‘พิพัฒน์’ รับผิด ปมชวดดึง ‘ลิซ่า’ มาเคาท์ดาวน์ ยอมรับสื่อสารผิดพลาด รีบพูดก่อนดีลจบ

"พิพัฒน์" ยืดอกรับผิดปมชวดดึง "ลิซ่า" มาเคาท์ดาวน์ในไทย ยอมรับสื่อสารผิดพลาด รีบพูดก่อน พร้อมนำมาเป็นบทเรียน เดินหน้าชวนคนดังระดับโลกมาร่วมงาน

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 29 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวกรณีที่ "ลิซ่า แบล็คพิงก์" หรือ ลลิษา มโนบาล ไม่สามารถมาร่วมกิจกรรมเคาท์ดาวน์ปีใหม่ที่ประเทศไทยได้ มีสาเหตุเป็นเพราะฝ่ายไทยต้องการจ้างเพียงคนเดียว แต่ทางต้นสังกัดต้องการให้มาทั้งวง ว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง และไม่ใช่ข้อเท็จจริง รวมถึงกระแสข่าวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอาจไม่ใช่ข้อเท็จจริงทุกเรื่อง อย่างกรณี เชอรี่ โคลว์ และลิซ่า เรื่องแยกแพ็กเกจหรือไม่แยกนั้นไม่มีความจริง ถ้าแยกแล้วไม่มา แต่ถ้าไม่แยกแล้วไม่มา สิ่งเหล่านี้เป็นการสื่อสารที่ผิดพลาดของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่มีการสื่อสารออกไปในเบื้องต้น ขณะที่เรายังไม่เห็นรายละเอียดในสัญญาทั้งหมด อย่างที่ตนเคยพูดไปแล้วว่าในวันที่ 30 ต.ค.นี้ เราจะได้เห็นสัญญา และสุดท้ายก็เกิดความสับสน

"ผมคิดว่าบริษัทเขาคำนึงถึงชื่อเสียง และประกอบกับสำคัญที่ว่าเขาติดคิว ไม่สามารถยกเลิกคิวเพื่อเอามาให้ประเทศไทยได้ สิ่งเหล่านี้ผมขอเรียนอย่างตรงไปตรงมา ส่วนอีกคนนึง คือแอนเดรีย โบเชลลี นักร้องชาวอิตาเลียน ผมก็ยังไม่ขอพูดว่าความชัดเจนคืออะไรในช่วงนี้ เพราะจากความผิดพลาดที่ผ่านมา เราได้รับบทเรียนว่าสิ่งไหนที่ยังไม่จบ อย่าเพิ่งพูดก่อน ซึ่งตัวผมยอมรับว่าได้ให้สัมภาษณ์ในเบื้องต้นไป หลังจากนี้เราคงต้องทำอะไรให้รอบคอบมากกว่าเดิม แต่ก็คงยังมีศิลปินชื่อดังระดับโลกเข้ามาแน่ ๆ แต่จะเป็นใคร อย่างไรนั้น ต้องขอให้มีการลงตัวเรียบร้อยเสียก่อน จึงจะนำเสนอต่อไป" นายพิพัฒน์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าจำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องนี้เพื่อหาผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้หรือไม่ หลังจากเกิดข้อผิดพลาดนี้เกิดขึ้น นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ต้องหารือกันภายในกระทรวงฯ ก่อน และตนต้องหารือกับผู้ใหญ่ในพรรคภูมิใจไทยและนายกรัฐมนตรี ว่าเมื่อเหตุการณ์เกิดมาถึงตรงนี้แล้ว เราควรต้องทำอย่างไร ซึ่งตนมีผู้บังคับบัญชา 2 คน คือนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม คงต้องหารือก่อน ส่วนจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบใครหรือไม่สอบใครนั้น คงต้องคำนึงหลายอย่าง เนื่องจากมีภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมด้วย ซึ่งเราคงไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับภาคเอกชนได้ จึงจำเป็นต้องดูกันภายในก่อนว่าพวกเราจะจัดการกันอย่างไร ทั้งนี้ถือเป็นบทเรียนอีกบทหนึ่งสำหรับทุกอย่าง หากยังไม่จบ ก็ไม่ควรก็ไม่ควรนำออกมาพูดก่อน

"ซึ่งตัวผมเองก็เป็นส่วนหนึ่งในนั้น ไม่ใช่ว่าผมไม่ได้พูด แต่ตัวผมเองก็พูดออกไปเยอะ เพราะฉะนั้นความผิดพลาดตรงนี้ ตัวผมเองก็ต้องยอมรับตัวผมเองก็ต้องยอมรับ" นายพิพัฒน์ กล่าว

เมื่อถามย้ำว่านายกรัฐมนตรีระบุว่ายังจะพิจารณาจ้างบุคคลที่มีชื่อเสียงมาร่วมงานเคาท์ดาวน์ที่ประเทศไทยอยู่ นายพิพัฒน์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกำชับตลอดเวลาว่าไม่ว่าจะจัดงานอะไรที่ไหนอย่างไร ขอให้มีศิลปินไทยร่วมอยู่ด้วยทุกงานและนายกรัฐมนตรีได้มีบัญชาลงมาแล้วว่าให้มีการจัดงานเคาท์ดาวน์ โดยมีการแสดงของ 5 ภาคของประเทศไทยรวมอยู่ด้วย ทั้งภาคอีสาน ภาคใต้ ภาคตะวันตก ภาคตะวันออก และภาคเหนือ  ซึ่งผมได้หารือกับการท่องเที่ยวแล้ว น้อมรับคำบัญชาของนายกรัฐมนตรีรับไปดำเนินการ โดยจะนำศิลปินไทย โดยเฉพาะศิลปินพื้นบ้าน มาทำการแสดง และอาจจะ ต่างชาติมีศิลปินระดับต่างชาติมาร่วมแสดงด้วย ขอทำความเข้าใจ และเมื่อมีความชัดเจน แล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง