Sunday, 15 June 2025
NewsFeed

‘บิ๊กป้อม’ ลั่นศึกภายในพรรคพลังประชารัฐเรียบร้อยดี ระบุ ‘นายกฯ’ บอกแล้วไม่ปรับครม.

วันที่ 7 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงสถานการณ์ภายในพรรคพปชร. ว่า ในพรรคเรียบร้อยดี ไม่มีอะไร ผู้สื่อข่าวถามกรณีของร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และฐานะเลขาธิการพรรค ที่เคลื่อนไหวก่อนหน้านั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็เรียบร้อยดี 

เมื่อถามย้ำว่าอนาคตร.อ.ธรรมนัส ในรัฐบาลจะเป็นอย่างไร "เรียบร้อย ๆ" รองนายกฯ กล่าวว่า "นายกฯบอกแล้วไงไม่มีปรับคณะรัฐมนตรี"

‘คุณสมบัติ’ ประธานกลุ่ม อินเตอร์ลิ้งค์ฯ จัดสัมมนา PoE "Power Over Ethernet" พร้อมทีมวิทยากรชั้นนำมาเจาะลึกเทคโนโลยี PoE

คุณสมบัติ อนันตรัมพร ประธาน กลุ่ม อินเตอร์ลิ้งค์ฯ จัดงานสัมมนา PoE "Power Over Ethernet" เทคโนโลยีการส่งไฟฟ้าในสายสัญญาณสำหรับงานภายในอาคารและภายนอกอาคาร

พร้อมนำทีมวิทยากรชั้นนำมาเจาะลึกเทคโนโลยี PoE ที่จะเข้ามาช่วยให้การเชื่อมต่อระบบของลูกค้าเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น โดยงานสัมมนาครั้งนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้ากลุ่มผู้บริหารไอที จากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนทั่วประเทศกว่า 350 คน

???? LIVE จากสนง.ใหญ่ อินเตอร์ลิ้งค์ กรุงเทพฯ

ผู้ว่าฯ สงขลา มอบโล่เกียรติคุณ แก่น้องสไปรท์ นักเรียนโรงเรียนนานาชาติบลูมส์เบอรี่ หาดใหญ่ ที่คว้าเหรียญทอง จากการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ครั้งที่ 62 ประจำปี 2564 (IMO 2021)

ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา มอบโล่เกียรติคุณแก่เด็กชายพิพิชชญะ ศรีดำ หรือน้องสไปรท์ นักเรียนจากโรงเรียนนานาชาติบลูมส์เบอรี่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่ได้รับเหรียญทองในการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ครั้งที่ 62 ประจำปี 2564 (IMO 2021) ซึ่งเป็นการแข่งขันผ่านระบบออนไลน์จากประเทศไทย โดยมีสหพันธรัฐรัสเซียเป็นประเทศเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 14–24 กรกฎาคม 2564 



สำหรับการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้มีเยาวชนกว่า 619 คน จาก 107 ประเทศเข้าร่วมแข่งขัน ข้อสอบประกอบไปด้วยคำถาม 6 ข้อที่ถูกเลือกมาจากเนื้อหาคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาหลายสาขา ผู้เข้าแข่งขันจะต้องหาคำตอบและแสดงวิธีทำ โดยแต่ละคำถามมีคะแนนเต็ม 7 คะแนน ผู้เข้าแข่งขันต้องทำคะแนนรวมให้ได้ 24, 19 และ 12 คะแนนจากคะแนนเต็ม 42 คะแนน จึงจะได้เหรียญทอง, เงิน และทองแดงตามลำดับ



ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้กล่าวชื่นชม และแสดงความยินดีกับน้องสไปรท์ อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นมัธยมต้น Year 9 ของโรงเรียนนานาชาติบลูมส์เบอรี่ หาดใหญ่ ที่เป็นตัวแทนนักเรียนไทย 1 ใน 6 คน เข้าร่วมแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิก ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของพี่น้องชาวสงขลาทุกคน เพราะเป็นนักเรียนชั้นมัธยมต้นในต่างจังหวัดเพียงคนเดียวของประเทศไทย ที่ผ่านเข้าไปแข่งขันกับนักเรียนมัธยมปลาย จนได้รับการคัดเลือกให้เป็นตัวแทนประเทศไทยในการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกระดับนานาชาติ ครั้งที่ 62 ผ่านระบบออนไลน์ และได้รับคะแนนสูงสุด สามารถคว้าเหรียญทองได้เพียงคนเดียวของทีม


 

'กรณ์' พรรคกล้า คว้า 'สมคิด จิรานันตรัตน์' ผู้ปั้นแอป 'เป๋าตัง' ร่วมงาน หลังแนวคิด 'เศรษฐกิจดิจิทัล' ลงตัว

น่าจับตามองอย่างมาก เมื่อพรรคกล้าได้มือดีอย่าง 'เชาว์-สมคิด จิรานันตรัตน์' เข้ามาร่วมทัพ โดย คุณกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊ก ระบุว่า... 

คนที่คิดจะแก้ปัญหา และพัฒนาบ้านเมือง 
ต้องมีครบทั้งความตั้งใจ ความรู้ และความกล้า

วันนี้อีกปัจจัยสำคัญที่ขาดไม่ได้ คือความเข้าใจเรื่อง ‘เทคโนโลยี’ ทั้งในมุมลึกและกว้าง จนสามารถนำมาเป็นเครื่องมือในการพัฒนา และแก้ปัญหาประเทศ และช่วยเหลือประชาชนได้จริง

พรรคกล้า - KLA Party เห็นว่ากุญแจสำคัญสู่การปลดล็อกปมปัญหาของประเทศคือ ‘เทคโนโลยี’ ไม่ว่าจะเป็น... 

1.) เทคโนโลยีที่จะมาสร้างระบบราชการให้ทุจริตยากขึ้น โปร่งใสตรวจสอบได้ 

2.) ทำให้เรามีระบบการเงินที่เข้าถึงได้ด้วยดอกเบี้ยที่เป็นธรรม

3.) เทคโนโลยีที่จะช่วยให้เกษตรกรลดต้นทุนการผลิต และขายตรงถึงผู้บริโภคได้

คีย์แมนสำคัญคนหนึ่งที่มาร่วมทีมกับเราในเรื่องนี้คือ ‘พี่เชาว์-สมคิด จิรานันตรัตน์’ Chao Jiranuntarat ผู้ก่อตั้ง settrade.com ทำระบบหลักทรัพย์ในโลกออนไลน์ ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย ผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนาแพลตฟอร์ม Digital ต่าง ๆ ของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นพร้อมเพย์สู่แอป “เป๋าตัง” และ K-Plus ผู้พลิกโฉมครั้งใหญ่ให้ธนาคารกสิกรไทย

‘พี่เชาว์' เข้าใจปัญหาและได้ทำจริงจนมั่นใจว่า "เทคโนโลยีจะเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาของประเทศไทยได้ ทั้งระบบเศรษฐกิจที่ไม่เอื้อต่อการลงทุน และกับดักระบบราชการที่ตามโลกไม่ทัน" เจาะลึกลงไปก็จะพบความวิกฤตระบบการศึกษา ข้อบกพร่องระบบสาธารณสุข ปัญหาสังคม เศรษฐกิจปากท้อง และสิ่งแวดล้อมอีกมากมาย

ถ้าเรายังอยู่กันแบบเดิม การเมืองก็ ‘เล่น’ กันไปแบบเดิม ๆ คนไทยจะลำบาก ประเทศไทยจะไม่มีที่ยืน เราจะไม่มีบทบาทสำคัญในระบบเศรษฐกิจของโลก คุณภาพชีวิตคนไทยจะมีแต่แย่ลง

ด้วยความมุ่งมั่นที่ผมตั้งใจสร้างพรรคการเมืองแห่งแพลตฟอร์ม นำ “เทคโนโลยี” เข้ามาแก้ไขปัญหาหลักของประชาชน ผมเชิญ “พี่เชาว์” เข้ามามีบทบาทสำคัญเป็น "ที่ปรึกษานโยบาย ด้านเทคโนโลยีเพื่อเศรษฐกิจดิจิทัล" ช่วยร่างนโยบายให้เป็นกระบวนการทำงานสำคัญที่ตอบโจทย์ประเทศไทย รัฐต้องบริหารราชการแผ่นดินด้วยสิ่งที่เรียกว่า #GovTech ให้ก้าวทันโลก ทันสมัย และที่สำคัญคือ ต้อง ‘ทำได้จริง’ ! 

ผมมั่นใจว่า ชุดนโยบายของ “พรรคกล้า” เป็นนโยบายที่แตกต่างจากทุกนโยบายของพรรคการเมืองที่เคยมีมาก่อน

ผมดีใจ และภูมิใจที่พรรคกล้ามาถึงวันที่เราได้รวบรวมคนเก่ง คนมีของ ที่มีความตั้งใจ ความรู้ และความกล้ามาช่วยกันสร้างโอกาสใหม่ให้กับประเทศไทย เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนไทย

ด้าน คุณสมคิด จิรานันตรัตน์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับการเข้าร่วมพรรคกล้าในครั้งนี้ด้วยว่า... 

ที่ผ่านมาผมไม่เคยคิดเล่นการเมือง เห็นว่าควรอยู่ห่างการมืองมากที่สุด แต่ปัจจุบันปัญหาบ้านเมืองมีมากเหลือเกิน และอนาคตที่จะเปลี่ยนไปในโลกใบที่ไม่เหมือนเดิม ทำให้ผมไม่ลังเลที่จะขอมีส่วนช่วยคิด ช่วยทำ ในหลาย ๆ เรื่องที่กำลังคิดและทำอยู่ 

เมื่อพรรคกล้าให้ความสำคัญกับเรื่องเทคโนโลยีมาก และคุณกรณ์ ก็มาชวนให้ผมออกความเห็นหลายครั้ง จนมีความคิดที่ตรงกันว่า เทคโนโลยีที่ออกแบบมาดี ใช้ให้เหมาะ มีโอกาสอย่างมากที่จะแก้ปัญหาใหญ่ ๆ ของประเทศไทยได้ เตรียมความพร้อมให้รุ่นลูกรุ่นหลาน สร้างโอกาสให้คนตัวเล็ก รวมถึง Startups และเกษตรกรด้วย 

แต่การจะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จจะต้องเกิดความร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงภาคประชาชนด้วย บางครั้งเรื่องที่จะทำได้ กลับทำไม่ได้ เสียโอกาสไปมากมาย เพราะเราขาดการทำความเข้าใจกัน 

แม้ประเทศไทยจะไม่ได้มีชื่อเสียงด้านเทคโนโลยี เมื่อเทียบกับประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศจีน หรือสิงคโปร์ แต่เรามีคนเก่ง ๆ มากพอ และผมได้เคยทำงานร่วมและสัมผัสคนเก่งเหล่านี้มาแล้วมากมาย โดยเฉพาะคนไทยเก่ง ๆ ที่ทำงานอยู่ต่างประเทศ 

ผมจึงมีความเชื่อว่าประเทศเปลี่ยนได้ หากเราร่วมมือกัน พร้อมใจกัน และวันนี้พรรคกล้าได้เสนอโอกาสให้ผมเสนอความคิดได้อย่างเต็มที่เพื่อให้นโยบายพรรคกล้าตอบโจทย์ของอนาคตประเทศได้ดีที่สุด และสามารถปฏิบัติได้ 

ซึ่งผมมีความเชื่อว่าสิ่งที่เสนอปฏิบัติได้จริง เพราะเชื่อในความสามารถของคนไทยที่ยังไม่ได้ใช้อย่างเต็มที่ และทุกเรื่องที่เสนอไม่ได้เป็นเรื่องเลื่อนลอย เพราะได้คิดเรื่องเหล่านี้มาเป็นปีแล้ว ได้เห็นภาพที่ปะติดปะต่อได้ชัดเจน ขาดแต่ความเชื่อร่วมกัน ความร่วมมือกันที่จะสร้างสิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมาเปลี่ยนประเทศ 

เรื่องนี้จะสำเร็จได้ ภาครัฐต้องมีวิสัยทัศน์ ทุ่มสุดตัว และไม่กลัวในการที่จะส่งเสริมและร่วมมือสนับสนุนเอกชน เราต้องพร้อมร่วมมือ ร่วมใจ และสร้างพลังใจให้เกิดการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้มีความสดใสและมีความหวังที่จะเชิดหน้า ชูตาในสังคมโลกอนาคตได้ครับ

#ประเทศไทยเปลี่ยนได้ด้วยเทคโนโลยี


ที่มา: https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=4765472956814121&id=100000543919894
https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=394745362014031&id=100044357112719

‘อนุทิน’ ยอมรับ ข้อมูลสาธารณสุขโดนแฮกจริง แต่แค่ข้อมูลเบื้องต้น ย้ำไม่ต้องตื่นตระหนก

วันที่ 7 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี กรณีที่โซเชียลเปิดเผยว่าข้อมูลผู้ป่วยของกระทรวงสาธารณสุขถูกแฮก ว่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นที่จ.เพชรบูรณ์ และเคยเกิดที่สระบุรี เมื่อทราบข่าวได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ไปดำเนินการและได้สั่งการเรียบร้อยแล้ว โดยข้อมูลที่ถูกโจรกรรมเป็นข้อมูลเบื้องต้นทั่วไป ไม่ได้เป็นความลับอะไร 

เมื่อถามว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 จะปรับมาตรการอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า หลังจากนี้จะปรับมาตรการทางปลอดภัยทางไซเบอร์เพิ่มขึ้น เราไม่คิดจะมีคนคิดทำได้ขนาดนี้ แต่เชื่อว่าทางโรงพยาบาลจะมีการจัดข้อมูลชั้นความลับของคนไข้ซึ่งเป็นเรื่องที่สำนักปลัดกระทรวงต้องไปแก้ไขให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ไม่มีอะไรตื่นตระหนก

เมื่อถามถึงแนวทางการยุบ ศบค.กระทรวงสาธารณสุข พร้อมรับไม้ต่ออย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ด้านการสาธารณสุข มีความพร้อม แต่ต้องหาวิธีการบูรณาการกับภาคส่วนอื่นโดยเฉพาะด้านความมั่นคง การบังคับใช้กฎหมาย เรื่องการสนับสนุนระหว่างกันของหน่วยงาน แต่คิดว่าจะต้องหารือกัน

'รมว.แรงงาน' ห่วงใยแรงงานนอกระบบยะลา มอบบัณฑิตแรงงาน และอสร. เดินรณรงค์เคาะประตูบ้าน เชิญชวนฉีดวัคซีน ยึดหลัก "D-M-H-T-T-A" คุมการแพร่ระบาดกลุ่มเปราะบาง 1,740 ครัวเรือน

วันที่ 6 ก.ย. 2564 นางสาวพุทธชาติ อินทร์สวา รักษาราชการแรงงานจังหวัดยะลา Kick off เริ่มกิจกรรมสร้างการรับรู้ต้านภัยโควิด-19ให้แก่แรงงานนอกระบบ 1,740 ครัวเรือน ระหว่างวันที่ 6-8 ก.ย.2564 ตามข้อสั่งการของ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมต.แรงงาน ซึ่งมีความห่วงใยแรงงานนอกระบบในจังหวัดยะลา ให้เร่งสร้างการรับรู้ในการป้องกันภัยจากโรคติดเชื้อโควิด-19

โดยมอบบัณฑิตแรงงานและอสร.เดินรณรงค์เคาะประตูบ้าน ยึดหลัก "D-M-H-T-T-A" พร้อมเชิญชวนฉีดวัคซีน ลดความเสี่ยงและควบคุมการแพร่ระบาดในกลุ่มเปราะบางซึ่งเป็นแรงงานนอกระบบ 1,740 ครัวเรือน

นางสาวพุทธชาติ อินทร์สวาได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การลงพื้นที่เดินรณรงค์ต้องการให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ของ 8 อำเภอ จ.ยะลา โดยบัณฑิตแรงงาน 76 คน และอาสาสมัครแรงงาน 58 คน จัดทีมงานเดินรณรงค์เคาะประตูบ้านแรงงานนอกระบบที่เป็นกลุ่มเปราะบางให้มีความรู้เพื่อป้องกันตัวจากโควิด-19 ตามมาตรการ D-M-H-T-T-A และแจกหน้ากากอนามัยเป็นอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล

พร้อมเชิญชวนให้เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ภายใต้โครงการศูนย์แรงงานอำเภอเคลื่อรที่ด้วยรอยยิ้ม จังหวัดยะลา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ครั้งนี้ 2 สำนักงานแรงงานจังหวัดยะลา

'จีน' เตรียมเปิดตลาดหุ้นแห่งใหม่ เน้นรองรับธุรกิจ SMEs ของจีน เข้าทำนอง 'จีนทำ จีนใช้  จีนเจริญ จีนไม่สนฝรั่ง'

รศ.ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตผู้อำนวยการศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน แห่ง วช.

รศ.ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น โพสต์ลง Facebook ในเรื่องนี้ว่า…

#ตลาดหุ้นจีนแห่งใหม่ คงตอบโจทย์คาใจใครหลายคนนะคะ การที่จีนคุมเข้มบริษัทจีนออกไป IPO ต่างประเทศ แล้วบริษัทจีนเหล่านั้นจะไประดมทุนที่ไหน ? จะเติบโตได้อย่างไร ? don’t worry นะ จีนเตรียมการไว้แล้ว ก่อนจะลงมือ #จัดระเบียบทุน จนสั่นสะเทือนไปทั้งโลกทุนนิยม !!!  #สีจิ้นผิง ประกาศจะตั้งตลาดหุ้นแห่งใหม่ #ตลาดหุ้นปักกิ่ง เตรียมเปิดรองรับการระดมทุนจีนเองเลยจ้า แถมจะเป็นตลาดหุ้นจีนที่เน้นรองรับ SMEs จีนด้วยนะ เข้าทำนองว่า “จีนทำ จีนใช้  จีนเจริญ จีนไม่สนฝรั่ง” ???? #จีนโนแคร์

Note: จีนมีตลาดหุ้น 2 แห่งแล้วบนแผ่นดินใหญ่ คือ #ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ และ #ตลาดหุ้นเสิ่นเจิ้น แล้วก็ยังมี #ตลาดหุ้นฮ่องกง ด้วยนะ ดังนั้น บริษัทจีนมีทางเลือกตรึมเลยจ้า ไม่ต้องไปแคร์ฝรั่ง #โลกแตกแกน #TheGreatDecoupling ????

พร้อมสาระสำคัญขยายความ อ้างอิงจากเพจ Nihao-Sawadee ว่า... 
Credit: https://www.facebook.com/117547923447097/photos/a.130779808790575/333247238543830/?type=3

#บทวิเคราะห์ เปิดเหตุผล “ทำไมจีนเตรียมเปิดตลาดหุ้นแห่งใหม่ในปักกิ่ง แม้ปัจจุบันมีตลาดหุ้นถึง 2 แห่ง ในจีน”

กลายเป็นหนึ่งในประเด็นที่ถูกพูดถึงในช่วงสุดสัปดาห์นี้เลย สำหรับการกล่าวสุนทรพจน์ของ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ในการประชุมสุดยอดการค้าภาคบริการโลกของงานมหกรรมการค้าบริการนานาชาติจีน (China International Fair for Trade in Services: CIFTIS) 

ใจความสำคัญของการกล่าวสุนทรพจน์ของสี จิ้นผิง เป็นการแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการพัฒนาการค้าภาคบริการของจีนและความร่วมมือกับนานาประเทศ เพื่อฟื้นเศรษฐกิจโลก หลังจากเผชิญวิกฤติแพร่ระบาดโควิด-19 

โดย “แผนเปิดตลาดหุ้นแห่งใหม่ในกรุงปักกิ่งของประเทศจีน” จากถ้อยแถลงของสี จิ้นผิง ได้รับการจับตามองจากทั่วโลกทันที จึงขอสรุปเหตุผล “ทำไมจีนต้องเปิดตลาดหุ้นแห่งใหม่ เป็นแห่งที่ 3 ของประเทศจีน” 

จากการรายงานของสถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน ชี้ให้เห็นว่า ทางสี จิ้นผิง ให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs ของจีน เป็นอย่างมาก จีนจึงจะเปิดตลาดหุ้นแห่งใหม่ที่ปักกิ่ง เพื่อสนับสนุนและรองรับธุรกิจ SMEs ที่มีเป้าหมายในการพัฒนาด้านนวัตกรรม 

อีกเหตุผลหนึ่งคือ เป็นการดึงดูดเงินลงทุนหลั่งไหลจากบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นต่างประเทศเข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นจีนแห่งนี้ ซึ่งก็ส่งผลดีโดยตรงต่อธุรกิจ SMEs ตามเหตุผลแรกที่ระบุไปแล้วว่า เปิดตลาดหุ้นเพื่อรองรับ SMEs จีน ที่มุ่งเน้นในการพัฒนานวัตกรรม ซึ่งสี จิ้นผิง ได้กล่าวถึงการพัฒนาเขตสาธิตการพัฒนาเชิงนวัตกรรมการค้าภาคบริการของรัฐ และเขตสาธิตการค้าดิจิทัล เป็นข้อบ่งชี้ถึงวิสัยทัศน์ในการบริหารประเทศจีนภายใต้การนำของสี จิ้นผิง ว่าเน้นทางนวัตกรรม และให้ความสำคัญกับ SMEs อย่างแท้จริง


แหล่งข้อมูล:
https://news.cgtn.com/news/2021-09-02/Xi-Jinping-China-to-establish-new-stock-exchange-in-Beijing-13exDdi89CE/index.html
http://m.news.cctv.com/2021/09/02/ARTIfvz5TL90CyY0GoLTyLkW210902.shtml

'สวอพ แอนด์ โก' เริ่มบริการสลับเปลี่ยนแบตฯ มอเตอร์ไซค์ กระตุ้นไทยใช้ยานพาหนะพลังงานไฟฟ้า หรือ EV

การใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นหนึ่งในทิศทางกระแสโลกสืบเนื่องจากที่ผ่านมากิจกรรมของมนุษย์ได้ก่อมลพิษจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือยานพาหนะเครื่องยนต์สันดาปที่ใช้น้ำมัน ซึ่งพยายามเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้ “ยานพาหนะพลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle : EV)” แต่ก็มีความท้าทายโดยเฉพาะเรื่องของสถานีชาร์จพลังงานที่ยังไม่แพร่หลายเหมือนสถานีบริการน้ำมัน หรือแบตเตอรี่ที่ใช้เวลาชาร์จนานกว่าการเติมน้ำมัน ซึ่งมีความพยายามในการแก้ไขข้อจำกัดดังกล่าว ดังกรณีของ “สวอพ แอนด์ โก (Swap & Go)” ธุรกิจใหม่ในกลุ่ม ปตท. ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็ว ๆ นี้

นายชยุตม์ จัตุนวรัตน์ กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท สวอพ แอนด์ โก จำกัด เผยว่า สวอพ แอนด์ โก เป็นบริการสลับแบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ซึ่งปกติผู้ที่ใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจะต้องคอยชาร์จแบตเตอรี่อยู่เป็นระยะ ๆ โดยการชาร์จแต่ละครั้งอาจต้องรอเวลาเป็นชั่วโมงกว่าจะเต็ม ดังนั้นบริการนี้จะช่วยอำนวยความสะดวก ทำให้สามารถใช้รถได้ต่อเนื่องมากขึ้น เพราะการสลับแบตเตอรี่ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที

อีกทั้งเป็นบริการที่ใช้งานง่าย เพียงใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนสแกน QR Code เพื่อแสดงตนที่ตู้แบตเตอรี่ ก็จะสามารถเปิดออกให้สลับแบตที่ใช้งานแล้วกับแบตก้อนใหม่ได้ทันที ทั้งนี้ EV หรือยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ได้รับการยอมรับว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั้งประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และไม่มีการเผาไหม้ที่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อันเป็นมลภาวะ ซึ่งพาหนะที่ใช้น้ำมันไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ อีกทั้งยังทำให้เมืองเงียบสงบด้วยเพราะไม่มีเสียงเครื่องยนต์รบกวน โดย สวอพ แอนด์ โก มีสถานีให้บริการ หรือ สวอพสเตชั่นอยู่มากกว่า 20 จุดทั่วกรุงเทพฯ และมีแผนที่จะขยายเพิ่มเติมอีกในอนาคต

“ในไอเดียของเราคร่าว ๆ เราอยากจะให้ขั้นต่ำของจำนวนสวอพสเตชั่นของเราเท่ากับสถานีบริการน้ำมัน นั่นหมายถึงประสบการณ์ของผู้ใช้ในการใช้งานรถไฟฟ้าจะไม่ต่างจากใช้น้ำมันเลย ความสะดวกสบายจะต้องเทียบเคียงกัน เพราะเราอยากให้การใช้พลังงานเป็นเรื่องง่าย ๆ” นายชยุตม์ กล่าว

นายชยุตม์ กล่าวต่อไปว่า กลุ่มเป้าหมายสำคัญของ สวอพ แอนด์ โก คือผู้ที่ใช้มอเตอร์ไซค์เป็นอาชีพ คนกลุ่มนี้ไม่สามารถหยุดรออะไรได้นานเพราะเวลาที่มีอยู่คือโอกาสการสร้างรายได้ เช่น กลุ่มไรเดอร์ส่งอาหาร ที่มีบทบาทเด่นในสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ลำพังการไปต่อคิวซื้ออาหารก็ใช้เวลามากแล้ว คงไม่อยากเสียเวลาไปกับการชาร์จแบตเตอรี่อีก ทำให้บริการสลับแบตเตอรี่แบบไม่ต้องรอชาร์จจึงน่าจะเป็นทางออกที่เหมาะสม

อนึ่ง ข้อดีอีกอย่างของ EV คือประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะการชาร์จพลังงานนั้นถูกกว่าการเติมน้ำมัน และยังไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง และเมื่อดูกรณีศึกษาในต่างประเทศ จะพบบางประเทศถึงขั้นใช้งบประมาณเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านจากรถใช้น้ำมันสู่รถใช้ไฟฟ้า และมีอย่างน้อย 20 ประเทศที่มีแผนยุติการจำหน่ายรถใช้น้ำมันในอนาคต หรือมีบางเมืองไม่อนุญาตให้นำรถใช้น้ำมันเข้าไปในบางพื้นที่แล้ว จึงหวังว่าวันหนึ่งประเทศไทยจะไปในทิศทางนั้นเพื่อให้เมืองมีความสะอาดต่อไป

แต่การเปลี่ยนผ่านไปสู่สิ่งใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย นายชยุตม์เล่าถึงสารพัดคำถามเมื่อไปนำเสนอในองค์กรต่าง ๆ เช่น EV วิ่งได้ระยะทางไกลเท่าไร ทำความเร็วได้เท่าไร ชาร์จพลังงานได้ที่ไหน ค่าใช้จ่ายเท่าไร ฯลฯ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่จะมีคำถามเหล่านี้ ไม่ต่างจากเมื่อร้อยปีก่อนที่คนเริ่มเปลี่ยนจากการใช้รถม้ามาเป็นรถยนต์ ส่วนปัจจุบันสถานีบริการน้ำมันรถยนต์มีทั่วไปแล้ว ก็จะต้องขยายสถานีชาร์จสำหรับรถใช้ไฟฟ้าให้มีมากขึ้น เพื่อคลายความกังวลของลูกค้า

“จริง ๆ องค์ประกอบหลัก ๆ ของการเปลี่ยนผ่านมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้า คือ 1.) เรื่องของข้อมูล ถ้าเขาไม่เข้าใจก็คงไม่หันมาใช้อยู่แล้ว 2.) ราคารถ ถ้าดูราคาของรถ EV บ้านเรากับรถที่เป็นน้ำมัน ถ้าเป็นรถ 4 ล้ออาจจะยังมี Gap ค่อนข้างเยอะ ทางฝั่งรถ 2 ล้อ Gap มันเริ่มน้อยลงก็จริง แต่ก็ยังมี 3.) โครงสร้างพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นสถานีชาร์จ สถานีสลับแบตเตอรี่ ที่ปัจจุบันไม่ว่าหน่วยงานรัฐหรือบริษัทเอกชนก็พยายามช่วยกันเพื่อขยายให้ครอบคลุมการใช้งาน

ส่วนเรื่องสุดท้าย ผมคิดว่ามันยังขาดตัวกระตุ้นอยู่ ถ้าเราเห็นความสำเร็จหลาย ๆ ประเทศที่เปิดรับการใช้ EV จะต้องมีมาตรการกระตุ้นให้เกิดในช่วงปีแรก ๆ พอหลังจากนั้นคนก็จะเริ่มใช้เป็นนิสัยกันแล้ว ตอนนี้ผมคิดว่าถ้าประเทศของเรามีตัวกระตุ้นพวกนี้เข้ามาเสริม ก็จะทำให้การรับรู้ การใช้งานเกิดขึ้น เพราะถ้าเกิดเราไม่กระตุ้นวันนี้ เขาไปซื้อรถน้ำมัน ก็แปลว่ากว่าที่เขาจะกลับมาซื้อรถคันใหม่อีกรอบหนึ่ง ก็ประมาณ 5-10 ปี ถ้าอยากจะเปลี่ยนก็ต้องมีคนกดคลิกให้มันเริ่ม” นายชยุตม์ ระบุ

กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ สวอพ แอนด์ โก ทิ้งท้ายในประเด็นมาตรการกระตุ้นเพื่อเปลี่ยนจากรถใช้น้ำมันเป็นรถใช้ไฟฟ้าว่าต้องเริ่มจากหลายฝ่าย เช่น ผู้ผลิตยานพาหนะอาจจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย ผู้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต้องจัดให้มีโครงสร้างที่เอื้ออำนวยต่อการใช้งานอย่างเพียงพอ ส่วนภาครัฐสามารถใช้กลไกภาษีสนับสนุนได้ ดังที่เคยใช้มาแล้วกับนโยบายกระตุ้นการใช้จ่ายต่าง ๆ

ส่วนเป้าหมายของ สวอพ แอนด์ โก คือการส่งเสริมให้คนใช้ EV หรือยานพาหนะพลังงานไฟฟ้า ที่ใช้งานได้สะดวกไม่ต้องกังวลทั้งสถานที่ชาร์จและเวลารอชาร์จ สามารถสลับแบตเตอรี่แล้วใช้รถต่อได้อย่างรวดเร็ว ตามนิยามการดำเนินงานของบริษัทคือ “สลับแบตไว..ไปได้เร็ว” เพราะหากการใช้พลังงานสะอาดเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน ในอนาคตผู้คนย่อมเปลี่ยนผ่านมาใช้พลังงานสะอาดกันมากขึ้น นำไปสู่การใช้พลังงานที่ยั่งยืน ไม่ส่งต่อผลกระทบให้กับคนรุ่นหลัง


ที่มา : https://www.naewna.com/business/600130

'ญี่ปุ่น' เตรียมคลายล็อกเปิดประเทศ อนุญาตกลุ่มนักธุรกิจก่อน ส่วนนักท่องเที่ยงยังต้องรอ

สมาพันธ์ธุรกิจแห่งญี่ปุ่น เสนอรัฐบาลให้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเดินทางสำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนโรคโควิด-19 แล้ว นายกฯ รับปากจะเปิดประเทศอย่างเป็นขั้นเป็นตอน คาดเปิดทางให้นักธุรกิจและครอบครัวชาวญี่ปุ่นก่อน

สมาพันธ์ธุรกิจแห่งญี่ปุ่น หรือเคดันเร็ง ได้ยื่นชุดข้อเสนอต่อนายกฯ โยชิฮิเดะ ซูงะ เป็นต้นว่า ให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วได้รับการยกเว้นไม่ต้องกักตัวเมื่อเดินทางเข้าญี่ปุ่น และให้ลดระยะเวลากักตัวสำหรับผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนเป็นไม่เกิน 10 วัน รวมทั้งให้อนุญาตให้จำหน่ายชุดตรวจหาเชื้อได้ในร้านขายยาทั่วไป

นายมาซาคาสุ โทคูระ ประธานไคดันเร็ง ระบุว่าเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจในต่างประเทศ ข้อมูลรับรองการฉีดวัคซีนสามารถใช้เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เข้าร้านอาหาร และใช้บริการระบบขนส่งสถานที่สาธารณะ

นายกฯ โยชิฮิเดะ ซูงะ รับปากว่า รัฐบาลจะพิจารณาข้อเสนอทั้งหลายอย่างเป็นขั้นเป็นตอน พร้อมระบุว่า รัฐบาลจะออกเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนแบบดิจิทัลในสมาร์ทโฟนได้ในเดือนธันวาคมนี้

ญี่ปุ่นได้ออกเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศ แต่ไม่ใช้การฉีดวัคซีนเป็นเงื่อนไขในการเข้าใช้บริการต่าง ๆ ภายในประเทศ โดยอ้างว่าเพื่อหลีกเลี่ยงการเลือกปฏิบัติต่อคนที่ไม่อยากฉีดวัคซีน หรือไม่สามารถฉีดวัคซีนได้

ญี่ปุ่นได้ระงับการเข้าประเทศของชาวต่างชาติมานานเกือบ 2 ปีจากการระบาดของโรคโควิด ผู้ที่สามารถเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้ในขณะนี้ คือผู้ที่มีสิทธิ์พำนักในญี่ปุ่นอยู่แล้วเท่านั้น แม้แต่นักศึกษาต่างชาติ คนทำงาน ครอบครัวที่ยื่นขอวีซ่าใหม่ก็ยังไม่สามารถเข้าประเทศญี่ปุ่นได้

ล่าสุด มีรายงานว่า สถานทูตญี่ปุ่นในหลายประเทศได้เริ่มออกวีซ่าใหม่ให้กับนักศึกษาทุนรัฐบาล และครอบครัวของชาวญี่ปุ่นแล้ว สมาคมนักธุรกิจต่างชาติในญี่ปุ่นคาดว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะเปิดทางให้นักธุรกิจระหว่างประเทศเดินทางได้ก่อนปลายปีนี้ แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติยังต้องรออีกนานกว่าจะมาเที่ยวญี่ปุ่นได้อีกครั้ง


ที่มา : https://mgronline.com/japan/detail/9640000088412

‘บูลเทค ซิตี้’ ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ ให้ผู้กักตัวช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

วันนี้ 7 ก.ย. 64  ทีมงานฝ่ายความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) โครงการนิคมอุตสาหกรรม ฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ ลงพื้นที่มอบ เครื่องอุปโภคบริโภค ในพื้นที่ ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

โดยมีนายจำเรียง พร้อมมณี ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านลตำบลบางวัว เป็นตัวแทน รับมอบ เพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบปัญหาและครอบครัว ที่ได้รับผลกระทบเนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่มีการสัมผัสผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ต้องกักตัว 14 วัน เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กำลังใจในการดำรงชีพต่อไป

โอกาสนี้ บลูเทค ซตี้ ร่วมสนับสนุนมาม่า จำนวน 900 ซอง , ปลากระป๋อง จำนวน 900 กระป๋อง เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ที่กักตน 14 วัน ในพื้นที่ ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top