว ต้องมีความพร้อมเช่นเดิม เพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจรุนแรง” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนยา ได้สั่งจองยาโมลนูพิราเวียร์ไปแล้ว รวมทั้งเร่งรัดสกัดยาจากสมุนไพรไทยชนิดอื่น ๆ นอกจากยาฟ้าทะลายโจร 

4.) เมื่อประกาศเปิดรับนักท่องเที่ยว คงไม่ได้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาทันที เพราะแต่ละประเทศต้องประเมินวางแผนให้คนของเขาออกมานอกประเทศเหมือนกัน แต่การประกาศล่วงหน้าของเรามีประโยชน์ จะทำให้นักท่องเที่ยวและประเทศต่าง ๆ ได้วางแผน เตรียมการ จึงทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแรก ๆ ที่เขาจะพิจารณาเดินทางในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นของเรา


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top